ราชันย์ออกมาก่อนที่ระเบิดจะลงใส่ตัวเอง เห็นพี่ชายไม่ค่อยใส่ใจ คิดว่าจะไม่หึงเมียขนาดนี้ ทำไมผู้ชายด้วยกันจะดูไม่ออก คนดื้อแบบน้องชายก็เลยอยากเล่นอะไรสนุกๆ หน่อย กวนอารมณ์คนขี้เก๊กแบบพี่ชายสักหน่อย ถ้าเป็นไปตามแผนนะแต่พอออกจากห้องท่านประธาน ราชันย์ก็ต้องรีบหลบหมุมก่อน เพราะเดี๋ยวเจอคุณผู้ช่วยเลขา ถ้าเห็นว่าเขาขึ้นมาป้วนเปี้ยนบนชั้นผู้บริหารอีก มีหวังเธอได้เล่นงานเขาแน่ราชันย์ออกไปได้ครู่หนึ่ง หวานใจก็ตามออกมา เพราะดูหน้าเจ้าของห้องแล้วไม่รู้ว่าไปกินรังแตนมาจากที่ไหนแต่พอเธอออกไป รามิลก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาก๊อก..ก๊อก.."กานดาเองค่ะ""เข้ามาได้เลยค่ะ..คุณกานดามีอะไรคะ""กานเอางานเข้ามาให้คุณหวานใจค่ะ""งานอะไรคะ" หวานใจรับงานนั้นขึ้นมาแล้วเปิดดู "ทำไมงานเยอะจังคะ""คุณหวานใจค่อยๆ ทำไปก็ได้นะคะ"เป็นครั้งแรกมั้งที่มีคนยกงานเข้ามาให้เธอทำ เพราะทุกครั้งเธอต้องออกไปของานเองว่าต้องทำอะไร ..สงสัยงานนี้จะเร่งจริงแหละ หวานใจเปิดดูมันก็คืองานที่พวกเขากำลังมีปัญหากันอยู่ตอนนี้เย็นวันเดียวกัน..ถ้าวันนี้งานไม่เสร็จมีหวังอดไปปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำแน่เลย คนเราต้องมีอะไรที่ชอบมาก และสิ่งที่หวานใจชอบคือ
"เช็ดน้ำลายออกจากปากมึงเลยนะ""น้ำลายที่ไหนวะ" พอเช็ดแล้วถึงรู้ว่าไม่มีน้ำลายไหล "พี่สะใภ้มึงจริงเหรอ""ก็จริงสิวะ" ราชันย์แนะนำหวานใจให้เพื่อนหลายคนรู้จักแล้ว และตอนนี้หวานใจกำลังจะไปว่ายน้ำ"พี่ชายมึงไปหามาจากไหนวะเนี่ย""กูจะรู้กับพี่กูเหรอ" หนุ่มๆ ในงานแทบละลายกันเป็นแถว เมื่อเห็นสาวสวยร่างอรชนสมส่วน แถมชุดว่ายน้ำที่เธอเลือกใส่วันนี้สะกดสายตาคนได้ทั้งงาน แม้แต่ผู้หญิงยังแอบอิจฉา"สวัสดีครับ" หนุ่มใจกล้าคนหนึ่งเดินเข้าไปทักหวานใจ"สวัสดีค่ะ" มีคนทักถ้าไม่พูดด้วยก็จะดูเสียมารยาท"คุณสวยจังเลยครับ""ขอบคุณค่ะ" มาแบบนี้รู้ได้เลยว่าคงอยากเข้ามาจีบ หวานใจหันไปที่สระว่ายน้ำ คิดว่าจะไม่สนใจแล้วแต่อีกฝ่ายก็พูดขึ้นอีกครั้ง"ผมชื่อวัลลภครับ เป็นลูกชายของเจ้าของโรงแรมนี้" วัลลภดึงไม้ตายมาใช้ ร้อยทั้งร้อยถ้าแนะนำแบบนี้เสร็จทุกราย"ค่ะ" แต่มันใช้ไม่ได้กับหวานใจ ถ้าคนตรงหน้ารู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของใคร คงไม่กล้าแม้แต่จะแนะนำว่าตัวเองเป็นลูกชายเจ้าของโรงแรมหรอก เพราะมันเทียบกันไม่ได้เลยและมันยิ่งทำให้วัลลภสนใจในตัวเธอมาก ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ในตัวเองเป็นที่สุด"ดื่มหน่อยไหมครับ" วัลลภยื่นไวน์ที่อยู่
ทีแรกก็ชั่งใจอยู่ว่าถ้าเขามองขึ้นมาเธอจะหลบไหม ในขณะที่กำลังคิดอยู่สายตาของคนที่เพิ่งลงจากรถก็มองขึ้นมาจริงๆ หญิงสาวเลือกที่จะไม่หลบ ให้เขาเห็นไปเลยว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ ที่รามิลมองขึ้นไปเพราะอยากรู้ว่าเธออยู่บนห้องหรือยังอยู่ข้างล่าง"เดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรไปหาประกันให้นะ" เขาพูดแค่นี้ก็รีบเข้าบ้านเกศรินได้แต่มองตามไป..ในเวลานี้อยากคุยกับใครสักคน ถ้ากุลยังอยู่ก็คงวิ่งออกมาถามแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้กุลจะมีนิสัยที่เสียอยู่บ้าง แต่สำหรับเกศรินแล้ว กุลเปรียบเสมือนญาติที่คอยถามคอยห่วงใย หวานใจซึ่งยังยืนอยู่หน้าต่างที่เดิม แปลกใจเมื่อเห็นว่าเกศรินซับน้ำตา ที่ร้องไห้คงไม่ใช่เพราะเธอกลับมานะ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอต้องคิดยังไงแกร็ก.. ประตูห้องเปิดเข้ามาหวานใจก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม"กินข้าวหรือยัง""ไม่หิว""แสดงว่ายังไม่กิน ผมก็ยังไม่กินเหมือนกัน"หวานใจไม่ได้พูดอะไร เธอยังคงมองลงไปข้างล่าง จนรามิลเดินเข้ามาหา "รถของเกศรินเกิดอุบัติเหตุ" หญิงสาวไม่ได้ตกใจอะไรมากมาย เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เจ้าของรถคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้ เธอทำแค่มองหน้าเขา เพราะอยากรู้ว่าเขาตกใจบ้างไหมที่เกิดอุบัติเหตุกับ
"ถ้าคุณทำอะไร ฉันจะถือว่าคุณเลือกฉัน" เธอพูดขนาดนี้เขายังไม่หยุดที่จะจูบซอกคออีก "คุณต้องพูดออกมาก่อน ถ้างั้นฉันไม่ยอม" มือเรียวผลักใบหน้าที่ซุกอยู่ซอกคอให้ขยับออก"คุณเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ถ้าผมทำอะไรแสดงว่าผมเลือกคุณ""คุณเลือกฉันเหรอคะ?" นี่เราแปลความหมายของเขาผิดหรือเปล่า เขาจะเลือกเราเนี่ยนะ แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังต้องการความช่วยเหลือนี่ หัวใจดวงน้อยๆ เต้นแรงขึ้นมา ถ้าเขาทำได้แบบที่พูดจริง นั่นหมายถึงว่า.."มีเมียก็เลือกเมียสิ จะไปเลือกผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง"ดวงตางามมองชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าผ่านความมืด แต่เธอกลับเห็นใบหน้าเขาเด่นชัดมาก เพราะมันยังคงอยู่ในจินตนาการ ในความทรงจำ หรือบางที่มันอาจจะอยู่ในหัวใจ เธอถึงเห็นเขาได้ชัดแบบนี้"แต่เธอคนนั้นกำลังต้องการความช่วยเหลือนี่คะ""คุณให้ผมเลือกไม่ใช่เหรอ"พอเขาพูดออกมาแบบนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงต่อ จนอีกฝ่ายขยับใบหน้าลงมาจูบริมฝีปากบาง เธอเผยอออกเล็กน้อยเพื่อให้เขาสัมผัสถึงด้านใน"อือ""ไปที่เตียงกัน" มือหนาที่แนบอยู่เนินน้องสาวค่อยๆ ขยับออกมา เพราะเขาล้วงมันตั้งแต่ตอนจูบแล้ว"แต่ฉันหิวข้าว""จะหิวอะไรตอนนี้""ยังไม่ทานข้าวเ
"คุณเป็นอะไร" เห็นเธอนอนตัวขดตัวงออยู่ รามิลก็รีบเข้าไปหา"พี่สะใภ้เป็นอะไรครับ""เจ็บท้อง""ไปหาหมอกัน" ว่าแล้วรามิลก็เอื้อมไปช้อนร่างเธอขึ้นมาลุงสมานรีบมาเปิดประตูห้องให้ ส่วนราชันย์รีบไปกดลิฟต์รอพอประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นล่าง พนักงานโรงแรมและอีกหลายคนที่อยู่แถวนั้นต่างก็มองตามผู้ชายที่อุ้มผู้หญิงวิ่งออกไปขึ้นรถ[โรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ใกล้]ลุงสมานจอดรถที่หน้าโรงพยาบาล รามิลก็รีบอุ้มเธอลงจากรถ แล้ววิ่งไปวางลงเปลสำหรับคนป่วย เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็รีบเข็นเปลเธอไปที่ห้องฉุกเฉิน"คนไข้เป็นอะไรมาคะ""เธอเจ็บท้องมากครับ""ญาติออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ""ผมจะอยู่ตรงนี้ ผมเป็นสามีของเธอครับ""สามีก็อยู่ไม่ได้ค่ะ ออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ ถ้าต้องการญาติเดี๋ยวทางเราจะแจ้งออกไป" แบบนี้แหละถึงไม่อยากให้ญาติคนไข้อยู่ในห้องตรวจด้วย เพราะญาติส่วนมากจะตื่นตระหนกและพะวง เดี๋ยวทำให้การตรวจวินิจฉัยล่าช้าลงไปอีกได้ยินว่าคนไข้มีสามีแล้ว อันดับแรกทางแพทย์ผู้รักษาก็ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเลยผ่านไปเพียงไม่นานทางเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้สามีคนไข้เข้ามาพบในห้องตรวจ"มีเพศสัมพันธ์กันครั้งสุดท้ายเมื่อไรครับ" เรื่องแบ
วันต่อมา..หวานใจก็ยังคงอยู่โรงพยาบาล แต่วันนี้รามิลเข้าบริษัท เพราะอยากเคลียร์งานคืนให้พ่อ แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้ามาช่วยงานพ่อเลย ช่วงนี้เขาอยากดูแลเธอแบบใกล้ชิดก่อน ซึ่งรามสูรก็เข้าใจลูกชายดี ถึงได้รีบเดินทางกลับมา เพราะคนเป็นปู่ก็ห่วงหลานที่อยู่ในท้องลูกสะใภ้ไม่ต่างกันเลย"ดีใจด้วยนะคะ" กานดาและผู้ช่วยแผนกเลขาทุกคนต่างก็มาแสดงความยินดีกับรามิล เพราะทุกคนรู้ข่าวแล้วว่าภรรยาของเขาท้อง "ขอให้คุณหวานใจกับลูกปลอดภัยนะคะ""ขอบคุณทุกคนมากครับ ผมคงไม่ค่อยได้เข้าบริษัท ฝากทุกคนช่วยกันดูแลด้วยนะ""สู้ๆ นะคะบอส"กว่าจะเคลียร์งานเสร็จลงมาถึงชั้นล่างของบริษัทก็เกือบบ่ายโมงแล้ว"??" รามิลเหมือนเห็นน้องชายเดินผ่านแว๊บๆ แต่เขาไม่มีเวลาตามไปดู คิดว่าค่อยโทรถามแล้วกัน เพราะต้องรีบกลับไปโรงพยาบาล[โรงพยาบาล]"กลับมาก็ดีแล้ว ดูแลน้องต่อด้วยนะ""ครับ"แม่ๆ ทั้งสองให้เหตุผลว่าจะกลับไปดูบ้านสักหน่อย เพราะทิ้งบ้านมา แต่ที่จริงสโรชาและแก้วใจอยากให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกันมากกว่า"กินข้าวเที่ยงยัง"นอกจากจะไม่ตอบแล้วเธอยังนอนหันหลังให้"ง่วงเหรอ" ชายหนุ่มเดินเข้ามาขยับผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างให้กับเธอ แต่ก็ยัง
"คุณก็ไปนอนสิ" หวานใจเห็นว่าเขานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง ทั้งๆ ที่เธอใกล้จะหลับอยู่แล้ว"ผมยังไม่ง่วง คุณนอนก่อนเลย""ทำไมคะ ทำไมถึงยังไม่ง่วง""ไม่ทำไมหรอก ผมอยากนั่งอยู่ตรงนี้ ข้างๆ คุณกับลูก"กำลังจะหาเรื่องงอนอยู่แล้วเชียว ได้ยินประโยคนี้แล้วเธอจะงอนได้ยังไง แล้วทำไมเราต้องหาเรื่องเขาด้วย เป็นอะไรมากหรือเปล่า"นอนนะครับ" มือหนาเอื้อมไปลูบผมของคนที่นอนอยู่บนเตียงเบาๆ จนเธอรู้สึกผิดที่เก็บเขาไว้ข้างกาย เขาคงคิดถึงหญิงคนรักมาก แต่ติดตรงที่ต้องรับผิดชอบเธอกับลูกหวานใจหลับตาลง ถึงแม้ว่าเธอจะหายง่วงแล้ว อยากให้เขามีเวลาเป็นส่วนตัว เผื่อว่าเขามีธุระจะทำเช้าวันต่อมา.."ตื่นแล้วเหรอลูก"หวานใจยิ้มให้กับแม่ทั้งสองคนเล็กน้อย แต่สายตานั้นมองไปรอบๆ ห้อง เพราะตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในนี้"พี่เขาไปคุยกับคุณหมอ""ค่ะ""หนูกลับบ้านได้แล้วแน่นะ""หวานดีขึ้นมากแล้วค่ะ" ที่จริงเธออยากขอแม่ของเขา กลับไปพักที่บ้านเธอ แต่ไม่กล้าเดี๋ยวพวกท่านจะไม่สบายใจพอเคลียร์เรื่องโรงพยาบาลเสร็จ ทุกคนก็นั่งรถออกมา[บ้านรามิล]"ฉันเดินเองได้" หวานใจตกใจคิดว่าเขาจะทำแค่เปิดประตูให้ แต่นี่เขาจะอุ้มเธอลงจากรถด้วย"ต้องขึ้นบันไ
เห็นชุดที่เขาซื้อมาให้ เธอก็เลยวางมันลง แล้วเดินกลับเข้าห้องไป"เธอทานยาหรือยังครับแม่" รามิลหมายถึงยาที่คุณหมอจัดให้มาทานที่บ้าน"ทานแล้วจ้ะ""วันนี้ผมว่าจะเข้าโรงงาน ยังเคลียร์งานที่โรงงานไม่เสร็จเลยครับแม่" เป็นห่วงเธอก็เป็นห่วง เพราะเพิ่งกลับมาอยู่บ้านไม่อยากทิ้งไว้คนเดียว"ลูกไปเถอะ เดี๋ยวทางนี้แม่จะดูแลเอง""ถ้างั้นผมเข้าไปบอกเธอก่อนนะครับ"พอเข้ามาก็เห็นว่าเธอนอนอีกแล้ว"ผมจะเข้าโรงงาน ถ้าเสร็จงานแล้วจะรีบกลับมานะ"เธอไม่ได้หันกลับไปมองหรอก แต่ก็ได้ยินที่เขาบอก"ถ้าง่วงก็นอนพักเยอะๆ" ชายหนุ่มขยับผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ก่อนที่จะออกมาจากห้องพอประตูห้องปิดลง หวานใจก็รีบหันกลับไปมอง ในความคิดของเธอเขาจะไปโรงงานจริงเหรอ หรือว่าจะแอบไปหาผู้หญิงคนนั้น..ลูกชายออกไปเพียงไม่นานคนเป็นแม่ก็เข้ามาดูลูกสะใภ้ ว่านอนหลับหรือทำอะไรอยู่"หวาน?""คุณแม่?" หวานใจไม่คิดว่าแม่เขาจะเปิดประตูเข้ามา ก็เลยเช็ดน้ำตาออกไม่ทัน"หนูเป็นอะไร ปวดท้องอีกหรือเปล่าลูก"หวานใจไม่อยากโกหกก็เลยส่ายหน้า เพราะเธอไม่ได้เจ็บท้อง"แล้วทำไมหนูถึงร้องไห้""คงเพราะช่วงนี้อารมณ์แปรปรวนมั้งคะ""คนเราต้องมีเหตุผลในการแปรปรวนของ
พลาดรักคุณสามี ตอนพิเศษหลังงานแต่งของทั้งสองจบลง.."ถ้างานคุณยุ่ง เรื่องฮันนีมูนเราก็เลื่อนออกไปก่อนก็ได้นี่คะ""ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับคุณอีกแล้ว"ชีวิตหนึ่งเกิดมาแค่นี้ก็พอแล้ว ขอแค่มีชายคนรักที่เห็นว่าเธอสำคัญที่สุด"ก็ได้ค่ะ ฉันขอแค่ในประเทศนะ ถ้าเดินทางไปต่างประเทศมันเหนื่อยเกินไป" ที่จริงมันเป็นแค่ข้ออ้าง ถ้ายังอยู่ในประเทศเผื่อมีงานด่วนเขาจะได้จัดการงานนั้นง่ายหน่อย"แล้วคุณชอบภูเขาหรือทะเลล่ะ""ชอบปลาวาฬค่ะ""หือ?""ฉันชอบคุณ จะให้ฉันชอบอย่างอื่นได้ยังไง""ผมตั้งใจว่าจะเก็บแรงไว้ตอนฮันนีมูนกัน""ยังไงคะ""คุณเล่นอ้อนแบบนี้ผมก็ต้องได้เอาแรงออกมาใช้ก่อนน่ะสิ""คุณปลาวาฬ" ถึงแม้จะมีอะไรกับเขาหลายครั้งแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เธอก็มีความอายอยู่ดี"น่ารักจัง" มือหนาเอื้อมไปลูบไล้แก้มนวลของภรรยาด้วยความเอ็นดู "ถ้าคุณชอบปลาวาฬงั้นเราก็คงต้องไปทะเลกัน""ค่ะ" คนตัวเล็กแนบลำตัวลงกับอกแกร่งของผู้เป็นสามีหมาดๆ"นอนก่อนนะครับคนดี นอนเอาแรงไว้เยอะๆ พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันแล้ว""พรุ่งนี้เลยหรือคะ..แล้วงานของคุณล่ะคะ""ตอนเช้าเดี๋ยวผมเข้าไปเคลียร์งาน เราจะเดินทางตอนบ่ายกัน""ค่ะ"
พลาดรักคุณสามี บทที่ 102 ตอนจบ"แม่อยากให้อยู่ด้วยกันไปก่อน" สโรชาอนุญาตให้ลูกไปทำงานได้ แต่พอวันต่อมาลูกสาวก็ขอออกไปอยู่คอนโดกับชายคนรัก"เกศดีขึ้นมากแล้วค่ะ ถ้าคุณแม่เป็นห่วงเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงแล้วค่ะ""แต่แม่กลัวคิดถึงเรา""ลูกโตแล้วนะคุณ แถมลูกกำลังจะออกเรือนด้วย ให้พวกเขาไปศึกษาดูใจกันเถอะ"สโรชาเป็นห่วงถ้าปล่อยให้ลูกไปอยู่ข้างนอกไกลหูไกลตา กลัวว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะเกิดขึ้นอีก ถ้าเกศรินยังอยู่ที่บ้าน เธอคงสังเกตเห็นอาการลูกสาวแต่ทีแรกแล้ว"ถ้าเกศมีอาการผิดปกติ จะรีบบอกคุณแม่เลยค่ะ" เกศรินรู้ว่าท่านเป็นห่วงมาก ถ้าวันนั้นไม่เพราะท่านขอตรวจ..ป่านนี้มะเร็งคงลุกลามไปจนเกินเยียวยาแล้ว"ผมสัญญาครับว่าจะดูแลเธอ แทนคุณแม่เอง"สโรชามองไปดูหน้าสามีที่นั่งอยู่ด้วยกัน ก่อนที่โผลเข้าไปกอดท่าน เธออยากออกไปใช้ชีวิตครอบครัวกับเขา เรื่องศึกษาดูใจคงไม่ต้องศึกษาเขาแล้ว เพราะเธอเห็นหมดแล้วว่าเขามีความจริงใจให้มากแค่ไหน[คอนโด]"ผมว่าจะซื้อบ้านสักหลัง พักอยู่คอนโดมันไม่สะดวก""ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่นี่ก็ดีมากแล้ว""ถ้าเรามีบ้าน คุณก็จะมีพื้นที่เยอะขึ้น อยู่แต่ในคอนโดอากาศไม่ปลอดโปร่ง""ที่ไหนมีคุณฉั
"แน่ใจนะว่าคุณต้องการแรงกว่ามดกัด แต่มดตัวนี้กัดเจ็บนะครับ ถ้าแรงกว่าคุณจะรับไหวเหรอ" ที่จริงเขายังไม่เร่งเครื่องเลย แค่กำลังอุ่นเครื่องก่อนเฉยๆ แต่เกศรินคิดว่าเขาคงกลัวเธอเจ็บแผล ก็เลยทำแค่เบาๆ ถ้าทำแบบนี้เมื่อไรจะเสร็จล่ะ"ฉันเคยถูกมดกัดนี่คะ แค่เกาก็หายคันแล้ว""จัดให้ครับ แต่ถ้าเจ็บคุณบอกผมเลยนะ" ฟังเธอพูดก็อยากจะขำอยู่หรอก แต่ถ้าขำตอนนี้คงหมดอารมณ์แน่"อื้อ อ " เกศรินอยากให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอให้มากที่สุด เธอก็เลยขอให้เขาเพิ่มความแรงขึ้นมาหน่อย ถึงแม้จะมีลูกให้เขาไม่ได้ ช่วยให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอได้ก็คงดี"อ้าา ผมรักคุณนะเกศริน" ความรักนี้ไม่รู้ว่ามีให้เธอตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวก็รักเธอมากจนแทบคลั่ง"ฉันก็รักคุณค่ะ อื้อ อ" มือเรียวโอมร่างคนตัวโตไว้ในจังหวะที่เขากำลังซอยสะโพกเร็วขึ้น"ซี๊ดด ผมปล่อยข้างในได้เลยไหม"ที่จริงคุณหมอก็บอกไว้ว่ายังไม่อยากให้มีลูกกันตอนนี้ แต่เธอคิดว่ามันคงไม่เร็วขนาดนั้น เพราะส่วนที่รับน้ำเชื้อยังไม่แข็งแรงพอ หญิงสาวพยักหน้าให้เห็นว่าเธออนุญาตชายหนุ่มก็ไม่อดกลั้นอีก ขยับสะโพกเพื่อให้ความแข็งแกร่งเสียดสีกับเนื้อบางๆ เร็วขึ้น ก่อน
"คุณยังไม่ดื่มน้ำอีกเหรอ" ปลาวาฬมองดูน้ำที่สั่งให้ลูกน้องนำมาให้เธอ "ฉันไม่อยากดื่มน้ำของคนที่ชื่อกำพลค่ะ" "ใครเอามาให้นะ" สายตาชายหนุ่มเหลือบไปมองกำพล จนคนที่ถูกมองรีบหลบสายตานั้น "รอผมอยู่นี่เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" พูดจบปลาวาฬก็รีบเดินไปตรงจุดบริการน้ำ เขาไม่ได้เอาน้ำที่เย็นจัด "เราดูดีกว่าตั้งเยอะ และทำงานมาด้วยก็หลายปี ทำไมถึงเลือกแม่บ้านแบบนั้นได้" "อืมใช่" เอ็มม่าและตุ๊กตาไม่เคยพูดกันดีเลยตั้งแต่กำพลหันมามองเอ็มม่า ก็มีครั้งนี้แหละที่ทั้งสองดูจะลงรอยกัน"แต่ฉันยังสงสัยเรื่องคุยธุรกิจ" "คงไม่ใช่หรอกมั้ง คุณเชษฐาคงจำคนผิด""เกศ" "คุณพ่อ" เกศรินได้ยินคนเรียกก็เลยหันไปมอง ไม่คิดว่าคนที่เรียกก็คือพ่อ "พ่อเห็นคุณเชษฐาตรงโน้นบอกว่าลูกก็มาร่วมงานด้วย""คุณพ่อก็มาร่วมงานด้วยเหรอคะ"ที่จริงรามสูรก็ไม่ชอบมางานอะไรแบบนี้ แต่ที่มาเพราะว่าอยากมาร่วมงานของว่าที่ลูกเขย "พ่อต้องมาสิ เพราะเป็นงานคนสำคัญของลูกนี่""พ่อ?!" ทำไมคนที่ทำงานในโชว์รูมจะไม่รู้จักนักธุรกิจที่ชื่อรามสูร เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย จนถึงบัดนี้ สาวๆ ครึ่งค่อนประเทศอิจฉาภรรยาอันเป็นที
"ไม่ต้องหรอกลูก""ครับ" ปลาวาฬยอมรับในการตัดสินใจของท่าน"อ้าวแล้วนั่นเราจะไปไหน" พอเขาตอบรับ ปลาวาฬก็ลุกขึ้นกำลังจะออกจากบ้านท่านไป"พรุ่งนี้ผมจะรีบมาแต่เช้าครับ""ไหนบอกอยากอยู่ดูแลน้องไง""ครับ?" ชายหนุ่มที่ใบหน้าสิ้นหวังมากหันกลับมามอง"ที่แม่พูดหมายถึงไม่ต้องนอนข้างนอกหรอก ก็เข้าไปดูแลกันในห้องเลย มีอะไรจะได้ช่วยกัน""ผมนอนข้างในได้เหรอครับ""ได้สิจ๊ะ ถึงยังไงพวกเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว""ขอบพระคุณมากครับ" ยังไม่ทันได้เอามือที่ไหว้ท่านลงเลย เขาก็เดินไปถึงหน้าห้องของเธอแล้ว"คุณยิ้มอะไรคะ" สโรชาหันกลับมาเห็นสามีกำลังยิ้มแป้น"คุณทำถูกแล้วล่ะ เด็กๆ เขารักกันก็ปล่อยให้เขาดูแลกันไป""ฉันก็ไม่ได้ว่าจะห้ามสักหน่อย แล้วเมื่อไรคุณจะขึ้นนอนไม่ง่วงหรือไง""เอ้า..เลขมาออกที่เราจนได้" รามสูรรีบเดินตามภรรยาขึ้นบ้านไป"คุณราม!" สามีที่เดินตามมาอยู่ดีๆ ก็โอบกอดภรรยาจากทางด้านหลัง"จะเดือนแล้วนะ" ตั้งแต่เดินทางทั้งสองไม่ได้เข้าใกล้กันเลย"คุณไม่เหนื่อยหรือไงคะ เพิ่งมาถึง""คุณรู้ไหม ว่ามันเป็นการเพิ่มกำลังอีกทาง""ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนะคะ ที่จะมาเพิ่มกำลังกับอะไรแบบนี้""คุณว่าผมแก่เหรอ""ใช่ค่ะ"
