กุนซือยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าหากบุกไปตอนนี้ เพื่อปกป้องตัวเอง ตระกูลเกาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นหมาจนตรอก ทำให้ศัตรูบาดเจ็บหนึ่งพันจะทำให้ธุรกิจของคุณเสียหายแปดร้อย ไม่คุ้มค่า!”สวีเทียนจิตใจสงบลงอย่างรวดเร็ว พยักหน้าด้วยรอยเยาะหยัน “กุนซือพิจารณาได้รอบคอบ งั้นก็ให้คนตระกูลเกามีชีวิตอยู่อีกสักสองวัน”“แจ้งไปยังราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่และนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ เตรียมพร้อมรับมือข้าศึก ออกไปสู้ได้ทุกเมื่อ! ถึงเวลาคนของตระกูลเกาทุกคน ลงนรกไปพร้อมกับเกาฉี่เฉียง!”กุนซือรีบเปลี่ยนสีหน้า พูดประจบสอพลอ “นายท่านสวีฉลาดปราดเปรื่อง ตระกูลสวีอยู่ภายใต้การบัญชาของคุณ จะต้องกลายเป็นกษัตริย์แห่งเมืองจิงไห่ได้แน่นอน ถึงเวลานั้นคุณจะอยู่ถึงจุดยอดสุด ก้มลงมองผู้คน”เวลาปกติ สวีเทียนต้องดีใจจนหัวเราะร่าตอนนี้ลูกชายกลายเป็นขันที ถึงแม้เขาจะยิ้มไม่ออก แต่มันก็ยังมีประโยชน์อยู่ในใจอย่างมาก“รีบเตรียมตัวให้พร้อม ฉันไปควบคุมที่บริษัท มีเรื่องอะไรรายงานฉันในทันที” สวีเทียนหันหลังเดินออกไปบนถนน รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งเร่งความเร็วขับผ่านทางแยกไปในรถ หยางหว่านอวี่เหม่อลอยเล็กน้อย ตั้งแต่ออกจากงานเลี้ยงการกุศล เธ
ความจริงแล้ว ก่อนที่หยางหว่านอวี่จะปรากฏตัวที่นี่เมื่อหลายนาทีก่อน ลั่วอู๋ฉางก็อยู่ที่ชั้นล่างแล้วตอนบ่ายของเมื่อวานซืน สวีอวิ๋นเลี่ยงพาอันธพาลบุกเข้าไปตระกูลอวี๋ และบังคับให้กู้ยืมเงินเพื่อเรียกเก็บเงิน ลั่วอู๋ฉางก็ไม่คิดจะปล่อยตระกูลสวีไปอยู่แล้วแน่นอนว่า จากแผนการเดิมของเขา เพียงแค่สั่งสอนสวีเทียนสักยก ตีจนพวกเขายอมแพ้พรุ่งนี้วันจันทร์ ไม่รบกวนอาอวี๋ไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยก็พอสำหรับความขัดแย้งของตระกูลสวีกับตระกูลเกา ลั่วอู๋ฉางไม่อยากเข้ายุ่งด้วยซ้ำ เดิมทีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาอยู่แล้ว ทำไมต้องเข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านแต่ว่า ทนกับการรนหาที่ตายของตระกูลสวีไม่ได้เรื่องในคืนนี้ ยั่วโมโหลั่วอู๋ฉางได้สำเร็จถึงแม้หยางหว่านอวี่จะกลายเป็นอดีตภรรยา ลั่วอู๋ฉางก็ตัดใจจากเธอได้แล้ว แต่ในเมื่อเคยเป็นผู้หญิงของราชันมังกรลั่วเทียน คนอื่นยังไม่มีสิทธิ์เหยียดหยามได้ตามใจชอบสวีอวิ๋นเลี่ยงกับสวีอวิ๋นฝานถูกลั่วอู๋ฉางกระทืบจนบาดเจ็บหนัก ความแค้นนี้นับว่าถูกมัดตายไปแล้ว ไม่มีทางย้อนกลับคืนสองเรื่องรวมเข้าด้วยกัน ตระกูลสวีจำเป็นต้องถอนราก หม ไม่เช่นนั้นจะมีเรื่องตามมาไม่หยุดเพียงแต่
“ไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนกล้าเข้ามายุ่ง ต่อให้มี พรรคพวกของฉันที่ชั้นล่างก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อย รอตำรวจขึ้นมาชั้นบนอย่างเอื่อยเฉื่อย เธอกับฉันคงทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว!”เพิ่งพูดจบ สวีเทียนเปิดลิ้นชักออกอย่างแรง หยิบยากล่องสีฟ้ากล่องหนึ่งออกมา เปิดออกต่อหน้าหยางหว่านอวี่ โยนเข้าปากทั้งหมด“ฮ่าฮ่า มีสิ่งเพิ่มความสนุก ดูสิว่าวันนี้ฉันจะเล่นสนุกกับเธออย่างไร!”หยางหว่านอวี่เสียใจภายหลัง ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเรื่องตัวเองคิดตื้นเกินไป ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือต้องรีบออกจากที่อันตรายแห่งนี้ให้เร็วที่สุดภายใต้ความตื่นตระหนก เธอหันหลังจะวิ่งหนี“ส่งมาถึงที่อยากจะหนีไป ถิ่นของผู้มีอำนาจทิศเหนือของฉัน จะอนุญาติให้เธออยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปได้อย่างไร!”สวีเทียนพุ่งเข้าไป ดึงผมของหยางหว่านอวี่เอาไว้ ลากไปที่โซฟาอย่างหยาบคาย ยกแก้วเหล้าขึ้นกรอกปากเธอ“กูกินของที่ช่วยเพิ่มความสนุก มึงก็ขาดไม่ได้ กูชอบท่าทางยั่วยวนของผู้หญิงเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งแบบมึง หลังจากที่ดื่มจนเมา ฮ่าฮ่าฮ่า!”หยางหว่านอวี่ดิ้นรนสุดแรง แต่เธอที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอ จะสู้กับสวีเทียนที่ร่างกายบึกบึนได้อย่างไร เหล้าแก
ในตอนที่จ้าวเหม่ยอวิ๋นร้อนใจเหมือนไฟแผดเผา กลับไร้ซึ่งหนทาง เกาชิงเหยียนพาพี่ตาวมาที่โรงแรมฮิลตันอารองเกาฉี่เซิ่งไม่อนุญาติให้เปิดศึกกับตระกูลสวี เท่ากับเกาชิงเหยียนผิดคำพูด เธอจะต้องขอโทษลั่วอู๋ฉางต่อหน้าล็อบบี้ของโรงแรม“คุณลั่วออกไปแล้ว ไปไหน?”เกาชิงเหยียนสีหน้าเป็นกังวล ลั่วอู๋ฉางจัดการสวีอวิ๋นฝาน ค่ำขนาดนี้แล้ว ออกไปข้างเป็นอันตรายอย่างมาก เธอไม่วางใจจริง ๆผู้จัดการห้องโถงกวักมือเรียกพนักงานเปิดประตู สอบถามอย่างละเอียด“ลูกค้านั่งรถส่วนตัวออกไป ผมเปิดประตูรถให้เขา เหมือนได้ยินคนขับรถถามจุดหมายปลายทางจากลูกค้า จากนั้นพูดถึงเทียนเซี่ยกรุ๊ป”เพราะว่าแขกวีไอพีของห้องสวีท พนักงานเปิดประตูจะปฏิบัติเป็นพิเศษกลัวอะไรได้แบบนั้นจริงๆเกาชิงเหยียนร้อนใจทันที “อาตาว เรียกคนของอามาเดี๋ยวนี้ ไปที่เทียนเซี่ยกรุ๊ป”พี่ตาวรีบพูดเกลี้ยกล่อม "คุณหนูครุ่นคิดให้ดีนะครับ เพียงแค่คนของผมที่น้อยนิด เสี่ยงบุกเข้าไป ไม่เพียงพอให้พวกเขาแคะฟันด้วยซ้ำ"ถึงเวลาคนช่วยออกมาไม่ได้ แถมยังต้องตาย คำนวณอย่างไรก็เป็นการค้าขายที่ขาดทุนเกาชิงเหยียนถลึงตาโต กัดฟันพูด “ถ้าหากคุณลั่วเป็นอะไรไป พ่อของฉันก
"วิ้ว......"ทันใดนั้นไฟสีแดงที่ด้านนอกกะพริบ เสียงกริ่งดังก้องไปทั่วทั้งตึกทุกคนตอบสนองในทันที มารวมตัวกันที่ห้องทำงานห้องนี้ชายร่างกำยำสี่คนที่วิ่งอยู่ด้านหน้าสุด หน้าตาดุดันโหดเหี้ยม พวกเขาการเคลื่อนไหวเร็วมากเหมือนกับกระต่าย รอบตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายความแข็งแกร่งที่นักบู๊โบราณเท่านั้นถึงจะมีตามมาติด ๆ ยังมีผู้แข็งแกร่งแปดคน สำหรับนักสู้ทั่วไป กลับเยอะมากนับไม่ถ้วนครู่หนึ่ง ห้องทำงานก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นขนัด"ราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่กับนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่เข้ามา ที่เหลือเฝ้าไว้ข้างนอก"สวีเทียนออกคำสั่ง ใบหน้ายิ้มแย้งอย่างพึงพอใจ "ไอ้หนุ่ม ได้ข่าวว่าแกสู้เก่งมาก บอดี้การ์ดสิบกว่าคนของลูกชายฉัน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกทั้งหมด""วันนี้ ที่นี่มีคนไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยคน นายคิดว่าตัวเองจะสู้ชนะได้ไหม?"หนึ่งคนต่อศัตรูสิบคน สำหรับผู้มีฝีมือบู๊โบราณเป็นเรื่องปกติมากแต่หนึ่งคนต่อศัตรูหนึ่งร้อยคน กลับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากข้อได้เปรียบด้านตัวเลขแล้ว ยังมีผู้แข็งแกร่งอย่างราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่และนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วยพวกเขาสิบสองคน ล้านเป็นทหารรับจ้างกับพวกที
มังกรลั่วออกมา พญายมล่าถอย!นี่คือคำสรรเสริญสูงสุดที่ผู้คนมอบให้ฉันลั่วอู๋ฉางราชันมังกรลั่วเทียนความก็คืออยู่ต่อหน้าเขา แม้แต่พญายมก็ทำอะไรไม่ได้ คนที่เขาอยากช่วย ต่อให้เท้าของอีกฝ่ายก้าวเข้าไปในประตูนรก ก็ถูกฝืนดึงกลับมาแต่มีคนจำนวนน้อยที่รู้ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "พญายมล่าถอย"หมายความว่าต่อหน้าลั่วอู๋ฉาง เป็นกับตายเขาคนเดียวที่เป็นผู้ตัดสิน ให้คุณมีชีวิต คุณก็ต้องมีชีวิต พญายมมาแล้วก็เปล่าประโยชน์หลักการเดียวกัน ลั่วอู๋ฉางให้คนคนหนึ่งตาย อย่าว่าแต่พญายาม ต่อให้เป็นเทพสูงสุดมาสถิตย์ ก็ขวางไว้ไม่ได้เช่นกันโลกรู้เพียงว่าในมือลั่วอู๋ฉางมีเข็มทองคำชุดอยู่ชุดหนึ่ง ควบคู่กับทักษะแพทย์ที่ประณีต สามารถทำให้กระดูกมีเนื้อ คนตายฟื้นคืนชีพ กลับไม่ค่อยมีคนรู้ว่าในมือของเขามีเข็มเงินอีกหนึ่งชุดเข็มเงินปรากฏ ฆ่าชีวิตคน!ในขณะนี้ ราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่กับนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นความหวังของสวีเทียน ชีวิตสิบสองคนถูกลั่วอู๋ฉางกุมไว้ในมือเพียงแค่ความคิดเดียว พวกเขาก็จะตายทันทีในตอนนี้ ทั้งสิบสองคนขยับเขยื้อนไม่ได้แล้ว กลายเป็นลูกแกะที่ถูกคนเฉือดเฉือนนอกห้องทำงาน ทุกคนตกตะลึงตาค้า
หนึ่งประโยค ทำให้อย่างน้อยมีสิบกว่าคนที่ตกใจจนล้มนั่งกับพื้นที่ชั้นล่าง หวังจื่อเฟิงขับรถสปอร์ตมาอย่างเร่งรีบสำหรับเขาแล้ว ในเมื่อหลบหลีกการโดนสวมเขาไม่ได้ ไม่สู้ยอมรับโดยดีจะดีกว่า ตัวเองยังไม่ใส่ใจที่หยางหว่านอวี่เคยแต่งงานแล้ว ทำไมต้องใส่ใจว่าเคยถูกผู้ชายคนอื่นมีเพศสัมพันธ์ด้วยในตอนนี้ เป็นเวลาที่ผู้หญิงบอบบางที่สุด ตัวเองแค่ใช้สายตาห่วงใย พูดสองสามประโยค ก็ทำให้หยางหว่านอวี่ซาบซึ้งอย่างมาก จากนั้นตายใจต่อเขา“คุณชายหวัง คุณมาแล้ว!” จ้าวเหม่ยอวิ๋นรีบทักทายเขาหวังจื่อเฟิงแสร้งทำเป็นพูดว่า "เมื่อได้รับสายของคุณ ผมก็รีบมาที่นี่ ระหว่างทางยังโทรหาพ่อโดยเฉพาะ ให้เขาช่วยคิดหาหนทาง"“มีหนทาง?” จ้าวเหม่ยหยิงถามอย่างเร่งรีบมีถึงจะแปลก!หวังจื่อเฟิงโกหกอย่างไร้ยางอาย "พ่อของฉันบอกว่า คนเดียวในเมืองจิงไห่ ที่สามารถควบคุมสวีเทียนได้คือลุงไท่ราชาใต้ดินรุ่นแรก ฉันขอร้องให้เขาโทรหาลุงไท่แล้ว"คุยโวโอ้อวดใครทำไม่เป็นบ้าง อย่างไรก็ไม่ต้องเสียภาษีตอนนั้นเมื่อเกาฉี่เฉียงและสวีเทียนตกต่ำ เป็นลุงไท่คนนี้ที่เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งสองฝ่ายมีความรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณและเคารพเขาอย่างยิ่ง"ดีมากเล
สีหน้าของหวังจื่อเฟิง น่าชมเป็นอย่างมาก"พ่อนายว่าอย่างไร บอกทุกคนสิ" ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเยาะหวังจื่อเฟิงยืดคอแข็ง พูดอย่างไร้ยางอาย "พ่อของฉันบอกว่าเป็นเขาที่โทรหาลุงไท่ สั่งสวีเทียนให้ปล่อยคน""โกหก! กล้าพูดความจริงออกมาไหม?" ลั่วอู๋ฉางไม่เคยเจอคนหน้าด้านแบบนี้มาก่อน หน้าด้านแย่งความดีความชอบหนึ่งครั้ง ไม่กลัวจะติดกับเหรอ!จ้าวเหม่ยอวิ๋นไม่พอใจทันที "ลั่วอู๋ฉางนายหมายความว่าอย่างไร? ถ้าไม่ใช่ความดีความชอบของคุณชายหวัง จะเป็นนายเหรอ นายก็แค่บังเอิญ พาประธานหยางลงมาจากด้านบนก็เท่านั้น ถ้าไม่มีพ่อของคุณชายหวังเป็นคนไกล่เกลี่ย นายคงตายอยู่ข้างบนตั้งนานแล้ว""นายไม่ขอบคุณคุณชายหวังก็ช่างเถอะ ยังจะพูดจาครุมเครือแบบนี้ ไม่มีมารยาทสักนิด!""อีกอย่างเรื่องนี้นายเป็นคนก่อ เกือบจะทำร้ายประธานหยางของเรา นายเป็นคนที่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น มีสิทธิ์อะไรยืนอยู่ที่นี่"หวังจื่อเฟิงโบกมือด้วยท่าทางใจกว้าง จากนั้นโบกมือพูด "เลขาจ้าว ช่างเถอะ! ผมทำเพื่อช่วยเหลือหว่านอวี่ ไม่ใช่เพราะช่วยเขา เขาก็แค่โชคดีเท่านั้น พบเจอเข้าพอดี ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้เขาขอบคุณ"จ้าวเหม่ยอวิ๋นฮึกเหิมทันที "ได้ยิ
ผู้หญิงนอกจากจะอิจฉา ก็ได้แต่ยอมรับว่าตัวเองสู้ไม่ได้ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยเหลือเกิน!เย้ายวนและเซ็กซี่!อะไรคือ ใบหน้าเหมือนนางฟ้า หุ่นเหมือนปีศาจ เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเธอคนนี้โดยเฉพาะ"ทำไมถึงเป็นเธอ?" ลั่วอู๋ฉางดูตกใจเล็กน้อยถ้าเป็นเกาชิงเหยียนหรือหนิงซินถง เขาคงคิดว่าเป็นเรื่องปกติแม้แต่หยูอีเหริน ลั่วอู๋ฉางก็ยังไม่รู้สึกตกใจแต่กลับเป็นหูเยว่ซี!จิ้งจอกตัวนี้ ไม่อยู่เฉยๆ ที่บ้านแล้วออกมาทำอะไร?"มารับนายท่านไงล่ะ!"หูเยว่ซีไม่สนใจสายตาประหลาดใจของลั่วอู๋ฉาง เดินอวดโฉมเข้ามาและคว้าแขนเขาทันทีทรวงอกที่ใหญ่โตนุ่มนิ่ม กระชับแนบชิดกับแขนของลั่วอู๋ฉางพอมองไปที่พวกผู้ชายที่ยืนตะลึงอยู่ ก็เห็นว่าต่างพากันอิจฉาอย่างสุดขีดสาวงามที่หายากทั้งบนฟ้าและบนดิน กลับมีเจ้าของแล้ว!ที่สำคัญ ผู้ชายคนนั้นดูธรรมดาขนาดนั้น เขามีดีอะไรกัน?"ขับรถมาไหม?" ลั่วอู๋ฉางถามขณะสวด "บทสงบใจ" ในใจหูเยว่ซีพยักหน้า "แน่นอน!""ถึงจะบินมาสะดวกกว่า แต่กลางวันแสกๆ แบบนี้ ฉันคงโดนจับไปแยกร่างเพื่อค้นคว้าวิจัยแน่ๆ"ลั่วอู๋ฉางพูดว่า "ไปชานเมืองทางใต้"ห่างออกไปสิบกว่ากิโลเมตร ริมทะเลสาบที่ส่องประกาย
"ตูม...!"ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือน!เสียงดังมาจากปากทางขึ้นเขา เห็นกลุ่มควันรูปเห็ดสีขาวลอยขึ้นช้าๆ"ระเบิด...จริงเหรอ?" ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจส่วนหนานกงจือรั่วมีสีหน้าหวาดกลัวไม่ใช่ของปลอมเหรอ? แล้วมันระเบิดได้ยังไง?บริเวณปากทางขึ้นเขา เต็มไปด้วยความวุ่นวายผนังหินทั้งสองข้างถล่มลงมา ก้อนหินเล็กใหญ่กลิ้งลงมาจนเป็นกำแพงกั้นหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากระเบิด มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสิบเมตร และลึกถึงห้าเมตรอย่างน่ากลัว!แม้แต่น้ำใต้ดินก็เริ่มไหลออกมาบนพื้นมีผู้คนล้มลงกระจัดกระจาย รอบศูนย์กลางของการระเบิดมีศพหลายร่างที่ถูกทำลายจนดูไม่ออก อวัยวะต่างๆ กระจัดกระจายเต็มพื้นไม่ใช่แค่ศพของชาวบ้าน แต่ยังมีศพของนักบู๊โบราณที่ใส่ชุดต่อสู้อีกด้วยคนคนหนึ่งที่เปื้อนเต็มไปด้วยดินและฝุ่นจนเสื้อผ้าดูไม่ออกว่ามีสีหรือรูปแบบอะไร ใบหน้าก็สกปรกไปหมด เธอเงยหน้าขึ้นอย่างลำบากจากรูปร่างและผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง ดูออกได้ไม่ยากว่าเป็นผู้หญิงหลังจากที่ตบและเช็ดไปอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดใบหน้าที่แท้จริงก็ปรากฏออกมาใช่แล้ว เธอก็คือหลินเชี่ยน!เธอได้รับการเลี้ยงดูแบบชนชั
ชายชราเพียงส่งสายตา ชาวบ้านที่ผูกระเบิดไว้กับตัวก็เดินกราดเข้ามาทันที พร้อมกับอุปกรณ์จุดระเบิดในมือคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนท่าทีเป็นดุดันอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีไม่เป็นมิตรอย่างยิ่งชายชรายิ้มเจ้าเล่ห์ "พวกคนในเมืองอย่างพวกนาย ชีวิตคงมีค่ามากล่ะสิ จะมาเสี่ยงชีวิตเพื่อของนอกกายพวกนี้ทำไม จริงไหม?""แต่พวกเรามันต่างออกไป ชีวิตของเรามันไร้ค่า เอามาแลกกับชีวิตกับพวกนาย ไม่คุ้มกันหรอก!"ชายชราผู้นี้ เจ้าเล่ห์ยิ่งนักเขารู้จักใช้จุดแข็งของตัวเองและพูดกดดัน เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามยอมถอย"ระเบิดเลยสิ" ลั่วอู๋ฉางพูดขึ้นอย่างเย็นชาชายชราอึ้งไป "นายพูดว่าอะไรนะ?""ไม่ใช่ว่าจะตายไปด้วยกันเหรอ เอาเลยสิ!" ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยสีหน้าไม่หวาดกลัวใดๆ เหมือนกำลังพูดถึงเรื่องเล็กที่ไม่สำคัญชายชราเบิกตากว้าง "ไอ้หนู นายพูดจริงหรือ?""นายอยากตายเอง แต่จะพาคนอื่นไปด้วยหรือ? นายมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินใจแทนคนอื่น นายมีสิทธิ์นั้นหรือไง?""ไอ้หนูนี่มันบ้าแล้ว พวกนายจะปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจหรือ?"นี่ก็คือการพยายามยุแหย่ให้แตกกัน!คนหนึ่งคนไม่กลัวตาย ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะไม่กลัวตายถ้าสร้างความขัดแย้งในหมู่พวกเขาไ
"ชวีหลิงหาน?"ลั่วอู๋ฉางชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตะโกนออกมา"อาจารย์หญิงรอง!"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง แม้แต่คนนอกอย่างหนานกงจือรั่วก็ยังตกใจมีเพียงซูเทียนคั่วที่ยังคงสงบนิ่ง ตาแก่ผู้นี้เคยเจอเรื่องมีภรรยาหลายคนบ่อยจนชินแล้ว จึงยอมรับได้ง่ายเป็นธรรมดาเย่ปิงเหยาพยักหน้าอย่างจนใจในตอนแรก ลั่วอู๋ฉางตั้งใจปิดบังเนื้อหาในกระดาษ เพราะกลัวว่าพวกเธอจะไม่รู้เรื่องของกันและกันถ้าถูกเปิดเผย เรื่องคงจะยุ่งยากแน่นอน!แม้ว่าเทพอวี้คนนั้นมักทำให้ลูกศิษย์ลำบากเสมอ และลั่วอู๋ฉางก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำหลายอย่างของเขาแต่เรื่องนั้นเป็นปัญหาเรื่องศีลธรรมในตัวของเทพอวี้เองลั่วอู๋ฉางจะไม่เอาคืนโดยการไปทำให้อาจารย์ลำบากหรอกเพราะนี่ก็เป็นเรื่องของศีลธรรมเช่นกันดังนั้นลั่วอู๋ฉางจึงยอมช่วยตาแก่นั่นปิดบังให้ไม่คิดเลยว่า สุดท้ายตาแก่คนนั้นจะโป๊ะแตกซะเอง!เย่ปิงเหยาผู้เป็นอาจารย์หญิงคนนี้ช่างไม่ธรรมดาเธอหาเบาะแสเจอได้ในเวลาอันสั้นแม้ว่าเธอกับเทพอวี้จะไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ แต่ชื่ออาจารย์หญิงก็เป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริงในตอนที่ตาแก่นั่นป่วยหนักและต้องการคนดูแลเอาใจใส่ กลับไปหลบอย
"ยังมีใครอีก?" น้ำเสียงของลั่วอู๋ฉางสงบนิ่งยิ่งนัก แต่กลับสร้างความหวาดกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้กวานเหวินเหยารีบก้มหน้าลงทันที เกรงว่าจะสบตากับลั่วอู๋ฉางเข้า"คุณหนูหนานกง ไปกันเถอะ" ลั่วอู๋ฉางกล่าวหนานกงจือรั่วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มกว้างดั่งดอกไม้บาน "ได้ค่ะ!"เมื่อเห็นพวกเขาเดินจากไป หลินเชี่ยนกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาเปล่งประกายความเคียดแค้นเมื่อทั้งห้าคนเดินห่างออกจากพื้นที่ใจกลางภูเขาชางหลง สัญญาณโทรศัพท์ก็ค่อยๆ ดีขึ้นเย่ปิงเหยาวุ่นอยู่กับการติดต่อคนรู้จักทันที เพื่อสอบถามวิธีการถ่ายทอดพลังเข้าสู่แท่งคริสตัล"ได้เรื่องแล้ว!"ผ่านไปครู่หนึ่ง เย่ปิงเหยาก็ยิ้มออกมา "มีคนบอกฉันว่า มีชายคนหนึ่งชื่อหมอพิษกระหายเลือด เขารู้วิธีนี้""แต่เขาเป็นพวกอารมณ์สองขั้ว แถมมีศัตรูนับไม่ถ้วน ช่วงหลายปีมานี้เขาหายตัวไปจากยุทธภพ แทบไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน""ฉันได้ขอให้เพื่อนช่วยตามหาแล้ว คิดว่าอีกไม่นานคงจะมีข่าว"คิ้วคมของลั่วอู๋ฉางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาพึมพำกับตัวเอง "หมอพิษกระหายเลือด...ทำไมชื่อฟังดูคุ้นๆ นะ""เธอก็เป็นคนในวงการแพทย์ จะเคยได้ยินชื่อนี้ก็ไม่แปลกหรอก"
เมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางที่หันหลังเดินจากไป พร้อมกับนึกถึงอาการป่วยของปู่ที่ทรุดหนัก หลินเชี่ยนก็กัดฟันกรอดด้วยความแค้น"เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้!"เฉินเหล่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าหญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ที่ไหน รอเราออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยหาวิธีอีกทีเถอะ""จะมีวิธีอะไรได้ คนบ้านั้นมันไม่ฟังใครเลย!" หลินเชี่ยนนึกถึงท่าทางหยิ่งยโสของลั่วอู๋ฉางแล้วก็ยิ่งโกรธเฉินเหล่าฝืนยิ้มและพูด "ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ คุณหนูใหญ่ก็คงต้องลดท่าทีลงไปขอโทษเขา เขาบอกให้ไปหาเขา แสดงว่ายังมีโอกาสอยู่...""ให้ฉันไปขอโทษเขาเนี่ยนะ? ทำไมต้องทำด้วย!" หลินเชี่ยนตาโต"คิดถึงสุขภาพของท่านหัวหน้าตระกูลไว้สิครับ เมื่อเทียบกับคำขอโทษประโยคเดียว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย!" เฉินเหล่ายังคงพยายามเกลี้ยกล่อมหลินเชี่ยนไม่โง่ เธอรู้ว่าในถิ่นทุรกันดารนี้ เธอไม่มีทางสู้ลั่วอู๋ฉางได้รอออกไปข้างนอกก่อน ใช้อิทธิพลของตระกูลหลินกดดันเขา ถึงตอนนั้นค่อยไปเจรจาใหม่ก็ยังไม่สายเมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางกับพวกกำลังจะเดินไปไกลแล้ว ในที่สุดซืออวิ๋นหานก็ทนไม่ไหวและตะโกนขึ้น "ลั่วอู๋ฉาง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!""นายฆ
มันต้องเป็นข้ออ้างที่ไอ้เด็กนี่กุขึ้นมาแน่ๆ!"ลั่วอู๋ฉาง นายว่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ของตระกูลฉันลอบโจมตีนาย มีหลักฐานหรือเปล่า?" ซืออวิ๋นหานกัดฟันแน่น พยายามควบคุมความโกรธที่กำลังจะปะทุลั่วอู๋ฉางกล่าวอย่างไม่แยแสว่า "แค่ฆ่าคนสักคนสองคนเท่านั้น ต้องการหลักฐานอะไรกัน?""นาย..." ซืออวิ๋นหานโกรธจนหน้าอกสะท้าน มือข้างหนึ่งกำด้ามดาบแน่นซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดเสียงดังว่า "ศิษย์พี่ฉันเป็นคนมีคุณธรรม ใจกว้าง และไม่เคยหาเรื่องใครก่อน""แต่หากใครมาหาเรื่อง ศิษย์พี่ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ!""คนที่ชื่อซือเทียนฉีนั่น คิดจะฆ่าพวกเราเพื่อแย่งชิงสมบัติ สมควรตายแล้ว!"ซืออวิ๋นหานเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่เมื่อคิดถึงภาพที่ลั่วอู๋ฉางสังหารพญานาคในพริบตา ก็เหมือนถูกสาดน้ำเย็นจนทั่วหัว ทำให้เขายอมถอยอย่างรวดเร็วเขาไม่กล้าจริงๆ!ลั่วอู๋ฉางเห็นเช่นนั้น จึงกล่าวว่า "ไปกันเถอะ""เดี๋ยวก่อน!"คราวนี้คนที่พูดคือหลินเชี่ยน ท่าทีราวกับออกคำสั่งเห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจคำเตือนของเฉินเหล่า"ไอ้แซ่ลั่ว ฉันถามนาย หญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ในมือนายหรือเปล่า?"หลินเชี่ยนจ้องเขาเขม็งและกล่าวว่า "ตั้งแต่พญาน
"คุณหนูหลิน ไม่ใช่ว่าพวกเราไร้ความสามารถ แต่ข้างล่างว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของหญ้าวิเศษเลย"ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลกวาน พูดไปตัวสั่นไปว่า "พวกเราค้นจนทั่วแล้ว แต่สุดท้ายก็หาอะไรไม่เจอเลย"ปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลซือที่อยู่ข้างๆ กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่มอย่างเต็มที่ พลางเสริมว่า "ไม่มีจริง ๆ ครับ!"ในที่ไกลๆ ชายสูงวัยที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งเสร็จ แต่ผมยังเปียกอยู่ กล่าวว่า "เห็นไหมว่าพวกเราไม่ได้โกหก พูดจริงทั้งนั้น!"เพื่อหลีกเลี่ยงการฮุบไว้คนเดียว ทุกครั้งจะเลือกคนจากทั้งสองตระกูลลงไปด้วยกันเพื่อคอยตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันนี่เป็นกลุ่มที่สองแล้ว แต่ก็ยังกลับมามือเปล่าหลินเชี่ยนจ้องตาเขม็งพูดว่า "มันต้องมีสิ พวกนายไม่มีความสามารถเองถึงได้หาไม่เจอ!""ไอ้คนแซ่กวาน แล้วก็ซืออวิ๋นหาน พวกนายเพิ่งสัญญาต่อหน้าฉันเองว่าต้องเก็บหญ้าวิเศษมาได้แน่ๆ!""เสียเวลาตั้งนาน ได้แค่นี้เนี่ยนะ?"ทั้งสองคนสีหน้าไม่ค่อยดีนัก"คุณหนูหลิน ใจเย็นๆ นะครับ เดี๋ยวพวกเราจะส่งคนลงไปอีก" กวานเหวินเหยาพูดอย่างหน้าด้านๆซืออวิ๋นหานรีบพยักหน้า "ใช่ครับๆ ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ ยิ่งยากก็
ลั่วอู๋ฉางถามต่อว่า "ดังนั้น พวกเขาเลยฆ่ากันเองใช่ไหมครับ?""ใช่แล้ว!"เย่ปิงเหยาพยักหน้า "ในช่วงค่ำคืนเดียว พวกเขาที่ต่างก็มีแผนร้ายในใจ สุดท้ายก็ปะทุออกมาเมื่อเช้าวานนี้""ทุกคนต่างพยายามยึดถ้ำแห่งนี้เป็นของตัวเอง ใช้วิธีสกปรกเช่นวางยาและโจมตีแบบลอบกัดอย่างต่อเนื่อง""ฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกเขาคิดไม่ซื่อ จึงระวังตัวไว้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังกลายเป็นเป้าหมายหลัก ไม่เพียงถูกทำร้ายยังถูกวางยาพิษด้วย"พูดถึงตรงนี้ เย่ปิงเหยาก็แสดงสีหน้ายินดีแล้วพูดว่า "ยังดีที่ฉันรู้วิชาแพทย์ จึงสามารถควบคุมพิษไว้ได้""และด้วยวิชาแกล้งตายที่ตาแก่นั่นสอนฉัน ทำให้ฉันหลอกพวกเขาได้อย่างสนิทใจ ไม่เช่นนั้นฉันคงตายสภาพอนาถกว่าพวกเขาแน่"เพียงแค่เย่ปิงเหยาคิดถึงใบหน้าชั่วร้ายของพวกเขา เธอก็อดโมโหไม่ได้แม้พวกเขาจะตายหมดแล้ว ก็ยังไม่สามารถหยุดความเกลียดชังของเย่ปิงเหยาได้!ในความเป็นจริง หากลั่วอู๋ฉางและพวกไม่ได้มาทันเวลา เย่ปิงเหยาคงไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมาเองได้อย่างช้าสุด เธอคงต้องจบชีวิตลงในเย็นวันนี้"อาจารย์หญิง ท่านมั่นใจหรือว่านี่คือแก่นของคริสตัลสวรรค์?"ลั่วอู๋ฉางยื่นมือไปหักคริสตัลชิ้นหนึ