“เสียใจด้วยนะมึง มีอะไรให้ช่วยก็บอกกูได้เลยนะ”อัคคีตบไหล่เพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยความสงสารและเห็นใจ รู้ดีว่าการสูญเสียคนที่รักนั้นมันเจ็บปวดขนาดไหนเพราะตัวเองก็เคยเผชิญมาก่อนเหมือนกัน การจากลาแบบที่ไม่มีวันได้พบกันอีกคงทรมานที่สุดแล้วสำหรับคนที่ยังต้องอยู่และเฝ้าคิดถึงคนที่จากไป“อือ ขอบใจที่มานะ”“กู
“อือ สงสารเค้ามากจริงๆ”—-------------------------“พี่กร ทำไมมาอยู่ตรงนี้คนเดียวครับ”วิศวะที่เดินตามหาพี่ชายไปทั่วบ้านถามอย่างสงสัยว่าทำไมวิกรถึงได้เข้ามานั่งคนเดียวอยู่ที่ห้องทำงานของพ่อแบบนี้ วิกรชูเอกสารในมือให้น้องดูหลังนึกขึ้นได้ว่าพ่อตัวเองเคยบอกว่าเก็บทุกอย่างที่สำคัญไว้ตรงนี้ ไม่คิดว่าจะได
“เอ้า อะไรของแกวะ พี่ไปดูเองก็ได้อยู่ห้องรับแขกใช่มั้ย”“เปล่าอ่ะ กชให้รอที่สวนข้างบ้าน”“เอ้า ทำไมทำงั้นอ่ะแขกพี่กรไม่ใช่เหรอวะ”คราวนี้เป็นวิศวะที่ถามออกมาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อบ้าง กชกรที่ได้ยินร้องเหอะออกมาก่อนจะขยายความเพิ่ม“ไม่ไล่ออกจากบ้านก็บุญแล้วมั้ย”“ถามจริงใครวะกช”“ก็ยัยไออุ่นไอร้อนนั่นไ
“พี่กร ทำไมมานอนตรงนี้คะ”นีรนาราที่เพิ่งเดินเข้าห้องมารีบเข้าไปดูวิกรที่นอนอยู่ด้วยความเป็นห่วง เกือบสองอาทิตย์ที่ไม่ได้มีเวลาคุยกันส่วนตัวเลย เพราะวิกรวุ่นอยู่กับงานของพ่อตัวเองแล้วนีรนาราเองก็ต้องคอยดูแลงานที่บริษัทแทนให้จนยุ่งทั้งคู่ วิกรไม่ได้กลับมาที่ห้องเกือบสองอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ“ไปไหนมาครับ”
เธอยกมือขึ้นมาลูบแก้มคนพี่เบาๆก่อนจะให้กำลังใจอีกครั้ง ด้วยประโยคที่ตั้งใจจะบอกมาตลอดหลายวัน อยากให้รู้ว่าตอนนี้วิกรก็มีค่าและสำคัญมากๆสำหรับเธอเช่นกัน“พี่กรเก่งมากๆแล้วนะคะ แต่อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยพี่กรก็มีแค่คนเดียวบนโลกเหมือนกันค่ะ”“ครับ”—--------------สนามบินที่ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็มีผู้คนเด
“บอสคะ”“ครับ”“มีคนติดต่อมาขอเข้าพบค่ะ”นีรนารารีบรายงานทันทีที่วิกรกดรับสายจากในห้อง วิกรที่นึกไม่ออกว่าวันนี้ตัวเองมีใครนัดตอนไหนก็ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยแล้วถามกลับ“ใครครับ ลูกค้าใหม่เหรอ”“ไม่ใช่ค่ะ เธอบอกว่าเป็นเพื่อนเก่าบอสชื่อคุณไออุ่นค่ะ”“งั้นบอกไปว่าช่วงนี้พี่ไม่มีวันว่างเลย แล้วก็กำลังจะเข้
วิกรพยักหน้ารับก่อนจะกดโทรนีรนาราในทันที“นีนครับ พี่ขอชาเขียวร้อนไม่ต้องใส่น้ำตาลแก้วนึงนะครับ”“กรนี่พูดเป็นกันเองกับลูกน้องมากเลยนะคะ”อริสาทักขึ้นแล้วมองวิกรด้วยสายตาสงสัย รู้ว่าวิกรเป็นคนสุภาพมากๆอยู่แล้วแต่นี่ก็ออกจะเป็นกันเองเกินไปหน่อยจนน่าแปลกใจ“เอ่อ…ครับ”วิกรอึกอักรับคำอย่างไม่รู้จะพูดอะ
อัคคีถามเสียงดังด้วยความลืมตัว ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องทันทีจนนีรนาราตกใจเดินตามไปห้ามแต่ก็ไม่ทัน“คุณอัคคีคะ เดี๋ยวค่ะ!”“ไง มารำลึกความหลังอะไรแถวนี้ไม่ทราบ”ทันทีที่เข้าห้องได้อัคคีก็ถามเสียงดังจนสองคนที่นั่งอยู่สะดุ้งหันมามอง พอเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นใครต่างก็เรียกชื่ออัคคีออกมาด้วยความตกใจมากกว
