"คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมมาแล้ว?" ลั่วอู๋ฉางถามขึ้นอันที่จริงเขาอยากถามว่า คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมจะไปรักษาเกาฉี่เฉียงเกาชิงเหยียนยังรักษารอยยิ้มเอาไว้ จากนั้นพูดขึ้น "เซี่ยซินซินโทรหาฉัน บอกว่าคุณลางานไปเยี่ยมผู้ป่วย ฉันก็เลยรอคุณที่นี่""ฉลาดดี" ลั่วอู๋ฉางก้าวเข้าไปในรถเกาชิงเหยียนขึ้นรถตามไป และปิดประตูรถทันทีที่รถสตาร์ท เธอก็อดใจไม่ไหวที่จะถามขึ้น "คุณลั่ว ทำไมคุณมาทำงานที่บริษัทของฉันคะ?""ช่วยไม่ได้ ผู้ใหญ่ในบ้านจัดการ คนรุ่นพวกเขามักมีความคิดดื้อดึงว่า มีงานทำถึงจะนับว่ามั่นคง" ลั่วอู๋ฉางพูดอธิบายเกาชิงเหยียนพยักหน้าติดต่อกัน "ฉันเข้าใจแล้ว! งั้นคุณทำไมถึงไม่บอกฉันก่อนล่วงหน้า แบบนั้นก็ไม่มีท่างเกิดเรื่องที่ฝ่ายบุคคล"ถ้าเธอรู้ว่าลั่วอู๋ฉางอยากทำงาน คงจะยกชิงเหยน กรุ๊ปให้เขาโดยตรง"ผมก็เพิ่งมารู้เมื่อตอนมาถึง"ลั่วอู๋ฉางยิ้มและพูดว่า "ต่อไป คุณก็คือหัวหน้าของผม สวัสดีครับประธานเสี่ยวเกา!"“คุณ... อย่าทำอย่างนี้ มันน่าอายจริงๆ สำหรับฉัน เด็กผู้หญิงตัวเล็กไม่กล้ารับไว้!” เกาชิงเหยียนรู้ว่าเขาล้อเล่น แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของลั่วอู๋ฉางดังขึ
“อารอง คุณอามาได้อย่างไรคะ?” เกาชิงเหยียนตกตะลึงเกาฉี่เซิ่งหน้านิ่งเหมือนสายน้ำ ขาดแค่เขียนคำว่าไม่พอใจบนหน้าผาก จากนั้นพูดด้วยความโมโห “ฉันไม่มาได้เหรอ? ตระกูลนี้ ไม่ควรจะมอบให้เธอรับผิดชอบ!”“พี่ใหญ่อาการหนักขนาดนั้น เธอกลับพาเขาย้ายไปมา อยู่ที่โรงพยาบาลประจำเมืองเอกดี ๆ กลับพากลับมาที่เมืองจิงไห่ สิ่งอำนวยความสะดวกเทียบกับเมืองเอกได้อย่างไร! รับกลับมาก็รับกลับมาเถอะ เธอไม่ให้เขาแอดมิทที่โรงพยาบาล ส่งกลับมาบ้านนี่มันยังไงกัน?”“รับกลับมาเธอก็ไม่สนใจ แต่ละวันออกไปปรากฏตัวในสังคม แถมยังมีอารมณ์จัดงานเลี้ยงการกุศลอะไร นี่ให้คนเขาหัวเราะเยาะ ๆ ชัด ๆ”“ฉันตัดสินใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อาการป่วยของพี่ใหญ่กับเรื่องทั้งหมดของตระกูลเกา ฉันเป็นคนจัดการ! เธอเด็กผู้หญิง ไม่ต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายแล้ว!”เกาชิงเหยียนร้อนใจทันที “อาดูพ่อของหนู เขาดีกว่าเมื่อก่อนแล้ว หนูเชิญหมอเทวดามารักษาเขา ไม่นานก็จะหายดีแล้ว”“ดีอะไรล่ะ ยังหมดสติอยู่ไม่ใช่เหรอ! หมอเทวดาบ้าบอ เธอต้องถูกหลอกแน่นอน หมอเทวดาอยู่ที่ไหน?”เกาฉี่เซิ่งมองไปรอบ ๆ สายตาจ้องมองไปที่ลั่วอู๋ฉาง “หรือว่าเป็นเขาเหรอ?”เกาชิงเหยียน
"ตั้งใจพูดให้กลัว พูดจาซี้ซั้วจริง ๆ!"หลี่วิลเลียมตะโกนใส่ลั่วอู๋ฉาง แต่เห็นได้ชัดว่า เขาไม่เพียงไม่ใส่ใจกับคำเตือน แถมยังคิดว่าลั่วอู๋ฉางตั้งใจขัดขวางเกาฉี่เซิ่งสีหน้าบึ้งตึง พูดด้วยความโมโห "ไอ้หนุ่ม ศาสตราจารย์หลี่มีความใจดีให้นายได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้ นายกลับตอบแทนคุณด้วยการบูชาโทษ อีกเดี๋ยวรอพี่ชายฉันฟื้น เรื่องแรกที่ฉันจะทำคือตัดลิ้นของนาย ดูว่าต่อไปนายจะพูดพร่ามอย่างไร!""อารอง คุณลั่วต่างหากที่จะรักษาคุณพ่อให้หายได้ คุณอาเชื่อหนูสิ!" เกาชิงเหยียนพูดเสียงดังเกาฉี่เซิ่งพูดอย่างดูถูก "เขาเนี่ยนะ? แค่ดูก็รู้ว่าคนหลอกลวง มากสุดก็แค่แพทย์แผนจีนบ้านนอก สามารถรักษาอาการปวดหัวโรคเล็ก ๆ ได้หรือเปล่าก็ยังยาก จำเทียบกับทีมแพทย์ระดับสูงของต่างประเทศได้อย่างไร""อารู้ว่าเธอเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่ใหญ่ จึงทำเรื่องที่รับการรักษาไปทั่ว อารองเข้าใจ แต่เธอจะทำตามความคิดของตัวเองไม่ได้!""ไม่นานมานี้ ศาสตราจารย์หลี่ได้ตรวจทำการตรวจสอบให้พี่ใหญ่แล้ว มั่นใจว่าสามารถรักษาหายได้ เมื่อครู่พาพวกผู้ช่วยไปรับอุปกรณ์ ถ้าเธอมาช้าอีกครึ่งชั่วโมง พี่ใหญ่คงรักษาหายแล้วแน่นอน"หลี่วิลเลีย
เกาชิงเหยียนพูดอย่างหนักแน่น "คุณอาพูดถูกแล้ว หนูเชื่อแต่คุณลั่วเท่านั้น!""เกินเยียวยาแล้ว เธอทำให้อาผิดหวังมาก! อารองไม่ยอมให้เธอทำเรื่องวุ่นวายอีกแล้ว จะให้เธอเอาชีวิตของพี่ใหญ่ไปล้อเล่นไม่ได้ ใครก็ได้ จับเกาชิงเหยียนเอาไว้" เกาฉี่เซิ่งออกคำสั่งเกาชิงเหยียนตอบโต้ทันที "ดูสิว่าใครกล้า! อาตาว จับเกาฉี่เซิ่งคนเลอะเลือนคนนี้เอาไว้!""รับทราบ คุณหนู!"ร่างกำยำพุ่งเข้ามา ไม่รอเกาฉี่เซิ่งทำการขัดขืน ก็ถูกต้อนเข้ามุม มือทั้งสองถูกจับเอาไว้แน่น ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้“พี่เซิ่ง พี่เข้าใจผิดไปแล้วจริง ๆ!” พี่ตาวพูดอย่างเย็นชาเกาฉี่เซิ่งตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้ "บ้าไปแล้ว พวกคุณบ้าไปแล้ว!"เกาชิงเหยียนน้ำตาไหลพรากมองไปทางลั่วอู๋ฉาง ปากเล็ก ๆ พูดอย่างน่าสงสาร "คุณลั่ว......""ยังจำสมญานามของผมได้ไหม?" ลั่วอู๋ฉางถามกลับเกาชิงเหยียนพูดโดยไม่ต้องคิด: " มังกรลั่วออกมา พญายมล่าถอย!"ลั่วอู๋ฉางยิ้มเล็กน้อย "ในเมื่อมีผมอยู่ พญายมมาก็อย่าคิดจะเอาพ่อคุณไป""ขอบคุณคุณลั่ว!" เกาชิงเหยียนหยุดร้องไห้ในทันทีแล้วยิ้มออกมาลั่วอู๋ฉางก้าวไปข้างหน้า สองมือขยับไปมา เห็นเพียงแค่แสงสีเงินระยิบระยับติดต่อก
“พี่ชาย นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เกาฉี่เซิ่งรู้สึกสับสน จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเกาฉี่เฉียง โบกมือ พี่ตาวก็ปล่อยมือทันที"ก่อนหน้านี้คุณลั่วพบหนอนคุณไสยภายในร่างกายของฉัน ช่วยฉันถอนพิษได้สำเร็จ วันนี้นับว่าเป็นการรักษาระยะที่สอง เป็นการเรียกฉันให้ตื่นโดยเฉพาะ" เกาฉี่เฉียงพูดอธิบาย"ยังมีเรื่องเมื่อสามปีก่อน ฉันก็คุณลั่วช่วยชีวิตเอาไว้ นับรวมครั้งนี้ เขามีบุญคุญช่วยชีวิตฉันไว้สองครั้งแล้ว!"สามปีที่แล้ว เกาฉี่เซิ่งถูกศัตรูล้อมเอาไว้ในบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง เมื่อเห็นว่าจะป้องกันไว้ไม่ไหวแล้ว เป็นเกาฉี่เฉียงที่พาคนบุกเข้ามาช่วยเหลือแต่เนื่องจากศัตรูแข็งแกร่งเกินไป เกาฉี่เฉียงจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส เพียงแค่บาดแผลจากกระสุนปืนก็มีสี่จุด บวกกับบาดแผลถูกแทงหลายสิบบาดแผลที่มีความลึกต่างกันเลือดของเกาฉี่เฉียงเกือบจะไหลจนหมดแล้ว บนร่างกายของเขาหาเนื้อดีไม่ได้สักจุด เมื่อเห็นว่าจะตายแล้ว เป็นเพราะก่อนห้านี้เหลยเทียนสงติดหนี้บุญคุณต่อตระกูลเกา จึงแนะนำเกาฉี่เฉียงให้ไปหาลั่วอู๋ฉาง ถึงได้รอดชีวิตกลับมาเกาฉี่เซิ่งถลึงตาโต "งั้นทำไมพวกพี่ถึงไม่บอกฉัน?"“ยิ่งมีคนรู้เรื่องนี้น้อยเ
สองพี่น้องตระกูลเกากลับตกตะลึงอย่างมาก!ต้องรู้ว่ากำลังของตระกูลสวี แซงหน้าตระกูลเกาไปเยอะมาก ต่อให้รวบรวมกำลังทั้งตระกูล ก็ไม่แน่ว่าจะสู้ชนะต่อให้สู้ชนะ มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่น่าอนาถจากการทำร้ายศัตรูนับพัน แต่สร้างความเสียหายให้กับตัวเองพันสองกลับคิดไม่ถึงว่า สวีเทียนที่อวดดีอย่างบ้าระห่ำ บวกกับราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่และนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ชื่อเสียงอื้อฉาวเป็นที่รู้จักกัน ถูกลั่วอู๋ฉางกำจัดแก๊ง!นี่มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!ทุกคนบอกว่าตระกูลเการีบร้อนเกินไปที่เปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ถูกต้อง ดังนั้นถึงได้ให้โอกาสตระกูลสวีพัฒนาอย่างรวดเร็ว เท่ากับเป็นการปล่อยให้ศัตรูทำความผิดในความเป็นจริง เกาฉี่เฉียงไม่เคยคิดที่จะจำกัดสวีเทียน ส่งคนแอบไปทำลายหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายไม่สามารถทำสำเร็จได้สวีเทียนไอ้หมอนี่เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ถ้าหากตระกูลเกาถอนตัวไม่ทันเวลา อาจจะกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสวีเทียนในการปีนป่ายไปยังจุดที่สูงขึ้นตอนนี้ ในที่สุดภัยพิบัติก็ถูกจัดการแล้ว!"สองพี่น้อง อย่างพึ่งรีบตกตะลึง ไอ้หมอนี่ควรจะการอย่างไร?" พี่ตาวทำปากมุ่ยไปที่พวกหลี่วิลเลียมฝรั่งปล
ร้านจักรพรรดิใต้ฟ้าหนึ่งในร้านอาหารหรูหราที่สุดของเมืองจิงไห่ ได้รับเกียรติยศสูงส่งจากมิชลินสามดาว ครองตำแหน่งผู้นำในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่างมั่นคงหัวประตูทรงสูงแบบโบราณ ชายหลังคา วาดลวดลายเต็มไปหมดควบคู่กับแสงไฟมืออาชีพต่าง ๆ ดูโอ่อ่าตระการตา ฟุ้งเพ้ออย่างมากที่หน้าร้านมีรถหรูต่าง ๆ จอดอยู่เต็มไปหมด แขกที่มาทานอาหารสวมชุดสง่างาม เผยสถานะที่ไม่ธรรมดาเมื่อลั่วอู๋ฉางเห็นสีทองเหลืองอร่ามด้านบนประตู เขารู้สึกคุ้นตาเล็กน้อย เขานึกถึงการ์ดสีดำทองใบนั้นที่เกาฉี่เฉียงมอบให้เขา โดยมีคำว่า "ร้านจักรพรรดิใต้ฟ้า" อยู่ด้านหลัง“ลั่วอู๋ฉาง?”เสียงผู้หญิงที่แฝงไปด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดดังขึ้น เซี่ยซินซินสวมรองเท้าส้นสูงวิ่งเหยาะ ๆ มาดูจากหน้าตา เซี่ยซินซินไม่ได้สวยหยาดเยิ้มเหมือนเกาชิงเหยียนกับอวี๋อีเหริน แต่เธอมีคุณค่าตรงนี้นิสัยร่าเริง รู้ผิดรู้ชอบ ที่มีค่าที่สุดคือกล้าต่อต้านกับความไม่ยุติธรรมทั้งร่างกายสวมชุดทำงาน รัดจนมีรูปร่างประณีตสวยงามออกมา ภายใต้จีบกระโปรงคือขายาวสวมถุงน่องสีเนื้อ บวกกับหน้าตาที่สวยงามโดดเด่น เพียงพอที่แตะถึงระดับนางฟ้าในความคิดของคนส่วนมาก"
เพื่อนร่วมงานกลุ่มหนึ่งส่งเสียงอุทานออกมาติดต่อกัน พากันพูดด้วยความอิจฉา "หัวหน้าทีมอวี๋คุณเจ๋งมาก ตัวเองเป็นหัวหน้าทีมของฝ่ายขาย แฟนก็เป็นสาวสวยของสำนักงานใหญ่ของบริษัท นี่มันกิ่งทองใบหยกชัด ๆ""งานดี ๆ กับผู้หญิงดี ๆ เป็นของคนอื่นหมด ทำให้พวกเราคนโสดอิจฉาให้ตายไปเลย พวกคุณสองคนก็พลอดรักเถอะ""พี่เถาสวยมากจริง ๆ ผิวพรรณ์ก็ดีมาก หัวหน้าทีมอวี๋คุณโชคดีมากจริง ๆ"เมื่อเผชิญกับคำชม อวี๋จวิ้นหยางดีใจจนยิ้มไม่หุบเถาเชี่ยนกอดแขนของอวี๋จวิ้นหยาง ใบหน้าที่ทาแป้งหนาเตอะเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจพอดีกับที่ในตอนนี้ โทรศัพท์มือถือของตู้หมิงเจ๋อดังขึ้น สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมทันที และเขาก็พูดว่า "ฉันรับสายที่สำคัญมาก คุณพาทุกคนเข้าไปก่อน"“ตกลง!” อวี๋จวิ้นหยางพยักหน้าอย่างเร่งรีบคนกลุ่มหนึ่งเดินไปที่ประตู และ อวี๋จวิ้นหยางก็แนะนำเพื่อนร่วมงานของเขาให้รู้จักกับแฟนสาว "สาวสวยท่านี้ก็คืออวี๋อีเหรินบุคคลสำคัญในวันนี้ นี่คือหลินจื่อเฉิน......ท่านนี้คือเซี่ยซินซินหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่เพิ่งเลื่อนขั้นวันนี้"เถาเชี่ยนนอกจากจะยิ้มบาง ๆ กับอวี๋อีเหรินและเซี่ยซินซินแล้ว คนอื่น ๆ ไม่แม้แต่เหลือบมองด้วยซ้
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค