"นายเดาได้แล้วไม่ใช่หรือ? เหมือนที่พรดคิดไว้ เย่ชิงหยุนตายแล้ว" ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆเย่ชิงซานยกคิ้วขึ้นอย่างฉุนเฉียว "คุณพูดเหลวไหลอัไร!""แค่พวกคุณ ไม่สามารถฆ่าเย่ชิงยุนได้หรอก กองทหารรับจ้างที่ร่วมภารกิจกับเขา ผมหามาเองกับมือ""กองกำลังที่เก่งกาจขนาดนั้น และยังมีอาวุธหนักที่ใช้จัดการนักบู๊โบราณ ภารกิจนี้มันไม่ยากเลย""รีบบอกมา พวกคุณใช้วิธีสกปรกอะไรถึงโชคดีรอดชีวิตมาได้ ถ้าไม่บอกความจริง ฉันจะทำให้คุณทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตาย"ซูเทียนคั่วทำหน้าขมวด "เย่ชิงซาน ตระกูลซูของเรามีความสัมพันธ์กับตระกูลเย่มานาน และเรายังคงถือหุ้นในร้านร้อยสมุนไพรอยู่ด้วย""ในฐานะผู้ใหญ่ ฉัน ซูเทียนคั่ว คิดว่าไม่ได้ทำอะไรให้ตระกูลเย่ต้องเสียใจ และไม่ได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อพี่น้องของพวกคุณ""แต่พวกคุณกลับอยากฆ่าฉันกับเฉี่ยนเฉี่ยน ไม่คิดว่ามันเกินไปหรือ?"เย่ชิงซานพูดด้วยหน้าตาดุดัน "ไอ้แก่ซูแก่รังเกียจ อย่าคิดว่าจะใช้ความสัมพันธ์มาทำให้ฉันใจอ่อนแล้วปล่อยคุณ""ไม่ยอมบอกความจริงใช่ไหม?""งั้นฉันจะฆ่าไอ้หนูนี่ก่อน จากนั้นค่อยหักแขนขาแก แล้วปล่อยให้พี่น้องจัดการมีอะไรกับหลานสาวของแกต่อหน้า"
ท่ามกลางหมอกหนาทึบ เงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งกำลังเดินออกมาคนที่มาไม่ใช่ใครอื่น คือหัวหน้าผู้พิทักษ์ของตระกูลซืออวิ๋นหาน ซือเทียนฉีนั่นเองเขาก้าวเดินมาอย่างว่องไวด้วยท่าทางดุร้าย ใบหน้าเคร่งขรึม และเปล่งพลังอันแข็งแกร่งออกมาทั้งตัว"ซือเหล่า รีบมาช่วยผมที!"เย่ชิงซานตะโกนเสียงดังออกมาทันที เหมือนได้จับฟางเส้นสุดท้าย เขามีสีหน้าดีใจในทันที"ถ้าคุณช่วยชีวิตผม ตระกูลเย่แห่งร้านร้อยสมุนไพรจะตอบแทนอย่างงาม!"แววตาของซือเทียนฉีเต็มไปด้วยความโลภ เขาพูดยิ้มๆ ว่า "คุณชายเย่ คุณพูดเองนะ""ซือเหล่า วางใจได้เลยครับ บุญคุณช่วยชีวิตของคุณ ผมจะไม่มีวันลืม ตระกูลเย่ของเรานั้นไม่เคยตระหนี่ ขอให้ท่านสบายใจได้!" เย่ชิงซานตบหน้าอกพูดอย่างมั่นใจซือเทียนฉีพยักหน้า "ตกลง งั้นที่นี่ผมจะเป็นคนจัดการเอง!"เหตุผลที่เขามาปรากฏตัวที่นี่ก็เพราะลูกแก้วสัตว์วิญญาณที่ลั่วอู๋ฉางได้มาจากการประมูลบนเรือสำราญพูดตรงๆ คือมาแย่งของนั่นแหละในที่เปลี่ยวกลางป่าเช่นนี้ มันเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดในการฆ่าคนและชิงของแล้วตอนนี้ยังได้เป็นเจ้าหนี้ช่วยชีวิตจากอีกฝ่ายด้วย เรียกได้ว่าได้กำไรสองต่อเลยทีเดียวจากที่คิดว่าตน
ถึงกระนั้น เมื่อซูเทียนคั่วตกลงพื้นก็ยังคงไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงอยู่ดีตึงๆๆ!ซูเทียนคั่วถอยหลังไปสามก้าวติดต่อกัน สุดท้ายก็ล้มลงไปบนพื้น"คุณปู่!" ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบวิ่งเข้าไปดูซือเทียนฉีแสดงสีหน้าพึงพอใจ กล่าวเยาะเย้ยว่า "ไม่รู้จักประมาณตน ไอ้แก่ แกอยากตายขนาดนี้เลยเหรอ?""ไม่ต้องรีบ ฉันจะช่วยให้แกได้สมหวัง!""ปู่กับหลานไปลงนรกด้วยกัน จะได้ไม่เหงาบนทางสู่ยมโลก"พูดจบ เขาก็ยกมือขึ้นเพื่อออกท่า ลมปราณจากฝ่ามือที่กำลังก่อตัวเกือบสมบูรณ์ พุ่งตรงไปยังสองปู่หลานเมื่อเห็นว่าซือเทียนฉีกำลังจะโจมตี ทันใดนั้นกลับมีคนปรากฏขึ้นข้างหน้า"คู่ต่อสู้ของแก คือฉัน" ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาซือเทียนฉีไม่ได้ให้ค่ากับเขา หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า "ไอ้หนู ที่แท้แกก็รีบร้อนที่จะพบยมบาลเช่นกันนี่เอง""สมกับคำโบราณที่ว่า ของประเภทเดียวกันมักอยู่ด้วยกัน แกทั้งสามคนมารวมกัน ช่างเหมาะสมจริงๆ""ในเมื่อทุกคนต้องตายอยู่แล้ว จะกำหนดลำดับก่อนหลังไปทำไม มันจำเป็นด้วยเหรอ?""อย่าได้คิดว่าเพียงแค่เอาชนะเย่ชิงซานได้เมื่อครู่แล้วจะสามารถมองข้ามวีรบุรุษของโลกได้ แกยังห่างไกลนัก!"ลั่วอู๋ฉางกวักนิ้วเ
ซือเทียนฉีหอบหายใจถี่ รวบรวมพลังควบคุมกระแสเลือดที่ปั่นป่วนกลางหน้าอกและหน้าท้องอย่างยากลำบากเขาเงยหน้าขึ้น มองด้วยสายตาดุร้าย "ไอ้เด็กแซ่ลั่ว อย่าเพิ่งได้ใจไปล่ะ เมื่อกี้ฉันแค่ประมาทเลยตกหลุมพรางของแกเท่านั้น!""แค่ลงมือได้ครั้งเดียว มันไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย""ถ้าแกซื่อบื้อจนคิดจริงๆ ว่าแค่นี้ก็จะฆ่าข้าได้ล่ะก็ แกก็เข้าใจผิดอย่างแท้จริงแล้ว!"ลั่วอู๋ฉางแหล่มองเขา โดยไม่ได้รีบร้อนลงมือซือเทียนฉีดูเหมือนมั่นใจขึ้น พูดต่อ "เห็นว่าแกยังอายุน้อย ฉันจะไม่ถือสา""แต่เงื่อนไขคือ แกต้องเข้าร่วมกับตระกูลซือของเรา โดยเริ่มจากเป็นผู้รับใช้ธรรมดาก่อน""หากทำดี ฉันจะช่วยพูดกับหัวหน้าตระกูลให้ ยกระดับฐานะของแก วันหน้าจะได้มีชีวิตที่สุขสบายไร้กังวล""เรื่องวันนี้ก็ขอให้จบเพียงแค่นี้ อย่าได้บอกให้ใครรู้ เข้าใจไหม!"เขาพูดออกคำสั่ง แถมยังสั่งด้วยความภาคภูมิด้วย!ลั่วอู๋ฉางหัวเราะออกมา!ในฐานะคนที่มีนิสัยเยือกเย็น ยังไม่มีเรื่องตลกอะไรที่ทำให้เขาหัวเราะได้ขนาดนี้ไอ้แก่นี่ ช่างหลงตัวเองจริงๆ!"แกหัวเราะอะไร?"ซือเทียนฉีชัดสีหน้า พูดอย่างไม่พอใจว่า "แกพึ่งเข้ามาในวงการต่อสู้ได้ไม่กี่ปี ยัง
"ความกล้าหาญที่แกมีตอนที่ต้องการฆ่าคนปล้นของนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ? ตอนนี้ถึงมาขอความเมตตา แกไม่คิดว่ามันสายไปแล้วเหรอ?"ลั่วอู๋ฉางยิ้มเย็นชา "แกยังแอบปล่อยเย่ชิงอวิ๋นให้หลบหนีไปโดยพลการ คิดว่าฉันจะปล่อยแกไปเหรอ?"ซือเทียนฉีแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างโกรธแค้น "ลั่วอู๋ฉาง ถ้าแกไม่ปล่อยฉัน ฉันก็จะไม่ปล่อยแก ต่อให้กลายเป็นผี ฉันก็จะตามหลอกแก!"พูดจบ ซือเทียนฉีก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว พนมมือทั้งสองและใช้พลังภายในหมุนเวียนอย่างรวดเร็วในพริบตา ใบหน้าที่แก่ชราของซือเทียนฉีก็แดงก่ำ ราวกับไฟในร่างกายกำลังลุกโหมกระหน่ำ"แย่แล้ว! ไอ้แก่นี่กำลังจะทำการระเบิดตัวเอง!"ซูเทียนคั่วพูดเตือนเสียงดัง "ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ใหญ่ระเบิดตัวเอง รัศมีรอบร้อยเมตรจะไม่เหลือแม้แต่ต้นหญ้า และไม่มีใครรอดชีวิตได้""คุณลั่ว ผมวิ่งไม่ไหวแล้ว รีบพาเฉี่ยนเฉี่ยนออกไปจากที่นี่เถอะครับ!"ซือเทียนฉีหัวเราะบ้าคลั่ง "ภายในรัศมีร้อยเมตร? แกช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!""ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งใดในระยะการระเบิดของฉัน ล้วนต้องถูกทำลายไปหมดสิ้น!""ถ้าฉันลากพวกแกให้ตายไปด้วยได้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!"ลั่วอู๋ฉางยกมือขึ้น
"สิ่งที่เห็นเมื่อกี้ มันคือมังกรหรือเปล่า?"ดวงตากลมโตของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆแม้ว่าลั่วอู๋ฉางจะอยู่ข้างๆ เธอ แต่เมื่อเธอคิดถึงภาพที่เห็นเมื่อกี้ก็ยังอดรู้สึกกลัวไม่ได้หัวที่ใหญ่โต และดวงตาที่น่าขนลุกคู่นั้น!น่ากลัวมาก!ลั่วอู๋ฉางยิ้มเล็กน้อยแล้วอธิบายว่า "ไม่ใช่มังกรหรอก มันก็แค่พญานาคชั่วร้ายตัวหนึ่งเท่านั้น"ตามตำนาน งูจะกลายเป็นพญานาคหลังจากผ่านอายุไปห้าร้อยปีพญานาค อายุมากกว่าหนึ่งพันปีถึงจะกลายเป็นมังกร!"พญางู" ก็คือพญานาค ซึ่งตอนนี้บนตัวมันเริ่มมีลักษณะของมังกรบ้างแล้วแต่แน่นอนว่ายังมีความแตกต่างกันมากพญานาคจะไม่มีเขา หรือบางทีก็มีแค่เขาเดียวส่วนมังกรจะมีเขาคู่ที่สองฝั่ง ลักษณะคล้ายกับกวางพญานาคมีเพียงสองกรงเล็บ ในขณะที่มังกรมีสี่กรงเล็บ เป็นต้นจริงๆ แล้ว พญานาคที่เห็นเมื่อกี้มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับเก้าร้อยปีแล้วเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะได้กลายเป็นมังกรแล้วลั่วอู๋ฉางพูดด้วยท่าทีสบายๆ เพียงเพื่อให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนคลายความตึงเครียด"งั้นมันคงไปที่บึงน้ำแข็งเพื่อปกป้องยาวิเศษสินะ" ซูเฉี่ยนเฉี่ยนถามลั่วอู๋ฉางพยักหน้าจริงๆ แล้ว พญานาคตัวนี
หลินเชี่ยนไม่สนใจการทะเลาะของทั้งสองคน มองบึงน้ำแข็งตรงหน้าด้วยสายตาที่แน่วแน่ในขณะนั้น มีผู้ติดตามคนหนึ่งรับโทรศัพท์ และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที"เสี่ยวเฉียง เกิดอะไรขึ้น?" หลินเชี่ยนรีบถามอย่างเร่งด่วนเสี่ยวเฉียง ผู้ติดตามเดินเข้ามาพูดเบาๆ ว่า "ท่านหัวหน้าตระกูลอาการกำเริบอีกแล้วครับ และเหมือนว่าสุขภาพจะแย่ลงเรื่อยๆ เป่ยไท่โต่ว หมอเทวดาอวิ่นบอกว่า ถ้าไม่สามารถหาหญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายได้โดยเร็ว ท่านหัวหน้าตระกูลคงไม่รอด!"หลินเชี่ยนร้อนใจอย่างมาก "อวิ่นไท่โตว่ได้บอกไหมว่าพ่อของฉันยังเหลือเวลาอีกนานเท่าไหร่?""มากสุดสามวันครับ!"เสี่ยวเฉียงตอบว่า "ถ้าเกินเวลานี้ไป แม้แต่เทพเจ้าก็ยังยากจะช่วยได้"หลินเชี่ยนมองเย่ชิงซานอย่างโมโห "อีกนานแค่ไหน?""เย่ชิงซาน นายต้องบอกเวลาที่แน่นอนมา มิเช่นนั้นทั้งนายและคนของนาย ได้เจอดีแน่!"เย่ชิงซานรีบให้คำมั่นว่า "ก่อนฟ้าสาง จะทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอน!""จำคำของนายไว้ ถ้ากล้าโกหกฉัน ฉันสาบานว่านายจะไม่มีโอกาสเดินหายใจออกจากเขาชางหลงนี้แน่!" หลินเชี่ยนกัดฟันพูดแรงกดดันมาถึงเย่ชิงซาน เขาคว้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาแล้วตะคอกใส่คนในเรือดำน้
"ปังปังปัง..."เย่ชิงหยุนเริ่มยิงก่อน แม้ว่าจะยิงไม่โดนเพราะความกลัวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆทหารรับจ้างคนอื่นๆ ต่างก็กลับมาตั้งสติได้จากความตกใจ ยกปืนขึ้นยิงตามความแม่นยำของพวกเขาเหนือกว่าเย่ชิงหยุนหลายระดับกระสุนพุ่งใส่พญานาคเหมือนลูกเห็บที่โปรยลงมา"ติ้ง ติ้ง ตัง..."ภาพที่น่าตกใจบังเกิดขึ้น!กระสุนที่ยิงไปที่ตัวพญานาคถูกดีดออกหมดทุกนัดแม้แต่อาวุธขนาดใหญ่ก็ยังทิ้งไว้แค่รอยเล็กๆ บนเกล็ดของมันเท่านั้นดวงตาของเย่ชิงหยุนแทบจะถลนออกมา!เขาที่คิดว่าตัวเองมีประสบการณ์มากมายยังไม่เคยเห็นสัตว์ยักษ์ที่มีร่างกายใหญ่โตขนาดนี้มาก่อนแค่หัวเดียวก็ใหญ่เท่ารถบรรทุกแล้ว!เกล็ดสีดำทั้งตัว แต่ละเกล็ดก็ใหญ่ราวกับฝาหม้อแต่ปืนที่อยู่ในมือเย่ชิงหยุน ถึงจะยิงจนกระสุนหมด ก็ไม่ทิ้งแม้แต่รอยขีดข่วนสักนิดเดียวบนตัวพญานาคเลยพญานาคกระโดดขึ้นจากบึงน้ำอย่างรวดเร็ว สูงขึ้นจากผิวน้ำสิบกว่าเมตรร่างอันใหญ่โตของมันทำให้ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อน!สองตาคู่นั้นส่องประกายออกมาดูน่ากลัว ทำให้คนขนลุกความกลัวเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน!ทุกคนที่ถู
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค