เป็นเวลาห้าโมงเย็น หลังจากที่เลิกงานแล้วทุกคนก็เตรียมตัวกลับบ้าน ในเวลานั้น ช่อกุหลาบช่อใหญ่ถูกส่งมาที่แผนก “ขอโทษครับ ใครคือคุณอีวอนน์ กิเดียนครับ?”"ฉันเอง มีอะไรคะ?" อีวอนน์คว้ากระเป๋าชาแนลขึ้นมาและเดินไปยังทางเข้าแผนก“ดอกไม้ของคุณครับ คุณผู้ชายที่ส่งมาให้บอกว่าเขาไม่อยากเห็นคุณโกรธและเขาก็ฝากข้อความเอาไว้ว่าเขาจะแต่งงานกับคุณเมื่อคุณบรรลุนิติภาวะแล้วครับ” คนส่งดอกไม้ยื่นช่อดอกไม้ให้อีวอนน์อีวอนน์หยิบดอกไม้ขึ้นมาและมองดูการ์ดในช่อดอกไม้ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม จากนั้น ใบหน้าของเธอก็เย่อหยิ่งขึ้น เธอโยนการ์ดลงในถังขยะอย่างเขินอายก่อนเดินออกจากที่ทำงานไป “เฮ้อ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้านายที่เยือกเย็นของเราจะส่งดอกไม้เพื่อต้องการง้อผู้หญิงแบบนี้” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งพูดแล้วเดินไปหยิบการ์ดจากถังขยะขึ้นมาดู เพื่อนร่วมงานหญิงอีกหลายคนจึงเดินเข้าไปหาเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพื่อนร่วมงานหญิงอุทานด้วยความประหลาดใจ “ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้านายของเราจะโรแมนติกแบบนี้! เราเชื่อคำพูดในเน็ตไม่ได้จริง ๆ ดูสิ ผู้ชายมักจะชอบเด็กสาวและคนที่อ่อนหวานอยู่ตลอดนั่นแหละ!”เพื่อนร่วมงานชายคนหน
เบียงก้ายุ่งอยู่ในครัวเธอได้ยินเสียงเด็กทั้งสองคนกำลังเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่น ผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากที่เรนนี่กรีดร้องเบา ๆ ไม่นานบรรยากาศก็เงียบลงเบียงก้าจึงหยุดหั่นผักและเดินออกไปดูเธอนั่งลงและเอามือของเรนนี่ที่กำลังขยี้ตาออก "เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?"“หนูเผลอเอามือไปจิ้มตาตัวเองค่ะ” เรนนี่กล่าวอย่างไร้เดียงสา เธอทำให้น้าบีเป็นกังวล!"เจ็บรึเปล่าคะ? ไหนขอดูหน่อยสิ?” เบียงก้ามองดูเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง เธอเป่าตาเรนนี่เบา ๆ เรนนี่พูดอย่างอ่อนโยน “พอน้าบีเป่าให้แล้ว หนูก็หายปวดเลยค่ะ”เมื่อเธอเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยไม่เจ็บแล้วก็ยิ้มอย่างอบอุ่น เธอลูบหัวเด็กหญิง “ถ้าอย่างนั้นเป็นเด็กดีและทำการบ้านกับลานี่นะ เดี๋ยวเราก็จะได้ทานอาหารกันแล้ว”เรนนี่พยักหน้าบลองช์หยิบกระเป๋าของเขาออกมาแล้วเปิดออกเพื่อค้นหาดินสอและหนังสือ จากนั้นเขาก็เริ่มทำการบ้านกับน้องสาวตัวเล็ก เด็กทั้งสองต่างก็โหยหาความรักจากแม่ ดังนั้น พวกเขาจึงกลัวจะทำผิดพลาด พวกเขากลัวจะสูญเสียน้าบีที่เป็นเหมือนแม่ของพวกเขาไปอาวุธเดียวที่พวกเขาสามารถใช้ได้คือการเชื่อฟังและทำตัวให้น่ารักเบียงก้ากลับมาที่ห้
หลังจากที่ลุคออกไปเบียงก้าก็รู้สึกโล่งใจ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ทั้งหมดเธอถอนหายใจในขณะล้างจานที่อยู่ในอ่าง เธอไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับเธอเมื่อเขาพูดว่าเขามีเรื่องต้องจัดการคืนนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่อีวอนน์พูดที่สำนักงานอีวอนน์พูดถูกมันก็อาจจะจริงที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงอ่อนเยาว์ถึงแม้ว่าเบียงก้าจะมีอายุเพียง 24 ปี เธอไม่ได้ดูแก่และยังดูเด็กอยู่มาก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่สามารถสู้อีวอนน์ที่มีอายุเพียงแค่ 19 ปีได้ในสายตาของผู้ชายแล้ว ระหว่างผู้หญิงที่เคยอุ้มท้องมาแล้วกับผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีลูกนั้นค่อนข้างแตกต่างกัน ในโลกของอินเทอร์เน็ตนั้นค่อนข้างก้าวหน้า และยังมีทั้งผู้ชายที่น่ากลัวและผู้หญิงที่โง่เขลามากมาย แต่ไม่ว่าสิ่งที่คนอื่นคิดจะเป็นเช่นไร แต่เบียงก้าก็เป็นหนึ่งคนที่คิดเช่นนั้นผู้ชายอย่างลุคนั้นร่ำรวยและมีอำนาจมากมาย เขาดูดีและมีร่างกายแสนเร่าร้อน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะกลายเป็นที่หมายปองของผู้หญิงมากมายแล้วผู้ชายอย่างเขาจะรักผู้หญิงคนหนึ่งตลอดไปได้อย่างไร? …เจสันมาถึงที่ชั้นล่างตอนทุ่ม 40 นาทีเบียงก้าพาเด็ก ๆ ลงไปที่ชั้นล่าง เธอตั้งใจจะ
เธอสูดกลิ่นกายที่ช่างหอมหวานของชายผู้นั้น หลังจากสัมผัสมันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุด เบียงก้าก็กลับสู่ความเป็นจริง“คุณฝันร้ายรึเปล่า?” ริมฝีปากที่เย็นชาของลุคกดลงบนหน้าผากของเธอ จากนั้นมือใหญ่ของเขาก็จับผมที่ยุ่งเหยิงของเธอทัดใบหูให้เธอ เขามองดูใบหน้าอันสดใสและดวงตาที่เปียกปอนของเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า “อย่ากลัวไปเลย ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”เบียงก้ารู้สึกขอบคุณที่มันเป็นเพียงแค่ความฝันเมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอก็ได้เห็นความจริงที่ไม่ได้เลวร้ายดั่งเช่นความฝันมือข้างหนึ่งของเธอจับเอวที่กระชับของชายผู้นั้น ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งคว้าที่เสื้อของเขา เธออ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดปลอบโยนของชายผู้นั้นบรรยากาศภายในห้องเล็ก ๆ ตกอยู่ในความเงียบหลังจากนั้นไม่นาน เบียงก้าก็ฟื้นคืนสติ เธอสะบัดมือออกจากเอวและหน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ว เสื้อที่ลุคใส่อยู่มีรอยยับหลังจากที่เบียงก้าปล่อยมือออก"ฉันขอโทษ ฉัน-ฉันจะรีดให้คุณเองค่ะ” เบียงก้าไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากที่เธอพูดเช่นนั้น เธอก็กำลังจะลุกขึ้นลุคดึงเธอกลับเข้าไว้ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง เขาพูดอย่างหนักแน่นว่า “นอนต่ออีกหน่อยสิ ยังเช้าอยู่เลย”ลมห
เบียงก้าคว้าผ้าห่มผืนสุดท้ายในบ้านมากางออก แล้วห่มให้กับชายคนนั้น หลังจากที่เธอห่มผ้าและจัดชายผ้าห่มให้เขา แขนเรียวบางพลันถูกแรงมหาศาลคว้าไว้ เธอกำลังจะดึงแขนกลับมา เบียงก้าเงยหน้าขึ้น ดวงตาก็สบเข้ากับสายตาแสนลึกล้ำของชายคนนั้น สายตานั้นแทบจะสะกดร่างกายและวิญญาณเธอไว้ได้ในทันที เขาคว้ามือเธอไว้ในทันใด เบียงก้าล้มลงบนพื้นตรงหน้าเขาก่อนจะทันได้ตอบโต้ใด ๆ เธอกลั้นหายใจ เมื่อเผชิญหน้ากับเขา เบียงก้าค่อย ๆ กลืนน้ำลาย ร่างกายเธออ่อนแรงและอุ่นขึ้น ในขณะที่เขาจ้องเธอด้วยดวงตาแสนร้อนระอุ ลุคที่มีตาสองชั้น คิ้วดูหนาที่ขนคิ้วเรียงกันเป็นแนวละเอียดซึ่งทำให้เขามีลักษณะโดดเด่นสง่างาม มีความมั่นใจและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เธอจ้องไปยังจมูกโด่งนั้น ริมฝีปากบางได้รูปอันเย้ายวนของเขา ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก จนลมหายใจสอดประสานกัน ช่างเป็นเช้าอันสวยงาม ไม่มีผู้หญิงคนใดสามารถต้านทานเสน่ห์อันเย้ายวนนี้ได้ เบียงก้าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น เธอหาใช่นักบุญไม่ สามัญสำนึกของเธอจมอยู่ในความรู้สึกที่หวั่นไหวเหล่านี้ เขาสามารถจุดประกายไฟได้ทุกเมื่อ เธอกำลังลงดิ่งไปเรื่อย ๆ… “น้าบี…” เรนนี่เดินออกจา
เจสันบอกความลับทุกเรื่องที่เขารู้เห็นให้กับเจ้านายของตนฟังหมดเปลือก ในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวของลุค เขาเชื่อว่าเจ้านายเป็นคนฉลาด น่าจะเดาได้ว่าอีวอนน์กำลังจะทำอะไร ถึงกระนั้น สุดท้ายแล้วเจ้านายก็ยังคงเป็นเจ้านายอยู่วันยังค่ำ เขามีประสบการณ์ในชีวิต และด้วยลักษณะนิสัยส่วนตัว เจ้านายจะไม่จัดการเรื่องส่วนตัวเหมือนคนโง่เขลาที่กดขี่ข่มเหงโดยไร้เหตุผล บนใบหน้าของเจ้านายไม่ได้แสดงออกใด ๆ เขาดูคาดเดายากไม่น้อย จนอาจไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เช่นนั้นแล้ว เจสันจึงไม่สามารถเดาได้ ว่าเจ้านายจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เขาทำได้แค่รอดู! เขาจะไปดูแลงานของเขาก่อน! … ในแผนกออกแบบชั้นล่าง นับตั้งแต่อีวอนน์เริ่มทำงานที่นี่ หัวข้อการสนทนาของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนแรก พวกเขาพูดถึงนักสังคมสงเคราะห์ที่มีชื่อเสียงในเมือง ในวินาทีถัดมาพวกเขาจะพูดถึงคนดังในวงการบันเทิง บางครั้งพวกเขาจะพูดไปถึงพวกผู้บริหารและนายทุน ช่วงเวลางานของหนุ่มสาวในสำนักงานช่างน่าเบื่อหน่าย มันมีเพียงแค่เรื่องของงาน และการทำงานที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนจะมีความสุขมากขึ้นถ้าได้พูดคุยเรื่องซุบซิบนินทาเกี่ยว
โทรศัพท์เบียงก้าก็ดังขึ้นขณะกำลังคุยกับคุณปู่ “คุณปู่คะ หนูต้องรับสายนี้ค่ะ” เบียงก้าดึงแขนที่เริ่มรู้สึกเจ็บจากการที่คุณปู่จับไว้ออกมา และหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า ซูเป็นคนโทรมา เบียงก้ารับสายแล้วถามว่า “สวัสดีจ้ะ ซู มีอะไรรึเปล่า?” ซูบอกกับเธอสั้น ๆ ว่า “บี ถ้าไม่มีอะไรติดขัดนะ โครงการพัฒนาเมืองที่พวกเราทำกันอยู่จะมีระยะเวลาดำเนินงานอย่างน้อยครึ่งปีนะ ดังนั้นนะ หลังจากที่พวกผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพิจารณาเรียบร้อย การฝึกอบรมภาคสนามในปีนี้จะดำเนินไปเร็วกว่าที่กำหนดไว้ พรุ่งนี้เวลาแปดโมงเช้า เธอมาที่ทางเข้าบริษัทด้วยล่ะ อย่าลืมเตรียมเอาของใช้จำเป็นสำหรับพักค้างแรมด้วย ก็ประมาณนี้นะ ถ้ามีอะไรสงสัย ก็ส่งข้อความมาหาฉันนะ ฉันจะต้องบอกอีกสองคนที่ไม่อยู่ในสำนักงานก่อน” “รับทราบจ้ะ” เบียงก้าตอบก่อนวางสายไป ตอนเธอไปเรียนต่างประเทศ เมื่อมีเวลา เธอก็ชอบออกไปหากิจกรรมภาคสนามทำเช่นกัน ดังนั้น สำหรับเรื่องนี้ เธอสามารถมองว่ามันเป็นได้ทั้งการฝึกอบรมและการพักผ่อนไปพร้อม ๆ กันได้ หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับคุณปู่แล้ว เบียงก้าเริ่มเก็บโต๊ะอย่างรวดเร็ว “คุณเรย์นคะ คุณอย่าล้างจานเลยน
หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ จากแผนกออกแบบต่างมองไปที่อีวอนน์เป็นตาเดียว ต้องเป็นเพราะอีวอนน์นอนคุยกับท่านประธานแน่ ๆ เลย! อีวอนน์ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ! มีคู่รักคู่หนึ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน ผู้ชายกระซิบกับหญิงสาวว่า “เจ้านายเป็นคนเคร่งขรึมและเย็นชามาก อีกอย่าง เขายังทำตัวห่างเหินจากคนภายนอกอยู่ตลอดเลย แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ที่พอคุยกับอีวอนน์ปุ๊บ เขามาอยู่ร่วมในกิจกรรมภาคสนามแบบนี้ปั๊บ” หญิงสาวกลอกตาไปมา "รู้ไหมว่ามันหมายความยังไง?" "อะไรล่ะ?" เขาไม่รู้จริง ๆ เขาเพียงแค่หัวเราะออกมา หญิงสาวหัวเราะเยาะอย่างเย้ยหยัน “พวกคุณไม่รู้กันจริง ๆ น่ะเหรอว่านี่หมายความว่าอย่างไร? มันก็หมายความว่าแม้แต่ผู้ชายในตำแหน่งที่สูงขนาดนี้ก็ไม่สามารถต้านทานการยั่วยวนของสาวน้อยได้ไง ถ้าเมื่อคืนนี้บรรดาสาว ๆ พวกนั้นให้เสนอตัวให้คุณบนเตียง คุณก็จะสามารถทำทุกอย่างเพื่อพวกเธอได้!” “อะไรเล่า ฉันก็แค่…” ชายคนนั้นทำหน้าบูดบึ้ง “นี่เรื่องกำลังคุยเรื่องจริงจังกันอยู่นะ ทำไมคุณถึงต้องพูดจาหาเรื่องผม?” “ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันหาเรื่องคุณกันล่ะ? เจ้านายของเราเป็นพวกเผด็จการแถมจริงจังอีก
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห
เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ
“น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่
เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี
เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที
ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป
รถลีมูซีนเบนท์ลีย์สีดำไม่ได้ขับรถเข้ามาในสนามหญ้าหน้าบ้านแต่กลับจอดอยู่ด้านนอกแทน ลุคไม่ได้ขับรถมาเอง หลังจากที่เจสันจอดรถแล้ว เขาก็ออกไปเปิดประตูเบาะหลัง เจ้านายและลูกน้อยสองคนก้าวออกมา เหมือนเช่นเคย ลุคแต่งตัวอย่างไร้ที่ติในชุดสูทมาดธุรกิจและรองเท้าหนัง ทว่าจากใบหน้าของเขาสามารถบอกได้ง่าย ๆ ว่าเขามีชีวิตชีวามากกว่าปกติราวกับว่าเพิ่งได้ยินข่าวดีมา เรนนี่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ เธอได้กลิ่นโคโลญจน์ของเขา ขณะที่ลานี่วิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้อยู่ “สวัสดีค่ะ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ!” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งทักทายลูกชายของเจ้านาย 'ทริปนี้คุ้มมาก!’ 'สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ดีเท่าในเมือง แต่ได้เห็นหน้าเจ้านาย และลูกชายกับลูกสาวที่น่ารักของเขาก็พอแล้ว!’ 'ช่างมีความสุขเหลือเกิน!' ลานี่มองไปรอบ ๆ ฝูงชนแต่ไม่พบคุณน้าบีเลย แต่เขาก็ไม่ลืมมารยาทและทักทายกลับว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย!” เพื่อนร่วมงานหญิงที่ถูกเรียกว่า "คุณคนสวย" ยิ้มกว้าง โจพร้อมทำหน้าที่และพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล
เบียงก้าระงับเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของเธอเกร็ง ขณะกำผ้าม่านตรงหน้าแน่น... ม่านไม่ได้ยึดอย่างแน่นหนา ขณะที่ชายที่อยู่ข้างหลังเธอเคลื่อนเข้าไปหาเธออีกนิ้ว เธออ้าปากค้าง และจิตใจว่างเปล่า ผ้าม่านหลุดลง... "ใจเย็น" ลุคก้มศีรษะลงและจูบต้นคอของเธอ ผิวขาวภายใต้แสงจันทร์ดูเรียบเนียนและอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างจงใจ ปากของเขาทิ้งร่องรอยต่าง ๆ ไว้บนร่างกายของเธอ “อา… อืม…” เธอไม่สามารถต้านทานริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บุกรุกเข้ามาได้ เบียงก้าเชยคางและทิ้งตัวบนหน้าต่าง ชายที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงดันนิ้วเข้าไปทีละนิ้วราวกับเขาถูกปีศาจสิง เธอรู้สึกได้ว่าการหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอหายใจถี่และลึกขึ้นเพื่อจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น อากาศก็เริ่มเย็นลง ตอนที่เบียงก้าลืมตาขึ้น เธอมองเห็นหน้าต่างที่มีฝ้าขึ้นจากลมหายใจของเธอ ความรู้สึกไม่สบายกายเกิดขึ้นเพียงห้านาทีและกลายเป็นความเลื่อนลอย... มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วที่เธอเคยชินกับการปรากฏตัวของชายคนนั้น หรือในปีนี้ที่เธอได้ติดต่อกับชายคนนั้นที่โรงแรม เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน… มื
เธอไม่อาจต้านทานจุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นี้ไม่ได้ บนใบหน้าของพวกเขา กลิ่นของทั้งสองเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุ้นเคยแต่แปลกใหม่ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกือบเสร็จกิจเมื่อเช้านี้เอง และตอนนี้พวกเขาก็มีโอกาสอีกครั้ง ลุครู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ความปรารถนาที่ไม่ลดละของเขาบดขยี้ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่ลดความรุนแรงลง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงครางของเธอ เขาอยากจะกลืนกินร่างที่เขาหิวโหยไป ชายหนุ่มดูราวกับเด็กที่เพิ่งได้ลองชิมขนมเป็นครั้งแรก เขาปรารถนาร่างกายของเธอมานานแล้ว จนเมื่อเช้าที่เขาได้มีโอกาสได้ลิ้มรสความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เมื่อได้รับขนมอร่อย ๆ เด็กที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกเขาจะแกะมันออกจากห่ออย่างตะกละตะกลาม แล้วเอาเข้าปาก ก่อนใช้ความอบอุ่นและน้ำลายละลายพวกมัน พวกเขาอาจจะอ่อนโยนหรือรุนแรง ก็แล้วแต่ระดับความกระหายของคนเป็นเจ้าของ... ลุคกับเบียงก้า เปรียบได้กับเด็กตะกละกับขนมอร่อย ... “อืมมม…” ร่างของเบียงก้าอ่อนยวบเมื่อลุคกอดเธอในอ้อมแขนจนแน่น ช่องปากของเขาอุ่นชื้น เธอจมดิ่งลงไปในจูบอันป่าเถื่อนของเขา… เธอกำ