ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้นสูงเพื่อให้พรฟ้าได้มองร่างกายของเขาเช่นกัน โดยใช้มือข้างหนึ่งดันกับเตียงนอนไว้ แล้วใช้มืออีกข้างคว้ามือของพรฟ้ามาวางบนหน้าอกแล้วเริ่มลูบไล้ไปมาเพื่อนำทาง กระทั่งอธิศปล่อยมือแล้วเอ่ยขึ้น
“อยากสัมผัสตรงไหนไหม” พรฟ้าพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะลูบไล้ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของอธิศอย่างพอใจ แต่ยิ่งเธอสัมผัสเขาด้วยความอ่อนโยนมากเท่าไหร่ กลับทำให้ชายหนุ่มเสียวซ่านจนต้องส่งเสียงครางออกมาบ้าง อธิศมองสบตาพรฟ้าด้วยแววตาอันหยาดเยิ้ม แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาซึ่งไม่ได้ต่างจากของพรฟ้าแม้แต่น้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะมอบจูบให้กันและกันอีกครั้ง อธิศเล้าโลมพรฟ้าอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มพรมจูบเธอไปทั่วใบหน้าและมาหยุดตรงหน้าอกอย่างหลงไหล ข้างหนึ่งสัมผัสด้วยปากและลิ้นที่ตวัดขึ้นลงอย่างช่ำชอง ในขณะที่อีกข้างสัมผัสด้วยมือ ซึ่งทั้งสองทำหน้าที่ปลุกปั่นและฟอนเฟ้นจนหน้าอกหน้าใจของพรฟ้าตื่นตัวเสียงครางกระเส่าของพรฟ้าดังขึ้นเป็นระยะๆ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ รู้แค่เพียงว่าตอนนี้อยากให้อธิศทำอะไรสักอย่างเพื่อเติมเต็มเธอให้สมบูรณ์ ในขณะที่อธิศก็ละจากหน้าอกของพรฟ้าช“เจ็บไหม” เสียงแหบพร่าของอธิศกระซิบถามพรฟ้าขึ้น เวลานี้เขาได้ฝ่าด่านสำคัญที่เรียกว่าพรหมจรรย์ จนสามารถฝังแกนกายของตัวเองให้อยู่ในตัวเธอแล้ว แม้จะไม่มากนักก็ตาม“เจ็บค่ะ แต่เบล ทะ...ทนได้” พรฟ้าเอ่ยตอบด้วยเสียงอันกระท่อนกระแท่น เวลานี้เธอรับรู้ได้ถึงการมีตัวตนของอธิศ สัมผัสได้ถึงสิ่งนั้นที่เต้นตุบๆ ราวกับมีชีวิตอยู่ในตัวเธอ แม้จะเจ็บในครั้งแรกแต่เพราะความอ่อนโยนของอธิศ ทำให้พรฟ้ารับมือกับความเจ็บที่ว่านั้นได้ดีในขณะที่อธิศเองก็กำลังข่มความเสียวซ่านจากการตอดรัดเพื่อผลักไสที่เกิดขึ้นจากภายในร่างกายของพรฟ้าอย่างสุดกำลังเช่นเดียวกัน แต่ทว่าดูเหมือนเขานั้นจะพ่ายแพ้จึงค่อยๆ ขยับสะโพกเข้าหาเธอในจังหวะช้าๆ เนิบๆ และเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง จังหวะรักของอธิศจึงถี่กระชั้นขึ้น ไต่ระดับความเร่าร้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนเกือบทำให้พรฟ้าหยุดหายใจรสจูบ รสสัมผัสและรสเซ็กซ์ของอธิศช่างหอมหวาน มันเหมือนยาเสพติดที่ทำให้พรฟ้าไม่อาจต่อต้าน เธอโอนอ่อนไปพร้อมกับชายหนุ่มที่เวลานี้เข้ามาเปิดประสบการณ์ให้เธอได้พบกับความหฤหรรษ์ที่แทบจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้พรฟ้าสัมผ
เช้าวันรุ่งขึ้น อธิศกลับตื่นมาพบเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง ชายหนุ่มมองหาพรฟ้าไปทั่วห้องก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปตามเธอในห้องน้ำ แต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่าจนเขาใจเสีย เพราะคิดว่าพรฟ้าอาจโกรธและจากไปนั่นทำให้ชายหนุ่มรีบรุดออกจากห้องนอนทั้งๆ ที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยด้วยซ้ำ เพราะสวมเพียงกางเกงนอนแค่ตัวเดียว และคนแรกที่เปิดประตูออกมาเห็นคือ...ชนิตา“อุ๊ย! คุณอธิศ!” ชนิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าเช้านี้เธอจะเจอกับอธิศสภาพไม่เรียบร้อยแบบนี้ สีหน้าของชายหนุ่มดูรีบร้อนและเหมือนกำลังตามหาใครอยู่ ซึ่งไม่บอก ชนิตาก็รู้ว่าเป็นใคร“ขอโทษทีครับคุณตา”“รีบร้อนหาใครหรือคะ” คนตรงหน้าแกล้งถาม ในขณะที่อธิศกลับดูเก้ๆ กังๆ ต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด“เอ่อ...คือผม”“ใช่เบลหรือเปล่า” เมื่อเห็นชายหนุ่มอึกอักที่จะตอบ ชนิตาจึงตอบให้เสียเอง“ครับ”“อยู่ในห้องนะคะ
“คนบ้า” พรฟ้ายกมือขึ้นลูบแก้มของตัวเองแล้วมองตามชายหนุ่มไป ยิ่งขัดเขินกับเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าไปใหญ่ นั่นทำให้เธอจงใจอยู่ให้ห่างจากอธิศแทบทั้งวัน ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขารอคืนนี้ให้มาถึงอย่างใจจดใจจ่ออยู่นั่นเองแต่ค่ำวันนั้นพรฟ้ากลับเข้าไปนอนในห้องของชนิตาเสียนี่“เบล”“ค่ะคุณตา” พรฟ้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พร้อมกับจัดแจงจัดที่นอนของตัวเองไปด้วย“ทำไมถึงกลับมานอนที่ห้องฉันอีกละ”“ก็เบลไม่ชินกับการนอนในห้องนั้นคนเดียวนี่ค่ะ” ชนิตารู้ว่าพรฟ้ากำลังโกหก เธอคงเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้ชิดกับอธิศเป็นแน่“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้หนีใครมา”“แน่ใจค่ะ”“ฟังฉันนะ สถานะของเธอกับคุณอธิศเปลี่ยนไปแล้ว ทำไมถึงทำตัวเหมือนเด็ก”“คุณตาระ...รู้เหรอคะ” พรฟ้าเอ่ยถามหน้าตาตื่น เพราะไม่คิดว่าชนิตาจะรู้เรื่องแล้ว“รู้...และฉันก็สนับสนุนไม่ได้ค้านจริงไหม เพราะฉะนั้นเธอจะหนีใจตัวเองมาทำไม
เพียงแค่เขาจูบร่างกายของเธอก็ตื่นตัว มันร้อนรุ่มราวกับเธอกำลังเป็นไข้ แบบนี้หรือที่พรฟ้าจะต้านทานสิ่งที่อธิศกำลังจะมอบให้ได้สำเร็จอธิศช้อนตัวเธอขึ้นมาอุ้มแล้วพาเดินไปยังเตียงนอนที่อยู่ไม่ไกล ค่อยๆ วางเธอลงอย่างเบามือราวกับหากทำแรงไปกว่านี้พรฟ้าจะบอบช้ำ ทั้งคู่สบตากันและกันอย่างสื่อคววามนัย ก่อนที่จะช่วยกันถอดเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวออกจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงบิกินี่และอันเดอร์แวร์คนละชิ้นเท่านั้นจากนั้นอธิศก็โน้มตัวลงไปทาบทับและปลุกปั่นอารมณ์ปรารถนาของพรฟ้าให้ยิ่งลุกโชน ในขณะที่อารมณ์ของเขานั้นมันดูเหมือนจะพร้อมอยู่ก่อนแล้ว เขาจูบเธออย่างดูดดื่มในขณะที่มือก็ป้วนเปี้ยนสัมผัสหน้าอกของพรฟ้าอย่างหลงไหล ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ปากบ้าง“อะ...อาาาา” พรฟ้าส่งเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะรู้สึกเจ็บตรงนั้นบนร่างกายเพราะพึ่งผ่านประสบการณ์ครั้งแรกมาได้ไม่ถึงวัน แต่พรฟ้าก็มั่นใจว่าอธิศจะสัมผัสเธออย่างทะนุถนอมไม่แพ้ครั้งแรกอย่างแน่นอนซึ่งเขาก็ไม่ทำให้พรฟ้าผิดหวังอย่างที่เธอคิด เพราะทุกสัมผัสที่อธิศมอบให้พรฟ้านั้นเต็มไปด้วยความหนักแน่นแต่ทว่ากลับมีความ
