Share

ตอนที่13เขาคือฮ่องเต้

last update Last Updated: 2025-04-12 11:05:40

เมืองโจว

เมืองโจวในหุบเขาตะวันตกเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่ไร้ชื่อเสียงในแผนที่ของแคว้น แต่กลับมีเสน่ห์เกินใคร ผืนไร่ชาที่ไล่เรียงลดหลั่นตามแนวเนินเขา กลิ่นหอมของใบชาที่เพิ่งเด็ดสด ๆ คลุ้งไปกับลมเย็นจากป่าเขาที่โอบล้อมอยู่รอบเมือง

ลำธารใสไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วแว่วอยู่เหนือยอดไม้ และทุกยามเช้า ชาวบ้านก็จะสวมหมวกฟาง เดินเข้าสวนชา หรือออกไปเก็บสมุนไพรและเครื่องเทศตามฤดูกาล บรรยากาศสงบสุข ราวกับโลกภายนอกไม่เคยแตะต้อง

ณ กลางเมืองนั้นเอง คือคฤหาสน์ตระกูลโจว เรือนไม้หลังใหญ่ราวกับจวนอ๋องกระนั้นที่ทอดยาวลึกเข้าไปจนสุดเนินเขา ล้อมรอบด้วยสวนหิน ธารน้ำพุร้อนไหลผ่าน และซุ้มดอกไม้ กลิ่นหอมของบุปผาและเครื่องเทศอบอวลในอากาศไม่เคยจาง

ในสวนหลังบ้าน ตรงเรือนพักกลางที่ล้อมด้วยเถาองุ่น จ้าวบ้านใหญ่ของเมือง—โจวหลิวเยว่ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ ดื่มน้ำชาร้อนจากถ้วยแก้วบาง แม้สีหน้าจะอ่อนล้า แต่ดวงตาของเขากลับอ่อนโยนขณะมองดูบุตรสาวคนเล็กที่กำลังรดน้ำผักริมรั้วไม้เตี้ยๆ ร้องเพลงดังของลิซ่าแบล็กพิงค์อย่างสนุกสนาน

หลายวันมานี่โจวหลินเยว่กลับรู้สึกว่าบุตรีคนรองที่เคยเงียบขรึมอาจจะเพราะนางถูก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่14ถนัดด้านการขาย

    เสี่ยวหนี่หรือ "ข้าวนึ่ง"ของเรา ที่ข้ามภพมาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ กับบทสนทนาวุ่นวายเมื่อครู่ทำเพียงแค่หยิบเมล็ดฟักทองขึ้นมาอีกเม็ด แกะเปลือกอย่างใจเย็นแล้วส่งเข้าปากเคี้ยวงับๆ“เอ๊ะ…นี่มันเข้าวังจริงเหรอ? ไม่ใช่ไปขายขนมหน้าวังใช่มั้ย จริงสินะ หากเป็นแค่การขาย….ทุกการขายรวมทั้งขายหน้าคุณหนูใหญ่จี้เหวินทำได้ดีอยู่แล้ว” เสี่ยวหนี่พูดขำๆ แววตายังระยิบระยับอย่างขี้เล่น ไม่ต้องเล่าซ้ำเพราะเสี่ยวหนี่ตะแคงหูฟังจนหูหางได้ยินชัดทุกคำ ว่าแต่มีฮ่องเต้มาบ้านทำไม่เสี่ยวหนี่ไม่รู้ หน้าตาจะเป็นแบบไหนนะฮ่องเต้คนนั้น“ข้าเห็นในละครเวลาใครเข้าวังแล้วมักไม่ได้กลับออกมาแบบครบสามสิบสองอะไรงี้... แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีของกินทุกวันเนอะ แล้วอย่าลืมไปขาย….หน้าเอาผ้ารอดเอ๊ยขายผ้าเอาหน้ารอดเอ๊ย ขายหน้าเอ๊ยถูกแล้ว”“เสี่ยวหนี่…” ท่านโจวพูดเบาๆ เสียงเขาแผ่วลงราวกับลมผ่านต้นชาบนไหล่เขา “ข้ารู้ว่าข้า... ผิด ข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้าถูกเข้าใจผิด ไม่ควรให้ใครแย่งความดีความชอบไปจากเจ้า และไม่ควรให้เจ้าเข้าไปพัวพันกับเรื่องในวังเลย”เขาหยุดไปชั่วครู่ ลมหายใจหนักหน่วงสะท้อนถึงความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่ภายใน“แต่ข้ากลัว…ข้

    Last Updated : 2025-04-12
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่15 บ้านทรายทอง

    วังหลวงเดือนเมษายนปีถังเจี้ยนที่24เสี่ยวหนี่ในชุดนางในใหม่เอี่ยมยืนยืดอกตรงหน้าประตูวังหลวงที่สูงตระหง่านเงยหน้ามองประตูวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าแลดูขึงขังเหมือนจะเข้าไปลุยสนามรบกระนั้น“นี่คือสถาน~ แห่งบ้านทรายทอง~ โห ยิ่งใหญ่ไปไหมอ่า ““คุณหนู!เบาๆ หน่อยเพคะ คุณหนู...ไม่กลัวหรือเพคะ”เสี้ยวอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ เหลือบมอง เสี่ยวหนี่หัวเราะเบาๆ พลางแกล้งสะบัดชายเสื้อ“กลัวไปก็เท่านั้น เรามาแล้วก็แค่ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”เสียงฝีเท้าของขันทีน้อยคนหนึ่งขัดจังหวะบทสนทนา “เรียนคุณหนูทั้งสาม เชิญทางนี้ขอรับ ข้าน้อยจะนำไปยังตำหนักฝึกหัดฝ่ายห้องเครื่อง ซึ่งในด่านแรกจะต้องพบกันเรือนพักพวกท่าน ของใช้ส่วนตัวที่นำมาไปเก็บๆ ไว้ที่นั่นได้เลย”เสี่ยวหนี่พยักหน้าเบาๆ พลางเดินออกหน้าตามขันทีไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยมีจี้เหวินเดินตามหลังมาเงียบๆ แม้สีหน้าจะไม่พอใจที่ต้องมาร่วมทางด้วยกัน แต่ก็ไม่กล้าก่อความวุ่นวายกลางวังหลวงเส้นทางเดินปูหินเรียบทอดยาวผ่านสวนไผ่และแปลงสมุนไพร กลิ่นหอมของใบมินต์และขิงลอยอ่อนๆ ตามสายลม เรือนไม้ที่ประดับกระดิ่งลมขนาดเล็กตั้งเรียงรายดูอบอุ่นเป็นกันเอง จนไม่รู้สึกว่ากำลังเดิน

    Last Updated : 2025-04-13
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่16 เพื่อน(ร่วมงาน)

    “ไปที่ลานฝึกเถอะ มีนางในฝึกหัดเช่นเดียวกับพวกเจ้ารออยู่ด้านในจะได้ทำความรู้จักเพราะต่อไปข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน”เมื่อก้าวเข้าสู่เรือน เสียงจอแจและกลิ่นของอาหารหลากชนิดก็ประดังเข้ามาทันที อบเชย ขิงสด และผักสดหลากชนิดลอยอบอวลในอากาศ บรรยากาศภายในเรือนนั้นคึกคัก เต็มไปด้วยหญิงสาวในชุดผ้ากันเปื้อนหลากสี ต่างกำลังสับเนื้อ ล้างผัก บดเครื่อง หรือจดสูตรลงสมุดกันอย่างขะมักเขม้น“พวกเจ้ามากันใหม่สินะ” สาวร่างสูงหน้าคมนามว่า “หลิงเชียว” ท่าทางมั่นใจจนเกือบดูอวดดี กล่าวขึ้นก่อนใครเพื่อน“ข้า หลิงเชียว ถนัดอาหารทะเลจากชายฝั่งตะวันออก ไม่ได้โม้นะ แต่ข้าเคยเป็นแม่ครัวงานเลี้ยงระดับอ๋องมาแล้ว”“คนนี้ชื่อ ‘เฟิ่งหราน’ มาจากแคว้นใต้ ถนัดทำอาหารเผ็ดแรง พริกแห้งสามกำมือยังถือว่าน้อย” หลิงเชียวแนะนำหญิงสาวหน้าตาโฉบเฉี่ยวที่กำลังสับพริกเสียงดังอีกมุมหนึ่ง หญิงสาวร่างเล็ก ผิวขาวซีด กำลังนั่งบดเมล็ดงาเงียบๆ เหมือนอยู่ในโลกของตัวเอง ส่งเสียงแผ่วเบา“ข้า...ชื่อเซี่ยหยาเจ้าค่ะ ข้าถนัดทำของหวานนิดหน่อย..อาจจะไม่ดีที่สุดแต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ข้าพอทำได้.”“เซี่ยหยา ท่าทางเจ้าดูอ่อนโยนนุ่มนวลเห

    Last Updated : 2025-04-14
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่17 ไข่เจียวหมูสับระดับเสี่ยวนึ่ง

    แม่ครัวเหม่ยซูเดินผ่านแต่ละโต๊ะอย่างตั้งใจ ให้คำแนะนำและหยุดชิมเล็กน้อย พยักหน้าให้บางคนเพื่อกำลังใจ เมื่อมาถึงโต๊ะของเสี่ยวหนี่ นางชะงักนิดหน่อยมองจานทั้งสอง“อาหารสองชนิดนี้เหมาะจะกินร่วมกัน”“เราสองคนถนัดในด้านนี้ อยู่ที่บ้านข้ามักจะปรุงจานหลักส่วนนางก็เป็นลูกมือปรุงจานรองเพื่อท่านพ่อ ครั้งนี้เราสองพี่น้องจึงอยากแสดงความตั้งใจเจ้าค่ะ เลยช่วยกันทำคนละจานเพื่อให้ท่านพิจารณา” จี้เหวินรีบพูดพร้อมกับยิ้มหวาน ก็มารดานางสั่งสอนมาให้รู้จักเลือกว่าจะเอาใจใครและคนฐานะใดที่ควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีจากจี้เหวินเสี่ยวหนี่ยิ้มมุมปากไม่พูดอะไร แม่ครัวเหม่ยซูเพียงพยักหน้า ไม่แสดงความเห็นก่อนตักไข่เจียวหมูสับขึ้นมาชิมเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนไปลองไก่ผัดพริก ริมฝีปากขยับเบาๆ ราวกับรับรสอย่างละเอียด“รสมือมั่นคง...เข้าใจอุณหภูมิไฟดี” นางกล่าวเรียบๆ แล้วเดินผ่านไปยังโต๊ะถัดไปเสี่ยวหนี่เพียงก้มหน้าหลบคำชมโดยไม่แสดงท่าทีมากนัก ส่วนเซี่ยหยาก็แอบส่งสายตาให้กำลังใจเล็กๆ จากอีกโต๊ะ ยิ้มดีใจด้วยที่เสี่ยวหนี่ได้รับคำชม“ขอบคุณอีกครั้งนะ เซี่ยหยา”เสี่ยวหนี่ขยับตัวเข้าหาเซี่ยหยากล่าวขอบคุณยิ้มๆ เซี่ยหยาหน้าแดงเล

    Last Updated : 2025-04-15
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่18ไข่เจียวหมูสับกับไก่ผัดพริกน้ำมันงา

    จ้าวหลานเจียวถอยหลังไปเงียบๆ ขันทีกวงซุนเป็นคนจัดเรียงจานด้วยตัวเอง ลงมือทดสอบพิษและเลื่อนจานไปตรงหน้าหยางลี่ ตาคมเหลือบตามองจานไก่ผัดพริกหอมกับน้ำมันงาและไข่เจียวหมูสับที่กลิ่นหอมโชยแตะจมูก ส่วนของหยางซินอวี้ที่เป็นเต้าหู้ทอดผัดกับซอสเผ็ดวางอยู่ตรงหน้า หยางลี่ฮ่องเต้ก็ชะงักเพียงนิดสนใจในไก่ผัดผริกหอมกับน้ำมันงาเพราะกลิ่นหอมของพริกและน้ำมันงาที่ปนกันโชยออกมา“จานนี้…ฝีมือของใคร?”“สองจานนี้มาจากคุณหนูโจวเพคะ” จ้าวหลานเจียวตอบ “คุณหนูโจว?นางมาถึงก็ลงมือปรุงอาหารเลยหรือ”น้ำเสียงแสดงความประหลาดใจ“เพคะ”จ้าวหลานเจียวเพียงแค่ตอบรับ“ตระกูลโจวส่งบุตรีมาฝึกงานในห้องเครื่องสองคนพ่ะย่ะค่ะ ทั้งสองล้วนเป็นธิดาของเจ้าเมืองโจวที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องเทศจากทางใต้” กวงซุนเสริมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อืม...” หยางลี่หยิบตะเกียบขึ้นโดยไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะคีบไก่ผัดเข้าปากคำหนึ่ง...แล้วชะงักกลิ่นเผ็ดหอมของพริกแห้งปนกระเทียมเจียวและรสกลมกล่อมจากซอสหมักที่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อไก่นุ่มกำลังดี กลิ่นน้ำมันงาที่ขึ้นจมูกยามที่เคีัยวเนื้อไก่ก็หอมละมุนทำให้คิ้วเข้มขมวดแน่นค่อยๆคลายออกช้าๆ“นี่มัน...” แม้จะบอกว่าร

    Last Updated : 2025-04-16
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่19ชีวิตแม่ครัวเหอะ

    ครั้นเมื่อแสงตะวันเอียงคล้อยหลบลับหลังแนวเขาทางทิศตะวันตก เงาร่มไม้ทอดยาวลงยังลานกว้างเบื้องหน้าห้องเครื่อง แสงสีทองของอาทิตย์ยามอัสดงสาดส่องกระทบหม้อน้ำและกระทะเหล็กให้แวววาวดั่งหยกเปล่งประกายนั่นคือผลงานจากการทำงานหนักของเหล่านางในฝึกหัดที่ต้องช่วยกันขัดกระทะให้ไร้คราบเคราจนกระทะขึ้นเงาสะท้อนแสงจึงจะเป็นที่พอใจของผู้ฝึกสอนอย่างเหม่ยซู่ที่ละเอียดรอบคอบและทุกอย่างต้องเนี๊ยบที่สุด เสียงฟืนลั่นเปรี๊ยะในเตา คลอเคล้าไปกับกลิ่นอาหารหอมฉุยที่เริ่มโชยลอยออกจากหลายมุม บรรยากาศคึกคักอบอวลไปด้วยกลิ่นพริกหอม น้ำซุปเดือดพล่าน และน้ำมันร้อนที่ร้อนฉ่าในกระทะเหล่านางในห้องเครื่องฝึกหัดที่เหน็ดเหนื่อยจากการสอบในช่วงเช้า ตอนนี้ถึงเวลาได้ร่วมมือร่วมแรงกันทำอาหารอีกคนละจานตามแบบที่ตัวเองถนัด เพื่อแบ่งกินกันในมื้อเย็น นี่ถือเป็นธรรมเนียมเล็กๆ ที่เป็นทั้งการพักผ่อนและฝึกปรือฝีมือไปพร้อมกันของเหล่านางในห้องเครื่องฝึกหัดเสี่ยวหนี่ มีท่าทีสุขุมหากแต่ตาใสจะเรียกว่าดื้อตาใสได้ไหมนะ ใส่ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อน พลางมัดผมขึ้นลวกๆ ช่วยเสี่ยวอี้ หั่นผักอยู่ข้างเตา เตรียมทำอาหารสามจานในคราวเดียว หนึ่งสำหรับเสี่ยวหนี่

    Last Updated : 2025-04-17
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่20 ทะเลเลี้ยงคนได้ร้อยแบบ คนกินทะเลก็มีพันลิ้น

    หลิงเชียว ยืนอย่างองอาจขณะกำลังย่างกุ้งแม่น้ำราดน้ำพริกเหล้าบ๊วยลงบนกุ้ง ตัวกุ้งสดเด้งเป็นเงาสีส้มพริบพราย โปะด้วยน้ำพริกที่มีขิงซอย กระเทียมบด และเหล้าบ๊วยจนหอมฉุย เสียงเปลวไฟแตะเปลือกกุ้งดังฉ่าๆ ท่ามกลางคำพูดที่แสดงออกถึงการเป็นคนที่ชอบโอ้อวด เสี่ยวหนี่เกิดอาการตัวชาเพราะตัวเองต้องมาที่นี่เพราะขนมจีบกุ้ง“ข้าจับกุ้งพวกนี้เองกับมือครานั้นที่อ่าวป๋อไห่ กุ้งชนิดนี้หากไม่รู้วิธีปรุงก็จะไม่สามารถดึงเอารสชาติที่แท้จริงออกมาได้ พวกเจ้าเองก็คงไม่รู้สินะ”“ข้าไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะข้าไม่ชอบกินกุ้ง แต่หากจะทำให้ผู้อื่นข้าก็ต้องอาศัยหลักการเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็รู้กัน”หลิงเชียวผงะเล็กน้อยไม่คิดว่าเคล็ดความลับนี้เสี่ยวหนี่ก็รู้ นึกว่าไม่มีใครรู้นอกจากคนที่อยู่ในแถบทะเลตะวันออกเท่านั้นเฟิงหรานใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ด้อยใคร ไก่ผัดพริกสดสไตล์ใต้ พริกสดเขียวแดงบดหยาบ ผัดกับกระเทียมและไก่หั่นเต๋า เคลือบด้วยซอสถั่วหมักจนหอมฉุย ยิ่งผัดยิ่งหอมแรงจนทุกคนต้องแอบเหลียวมองว่ากลิ่นหอมนี้มาจากเตาของใคร“กลิ่นมันเผ็ดถึงใจ...” หลิงเชียวพึมพำเฟิงหรานเพียงยักไหล่ ไม่พูดตอบใดๆ

    Last Updated : 2025-04-18
  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ซ่อนมีดสั้น

    ข้างหน้านั้น ไก่ผัดพริกสดสไตล์ใต้ของเฟิงหราน เมื่อเสี่ยวหนี่ใช้ตะเกียบในมือคีบเนื้อไก่ขึ้นมาเคี้ยว เสี่ยวหนี่ก็ต้องซดน้ำซุปตามทันทีด้วยความเผ็ดร้อนของพริกแกงจากแดนใต้“โอ๊ย! เผ็ดแสบปลายลิ้น!”“นี่ข้ายังใช้พริกแค่ครึ่งกำมือเองนะ ถ้ากินที่บ้านข้า ต้องเหงื่อตกตลอดมื้อ นี่ข้าลดจำนวนพริกลงไปบ้างเพราะรู้ว่าพวงเจ้าอ่อนหัดยังไงล่ะ” เฟิงหรานหัวเราะเบาๆ “รสจัดจ้านจริงๆ! แต่ก็อร่อยแบบแปลกใหม่… มีกลิ่นหอมของอะไรบางอย่างที่ไม่คุ้น”“พริกเขียวดองกับถั่วหมัก ข้าใส่ผสมเข้าไปด้วย” เฟิงหรานตอบเรียบๆ ขณะตักข้าวเข้าปากไม่หยุดหยางชินอวี้ยื่นชามเล็กใส่ เต้าหู้สอดไส้หมูสับกับเห็ดหอม มาให้อย่างมีมารยาท เสี่ยวหนี่รับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลองชิมอย่างช้าๆ เพื่อซึมซับเอารสชาติให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นอาหารรสอ่อนเนื้อเต้าหู้เนียนนุ่มละลายในปากจริงอย่างนางว่าเลย กลิ่นหมูสับละเอียดผสมเห็ดหอม เมื่อกินพร้อมซอสราดบางๆ ที่มีกลิ่นน้ำมันงา กลับให้รสหรูหรานุ่มนวล “เหมือนกินอาหารเปิดงานในงานเลี้ยงเลย… มีกลิ่นแบบพิเศษที่อบอุ่นดี”“เต้าหู้ชั้นยอดก็ต้องอร่อยเป็นธรรมดา วัตถุดิบพวกนี้ข้านำมาจากบ้านหยางเป็นมรดกตกทอดของเรา หากไม่ใ

    Last Updated : 2025-04-19

Latest chapter

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ซ่อนมีดสั้น

    ข้างหน้านั้น ไก่ผัดพริกสดสไตล์ใต้ของเฟิงหราน เมื่อเสี่ยวหนี่ใช้ตะเกียบในมือคีบเนื้อไก่ขึ้นมาเคี้ยว เสี่ยวหนี่ก็ต้องซดน้ำซุปตามทันทีด้วยความเผ็ดร้อนของพริกแกงจากแดนใต้“โอ๊ย! เผ็ดแสบปลายลิ้น!”“นี่ข้ายังใช้พริกแค่ครึ่งกำมือเองนะ ถ้ากินที่บ้านข้า ต้องเหงื่อตกตลอดมื้อ นี่ข้าลดจำนวนพริกลงไปบ้างเพราะรู้ว่าพวงเจ้าอ่อนหัดยังไงล่ะ” เฟิงหรานหัวเราะเบาๆ “รสจัดจ้านจริงๆ! แต่ก็อร่อยแบบแปลกใหม่… มีกลิ่นหอมของอะไรบางอย่างที่ไม่คุ้น”“พริกเขียวดองกับถั่วหมัก ข้าใส่ผสมเข้าไปด้วย” เฟิงหรานตอบเรียบๆ ขณะตักข้าวเข้าปากไม่หยุดหยางชินอวี้ยื่นชามเล็กใส่ เต้าหู้สอดไส้หมูสับกับเห็ดหอม มาให้อย่างมีมารยาท เสี่ยวหนี่รับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลองชิมอย่างช้าๆ เพื่อซึมซับเอารสชาติให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นอาหารรสอ่อนเนื้อเต้าหู้เนียนนุ่มละลายในปากจริงอย่างนางว่าเลย กลิ่นหมูสับละเอียดผสมเห็ดหอม เมื่อกินพร้อมซอสราดบางๆ ที่มีกลิ่นน้ำมันงา กลับให้รสหรูหรานุ่มนวล “เหมือนกินอาหารเปิดงานในงานเลี้ยงเลย… มีกลิ่นแบบพิเศษที่อบอุ่นดี”“เต้าหู้ชั้นยอดก็ต้องอร่อยเป็นธรรมดา วัตถุดิบพวกนี้ข้านำมาจากบ้านหยางเป็นมรดกตกทอดของเรา หากไม่ใ

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่20 ทะเลเลี้ยงคนได้ร้อยแบบ คนกินทะเลก็มีพันลิ้น

    หลิงเชียว ยืนอย่างองอาจขณะกำลังย่างกุ้งแม่น้ำราดน้ำพริกเหล้าบ๊วยลงบนกุ้ง ตัวกุ้งสดเด้งเป็นเงาสีส้มพริบพราย โปะด้วยน้ำพริกที่มีขิงซอย กระเทียมบด และเหล้าบ๊วยจนหอมฉุย เสียงเปลวไฟแตะเปลือกกุ้งดังฉ่าๆ ท่ามกลางคำพูดที่แสดงออกถึงการเป็นคนที่ชอบโอ้อวด เสี่ยวหนี่เกิดอาการตัวชาเพราะตัวเองต้องมาที่นี่เพราะขนมจีบกุ้ง“ข้าจับกุ้งพวกนี้เองกับมือครานั้นที่อ่าวป๋อไห่ กุ้งชนิดนี้หากไม่รู้วิธีปรุงก็จะไม่สามารถดึงเอารสชาติที่แท้จริงออกมาได้ พวกเจ้าเองก็คงไม่รู้สินะ”“ข้าไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะข้าไม่ชอบกินกุ้ง แต่หากจะทำให้ผู้อื่นข้าก็ต้องอาศัยหลักการเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็รู้กัน”หลิงเชียวผงะเล็กน้อยไม่คิดว่าเคล็ดความลับนี้เสี่ยวหนี่ก็รู้ นึกว่าไม่มีใครรู้นอกจากคนที่อยู่ในแถบทะเลตะวันออกเท่านั้นเฟิงหรานใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ด้อยใคร ไก่ผัดพริกสดสไตล์ใต้ พริกสดเขียวแดงบดหยาบ ผัดกับกระเทียมและไก่หั่นเต๋า เคลือบด้วยซอสถั่วหมักจนหอมฉุย ยิ่งผัดยิ่งหอมแรงจนทุกคนต้องแอบเหลียวมองว่ากลิ่นหอมนี้มาจากเตาของใคร“กลิ่นมันเผ็ดถึงใจ...” หลิงเชียวพึมพำเฟิงหรานเพียงยักไหล่ ไม่พูดตอบใดๆ

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่19ชีวิตแม่ครัวเหอะ

    ครั้นเมื่อแสงตะวันเอียงคล้อยหลบลับหลังแนวเขาทางทิศตะวันตก เงาร่มไม้ทอดยาวลงยังลานกว้างเบื้องหน้าห้องเครื่อง แสงสีทองของอาทิตย์ยามอัสดงสาดส่องกระทบหม้อน้ำและกระทะเหล็กให้แวววาวดั่งหยกเปล่งประกายนั่นคือผลงานจากการทำงานหนักของเหล่านางในฝึกหัดที่ต้องช่วยกันขัดกระทะให้ไร้คราบเคราจนกระทะขึ้นเงาสะท้อนแสงจึงจะเป็นที่พอใจของผู้ฝึกสอนอย่างเหม่ยซู่ที่ละเอียดรอบคอบและทุกอย่างต้องเนี๊ยบที่สุด เสียงฟืนลั่นเปรี๊ยะในเตา คลอเคล้าไปกับกลิ่นอาหารหอมฉุยที่เริ่มโชยลอยออกจากหลายมุม บรรยากาศคึกคักอบอวลไปด้วยกลิ่นพริกหอม น้ำซุปเดือดพล่าน และน้ำมันร้อนที่ร้อนฉ่าในกระทะเหล่านางในห้องเครื่องฝึกหัดที่เหน็ดเหนื่อยจากการสอบในช่วงเช้า ตอนนี้ถึงเวลาได้ร่วมมือร่วมแรงกันทำอาหารอีกคนละจานตามแบบที่ตัวเองถนัด เพื่อแบ่งกินกันในมื้อเย็น นี่ถือเป็นธรรมเนียมเล็กๆ ที่เป็นทั้งการพักผ่อนและฝึกปรือฝีมือไปพร้อมกันของเหล่านางในห้องเครื่องฝึกหัดเสี่ยวหนี่ มีท่าทีสุขุมหากแต่ตาใสจะเรียกว่าดื้อตาใสได้ไหมนะ ใส่ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อน พลางมัดผมขึ้นลวกๆ ช่วยเสี่ยวอี้ หั่นผักอยู่ข้างเตา เตรียมทำอาหารสามจานในคราวเดียว หนึ่งสำหรับเสี่ยวหนี่

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่18ไข่เจียวหมูสับกับไก่ผัดพริกน้ำมันงา

    จ้าวหลานเจียวถอยหลังไปเงียบๆ ขันทีกวงซุนเป็นคนจัดเรียงจานด้วยตัวเอง ลงมือทดสอบพิษและเลื่อนจานไปตรงหน้าหยางลี่ ตาคมเหลือบตามองจานไก่ผัดพริกหอมกับน้ำมันงาและไข่เจียวหมูสับที่กลิ่นหอมโชยแตะจมูก ส่วนของหยางซินอวี้ที่เป็นเต้าหู้ทอดผัดกับซอสเผ็ดวางอยู่ตรงหน้า หยางลี่ฮ่องเต้ก็ชะงักเพียงนิดสนใจในไก่ผัดผริกหอมกับน้ำมันงาเพราะกลิ่นหอมของพริกและน้ำมันงาที่ปนกันโชยออกมา“จานนี้…ฝีมือของใคร?”“สองจานนี้มาจากคุณหนูโจวเพคะ” จ้าวหลานเจียวตอบ “คุณหนูโจว?นางมาถึงก็ลงมือปรุงอาหารเลยหรือ”น้ำเสียงแสดงความประหลาดใจ“เพคะ”จ้าวหลานเจียวเพียงแค่ตอบรับ“ตระกูลโจวส่งบุตรีมาฝึกงานในห้องเครื่องสองคนพ่ะย่ะค่ะ ทั้งสองล้วนเป็นธิดาของเจ้าเมืองโจวที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องเทศจากทางใต้” กวงซุนเสริมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อืม...” หยางลี่หยิบตะเกียบขึ้นโดยไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะคีบไก่ผัดเข้าปากคำหนึ่ง...แล้วชะงักกลิ่นเผ็ดหอมของพริกแห้งปนกระเทียมเจียวและรสกลมกล่อมจากซอสหมักที่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อไก่นุ่มกำลังดี กลิ่นน้ำมันงาที่ขึ้นจมูกยามที่เคีัยวเนื้อไก่ก็หอมละมุนทำให้คิ้วเข้มขมวดแน่นค่อยๆคลายออกช้าๆ“นี่มัน...” แม้จะบอกว่าร

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่17 ไข่เจียวหมูสับระดับเสี่ยวนึ่ง

    แม่ครัวเหม่ยซูเดินผ่านแต่ละโต๊ะอย่างตั้งใจ ให้คำแนะนำและหยุดชิมเล็กน้อย พยักหน้าให้บางคนเพื่อกำลังใจ เมื่อมาถึงโต๊ะของเสี่ยวหนี่ นางชะงักนิดหน่อยมองจานทั้งสอง“อาหารสองชนิดนี้เหมาะจะกินร่วมกัน”“เราสองคนถนัดในด้านนี้ อยู่ที่บ้านข้ามักจะปรุงจานหลักส่วนนางก็เป็นลูกมือปรุงจานรองเพื่อท่านพ่อ ครั้งนี้เราสองพี่น้องจึงอยากแสดงความตั้งใจเจ้าค่ะ เลยช่วยกันทำคนละจานเพื่อให้ท่านพิจารณา” จี้เหวินรีบพูดพร้อมกับยิ้มหวาน ก็มารดานางสั่งสอนมาให้รู้จักเลือกว่าจะเอาใจใครและคนฐานะใดที่ควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีจากจี้เหวินเสี่ยวหนี่ยิ้มมุมปากไม่พูดอะไร แม่ครัวเหม่ยซูเพียงพยักหน้า ไม่แสดงความเห็นก่อนตักไข่เจียวหมูสับขึ้นมาชิมเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนไปลองไก่ผัดพริก ริมฝีปากขยับเบาๆ ราวกับรับรสอย่างละเอียด“รสมือมั่นคง...เข้าใจอุณหภูมิไฟดี” นางกล่าวเรียบๆ แล้วเดินผ่านไปยังโต๊ะถัดไปเสี่ยวหนี่เพียงก้มหน้าหลบคำชมโดยไม่แสดงท่าทีมากนัก ส่วนเซี่ยหยาก็แอบส่งสายตาให้กำลังใจเล็กๆ จากอีกโต๊ะ ยิ้มดีใจด้วยที่เสี่ยวหนี่ได้รับคำชม“ขอบคุณอีกครั้งนะ เซี่ยหยา”เสี่ยวหนี่ขยับตัวเข้าหาเซี่ยหยากล่าวขอบคุณยิ้มๆ เซี่ยหยาหน้าแดงเล

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่16 เพื่อน(ร่วมงาน)

    “ไปที่ลานฝึกเถอะ มีนางในฝึกหัดเช่นเดียวกับพวกเจ้ารออยู่ด้านในจะได้ทำความรู้จักเพราะต่อไปข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน”เมื่อก้าวเข้าสู่เรือน เสียงจอแจและกลิ่นของอาหารหลากชนิดก็ประดังเข้ามาทันที อบเชย ขิงสด และผักสดหลากชนิดลอยอบอวลในอากาศ บรรยากาศภายในเรือนนั้นคึกคัก เต็มไปด้วยหญิงสาวในชุดผ้ากันเปื้อนหลากสี ต่างกำลังสับเนื้อ ล้างผัก บดเครื่อง หรือจดสูตรลงสมุดกันอย่างขะมักเขม้น“พวกเจ้ามากันใหม่สินะ” สาวร่างสูงหน้าคมนามว่า “หลิงเชียว” ท่าทางมั่นใจจนเกือบดูอวดดี กล่าวขึ้นก่อนใครเพื่อน“ข้า หลิงเชียว ถนัดอาหารทะเลจากชายฝั่งตะวันออก ไม่ได้โม้นะ แต่ข้าเคยเป็นแม่ครัวงานเลี้ยงระดับอ๋องมาแล้ว”“คนนี้ชื่อ ‘เฟิ่งหราน’ มาจากแคว้นใต้ ถนัดทำอาหารเผ็ดแรง พริกแห้งสามกำมือยังถือว่าน้อย” หลิงเชียวแนะนำหญิงสาวหน้าตาโฉบเฉี่ยวที่กำลังสับพริกเสียงดังอีกมุมหนึ่ง หญิงสาวร่างเล็ก ผิวขาวซีด กำลังนั่งบดเมล็ดงาเงียบๆ เหมือนอยู่ในโลกของตัวเอง ส่งเสียงแผ่วเบา“ข้า...ชื่อเซี่ยหยาเจ้าค่ะ ข้าถนัดทำของหวานนิดหน่อย..อาจจะไม่ดีที่สุดแต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ข้าพอทำได้.”“เซี่ยหยา ท่าทางเจ้าดูอ่อนโยนนุ่มนวลเห

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่15 บ้านทรายทอง

    วังหลวงเดือนเมษายนปีถังเจี้ยนที่24เสี่ยวหนี่ในชุดนางในใหม่เอี่ยมยืนยืดอกตรงหน้าประตูวังหลวงที่สูงตระหง่านเงยหน้ามองประตูวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าแลดูขึงขังเหมือนจะเข้าไปลุยสนามรบกระนั้น“นี่คือสถาน~ แห่งบ้านทรายทอง~ โห ยิ่งใหญ่ไปไหมอ่า ““คุณหนู!เบาๆ หน่อยเพคะ คุณหนู...ไม่กลัวหรือเพคะ”เสี้ยวอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ เหลือบมอง เสี่ยวหนี่หัวเราะเบาๆ พลางแกล้งสะบัดชายเสื้อ“กลัวไปก็เท่านั้น เรามาแล้วก็แค่ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”เสียงฝีเท้าของขันทีน้อยคนหนึ่งขัดจังหวะบทสนทนา “เรียนคุณหนูทั้งสาม เชิญทางนี้ขอรับ ข้าน้อยจะนำไปยังตำหนักฝึกหัดฝ่ายห้องเครื่อง ซึ่งในด่านแรกจะต้องพบกันเรือนพักพวกท่าน ของใช้ส่วนตัวที่นำมาไปเก็บๆ ไว้ที่นั่นได้เลย”เสี่ยวหนี่พยักหน้าเบาๆ พลางเดินออกหน้าตามขันทีไปอย่างสงบเรียบร้อย โดยมีจี้เหวินเดินตามหลังมาเงียบๆ แม้สีหน้าจะไม่พอใจที่ต้องมาร่วมทางด้วยกัน แต่ก็ไม่กล้าก่อความวุ่นวายกลางวังหลวงเส้นทางเดินปูหินเรียบทอดยาวผ่านสวนไผ่และแปลงสมุนไพร กลิ่นหอมของใบมินต์และขิงลอยอ่อนๆ ตามสายลม เรือนไม้ที่ประดับกระดิ่งลมขนาดเล็กตั้งเรียงรายดูอบอุ่นเป็นกันเอง จนไม่รู้สึกว่ากำลังเดิน

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่14ถนัดด้านการขาย

    เสี่ยวหนี่หรือ "ข้าวนึ่ง"ของเรา ที่ข้ามภพมาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ กับบทสนทนาวุ่นวายเมื่อครู่ทำเพียงแค่หยิบเมล็ดฟักทองขึ้นมาอีกเม็ด แกะเปลือกอย่างใจเย็นแล้วส่งเข้าปากเคี้ยวงับๆ“เอ๊ะ…นี่มันเข้าวังจริงเหรอ? ไม่ใช่ไปขายขนมหน้าวังใช่มั้ย จริงสินะ หากเป็นแค่การขาย….ทุกการขายรวมทั้งขายหน้าคุณหนูใหญ่จี้เหวินทำได้ดีอยู่แล้ว” เสี่ยวหนี่พูดขำๆ แววตายังระยิบระยับอย่างขี้เล่น ไม่ต้องเล่าซ้ำเพราะเสี่ยวหนี่ตะแคงหูฟังจนหูหางได้ยินชัดทุกคำ ว่าแต่มีฮ่องเต้มาบ้านทำไม่เสี่ยวหนี่ไม่รู้ หน้าตาจะเป็นแบบไหนนะฮ่องเต้คนนั้น“ข้าเห็นในละครเวลาใครเข้าวังแล้วมักไม่ได้กลับออกมาแบบครบสามสิบสองอะไรงี้... แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีของกินทุกวันเนอะ แล้วอย่าลืมไปขาย….หน้าเอาผ้ารอดเอ๊ยขายผ้าเอาหน้ารอดเอ๊ย ขายหน้าเอ๊ยถูกแล้ว”“เสี่ยวหนี่…” ท่านโจวพูดเบาๆ เสียงเขาแผ่วลงราวกับลมผ่านต้นชาบนไหล่เขา “ข้ารู้ว่าข้า... ผิด ข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้าถูกเข้าใจผิด ไม่ควรให้ใครแย่งความดีความชอบไปจากเจ้า และไม่ควรให้เจ้าเข้าไปพัวพันกับเรื่องในวังเลย”เขาหยุดไปชั่วครู่ ลมหายใจหนักหน่วงสะท้อนถึงความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่ภายใน“แต่ข้ากลัว…ข้

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่13เขาคือฮ่องเต้

    เมืองโจวเมืองโจวในหุบเขาตะวันตกเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ที่ไร้ชื่อเสียงในแผนที่ของแคว้น แต่กลับมีเสน่ห์เกินใคร ผืนไร่ชาที่ไล่เรียงลดหลั่นตามแนวเนินเขา กลิ่นหอมของใบชาที่เพิ่งเด็ดสด ๆ คลุ้งไปกับลมเย็นจากป่าเขาที่โอบล้อมอยู่รอบเมืองลำธารใสไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วแว่วอยู่เหนือยอดไม้ และทุกยามเช้า ชาวบ้านก็จะสวมหมวกฟาง เดินเข้าสวนชา หรือออกไปเก็บสมุนไพรและเครื่องเทศตามฤดูกาล บรรยากาศสงบสุข ราวกับโลกภายนอกไม่เคยแตะต้องณ กลางเมืองนั้นเอง คือคฤหาสน์ตระกูลโจว เรือนไม้หลังใหญ่ราวกับจวนอ๋องกระนั้นที่ทอดยาวลึกเข้าไปจนสุดเนินเขา ล้อมรอบด้วยสวนหิน ธารน้ำพุร้อนไหลผ่าน และซุ้มดอกไม้ กลิ่นหอมของบุปผาและเครื่องเทศอบอวลในอากาศไม่เคยจางในสวนหลังบ้าน ตรงเรือนพักกลางที่ล้อมด้วยเถาองุ่น จ้าวบ้านใหญ่ของเมือง—โจวหลิวเยว่ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ ดื่มน้ำชาร้อนจากถ้วยแก้วบาง แม้สีหน้าจะอ่อนล้า แต่ดวงตาของเขากลับอ่อนโยนขณะมองดูบุตรสาวคนเล็กที่กำลังรดน้ำผักริมรั้วไม้เตี้ยๆ ร้องเพลงดังของลิซ่าแบล็กพิงค์อย่างสนุกสนานหลายวันมานี่โจวหลินเยว่กลับรู้สึกว่าบุตรีคนรองที่เคยเงียบขรึมอาจจะเพราะนางถูก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status