สิ้นเสียง จิ่งเหยียนก็โขกหัวให้กับพ่อแม่ของตนจิ่งโหรวแค่รู้สึกว่าพี่ใหญ่ชายของนางบ้าไปแล้วคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ แม่ของจิ่งเหยียนก็ลุกขึ้น เดินไปหาเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าแม่ของจิ่งเหยียนต้องมาขอร้องให้นางไปจากจิ่งเหยียนแน่ๆนางคิดว่านางต้องทําให้แม่ของจิ่งเหยียนเข้าใจว่านางจะไม่ยอมแพ้คาดไม่ถึงว่าแม่ของจิ่งเหยียนจะจับมือของเฉียวเนี่ยนไว้เท่านั้น"เมื่อครู่หลังจากที่ท่านจากไป เหยียนเอ๋อร์ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายตั้งแต่เล็ก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโมโหต่อหน้าพวกเรา ข้าก็เลยคิดว่าเจ้าจะต้องตามกลับมาแน่นอน”พอสิ้นเสียง เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกเหมือนข้อมือตัวเองหนักขึ้นเมื่อก้มลงมองจึงพบว่าบนข้อมือของตนมีกําไลหยกเพิ่มขึ้นมาหนึ่งวงนางตกใจ ยังไม่ทันเอ่ยปากก็ได้ยินแม่ของจิ่งเหยียนพูดว่า "กําไลวงนี้เนื้อไม่ได้ดีมาก แต่ย่าของจิ่งเหยียนสวมให้ข้าเอง ตอนนี้ข้ามอบให้ท่าน หวังว่าคุณหนูจะไม่รังเกียจ”เฉียวเนี่ยนไหนเลยจะคิดว่ากําไลวงนี้จะล้ำค่าขนาดนี้ จึงตื่นตระหนกตกใจไปชั่วขณะ "ข้าไม่รังเกียจ แต่นี่มันล้ำค่าเกินไป!"นี่ไม่เท่ากับเป็นมรดกตกทอดของตระกูลจิ่ง
เรื่องซื้อบ้าน เฉียวเนี่ยนมอบให้หนิงซวงไปจัดการเด็กสาวทำงานอย่างคล่องแคล่วมาก ในตอนเย็นตระกูลจิ่งก็อาศัยอยู่ในบ้านแล้วคฤหาสน์หลังนี้ไม่ใหญ่นัก แต่คนตระกูลจิ่งไม่เคยอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ดีเช่นนี้มาก่อน พอเข้าประตูมาก็เริ่มชื่นชมไม่หยุดหนิงซวงอาสาพาคนตระกูลจิ่งมาแนะนําให้รู้จัก ตั้งแต่สวนหน้าบ้านจนถึงสวนหลังบ้าน แม้แต่ดอกไม้ที่ปลูกในสวนหลังบ้านก็ถูกนางพูดถึงจนมีชื่อเสียงเฉียวเนี่ยนติดตามอยู่ด้านหลังสุด มองดูฉากที่กลมกลืนกันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ รอยยิ้มในดวงตาก็ไม่เคยหายไปทันใดนั้นจิ่งเหยียนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังนาง มือขวาของเขาข้ามศีรษะของนางและแสดงจี้ไม้กลมๆ ต่อหน้าต่อตาของนางเฉียวเนี่ยนตกใจ อดไม่ได้ที่จะหยิบจี้ขึ้นมา เมื่อมองดูอย่างละเอียด ยังเห็นคําสองคําที่สลักอยู่บนนั้นว่า ปลอดภัย"นี่คืออะไร?" เฉียวเนี่ยนอดถามไม่ได้กลับเห็นจิ่งเหยียนสวมจี้ห้อยคอของนางแล้ว "ข้าอายุสิบสี่ปีก็เข้าสู่สนามรบ รอดตายมาหลายครั้ง ล้วนอาศัยจี้ห้อยคออันนี้ปกป้องไว้"เฉียวเนี่ยนตกใจอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะกดจี้ด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วหันไปมองจิ่งเหยียนอย่างตื่นตระหนก "ล้ำค่าขนาดนี้ ทําไมถึงให้ข้า
พูดจบ ก็นําทางเข้าไปในจวนเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ รู้สึกเพียงว่าท่านโหวหลินเสียมารยาทเกินไปหน่อยโชคดีที่จิ่งเหยียนไม่สนใจ แค่พูดว่า "เช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าจะมาหาเจ้าใหม่"เฉียวเนี่ยนยิ้มเล็กน้อยพลางพยักหน้า แล้วตามท่านโหวหลินกลับจวนไปเมื่อมาถึงห้องโถงด้านหน้า ท่านโหวหลินเพิ่งนั่งลงก็เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเนี่ยนเห็นเพียงนางยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่เหมือนท่าทางดีใจเมื่อยืนอยู่ข้างจิ่งเหยียนเมื่อครู่เลยในใจอดรู้สึกไม่พอใจไม่ได้ จึงพูดทันทีว่า "ทําไม เห็นพ่อแล้วยิ้มไม่เป็นเลยเหรอ?"เฉียวเนี่ยนมองท่านโหวหลินอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ไม่คิดจะสนใจคําถามที่ไร้เหตุผลของท่านโหวหลิน เพียงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ไม่ทราบว่าท่านโหวมาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?"ท่านโหวหลินก็ดูเหมือนจะเคยชินกับท่าทีเช่นนี้ของเฉียวเนี่ยนแล้ว แม้ในใจจะโกรธ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ติดใจเอาความอีกเพียงแค่หยิบเทียบเชิญฉบับหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ"ของจวนราชครู" เสียงของท่านโหวหลินทุ้มต่ำ โยนเทียบเชิญใบนั้นลงบนโต๊ะน้ำชาด้านข้างเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว "วันนี้ข้าได้พบชิวอวี่แล้ว และอธิบายให้เขาฟังอย่างช
วันรุ่งขึ้นเฉียวเนี่ยนนําเทียบเชิญของราชครูส่งให้จิ่งเหยียนทั้งสองนั่งอยู่บนหลังคา แสงแดดที่นี่ดีมาก จิ่งเหยียนอ่านเทียบเชิญนั้นซ้ําไปซ้ํามาหลายครั้งภายใต้แสงแดด แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่า"ทําไมราชครูถึงส่งเทียบเชิญให้ชิวอวี่ด้วยตัวเอง?"ตามหลักแล้ว คนแบบนั้น ราชครูเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดสามารถเลี้ยงดูเขาได้ และบางครั้งก็สามารถตามเช็ดก้นให้เขาได้ แต่งานแต่งงานของเขา ราชครูไม่มีเหตุผลที่จะเข้าไปแทรกแซงถึงจะถูกใครบ้างที่ไม่รู้ว่าชิวอวี่เป็นคนเลว คนดีคนไหนจะยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับเขา?ถึงต่อให้ราชครูสอดมือเข้ามายุ่งจริง เกรงว่าก็คงจะหาครอบครัวที่ไม่ค่อยได้หน้าได้ตา แต่รีบร้อนที่จะเข้าไปพัวพันกับจวนราชครูทําไมถึงหาจวนโหวเจอ หาเฉียวเนี่ยนเจอได้?เมื่อคิดถึงตรงนี้ จิ่งเหยียนก็ถูกับรอยประทับบนศีรษะอย่างไม่ยอมแพ้ "แต่นี่เป็นตราประทับของราชครูจริงๆ นะ"เฉียวเนี่ยนนําเทียบเชิญมา ถอนหายใจเล็กน้อย "ข้าก็ไม่นู้ บางทีราชครูอาจมีแผนของเขาเองก็ได้? แต่ในเมื่อราชครูออกหน้า ชิวอวี่ก็คงไม่กล้าทําอะไรบุ่มบ่ามหรอก แล้วข้าก็ตกลงไปแล้วด้วย"จิ่งเหยียนรู้สึกว่าคําพูดของเฉียวเนี่ยนมีเหตุผล จึงพยัก
ยังไงก็ตาม เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหวังเอ้อ และเห็นว่าหวังเอ้อขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่สบายใจเช่นเดียวกับนางไม่นาน เฉียวเนี่ยนก็มาถึงเรือนของจวนรองของตระกูลชิวคนแรกที่เข้ามาต้อนรับคือสตรีที่แต่งตัวหรูหราคนหนึ่ง เห็นเพียงใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยังไม่ทันที่เฉียวเนี่ยนจะทําความเคารพก็ก้าวไปข้างหน้าและจับมือเฉียวเนี่ยนไว้ "ท่านนี้คือแม่นางเฉียวใช่หรือไม่" "โอ๊ย ข้าก็ว่าแล้วว่าทําไมอวี่เอ๋อร์ของข้าถึงไม่เคยลืมแม่นางเลย วันนี้ได้เห็นแล้ว ช่างงดงามราวกับนางฟ้าจริงๆ!"คําพูดแบบนี้ ถ้าเจอหญิงสาวครอบครัวเล็กๆ ที่ไม่เคยพบปะกับใคร เกรงว่าคงจะต้องหน้าแดงและเชื่อทันทีแต่เฉียวเนี่ยนกลับดึงมือออกจากมือของสตรีผู้นั้นอย่างเฉยชา ก้มตัวลงทําความเคารพ "เฉียวเนี่ยนคารวะฮูหยินรองเจ้าค่ะ"เมื่อเห็นตนเองดึงหน้าลงเช่นนี้เพื่อเอาใจก็ไม่มีประโยชน์ สีหน้าของฮูหยินรองพลันแข็งกระด้างเล็กน้อย แต่ยังคงต้อนรับเฉียวเนี่ยนอย่างกระตือรือร้นและเดินเข้าไปในบ้านทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องโถง เฉียวเนี่ยนก็ได้พบกับชิวอวี่เห็นเพียงเขาเชิดคางเล็กน้อย พอเห็นเฉียวเนี่ยนก็ทําความเคารพ ยังคงส
ในเวลานี้ เฉียวเนี่ยนได้ทิ้งสาวใช้ที่นําทางไปแล้ว และรีบวิ่งออกไปนอกจวนอย่างรวดเร็วแม้นางจะไม่รู้จักทางออกจากจวน แต่ก็รู้ทิศทางคร่าวๆ อยู่นางไม่คิดว่าชิวอวี่จะกล้าเล่นลูกไม้ที่จวนราชครูจริงๆ ด้วยเทียบเชิญนี้ส่งโดยราชครู แต่ราชครูไม่อยู่ในงานเลี้ยง นี่ไม่เท่ากับเห็นนางเป็นคนโง่หรอกหรือ?ยังมีฮูหยินรองคนนั้น ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร สามารถเลี้ยงชิวอวี่ออกมาเลวแบบนั้นได้ เกรงว่าในใจจะมืดมนยิ่งกว่าชิวอวี่เสียอีก!เฉียวเนี่ยนยิ่งคิดยิ่งกระวนกระวาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทําไมราชครูถึงช่วยคนชั่วตราประทับนั้น เป็นของราชครูชัดๆ!ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนมาจากข้างหลัง"หยุดนะ!"เฉียวเนี่ยนสะดุ้งโหยง หันกลับไปมอง ก็เห็นเด็กรับใช้ที่นําทางก่อนหน้านี้กําลังพาคนกลุ่มหนึ่งไล่ตามมาแล้ว!เฉียวเนี่ยนรีบวิ่งหนีทันที แต่เด็กรับใช้เหล่านี้คุ้นเคยกับเส้นทางของจวนราชครูมากเกินไป ไม่นานเฉียวเนี่ยนก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่หนีเสือปะจระเข้ชิวอวี่เดินออกมาจากด้านหลังกลุ่มคนรับใช้ เขาถอดหน้ากากที่สุภาพเรียบร้อยออกไปแล้ว ตอนนี้เขาก็เหมือนอยู่ในหอจุ้ยเซียง ดูชั่วร้ายเป็นพิเศษ!เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ระ
เหตุใดนางถึงได้เชื่อเขา!ร่างกายของเฉียวเนี่ยนสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ทว่าจู่ๆ กลับรู้สึกเวียนหัวนางรีบปรายตามองธูปหอมที่อยู่ไม่ไกลนัก พบว่า บนธูปหอมนั้น มีควันดำโขมงกำลังค่อยๆปกคลุมเข้ามา...เมื่อชิวอวี่ผลักประตูเข้ามา เฉียวเนี่ยนก็หมดสติอยู่บนพื้นไปแล้วฮูหยินรองตามหลังชิวอวี่มา มองเฉียวเนี่ยนที่สลบอยู่บนพื้น พลางพ่นเสียงเย็นชาออกมา "นังเด็กนี่พอฉลาดนิดหน่อย น่าเสียดาย มาเจอกับข้า!" ขณะว่า ก็มองไปทางสาวใช้คนสนิท "ยังไม่รีบประคองฮูหยินน้อยขึ้นเตียงอีก?"เมื่อคำว่าฮูหยินน้อยดังออกมา กลับได้มาเพียงซึ่งความรังเกียจของชิวอวี่เท่านั้น "หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่จวนโหว ข้าไม่ขอแต่งกับนางหรอก!""พอได้แล้ว ทำเรื่องสำคัญก่อน!"ฮูหยินรองตบหลังชิวอวี่ด้วยความเร่งเร้า ครั้นเห็นว่าพวกสาวใช้พากันประคองเฉียวเนี่ยนขึ้นเตียงเรียบร้อยแล้ว ก็เอ่ยกับทุกคน "พากันออกไปให้หมด! อย่าทำเรื่องดีๆของคุณชายเสีย!""ขอรับ!"ทุกคนตบคำล่าถอยออกไป และประตูห้องก็ถูกปิดลงอีกครั้งชิวอวี่เดินมาดับควันธูปหอม ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อผ้าไปพลาง เดินตรงไปหาเฉียวเนี่ยนไปพลางกระทั่งเดินมาหยุดตรงข้างเตียง เขาปรายตาลงต่ำสำรวจ
ได้ยินเสียงกรีดร้องนี้ ฮูหยินรองที่เฝ้าอยู่ในลานบ้านก็รีบเร่งเข้ามาเมื่อเปิดประตูออก ก็เห็นชิวอวี่กุมตากรีดร้อง แถมปิ่นปักผมนั้นยังเสียบอยู่ในตา!ฮูหยินรองร้องออกมาด้วยความตกใจทันที จากนั้นหันฉับมองไปที่เฉียวเนี่ยน "เจ้าถึงกับกล้าทำร้ายอวี่เอ๋อร์ของข้า! ใครก็ได้ จับนางเดี๋ยวนี้!"สิ้นเสียง คนรับใช้สองคนก้าวมาข้างหน้าทันทีเฉียวเนี่ยนถอยหลังไปเรื่อยๆ ทว่าอีกฝ่ายมีคนมากกว่า อย่างไรนางก็หนีไม่พ้น!ทว่าในตอนนี้เอง มีคนรับใช้คนหนึ่งรีบพุ่งเข้ามาจากข้างนอก "ฮูหยินรอง! เกิดเรื่องแล้ว! จวนราชครูของเราถูกคนพาทหารมาล้อมไว้หมดแล้วขอรับ!""อะไรนะ!" ฮูหยินรองตกใจ "รู้หรือไม่ว่าคือผู้ใด?""คนผู้นั้นเรียกตัวเองว่าจิ่งเหยียนขอรับ!"จิ่งเหยียน!จวบจนวินาทีนี้ เฉียวเนี่ยนถึงได้โล่งใจออกมาเขามาช่วยนางแล้ว!ชิวอวี่ยังคงกรีดร้องอยู่ด้านข้าง ฮูหยินรองเหลือบมองไปที่ชิวอวี่ และมองไปที่เฉียวเนี่ยน ก่อนออกคำสั่งเสียงต่ำ "จับนังสารเลวนี่ขังไว้! พาคุณชายรองไปหาหมอ และจำไว้ อย่าให้ราชครูรู้เด็ดขาด!""ขอรับ!"พวกคนรับใช้ขานรับ ก่อนเข้าไปประคองชิวอวี่ออกไปทันที จากนั้นก็ปิดห้องอย่างแน่นหนาเฉียวเนี่ยนถ
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ
หลังจากเฉียวเนี่ยนก้มกราบเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืน กล่าวกับคนรับใช้ที่คอยปรนนิบัติอยู่นอกห้องโถง “ไปเอากระดาษ พู่กันมา”คนรับใช้ไหนเลยจะกล้าขยับ พลางมองไปที่ท่านโหวหลินด้วยความลำบากใจแต่กลับพบว่า ท่านโหวหลินกำลังหายใจแรง คล้ายว่าถูกยั่วโมโหสุดขีดแล้วส่วนฮูหยินหลินปาดน้ำตาไม่หยุด พูดไม่ออกเลยสักคำมีเพียงหลินเย่ว์ที่ยังพูดออกมาได้ในตอนนี้ “เฉียวเนี่ยน เจ้าคิดให้ดีนะ ไม่มีจวนโหว…”“ข้าคิดดีแล้ว” เฉียวเนี่ยนขัดคำพูดหลินเย่ว์อย่างไม่แยแส จากนั้นสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ท่านโหวหลินอย่างเย็นชา น้ำเสียงเจือไปด้วยความถากถาง “บัดนี้พวกท่านบอกปัดด้วยข้ออ้างต่างๆเช่นนี้ เหมือนกับว่าจวนโหวขาดข้าไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น”ไม่ใช่ว่ายืนยันแล้วหรอกหรือว่าจวนโหวเอาแต่ใช้ประโยชน์นางมาตลอด?ได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดท่านโหวหลินก็โมโหจนขาดสติ และตะคอกขึ้นมาด้วยโทสะทันที “ไปเอากระดาษกับพู่กันมา!”จวนโหวขาดนางไม่ได้?พูดเรื่องตลกอะไร!เรือพังยังมีตะปูสามพัน ต่อให้จวนโหวเขาไม่ดีแค่ไหน ก็ไม่มีวันตกต่ำถึงขั้นต้องพึ่งพาเฉียวเนี่ยนที่เป็นสตรีคนหนึ่งหรอก!เขาคำนึงถึงอนาคตทึกอย่างเพื่อนาง นางไม่รับน้ำใจก็ช่าง ตอนนี้กลับ
น้ำเสียง ดูเย็นชาเป็นพิเศษแต่กลับทำให้หลินเย่ว์โมโหไม่น้อย "ไม่ขัดขวาง? เฉียวเนี่ยน เจ้ามองตัวเองสำคัญเกินไปแล้ว? ที่พ่อแม่สนใจเรื่องแต่งงานของเจ้า เป็นเพราะพวกเขายังยอมรับเจ้าเป็นลูกสาว! หากตัดขาดกัน จวนโหวจะสนใจเจ้าอีกได้อย่างไร!"ได้ยินวาจานี้ จู่ๆ เฉียวเนี่ยนพลันหัวเราะขึ้นมา ก่อนกล่าว "ดังนั้น ข้าจะตัดขาดความสัมพันธ์"สิ่งที่หลินเย่ว์พูดเมื่อครู่ เหล่านนั้น คือเหตุผลที่นางอยากตัดขาดความสัมพันธ์!หลินเย่ว์นิ่งอึ้งรู้สึกแต่ว่าเฉียวเนี่ยนถูกผีเข้าสิงขณะกำลังคิดว่าควรจะด่าเตือนนางอย่างไร กลับไม่คาดคิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน"ท่านโหวหลินดูออกหรือไม่ว่าตราประทับนั้นเป็นของปลอม?"เสียงของนางอ่อนเบา ไม่เจือไปด้วยโทสะแม้แต่น้อยราวกับว่าแค่ถามเรื่องที่ปกติมากๆเรื่องหนึ่ง เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับนางแต่คำพูดนี้กลับทำให้หลินเย่ว์และฮูหยินหลินขมวดคิ้วสองข้าง "ตราประทับปลอมอะไร? เจ้าว่าตราประทับราชครูนั่นเป็นของปลอมหรือ?"เฉียวเนี่ยนไม่ตอบ ดวงตาคู่หนึ่งมองไปที่ท่านโหวหลินอย่างสงบนิ่งมากพบว่าท่านโหวหลินตาเป็นประกาย กล่าวอย่างปากแข็ง "นั่น นั่นมันเป็นตราประทับของรา
จวบจนรถม้านั่นขับออกไปไกลแล้ว จิ่งเหยียนถึงได้โบกมือ สั่งเหล่าทหารที่อยู่ด้านหลังกลับไปจากนั้นก้มตัวลงไปเก็บปิ่นปักผมที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เดินอ้อมไปอยู่ด้านหลังเฉียวเนี่ยนและม้วยมวลผมที่ง่ายที่สุดให้นางในระหว่างที่ทำผมให้นางเขาถึงได้พบว่า มือขวาของตัวเองยังออกแรงไม่ได้จนถึงตอนนี้นึกถึงเซียวเหอแม้เขาจะกักตัวมาตลอดห้าปี กระนั้นฝีมือการต่อสู้กลับยังคงเก่งกาจเหมือนเดิม จิ่งเหยียนอดหัวเราะเสียงเบาออกมาไม่ได้ครั้นได้ยินเสียงหัวเราะที่มาจกความจริงใจภายใน เฉียวเนี่ยนก็อดสงสัยไม่ได้ "เป็นอะไรหรือ?"จิ่งเหยียนเก็บความคิดไว้ และส่ายหัวเล็กน้อย "ไม่มีอะไร"ระหว่างสนทนา เขาปรายตามองแผ่นป้ายสูงจวนราชครูนั้น แววตาทมึนถึงลง ก่อนกล่าว "ข้าจะส่งเจ้ากลับ"เฉียวเนี่ยนถึงได้สูดหายใจเข้าลึก และพยักหน้าอย่างช้าๆถึงเวลาควรกลับแล้วไม่นาน เฉียวเนี่ยนก็กลับมาถึงจวนแต่คาดไม่ถึงว่า จะบังเอิิญเจอท่านโหวหลินกับหลินเย่ว์ที่กำลังออกมาจากจวนพอดีเห็นเฉียวเนี่ยนตามจิ่งเหยียนมา ท่านโหวหลินกับหลินเย่ว์ต่างก็ตกตะลึงเดิมทีพวกเขากำลังจะไปจวนราชครู แต่ไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะกลับมาก่อนก้าวหนึ่งท่านโหวหลิ
แต่ไม่คิดเลยว่า จู่ๆบนหลังมือของจิ่งเหยียนเกิดความเจ็บแปลบอย่างรุนแรงขึ้นมา ทำให้ไม่อาจถือแม้แต่ปิ่นปักผมไว้ได้ปิ่นปักผมร่วงลงบนพื้น เกิดเสียงกระทบดังออกมาและที่ร่วงมาพร้อมกันนั้น ยังมีหินกลมก้อนหนึ่งด้วยนี่มัน...ทั่วบริเวณ เงียบสงัดไปชั่วขณะทว่ามีเสียงเกือกม้าค่อยๆดังเข้ามาทุกคนทอกมองไปทางต้นเสียง เห็นไม่ไกลนัก มีรถม้าคันหนึ่งมุ่งตรงมาที่จวนราชครูคือรถม้าของตระกูลเซียว!เฉียวเนี่ยนตกใจ จับมือจิ่งเหยียนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว ก่อนคิ้วงามขมวดขึ้นเล็กน้อยเซียวเหิงมาได้อย่างไร?แต่ที่ไม่คาดคิดคือ รถม้ามาหยุดอยู่นอกจวนราชครู มือขาวเรียวยาวข้างหนึ่งแหวกผ้าม่านรถออก เสียงเย็นยะเยือกดังออกมา "ราชครูชิว ไม่เจอกันนานเลย"เฉียวเนี่ยนตกใจอีกครา สุ้มเสียงนี้ หาใช่เซียวเหิง!นางมองไปทางรถม้าทันที เห็นใบหน้าขาวที่แทบจะเหมือนป่วยภายใต้ม่านรถที่ถูกเปิดออกนั้น บนใบหน้าที่ซูบผอม หูตาคอจมูกดูดุดัน ออร่าแม่ทัพใหญ่ที่เลือนรางนั้นไม่ลดลงไปเลยแม้แต่น้อยเป็นเซียวเหอ!จิ่งเหยียนเองก็คาดไม่ถึงว่าผู้มาจะเป็นเซียวเหอ จึงอุทานอย่างตกใจออกมา "ท่านแม่ทัพ!"เขาเคยเป็นผู้นำทัพแนวหน้าใต้บัญชาเซียวเห