"คุณทำบ้าอะไร" หญิงสาวรีบหันหน้าไปทางอื่น เมื่อเห็นว่าร่างกายของเขาไม่มีอะไรปิดบังอยู่เลย"ถ้าไม่ถอดแล้วจะเช็ดตัวยังไง" แต่ที่จริงเขาก็เตรียมการไว้แล้วแหละ เผื่อมีใครเปิดประตูเข้ามา เพราะที่นี่คือโรงพยาบาล"ใครเขาจะไปเช็ดให้คุณขนาดนั้น""เร็วๆ เถอะน่า เหนียวตัวจะตายอยู่แล้วเนี่ย"ไหนๆ ก็บอกว่าจะเช็ดตัวให้แล้ว เธอก็เลยเอื้อมมือไปเช็ดๆ ถูๆ บนร่างกาย"ไม่หันมาจะรู้หรือว่าเช็ดตรงไหนบ้าง""คุณก็เอาผ้ามาปิดไว้ก่อนสิ" "ทำเหมือนไม่เคยเห็น" "ใครเขาอยากเห็นของคุณล่ะ""จบเมืองนอกมาจริงไหมเนี่ย" ชายหนุ่มก็เลยขยับกางเกงตัวที่เขาเพิ่งถอดออกขึ้นมาปิด ตอนนี้มันใช้การได้ปกติแล้ว คงเพราะยาที่หมอให้ แถมยังแข็งไม่ยอมลงอีก"...." ใบหน้างามแดงขึ้นมาจนเห็นได้ชัด เขาปิดไว้ก็จริงแต่ตรงยอดปลายของมันยังคงโผล่พ้นผ้าที่เขาปิดออกมาให้เห็นหวานใจพยายามจะไม่สนใจสิ่งนั้นรีบเช็ดให้เสร็จไวๆ ดีกว่า"คุณ!" พอหญิงสาวโน้มตัวเพื่อจะเอื้อมไปเช็ดอีกฝั่ง ก็ถูกเขาแกล้งโดยการดึงเธอล้มลงมาทับแต่จังหวะที่เธอทับท่อนล่างเขาอยู่ ประตูห้องก็เปิดเข้ามา.."แม่?" "ทำอะไรกัน" แก้วใจรีบหันหลังกลับไปเมื่อเห็นว่าลูกเขยกับลูกสาวอยู่ในสภาพ
พอทุกอย่างผ่านไป หญิงสาวก็รีบหยิบเสื้อผ้าของเธอเดินเข้าห้องน้ำ ส่วนเขาก็กลับมาใส่ชุดของโรงพยาบาลเหมือนเดิมหวานใจนึกอยู่ว่าจะลงไปข้างล่างยังไงดี เพราะไม่มีชุดชั้นในใส่ ถ้ารู้แบบนี้คงไม่ทำเสื้อชั้นในตัวเดิมเปียกแน่ เพราะถ้ามันไม่เปียกก็คงพอใส่ได้ แต่จะไม่ลงไปก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ"จะไปไหน" ออกจากห้องน้ำมาก็เห็นเธอเดินไปที่ประตูแต่หวานใจไม่ตอบ พอเปิดประตูแล้วก็ออกจากห้องไปเลยรามิลลุกขึ้นได้ก็รีบเดินตามเธอออกมา เพราะคิดว่าเธอคงจะโกรธเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นขณะที่ลิฟต์กำลังจะปิดลงชายหนุ่มก็รีบแทรกตัวเข้ามา"คุณตามมาทำไม""ถามว่าจะไปไหนทำไมไม่บอก""ไปไหนมันก็เรื่องของฉัน""ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" เขาก็รู้อยู่ว่าตัวเองไม่สมควรที่จะทำกับเธอแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไม ใกล้เธอทีไรก็อดใจไม่ได้ทุกที"ทำไมคะ ห่วงความรู้สึกฉันด้วยเหรอ" พอคำถามนี้ออกจากปากของเธอ เขาก็เงียบ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าที่ตามมาคงเพราะอยากรู้ว่าเธอจะไปไหนแต่ที่เขาเงียบเพราะกำลังมองหน้าอกของเธออยู่ ว่าเธอมีเสื้อชั้นในใส่แล้วเหรอทำไมถึงกล้าออกจากห้อง"มองอะไรของคุณ" หญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกไว้ทั้งสองข้างและในขณะเดียวกันนั้นประตูลิฟต์ก็เป
พอรามิลหันกลับมาหวานใจก็เลยไม่กล้ากระดิกตัวไปไหน เดี๋ยวเขาคิดว่าเป็นเธอที่เปิดประตูนั้นทิ้งไว้ แต่ว่าใครจะมาเปิด เพราะเขาและเกศรินก็เพิ่งกลับเข้ามา จะว่าคุณแม่ก็ไม่ใช่แน่ คนที่น่าสงสัยที่สุดตอนนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอปิดประตูไว้รามิลก็รีบกลับขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยที่ไม่ได้สนใจเธอที่ยืนอยู่ตรงนั้นเลย พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็รีบกลับลงไป เพราะจะเช็คดูว่าดอกไม้เป็นอะไรไหม และไม่รู้ว่าประตูนั้นเปิดไว้นานเท่าไรแล้ว"หวังว่าคุณคงไม่คิดว่าฉันเป็นคนทำหรอกนะ" พอเขากลับลงมาเธอก็เดินตามเข้าไปดูในโรงเรือนแต่ก็ไม่ได้ยินเขาตอบอะไรเลย เพราะเขาไม่มีเวลามาคุยกับเธอ ชายหนุ่มเดินดูดอกไม้แต่ละแปลง ว่าได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนที่อยู่ข้างนอกมากไหมเขาคงจะห่วงความรู้สึกผู้หญิงคนนั้นมากเลยสินะ ที่หวานใจคิดแบบนี้เพราะเขากลัวว่าดอกไม้ของเกศรินจะเป็นอะไร และมันก็เป็นจริงๆ วันนั้นเธอเปิดประตูไว้แค่ไม่นาน ดอกไม้ยังได้รับผลกระทบ แต่วันนี้ดอกไม้เฉาลงเร็วมากนอกจากจะลดอุณหภูมิแอร์ให้เย็นมากกว่าเดิมรามิลก็เปิดน้ำเพื่อรดต้นไม้ เผื่อว่ามันจะช่วยได้"มีอะไรกัน" เกศรินอาบน้ำเสร็จคิดว่าจะมาดูเรือนดอกไม้สักหน่อย แ
"ตกลงเรื่องที่เราคุยกันอยู่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องหย่า" เพราะถ้าแค่เรื่องดอกไม้ตาย มันไม่น่าถึงกับหย่าได้เลย"เรื่องมันไม่มีอะไรเลยครับพ่อ เธอแค่งอนให้ผม""มีอะไรที่ยอมกันได้ก็ยอมๆ กันไป ชีวิตคู่ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบเสมอไป บางช่วงเวลาของชีวิตก็เจอขวากหนามบ้าง""หวานขอย้ายกลับไปอยู่บ้านค่ะ" ถ้าเธอยังดื้อดึงพูดเรื่องหย่าอยู่อีก เดี๋ยวท่านก็จะไม่ชอบใจเอา หญิงสาวก็เลยรอพูดกับเขาแค่สองคน แต่ระหว่างนี้เธอยังไม่อยากกลับไปบ้านหลังนั้น"พ่ออยากให้พวกเราแก้ปัญหากันเองก่อน ถ้าไปอยู่บ้าน เดี๋ยวก็ทำให้พ่อกับแม่ทางนั้นไม่สบายใจไปด้วย" รามสูรคิดว่าถ้าให้ทั้งสองแยกกันอยู่มันยิ่งจะบานปลายเที่ยงวันเดียวกัน..สมานเห็นว่าคุณหนูไม่ลงไปทานข้าว ก็เลยซื้อข้าวกล่องขึ้นมาให้"แล้วคุณลุงกินหรือยังคะ""ผมกินแล้วครับ""ขอบคุณมากนะคะ""คุณหนูมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ" เรื่องที่เกิดขึ้นลุงสมานยังไม่รู้ พอตื่นนอนลุงก็ออกมาเตรียมรถ ก็เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"ไม่มีอะไรหรอกค่ะลุง" หวานใจไม่อยากให้ลุงต้องคิดมากด้วยอีกคน ก็เลยไม่พูดเรื่องนี้ให้ฟังแต่ดูจากสีหน้าของเจ้านายมันต้องมีอะไรแน่ ข้าวปลาก็ไม่ยอมลงไปกิ
หวานใจได้ยินคุณลุงถามก็ชักจะเอะใจ เธอลืมไปเลย คุณลุงอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้ หรือว่า.... "คุณลุงคะ ตามหวานมานี่" หญิงสาวรีบดึงแขนของคุณลุงให้ออกมาจากกลุ่มคนพวกนั้นก่อน"ชัดเลยค่ะ คุณผู้หญิงเห็นหรือยังคะ""กุล!""ทำไมคะ กุลพูดผิดตรงไหนดูแค่นี้ก็รู้แล้ว""ผิดตรงที่มันไม่น่าจะพูด หยุดได้หรือยัง" สโรชาไม่เคยต่อว่าให้คนในบ้าน จนทำให้แม่บ้านได้ใจกุลรีบเดินออกไปจากตรงนั้นแบบไม่พอใจ คิดว่าตัวเองทำไปเพื่อผลประโยชน์ของเจ้านาย แต่ที่จริงไม่ใช่เลย มันเพราะผลประโยชน์ของตัวเองล้วนๆ ที่กุลคิดแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ใครมาแย่งความรักของเจ้านายไป เพราะตัวเองถือว่าเป็นคนโปรดของเจ้านายที่นี่หวานใจมองด้านหลังของตัวเองให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา เธอถึงได้หันกลับมาถามลุง"เมื่อวานนี้คุณลุงได้เปิดประตูเรือนดอกไม้ไหมคะ""ใช่ครับ ผมเปิดเอง""คุณลุงไปเปิดของพวกเขาทำไมคะ" "ผมเข้าไปรดน้ำดอกไม้ให้ครับ" "แล้วทำไมคุณลุงไม่ปิดประตู" "ผมก็คิดว่าตัวเองปิดแล้ว" "คุณลุงเข้าไปเก็บของเถอะค่ะ" จะต่อว่าลุงไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว"คุณหนูจะไล่ผมออกหรือครับ""เปล่าค่ะ เราจะกลับไปอยู่บ้านกัน" ถึงแม้เธอไม่ได้ทำแต่คนของเธอเป็น
ถึงแม้เขาจะขยับออกแต่ก็ไม่ปล่อยให้เธอลุกขึ้นจากเตียง เพราะรู้อยู่ว่าเธอกำลังจะไปหวานใจไม่คิดว่าจะต้องมาร้องไห้ให้กับผู้ชายที่ไม่ได้รักตัวเธอ มันเหมือนไม่ใช่เธอเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาจะรักใครชอบใครเป็นห่วงใครมันก็เรื่องของเขาสิ เราเป็นคนขี้อิจฉาตั้งแต่เมื่อไร"อย่าร้องไห้เลยนะ" ผู้ชายไม่ค่อยรู้ถึงอารมณ์ของผู้หญิงมากนักหรอกหวานใจไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะคิดยังไง เธอยังคงร้องไห้ให้กับตัวเอง ที่ทำเรื่องบ้าๆ ถ้าไม่ดึงเขาเข้ามา เรื่องพวกนี้มันก็คงไม่เกิดขึ้น หรือมันอาจเป็นเวรกรรมของทั้งสอง ที่เคยทำร่วมกันมาแต่ชาติก่อน ถ้างั้นก็ให้มันจบลงแค่นี้เถอะ ในเมื่อชาตินี้เขามีหญิงคนรักอยู่แล้วทำไมต้องให้มาพบเจอกับเธอด้วยสโรชาให้แม่บ้านขึ้นมาตามทั้งสองลงไปทานข้าว แต่เขากับเธอไม่มีใครยอมออกจากห้อง คนที่รอทานข้าวอยู่ก็เลยเตรียมอาหารใหม่ไว้ให้ เผื่อว่าลูกชายจะพาภรรยาลงไปทาน และในเวลานี้ก็ค่ำมืดมากแล้ว"หิวข้าวไหม" เห็นเธอขยับตัวเล็กน้อยเขาก็เลยถามดูเผื่อว่าเธอตื่นแล้วแต่ก็ไม่ได้คำตอบใดๆ จากคนที่นอนอยู่ข้างๆ จนเวลาผ่านล่วงเลยมาถึงเช้าของวันใหม่"......" ไปไหนแล้ว รามิลรีบลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาข้
ดึกๆ คืนเดียวกันนั้น อ๊อยหิวจัง ..ข้าวเที่ยงก็กินเข้าไปแค่นิดเดียว ส่วนข้าวเย็นไม่ตกถึงท้องเลย คนตัวเล็กค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง เพราะกลัวว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ จะรู้สึกตัวอึบ.. คนยิ่งระวังอยู่หวังว่าเขาคงไม่ตื่นนะ จังหวะที่เธอกำลังจะขยับลงจากเตียง ขาดันเกาะเข้ากับชายผ้าห่ม จนร่างของเธอล้มลง แต่พอมองไปก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาเช่นกัน"...." หวานใจก็เลยรีบทิ้งตัวลงนอนที่เดิม"จะเข้าห้องน้ำเหรอ"ด้านที่เธอนอนชิดผนังห้อง ถ้าจะลงก็ต้องขยับมาอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นฝั่งที่เขานอนอยู่ หรือไม่ก็ลงทางปลายเตียงแต่หวานใจไม่ได้ตอบ จนรามิลนอนตะแคงหันมามอง "เมื่อสักครู่จะไปไหน""เรื่องของฉัน""ถ้าจะเข้าห้องน้ำก็ไปเข้าสิ เดี๋ยวก็เรี่ยราดแถวนี้หรอก""ไม่ได้จะเข้าห้องน้ำสักหน่อย" ว่าแล้วเธอก็หันหลังพร้อมกับเอาผ้าห่มคลุมโปง"ไม่เข้าห้องน้ำ..หรือว่าที่ปลุกเพราะ...."หญิงสาวที่เอาผ้าห่มคลุมศีรษะอยู่รีบดึงมันออก ใครจะบ้าไปปลุกเขา พอลุกขึ้นได้หวานใจก็ขยับลงจากเตียง แล้วเดินมาที่ประตูโดยไม่พูดอะไรกับเขาสักคำรามิลรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเธอออกมา เพราะตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว เขาไม่รู้ว่าเธอจะไปไหนหวานใจที่กำลังค่อยๆ
ช่วงเย็นของวันเดียวกัน..หวานใจกลับมาที่บ้านของเขา โดยมีลุงสมานเป็นคนขับรถให้ ถ้าพ่อกับแม่เขาเดินทางพรุ่งนี้จริง เธอคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก"ถึงแล้วครับคุณหนู" ลุงสมานมองผ่านกระจกรถเห็นสีหน้าของเจ้านายไม่ค่อยดี "คุณหนูไม่สบายหรือเปล่าครับ""เปล่าหรอกค่ะ คงเหนื่อยกับงานมาก"พอเจ้านายลงจากรถลุงสมานก็เลื่อนรถกลับมาเก็บที่โรงจอดหวานใจเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นคนในบ้านกำลังเตรียมของ"แม่ฝากดูแลบ้านด้วยนะลูก" สโรชายิ้มให้กับลูกสะใภ้เล็กน้อย ที่จริงรามสูรคิดว่าจะเซอร์ไพรส์ภรรยา แต่พอเจอเธอเค้นถามก็เลยต้องบอกไปที่สโรชาถามสามีเพราะสงสัยตอนที่ลูกชายพูด และทุกคนดูเหมือนมีลับลมคมใน แต่แค่นี้มันก็ทำให้เธอเซอร์ไพรส์ได้มากแล้ว เพราะแทบจำไม่ได้ว่าสามีพาไปเที่ยวครั้งสุดท้ายเมื่อไร"เที่ยวให้สนุกนะคะคุณแม่" หวานใจไม่ได้รับปากว่าจะดูแลบ้านให้ เพราะถ้ารับปากไปก็คงต้องผิดคำพูด"แล้วเดี๋ยวแม่จะซื้อของฝากมาให้นะ""ขอบคุณค่ะ หวานขอตัวนะคะ" เห็นท่านเก็บของเธอก็ควรจะเก็บได้แล้วเหมือนกัน เพราะพรุ่งนี้ออกจากบ้านแล้วก็คงไม่กลับมาเวลาอาหารเย็น..ถ้าจะไม่ลงมาทานก็กลัวว่าดึกๆ จะหิวอีก เมื่อคืนนี้ขนาดกินไปแล้วยังหิว
พลาดรักคุณสามี ตอนพิเศษหลังงานแต่งของทั้งสองจบลง.."ถ้างานคุณยุ่ง เรื่องฮันนีมูนเราก็เลื่อนออกไปก่อนก็ได้นี่คะ""ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับคุณอีกแล้ว"ชีวิตหนึ่งเกิดมาแค่นี้ก็พอแล้ว ขอแค่มีชายคนรักที่เห็นว่าเธอสำคัญที่สุด"ก็ได้ค่ะ ฉันขอแค่ในประเทศนะ ถ้าเดินทางไปต่างประเทศมันเหนื่อยเกินไป" ที่จริงมันเป็นแค่ข้ออ้าง ถ้ายังอยู่ในประเทศเผื่อมีงานด่วนเขาจะได้จัดการงานนั้นง่ายหน่อย"แล้วคุณชอบภูเขาหรือทะเลล่ะ""ชอบปลาวาฬค่ะ""หือ?""ฉันชอบคุณ จะให้ฉันชอบอย่างอื่นได้ยังไง""ผมตั้งใจว่าจะเก็บแรงไว้ตอนฮันนีมูนกัน""ยังไงคะ""คุณเล่นอ้อนแบบนี้ผมก็ต้องได้เอาแรงออกมาใช้ก่อนน่ะสิ""คุณปลาวาฬ" ถึงแม้จะมีอะไรกับเขาหลายครั้งแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้เธอก็มีความอายอยู่ดี"น่ารักจัง" มือหนาเอื้อมไปลูบไล้แก้มนวลของภรรยาด้วยความเอ็นดู "ถ้าคุณชอบปลาวาฬงั้นเราก็คงต้องไปทะเลกัน""ค่ะ" คนตัวเล็กแนบลำตัวลงกับอกแกร่งของผู้เป็นสามีหมาดๆ"นอนก่อนนะครับคนดี นอนเอาแรงไว้เยอะๆ พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันแล้ว""พรุ่งนี้เลยหรือคะ..แล้วงานของคุณล่ะคะ""ตอนเช้าเดี๋ยวผมเข้าไปเคลียร์งาน เราจะเดินทางตอนบ่ายกัน""ค่ะ"
พลาดรักคุณสามี บทที่ 102 ตอนจบ"แม่อยากให้อยู่ด้วยกันไปก่อน" สโรชาอนุญาตให้ลูกไปทำงานได้ แต่พอวันต่อมาลูกสาวก็ขอออกไปอยู่คอนโดกับชายคนรัก"เกศดีขึ้นมากแล้วค่ะ ถ้าคุณแม่เป็นห่วงเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงแล้วค่ะ""แต่แม่กลัวคิดถึงเรา""ลูกโตแล้วนะคุณ แถมลูกกำลังจะออกเรือนด้วย ให้พวกเขาไปศึกษาดูใจกันเถอะ"สโรชาเป็นห่วงถ้าปล่อยให้ลูกไปอยู่ข้างนอกไกลหูไกลตา กลัวว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะเกิดขึ้นอีก ถ้าเกศรินยังอยู่ที่บ้าน เธอคงสังเกตเห็นอาการลูกสาวแต่ทีแรกแล้ว"ถ้าเกศมีอาการผิดปกติ จะรีบบอกคุณแม่เลยค่ะ" เกศรินรู้ว่าท่านเป็นห่วงมาก ถ้าวันนั้นไม่เพราะท่านขอตรวจ..ป่านนี้มะเร็งคงลุกลามไปจนเกินเยียวยาแล้ว"ผมสัญญาครับว่าจะดูแลเธอ แทนคุณแม่เอง"สโรชามองไปดูหน้าสามีที่นั่งอยู่ด้วยกัน ก่อนที่โผลเข้าไปกอดท่าน เธออยากออกไปใช้ชีวิตครอบครัวกับเขา เรื่องศึกษาดูใจคงไม่ต้องศึกษาเขาแล้ว เพราะเธอเห็นหมดแล้วว่าเขามีความจริงใจให้มากแค่ไหน[คอนโด]"ผมว่าจะซื้อบ้านสักหลัง พักอยู่คอนโดมันไม่สะดวก""ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่นี่ก็ดีมากแล้ว""ถ้าเรามีบ้าน คุณก็จะมีพื้นที่เยอะขึ้น อยู่แต่ในคอนโดอากาศไม่ปลอดโปร่ง""ที่ไหนมีคุณฉั
"แน่ใจนะว่าคุณต้องการแรงกว่ามดกัด แต่มดตัวนี้กัดเจ็บนะครับ ถ้าแรงกว่าคุณจะรับไหวเหรอ" ที่จริงเขายังไม่เร่งเครื่องเลย แค่กำลังอุ่นเครื่องก่อนเฉยๆ แต่เกศรินคิดว่าเขาคงกลัวเธอเจ็บแผล ก็เลยทำแค่เบาๆ ถ้าทำแบบนี้เมื่อไรจะเสร็จล่ะ"ฉันเคยถูกมดกัดนี่คะ แค่เกาก็หายคันแล้ว""จัดให้ครับ แต่ถ้าเจ็บคุณบอกผมเลยนะ" ฟังเธอพูดก็อยากจะขำอยู่หรอก แต่ถ้าขำตอนนี้คงหมดอารมณ์แน่"อื้อ อ " เกศรินอยากให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอให้มากที่สุด เธอก็เลยขอให้เขาเพิ่มความแรงขึ้นมาหน่อย ถึงแม้จะมีลูกให้เขาไม่ได้ ช่วยให้เขามีความสุขกับเรือนร่างของเธอได้ก็คงดี"อ้าา ผมรักคุณนะเกศริน" ความรักนี้ไม่รู้ว่ามีให้เธอตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวก็รักเธอมากจนแทบคลั่ง"ฉันก็รักคุณค่ะ อื้อ อ" มือเรียวโอมร่างคนตัวโตไว้ในจังหวะที่เขากำลังซอยสะโพกเร็วขึ้น"ซี๊ดด ผมปล่อยข้างในได้เลยไหม"ที่จริงคุณหมอก็บอกไว้ว่ายังไม่อยากให้มีลูกกันตอนนี้ แต่เธอคิดว่ามันคงไม่เร็วขนาดนั้น เพราะส่วนที่รับน้ำเชื้อยังไม่แข็งแรงพอ หญิงสาวพยักหน้าให้เห็นว่าเธออนุญาตชายหนุ่มก็ไม่อดกลั้นอีก ขยับสะโพกเพื่อให้ความแข็งแกร่งเสียดสีกับเนื้อบางๆ เร็วขึ้น ก่อน
"คุณยังไม่ดื่มน้ำอีกเหรอ" ปลาวาฬมองดูน้ำที่สั่งให้ลูกน้องนำมาให้เธอ "ฉันไม่อยากดื่มน้ำของคนที่ชื่อกำพลค่ะ" "ใครเอามาให้นะ" สายตาชายหนุ่มเหลือบไปมองกำพล จนคนที่ถูกมองรีบหลบสายตานั้น "รอผมอยู่นี่เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" พูดจบปลาวาฬก็รีบเดินไปตรงจุดบริการน้ำ เขาไม่ได้เอาน้ำที่เย็นจัด "เราดูดีกว่าตั้งเยอะ และทำงานมาด้วยก็หลายปี ทำไมถึงเลือกแม่บ้านแบบนั้นได้" "อืมใช่" เอ็มม่าและตุ๊กตาไม่เคยพูดกันดีเลยตั้งแต่กำพลหันมามองเอ็มม่า ก็มีครั้งนี้แหละที่ทั้งสองดูจะลงรอยกัน"แต่ฉันยังสงสัยเรื่องคุยธุรกิจ" "คงไม่ใช่หรอกมั้ง คุณเชษฐาคงจำคนผิด""เกศ" "คุณพ่อ" เกศรินได้ยินคนเรียกก็เลยหันไปมอง ไม่คิดว่าคนที่เรียกก็คือพ่อ "พ่อเห็นคุณเชษฐาตรงโน้นบอกว่าลูกก็มาร่วมงานด้วย""คุณพ่อก็มาร่วมงานด้วยเหรอคะ"ที่จริงรามสูรก็ไม่ชอบมางานอะไรแบบนี้ แต่ที่มาเพราะว่าอยากมาร่วมงานของว่าที่ลูกเขย "พ่อต้องมาสิ เพราะเป็นงานคนสำคัญของลูกนี่""พ่อ?!" ทำไมคนที่ทำงานในโชว์รูมจะไม่รู้จักนักธุรกิจที่ชื่อรามสูร เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย จนถึงบัดนี้ สาวๆ ครึ่งค่อนประเทศอิจฉาภรรยาอันเป็นที
"ไม่ต้องหรอกลูก""ครับ" ปลาวาฬยอมรับในการตัดสินใจของท่าน"อ้าวแล้วนั่นเราจะไปไหน" พอเขาตอบรับ ปลาวาฬก็ลุกขึ้นกำลังจะออกจากบ้านท่านไป"พรุ่งนี้ผมจะรีบมาแต่เช้าครับ""ไหนบอกอยากอยู่ดูแลน้องไง""ครับ?" ชายหนุ่มที่ใบหน้าสิ้นหวังมากหันกลับมามอง"ที่แม่พูดหมายถึงไม่ต้องนอนข้างนอกหรอก ก็เข้าไปดูแลกันในห้องเลย มีอะไรจะได้ช่วยกัน""ผมนอนข้างในได้เหรอครับ""ได้สิจ๊ะ ถึงยังไงพวกเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว""ขอบพระคุณมากครับ" ยังไม่ทันได้เอามือที่ไหว้ท่านลงเลย เขาก็เดินไปถึงหน้าห้องของเธอแล้ว"คุณยิ้มอะไรคะ" สโรชาหันกลับมาเห็นสามีกำลังยิ้มแป้น"คุณทำถูกแล้วล่ะ เด็กๆ เขารักกันก็ปล่อยให้เขาดูแลกันไป""ฉันก็ไม่ได้ว่าจะห้ามสักหน่อย แล้วเมื่อไรคุณจะขึ้นนอนไม่ง่วงหรือไง""เอ้า..เลขมาออกที่เราจนได้" รามสูรรีบเดินตามภรรยาขึ้นบ้านไป"คุณราม!" สามีที่เดินตามมาอยู่ดีๆ ก็โอบกอดภรรยาจากทางด้านหลัง"จะเดือนแล้วนะ" ตั้งแต่เดินทางทั้งสองไม่ได้เข้าใกล้กันเลย"คุณไม่เหนื่อยหรือไงคะ เพิ่งมาถึง""คุณรู้ไหม ว่ามันเป็นการเพิ่มกำลังอีกทาง""ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนะคะ ที่จะมาเพิ่มกำลังกับอะไรแบบนี้""คุณว่าผมแก่เหรอ""ใช่ค่ะ"
มือหนายื่นไปสัมผัสที่ผมบนศีรษะของเธอเบาๆ"คุณ?" พอเขาสัมผัสที่อื่นที่ไม่ใช่มือ.. เธอถึงกับสะดุ้ง "คุณไม่ใช่คนในมโนของฉันเหรอ?"ปลาวาฬส่ายหน้าตอบไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาช่างมีความอบอุ่น"ฉันกลับมาประเทศแล้วเหรอ" ที่เธอคิดว่าไม่ใช่เขาก็เพราะเธอมารักษาตัวที่ต่างประเทศ ถึงแม้เขาจะรู้และอยากตามมา แต่คงต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่ว่าจะเข้าประเทศนี้ได้ง่ายๆ"คุณอย่าไล่ผมไปไหนอีกเลย ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป" ทีแรกก็อยากให้เธอเห็นว่าเขาเป็นแค่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นมา เพราะถ้าเป็นภาพลวงตาเธอคงจะคุยกับเขานานกว่านี้"คุณปลาวาฬ คุณมาได้ยังไง?" เขาไม่ใช่แค่ภาพที่เธอสร้างขึ้นมาแล้วมันคือเขาจริงๆ"พอผมรู้ทุกอย่างก็รีบตามคุณมาที่นี่""เป็นคุณจริงๆ ด้วย โอ๊ย" หญิงสาวกำลังจะขยับตัวถอยห่าง จนลืมไปว่าร่างกายของเธอไม่ได้เต็มร้อย"คุณอย่าผลักไสผมไปไหนอีกเลยนะ ผมบอกแล้วไง ถึงไล่ผมก็จะไม่ไป""คุณไปหาคนที่ร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะเป็นภรรยาให้คุณดีกว่าค่ะ ฉันไม่พร้อม""ทำไมหรือครับ กับอีแค่ที่คุณจะมีลูกให้ผมไม่ได้ คุณต้องผลักไสไล่ส่งผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ""คุณรู้เรื่องนี้แล้วเหรอคะ" หญิงสาวที่หลบสายตาเขา ค่อยๆ หันมองมาอีกที"
"คุณน้าครับ เรียกหมอให้ทีครับ""น้องเจ็บอีกแล้วใช่ไหม" "ใช่ครับ" "เรารออยู่ข้างนอกก่อนนะ น้าขอเข้าไปก่อน" เพราะห้องนี้เข้าได้แค่ทีละคน มันคือกฎของห้อง ICU ที่นี่ คนที่ไปตามคุณหมอก็คือรามสูร ที่จริงถ้าจะกดกริ่งแจ้งเตือนก็ได้ แต่ถ้าคนไข้อาการไม่หนักจริงๆ คุณหมอแนะนำให้ไปตามเอง"เกศ เป็นยังไงบ้างลูก""อึก อึก " เสียงสะอื้นของเกศรินค่อยๆ ดังขึ้น ด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดมาก"หนูเจ็บมากเลยเหรอลูก"ถ้าเธอมีอาการเจ็บเห็นหน้าแม่เธอก็จะบอกแม่ว่าเจ็บ แต่ครั้งนี้พอเห็นหน้าแม่เธอกลับร้องไห้"เขาไม่ทำตามสัญญา" "ใครไม่ทำตามสัญญาลูก""เขาบอกจะกลับมา" เป็นเหมือนทุกครั้งที่เธอเห็น พอออกไปคนที่กลับเข้ามาก็คือแม่"ถ้าหนูหมายถึง.." สโรชายังพูดไม่จบคุณหมอที่รามสูรไปตามก็เข้ามาก่อน พอคุณหมอเข้ามาญาติก็ต้องออกไป เพราะไม่งั้นจะกีดขวางการทำงานของทีมแพทย์ "คุณน้าครับ คุณน้าช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม" พอสโรชาออกมา ปลาวาฬก็เลยขอร้องให้พูดความจริงให้เขาฟัง"น้องเป็นมะเร็งระยะที่ 2 ""ระยะที่ 2 เหรอครับ?" เขารู้แค่ว่าเธอมีเชื้อมะเร็ง ก็เลยถูกส่งตัวมารักษาที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าระยะที่เท่าไร"แล้วทำไมถึงไม่บอกผม" จ
"คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวจริงเหรอคะ" หวานใจถามสามีในขณะที่สามีกำลังแต่งตัวจะเข้าบริษัท"ทำไมคุณถามแบบนั้น""ก็ฉันแปลกใจ ท่านเพิ่งจะกลับมาไม่นาน"ไม่ใช่แค่หวานใจหรอกที่แปลกใจ รามิลก็แปลกใจไม่ต่างกัน แต่งานที่พ่อทิ้งไว้ให้ทำมันเยอะมาก เพราะพ่อบินไปกะทันหัน เขาก็เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลยในเมื่อสามีให้คำตอบไม่ได้ หวานใจก็ไม่ละความสงสัยนั้น เพราะมันดูแปลก>>{"มีอะไร"} "ใครโทรมาคะ" เสียงผู้หญิงดังเข้ามาในสาย "น้องสาวผมครับ" {"พี่ทำอะไรอยู่"}>>{"พี่กำลังทานข้าว"} {"แต่เสียงที่ฉันได้ยินไม่ใช่เสียงคุณเกศริน"}>>{"ก็พี่ไม่ได้มาทานข้าวกับเธอ"} {"พี่กับคุณเกศรินคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่พี่ไปทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นจะให้ฝ่ายหญิงคิดยังไง"}>>{"คบงั้นเหรอ? เราก็ลองถามคุณเกศรินของเราดูสิ"} {"ฉันจะถามได้ยังไง ฉันไม่ได้อยู่กับคุณเกศสักหน่อย"}>>{"เธอกลับไปอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ"} {"กลับมาอยู่บ้านที่ไหนฉันไม่เห็นเลย ที่บ้านก็มีแต่ฉันกับคุณรามิล"}>>{"แล้วแม่กับพ่อเธอล่ะ"} {"ฉันแปลกใจตรงนี้แหละ อยู่ดีๆ พวกท่านก็ทิ้งงานแล้วบินไปเที่ยวต่างประเทศ"}>>{"อะไรนะ? พวกท่านไปตั้งแต่เมื่อไ
"ทำไมผมมาอยู่ที่นี่?" ปลาวาฬมองไปรอบๆ ก็จำได้เลยว่าห้องที่เขาตื่นมาคือห้องใคร"ผมควรถามคุณมากกว่า"เราเมามากเลยเหรอวะ แล้วน้องคนนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่าเราพามาค้างที่นี่ด้วย "..เมื่อคืนผมมาคนเดียวใช่ไหมครับ""มาสองคน"ตายห่าแล้ว ถึงแม้เธอจะไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่อยากทำแบบนี้ให้ญาติของเธอเห็น เล่นหอบผู้หญิงมานอนห้องเช่าของน้องชายเธอเลยเหรอ"คือว่าผม ผมคงเมามาก ถึงได้ทำอะไรแบบนั้นลงไป"คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย สงสัยจะเมามากจริงๆ พูดไม่รู้เรื่อง "ผู้ชายคนที่มากับคุณเมื่อคืน บอกให้ผมดูแลคุณต่อหน่อยเขามีธุระต้องไปทำ""ผู้ชายเหรอครับ?" เหมือนยกภูเขาออกจาก แล้วผู้หญิงคนเมื่อคืนไปไหนวะเนี่ย ไปไหนก็ช่างเธอสิ "ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ" ปลาวาฬรู้ได้ในทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นคงเป็นสายลม"คุณจะนอนต่อให้ส่างเมาก่อนก็ได้นะ""ไม่หรอกครับ ผมไปล่ะ" ออกจากห้องที่เขาเคยพัก ก็อดไม่ได้ที่จะมองห้องข้างๆ บางทีเธออาจจะกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ได้ เพราะดูห้องเงียบมาก แต่ปลาวาฬก็ไม่ถาม หึ..เมาขนาดนี้ยังจำที่พักของเธอได้อีกเหรอ เป็นเอามากนะเรา เพราะสายลมคงไม่รู้จักที่นี่แน่พอออกมาจากห้องเช่าเขาก็มาที่โชว์รูม