"ที่แท้พวกเหล่าเหลยก็เป็นคนที่กำลังจัดการเรื่องนี้นี่เอง งั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว"หวังหยวนกวงทำท่าทีทั้งเสียดายทั้งหมดคำจะพูดถ้าเป็นคนอื่น เขาคงจะต้องพยายามต่อสู้เพื่อให้ได้โอกาสบ้างถึงอย่างไร โอกาสที่จะแสดงผลงานตัวเองต่อหน้าราชันมังกรลั่วเทียนก็ไม่ได้มีมากนักแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็ไม่ควรปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเปล่าๆแก๊งนักธุรกิจในประเทศหัวเซี่ยของเหลยเทียนสงนั้นยิ่งใหญ่กว่าเป่ยกั๋วกรุ๊ปของเขามาก"ถ้านายอยากช่วยจริงๆ ก็โทรหาเหลยเทียนสง ทำเรื่องที่นายพอทำได้ก็พอ" ลั่วอู๋ฉางพูดหวังหยวนกวงตื่นเต้นขึ้นมาทันที "ขอบคุณคุณลั่วครับ ผมจะโทรหาเหล่าเหลยตอนนี้เลย"พูดจบเขาก็กระโดดตัวลอยแล้ววิ่งออกไปหลิ่วซือหยินถึงกับมึนงง!ถ้าไม่ใช่เพราะเธอรู้จักหวังหยวนกวง เธอคงสงสัยว่าชายคนนี้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเป่ยกั๋วตัวปลอมแน่คุณลั่วใช้เวทมนตร์อะไรถึงทำให้หวังหยวนกวงภักดีได้ขนาดนี้กันนะยอมมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งด้วยความสมัครใจให้ยังไม่พอ ยังทำงานให้คุณลั่วทุกอย่างอีกเหมือนกับว่านี่เป็นบุญบารมีที่เขาได้สะสมมาถึงแปดชาติอย่างนั้นแหละกระทั่งตอนที่รู้ว่าตัวเองมีลูกสาวแท้ๆ ก็ยังไม่ตื่นเต
"สามถึงห้าพันล้านก็พอ แน่นอน ถ้านายสะดวกให้มากกว่านี้ ฉันก็ไม่มีปัญหานะ"เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องตอบรับอย่างรวดเร็วถึงแม้จะบอกว่าสามถึงห้าพันล้านหยวน แต่สำหรับตระกูลหม่าตอนนี้ มันก็เป็นเพียงหยดน้ำในทะเลเพลิงเท่านั้นแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลยอีกอย่าง สะสมไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นจำนวนมากเองโทรหาหลายๆ คนหน่อย เดี๋ยวก็หาได้ครบจำนวนเอง"ประธานหม่า ไม่ใช่ว่าเหล่าหลี่ไม่เห็นแก่หน้าคุณนะ แต่คุณโทรมาปุบปับแบบนี้ ผมโยกเงินไม่ได้จริงๆ"เสียงของชายวัยกลางคนดังมาจากลำโพงมือถือ "หรือไม่ คุณลองหาคนอื่นดูก่อนเพื่อหมุนเงินไปพลางๆ ก่อนไหม""ตอนนี้ผมยังติดธุระอยู่ แค่นี้ก่อนนะครับ!"หม่าเฉียนคุนเบิกตากว้างทันที กำลังจะพูดต่อ แต่อีกฝ่ายก็วางสายไปแล้ว"ตู๊ดๆๆ..."เสียงที่ระคายหูดังขึ้นมาหน้าแตกแล้ว!เมื่อครู่หม่าเฉียนคุนยังมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าอีกฝ่ายจะไม่ปฏิเสธอยู่เลยทำให้เขาไม่รู้จะเอาหน้าแก่ๆ ของตัวเองไปวางไว้ที่ไหนดี ต้องหาทางถอยให้ตัวเอง "ก็จริง ดึกขนาดนี้ อยู่ๆ โทรไป คนอื่นก็คงไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย""ไม่เป็นไร ฉันจะลองโทรหาอีกคน เหล่าหลิวขึ้นชื่อเรื่องมีเงินหมุนเยอะ เขาต้องไม่มีปั