“มาจัดการฉันสิ แม่เสือน้อย” อธิศยื่นมือมาเชื้อเชิญ พรฟ้าสลัดความอายทิ้งแล้วโน้มใบหน้าลงมาจูบเขาด้วยความร้อนแรง ซึ่งอธิศก็โอนอ่อนตามเธอไปอย่างว่าง่าย จากนั้นพรฟ้าก็ไล่จูบต่ำลงมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าอกของเขา“อืมม...รู้สึกดีเป็นบ้า” เสียงทุ้มครางออกมา ในขณะที่ พรฟ้ายังคงจูบและตวัดปลายลิ้นเล็กๆ สลับการดูดกลืนเม็ดยอดหน้าอกสีน้ำตาลของอธิศจนมันแข็งเป็นไตเช่นกัน เขาสัมผัสเธอแบบไหนเธอก็ขอสัมผัสชายหนุ่มคืนแบบนั้นบ้าง จะได้เท่าเทียมและเมื่อละจากหน้าอกของอธิศ พรฟ้าก็ยังคงจูบต่ำลงไปกระทั่งถึงไรขนแถวๆ หน้าท้องของเขาที่มันทอดยาวลึกเข้าไปใต้อันเดอร์แวร์สีขาวสะอาดตา เธอใช้ปลายนิ้วอุ่นๆ ไล้สัมผัสวนไปวนมาทำให้ชายหนุ่มแขม่วท้องน้อยอย่างเสียวซ่านทันที อธิศเปลี่ยนเป็นคนใจร้อนเพราะเขาเป็นคนถอดอันเดอร์แวร์บนตัวออกอย่างไม่รีรอ และทันทีที่เป็นอิสระแกนกายของอธิศก็ผงาดท้าทายสายตาของพรฟ้าเธอถึงกับฉงนเพราะไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะรับความใหญ่โตที่เห็นได้ในครั้งแรก มิน่ามันถึงได้เจ็บยามถูกเขาครอบครอง พรฟ้ารวบรวมความกล้าอยู่ครึ่งหนึ่งก่อนจะยื่นมือไปสัมผัส“อืมมมม&rd
เพราะยังไม่รู้ว่าเวลานี้ชนิตาได้ส่งผู้หญิงที่คิดว่าเหมาะให้แก่อธิศไปแล้ว และดูเหมือนชายหนุ่มจะพอใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่คืนนั้นเธอก็มักจะเห็นว่าทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอๆแต่คนที่ไม่รู้อย่างมยุรากับร้อนอกร้อนใจจนนั่งไม่ติดที่ เพราะเธอนั้นอยากจัดการเรื่องที่ยังค้างคาใจให้มันจบๆ เสียที จึงเข้ามาหาชนิตาที่บ้านอีกครั้ง“นี่ก็ผ่านไปเกือบเดือนแล้ว หนูตาหาผู้หญิงที่คิดว่าเหมาะสมกับอธิศได้หรือยังจ๊ะ”“เรียบร้อยแล้วค่ะ”“เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่” สีหน้าของมยุราบ่งบอกว่าตกใจ เพราะที่ผ่านมาเธอได้แต่รอแล้วก็รอ แทบไม่รู้รายละเอียดหรือสิ่งที่ชนิตาวางแผนไว้แม้แต่น้อย“หลังจากที่ตาคุยกับคุณแม่ได้ไม่นานค่ะ”“แล้วผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง”“สวยค่ะ”“เคยผ่านมือใครมาหรือเปล่า”“ไม่เคยค่ะ” ชนิตาตอบคำถามนั้นของแม่สามีอย่างมั่นใจ เพราะเธอรู้จักพรฟ้าดีว่าเป็นดีแค่ไหน เธอไม่เคยทำตัวเสียหาย“แล้
ซึ่งเย็นวันเดียวกันหลังจากเลิกงานและกลับถึงบ้าน อธิศก็เข้าไปคุยกับชนิตาในห้องนั่งเล่นถึงเรื่องที่มารดาของเขาได้เข้าไปพบที่บริษัท เพราะคำพูดหนึ่งของผู้เป็นแม่สร้างความสงสัยให้ชายหนุ่ม คำพูดที่บอกว่าชนิตาจะเป็นคนเลือกผู้หญิงให้เขาเอง และเขาก็อยากรู้ว่าเธอเลือกใครไว้ จะใช่อย่างที่เขาคิดไว้หรือไม่“อันที่จริงแล้ววันนั้นคุณแม่เอารูปผู้หญิงสวยๆ มาให้ฉันเลือกหลายรูป แต่ละคนโปรไฟล์ดีๆ ทั้งนั้น แต่ในสายตาของฉันคนที่เหมาะที่สุดที่จะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาและแม่ของลูกของคุณอธิศคือ...