อวี๋อีเหรินรู้ว่าตัวเองปากเดียวเสียเปรียบอย่างมาก เถียงกับพ่อแม่ต่อไปไม่มีความหมายสักนิด จึงเปลี่ยนทิศทาง "งั้นก็ต้องให้เขาสมัครงานได้ก่อน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็เป็นการพูดเรื่องเปื่อย!""พ่อแม่ต้องเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้า ตอนนี้บริษัทของพวกเราตั้งเงื่อนไขต่อพนักงานใหม่สูงมาก คนจำนวนมากที่ใช้เส้นสาย ต่างถูกเชิญออกแล้ว"รอให้ลั่วอู๋ฉางหน้าม่อยคอตกกลับมา อวี๋ซือหยวนต้องไม่กล้าพูดอะไร ในเมื่อเหตุผลมาจากทางด้านตัวเอง ใครใช้ให้เขาแนะนำคนที่ความสามารถไม่ถึงกำหนดไม่เข้าใจจริง ๆ พ่อแม่ชอบลั่วอู๋ฉางที่ตรงไหน?ไอ้หมอนี่ทั่วทั้งตัว ไม่มีข้อดีเลยสักอย่าง!อวี๋ซือหยวนพูดอย่างมั่นใจ "คนอื่นไม่ได้ แต่เสี่ยวลั่วไม่มีปัญหาแน่นอน!""เสี่ยวลั่ว ความประทับใจแรกสำคัญมาก"อวี๋ซือหยวนพูดอย่างจริงจัง "เสื้อผ้าของนายตอนนี้ไม่เหมาะสม ไปซื้อชุดใหม่ก็ไม่ทัน เราสองคนรูปร่างใกล้เคียงกัน สวมของอาก่อนเถอะ อามีเสื้อเชิ้ตสามสามตัวที่ยังไม่เปิดซอง"ลั่วอู๋ฉางในใจปฏิเสธ กลับต้องแสดงท่าทางยอมรับด้วยความเต็มใจออกมา "ขอบคุณครับคุณอา คุณอาคิดได้รอบคอบมาก"สิบนาทีต่อมา อวี๋อีเหรินพูดอย่างหงุดหงิด "เสร็จแล้วยัง! ถ้ายังไ
"อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนาย ชิงเหยน กรุ๊ปไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปได้นะ ต่อให้มีพ่อฉันใช้เส้น ไม่มีความสามารถก็ถูกคัดออก"รถแท็กซี่จอดที่หน้าอาคารชิงเหยียน อวี๋อีเหรินเปิดประตูไปด้วย แยกเขี้ยวอย่างไม่พอใจไปด้วยนี่เธอให้ลั่วอู๋ฉางเตรียมใจให้พร้อมล่วงหน้าก่อน สมัครงานไม่ติด พูดได้แค่ว่าความสามารถของนายมีจำกัด ไม่ผ่านเกณฑ์ของบริษัท โทษคนอื่นไม่ได้ผู้ชายรักศักดิ์ศรี ลั่วอู๋ฉางก็ไม่มีข้อยกเว้นอยู่แล้ว จะต้องไม่กล้าไปขอร้องให้อวี๋ซือหยวนใช้เส้นสายอีกแน่นอน"ยังมีอีก ห้ามนายพูดว่าฉันเป็นคนพามา! ฝ่ายบุคคลอยู่ที่ชั้นหก นายขึ้นไปเองเถอะ" อวี๋อีเหรินก้าวขาเรียวยาวออกไป สวมรองเท้าส้นสูงเดินไขว้ขา ทิ้งแผ่นหลังสวยงามให้ลั่วอู๋ฉางลั่วอู๋ฉางยิ้ม เขาไมมีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กสาวคนนี้ จากนั้นเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ด้วยตนเองโปสเตอร์ขนาดใหญ่แขวนอยู่บนผนัง เป็นรูปถ่ายของเกาชิงเหยียน ใบหน้าสวยเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง ตาโตเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาด บุคลิกองอาจผ่าเผยอย่างมากด้านล่างมีตัวอักษรแถวหนึ่งแนะนำ: ประธานชิงเหยน กรุ๊ป คุณเกาชิงเหยียน"นี่มันบังเอิญจริง ๆ!" ลั่วอู๋ฉางเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยควา
ขณะเดียวกัน ลั่วอู๋ฉางมาถึงฝ่ายบุคคล ยื่นประวัติส่วนตัวของตัวเองผู้สัมภาษณ์ทั้งหมดมีสามคน ผู้ชายสองผู้หญิงหนึ่ง คนที่นั่งอยู่ตรงกลางก็คือหัวหน้าแผนกหานอวี่หาง ด้านซ้ายคือผู้ช่วยของเขา ด้านขวาก็คือเด็กสาวคนนั้นที่พาลั่วอู๋ฉางมาลั่วอู๋ฉางดูจากข้อมูลบัตรที่อยู่บนโต๊ะ เธอชื่อเซี่ยซินซินดูจากลำดับการนั่งก็คาดการณ์ได้ไม่ยาก ตำแหน่งของเซี่ยซินซินต่ำกว่าผู้ช่วย น่าจะเป็นพนักงานทั่วไปหานอวี่หางเหลือบของเขา ในดวงตามีรอยยิ้มแปลกประหลาดแวบผ่าน สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก คนที่ติดอยู่ข้างในสี่ปี เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมา จัดการนายได้สำเร็จอย่างง่ายดายเขาถึงขั้นคิดว่าตู้หมิงเจ๋อทำเรื่องเกินความจำเป็น ไม่จำเป็นต้องมากำชับเรื่องนี้บ่อย ๆ ด้วยซ้ำแต่ดูจากมุมอื่นก็แสดงให้เห็นว่า ตู้หมิงเจ๋อให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากก็ได้ วันนี้ฉันที่เป็นหัวหน้าพยายามอย่างสุดความสามารถ สั่งสอนนักโทษคนนี้ให้รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร"รายงานชื่อ อายุ เพศกับประวัติการศึกษา ให้เวลานายหนึ่งนาทีแนะนำตัวเอง" หานอวี่หางดูเรซูเม่ น้ำเสียงออกคำสั่งน้ำเสียงเย็นชา สีหน้าหงุดหงิด นี่มันเหมือนรับสมัครพนักงานที่ไหนกัน น
มั่นใจได้ว่า สองคนตรงหน้ากำลังตั้งใจกลั่นแกล้งลั่วอู๋ฉางอยู่ เซี่ยซินซินมองไปทางหานอวี่หางและส่งสายตาให้ ความหมายคือทำเกินเหตุไปหน่อยแล้ว แต่หานหวี่หางไม่สนใจด้วยซ้ำเซี่ยซินซินก็มองไปทางผู้ช่วยอีก เขาก็ไม่สนใจเธอเช่นกันลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา: "คุณแน่ใจเหรอ?"หานอวี่หางยิ้มพูด "ชั้นบนชั้นล่าง ห้องน้ำสาธารณะทั้งหมด ไม่แบ่งชายหญิง ทั้งหมดยกให้นายรับผิดชอบ เงินเดือนหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยบาท""ยังไม่รับของคุณหัวหน้าหานอีก นอกจากเขาที่มีเมตตารับนายไว้ เปลี่ยนเป็นบริษัทอื่น ไม่มีทางว่าจ้างนักโทษ" ผู้ช่วยพูดเสียงดังเซี่ยซินซินเริ่มขมวดคิ้ว คิดว่าพวกเขาสองคนทำแบบนี้รังแกกันเกินไปแล้ว"หัวหน้าหาน คุณเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ พนักงานทำความสะอาดของบริษัทเราจ้างบริษัทภายนอก ไม่ต้องรับสมัครคนด้วยซ้ำ"มีประวัติอาชญากรรมแล้วอย่างไร ชีวิตนี้ใครบ้างที่ไม่เคยทำผิด? กลัวตัวกลับใจก็พอแล้ว จำเป็นต้องทำเกินเหตุขนาดนี้ไหม ถึงขั้นดูถูกเหยียดหยามบุคคลิกภาพหานอวี่หางไม่ได้มองเซี่ยซินซินแม้แต่นิด จากนั้นพูดอย่างไม่พอใจ "เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่ง ฉันคึือหัวหน้าฝ่ายบุคคล ฉันเป็นใหญ่"เขาแสร้งทำเ
ผู้ช่วยก็พูดตำหนิตาม "คนตำแหน่งต่ำทำไมถึงได้สงสัยคนตำแหน่งสูง เซี่ยซินซินเธอก็จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แม้แต่ความสูงต่ำพื้นฐานก็ยังไม่รู้เรื่อง เธอดูสิทำให้หัวหน้าหานโมโหแล้ว"จากนิสัยในอดีตของเซี่ยซินซิน คงจะลาออกไปตั้งนานแล้ว แต่เธอพิจารณาถึงสถานการณ์ของครอบครัวในตอนนี้ และก็น้องชายที่เรียกมัธยมปลาย ทำให้ต้องเลือกอดทนงานนี้สำคัญอย่างมากสำหรับเธอในเวลาเดียวกัน รถโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนนก็เร่งความเร็วอย่างต่อเนื่องบนถนนและขับมาที่ทางนี้"คุณลั่ว ทำไมถึงอยู่ที่ในบริษัทได้นะ?"เกาชิงเหยียนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย เธอคิดอยู่นานมากก็คิดไม่ออก เธอเร่งเร้าคนขับอีกครั้ง "ขับเร็วหน่อย!""ได้ครับ......" คนขับเหงื่อไหลเต็มหน้าผาก เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณหนูร้อนใจขนาดนี้ แตกต่างกับเธอที่ปกตินิสัยใจเย็นเฉลียวฉลาดเป็นคนละคนไม่กี่นาทีต่อมา ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักออกอย่างรุนแรง"ใครกัน! เข้ามาไม่เคาะประตู ไม่รู้กฎเกณฑ์บ้างเหรอ?" หานอวี่หางโมโหอย่างมาก นี่อยากจะแสดงอำนาจต่อหน้าเซี่ยซินซินกับลั่วอู๋ฉางสินะแต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป ท่าทางเปลี่ยนไปหนึ่งร้อยแปดสิบองศาทันที จากนั้น
เมื่อได้ยินความต้องการของลั่วอู๋ฉาง แม้แต่เซี่ยซินซินก็ถลึงตาโต คิดว่าไม่สามารถยอมรับได้นี่ของานทำที่ไหนกัน นี่อยากมาเป็นคุณชายชัด ๆ!แค่รับเงินแต่ไม่ทำงาน อีกอย่างไม่ยอมรับการจำกัดเวลา ถ้ามีงานแบบนี้ ขอให้เอามาให้ฉันก่อน!ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหานอวี่หางกับผู้ช่วย ความดูถูกที่มีต่อลั่วอู๋ฉางเพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง เดิมคิดว่าไอ้หมอนี่จะคว้าโอกาสไว้ แสดงออกต่อหน้าประธานเกา ได้รับความประทับใจที่ได้และได้รับงานที่ดีกลับคิดไม่ถึงว่า ไอ้หมอนี่ไม่เพียงไม่คว้าโอกาสไว้ แถมยังเป็นฝ่ายหาเรื่องตายเกาชิงเหยียนคือใคร?จะยอมรับข้อเสนอที่ไร้เหตุผลแบบนี้ได้อย่างไร จะต้องโมโหอย่างมากแน่ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นปัญหาของผู้มาสมัครงาน หานอวี่หางรู้สึกว่าวิกฤตการณ์ได้หมดไปแล้ว เขามีความมั่นใจแล้ว จึงพูดเสียงดัง "ประธานเสี่ยวเกาคุณฟังสิ นี่เป็นคำพูดของคนเหรอ?""ไอ้หมอนี่ตั้งใจมาสร้างความวุ่นวาย ไม่ต้องพูดมากกับเขา ผมจะไปเรียกรปภ. เข้ามา"ดวงตากลมโตของเกาชิงเหยียนแทบจะพ่นไฟออกมา เธอพูดด้วยความโมโห "หุบปาก! ตอนนี้ฉันกำลังสัมภาษณ์อยู่ ยังไม่ถึงตาที่คุณจะพูดแทรก!"หานอวี่หางตกใจอย่างมาก รีบก้มหน้าไม่กล้าพู
"ในเมื่อคุณชอบล้างห้องน้ำขนาดนี้ งั้นงานที่ถูกคนให้เกียรติงานนี้ ก็ให้คุณเป็นคนรับผิดชอบ!" เกาชิงเหยียนตวาดเสียงเย็นชาไอ้หมอนี่เกือบจะขัดขวางเรื่องดี ๆ แล้ว เกาชิงเหยียนรู้สึกโมโหอย่างมาก!ถ้าหากเป็นเกาชิงเหยียนในอดีต คงจะสั่งให้พี่ตาวกำจัดไอ้หมอนี่ไปนานแล้ว"ห๊ะ? ประธานเกา คุณอย่าล้อเล่นสิครับ" หานอวี่หางตะลึงตาค้างเกาชิงเหยียนพูดอย่างจริงจัง "นับตั้งแต่ตอนนี้ หานอวี่หางลดตำแหน่งจากหัวหน้าฝ่ายบุคคลเป็นพนักงานทำความสะอาด ทำได้ก็ทำ ไม่กล้าก็ไสหัวไป!""ยังมีพวกคุณสองคน......"สายตาที่ไม่เป็นมิตรของเกาชิงเหยียน มองไปยังผู้ช่วยกับเซี่ยซินซิน เมื่อครู่เธอได้ยินชัดเจน ผู้ช่วยกับหานอวี่หางเป็นพวกนิสัยเดียวกัน จึงคิดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นพวกเดียวกันในเมื่อไม่เคารพต่อคุณลั่ว งั้นก็ไล่ออกทั้งหมด!ลั่วอู๋ฉางพูดตรงไปตรงมา "คุณเซี่ยซินซินคนนี้ เป็นคนยุติธรรมมาก และเป็นพนักงานที่ดีที่หาได้ยาก"เกาชิงเหยียนเข้าใจทันที "มีการลงโทษก็มีรางวัล ในเมื่อเป็นบุคคลที่มีความสามารถ งั้นก็ให้เธอมาแทนตำแหน่งของหานอวี่หาง รับตำแหน่งหัวหน้าแผนกคนใหม่""ฉัน?"เซี่ยซินซินใบหน้าตกตะลึง นิ่งอึ้งอยู่กับที่
ตู้หมิงเจ๋อในฐานะผู้บงการตั้งแต่ต้นจนจบ หัวเราะอย่างสะใจที่สุดผู้ชายคนหนึ่ง กลับยอมไปล้างห้องน้ำ ไม่เลือกอะไรเลยจริง ๆ!ต้องรู้ไว้ว่า ในบริษัทไม่ได้มีเพียงแค่ห้องน้ำชาย ยังมีห้องน้ำหญิงอีกอวี๋อีเหรินมองดูลั่วอู๋ฉางด้วยสีหน้าซับซ้อน ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก ตามแผนการเดิมของเธอ เพียงแค่ไม่อยากให้ลั่วอู๋ฉางกลายเป็นเพื่อนร่วมงานกับตัวเองก็แค่นั้นในความทรงจำของเธอ ลั่วอู๋ฉางที่มีคุณธรรมและมีการศึกษาให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีมาโดยตลอด ตอนนี้เพื่องานงานหนึ่ง กลับต้องปล่อยวางศักดิ์ศรีอวี๋อีเหรินรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้จริง ๆ ถึงขั้นไม่กล้ามองดวงตาของลั่วอู๋ฉางเป็นเพราะเธอ ตู้หมิงเจ๋อถึงได้ร่วมมือกับพวกหานอวี่หาง แอบมุ่งเป้าไปที่ลั่วอู๋ฉางเรื่องราวดำเนินการมาจนมีผลลัพธ์แบบนี้ อวี๋อีเหรินไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้ นี่จะอธิบายกับพ่อแม่อย่างไรดี?"พวกคุณพูดมั่วอะไรน่ะ?"เซี่ยซินซินถลึงตาโต พูดอย่างไม่พอใจ "ลั่วอู๋ฉางถูกฝ่ายขายรับเข้าทำงานแล้ว ทำเอกสารบรรจุเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ทำงานที่นี่ ล้างห้องน้ำอะไร ไม่มีเรื่องนี้สักหน่อย!"ลั่วอู๋ฉางเข้าใจอย่างดี ผู้ชายที่ทุกคนเรียกว่าผู้จัดการต
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค