Share

บทที่ 481

Penulis: โม่เสียวชี่
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เซียวเหอก็หันมามองทางนี้อย่างกะทันหัน

สายตาทั้งคู่สบกัน เฉียวเนี่ยนก็มีแต่ถ้อยคำที่เซียวเหอกล่าวไว้ริมทะเลสาบในวันนี้วนเวียนอยู่เต็มหัว ใจกลางอกพลันสั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่

เซียวเหอกำลังเดินตรงมาทางนาง

นางตกใจและก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว

ฝีเท้าของเซียวเหอก็ชะงักลง

เมื่ออยู่ห่างจากประตูห้องของนางสามก้าว เขาก็หยุดลง แล้วยกมุมปากยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวว่า "พักผ่อนเถอะ"

เฉียวเนี่ยนรีบพยักหน้า "เจ้าค่ะ ท่านพี่เซียวก็เช่นกัน"

"อืม" เขาพยักหน้า แล้วจึงหันหลังกลับเข้าห้องไป

พอประตูห้องปิดลง สีหน้าของเซียวเหอก็หม่นหมองลงในทันที

ท่าทางที่เฉียวเนี่ยนถอยหลังไปครึ่งก้าวเมื่อครู่ เขาเห็นชัดเจนดี และก็รู้ว่าวันนี้นางก็ยังคงตกใจกลัวอยู่ดี

หรือว่าเขาจะตรงไปตรงมาเกินไปหน่อย

หว่างคิ้วขมวดเล็กน้อย แต่ในหัวกลับปรากฏภาพรอยยิ้มสดใสของเฉียวเนี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มบาง ๆ ตามไปด้วย

เขาคิดว่า ดูเหมือนเรื่องราวก็ไม่ได้เลวร้ายถึงเพียงนั้น

พูดออกไปแล้วก็ดี อย่างน้อยจากนี้ความดีของเขาที่มีต่อนาง ก็จะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นความรักแบบพี่น้องอีกต่อไป

ส่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 482

    ตกดึกเฉียวเนี่ยนนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง หลับไม่ลงเลยไม่รู้เพราะอะไร พอหลับตาลงในวันนี้ ภาพใบหน้าของเซียวเหอก็ลอยเข้ามาให้เห็นทันทีบางเรื่อง หากไม่พูดถึงก็จะไม่เผลอนึกถึงแต่พอถูกเอ่ยขึ้นมาเมื่อใด ก็จะไหลบ่าราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก ไม่อาจขวางกั้นได้ ยิ่งพยายามไม่ใส่ใจ ก็ยิ่งห้ามความคิดไม่ให้ย้อนกลับไปไม่ได้!ถึงอย่างไรก็หลับไม่ลงอยู่ดีเฉียวเนี่ยนลุกขึ้นนั่ง หยิบเสื้อคลุมมาสวม แล้วเปิดประตูออกไปข้างนอกเดิมทีตั้งใจจะไปนั่งใต้ชิงช้า ชมจันทร์ รับลม คลายความกังวลแต่พอเพิ่งก้าวออกจากประตู นางก็เงยหน้ามองไปยังต้นอู๋ถงโดยไม่รู้ตัวกิ่งใบหนาแน่น มองไม่ออกในทันทีว่ามีใครอยู่หรือไม่แต่นางก็ยังคงระมัดระวัง ขณะเดินไปใต้ต้นไม้ก็มองขึ้นไปบนต้นอู๋ถงไปด้วยจนกระทั่งแน่ใจว่าบนต้นอู๋ถงนั้นไม่มีใครอยู่จริง ๆ เฉียวเนี่ยนถึงได้นั่งลงอย่างวางใจชิงช้าแกว่งเบา ๆ พระจันทร์กลมสวยก็โผล่ให้เห็นเป็นระยะจากเบื้องหลังเงาไม้เฉียวเนี่ยนคิดในใจว่าหากตอนนี้มีเหล้าบ๊วยอยู่ในมือสักไห ก็คงเข้ากับบรรยากาศไม่น้อยแต่แล้วก็มีใบไม้จากต้นอู๋ถงใบหนึ่งค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาตรงหน้าเพิ่งจะต้นฤดูร้อน ทำไมถึงมีใ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 483

    ก่อนหน้านี้ หญิงชราคนนี้ก็เคยบรรยายลักษณะของคนที่สั่งให้นางทำเช่นนี้จี้เยว่ฟังจากคำบรรยายแล้วพบว่าคล้ายกับเซียวเหิงไม่น้อย จึงพานางมาหาเซียวเหอ เพื่อให้เซียวเหอเป็นคนตัดสินเพียงแต่ เขาไม่ได้หวังว่าหญิงชรานี้จะกล้าชี้ตัวเซียวเหิงต่อหน้าทุกคน ขอแค่นางเหลือบมองเซียวเหิงหลาย ๆ ครั้งก็พอแล้วและตอนนี้ ดวงตาของหญิงชราคู่นั้น ก็พลันหันไปมองเซียวเหิงอยู่เรื่อย ๆ แม้ปากจะไม่ได้เอ่ยอะไร ทว่ากลับทำให้ทุกคนเข้าใจได้ทันที ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือเซียวเหิง!เฉียวเนี่ยนหันไปมองเซียวเหิงโดยไม่รู้ตัว นางเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าข่าวลือทั้งหลายนอกเรือนนั้น จะเป็นฝีมือของเซียวเหิงแต่พอคิดอีกที กลับไม่รู้สึกแปลกใจเลยแผนการแปลก ๆ ของเซียวเหิงมีอยู่มากมายมาแต่ไหนแต่ไร สมัยเด็ก ๆ ตอนที่พาไปล้างแค้น ส่วนใหญ่ก็มาจากแผนของเซียวเหิงทั้งนั้นกลอุบายพวกนี้ หากใช้ในสนามรบ ก็คงเรียกว่าเฉลียวฉลาดมากแต่พอเอามาใช้กับนางแล้ว อย่างไรก็รู้สึกว่าออกจะต่ำช้าไปหน่อยสีหน้าของพ่อเซียวกับแม่เซียวตอนนี้ก็ดูจะอึมครึมถึงขีดสุด สายตาที่มองไปยังเซียวเหิงก็เต็มไปด้วยความตำหนิแม้แต่เซียวชิงหน่วนก็อดไม่ได้ที

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 484

    นอกจากนี้ ยังมีคำพูดบางประการที่กล่าวใส่ร้ายเฉียวเนี่ยนแต่ที่น่าสังเกตคือ ลายมือของคนเขียน...พ่อเซียวเผลอถลึงตาใส่เซียวเหิงเด็กนี่ไม่โง่ เขียนด้วยมือซ้าย เป็นเพียงเขาคนเดียวที่เป็นพ่อจะรู้ได้ทันใดนั้นเขาก็เก็บจดหมายไว้ แล้วถามต่อไปว่า "ทำไมคนนั้นถึงมาหาเจ้า? เจ้ามีเรื่องอะไรกับสะใภ้ใหญ่ของตระกูลข้าหรือ?"หญิงชราตกใจจนรีบปฏิเสธ "ไม่มี ไม่มีเรื่องอะไรเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นแค่คนธรรมดา จะมีเรื่องอะไรกับนายหญิงน้อยใหญ่ได้เล่า? แค่... "หญิงชรากำลังจะพูด แต่กลับหยุดคำพูดไว้เซียวชิงหน่วนที่มีนิสัยร้อนรนอยู่แล้ว เมื่อเห็นหญิงชราพูดติดอ่าง จึงโกรธจัดจนไม่สามารถทนได้ "อย่ามัวแต่พูดอ้อมค้อม รีบพูดมาให้จบ!"หญิงชราจึงพูดด้วยเสียงอ่อน ๆ อีกครั้ง "แค่... ข้าน้อยชอบพูดคุยกับผู้คน ไปมาหาสู่กับพวกหญิงสาวหลายคนตามปกติ ก็เลย..."คำพูดถัดไปไม่จำเป็นต้องพูดต่อ ทุกคนก็น่าจะเดากันได้ว่า นี่คือหญิงชราที่มีชื่อเสียงเรื่องปากเปราะในเมืองหลวง!แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ปากพล่อยพวกนี้โดยปกติจะไม่ค่อยได้ติดต่อกับชนชั้นสูงเท่าไหร่ จึงไม่มีใครในตระกูลเซียวที่จำนางได้ทว่าทหารในกองทัพของเซียวเหิงส่วนใ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 485

    เซียวเหิงหยุดฝีเท้าที่กำลังจะก้าวออกจากห้องโถง ศีรษะของเขาเอียงไปเล็กน้อย เพียงแค่มองดูแผ่นหลังนั้นก็สามารถทำให้คนรู้สึกถึงความหงุดหงิดที่เขากำลังมีในขณะนี้เขาไม่ได้หันกลับมา ยังคงหันหลังให้กับทุกคนพ่อเซียวตวาดเสียงดัง "ไอ้ลูกเวร อย่าได้ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้อีก ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าแน่!"คำขู่นั้นไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไร เซียวเหิงไม่แม้แต่จะตอบรับ เพียงแค่ยกเท้าเดินออกไปจากธรณีประตูพ่อเซียวโกรธจนแทบคลั่ง และลุกขึ้นเหมือนจะตามไป แต่กลับถูกแม่เซียวขวางไว้จนในที่สุด ความโกรธของพ่อเซียวก็ตกไประบายที่แม่เซียวแทน "ดูเจ้าซิ สอนลูกประสาอะไร!"ในขณะที่พ่อเซียวกำลังโกรธ แน่นอนว่าแม่เซียวไม่อาจโต้เถียงอะไรได้ จึงเพียงแต่ปลอบโยนว่า "พอได้แล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนเขาเอง อย่าให้ตัวเองเครียดจนเสียสุขภาพนะเจ้าคะ หน่วนหน่วน พาท่านพ่อเจ้าไปนั่งพักผ่อนหน่อย"พ่อเซียวรักและเอ็นดูเซียวชิงหน่วนมากที่สุด การที่เซียวชิงหน่วนมาเป็นคนปลอบประโลมจึงเหมาะสมที่สุดเซียวชิงหน่วนตอบรับทันที แล้วก้าวไปประคองแขนพ่อเซียว "ท่านพ่อ ให้หน่วนหน่วนเล่นหมากรุกกับท่านพ่อดีหรือไม่เจ้าคะ?"ความโกรธของ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 486

    แม้ว่านางจะพูดไว้ว่าสามปี แต่เขาก็เคยพูดไว้ว่าหากนางอยากจะไปเมื่อไหร่ก็ย่อมได้เขารู้ดีว่าความรักนั้นไม่สามารถบังคับกันได้เขาชอบนางมากจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามเอาชนะใจนางให้ได้แต่หากนางไม่ชอบเขา เขาก็ไม่มีทางไปบังคับนางได้นิสัยของเขาต่างจากเซียวเหิงโดยสิ้นเชิงนึกถึงตรงนี้ ในใจของเซียวเหอก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้น นึกถึงเซียวเหิงที่มีนิสัยแบบนั้น ดวงตาของเขาก็หมองลงไปทันใดนั้น เขาก็หันไปพูดกับเฉียวเนี่ยน "หรือไม่ก็... ให้ข้าไปจากเมืองหลวงด้วยกันกับเจ้าก็ได้"ได้ยินคำนี้ เฉียวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองเซียวเหอทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจเขาจะคิดที่จะออกจากเมืองหลวงไปกับนางได้อย่างไร?เมื่อเห็นการตอบสนองของนางที่ตกใจขนาดนี้ เซียวเหอก็รู้ทันทีว่าเขาคงพูดสิ่งที่ตรงใจนางไปแล้ว เขาจึงยิ้มเล็กน้อย "ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเกี่ยวกับเหิงเอ๋อร์ ดังนั้น ข้าจึงอยากบอกเจ้าไว้ เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าสามารถจัดการทุกอย่างได้"เขาไม่จับเป็นต้องรับภาระอะไรของตระกูลเซียวอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถไปกับนางโดยไม่ต้องกังวลอะไร ออกไปชมภูเขาและแม่น้ำที่ไม่เคยเห็น และสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ไม่เคยได้พบ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 487

    เซียวเหิงมิได้ปฏิเสธและก็มิได้เอ่ยวาจาใดเพียงยกมือสะบัดเบา ๆ ก็เห็นชายฉกรรจ์กว่าสิบคนโผล่ออกมาจากตรอกซอยรอบด้านดูออกว่าแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือในกองทัพสีหน้าเซียวเหอยิ่งอึมครึม สองดวงตาจับจ้องเซียวเหิงแน่นิ่ง "เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่?"เซียวเหิงจึงล้วงออกมาจากอกเสื้อ หยิบยาขึ้นมาหนึ่งเม็ด "นี่คือยาที่ข้าไปขอจากสำนักราชาโอสถมา สามารถเสริมสร้างร่างกาย บำรุงกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูโลหิต เหมาะสำหรับพี่ใหญ่ที่สุด"ขาของเซียวเหอที่มิได้ใช้มาห้าปี กล้ามเนื้อย่อมหดลีบไปไม่น้อยยานี้สามารถช่วยให้เขาฟื้นตัวได้โดยเร็วแต่ยาที่ดูเหมือนดีต่อเขาถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงต้องหลอกล่อให้ออกจากจวนก่อนจึงค่อยยื่นให้?เซียวเหอมิได้ตอบ เพียงรอฟังเซียวเหิงพูดต่อเป็นดังคาด เซียวเหิงหลุบตาลง คล้ายไม่กล้าสบตาเซียวเหอ "เพียงแต่ยานี้มีผลข้างเคียงหนึ่ง หลังกินเข้าไป จะทำให้หลับไหลถึงสิบสองชั่วยาม"สิบสองชั่วยาม เพียงพอให้เขาทำเรื่องต่าง ๆ ได้มากมายระหว่างที่หว่างคิ้วของเซียวเหอขมวดต่ำลง เขาก็เข้าใจแล้วว่าเซียวเหิงตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่สายตาของเขากวาดมองชายฉกรรจ์ที่ล้อมอยู่อย่างช้า ๆ หัวใจก็พลันจมดิ่งถึงก้น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status