เบล”“เบลหรือครับ”“ค่ะ...แต่วันนั้นคุณอธิศก็ค้านจนไม่ฟังที่ฉันจะพูดให้จบ”“เพราะผมไม่ชอบวิธีนี้ รวมถึงคิดว่าเป็นคนอื่น”“เบลชอบคุณอธิศค่ะ แอบชอบมานานแล้วก็ว่าได้ ก่อนหน้านี้ถ้าคุณอธิศมองดีๆ จะเห็นแววตาที่เบลพยายามแอบซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ บางครั้งก็ทำสำเร็จแต่บางครั้งก็ล้มเหลว เบลถึงไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้คุณ เพราะกลัวคุณจะจับได้ว่ารู้สึกยังไง รวมถึงกลัวว่าฉันจะโกรธเธอด้วย”“ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเบลคิดยังไง” อธิสเอ่ยต
“ไม่ได้ไม่ดี ฉันชอบที่เธอหึงรู้ไหม”“งั้นจะหึงไปอีกหลายวัน” พรฟ้าขู่ฟ่อๆ แต่เป็นการขู่ที่ไม่ได้ทำให้อธิศกลัวแม้แต่น้อย“หึงได้ก็ต้องหายได้ ไม่เอาหลายวัน มีอะไรก็คุยกัน ฉันชอบที่เธอบอกความรู้สึกออกมาตรงๆ คิดยังไงก็บอกไม่ต้องเก็บไว้แล้วคิดเองว่าฉันต้องรู้ อย่างหึงก็บอกหึง เพราะบางอย่างฉันก็ไม่รู้ จะได้อธิบายให้เข้าใจ ตกลงไหม”“ค่ะ”“มาให้ฉันทำโทษซะดีๆ” คำพูดที่บอกว่าจะทำโทษของอธิศนั้นแฝงความวาบหวามไว้เสมอ ซึ่งพรฟ้าเข้าใจความหมายเหล่านั้นดีกว่าใครๆ“คุณอธิศก็ชอบวกมาเรื่องนี้อยู่เรื่อย”“ก็ฉันมีความสุขนี่หรือเธอไม่มี”“มีค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับตรงๆ เพราะการทำโทษของอธิศ สร้างความสุขให้เธอเสมอ มันไม่ได้โหดร้ายแต่กลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเสียวซ่าน“ที่ฉันขยันทำโทษเพราะอยากให้เธอท้อง”“ท้องเหรอคะ”&
“ดีๆ ดีมาก” ภาคยิ้มอย่างมีความสุข ตามด้วยโกศลและศจี ในขณะที่มยุราซึ่งยังคงตั้งแง่กับพรฟ้าก็เผลอยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน แม้เธอจะไม่ปลื้มแม่ของหลานแต่หลานชายน่ารักน่าชังแบบนี้เธอจะไม่เอ็นดูได้ยังไง อะไรที่หยวนได้ก็หยวนไปแล้วกัน นั่นคือข้ออ้างที่มยุรามีให้กับตัวเอง เพื่อจะหาทางออกกับเรื่องที่เคยก่อชนิตาเองก็ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพรฟ้าคลอดลูกอย่างปลอดภัย แถมยังมอบลูกชายที่เปรียบดั่งสายใยความรักความผูกพันให้กับครอบครัวอีก ชนิตารอกระทั่งรู้ว่าพรฟ้าออกมาพักฟื้นที่ห้องแล้วจึงโทรศัพท์ทางไกลมาหา“ดีใจด้วยนะเบล”“ขอบคุณมากค่ะคุณตา”“หลานฉันช่างน่ารักน่าชัง ขอให้ฉันได้เป็นแม่ทูนหัวแกได้ไหม” ชนิตาเอ่ยถาม“ได้ค่ะ”“ขอบใจมากจ้ะ”“ร้องไห้ทำไม” เมื่อเห็นพรฟ้าร้องไห้หลังจากวางสายจากชนิตาแล้ว อธิศก็เข้ามาถามทันที“ดีใจที่ทุกคนเอ็นดูลูกของเรานะคะ”“ก็แกน่ารักน่าชังขนาดนั้นนี่ครับจะไม่ให้ทุกคนเอ็นดู
“ยินดีจากใจจริงอีกครั้งครับเพื่อน”“ขอบใจนายมากนพ”“เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่รัก สีหน้าของนายเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ” นั่นเพราะนพกรยังจำสีหน้าของอธิศที่เกิดขึ้นตอนงานแต่งงานกับชนิตาได้ดี ว่ามันดูอึมครึมไม่ได้สดใสอย่างในตอนนี้“อื้อ”“เจ้าสาวนายก็สวย”“ใช่ไหม เบลสวย ยิ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งสวย” อธิศยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยชมความสาวของภรรยา ยิ่งตอนนี้พรฟ้าท้องด้วยแล้วเธอก็ยิ่งสวยเปล่งปลั่ง“เบื่อคนอวยเมียว่ะ”“ก็เมียข้าสวยจริงๆ นี่หว่า”“เออๆ สวยก็สวย สรุปนายได้ลูกสาวลูกชาย บอกได้ยัง”“ยัง ไปลุ้นเอาวันที่เบลคลอดนู่น”“บอกหน่อยไม่ได้หรือไง จะได้ซื้อของรับขวัญถูก” นพกรเซ้าซี้ นั่นเพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะซื้ออะไรรับขวัญหลานจริงๆ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นเพศอะไรก็ยิ่งมืดแปดด้าน“จ
ชนิตาย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน และวางแผนให้พ่อและแม่ฟังว่าหลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบไหน ซึ่งโกศลและศจีก็ต่างสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านั่นคือความสุขของลูกสาวคนนี้ ส่วนเรื่องคู่ครองพวกเขาคงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรอีก หาก ชนิตาจะครองตัวเป็นโสดก็คงสบายไปอีกแบบส่วนว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ก็กำลังตระเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน ที่เวลานี้รู้เพศแล้วว่าคือผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคงเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนไปลุ้นเอาวันที่พรฟ้าคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว“ซื้อพอแล้วมั้งคะคุณอธิศ”“พอแล้วเหรอ” ว่าที่คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นเพราะคิดว่าสิ่งของจำเป็นที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้ลูกชายคนแรกนั้นยังไม่มากพอ ขณะที่พรฟ้าได้แต่มองจำนวนสิ่งของในรถเข็นที่เยอะจนล้นออกมา“ค่ะ...ถ้าหมดค่อยซื้อเพิ่มก็ได้”“โอเค...พอก็พอครับ” อธิศยิ้มให้ก่อนจะพาพรฟ้าไปทานอาหาร ในขณะที่รถช้อปปิ้งชายหนุ่มส่งให้แม่บ้านเป็นคนจัดการต่อ แต่ระหว่างทางเดินไปร้านอาหารนั้นจู่ๆ เขาก็วกเข้าร้านเพชรที่อยู่ตรงทางผ่านแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก่อนจะจัดแจงบอกให้พนักงานขึ้น&ldq
“ผมรอคำตอบอยู่” เมื่อมยุราไม่ตอบภาคก็เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้มยุราอึกอักอย่างมีพิรุธ ก่อนจะยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ“เอ่อคือ...ไม่มีอะไรค่ะ”“คุณแม่เป็นคนแนะนำให้คุณตาหาผู้หญิงสักคนให้ผมครับพ่อ โดยพยายามกดดันเรื่องคุณปู่อยากอุ้มหลาน จนทำให้คุณตาไม่มีทางเลือก” หลังจากเงียบมานานอธิศก็ขอเอ่ยขึ้นบ้าง นั่นเพราะอยากให้ผู้เป็นแม่รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องแต่คำพูดของบุตรชายกลับยิ่งทำให้มยุราไม่พอใจ เพราะไม่คิดว่าอธิศจะกล้าหักหน้าเธอแบบนี้ ทั้งๆ ที่เงียบไปก็ได้“นี่คุณกล้าเอาเรื่องหลานไปกดดันหนูตาอย่างนั้นเหรอ คุณทำเกินไปแล้วนะคุณมยุรา” ภาคจ้องมองมาที่มยุราอย่างเอาเรื่อง เขาไม่พอใจที่มยุราทำอะไรเลยเถิดเช่นนี้“ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินไปทั้งนั้น เพราะถ้าเรามีหลานก็จะเป็นเหลนของคุณทวด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นของเหลนท่าน ฉันผิดตรงไหน” มยุราแย้งกลับ“ผิดที่คุณห่วงแค่มรดก โดยไม่ห่วงความรู้สึกของคนอื่น” คำพ
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ชนิตาและอธิศจึงหย่ากันในวันรุ่งขึ้น และวันนั้นก็ยังเป็นวันที่อธิศกับพรฟ้าได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีและภรรยากันอย่างถูกต้องทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยเช่นเดียวกัน โดยมีชนิตาเป็นสักขีพยานคนสำคัญ จากนั้นก็ปล่อยให้สามีภรรยาตามกฎหมายป้ายแดงได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน“อยากกินอะไรครับ”“ส้มตำค่ะ”“ไม่ได้ หมอบอกมะละกอจะทำให้ท้องอืด”“งั้นก็ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก”“ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกใส่เลือด ไม่ดีเหมือนกัน”“นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ สงสัยเราสองคนต้องหิวไปทั้งวันแน่ๆ เลยลูก” พรฟ้าลูบท้องตัวเองไปมาแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวเล็กที่โตวันโตคืนไปด้วย พอได้ยินแบบนั้นอธิศก็รีบออกตัวทันที“โอ๋ๆ อย่าพึ่งงอนพ่อนะครับ เอาเป็นว่าเราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่า วันก่อนเห็นเบลบ่นว่าอยากกิน”“จำได้ด้วยเหรอคะ” รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าของ พรฟ้า นั่นเพราะไม่คิดว่าอธิศจะได้ยินตอนเธอบ่น“จำได้ครับ”“แต่อาหารญี่ปุ่นมีปลาดิบ เบล
เพราะไม่เข้าใจความหมายของสองขีดสักเท่าไหร่ อธิศจึงหันไปมองชนิตาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ ในขณะที่พรฟ้ายังคงยืนยิ้มอยู่ข้างๆ“ขีดสีแดงถ้าขึ้นสองขีดแสดงว่ากำลังตั้งครรภ์ค่ะ”“ตั้งครรภ์...ท้อง” ว่าที่คุณพ่อทวนคำพูดและแปลความหมายเสร็จสรรพ ในขณะที่พรฟ้าก็เอ่ยรับเช่นกัน“ค่ะ”“เยส! ผมกำลังจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ เหรอครับเนี่ย ไชโย” อธิศตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน ชายหนุ่มแสดงความรู้สึกดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง นั่นสร้างความตกใจให้พรฟ้าและชนิตาเช่นกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้เจออธิศมุมนี้ เนื่องจากปกติแล้วเขาจะเป็นคนเงียบขรึมเสียมากกว่าอธิศรีบพาพรฟ้าไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจ และผลที่ออกมาก็ทำให้เขายิ้มกว้างมากกว่าเดิม นั่นเพราะตอนนี้ พรฟ้าท้องจริงๆ แม้อายุครรภ์จะเพียงแค่สิบสัปดาห์ก็ตาม อธิศจัดการฝากครรภ์ให้เธอทันที โดยเลือกหมอที่เป็นเพื่อนกันให้คอยดูแลเมียและลูกระหว่างทางกลับบ้าน อธิศซึ่งขับรถอยู่ก็คว้ามมือเล็กๆ ของพรฟ้าไปกุมไว้ บนใบหน้าของเ
เพราะเธอสงสารชนิตามาตลอดที่ต้องถูกจับคลุมถุงชน แต่อีกใจก็ยังรู้สึกผิดที่ตอนนี้สถานะระหว่างเธอกับอธิศมันลึกซึ้งเกินจะถอยได้แล้วเช่นกัน และเมื่อศจีกลับออกไปแล้วเธอก็เข้าไปดูแลชนิตาอย่างที่เคยทำ“เบลได้ซื้ออุปกรณ์ตรวจครรภ์ไว้บ้างหรือเปล่า” คำถามของชนิตาทำให้พรฟ้าหน้าแดงก่ำ“ยังไม่ได้ซื้อค่ะ”“ไปซื้อไว้หน่อยก็ดี เผื่อตอนนี้เธอท้องแล้ว”“ถ้าเบลท้องคุณตาจะเป็นอิสระใช่ไหมคะ” คำถามของพรฟ้าทำให้ชนิตาชะงักไปนิดหน่อย นี่คงแอบได้ยินที่เธอคุยกับแม่เข้าแน่ๆ“ใช่...เพราะฉันจะหย่ากับคุณอธิศ จะยกสิทธิ์ภรรยาที่ถูกต้องให้กับเธอ เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบๆ ท้อง เข้าใจไหม”“แต่เบลรู้สึกผิดกับคุณตา” พรฟ้าน้ำตาเอ่อ เพราะรู้สึกไม่ดีและอยากบอกชนิตาว่าเธอนั้นรู้สึกแบบไหน“รู้สึกผิดอะไร ไหนบอกมาสิ”“เบลไม่ควรคิดอะไรเลยเถิดกับคุณอธิศ มันเหมือนเบลหักหลังคุณตา”
เพราะอยากกดดันให้ชนิตายอมบอกว่าส่งผู้หญิงคนไหนไปให้อธิศลูกชาย มยุราจึงตั้งใจเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ศจีมารดาของชนิตาฟัง นั่นทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกสาวของเธอ ไม่คิดว่าชีวิตครอบครัวหลังแต่งงานชนิตาต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้รวมถึงไม่พอใจมยุราเป็นอย่างมากที่เอาเรื่องลูกมากดดันชนิตา แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะส่งผู้หญิงไปให้อธิศอีก ต่อให้ชนิตาจะได้สิทธิ์เลือกก็เถอะ แต่นั่นมันคือความสุขอย่างนั้นเหรอ และที่สำคัญชนิตาไม่เคยเอาเรื่องนี้หรือเรื่องที่ขุ่นข้องหมองใจมาเล่าให้แม่อย่างเธอฟังเลยสักครั้ง“คุณแม่” ชนิตาอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่มาหาที่บ้าน เพราะตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่กับอธิศน้อยครั้งมากที่แม่จะแวะมา“ยุ่งอยู่หรือเปล่าตา”“ไม่ค่ะ”“สวัสดีค่ะคุณศจี” พรฟ้าที่นั่งอยู่กับชนิตามาตั้งแต่ต้น ยกมือไหว้ศจีอย่างนอบน้อม ซึ่งศจีก็รับไหว้พร้อมพินิจมองหน้า พรฟ้าที่เวลานี้โตเป็นสาวเต็มตัวแล้วนั่นเอง“สวัสดีจ้ะเบล สบายดีใช่ไหม” แว
“ไม่ได้ไม่ดี ฉันชอบที่เธอหึงรู้ไหม”“งั้นจะหึงไปอีกหลายวัน” พรฟ้าขู่ฟ่อๆ แต่เป็นการขู่ที่ไม่ได้ทำให้อธิศกลัวแม้แต่น้อย“หึงได้ก็ต้องหายได้ ไม่เอาหลายวัน มีอะไรก็คุยกัน ฉันชอบที่เธอบอกความรู้สึกออกมาตรงๆ คิดยังไงก็บอกไม่ต้องเก็บไว้แล้วคิดเองว่าฉันต้องรู้ อย่างหึงก็บอกหึง เพราะบางอย่างฉันก็ไม่รู้ จะได้อธิบายให้เข้าใจ ตกลงไหม”“ค่ะ”“มาให้ฉันทำโทษซะดีๆ” คำพูดที่บอกว่าจะทำโทษของอธิศนั้นแฝงความวาบหวามไว้เสมอ ซึ่งพรฟ้าเข้าใจความหมายเหล่านั้นดีกว่าใครๆ“คุณอธิศก็ชอบวกมาเรื่องนี้อยู่เรื่อย”“ก็ฉันมีความสุขนี่หรือเธอไม่มี”“มีค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับตรงๆ เพราะการทำโทษของอธิศ สร้างความสุขให้เธอเสมอ มันไม่ได้โหดร้ายแต่กลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเสียวซ่าน“ที่ฉันขยันทำโทษเพราะอยากให้เธอท้อง”“ท้องเหรอคะ”&