“เลิกเล่นแล้วไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ จะได้มาทานข้าวเย็นกัน”“โอเคครับ”—-------------------------------“ไหน ลูกชายพ่อทำไมยังไม่หลับอีกครับเนี่ย”วิกรที่เพิ่งเข้ามาในห้องนอนชะโงกดูลูกชายที่นอนอยู่ในเปลข้างๆเตียง นีรนาราที่นั่งกล่อมลูกอยู่หันมายิ้มก่อนจะบอกให้สามีรีบนอน“วันนี้ตาใสมากเลยค่ะ พี่กรนอนก่อนได
วิกรอธิบายเพิ่ม เพราะคนอื่นๆที่ไม่รู้จักเค้ามักจะเข้าใจผิดกันตลอดว่าที่บ้านจะต้องเข้มงวดและบังคับให้สืบทอดธุรกิจแน่ๆ แต่ที่จริงทั้งพ่อและแม่ไม่เคยมีใครมากำหนดชีวิตลูกๆเลยสักคน แค่ทำสิ่งที่ชอบก็พร้อมสนับสนุนทุกอย่างอยู่แล้ว ถือว่าเป็นโชคดีก็ได้ที่ได้ต้นทุนชีวิตที่ดีพร้อมแบบนี้ การได้ทำทุกอย่างจนรู้ว
“ไม่ไปยุโรปกันแน่นะคะลูก”วิภาดาถามย้ำอีกครั้งแม้ลูกจะยืนยันว่าจะเปลี่ยนที่เที่ยวก็ตาม วันครบรอบแต่งงานที่เคยวางแผนกันไว้ว่าจะไปแถวๆยุโรปกลายเป็นต้องเปลี่ยนแผนใหม่เพราะว่านีรนาราท้องขึ้นมาซะก่อน “ไม่ไปครับ ผมกลัวนีนจะลำบากถ้าเดินทางไกลมากเราเลยตกลงจะไปแค่ที่ภูเก็ตครับ”“นั่นสิเนอะกำลังท้องอยู่ด้วย
“รวมผมด้วยเหรอครับ”วิกรที่ได้ยินว่าตัวแสบรีบหันไปถามแม่อย่างไม่เชื่อว่าตัวเองจะถูกเหมารวมกับน้องๆด้วย“เราตอนเด็กก็ใช่ย่อยที่ไหนล่ะตากร ให้แม่แฉเลยดีมั้ยคะ”“อย่าเลยครับ วันนี้คุณแม่คงเหนื่อยรีบพักผ่อนนะครับ”วิกรยิ้มเอาใจก่อนจะรีบห้ามไม่ให้แม่แฉความดื้อต่อหน้าภรรยาสุดที่รัก วิภาดามองค้อนก่อนจะยอมไ
“มีแต่ของโปรดทั้งนั้นเลย ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเตรียมให้นะครับ”วิกรบอกก่อนจะนั่งลงใกล้ๆกับนีรนารา เพราะมีกันอยู่สามคนเลยทำให้อาหารวันนี้เยอะเป็นพิเศษจนเจ้าของวันเกิดตาเป็นประกายและยิ้มไม่หุบกับความใส่ใจของทั้งแม่และภรรยาตัวเอง“เดี๋ยวมีพิเศษกว่านี้อีกค่ะลูก ยังไม่ต้องรีบดีใจไป”“โห คุณแม่ทำผมตื่นเต้นนะ
“ไม่ไปโรงพยาบาลแน่นะครับ”วิกรถามด้วยความเป็นห่วงเพราะหลายวันมานี้นีรนารามีอาการป่วยบ่อยๆจนวันนี้ถึงกับลุกไปทำงานไม่ไหว แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลอยู่ดี“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อยนอนพักไม่นานก็หาย”“ตามใจครับ แต่ว่าถ้าไม่โอเครีบโทรหาพี่เลยนะครับรู้มั้ย”“รู้แล้วค่า พี่กรไม่ต้อ
“ค่ะ”นีรนารารับคำพลางมองตามหลังคนพี่ไปด้วยความอ่อนใจ มาไม้นี้มีหรือจะเดาไม่ออกว่าคืนนี้สามีต้องการอะไร การดื่มมันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละเธอรู้ดี“ดื่มได้มั้ยครับ”วิกรถามเมื่อนีรนาราจิบไวน์ที่เอามาให้ไปแล้ว“ได้ค่ะ แต่ว่าเหมือนมันจะแรงไปหน่อย”นีรนาราตอบพลางมองขวดไวน์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างสนใจ“
“หนาวมั้ยครับ”วิกรหันมาถามภรรยาที่เดินข้างๆด้วยความเป็นห่วง ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ญี่ปุ่นนั้นอากาศหนาวมากๆ มือหนาเอื้อมไปกระชับผ้าพันคอให้นีรนาราอีกครั้งแล้วจับมือเล็กมากุมไว้เหมือนเดิม“นิดหน่อยค่ะ พี่กรล่ะคะ”“เหมือนกันครับ แต่ว่าอากาศดีมากเลยไม่ได้เดินสูดอากาศแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ”วิกรบอกพลางยิ้
“งั้นก็ได้ครับ แต่ว่าต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับที่นั่นอากาศหนาวแถมยังฝนตกบ่อยมาก คุณแม่ไม่สบายง่ายด้วย”“แหม่ คุณพี่ชายครับผมกับยัยกชก็อยู่ด้วยจะห่วงอะไรครับพี่ อยู่นี่รีบมีหลานตัวน้อยให้พวกเราไวๆก็พอครับ”วิศวะมองค้อนพี่ชายที่ทำเหมือนว่าแม่จะไม่มีใครดูแลทั้งที่มีพวกเค้าอยู่ด้วยตั้งสองคน แต่ท้ายประโยคด