“เอลี่ คุณมาทำอะไรที่นี่” เสียงอดิสร เกือบเป็นกระซิบ สาวประเภทสองยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะวางกระเป๋า “เชิญคุณอดิสรทางนี้ค่ะ ดิฉันจะได้เริ่มงาน นี่ก็ใกล้ฤกษ์หมั้นแล้วคุณหญิงท่านย้ำให้ดิฉันแต่งให้เสร็จ ภายในครึ่งชั่วโมงค่ะ” “อะไรนะ คุณมาทำบ้าอะไรที่นี่ ออกไปนะผมไม่ต้องการให้คุณแต่งหน้าให้ผม บ้าหรือเปล่าเอลี
สาวประเภทสองทรุดตัวลงกับพื้นเมื่อรู้สึกภาพต่างๆ ตอนที่เธอรักและมีความสุขกับชายหนุ่มตลอดเวลาหลายเดือนตัดย้อนกลับมา ราวกับหนังสี่ดี ที่ชัดเจนในความทรงจำสาวประเภทสองกำลังเศร้าและกำลังอิน จนไม่ได้ยินเสียงว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของเธอ จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียก “เอลี่” เสียงเรียกที่คุ้นหูทำให้สาวประเ
สาวประเภทสองมายืนอยู่ตรงหน้า คู่หมั้นสาวของชายคนรัก ด้วยความรู้สึกผิด สายตาที่เหมือนเรดาร์ ในขณะที่ปูเป้ ปรีชยา แค้นอีกฝ่ายแทบกระอักเลือด ดูจากเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ หน้าตาที่เหมือนผ่านอะไรมา ก็พอให้สาวที่ผ่านสังเวียนรักมาอย่างโชกโชนที่เมืองนอกพอจะเดาได้ ใจหนึ่งก็นึกรังเกียจคู่หมั้นหนุ่ม ที่มีรสนิยมชอ
หัวหิน ยาริกา คิดจนหัวจะระเบิดกับท่าทางที่ดูหมางเมินของชายหนุ่ม ที่ตอนนี้ตนเองรู้สึกผูกพัน จนรู้สึกตนเองว่า คงรู้สึกดีๆกับอีกฝ่ายไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว หญิงสาวเก็บของเสร็จแล้วก็ไปยืนที่ระเบียง ที่ดูเหมือนจะใช้ร่วมกันสองห้อง แต่ต้องชะงักเมื่อชายหนุ่มนั่งสูบบุหรี่ ยาริกาขมวดคิ้วจำได้ว่า ไม่เคยเห็นอีกฝ่
บ้านพิพัฒนพงค์ กริชชัยเลี้ยวรถเข้ามาสู่บริเวณบ้าน ด้วยหัวใจพองโต อีกไม่กี่นาทีก็จะได้กอดภรรยาสาว ชายหนุ่มคิดในใจว่าจะเก็บทั้งต้นและดอกให้คุ้มกับที่ต้องจากกันถึงเกือบสองวัน เมื่อรถจอดก็รู้สึกบริเวณบ้านเงียบๆ ผิดปกติ ชายหนุ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะปกติที่เรือนหลังใหญ่จะคึกคัก วันนี้ทำไมเงียบผิดปกติ “พงษ์
กอหญ้าน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง มือลูบที่แก้มชายหนุ่มไปมา พร้อมกับสวมกอดกันแน่นอีกครั้ง พยาบาลสาวมองความรักที่พี่ชายและภรรยาสาว มีให้กันน้ำตาก็ไหลด้วยความซาบซึ้ง และรู้สึกแปลกใจว่า พี่ชายเปลี่ยนท่าทีกะทันหันเมื่อกี้โวยวายโรงพยาบาลแทบแตก แต่กับภรรยาสาว ถึงแม้จะใช้วาจาที่จริงจังแต่ท่าทางกลับนุ่มนวล จนไม
สมุทรปราการ อดิศวรปลายตามองหญิงสาว อย่างหมั่นไส้ตลอดเส้นทางระหว่างหัวหินมุ่งหน้าไปทางกรุงเทพฯ หญิงสาวไม่พูดไม่จาแถมยังไปนั่งติดหน้าต่างจนเหลือที่ว่างมากมายที่เบาะนั่ง ท่าทางที่หญิงสาวแสดงว่าไม่อยากใกล้ชิดยิ่งทำให้ชายหนุ่มนึกหมั่นไส้ แล้วรู้สึกเจ็บนิดๆที่หน้าอก เพราะรู้ตัวดีว่าหลงรักยัยศัตรูเก่าเข้า
เมื่อออกจากร้านอาหารมา ยาริกาก็เริ่มมึนศีรษะเพราะดื่มไปหลายแก้ว อาจเป็นเพราะอยากเอาชนะผู้ชายตรงหน้า เมื่อมาถึงรถหญิงสาวก็ซุกตัวที่เบาะเพราะท้องอิ่ม แอร์เย็นๆ แล้วรู้สึกมึนศีรษะจึงรู้สึกง่วง อดิศวรมองหญิงสาวแล้วลอบส่ายหน้าในความพยศของอีกฝ่าย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ไม่ทำให้ยาริกาเปลี่ยนแปลงไปได้เลย
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