มือหนายื่นไปสัมผัสที่ผมบนศีรษะของเธอเบาๆ"คุณ?" พอเขาสัมผัสที่อื่นที่ไม่ใช่มือ.. เธอถึงกับสะดุ้ง "คุณไม่ใช่คนในมโนของฉันเหรอ?"ปลาวาฬส่ายหน้าตอบไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาช่างมีความอบอุ่น"ฉันกลับมาประเทศแล้วเหรอ" ที่เธอคิดว่าไม่ใช่เขาก็เพราะเธอมารักษาตัวที่ต่างประเทศ ถึงแม้เขาจะรู้และอยากตามมา แต่คงต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่ว่าจะเข้าประเทศนี้ได้ง่ายๆ"คุณอย่าไล่ผมไปไหนอีกเลย ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป" ทีแรกก็อยากให้เธอเห็นว่าเขาเป็นแค่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นมา เพราะถ้าเป็นภาพลวงตาเธอคงจะคุยกับเขานานกว่านี้"คุณปลาวาฬ คุณมาได้ยังไง?" เขาไม่ใช่แค่ภาพที่เธอสร้างขึ้นมาแล้วมันคือเขาจริงๆ"พอผมรู้ทุกอย่างก็รีบตามคุณมาที่นี่""เป็นคุณจริงๆ ด้วย โอ๊ย" หญิงสาวกำลังจะขยับตัวถอยห่าง จนลืมไปว่าร่างกายของเธอไม่ได้เต็มร้อย"คุณอย่าผลักไสผมไปไหนอีกเลยนะ ผมบอกแล้วไง ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป""คุณไปหาคนที่ร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะเป็นภรรยาให้คุณดีกว่าค่ะ ฉันไม่พร้อม""ทำไมหรือครับ กับอีแค่ที่คุณจะมีลูกให้ผมไม่ได้ คุณต้องผลักไสไล่ส่งผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ""คุณรู้เรื่องนี้แล้วเหรอคะ" หญิงสาวที่หลบสายตาเขา ค่อยๆ หันมองมาอีกที"
"คุณน้าครับ เรียกหมอให้ทีครับ""น้องเจ็บอีกแล้วใช่ไหม" "ใช่ครับ" "เรารออยู่ข้างนอกก่อนนะ น้าขอเข้าไปก่อน" เพราะห้องนี้เข้าได้แค่ทีละคน มันคือกฎของห้อง ICU ที่นี่ คนที่ไปตามคุณหมอก็คือรามสูร ที่จริงถ้าจะกดกริ่งแจ้งเตือนก็ได้ แต่ถ้าคนไข้อาการไม่หนักจริงๆ คุณหมอแนะนำให้ไปตามเอง"เกศ เป็นยังไงบ้างลูก""อึก อึก " เสียงสะอื้นของเกศรินค่อยๆ ดังขึ้น ด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดมาก"หนูเจ็บมากเลยเหรอลูก"ถ้าเธอมีอาการเจ็บเห็นหน้าแม่เธอก็จะบอกแม่ว่าเจ็บ แต่ครั้งนี้พอเห็นหน้าแม่เธอกลับร้องไห้"เขาไม่ทำตามสัญญา" "ใครไม่ทำตามสัญญาลูก""เขาบอกจะกลับมา" เป็นเหมือนทุกครั้งที่เธอเห็น พอออกไปคนที่กลับเข้ามาก็คือแม่"ถ้าหนูหมายถึง.." สโรชายังพูดไม่จบคุณหมอที่รามสูรไปตามก็เข้ามาก่อน พอคุณหมอเข้ามาญาติก็ต้องออกไป เพราะไม่งั้นจะกีดขวางการทำงานของทีมแพทย์ "คุณน้าครับ คุณน้าช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม" พอสโรชาออกมา ปลาวาฬก็เลยขอร้องให้พูดความจริงให้เขาฟัง"น้องเป็นมะเร็งระยะที่ 2 ""ระยะที่ 2 เหรอครับ?" เขารู้แค่ว่าเธอมีเชื้อมะเร็ง ก็เลยถูกส่งตัวมารักษาที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าระยะที่เท่าไร"แล้วทำไมถึงไม่บอกผม" จ
"คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวจริงเหรอคะ" หวานใจถามสามีในขณะที่สามีกำลังแต่งตัวจะเข้าบริษัท"ทำไมคุณถามแบบนั้น""ก็ฉันแปลกใจ ท่านเพิ่งจะกลับมาไม่นาน"ไม่ใช่แค่หวานใจหรอกที่แปลกใจ รามิลก็แปลกใจไม่ต่างกัน แต่งานที่พ่อทิ้งไว้ให้ทำมันเยอะมาก เพราะพ่อบินไปกะทันหัน เขาก็เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลยในเมื่อสามีให้คำตอบไม่ได้ หวานใจก็ไม่ละความสงสัยนั้น เพราะมันดูแปลก>>{"มีอะไร"} "ใครโทรมาคะ" เสียงผู้หญิงดังเข้ามาในสาย "น้องสาวผมครับ" {"พี่ทำอะไรอยู่"}>>{"พี่กำลังทานข้าว"} {"แต่เสียงที่ฉันได้ยินไม่ใช่เสียงคุณเกศริน"}>>{"ก็พี่ไม่ได้มาทานข้าวกับเธอ"} {"พี่กับคุณเกศรินคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่พี่ไปทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นจะให้ฝ่ายหญิงคิดยังไง"}>>{"คบงั้นเหรอ? เราก็ลองถามคุณเกศรินของเราดูสิ"} {"ฉันจะถามได้ยังไง ฉันไม่ได้อยู่กับคุณเกศสักหน่อย"}>>{"เธอกลับไปอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ"} {"กลับมาอยู่บ้านที่ไหนฉันไม่เห็นเลย ที่บ้านก็มีแต่ฉันกับคุณรามิล"}>>{"แล้วแม่กับพ่อเธอล่ะ"} {"ฉันแปลกใจตรงนี้แหละ อยู่ดีๆ พวกท่านก็ทิ้งงานแล้วบินไปเที่ยวต่างประเทศ"}>>{"อะไรนะ? พวกท่านไปตั้งแต่เมื่อไ
"ทำไมผมมาอยู่ที่นี่?" ปลาวาฬมองไปรอบๆ ก็จำได้เลยว่าห้องที่เขาตื่นมาคือห้องใคร"ผมควรถามคุณมากกว่า"เราเมามากเลยเหรอวะ แล้วน้องคนนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่าเราพามาค้างที่นี่ด้วย "..เมื่อคืนผมมาคนเดียวใช่ไหมครับ""มาสองคน"ตายห่าแล้ว ถึงแม้เธอจะไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่อยากทำแบบนี้ให้ญาติของเธอเห็น เล่นหอบผู้หญิงมานอนห้องเช่าของน้องชายเธอเลยเหรอ"คือว่าผม ผมคงเมามาก ถึงได้ทำอะไรแบบนั้นลงไป"คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย สงสัยจะเมามากจริงๆ พูดไม่รู้เรื่อง "ผู้ชายคนที่มากับคุณเมื่อคืน บอกให้ผมดูแลคุณต่อหน่อยเขามีธุระต้องไปทำ""ผู้ชายเหรอครับ?" เหมือนยกภูเขาออกจาก แล้วผู้หญิงคนเมื่อคืนไปไหนวะเนี่ย ไปไหนก็ช่างเธอสิ "ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ" ปลาวาฬรู้ได้ในทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นคงเป็นสายลม"คุณจะนอนต่อให้ส่างเมาก่อนก็ได้นะ""ไม่หรอกครับ ผมไปล่ะ" ออกจากห้องที่เขาเคยพัก ก็อดไม่ได้ที่จะมองห้องข้างๆ บางทีเธออาจจะกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ได้ เพราะดูห้องเงียบมาก แต่ปลาวาฬก็ไม่ถาม หึ..เมาขนาดนี้ยังจำที่พักของเธอได้อีกเหรอ เป็นเอามากนะเรา เพราะสายลมคงไม่รู้จักที่นี่แน่พอออกมาจากห้องเช่าเขาก็มาที่โชว์รูม