"หยุดนะ!"หนิงหงถูยืนอยู่ต่อหน้าชวีเว่ยถิงและพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน "นี่คือบ้านตระกูลหนิง นายไม่มีสิทธิ์มาฆ่าใครที่นี่""หนิงหงถู นายแก่เลอะเลือนแล้วใช่ไหม?"ชวีเว่ยถิงตะโกนด้วยความโกรธ "ลูกสาวนายมีสัญญาแต่งงานกับฉัน แต่นายกลับไปเข้าข้างคนอื่น ช่วยคนนอกโจมตีคนกันเอง!"เดิมหนิงหงถูก็ไม่พอใจกับการแต่งงานนี้อยู่แล้ว และยิ่งไม่พอใจกับไอ้เลวชวีเว่ยถิงนี่ เลยพูดด้วยความโกรธว่า "คุณลั่วช่วยลูกสาวฉันไว้ ก็คือผู้มีพระคุณของตระกูลหนิงเรา"ชวีเว่ยถิงยิ่งโกรธมากขึ้น "เห็นได้ชัดว่าฉันเป็นคนที่ควรจะช่วยลูกสาวของนาย แต่ไอ้สารเลวนี่มาขัดขวางและแย่งผลงานของฉันไป!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเบา ๆ "นายมาเพื่อช่วยคน หรือมาเพื่อดูดซับพลังของเทพปกรณัม?""เกี่ยวอะไรกับแก? แกมีสิทธิ์อะไรมาถามฉัน?"ชวีเว่ยถิงขู่หนิงหงถูว่า "ไอ้แก่เลอะเลือน ฉันขอเตือนให้นายอย่าเลือก!""ไม่เช่นนั้น ตระกูลหนิงของพวกนายจะเป็นศัตรูของสำนักฮุ้นหยวน เมื่ออาจารย์ของฉันมาที่นี่ด้วยตัวเขาเอง พวกนายทั้งครอบครัวจะตายแน่!""ไม่อยากตาย ให้คนของนายไสหันไป ได้ยินไหม?"หนิงหงถูยิ้มเย็นชา "แม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร แต่ก็เข้าใจว่าความกตัญ
"บูม!"หมัดเหล็กของชวีเว่ยถิงกระแทกกำแพงสีทองอย่างรุนแรงและส่งเสียงอึกทึกทันทีทันทีหลังจากนั้น ใบหน้าที่ดุร้ายของชวีเว่ยถิงถูกแทนที่ด้วยความตกใจในทันทีนี่เป็นเพราะความเจ็บปวดเจาะใจจากหมัด ขยายไปตามแขนอย่างรวดเร็วจนถึงทั้งตัว!ความเจ็บปวดแบบนี้ทำให้คนทรมานมาก!ชวีเว่ยถิงโตขนาดนี้ เขาเคยแต่รังแกคนอื่น ดูอีกฝ่ายเจ็บปวดและคุกเข่าต่อหน้าเขาเพื่อขอความเมตตา ไม่ต้องให้พูดว่าสนุกแค่ไหนโดนตีนี่เป็นครั้งแรกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนถึงตอนนี้เขาถึงรู้ว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นอย่างไรไม่สนุกเลย!ชวีเว่ยถิงต้องการดึงหมัดกลับโดยอัตโนมัติ แต่ก็ต้องประหลาดใจที่พบว่ากำแพงสีทองมีแรงดูดมหาศาลไม่ว่าตัวเองจะดิ้นรนแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงกลับมาได้แม้แต่น้อย!นี่คือคำสาปแสงสีทองป้องกันกายของหยกหรูอี้ คำสาปคูณสอง การป้องกันสองเท่า"ฉันขอสั่งให้แกรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!"ชวีเว่ยถิงกัดฟันและขู่ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "ไม่เช่นนั้น ฉันจะใช้ท่าไม้ตาย!""มาสิ!" ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย"นี่แกหาเรื่องตายเองนะ โทษคนอื่นไม่ได้ กินสายฟ้าฟาดของฉัน... แกไปตายซะ!"ชวีเว่ยถิงยกมือซ้ายที่ซ่อนไว้ข้างหลังข
มือที่ขาดของชวีเว่ยถิง ถูกลั่วอู๋ฉางโยนทิ้งเหมือนขยะ"เพียะ!"ขณะที่มือที่ขาดล่วงพื้น ชวีเว่ยถิงก็มีเลือดออกเจ็ดรูแล้วดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัวและไม่พอใจบางทีเขาฝันก็คงคิดไม่ถึงเลยว่าในฐานะตัวเองที่ถูกสวรรค์เลือก ไม่เพียงแต่เป็นศิษย์ที่ภาคภูมิใจของสำนักเท่านั้น แถมยังมีชายลึกลับของแหวนหยกอยู่เคียงข้าง ซึ่งมีข้อได้เปรียบทุกประการ!เดิมทีควรจะมีความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด!เดิมทีควรอยู่จุดสุงสุดมองทุกคน!เดิมทีควรจะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดและไม่มีใครสามารถสู้ได้!แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นผลลัพธ์ที่น่าเศร้าที่อายุน้อยแล้วมาตายต่างถิ่นท่ามกลางสายตาที่เหลือเชื่อนับไม่ถ้วน ชวีเว่ยถิงไม่มีลมหายใจเลยและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ"ตุ้บ!"ขณะที่ลั่วอู๋ฉางดึงเข็มเงินกลับศพขอชวีเว่ยถิงก็ล้มลงกับพื้นหนิงหงถูและคนอื่น ๆ ตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อเดิมคิดว่าลั่วอู๋ฉางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชวีเว่ยถิง สุดท้ายกลับเป็นชวีเว่ยถิงที่ตายต้องรู้ว่าชวีเว่ยถิงมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์อันทรงพลังของเขาแล้ว เขายังได้รับการยกย่องว่าเป็นอนาค
ลั่วอู๋ฉางโบกมือและพูดอย่างจริงจัง "หัวหน้าตระกูลหนิง ผมไม่ได้เกรงใจคุณ"สำนักเล็ก ๆ อย่างสำนักฮุ้นหยวน ราชันมังกรลั่วเทียนจะเห็นอยู่ในสายตา?แม้ว่าในสายตาของชาวโลก สำนักฮุ้นหยวนเป็นการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งซึ่งไม่สามารถยั่วยุได้แต่ต่อหน้าลั่วอู๋ฉาง อย่างมากก็ถือว่าเป็นมดที่แข็งแรงตัวหนึ่งเท่านั้นมังกรดำตัวใหญ่ที่ทะยานเหนือฟ้าเก้าชั้น จำเป็นต้องสนใจเหรอ?หนิงหงถูดูเหมือนยังอยากเกลี้ยกล่อมอยู่ ลั่วอู๋ฉางไม่ได้ให้โอกาสเขาอีกและเรียกร้องโดยตรงว่า "อาการป่วยของลูกสาวคุณ ผมรักษาให้หายแล้ว จ่ายค่าตอบแทนมาเถอะ""เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน!"หนิงหงถูเห็นด้วยทันที "เชิญท่านย้ายที่ ผมจะพาท่านไปคลังสมบัติด้วยตัวเอง""ไม่ต้องลำบาก ผมแค่อยากได้บัวหิมะเจ็ดกลีบ" ลั่วอู๋ฉางกล่าวหนิงหงถูพยักหน้า "ได้ครับ ผมจะไปเอามาให้เอง""พ่อ หนูไปเองดีกว่า" หนิงซินถงอาสาพวกหลินซงหยางเห็นแล้วต่างก็ลุกขึ้นและจากไปเนื่องจากมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นที่นี่และผู้ที่เสียชีวิตเป็นลูกศิษย์ของสำนักฮุ้นหยวน พวกเขากลัวว่าพวกเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องระหว่างรอ หนิงหงถูลังเลอยู่หลายครั้งหลังจากนั้นไม่นาน หนิงซินถงก็ถือถาด
