“ไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนกล้าเข้ามายุ่ง ต่อให้มี พรรคพวกของฉันที่ชั้นล่างก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อย รอตำรวจขึ้นมาชั้นบนอย่างเอื่อยเฉื่อย เธอกับฉันคงทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว!”เพิ่งพูดจบ สวีเทียนเปิดลิ้นชักออกอย่างแรง หยิบยากล่องสีฟ้ากล่องหนึ่งออกมา เปิดออกต่อหน้าหยางหว่านอวี่ โยนเข้าปากทั้งหมด“ฮ่าฮ่า มีสิ่งเพิ่มความสนุก ดูสิว่าวันนี้ฉันจะเล่นสนุกกับเธออย่างไร!”หยางหว่านอวี่เสียใจภายหลัง ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเรื่องตัวเองคิดตื้นเกินไป ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือต้องรีบออกจากที่อันตรายแห่งนี้ให้เร็วที่สุดภายใต้ความตื่นตระหนก เธอหันหลังจะวิ่งหนี“ส่งมาถึงที่อยากจะหนีไป ถิ่นของผู้มีอำนาจทิศเหนือของฉัน จะอนุญาติให้เธออยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปได้อย่างไร!”สวีเทียนพุ่งเข้าไป ดึงผมของหยางหว่านอวี่เอาไว้ ลากไปที่โซฟาอย่างหยาบคาย ยกแก้วเหล้าขึ้นกรอกปากเธอ“กูกินของที่ช่วยเพิ่มความสนุก มึงก็ขาดไม่ได้ กูชอบท่าทางยั่วยวนของผู้หญิงเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งแบบมึง หลังจากที่ดื่มจนเมา ฮ่าฮ่าฮ่า!”หยางหว่านอวี่ดิ้นรนสุดแรง แต่เธอที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอ จะสู้กับสวีเทียนที่ร่างกายบึกบึนได้อย่างไร เหล้าแก
ในตอนที่จ้าวเหม่ยอวิ๋นร้อนใจเหมือนไฟแผดเผา กลับไร้ซึ่งหนทาง เกาชิงเหยียนพาพี่ตาวมาที่โรงแรมฮิลตันอารองเกาฉี่เซิ่งไม่อนุญาติให้เปิดศึกกับตระกูลสวี เท่ากับเกาชิงเหยียนผิดคำพูด เธอจะต้องขอโทษลั่วอู๋ฉางต่อหน้าล็อบบี้ของโรงแรม“คุณลั่วออกไปแล้ว ไปไหน?”เกาชิงเหยียนสีหน้าเป็นกังวล ลั่วอู๋ฉางจัดการสวีอวิ๋นฝาน ค่ำขนาดนี้แล้ว ออกไปข้างเป็นอันตรายอย่างมาก เธอไม่วางใจจริง ๆผู้จัดการห้องโถงกวักมือเรียกพนักงานเปิดประตู สอบถามอย่างละเอียด“ลูกค้านั่งรถส่วนตัวออกไป ผมเปิดประตูรถให้เขา เหมือนได้ยินคนขับรถถามจุดหมายปลายทางจากลูกค้า จากนั้นพูดถึงเทียนเซี่ยกรุ๊ป”เพราะว่าแขกวีไอพีของห้องสวีท พนักงานเปิดประตูจะปฏิบัติเป็นพิเศษกลัวอะไรได้แบบนั้นจริงๆเกาชิงเหยียนร้อนใจทันที “อาตาว เรียกคนของอามาเดี๋ยวนี้ ไปที่เทียนเซี่ยกรุ๊ป”พี่ตาวรีบพูดเกลี้ยกล่อม "คุณหนูครุ่นคิดให้ดีนะครับ เพียงแค่คนของผมที่น้อยนิด เสี่ยงบุกเข้าไป ไม่เพียงพอให้พวกเขาแคะฟันด้วยซ้ำ"ถึงเวลาคนช่วยออกมาไม่ได้ แถมยังต้องตาย คำนวณอย่างไรก็เป็นการค้าขายที่ขาดทุนเกาชิงเหยียนถลึงตาโต กัดฟันพูด “ถ้าหากคุณลั่วเป็นอะไรไป พ่อของฉันก
"วิ้ว......"ทันใดนั้นไฟสีแดงที่ด้านนอกกะพริบ เสียงกริ่งดังก้องไปทั่วทั้งตึกทุกคนตอบสนองในทันที มารวมตัวกันที่ห้องทำงานห้องนี้ชายร่างกำยำสี่คนที่วิ่งอยู่ด้านหน้าสุด หน้าตาดุดันโหดเหี้ยม พวกเขาการเคลื่อนไหวเร็วมากเหมือนกับกระต่าย รอบตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายความแข็งแกร่งที่นักบู๊โบราณเท่านั้นถึงจะมีตามมาติด ๆ ยังมีผู้แข็งแกร่งแปดคน สำหรับนักสู้ทั่วไป กลับเยอะมากนับไม่ถ้วนครู่หนึ่ง ห้องทำงานก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นขนัด"ราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่กับนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่เข้ามา ที่เหลือเฝ้าไว้ข้างนอก"สวีเทียนออกคำสั่ง ใบหน้ายิ้มแย้งอย่างพึงพอใจ "ไอ้หนุ่ม ได้ข่าวว่าแกสู้เก่งมาก บอดี้การ์ดสิบกว่าคนของลูกชายฉัน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกทั้งหมด""วันนี้ ที่นี่มีคนไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยคน นายคิดว่าตัวเองจะสู้ชนะได้ไหม?"หนึ่งคนต่อศัตรูสิบคน สำหรับผู้มีฝีมือบู๊โบราณเป็นเรื่องปกติมากแต่หนึ่งคนต่อศัตรูหนึ่งร้อยคน กลับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากข้อได้เปรียบด้านตัวเลขแล้ว ยังมีผู้แข็งแกร่งอย่างราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่และนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วยพวกเขาสิบสองคน ล้านเป็นทหารรับจ้างกับพวกที
มังกรลั่วออกมา พญายมล่าถอย!นี่คือคำสรรเสริญสูงสุดที่ผู้คนมอบให้ฉันลั่วอู๋ฉางราชันมังกรลั่วเทียนความก็คืออยู่ต่อหน้าเขา แม้แต่พญายมก็ทำอะไรไม่ได้ คนที่เขาอยากช่วย ต่อให้เท้าของอีกฝ่ายก้าวเข้าไปในประตูนรก ก็ถูกฝืนดึงกลับมาแต่มีคนจำนวนน้อยที่รู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "พญายมล่าถอย"หมายความว่าต่อหน้าลั่วอู๋ฉาง เป็นกับตายเขาคนเดียวที่เป็นผู้ตัดสิน ให้คุณมีชีวิต คุณก็ต้องมีชีวิต พญายมมาแล้วก็เปล่าประโยชน์หลักการเดียวกัน ลั่วอู๋ฉางให้คนคนหนึ่งตาย อย่าว่าแต่พญายาม ต่อให้เป็นเทพสูงสุดมาสถิตย์ ก็ขวางไว้ไม่ได้เช่นกันโลกรู้เพียงว่าในมือลั่วอู๋ฉางมีเข็มทองคำชุดอยู่ชุดหนึ่ง ควบคู่กับทักษะแพทย์ที่ประณีต สามารถทำให้กระดูกมีเนื้อ คนตายฟื้นคืนชีพ กลับไม่ค่อยมีคนรู้ว่าในมือของเขามีเข็มเงินอีกหนึ่งชุดเข็มเงินปรากฏ ฆ่าชีวิตคน!ในขณะนี้ ราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่กับนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นความหวังของสวีเทียน ชีวิตสิบสองคนถูกลั่วอู๋ฉางกุมไว้ในมือเพียงแค่ความคิดเดียว พวกเขาก็จะตายทันทีในตอนนี้ ทั้งสิบสองคนขยับเขยื้อนไม่ได้แล้ว กลายเป็นลูกแกะที่ถูกคนเฉือดเฉือนนอกห้องทำงาน ทุกคนตกตะลึงตาค้า
หนึ่งประโยค ทำให้อย่างน้อยมีสิบกว่าคนที่ตกใจจนล้มนั่งกับพื้นที่ชั้นล่าง หวังจื่อเฟิงขับรถสปอร์ตมาอย่างเร่งรีบสำหรับเขาแล้ว ในเมื่อหลบหลีกการโดนสวมเขาไม่ได้ ไม่สู้ยอมรับโดยดีจะดีกว่า ตัวเองยังไม่ใส่ใจที่หยางหว่านอวี่เคยแต่งงานแล้ว ทำไมต้องใส่ใจว่าเคยถูกผู้ชายคนอื่นมีเพศสัมพันธ์ด้วยในตอนนี้ เป็นเวลาที่ผู้หญิงบอบบางที่สุด ตัวเองแค่ใช้สายตาห่วงใย พูดสองสามประโยค ก็ทำให้หยางหว่านอวี่ซาบซึ้งอย่างมาก จากนั้นตายใจต่อเขา“คุณชายหวัง คุณมาแล้ว!” จ้าวเหม่ยอวิ๋นรีบทักทายเขาหวังจื่อเฟิงแสร้งทำเป็นพูดว่า "เมื่อได้รับสายของคุณ ผมก็รีบมาที่นี่ ระหว่างทางยังโทรหาพ่อโดยเฉพาะ ให้เขาช่วยคิดหาหนทาง"“มีหนทาง?” จ้าวเหม่ยหยิงถามอย่างเร่งรีบมีถึงจะแปลก!หวังจื่อเฟิงโกหกอย่างไร้ยางอาย "พ่อของฉันบอกว่า คนเดียวในเมืองจิงไห่ ที่สามารถควบคุมสวีเทียนได้คือลุงไท่ราชาใต้ดินรุ่นแรก ฉันขอร้องให้เขาโทรหาลุงไท่แล้ว"คุยโวโอ้อวดใครทำไม่เป็นบ้าง อย่างไรก็ไม่ต้องเสียภาษีตอนนั้นเมื่อเกาฉี่เฉียงและสวีเทียนตกต่ำ เป็นลุงไท่คนนี้ที่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งสองฝ่ายมีความรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณและเคารพเขาอย่างยิ่ง"ดีมากเล
สีหน้าของหวังจื่อเฟิง น่าชมเป็นอย่างมาก"พ่อนายว่าอย่างไร บอกทุกคนสิ" ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเยาะหวังจื่อเฟิงยืดคอแข็ง พูดอย่างไร้ยางอาย "พ่อของฉันบอกว่าเป็นเขาที่โทรหาลุงไท่ สั่งสวีเทียนให้ปล่อยคน""โกหก! กล้าพูดความจริงออกมาไหม?" ลั่วอู๋ฉางไม่เคยเจอคนหน้าด้านแบบนี้มาก่อน หน้าด้านแย่งความดีความชอบหนึ่งครั้ง ไม่กลัวจะติดกับเหรอ!จ้าวเหม่ยอวิ๋นไม่พอใจทันที "ลั่วอู๋ฉางนายหมายความว่าอย่างไร? ถ้าไม่ใช่ความดีความชอบของคุณชายหวัง จะเป็นนายเหรอ นายก็แค่บังเอิญ พาประธานหยางลงมาจากด้านบนก็เท่านั้น ถ้าไม่มีพ่อของคุณชายหวังเป็นคนไกล่เกลี่ย นายคงตายอยู่ข้างบนตั้งนานแล้ว""นายไม่ขอบคุณคุณชายหวังก็ช่างเถอะ ยังจะพูดจาครุมเครือแบบนี้ ไม่มีมารยาทสักนิด!""อีกอย่างเรื่องนี้นายเป็นคนก่อ เกือบจะทำร้ายประธานหยางของเรา นายเป็นคนที่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น มีสิทธิ์อะไรยืนอยู่ที่นี่"หวังจื่อเฟิงโบกมือด้วยท่าทางใจกว้าง จากนั้นโบกมือพูด "เลขาจ้าว ช่างเถอะ! ผมทำเพื่อช่วยเหลือหว่านอวี่ ไม่ใช่เพราะช่วยเขา เขาก็แค่โชคดีเท่านั้น พบเจอเข้าพอดี ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้เขาขอบคุณ"จ้าวเหม่ยอวิ๋นฮึกเหิมทันที "ได้ยิ
ผลปรากฏว่า เส้นทางราบรื่นไร้สิ่งกีดขวางมาตลอดทางพวกเขาขึ้นไปชั้นบนด้วยความสงสัยทันทีที่ออกจากลิฟต์ พี่ตาวเห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก เขาตะโกนเสียงดัง "ปกป้องคุณหนู!""พรึ่บ" ทุกคนล้อมเกาชิงเหยียนไว้ตรงกลางนับจากจำนวนคนแล้ว ทางด้านเกาชิงเหยียนเสียเปรียบอย่างแน่นอน และก็เป็นถิ่นฐานของอีกฝ่าย พุ่งเข้ามาโดยตรงแบบนี้ ต่างอะไรกับเข้าไปติดกับเองบวกพี่ตาวใบหน้าเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ที่มากกว่านั้นคือเป็นกังวล นี่ถ้าสู้กันขึ้นมา เกรงว่าไม่ได้เปรียบเลยสักนิดแต่ว่าภาพที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าเกิดขึ้นแล้ว คนจำนวนเป็นสิบเป็นร้อยของอีกฝ่าย กลับยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อนสังเกตให้ดีกลับพบว่า พวกเขาแต่ละคนเหมือนตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ สีหน้าซีดขาว ตัวสั่นไปหมด ถึงขั้นมีคนสองสามคนล้มนั่งอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ"พวกคุณมาแล้วเหรอ?"ในห้องทำงาน มีเสียงของลั่วอู๋ฉางดังขึ้นเกาชิงเหยียนสีหน้าดีใจ รีบผลักคนที่ขวางอยู่ตรงหน้าเธอออก จากนั้นวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปพี่ตาวกลัวว่าเป็นกับดัก อยากจะห้ามไว้ด้วยสัญชาตญาณ ถูกเกาชิงเหยียนหลบได้อย่างคล่องแคล่ว"เห้อ!" พี่ตาวถอนหายใจอย่างจนปัญญา ทำได้แค่ตามไปนั
เมื่อพูดจบ หลังจากที่ลั่วอู๋ฉางใช้ความคิด ราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่กับนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ก็ทยอยล้มลงบนพื้น เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด!"พรึ่บ......ตึง!"ศพทั้งสิบสองศพล้มลงเกลื่อนกลาดเต็มพื้น พวกเขาถลึงตาโต ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่ละคนตายไปอย่างหน้าอนาถเกาชิงเหยียนตกใจมากจนหน้าซีด แม้แต่พี่ตาวที่เคยชินกับการฆ่าฟัน สมญานามแขวนหัวไว้บนเข็มขัด ก็ตกใจไม่น้อยฆ่าคน เขาไม่กลัวเลยสักนิดจุดที่ทั้งสองคนหวาดกลัวคือ ไม่รู้ว่าสิบสองคนนี้ตายอย่างไรความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้น่ากลัวที่สุด!เห็นได้ชัดว่าลั่วอู๋ฉางไม่ได้ทำอะไรเลย และพวกเขาก็มีแค่เข็มเงินฝังอยู่บนหน้าผากเท่านั้น ดูอย่าไรก็ไม่น่าจะถึงกับตายถึงจะถูกเหตุที่พวกเขาคิดแบบนี้ เป็นเพราะพวกเขาเคยเห็นกับตา วิธีฝังเข็มช่วยชีวิตที่น่าทึ่งของลั่วอู๋ฉางดังนั้นในจิตใต้สำนึกของพวกเขา คิดว่าฝังเข็มก็คือรักษาโรค ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการฆ่าคนต้องรู้ไว้ว่า ในสิบสองคนนี้ ความสามารถของคนจำนวนเกินครึ่งเหนือกว่าพี่ตาว ทั้งหมดเป็นคนโหดเหี้ยมที่ผ่านการสู้รบมาเป็นร้อยครั้งแค่เข็มเงินเข็มเดียว ทำให้คนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ก็เป็นน่าเหลือเชื่อมากแล
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค