วันต่อมา ท้องฟ้าแจ่มใสกลางฤดูหนาว มีอากาศดีแบบนี้ หายากจริง ๆสำนักฮุ้นหยวน บนพื้นที่โล่งหน้าประตู ได้ตั้งเวทีสี่เหลี่ยมไว้ที่นี่แน่นขนัดตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว เสียงอึกทึกครึกโครมผู้คนมาจากทุกสารทิศ เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่และมีชีวิตชีวามาก"รีบดูสิ นั่นคือปรมาจารย์อวี๋แหย่นปินจากเจียงหนาน!""จริงเหรอ? ปรมาจารย์อวี๋เป็นคนหลินอันตั้งแต่กำเนิด อยู่ห่างจากที่นี่ไปเป็นพันกิโลเมตร คาดไม่ถึงว่าเขาจะมา!""ยังมีผู้อาวุโสในโลกศิลปะการต่อสู้บู๊ลิ้มคนอื่น ๆ ซึ่งบางคนไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะมานานกว่าสิบปี คาดไม่ถึงว่าก็มาด้วย""ข่าวเพิ่งออกมาเมื่อสองวันก่อนใช่ไหม? พวกใหญ่ ๆ เหล่านี้พากันมา เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าให้ความสำคัญกับการต่อสู้ครั้งนี้มากน้อยเพียงใด"สิ่งที่เกิดขึ้นที่การประชุมผู้นำ ไม่ได้ก่อให้เกิดกระแสใด ๆ ในโลกศิลปะการต่อสู้บู๊ลิ้มในสายตาของหลาย ๆ คนมันเป็นเพียงเจ้าพ่อใต้ดินกลุ่มหนึ่งต่อสู้เพื่อแยกดินแดนอย่างมากก็แค่หมากันกันในทางตรงกันข้าม การนัดหมายของหม่าเป่ากัวกับลั่วอู๋ฉางกระจายไปราวกับไฟป่าวันนี้คนเหล่านี้ล้วนมาที่นี่เพื่อหม่าเป่ากัวมีข่าวลือในโลกศิลปะการต่อสู้บู๊
"ไม่ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองเลย นายมีคุณสมบัติแบบไหนตัวเองไม่รู้ตัวเหรอ?""อยากเข้าสำนักฮุ้นหยวนของเรา คนที่ไม่มีพรสวรรค์ไม่ได้ อาจารย์ของฉันมีสายตาที่สูงส่ง! อายุขนาดนี้แล้ว ยังไหว้ครูเรียนแบบคนหนุ่มสาว ไม่อายเหรอ!"พูดจบเขาก็ติงจงหลินออกไปอย่างไกลคนอื่น ๆ ที่มีความคิดเดียวกันก็ถอยกลับภายใต้สายตาที่น่าชื่นชมของทุกคน หม่าเป่ากัวก็ก้าวขึ้นไปบนเวที"ไม่เลว ในฐานะที่เป็นที่ตายของลั่วอู๋ฉาง มันคู่ควรกับเขาแล้ว!" หม่าเป่ากัวแสดงความคิดเห็นลูกศิษย์รีบแสดงจุดยืนของเขา "แน่นอนว่าศิษย์จะต้องใส่ใจกับสิ่งที่อาจารย์สั่ง นี่เป็นครั้งแรกที่อาจารย์ได้ท้าทายใครบางคนในรอบกว่าสิบปี และมันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสำนักฮุ้นหยวนของเรา""แม้ว่าเวลาน้อยงานหนัก แต่ก็ยังต้องสร้างเวทีให้หรูหรา"ในเวลานี้มีรถหรูหลายคันขับมาและตามมาด้วยรถสินค้าขนาดเล็กคันหนึ่งชายฉกรรจ์ทั้งสี่คน ช่วยกันแบกแผ่นป้ายทองคำลงมาจากด้านบนทั้งแผ่นทำจากทองคำบริสุทธิ์ทั้งหมด เปล่งประกายเจิดจ้าท่ามกลางแสงแดด!บนป้ายทองคำ ล้อมรอบด้วยลายสวยงาม ตรงกลางเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่สี่ตัว ซึ่งโดดเด่นมากปรมาจารย์บู๊ลิ้ม!"เชี่ย!
คนกลุ่มหนึ่งหิวโหย เพราะสำนักฮุ้นหยวนไม่ได้เลี้ยงอาหาร พวกเขาจำเป็นต้องจัดการเองเฉพาะคนที่หม่าเป่ากัวเชิญมาเท่านั้นที่มีสิทธิ์ติดตามเขาเข้าไปรับประทานอาหารสำหรับเรื่องนี้ ทุกคนค่อนข้างวิพากษ์วิจารณ์...ตระกูลหนิง เมืองโบราณของเมืองจิงไห่"พ่อ พ่อรีบหน่อยสิ!"หนิงซินถงดูกังวลและเร่งเร้า "ต้องใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมงกว่าจะถึงเขตเมืองของมณฑล พวกเรารีบไปกันเถอะ!""จะรีบทำไม?"หนิงหงถูสีหน้าสงบและพูดว่า "คุณลั่วไม่ได้บอกแล้วเหรอ ไปถึงตอนเย็นก็พอ""ไปถึงก่อนเวลาเป็นมารยาทขั้นพื้นฐานที่สุด! ออกเดินทางเร็วหน่อยจะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด ถ้าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางและไปไม่ทันจะทำยังไง?" หนิงซินถงรอไม่ไหวแล้วหัวใจของเธอได้ลอยไปยังเขตเมืองของมณฑลแล้วเหตุผลที่อาจารย์ลั่วอู๋ฉางมีความแค้นกับสำนักฮุ้นหยวน เพราะเพื่อรักษาความเย็นในร่างกายเธอและเปิดเผยความหน้าซื่อใจคดของชวีเว่ยถิงตอนนี้ หม่าเป่ากัวได้จัดตั้งเวทีเป็นตายเพื่อต่อสู้กับลั่วอู๋ฉางหนิงซินถงจะไม่กังวลได้อย่างไร!เมื่อคืนเธอร้องให้ไปที่เขตเมืองของมณฑลเพื่อตามหาลั่วอู๋ฉางตามแผนเดิมของหนิงหงถู ออกเดินทางในอีกหนึ่งชั่วโมงก็ไม่สา
ยาในมือของลูกสาวหนิงหงถู มีประสิทธิภาพดีขนาดนี้เลยเหรอ?เธอไปเอามาจากไหน?ไม่ได้ เดี๋ยวต้องหาโอกาสถามให้ชัดเจนในฐานะนักบู๊โบราณ ไม่ว่าจะต่อสู้อย่างกล้าหาญหรือฝึกมือกับผู้อื่น ล้วนได้รับบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คงจะดีมากถ้ามียาครอบจักรวาลอยู่ข้างกายหลังจากหม่าเป่ากัวได้ตัดสินใจว่าฆ่าลั่วอู๋ฉางตายแล้ว เขาก็จะลงมือกับสองพ่อลูกของตระกูลหนิงทันที!นี่คือสิ่งที่พวกแกสองคนมาติดกับเองต้องแรก!หม่าเป่ากัวมองไปที่หนิงซินถงด้วยสีหน้าชั่วร้ายบริสุทธิ์และน่ารักมาก!นี่คือเด็กที่เกือบจะกลายเป็นภรรยาของลูกศิษย์ของตัวเอง ในเมื่อลูกศิษย์ของฉันเสียชีวิตเพราะเธอ งั้นฉันในฐานะอาจารย์จึงต้องช่วยลูกศิษย์ที่รักของฉันทำธุระที่ยังไม่เสร็จให้สำเร็จแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการปลอบใจลูกศิษย์ที่รักแล้วหนิงหงถูได้นำยอดฝีมือระดับปรมาจารย์มาคุ้มครองด้วยหกคนพวกเขารีบล้อมสองพ่อลูกไว้ตรงกลาง ทุกคนดูเหมือนศัตรูตัวฉกาจ"ไอ้หมาแก่หนิง แกคิดว่าพาพวกลูกกระจ๊อกแบบนี้มา ก็จะไม่เห็นสำนักฮุ้นหยวนของเราอยู่ในสายตาได้แล้วเหรอ ก็จะมาหยิ่งผยองต่อหน้าฉันได้แล้วเหรอ?"หม่าเป่ากัวพูดด้วยรอยยิ้ม "อายุเยอะขนาดนี้แล้ว ยัง
"เขากล้ามาจริง ๆ!""มันมากเกินไปแล้ว ให้พวกเรารออยู่ในลมหนาวทั้งวัน แต่เขากลับท่าทางสบาย ๆ กวนตีนจริง ๆ!""อายุน้อยพอ บ้าพอ ก็มีชีวิตพอแล้ว! ยั่วยุปรมาจารย์การต่อสู้บู๊ลิ้มอย่างปรมาจารย์หม่า ไม่รู้จักที่เป็นที่ตายจริง ๆ"หลังจากที่ทุกคนจำลั่วอู๋ฉางได้ก็ต่างพากันส่ายหัวแม้แต่ผู้ที่มีใจจดจ่ออยู่กับลั่วอู๋ฉางก็ยังไม่พอใจที่ถูกให้รอมาทั้งวัน หันไปเข้าข้างหม่าเป่ากัวนอกจากนี้ยังเป็นความรู้สึกอุปาทานของผู้คนอีกด้วยไม่ว่าจะมองอย่างไร ดูเหมือนว่าลั่วอู๋ฉางจะไม่มีความสามารถในการต่อสู้กับปรมาจารย์หม่าเลยเขาอายุน้อยมาก!ดูเหมือนจะอายุยังไม่ถึงสามสิบ แม้จะเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่ในท้องแม่ แต่ก็ใช้เวลาแค่ครึ่งหนึ่งของปรมาจารย์หม่าความแตกต่างที่มากขนาดนี้เหมือนฟ้ากับเหวข้ามไม่ได้!หานฉู่เฟิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและคิดในใจ ลั่วอู๋ฉางนะลั่วอู๋ฉาง นายเป็นคนที่กำลังจะตายอยู่แล้ว ยังกล้าที่จะพูดคำที่หยิ่งผยองแบบนี้ไม่กลัวจริงหรือว่าจะทำให้ปรมาจารย์หม่าโกรธจนฉีกนายเป็นชิ้น ๆ บนเวทีในภายหลัง?ในความเป็นจริง ยิ่งลั่วอู๋ฉางน่าสังเวชมากเท่าไหร่ หานฉู่เฟิงก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
"ในเมื่อผู้แข็งแกร่งสามารถฝ่าฝืนกฎได้ งั้นวันนี้ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็สมเหตุสมผล ใครก็ห้ามเข้ามายุ่งเด็ดขาด"สายตาที่เย็นชาของลั่วอู๋ฉางหันไปที่หม่าเป่ากัวดวงตาทั้งสี่สบเข้าหากัน!"ไอ้เด็กหยิ่งผยอง!"หม่าเป่ากัวยิ้มอย่างดูถูกและพูดด้วยสายตาดุเดือด "นายตั้งใจมาช้าขนาดนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าถ่วงเวลาช้าไปหนึ่งวัน มีชีวิตอยู่ได้อีกวันก็ได้กำไรแล้ว!""ที่จริงนะ มันไม่มีความหมายอะไรเลย!""นายแค่อาศัยพลังของปีศาจสาวที่อยู่ข้าง ๆ คนนั้นถึงได้บ้าคลั่งขนาดนี้ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ลูกผู้ชายอกสามศอกหลบอยู่หลังผู้หญิง ไม่คิดว่าหน้าอายเหรอ?"หูเยว่ซีโกรธจนตาที่หรี่เบิกกว้าง "ไอ้แก่อย่างนายต่างหากที่เป็นปีศาจ เป็นปีศากันทั้งบ้าน!""กล้าพูดแบบนี้กับฉัน นายอยากตายมากใช่ไหม? ฉันจะสนองนายเดี๋ยวนี้ อยากตายยังไง นายสามารถสั่งเสียได้แล้ว"หม่าเป่ากัวตะคอกและมองไปที่ลั่วอู๋ฉางต่อไป "ลั่วอู๋ฉาง วันนี้ฉันต้องการท้าทายนาย""ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ นายแน่ใจเหรอว่าต้องการเป็นเต่าหัวหด?"วิธีการกระตุ้นแบบนี้ ไม่ฉลาดเลยหากลั่วอู๋ฉางหน้าด้านจริง ๆ และให้หูเยว่ซีมาต่อสู้แทนตัวเอง หม่าเป่ากัวจะสั่งให้โจมตีทั
"ปรมาจารย์ใหญ่ ทรงพลังมากจริง ๆ!""ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์หม่าน่าสะพรึงกลัวมาก!""ปรากฏตัวก็ชนะแล้ว นี่ถูกกำหนดให้เป็นการต่อสู้ที่ไม่ต้องสงสัยเลย"ทุกคนประทับใจในความแข็งแกร่งอันทรงพลังของหม่าเป่ากัวและพึมพำอย่างซาบซึ้งสำหรับหม่าเป่ากัว นี่เป็นเพียงการเปิดตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่เริ่มต้นเท่านั้น ความแข็งแกร่งที่แท้จริงยังอยู่ข้างหลัง!"ฉึก!"ในขณะที่เขาเปิดเผยระดับพลังยุทธ์ของเขา พลังพลุ่งพล่านก็พุ่งเข้ามารอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว ก่อตัวเป็นพายุหมุนที่หนาวเย็นทันใดนั้น ลมก็พลุ่งพล่าน!ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวนี้สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับคนรอบข้างเวทีมากดูเหมือนว่าทุกคนกำลังจะหายใจไม่ออก!ทุกคนก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าหวาดกลัวแม้แต่หนิงหงถูก็อดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่าน "นี่ก็คือปรมาจารย์ใหญ่เหรอ!"หลายคนก็มีความรู้สึกแบบเดียวกับเขา"ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง หม่าเป่ากัวไม่ได้เพิ่งเลื่อนตำแหน่งเป็นปรมาจารย์ใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้แน่นอน"หนิงหงถูดูเหมือนกังวลเล็กน้อย "เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในระยะนี้มาเป็นเวลานาน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถบรรลุโมเมนตัมเช่นนี้ได้""ตาแก่นี่ซ่อนได้ลึกพ
บนเสาธงที่อยู่ไม่ไกล ลั่วอู๋ฉางยืนด้วยขาข้างเดียวไม่ว่าลมจะพัดแรงแค่ไหน เขาก็ยังยืนยิ่งไม่ขยับเขยื้อน!การแสดงออกเป็นธรรมชาติและผ่อนคลายมาก ตรงกันข้ามกับหม่าเป่ากัวที่มีสีหน้าเคร่งขรึม"อะไรกัน?!""เขายังไม่ตาย!""จะเป็นไปได้ยังไง? เขาวิ่งไปที่เสาธงตั้งแต่เมื่อไหร่?"ทุกคนตะลึงกับภาพตรงหน้า!หม่าเป่ากัวเป็นยอดฝีมือในระดับปรมาจารย์ใหญ่และเป็นถิ่นของตัวเอง ได้เปรียบทั้งเรื่องเวลาและสถานที่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปรมาจารย์หม่าลงมือก่อน"ไร้ยางอายเกินไปหรือเปล่า? ลั่วอู๋ฉางออกจากเวทีเอง สามารถตัดสินให้เขาแพ้ได้โดยตรง!""รู้แต่หนีเอาชีวิตรอด ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า?""ไม่ปฏิบัติตามกฎของเวที ไอ้หมอนี่ลักไก่ ทุกคนประณามเขากับพวกเรา!"กลุ่มคนเริ่มส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ในหมู่พวกเขาส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของสำนักฮุ้นหยวน เสียงตำหนิดังกระหึ่มหนิงหงถูพูดเสียงดัง "เวทีเป็นตาย ตัดสินเป็นตาย! ในเมื่อเป็นการต่อสู้เป็นตาย บทบาทของเวทีก็น้อยมาก แม้กระทั่งมีหรือไม่มีก็ยังได้!""แต่ในเมื่อพูดถึงเวทีแล้ว ผมก็ต้องพูดถึงอีกเรื่องหนึ่ง""ในการประชุมผู้นำที่จัดขึ้นที่เมืองจิงไห่เมื่อสามวันก่