"หรือไม่ ผมโทรหาถังเจียเจียก่อนดีไหม?" หม่าหยุนหลงนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาได้หลายปีก่อน ถังเจียเจียเคยตามจีบหม่าหยุนหลง ทั้งสองยังคงมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครืออยู่ช่วงหนึ่งต่อมาหม่าหยุนหลงถูกยืนยันว่าเป็นผู้มีดวงชะตาเป็นราชันแต่กำเนิด แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เห็นถังเจียเจียที่เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาอยู่ในสายตา และต่อมาไม่นานก็ไปคบกับจางอวิ๋นมู่แทนแต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความสัมพันธ์นี้ ในช่วงเวลาสำคัญก็ยังสามารถมีประโยชน์อยู่บ้าง"ได้ รีบโทรหาเธอเถอะ"หม่าเฉียนคุนก็มีหน้าตาแช่มชื่น "พ่อได้ยินว่าตระกูลถังกับพวกแซ่ลั่วดูเหมือนจะมีความขัดแย้งกันอยู่ด้วย""ซูหมิงหยาผู้หญิงโง่คนนั้น ก็เคยบอกกับคนอื่นหลายครั้งว่าไม่ชอบไอ้เด็กแซ่ลั่วคนนั้น คำที่ใช้หยาบคายสุดๆ ไม่มีปกปิดเลย"ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีทางเลือกจริงๆ ตระกูลถังเล็กๆ หม่าเฉียนคุนก็คงไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอกตอนนี้ขอเพียงหาพันธมิตรได้ สำหรับตระกูลหม่าก็เหมือนได้ฟางช่วยชีวิตหม่าหยุนหลงหยิบโทรศัพท์ออกมา ค้นหาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กดโทรออกไม่นานนัก อีกฝ่ายก็รับสาย"คุณชายหม่า ทำไมถึงนึกโทรหาฉันได้ พวกเรานี่ไม่ได้ติดต่อกันนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย?"
"ห้าหมื่นล้านสำหรับคนอื่นอาจจะเยอะ แต่สำหรับตระกูลถังของพวกเธอ ไม่น่าจะเท่าไหร่นะ"หม่าหยุนหลงเริ่มพูดเอาใจ "เจียเจีย เธออายุยังน้อยแต่ก็ได้เป็นผู้นำตระกูลถังแล้ว ต่อไปเธอจะกลายเป็นคุณหนูผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองอัน ที่มีพร้อมทั้งความงามและความสามารถ และสติปัญญาไว้ในคนเดียว!""ทุกคนต่างก็ต้องมองเธอด้วยความอิจฉา!""เงินเล็กน้อยแค่นี้ สำหรับเธอไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยหนิใช่ไหม?"คำพูดนี้ถูกใจถังเจียเจียเข้าอย่างจัง เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตัวลอยขึ้นมา"เรื่องเงิน ฉันช่วยได้ แต่คุณต้องบอกฉันก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น"เหตุผลที่ถังเจียเจียยังคงมีสติจนถึงที่สุดไม่ใช่เพราะเธอมีจิตใจเยือกเย็น แต่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเงินก้อนใหญ่ เธอต้องถามให้ชัดเจนหม่าหยุนหลงและหม่าอวี่เฟยสบตากันแล้วยิ้มสุดท้ายก็ยังต้องพึ่งลูกชายจริงๆ!"พูดตามตรง ตระกูลหม่าของเราถูกคนเล่นงานน่ะ!"ในเมื่อถังเจียเจียตกลงช่วยแล้ว หม่าหยุนหลงเลยเลือกสารภาพออกไปตรงๆ "มีคนแซ่ลั่ว ชื่อว่าลั่วอู๋ฉาง เป็นศัตรูกับตระกูลหม่าของเรา""ไม่รู้ว่าเขาไปรู้จักกับหวังหยวนกวง เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเป่ยกั๋วได้ยังไง อยู่ๆ ก็เล่นงา
"คำสั่งล่าสังหารในยุทธภพ?"หม่าอวี่เฟยทำหน้าเหวอ "มันคืออะไร จะได้ผลเหรอคะ?"หม่าหยุนหลงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ มองน้องสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างเย้ยหยันทันที "เสี่ยวเฟย มั่นใจหน่อย เอาคำว่า 'เหรอ' ออกไป""คำสั่งล่าสังหารในยุทธภพ เป็นรูปแบบหนึ่งของภารกิจนักฆ่า ซึ่งประกาศออกมาโดยมีรางวัลตอบแทน""ใครก็ตามที่เป็นคนในยุทธภพ สามารถเข้าร่วมได้ เมื่อกำจัดเป้าหมายในภารกิจได้แล้วก็สามารถไปรับรางวัลมหาศาลได้เลย""พวกพ่อรู้ไหม ว่าอาจารย์ของผมประกาศรางวัลไปเท่าไหร่?"หม่าอวี่เฟยพูดทันที "หนึ่งร้อยล้านเหรอ?"ในสายตาของเธอ ชีวิตคนหนึ่งคนมีค่ามากกว่านี้อีกแต่เพราะลั่วอู๋ฉางทำให้ตระกูลหม่าต้องสูญเสียมากมาย หม่าอวี่เฟยจึงเดาไปในทางสูงไว้ก่อน"ห้าร้อยล้าน!" หม่าหยุนหลงชูนิ้วห้านิ้วขึ้นมา"อะไรนะ?!" หม่าอวี่เฟยถึงกับตกใจจนอึ้งไปแค่คนบ้านนอกคนเดียว เขาคู่ควรหรือ?หม่าเฉียนคุนตื่นเต้นขึ้นมาทันที "เยี่ยมไปเลย!""อิทธิพลของสำนักกระบี่เหล็กรวมกับเงินรางวัลห้าร้อยล้าน ย่อมสร้างความสั่นสะเทือนในยุทธภพได้แน่นอน""ฉันกล้ารับประกันด้วยหัวของฉันเลยว่า ไอ้ลั่วอู๋ฉางคนนี้ จะต้องตายอย่างอนาถแน่!"แต่เดิ
"ท่านรองผู้บัญชาการครับ แล้วทางสำนักกระบี่เหล็กจะทำยังไง?"จวงจวิ้นข่ายกัดฟันพูดอย่างเคียดแค้นว่า "พวกเขาเป็นคนประกาศคำำสั่งล่าสังหารในยุทธภพนั้น เรื่องนี้จะไม่จบแค่นี้แน่!"เขาในฐานะหนานเทียนหวัง อุตส่าห์มานั่งบัญชาการอยู่ที่เมืองอันด้วยตัวเองแล้ว แต่ก็ยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้นี่ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าแตกธรรมดาแล้ว!เขาต้องกู้หน้ากลับคืนมาให้ได้ต้องล้างแค้นด้วยเลือด!"ฉันได้ส่งเสี่ยวเป่ยไปจัดการสำนักกระบี่เหล็กแล้ว นายแค่รับผิดชอบตระกูลหม่าให้เรียบร้อยก็พอ" หวังไค่สวนพูดเสียงเข้มจวงจวิ้นข่าย "เข้าใจแล้วครับ!""จำไว้ เรื่องเล็กๆ แบบนี้อย่าให้ท่านอาจารย์ต้องเป็นกังวล" หวังไค่สวนเตือนจวงจวิ้นข่ายรีบรับปากว่า "ท่านวางใจได้ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยแน่นอนครับ!"ในขณะเดียวกันหวังหยวนกวงกำลังโทรหาเหลยเทียนสงของแก๊งนักธุรกิจในประเทศหัวเซี่ย "ท่านเหลย ท่านรู้เรื่องคำสั่งล่าสังหารในยุทธภพหรือยัง?""เพิ่งจะรู้เมื่อกี้นี้เอง" เหลยเทียนสงตอบหวังหยวนกวงดูร้อนรน "จะทำยังไงดี? เราไม่สามารถปล่อยให้คุณลั่วโดนคนในยุทธภพล่าค่าหัวได้หรอกนะ!"เขาเป็นคนทำธุรกิจ ปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้พบกับนักบู
หม่าเฉียนคุนเมื่อมีสำนักกระบี่เหล็กเป็นคนช่วยสนับสนุน ก็เริ่มมีความกล้าหาญขึ้นมาทันที"บุกเข้าบ้านฉันกลางดึกแบบนี้ แถมยังกล้าทำร้ายคน ทำลายประตู พวกแกเสียสติกันแล้วใช่ไหม!""แกคือหม่าเฉียนคุนใช่ไหม?"ชายหนุ่มที่นำหน้ามาแหล่มองไปที่เขาและย้อนถามกลับ"ใช่แล้ว ฉันเอง!"หม่าเฉียนคุนโอหังหนักกว่าเดิม "แล้วแกเป็นใครล่ะ ยังไม่รีบบอกชื่อมาอีก!""บังอาจ!"ชายวัยกลางคนที่ลงมือก่อนหน้านี้ตะโกนด้วยความโกรธใส่หม่าเฉียนคุนชายหนุ่มโบกมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่รีบร้อน "ฉันมาด้วยเรื่องของคุณลั่วอู๋ฉาง"หม่าเฉียนคุนมั่นใจมากว่ายังไงลั่วอู๋ฉางก็ต้องตาย ดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย พูดอย่างโอหังว่า "ทำไม พวกแกมาขอความเมตตาให้คนแซ่ลั่ว คิดจะให้ฉันปล่อยมันไปงั้นเหรอ?""ฉันบอกพวกแกไว้เลย ไม่มีทางหรอก!""แม้พวกแกจะคุกเข่าลงต่อหน้าฉันและขอร้องอ้อนวอนก็ไม่มีประโยชน์! ยิ่งมาในลักษณะนี้ ก็ยิ่งไม่มีทางเจรจากันได้เลย!"ยังไงลั่วอู๋ฉางก็ต้องตาย!นี่ไม่ใช่แค่ความคิดของหม่าเฉียนคุนเท่านั้น แต่ยังเป็นความปรารถนาร่วมกันของพี่น้องหม่าหยุนหลงและหม่าอวี่เฟยด้วยพี่น้องทั้งสองคนนั่งอยู่บนรถเข็น ซึ่งถูกคนรับ
เมื่อเทียบกับหน่วยรักษาการณ์แล้ว สำนักกระบี่เหล็กเทียบด้วยไม่ได้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว!แค่หน่วยรักษาการณ์เพียงสั่งคำเดียว สำนักกระบี่เหล็กก็ต้องปฏิบัติตามแม้จะต้องถูกทรมาน ก็ต้องกัดฟันทนไว้ให้ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คือหนึ่งในราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่จากสำนักงานใหญ่หน่วยรักษาการณ์แห่งเมืองหลวงมาเองด้วยสำนักกระบี่เหล็กเมื่ออยู่ต่อหน้าของท่านจวงผู้นี้ ยิ่งแทบเล็กจ้อยกว่าเศษฝุ่นอีกทั้งสามคนในครอบครัวถึงกับตะลึงไป!บุคคลที่มีอำนาจมากขนาดนี้ กลับมาเพื่อช่วยลั่วอู๋ฉางคนบ้านนอกที่ไม่มีชื่อเสียงคนนี้ แท้จริงมีภูมิหลังเป็นเช่นไรกันแน่?ก่อนหน้านี้มีตระกูลซูและตระกูลหลิ่วให้การสนับสนุน ต่อมาก็มีเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเป่ยกั๋วอย่างหวังหยวนกวงคอยหนุนหลัง และตอนนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยรักษาการณ์ออกหน้ามาช่วยอีก"ตอนนี้รู้แล้วว่าฉันเป็นใคร พวกแกก็ไปตายได้อย่างสงบแล้วใช่ไหม?"จวงจวิ้นข่ายยิ้มเย็นชาพลางยกมือชี้ไปยังคนแก่ที่อยู่ข้างๆ "ผู้อาวุโสท่านนี้มีนามว่า หนิงลี่เหิง และอีกสี่คนเป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากท่านโดยตรง""วันนี้พวกเขาศิษย์อาจารย์จะรับผิดชอบส่งครอบครัวพวกแกไป
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค