"ฉัวะ!"แสงดาบพาดผ่าน หัวคนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงพื้น!หม่าเฉียนคุนตกใจจนตัวเกร็ง ดาบที่อยู่เหนือศีรษะเขายังคงชูขึ้นสูง แต่ยังไม่ฟันลงมาคนกลุ่มแรกที่ถูกสังหารก็คือพวกนักบู๊ที่ตระกูลหม่าจ้างมาในราคาแพงบางคนพยายามต่อต้าน หวังจะใช้ความวุ่นวายนี้หลบหนีไปแต่กลับถูกเพชฌฆาตมือเปื้อนเลือดศิษย์อาจารย์ห้าคนสังหารจนหมดมองไปก็เห็นแต่เลือดไหลเป็นสายน้ำ คนในตระกูลหม่าต่างตัวสั่นเทาด้วยความกลัวพวกเขายังไม่ทันได้ดีใจ ดาบก็ได้ฟาดลงมาที่ศีรษะของพวกเขาแล้วหัวของคนอีกกลุ่มหนึ่งร่วงหล่นและกลิ้งไปทั่วอีกครั้ง!ตอนนี้คนที่ยังหายใจได้ เหลือเพียงแค่หม่าเฉียนคุนและลูกๆ อีกสองคนเท่านั้นหม่าอวี่เฟยตกใจจนหมดสติอยู่บนรถเข็น ปัสสาวะอุจจาระเต็มกางเกงไปหมดหม่าหยุนหลงก็ไม่ต่างกันนัก ใบหน้าซีดเผือด เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมาไม่หยุด"ผมยังไม่อยากตาย ผมยังอายุน้อย ยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่!"หม่าหยุนหลงเงยหน้าขึ้นอย่างแรง ถามเสียงดังและไม่พอใจว่า "ทำไม ทำไมพวกคุณถึงต้องออกหน้าแทนเด็กหนุ่มไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งด้วย?""ไอ้คนแซ่ลั่วนั่นมันก็แค่คนบ้านนอก เขามีคุณสมบัติอะไร?!""ฉึก!"ดาบยาวเล่มหนึ่งแทงทะลุหน้าอกของ
ชายหนุ่มผอมแห้งหัวเราะเย็นชา "ไม่เมื่อแกต้องการให้เขาตาย ในฐานะศิษย์ พวกเราจึงต้องฆ่าแกก่อน!"หัวหน้าสำนักตกใจจนหน้าซีดเผือด "ลั่วอู๋ฉางคนนั้น ไอ้บ้านนอกคนนั้น เขา...""เพี๊ยะ!"ชายหนุ่มผอมแห้งฟาดฝ่ามือไปหนึ่งที หัวหน้าสำนักก็ถูกตบจนกระเด็นลงไปนอนกับพื้นทันที"ถึงขนาดนี้แล้ว ยังกล้าลบหลู่ท่านอาจารย์ของพวกเราอีก!"หัวหน้าสำนักเพิ่งจะตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์!ในใจของเขา คิดสาปแช่งบรรพบุรุษเพศหญิงของตระกูลหม่าหยุนหลงไปหลายครั้งไหนบอกว่า อีกฝ่ายเป็นแค่คนบ้านนอกที่ไม่มีชื่อเสียงและไม่มีใครหนุนหลังไง?คนบ้านนอกคนหนึ่งสามารถสั่งการหน่วยรักษาการณ์ของเมืองหลวงได้ด้วยหรือ?ความโอหังของหัวหน้าสำนักลดลงเหลือศูนย์ทันที รีบเปลี่ยนคำพูด "เป็นเพราะผมมีตาแต่ไร้แวว ทำเรื่องผิดพลาดไป แต่พวกท่านไม่ต้องถึงขั้นฆ่ากันก็ได้ไหม?""พูดกันดีๆ ให้ผมยกเลิกคำสั่งล่าสังหารในยุทธภพไปไม่ดีกว่าหรือ?"ชายหนุ่มผอมแห้งฮึดฮัดเล็กน้อย ส่ายหัวแล้วพูด "อาจารย์ถูกดูหมิ่น พวกเราในฐานะศิษย์ก็เสียหน้ามาก!""การกำจัดสำนักกระบี่เหล็กของแกให้สิ้นซากนั้น ตรงไปตรงมากว่าการยกเลิกคำสั่งล่าสังหารอีกไม่ใช่หรือ?""เช
"จัดการได้แล้วเหรอ?"ใบหน้างดงามของหลิ่วซือหยิน เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ ตอนที่เธอได้ยินเรื่องมีการออกคำสั่งล่าสังหารในยุทธภพเป้าหมายคือลั่วอู๋ฉาง เธอรู้สึกกังวลจนสุดขีดกลัวจนแทบจะร้องไห้!เงินรางวัลมากมายถึงห้าพันล้าน เพียงพอที่จะทำให้คนทั้งยุทธภพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะเมื่อคนเหล่านั้นได้ยินว่าลั่วอู๋ฉางไม่มีแบ็คกราวด์ ไม่มีคนหนุนหลัง และเคยติดคุกถึงสี่ปี เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมา พวกเขาก็ยิ่งไม่เกรงกลัวต่างคนต่างโม้ว่า จะเป็นเจ้าของเงินรางวัลมหาศาลนี้ให้ได้นักบู๊ในยุทธภพกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองอัน โดยลั่วอู๋ฉางก็เป็นเป้าหมายของพวกเขาทั้งหมดหลิ่วซือหยินรีบโทรหาลุงรอง หลิ่วเจิ้นเจียง คิดว่าเขามีเพื่อนมากมาย อาจจะช่วยลั่วอู๋ฉางให้พ้นจากวิกฤติได้แต่หลิ่วเจิ้นเจียงปฏิเสธทันที!นั่นคือคำสั่งล่าสังหารในยุทธภพเลยนะ!และยิ่งไปกว่านั้น คำสั่งล่าสังหารนี้ยังถูกออกโดยสำนักกระบี่เหล็กที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนืออีกนอกจากลั่วอู๋ฉางจะตาย มิเช่นนั้นเงินรางวัลนี้ก็จะยกเลิกไม่ได้หลิ่วซือหยินไม่สบายใจจึงรีบขับรถมาหาทันทีผลปรากฏว่า เพิ่งลงจากรถก็ได้ยินข่าวว่าทุ
หลิ่วซือหยินไม่ได้คิดว่านี่เป็นเพราะโชคดีของลั่วอู๋ฉาง แต่รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น"รีบมาซะเช้าขนาดนี้ คงยังนอนไม่พอแน่ๆ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ" ลั่วอู๋ฉางพูดยิ้มๆหลิ่วซือหยินคิดว่าในเมื่อมาแล้ว ก็ไม่ควรกลับไปง่ายๆ แบบนี้"คิดว่ากลับไปก็คงนอนไม่หลับ เอาแบบนี้ ฉันจะเลี้ยงข้าวเช้าพวกคุณแทนนะ อยากกินอะไรก็บอกมาเลย ฉันจะไปซื้อมาให้!"ลั่วอู๋ฉางบอกว่าอะไรก็ได้ ส่วนซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็บอกเมนูที่ตัวเองชอบไม่กี่อย่างออกไปหลิ่วซือหยินรีบออกไปซื้ออาหารเช้าอย่างกระตือรืนร้นทันทีข้างนอก คนของตระกูลซูก็ถอนตัวออกไปแล้วทางฝั่งหลิ่วซือหยินเพิ่งเดินออกไปได้ไม่นาน รถโรลส์รอยซ์คันหนึ่งก็เข้ามาจอดใต้ตึกเล็กๆหลิ่วเจิ้นเจียงในชุดสูทเต็มยศ สวมรองเท้าหนังมันวาว ก้าวเข้าไปด้วยท่าทางหยิ่งผยองเต็มที่"ลั่วอู๋ฉาง"ตอนที่หลิ่วซือหยินออกไปไม่ได้ล็อกประตู หลิ่วเจิ้นเจียงจึงขึ้นมาที่ชั้นสองได้โดยง่าย"นายเองเหรอ?" ลั่วอู๋ฉางเงยหน้าขึ้น มองด้วยสีหน้าที่มีความไม่พอใจเล็กน้อยลั่วอู๋ฉางมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อหลิ่วเจิ้นเจียงอยู่แล้ว และการปรากฏตัวในฐานะผู้มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญยิ่งทำให้ลั่วอู๋ฉางย
"เรื่องนี้เป็นการตกลงระหว่างผมกับคุณหลิ่ว เพราะฉะนั้นรอให้เธอกลับมาก่อนค่อยว่ากันเถอะ"ลั่วอู๋ฉางไม่ได้ปิดบังความไม่พอใจของตนเลย แต่กลับออกปากไล่แขกไปตรงๆเดิมทีทุกคนก็ไม่ได้สนิทกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันหรอก!ความจริงแล้ว ตอนแรกลั่วอู๋ฉางก็มีความเห็นต่างเรื่องการแบ่งหุ้นอยู่แล้วที่เขาได้หุ้นไปสี่ส่วน ก็เพราะหลิ่วซือหยินและซูเทียนคั่วยืนยันอย่างหนักแน่น เขาจึงยอมรับด้วยความจำใจด้วยนิสัยของลั่วอู๋ฉางที่มองเงินทองเหมือนเศษดิน รวมกับทรัพย์สินส่วนตัวของเขาที่สะสมไว้มากมายจนถึงขั้นน่าตกใจเงินเล็กน้อยพวกนี้ เขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วถ้าลั่วอู๋ฉางอยากได้เงิน เขาแค่เอยปากกับเหลยเทียนสงและคนอื่นๆ ว่าตัวเองมีเวลาว่าง ถ้ามีญาติหรือเพื่อนต้องการการรักษา ให้พามาก็ได้แล้วรักษาคนป่วยให้หายแค่คนเดียว ก็สามารถเอาทรัพย์สินส่วนตัวของคนป่วยไปได้ตั้งครึ่งหนึ่งแล้วได้เงินมาอย่างรวดเร็วและแน่นอน แบบนี้ไม่น่าดึงดูดกว่าเหรอ?แล้วทำไมต้องยุ่งยากไปทำธุรกิจด้วยล่ะถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าอาจารย์หญิงเย่ปิงเหยาและศิษย์น้องซูเฉี่ยนเฉี่ยน เขาก็คงไม่คิดจะนำยาแก้บาดเจ็บออกมาหาเงินหรอกตัวลั่วอู๋ฉา
ชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหราเดินก้าวเข้ามาด้วยท่าทีหยิ่งยโสหลิ่วเจิ้นเจียงหน้าแดงด้วยความอับอาย สีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ"คุณเป็นใครอีกเนี่ย?" ซูเฉี่ยนเฉี่ยนถามออกมาอย่างไม่เกรงใจวันนี้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเยอะเป็นพิเศษนะ!และแต่ละคนก็ยิ่งน่ารำคาญขึ้นเรื่อยๆ!"ขอแนะนำตัวเองหน่อย ฉันชื่ออวิ่นเหวินห้าว"ชายหนุ่มพูดอย่างโอหัง เชิดคางขึ้นสูง ทำท่าราวกับไม่เห็นใครอยู่ในสายตา "พ่อของฉันคือผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักเทียนกาง ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า แขนเหล็กหมัดเทวดา"ลั่วอู๋ฉางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักชื่อสำนักเทียนกางนี้อยู่แล้วหลิ่วเจิ้นเจียงเสริมว่า "คุณชายอวิ่นยังมีอีกสถานะหนึ่ง นั่นคือคู่หมั้นของเสี่ยวหยิน""เขายังหนุ่มแน่น แต่กลับเป็นผู้นำรุ่นเยาว์ของสำนักเทียนกาง และเป็นหนึ่งในยอดคนของบู๊ลิ้มรุ่นหลัง""ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชาติกำเนิด พรสวรรค์ หรือด้านอื่นๆ คนแบบแกไม่มีทางเทียบได้เลย!"อวิ่นเหวินห้าวรู้สึกตัวลอยทันที สีหน้าของเขายิ่งยโสโอหังขึ้นไปอีก "ฉันเชื่อว่าแกคงรู้ถึงชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของสำนักเทียนกางเราดี""ฉันคร้านจะเสียเวลาพูดไร้สาระกับแก เลือกเอา จะย
"อึก!"อวิ่นเหวินห้าวถูกตบจนกระเด็นลอยออกไปนอกประตู ล้มลงบนขั้นบันไดอย่างแรง"ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก"เขากลิ้งลงไปตามทาง ชุดแบรนด์เนมราคาแพงเต็มไปด้วยรอยขาดและคราบดินโคลนอวิ่นเหวินห้าวนอนคุดคู้อยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ร่างกายกระตุกสั่นไม่หยุดสภาพของเขาตอนนี้ คำว่าย่ำแย่ก็ไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนหลิ่วเจิ้นเจียงเบิกตากว้าง ไม่เคยคิดแม้ในฝันว่าลั่วอู๋ฉางจะกล้าลงมือกับคนอื่น!แถมยังลงมือหลังจากที่อวิ่นเหวินห้าวเปิดเผยตัวตนและข่มขู่เขาแล้วอีกด้วย!ไอ้เด็กนี่ ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน?กล้าลงมือลูกชายของผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักเทียนกาง อยากตายมากนักหรือไง?มีคำกล่าวว่า ตบคนอย่าตบหน้าอวิ่นเหวินห้าวเป็นคุณชายใหญ่ที่มีพื้นฐานครอบครัวไม่ธรรมดา สิ่งที่เขาหวงแหนที่สุดก็คือเรื่องหน้าตาเขาจะทนการถูกตบหน้าอย่างซึ่งหน้าจากคนที่เขาดูถูกได้อย่างไร!และยังต่อหน้าผู้ใหญ่ของครอบครัวคู่หมั้นอีก คาดว่าอวิ่นเหวินห้าวคงเกลียดลั่วอู๋ฉางจนถึงกระดูกดำไปแล้วถ้าเป็นไปได้ คงอยากจะฉีกเขาออกเป็นแปดชิ้นเพื่อระบายความแค้นในใจปมความแค้นนี้คงไม่สามารถคลายออกได้แล้ว!"ลั่วอู๋ฉาง แกบ้าหรือเปล่า?"หลิ่วเจิ
หลิ่วเจิ้นเจียงไม่ทันตั้งตัว เลยถูกผลักจนเสียหลักใบหน้าอวิ่นเหวินห้าวเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เหวี่ยงหมัดเหล็กทั้งสองข้างออกมาอย่างดุดันก้าวเท้าพุ่งเข้าไปหาลั่วอู๋ฉางข้างหน้าอย่างรวดเร็ว"หมัดเทวดาไร้พ่าย..."อวิ่นเหวินห้าวมั่นใจในฝีมือของตนเองมากเพราะตั้งแต่เขาจำความได้ ทุกครั้งที่ประลองกับคนอื่น เขาก็ไม่เคยแพ้ใครเมื่อครู่เพราะไม่ได้ป้องกันใดๆ และอีกฝ่ายก็โจมตีมาโดยไร้มารยาท โจมตีอย่างกระทันหันเพราะงั้นเขาถึงเสียเปรียบเล็กน้อยตอนนี้อวิ่นเหวินห้าวเป็นฝ่ายบุก และยังใช้วิชาครอบครัว ดังนั้นต้องชนะแน่!"พลั่ก!"ลั่วอู๋ฉางเตะออกไปอย่างเบาๆ แต่รวดเร็วกว่า โดนเข้าที่ท้องของอวิ่นเหวินห้าวอย่างจังอวิ่นเหวินห้าวคนนี้มัวแต่จะจ้องโจมตี จนไม่ทันสังเกตว่าได้เปิดช่องว่างโจมตีของตัวเองไปแล้วไม่ต้องพูดถึงลั่วอู๋ฉางเลย แม้แต่คนที่ฝีมือด้อยกว่านี้ก็สามารถโจมตีกลับได้อย่างง่ายดายแต่อวิ่นเหวินห้าวกลับไม่รู้ตัวเลยสักนิดเพราะตั้งแต่เด็กจนโต ทุกคนเกรงใจพ่อของเขาเลยยอมให้เขาชนะมาตลอดแม้ว่าเขาจะเผยจุดอ่อนใหญ่แค่ไหน ทุกคนก็ไม่เคยโจมตีเขาจริงๆ แค่แสร้งว่าฝึกฝนไปด้วยกันเท่านั้นแล้วก็หาจั
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค