เมื่อได้ยินหวังเจิ้นอวี่พูดแบบนี้ ลั่วอู๋ฉางก็ไม่เกรงใจอีกต่อไปเมื่อมีคำสัญญาจากหวังเจิ้นอวี่ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในเมืองหลวง ขั้นตอนต่อไปก็จะไม่มีอุปสรรคใดๆ อีกแน่นอน ส่วนสำคัญก็เพราะหวังเจิ้นอวี่เชื่อมั่นในลั่วอู๋ฉางยาที่ออกมาจากราชันมังกรลั่วเทียน เขาแทบจะรอไม่ไหวแล้ว!ขั้นตอนการอนุมัติปกติที่ควรทำก็ยังต้องดำเนินแต่เพียงแค่จะประหยัดเวลามากขึ้นลั่วอู๋ฉางให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเตรียมเอกสารรายงานการวิเคราะห์ พร้อมกับตัวอย่างยาแก้บาดเจ็บ จัดคนส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหวังเจิ้นอวี่นำทีมผู้เชี่ยวชาญในสำนักงาน ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทันทีอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคก็กำลังวิเคราะห์ตัวอย่างยาไม่นาน หวังเจิ้นอวี่ก็โทรกลับไปหาลั่วอู๋ฉาง“คุณลั่ว ผมได้อ่านรายงานข้อมูลแล้ว”หวังเจิ้นอวี่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ยกโทรศัพท์ขึ้นพูดว่า “ไม่ผิดจากที่คิดเลย นี่เป็นยาดีที่หาได้ยากจริงๆ”“ผมมั่นใจว่าหลังจากมันออกสู่ตลาด มันจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าปัจจุบันของโลกบู๊โบราณอย่างแน่นอน”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง “แต่ยาของคุณกับยาหุยชุนตันที่ได้รับการอนุ
ยาเกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของประชาชนความรับผิดชอบหนักอึ้งยิ่งกว่าภูเขาไท่ซาน!ประชาชนจ่ายเงินไป แต่กลับไม่รักษาโรค สุดท้ายนักธุรกิจจิตใจมืดบอดพวกนี้ก็รวยอื้อซ่าเหตุการณ์แบบนี้ จะต้องไม่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด!ฝั่งด้านเมืองอัน“เรียบร้อยแล้ว อีกสามวันก็จะได้ใบอนุญาต” ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆซูเฉี่ยนเฉี่ยนและหลิ่วซือหยินต่างตกตะลึงราวกับได้เห็นเทพเจ้า!ทั้งสองรู้ดีว่า ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่ท่านหวังแห่งเมืองหลวงคนนั้นเข้ามาคุมสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กฎระเบียบก็เข้มงวดขึ้นมากการจะได้ใบอนุญาตนั้นยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียอีกเรียกได้ว่าต้องผ่านด่านห้าชั้น ตัดหัวแม่ทัพถึงหกคน!แค่โทรศัพท์สายเดียวก็จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?โดยเฉพาะหลิ่วซือหยิน ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตระกูลหลิ่วไม่สามารถบุกเข้าสู่อุตสาหกรรมยาได้สำเร็จ นอกจากจะถูกคู่แข่งขัดขวางในทุกครั้งแล้ว ความยากลำบากที่ใหญ่ที่สุดก็คือเรื่องนี้ยาที่พวกเขาใช้เงินมหาศาลในการวิจัย ทั้งที่ได้รับการอนุญาตจากทางจังหวัดแล้ว แต่ในช่วงเวลาสำคัญ กลับถูกปฏิเสธจากทางเมืองหลวงทำให้ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่า การลงทุนในช่
“เยี่ยมไปเลย!”ผู้คนต่างส่งเสียงร้องอย่างยินดี แล้วตามมาด้วยเสียงปรบมือดังกึกก้อง“ว้าว!”หลังจากนั้น ทุกคนก็เริ่มพูดชื่นชมเย่ชิงหยุนกันอย่างล้นหลาม“แค่เวลาสั้นๆ ไม่กี่วันก็สามารถผ่านขั้นตอนการขอใบอนุญาตที่ยากที่สุดได้ คุณชายเย่ไม่ธรรมดาจริงๆ!” “อย่างนี้ไงร้านร้อยสมุนไพรภายใต้การนำของตระกูลเย่ จะต้องประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน”“คุณชายเย่เป็นหนึ่งในตัวแทนคนเก่งรุ่นที่สามของตระกูล การมอบบริษัทให้เขาดูแลในอนาคต เราทุกคนล้วนวางใจ”ในกลุ่มคนนั้น มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่ทุกคนเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ มาก่อนเขาก็คือซูหมิงอวี๋!ตระกูลซู เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของร้านร้อยสมุนไพร แถมยังเป็นผู้ก่อตั้งอีกด้วยน่าเสียดายที่คนในตระกูลซูรุ่นต่อๆ มาไม่มีความสามารถเท่ารุ่นก่อน ตอนนี้จึงถือหุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาได้รับเพียงเงินปันผลเท่านั้น ไม่สามารถเข้าร่วมการบริหารได้ตอนนี้ ซูหมิงอวี๋ใช้ฐานะบุคคลธรรมดา ร่วมเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของยาหุยชุนตันแปลกหน้าแล้วไง? คนรุ่นหลังถือหุ้นน้อยแล้วยังไง?มันไม่ส่งผลต่อการแสดงออกของซูหมิงอวี๋เลยสักนิด!เขาไม่ถื
ใบหน้าของซูหมิงอวี๋ถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ทันที!ใครกัน?แม้แต่คุณชายเย่ก็ยังให้ความสำคัญกับฉัน แต่เขากลับกล้าหัวเราะเยาะฉันต่อหน้าผู้คน!อยากจะเห็นจริงๆ ว่าใครมันกล้าขนาดนี้!ซูหมิงอวี๋หันหน้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นคนที่มา โทสะบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที กลายเป็นท่าทีที่นอบน้อมสุดๆ“ถะ...เถ้าแก่หม่า!”คนที่มาก็คือหม่าเฉียนคุน!ใบหน้าของเขาดูดุดันจนทำให้ซูหมิงอวี๋ขาสั่นโดยไม่รู้ตัวเมื่อคิดถึงวันที่หม่าอวี่เฟยได้รับบาดเจ็บหนัก สิ่งที่ซูหมิงอวี๋กลัวที่สุดก็คือการแก้แค้นจากตระกูลหม่าเพราะเหตุนี้ เขาจึงใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวตลอดเวลาเย่ชิงหยุนหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ลุงซู ลุงเข้าใจผิดแล้ว”“พันธมิตรสำคัญที่ผมพูดถึง หมายถึงเถ้าแก่หม่าต่างหาก ไม่เกี่ยวอะไรกับลุงเลยสักนิด”สิ่งที่เย่ชิงหยุนต้องการจะสื่อคือ ซูหมิงอวี๋ท่านให้ค่าตัวเองมากเกินไปแล้วด้วยหุ้นแค่เล็กน้อยที่ท่านถืออยู่ในมือ สมควรจะถูกเรียกว่า “สำคัญ” ได้งั้นเหรอ?ผู้คนเมื่อเห็นดังนั้น ต่างก็ยิ้มเยาะด้วยความดูหมิ่นใบหน้าซูหมิงอวี๋แดงก่ำ รีบหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองอย่างข้างๆ คูๆ “ลุงรู้อยู่แล้วสิ ลุงก็แค่อยากทำให้บรรยากาศค
“ซูหมิงอวี๋ แกจะตะโกนโหวกเหวกหาอะไร?”หม่าเฉียนคุนแสดงความไม่พอใจทันทีและพูดดุซูหมิงอวี๋เหมือนกับว่าเขาเป็นเจ้าของงานที่นี่ ไม่สนใจเย่ชิงหยุนเลยแม้แต่น้อยซูหมิงอวี๋หน้าแดงทันที รีบอธิบายว่า “เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ” “ฉันเพิ่งได้รับข่าวจากฝั่งตระกูลซูว่าลั่วอู๋ฉาง เจ้าหนูนั้น กำลังร่วมมือกับตระกูลหลิ่วจากเมืองหลวงเพื่อพัฒนายาตัวใหม่!”หม่าเฉียนคุนพูดด้วยเสียงเยาะเย้ย “ข่าวนี้ถูกต้องแน่นะ?”“ทำไมฉันได้ยินมาว่าแกโดนซูเทียนคั่วไล่ออกจากบ้าน กลายเป็นหมาจรจัดไม่มีที่อยู่ไปแล้วล่ะ!”“แล้วแกได้รับข่าวนี้มาได้ยังไง?”ซูหมิงอวี๋ถูกพูดจาจนทำให้รู้สึกอับอาย หน้าแดงแปร๊ดในทันทีแต่เขาก็จำต้องอดกลั้นความโกรธและพูดอย่างจริงจังว่า “ข่าวนี้จริงแท้แน่นอน ฉันขอใช้ชื่อเสียงของตัวเองรับรองเลย”“ฉัน ซูหมิงอวี๋ อยู่ในตระกูลมาหลายปี ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ ไร้ประโยชน์หรอกนะ มีข่าวอะไร พวกเขาจะมักส่งมาบอกฉันเป็นคนแรกเสมอ”“ได้ยินว่า ลั่วอู๋ฉางก็พัฒนายาตัวใหม่เหมือนกัน!”“ฉันเชื่อว่านี่ไม่ใช่ข่าวลือ ไม่เช่นนั้น ตระกูลหลิ่วคงไม่ส่งคนมาร่วมลงทุนด้วยหรอก”หม่าเฉียนคุนยังคงไม่เชื่อ หัวเราะเยาะเบาๆเย่
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหม่าเฉียนคุน สมองของเย่ชิงหยุนก็หมุนเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วแกล้งทำเป็นสงบ “ทุกท่าน คิดว่าเรื่องนี้น่าเชื่อถือเท่าไรกัน?”“อย่างแรกที่ควรสงสัยก็คือ พวกเขาได้ใบอนุญาตหรือยัง?”เย่ชิงหยุนให้ผู้ช่วยยกแท็บเล็ตขึ้นมา แสดงใบอนุญาตแบบอิเล็กทรอนิกส์ของยาหุยชุนตันให้ทุกคนดู“ใบอนุญาตของเรา ไม่มีปัญหาแน่นอน”เย่ชิงหยุนพูดต่อ “ทุกท่านลองคิดดู ยาที่มีส่วนประกอบและสูตรเดียวกัน ทั้งๆ ที่เราเพิ่งได้ใบอนุญาตมา แล้วจากนั้นก็มีคนไปขอใบอนุญาตตามหลังในทันที สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะทำอย่างไร?”“ถึงแม้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะแข็งแกร่งเหมือนของผม แต่เพราะมีเรื่องเกี่ยวข้องมากมาย ผมเกรงว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาคงไม่กล้าอนุมัติง่ายๆ หรอกใช่ไหม?”“ดังนั้น พวกเขาไม่มีทางได้ใบอนุญาตแน่!”“ถ้าไม่เชื่อ ทุกท่านสามารถติดต่อคนรู้จักที่ทำงานอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้เลย ให้พวกเขาช่วยตรวจสอบ”หม่าเฉียนคุนกลอกตา พูดอย่างไม่พอใจ “ต้องให้แกเตือนด้วยเหรอ?”ขณะพูด เขาก็ได้กดหมายเลขหนึ่งบนโทรศัพท์แล้ว“สวัสดีเหล่าเฉิน มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากถาม...”หม่าเฉียนคุนสีหน้าน
หม่าเฉียนคุนคนนี้ ไม่เพียงแต่โหดเหี้ยมและไร้ความปรานีเท่านั้น แต่ยังพูดคำไหนคำนั้นเมื่อเผชิญกับการข่มขู่ฆ่าทั้งครอบครัว ทุกคนย่อมเลือกที่จะปิดปากให้สนิทอย่างว่าง่ายอีกทั้ง เดิมทีเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพวกเขาเองโดยตรงทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ ล้วนเป็นผู้ถือหุ้นของร้านร้อยสมุนไพร และเป็นหุ้นส่วนของโครงการยาหุยชุนตันใครจะโง่พอที่จะไปบอกข้อมูลลับให้กับฝ่ายตรงข้ามกันล่ะ?ความสำคัญของการเก็บความลับ ทุกคนต่างก็เข้าใจกันดีแน่นอน การไม่พูดเองกับการถูกคนอื่นขู่ไม่ให้พูด เป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อหม่าเฉียนคุนเห็นปฏิกิริยาของทุกคนแล้วถึงค่อยเผยสีหน้าพอใจออกมาเล็กน้อย พร้อมกับหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ถือว่าพวกแกฉลาด!”พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไปอย่างเย่อหยิ่ง“น้อมส่งเถ้าแก่หม่า” เย่ชิงหยุนก้มตัวทำความเคารพอย่างสุภาพแต่หม่าเฉียนคุน ไม่แม้แต่จะมองเขาและเดินจากไปอย่างหยิ่งทะนงในสายตาของหม่าเฉียนคุน เย่ชิงหยุนก็เป็นเพียงเด็กน้อย ไม่คู่ควรที่จะมาเทียบเท่าตนการที่ตระกูลหม่าเข้าร่วมโครงการยาหุยชุนตันนั้น เป็นเพราะให้เกียรติตระกูลเย่และถือเป็นเกียรติยิ่งสำ
ไม่คิดเลยว่างานจะใหญ่ขนาดนี้“สมแล้วที่เป็นคนเก่งของตระกูลหลิ่ว พี่ซือหยินช่างฉลาดและมีความสามารถมากจริงๆ เห็นได้ชัดว่าฉันที่เป็นสายเทคนิคไม่อาจเทียบได้เลย!”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมั่นใจว่านี่ต้องเป็นผลงานของหลิ่วซือหยินแต่ความจริงแล้ว หลิ่วซือหยินเองก็รู้สึกงุนงงอยู่เหมือนกัน!เธอคิดเหมือนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนว่า เนื่องจากเวลาสั้นเกินไป ถ้าจัดงานแถลงข่าวที่ใหญ่โตไม่ได้ ก็เชิญคนในวงการมาบางคน ทำการประชาสัมพันธ์ในวงแคบแทนทำให้คนในวงการรู้ถึงการมีอยู่ของยาแก้บาดเจ็บก่อน และค่อยให้พวกเขาบอกต่อๆ กัน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีภายหลัง“เร็ว เข้าไปบอกฝ่ายซับพอร์ทให้เพิ่มของว่างรับรอง ทั้งน้ำชา ของขวัญที่ระลึก อย่าให้ขาดแม้แต่อย่างเดียว!”หลิ่วซือหยินซึ่งสวมชุดยาวสีดำรัดรูป โชว์สัดส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบ กำลังเร่งจัดการงานท่าทางของเธอที่ชี้สั่งไปทั่ว แสดงถึงความเป็นหญิงแกร่งได้ชัดเจนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนไม่ทันตั้งตัวจำนวนแขกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้ต้องรื้อการเตรียมงานก่อนหน้าและจัดทำใหม่ทั้งหมดพนักงานทั้งหมดรีบไปทำงานอย่างเร่งด่วน“พี่ซือหยิน ทำไมคนเยอะขนาดนี้ล่ะ