Share

บทที่ 467

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
นางไม่ได้ถามออกไป เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ ว่า “ท่านปู่เฉินสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บแม้แต่น้อย”

“เหอะ…” เฉียวซื่อหัวเราะเสียงเย็นอีกครั้ง “ตัวเขาสุขสบายดีแต่กลับทำร้ายสามีของข้า”

มือทั้งสองข้างของนางกำแน่นเป็นหมัด ปากกัดริมฝีปากล่างแน่น แววตาเปี่ยมด้วยความเกลียดชัง

เจี่ยนอันสงสัยหนักเข้าไปอีก สามีของเฉียวซื่อไปรู้จักกับท่านปู่เฉินได้อย่างไร?

เจี่ยนอันอันถามด้วยความสงสัย “บอกข้าได้หรือไม่ว่าระหว่างสามีของท่านกับท่านปู่เฉินมีความแค้นอะไรกัน?”

เฉียวซื่อกัดฟันแน่นก่อนจะเล่าเรื่องของสามีออกมาในที่สุด

สามีของนางเฉียวมีนามว่าเฉียวว่านหลิน เปิดร้านตีเหล็กแห่งหนึ่งในอำเภอไถหยาง

แม้ฐานะครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง

เมื่อสามปีก่อน ท่านปู่เฉินจากหมู่บ้านชิงสุ่ยได้มาซื้อเครื่องมือเหล็กที่อำเภอไถหยางและได้พบกับร้านของสกุลเฉียว

การได้พูดคุยกันทำให้ทั้งสองคนค่อยๆ สนิทกันมากขึ้น

ท่านปู่เฉินบอกว่าเขาต้องการสร้างอาวุธที่เข้ามือ

เขาต้องการไปตามหาคลังสมบัติที่เมืองอินเป่ย

เฉียวว่านหลินเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของคลังสมบัติที่เมืองอินเป่ยเช่นกัน

แต่เขามองว่ามันเป
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 468

    เมื่อครู่นี้เขาวิ่งออกไปตักน้ำจากบ่อที่ที่ลานวัดร้างมาราดใส่ตัวน้ำบ่อเย็นยะเยียบทำให้เขาตัวสั่นเทิ้มด้วยความหนาวหลังจากราดน้ำใส่ไปหลายถัง สิ่งสกปรกบนใบหน้าเขาก็ถูกล้างสะอาดในที่สุดมุมปากของเจี่ยนอันอันกระตุกอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อเห็นเฉียวอี้กลับมาในสภาพตัวเปียกโชก นี่เขาไม่ถอดเสื้อผ้าเวลาอาบน้ำหรือ?เฉียวอี้ไม่สนใจแม้แต่น้อย เขาเคยชินกับการล้างตัวแบบนี้มานานแล้วเจี่ยนอันอันพูดว่า “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถิด ข้าจะดูว่าร่างกายเจ้ามีการติดเชื้อเป็นบริเวณกว้างหรือไม่”เฉียวอี้มองแม่ของตัวเองปราดหนึ่ง เห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้ เขาถอดเสื้อผ้าออกด้วยใบหน้าแดงก่ำ เหลือไว้เพียงกางเกงชั้นในโชคดีว่าบริเวณที่ติดเชื้อของเฉียวอี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่บริเวณหลังไปถึงลำคอมีพื้นขนาดใหญ่ที่แสดงถึงการเป็นหนองเจี่ยนอันอันนำกระเป๋าเข็มออกมาแล้วพูดกับเฉียวอี้ “ข้าจะทำการฝังเข็มที่หลังเจ้า ทนเจ็บหน่อยนะ”เฉียวอี้ได้ยินว่าจะฝังเข็มให้ก็กัดฟันทันที “ข้าทนได้ ท่านลงมือเถิด”ขอเพียงรักษาโรคเรื้อนได้ เขาจะไม่กลัวการถูกฝังเข็มเจี่ยนอันอันฝังเข็มสิบกว่าเล่มลงที่หลังและคอของเฉียวอี้เฉียวอี้หน้าตาบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 469

    “พี่รอง พี่สะใภ้รอง ในที่สุดก็หาพวกท่านเจอ” ฉู่อันเจ๋อวิ่งเข้ามาด้วยความดีใจเมื่อวานนี้ฉู่จวินสิงออกมาตามหา แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะพาเจี่ยนอันอันกลับมาเสียทีคนที่บ้านต่างเป็นกังวล ฮูหยินใหญ่จึงให้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าออกมาตามหาเหยียนเซ่าทำความเคารพเมื่อมาถึงเบื้องหน้าฉู่จวินสิง“นายน้อย ข้ากับนายน้อยอันเจ๋อตามหาพวกท่านมาตลอดทั้งสาย”เจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าการออกมาข้างนอกครั้งหนึ่งของตัวเองจะทำให้คนเป็นห่วงมากมายขนาดนี้นางส่งยิ้มให้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าด้วยความขอโทษแต่ไม่ได้พูดอะไรฉู่จวินสิงถามว่า “ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านใช่หรือไม่?”เหยียนเซ่าตอบด้วยความเคารพ “ที่บ้านไม่ได้มีเรื่องอะไรขอรับ เพียงแต่กำลังรอให้พวกท่านกลับไปอยู่”เจี่ยนอันอันเห็นว่าทั้งสองคนเดินเท้ามา เกรงว่าคงเหนื่อยจากการเดินนางรีบร้อนที่จะตามหารถม้าของบ้านตัวเองมากขึ้นฉู่จวินสิงเดินออกมาด้วยกันกับนาง ไม่ได้จูงรถม้าของบ้านเสิ่นจือเจิ้งออกมาด้วยเมื่อนึกได้ว่ารถม้าคันนั้นยังจอดอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอนางก็ให้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าไปที่ที่ว่าการอำเภอเพื่อจูงรถม้าของบ้านเสิ่นจือเจิ้งมาก หลังจากที

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 470

    สี่เอ๋อร์เห็นเจี่ยนอันอันกลับมาก็วิ่งไปทำอาหารที่ห้องครัวอย่างมีความสุขนางเองก็เป็นห่วงมานานเช่นกัน ตอนนี้สามารถเบาใจลงในที่สุดสี่เอ๋อร์กับสาวใช้อีกสองคนทำอาหารเสร็จแล้วยกออกมาวางบนโต๊ะในลานบ้าน ทั้งครอบครัวนั่งทานอาหารร่วมกัน ฮูหยินใหญ่ถามเจี่ยนอันอันว่าสองวันนี้ไปพบเรื่องราวอะไรมาบ้างเจี่ยนอันอันเล่าเรื่องราวให้ฟังอย่างง่ายๆ ทุกคนฟังแล้วอกสั่นขวัญหายนึกไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะถูกเจ้าคนที่มีนามว่ากู้มั่วหลีจับตัวไปหากนางไม่ได้หนีออกมาจากห้องลับนั่นจะทำอย่างไร?ไม่แน่ว่าเมื่อได้พบกันอีกครั้ง นางจะกลายเป็นศพไปแล้วฮูหยินใหญ่ยิ่งเป็นห่วงเจี่ยนอันอันหนักกว่าเดิมเมื่อคิดถึงตรงนี้นางดึงมือเจี่ยนอันอันมาจับพลางพูดด้วยความเป็นห่วง “อันอัน ต่อไปอย่าอยู่ห่างจากจวินสิงอีก”“ข้ากลัวว่าคนผู้นั้นจะลงมือต่อเจ้าซ้ำสอง”เจี่ยนอันอันส่งรอยยิ้มปลอบประโลมให้ฮูหยินใหญ่ “ท่านแม่วางใจเถิด ข้ารู้ว่าควรทำอย่างไรเจ้าค่ะ”เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉู่จวินสิงตัดสินใจอะไรบางอย่างได้เช่นกันไม่ว่าต่อไปนี้เจี่ยนอันอันจะไปที่ใด เขาก็จะไม่อยู่ห่างแม้แต่ครึ่งก้าวหลังจากกินข้าวเสร็จ เจี่ยนอันอันก็กลับเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 471

    ฉู่จวินสิงถือโอกาสกดตัวไปข้างหน้าและจุมพิตนับครั้งไม่ถ้วนลงที่ใบหน้าของเจี่ยนอันอัน ในตอนนี้เอง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียงของสี่เอ๋อร์ดังเข้ามา “นายน้อยรอง ฮูหยินน้อยรอง อาหารเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”เจี่ยนอันอันรีบผลักฉู่จวินสิงออก นางสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งออกไปโชคดีว่าสี่เอ๋อร์มาเคาะประตูได้ถูกเวลามาก มิเช่นนั้นประเดี๋ยวนางคงได้กลายเป็นขนมแป้งทอดที่ถูกฉู่จวินสิงพลิกไปมามุมปากของฉู่จวินสิงมีรอยยิ้มประดับ เขาสวมเสื้อผ้าแล้วตามออกไปเช่นกัน หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็เรียกฉู่จื่อซีมาคุยด้วยนางยังไม่ลืมเรื่องที่จะส่งนกพิราบสื่อสารสองตัวไปให้เซิ่งฟาง “อาสะใภ้รอง ท่านมีธุระอะไรกับข้าหรือขอรับ?”ฉู่จือซีกะพริบดวงตาคู่โตของตัวเองเงยหน้ามองเจี่ยนอันอัน เจี่ยนอันอันลูบศีรษะน้อยๆ ของเขาพลางยิ้มว่า “จื่อซีช่วยเรียกนกพิราบมาให้สักสองตัวได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องต้องใช้งาน”ฉู่จื่อซีว่ามีเรื่องที่จะได้ใช้ความสามารถของตัวเองในที่สุดก็วิ่งออกไปด้วยรอยยิ้มทันทีไม่นาน บนบ่าของเขาก็มีนกพิราบสีขาวกับสีเทาบินมาเกาะฉู่จื่อซีพานกพิราบกลับมาหาเจี่ยนอันอัน “อาสะ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 472

    ลูกเตะทลายเมฆาของฉู่จวินสิงไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะรับมือได้ท่านปู่เฉินเห็นดังนี้ก็หมุนตัวหลบเท้าของฉู่จวินสิงเตะถูกต้นไม้ด้านหลัง ลำต้นส่ายไหวอย่างรุนแรงหลายครั้งและเกือบถูกถอนออกทั้งราก“แม่นางเจี่ยน นี่พวกท่านหมายความว่าอย่างไรกัน ช่วยอธิบายให้กระจ่างได้หรือไม่?”ท่านปู่เฉินไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกเขามาตั้งแต่แรก ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ลงมือต่อสู้กับฉู่จวินสิงทว่าภาพที่เขาหลบการโจมตีของฉู่จวินสิงได้อย่างคล่องแคล่วปราดเปรียวล้วนตกอยู่ในสายตาของเจี่ยนอันอันลูกเตะของฉู่จวินสิงรวดเร็วมาก หากเป็นคนธรรมดาก็ไม่มีทางที่จะหลบพ้น แต่นี่ท่านปู่เฉินกลับหลบได้อย่างว่องไว เรื่องนี้พิสูจน์ว่าศิลปะการต่อสู้ของเขาไม่ได้อ่อนแอ นางพูดกับฉู่จวินสิงว่า “ท่านพี่ พอแล้วเจ้าค่ะ”ฉู่จวินสิงกลับไปยืนข้างเจี่ยนอันอันและมองนางอย่างไม่เข้าใจเช่นกันเจี่ยนอันอันยิ้มว่า “ท่านปู่เฉิน ท่านไม่ได้อ่อนแอแบบที่เห็น”“ท่านเก็บซ่อนศิลปะการต่อสู้ของตัวเองมาโดยตลอด ข้าคิดว่าท่านเป็นคนธรรมดาเหมือนชาวบ้านคนอื่นๆ เสียอีก”ท่านปู่เฉินคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะทำแบบนี้เพื่อดูว่าเขามีศิลปะการต่อสู้หรือไม่หากเขาไม่มีศิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 473

    เมื่อสามปีก่อน ท่านปู่เฉินได้รู้ว่าเมืองอินเป่ยมีคลังสมบัติจากปากของเฉินหย่งเหนียนเหตุสังหารหมู่เมื่อตอนนั้นเกิดขึ้นเพราะคลังสมบัตินี้เช่นกันแต่พวกคนของราชวงศ์ไม่พบตำแหน่งของคลังสมบัติแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้จึงเปิดฉากสังหารอย่างโจ่งแจ้งบรรดาผู้ที่สังหารหมู่ทำการสังหารคนชรา คนป่วยและคนพิการทิ้งทั้งหมดเหลือไว้เพียงคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อนี้คนในหมู่บ้านชิงสุ่ยต้องใช้ชีวิตแบบอดมื้อกินมื้อหลังจากที่ท่านปู่เฉินได้ยินเรื่องคลังสมบัติในเมืองอินเป่ย เขาก็เกิดความคิดที่จะตามหามันแต่ลำพังแค่เขาเพียงคนเดียวคงไม่มีทางเจอตำแหน่งของคลังสมบัติเพราะขนาดคนของราชวงศ์ก็ยังหาไม่เจอ เช่นนั้นตัวเขาที่เป็นแค่หัวหน้าหมู่บ้านชิงสุ่ยจะหาเจอได้อย่างไรด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้มีการรวบรวมคนจำนวนหนึ่งเพื่อไปตามหาที่ตั้งของคลังสมบัติด้วยกันหากเจอคลังสมบัติจริงๆ เขาก็สามารถใช้เงินพวกนั้นมาช่วยให้หมู่บ้านชิงสุ่ยผ่านพ้นจากวิกฤตและพวกชาวบ้านก็จะได้ไม่ต้องทนถูกครอบครัวของจางต้ากลั่นแกล้งอีกต่อไปเดิมทีแล้วเขามีเจตนาที่ดี แต่นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นการทำร้ายเฉียวว่านหลินตอนนั้นพวกเขาห้าคนช่วยกันตา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 474

    ยิ่งไปกว่านั้น ที่พวกเขายอมตอบตกลงที่จะไปตามหาคลังสมบัติด้วยกันก็เกิดจากความละโมบของพวกเขาเองหากไม่ใช่เพราะคนผู้นั้นเริ่มสังหารเฉียวว่านหลินก่อน พวกเขาก็คงไม่สู้กันในช่องทางลับไม่ต้องมาตายอยู่ในนั้นโดยที่ยังหาคลังสมบัติไม่เจอท่านปู่เฉินมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด และก็ด้วยเหตุนี้เช่นกัน เขาถึงได้ต้องจมอยู่กับความทรมานทุกวันขณะที่ท่านปู่เฉินกำลังคิดว่าจะแก้ตัวอย่างไร เจี่ยนอันอันก็พูดว่า “มาถึงขั้นนี้ ข้าว่าท่านอย่าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านอีกเลย”ท่านปู่เฉินเงยหน้าขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อเขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านชิงสุ่ยมาหลายสิบปี จะต้องมาถูกปลดออกจากตำแหน่งทั้งอย่างนี้หรือ?“แม่นางเจี่ยน ข้าขอโอกาสไถ่โทษสักครั้งได้หรือไม่?”“ข้ายินดีมอบเงินออมทั้งหมดให้ภรรยาและลูกชายของเฉียวว่านหลิน”สิ่งที่เขาพอจะทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่นี้ในบรรดาสี่คนนั้น มีแค่เฉียวว่านหลินที่มีลูกและภรรยา ส่วนอีกสามคนเป็นพวกกล้าตายถึงแม้จะตายไปก็ไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ เจี่ยนอันอันมองว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนางมากนักนางเป็นแค่คนที่ถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่ หากบีบให้ท่านป

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 475

    ซ่างตงเยว่เป็นคนนำน้ำมาส่งให้พวกเขาตลอดสองวันมานี้และน้ำที่บ้านของซ่างตงเยว่ก็รสชาติดีกว่าน้ำที่บ้านพวกเขาไม่รู้กี่เท่าน้ำนี้หวานและอร่อย ทำให้จ้าวอู่กับจ้าวลิ่วดื่มแล้วหยุดไม่ได้ซ่างตงเยว่เห็นทั้งสองคนดื่มติดต่อกันสองกระบวยใหญ่ก็ร้องว่า “พวกท่านดื่มน้อยหน่อย ท่านพ่อกับอาอวี๋ยังไม่ได้ดื่มเลย”ทั้งสองคนได้ยินดังนี้ก็รีบวางกระบวยตักน้ำลงพวกเขาเช็ดปากก่อนจะหัวเราะแหะๆ ให้ซ่างตงเยว่จ้าวลิ่วยิ้มว่า “นังหนูอย่าคิดมากขนาดนั้นสิ พวกข้าทำงานให้ท่านพ่อของเจ้าไม่น้อยเลยนะ”ซ่างตงเยว่กลอกตามองบนใส่จ้าวลิ่ว คิดในใจว่างานเล็กน้อยที่เจ้าทำเทียบกับที่ท่านพ่อของข้าทำไม่ได้เลยจ้าวอู่มองน้ำในถัง เขาอดถามไม่ได้ว่า “ตงเยว่ เหตุใดน้ำของบ้านเจ้าจึงรสชาติดีเช่นนี้ ไม่ได้เปรี้ยวและฝาดเหมือนน้ำที่บ้านข้า ดื่มยากสุดๆ”ซ่างตงเยว่หันไปมองเจี่ยนอันอันปราดหนึ่งแต่ไม่ได้พูดอะไรนางไม่มีทางบอกจ้าวอู่ว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนช่วยจัดการบ่อน้ำที่บ้านของนางตอนนั้นเจี่ยนอันอันเห็นบ่อน้ำที่บ้านของนางทั้งเหลืองทั้งขุ่นจึงทำการเทน้ำพุวิญญาณลงไปจำนวนหนึ่ง จากนั้นน้ำที่บ้านนางก็ใสสะอาดและมีรสชาติดีนี่เป็นความล

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 670

    พวกเขาไม่ยอมลงมาเสียที คงกลัวจะถูกคนของทางการพบเห็นว่ามาพักอยู่ที่นี่ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อยกอาหารออกมา แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเขาเคาะประตู ครู่หนึ่งจึงมีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา พร้อมรับเอาถาดอาหารเข้าไปคนในห้องยังได้พูดจาบางอย่างกับเสี่ยวเอ้อ เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อพยักหน้าหงึกหงัก หลังจากรับเงินมาแล้วจึงเดินลงชั้นล่างไปเมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังอยู่ในห้อง เพียงไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้นฉู่จวินสิงจึงค่อยๆ กินข้าวช้าลงด้วยรอจนกระทั่งทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ผู้คนในโถงกินข้าวก็ได้ออกไปกว่าครึ่งแล้วเจี่ยนอันอันซับคราบน้ำมันที่มุมปาก พลางกล่าวด้วยความพึงพอใจ “อาหารโรงเตี๊ยมนี้ช่างถูกปากข้านัก”ฉู่จวินสิงยิ้มๆ มิได้พูดจาทั้งคู่เดินขึ้นชั้นบนไป แต่มิได้กลับเข้าห้องของตน กลับเดินมาหยุดที่หน้าห้องหม่าลู่และเฉินเช่อแทนฉู่จวินสิงยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานในห้องก็มีเสียงคล้ายหวาดระแวงของเฉินเช่อ“ใคร?”ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงต่ำ “เฉินเช่อ เปิดประตู เป็นข้าเองฉู่จวินสิง”ขาดคำมิทันไร จึงได้ยินในห้องมีเสียงฝีเท้าคนเดินและไม่นานประตูก็ถูกแง้มออกเป็นซอกเล็กเมื่อเฉินเช่อเห็นผู้ที่มายืนอยู่ด้านนอก มิใช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 669

    ฉู่จวินสิงกล่าวจบ จึงปล่อยมือเจี่ยนอันอันแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเจี่ยนอันอันเอนกายนอนลงบนเตียงเช่นเดิม มือกุมที่หน้าท้องแบนราบลูกคนนี้มาเร็วเกินไป จนนางไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่มาหวนคิดอีกที เมื่อเด็กเลือกที่จะมาอยู่กับพวกเขา นางจึงมีหน้าที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอให้ลูกลืมตาดูโลกเมื่อใด นางจะเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนตนเองเจี่ยนอันอันนำยาบำรุงจากห้วงมิติออกมาแล้วกินเข้าไป พลันอาการหน้ามืดวิงเวียนค่อยบรรเทาลงบ้างนางลงจากเตียง เดินมาถึงนอกประตู จึงเห็นฉู่จวินสิงยืนอยู่ด้านนอกผู้เดียว คล้ายรับลมเย็นอยู่เจี่ยนอันอันเดินมาข้างกาย พลางเรียกเบาๆ “ท่านพี่”ฉู่จวินสิงกำลังใช้ความคิดบางอย่างอยู่ แม้กระทั่งเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อถูกนางเรียกเข้า จึงได้ตั้งสติกลับมาโชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากให้ใครได้ยินเข้า ชายหนุ่มผู้หนึ่งเรียกหนุ่มอีกคนว่าท่านพี่ คงได้ตกใจจนตาถลนออกนอกเบ้าเป็นแน่แท้ ฉู่จวินสิงมองไปยังชั้นล่าง ยังไม่เห็นวี่แววลูกน้องสองคนจะมาถึงเขาจึงดึงตัวเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไป“เหตุใดเจ้าจึงไม่นอนพักอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 668

    เขาตื่นเต้นจนนั่งลงที่เตียง พร้อมจับมือเจี่ยนอันอันไว้ วางที่ริมฝีปากแล้วจุมพิตเบาๆ“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเราสองคนก็จะมีทายาทแล้ว”“แสดงว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้ นับว่าไม่เสียเปล่า”เจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าตื่นเต้นยินดีของฉู่จวินสิง นางกลับไม่ยินดียินร้ายและไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ“เมื่อครู่นี้ท่านหมายความว่ากระไร อะไรคือสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า?”หรือว่าก่อนหน้านี้ฉู่จวินสิงนำยาคุมกำเนิดของนาง ไปสับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่น?แต่ความคิดนี้ผุดขึ้น พลันถูกเจี่ยนอันอันลบทิ้งไปเขามิใช่คนในยุคปัจจุบันเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่ายังมียาชนิดอื่นทดแทนยาคุมกำเนิดได้แล้วฉับพลันเจี่ยนอันอันก็นึกขึนได้ว่า ครั้งแรกที่นางมีอะไรกับฉู่จวินสิง ตอนนั้นนางไม่ได้กินยาคำนวณเวลาดูแล้ว ห่างจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ประมาณหนึ่งเดือนจริงๆเจี่ยนอันอันพลันนิ่งอึ้ง นางนึกเสียใจที่วันนั้นเหตุใดจึงไม่กินยาก่อน?แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็สายเกินแก้ นางไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วฉู่จวินสิงมองหน้าเจี่ยนอันอัน ประเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ประเดี๋ยวก็ให้หมดอาลัยตายอยากเขารู้สึกห่อเหี่ยวลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 667

    ยามนี้เจี่ยนอันอันรู้สึกคล้ายวิงเวียนศีรษะ เห็นทีต้องกลับไปพักเอาแรงเสียหน่อยแล้วระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม เจี่ยนอันอันถามฉู่จวินสิง “ท่านรู้สึกเวียนศีรษะบ้างหรือไม่?”ฉู่จวินสิงส่ายหน้า เป็นเชิงว่าตนมิได้รู้สึกผิดปกติแต่อย่างใดแต่เขากลับรู้สึกว่า มือของเจี่ยนอันอันค่อนข้างเย็น“เจ้าเป็นอะไร ร่างกายไม่สบายใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าเบาๆ นางกำลังรู้สึกว่าเวลาเดินคล้ายตัวลอยอย่างไรชอบกลสองเท้าเหมือนดั่งย่ำอยู่บนปุยนุ่น มีความทรมานนักฉู่จวินสิงเห็นท่าไม่สู้ดี จึงก้มตัวลงต่อหน้านาง“ขึ้นมา ข้าจะแบกเจ้ากลับไป”เจี่ยนอันอันมิได้โต้แย้ง เพราะนางรู้สึกไม่ใคร่สบายจริงๆ จึงไม่คิดขัดขืน พลางแนบลงแผ่นหลังฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแบกนางแล้วเดินต่อ ระหว่างทางยังถอยถามไถ่อาการเป็นระยะเจี่ยงอันอันเพียงคิดว่าอาจเพราะเมื่อครู่ฆ่าคนมากเกินไป และสูดกลิ่นคาวเลือดมากไปด้วยบวกกับยาเม็ดนั้น นางใช้เวลาอันสั้นในการปรุงออกมาสรรพคุณของยาคงไม่ดีเท่ายาที่ผลิตได้ในยุคปัจจุบันนางซบอยู่แผ่นหลังฉู่จวินสิง พร้อมนำความคิดตนพูดให้เขาฟังฉู่จวินสิงเริ่มใช้วิชาตัวเบา ทำให้การเดินเท้ารวดเร็วกว่าเมื่อคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status