หนิงหงถูฉลาด และมองออกว่าเกาชิงเหยียนกับลั่วอู๋ฉาง ไม่ใช่แฟนกันแม้ว่าเกาชิงเหยียนจะเคยออกหน้าปกป้องลั่วอู๋ฉาง และก็แสดงความไว้วางใจอย่างสูงต่อเขาแต่ในความเห็นของหนิงหงถู เธอก็เหมือนกับหนิงซินถงลูกสาวของตัวเอง ล้วนแต่ชื่นชมลั่วอู๋ฉางอย่างมากเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะรู้สึกรักผู้ชายเพราะชื่นชมเขาในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่าลูกสาวตัวเองยังมีโอกาสหนิงหงถูในฐานะพ่อ ต้องการสร้างโอกาสให้กับลูกสาวแน่นอน"ไม่ล่ะ เรายังมีเรื่องต้องจัดการ"ลั่วอู๋ฉางปฏิเสธอย่างสุภาพไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นความคิดในใจของหนิงซินถง แตกต่างจากการตัดสินที่เรียบง่ายของหนิงหงถูคือชื่นชมจนเกิดรักเป็นเพราะลั่วอู๋ฉางช่วยเธอแบกรับพลังเทพปกรณัมแปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ในขณะที่หนิงซินถงเองเก็บเอาไว้สิบห้าเปอร์เซ็นดังนั้นเธอจึงรู้สึกมีความใกล้ชิดอย่างอธิบายไม่ได้กับลั่วอู๋ฉางอันที่จริงแล้วลั่วอู๋ฉางไม่จำเป็นต้องทำอะไร ก็สามารถทำให้หนิงซินถงสาวสวยตัวน้อยทุ่มเทและมอบทุกสิ่งให้กับเขาได้แต่ลั่วอู๋ฉางไม่ใช่คนร้ายกาจอย่างชวีเว่ยถิง ผลประโยชน์แบบนี้เขาไม่ชอบ"ไม่รบกวนแล้ว ขอตัวก่อน"ลั่วอู๋ฉางพูดกับเกาชิงเหยียนว่า "เราไ
"พ่อ... น่าอายมากเลย!"หนิงซินถงหน้าแดงมากขึ้น และทันใดนั้นก็ตระหนักว่าพ่อของเธอกำลังล้อเธอเล่น เธอกระทืบเท้าเบา ๆ ด้วยความโกรธ แสร้งทำเป็นโกรธแล้วพูดว่า "ไม่ใจพ่อแล้ว!"หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็หันหลังกลับและวิ่งหนีไปอย่างเขินอาย...วันเสาร์วิลล่ากวนหู คฤหาสน์หมายเลขหนึ่งลั่วอู๋ฉางยืนรับโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง เกาชิงเหยียนเป็นคนโทรมา"หนิงหงถูมาหาฉันผ่านทางลุงไท่ บอกว่าอยากมาขอบคุณคุณด้วยตัวเอง ฉันปฏิเสธให้เองแล้วค่ะ"ลั่วอู๋ฉางยิ้มและพยักหน้า "ทำได้ดีมาก"ในแง่ของการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับผู้ป่วย เขาใช้ทัศนคติที่สงบเสมอพูดง่าย ๆ ก็คือการรักษาขอบเขตเอาไว้ตระกูลเกา ตระกูลเฉิน และเหลยเทียนสงที่อยู่ตรงหน้าเป็นข้อยกเว้นสถานการณ์แบบนี้ลั่วอู๋ฉางไม่ค่อยได้เจอรักษาโรคและช่วยชีวิตคนคือหน้าที่ของหมอการเก็บค่ารักษาเป็นเรื่องปกตินี่ก็คือการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน ไม่มีใครติดหนี้ใครข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือลั่วอู๋ฉางริเริ่มที่จะไปตรวจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแน่นอนว่าสำหรับหนิงหงถูกลับได้เปรียบอย่างมากตามธรรมเนียมของราชันมังกรลั่วเทียน การขอให้เข
"มาเร็วจริง ๆ บางคนแสร้งวางท่าทางโทรศัพท์ บอกว่าไม่สนใจ!"คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากถังเอวี้ยนป๋อผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดมิงค์และแต่งหน้าหนากอดแขนของถังเอวี้ยนป๋อ"สามี คนอื่นแค่สุภาพ ทำไมคุณถึงจริงจัง?""นี่เป็นงานเลี้ยงรุ่นนะ สำหรับคนที่ปีนมาจากระดับต่ำ เป็นโอกาสดีที่จะพลิกตัว แค่ทำตัวน่าสงสารต่อหน้าทุกคน คนที่มีความสามารถเห็นว่าเป็นเพื่อน ต้องช่วยเหลือแน่นอน""เรื่องดี ๆ แบบนี้ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธ!"ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้ว "คุณเป็นใคร?"ทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เบิกตากว้าง "ลั่วอู๋ฉาง แหกตาของนายดูให้ดี ๆ นายกล้าพูดว่าไม่รู้จักฉัน?"ใบหน้าที่ทำศัลยกรรมพลาสติก ไม่รู้ว่าทำไปกี่ครั้งแล้วดูจากโครงหน้าอย่างเดียว ไม่ว่าจะสัดส่วนหรือรูปแบบก็พอดูได้แต่เมื่อรวมกันแล้วกลับดูอึดอัดมากบวกกับแป้งหนา ๆ คาดว่าต่อให้เป็นพ่อแท้ ๆ มาก็อาจจะจำไม่ได้"คุณแน่ใจเหรอว่าผมรู้จักคุณ?" ลั่วอู๋ฉางรู้สึกสงสัยทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นก็โกรธ "นายจะเสแสร้งทำอะไร? ฉันหยางเสี่ยวม่าน นายจงใจใช่ไหม!"การแสดงออกที่ซับซ้อนอย่างมากของลั่วอู๋ฉาง ทำให้หยางเสี่ยวม่านโกรธมากยิ่งขึ้นตัวเองทุ่มเงินกับหน้าขน
"นึกถึงปีนั้น นายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในชั้นเรียนของเรา... ไม่สิ ทั้งมหาวิทยาลัยของเรา ฉันยังจำฉากที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ ตอนนายขึ้นเวทีเพื่อกล่าวสุนทรพจน์""ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว ยังคงดูดีเหมือนเดิม! นายไปทำอะไรมา ทุกคนติดต่อนายไม่ได้เลย อีกเดี๋ยวเราต้องดื่มกันสักสองสามแก้ว"ความกระตือรือร้นของเพื่อนร่วมชั้นทำให้ลั่วอู๋ฉางรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อยเนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมือนกับถังเอวี้ยนป๋อความรู้สึกในสมัยเรียน เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางผลประโยชน์ ดังนั้นจึงยังค่อนข้างบริสุทธิ์แม้ว่าบางคนเคยสะดุดและทำผิดพลาด ในสายตาของทุกคนก็ไม่ใช่ปัญหาหยางเสี่ยวม่านขมวดคิ้วและกำลังจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ลั่วอู๋ฉางไปติดคุก ถังเอวี้ยนป๋อก็พูดก่อนว่า "ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวคนอื่นหาทางออกไม่ได้แล้วจากไปด้วยความโกรธ!""เข้าใจแล้ว พอไปถึงแล้วค่อยดูถูกเขา" หยางเสี่ยวม่านเข้าใจทันทีหญิงชั่วชายเลวคู่นี้ยิ้มอย่างร้ายกาจในเวลาเดียวกัน"ทุกคน ผมมีธุระ ไม่งั้นค่อยหาเวลามารำลึกความหลังกันอีกที?" ลั่วอู๋ฉางไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงรุ่นจริง ๆแต่ทนต่อความกระตือรือร้นของทุกคนไม่ได้ "ไหน ๆ ก
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค