เวลาสองทุ่ม พิมกับป๊อบก็มาถึงร้านอาหาร พอลงจากรถแล้ว พิมก็ยืนมองเข้าไปในร้านอาหารสุดหรูป๊อบเดินมาหาเธอแล้วยื่นมือมาจับมือเธอพร้อมกับเอ่ย" เข้าไปกันเถอะ ผมหิวแล้ว "พิมรู้สึกเกรงๆเล็กน้อยแต่ก็ไม่เอ่ยห้ามหรือดึงมือกลับมา ยอมให้ป๊อบจับมือแล้วจูงมือเธอเข้าไปในร้านอาหารอย่างไม่คิดอะไรพอพนักงานเห็นป๊อบเดินเข้ามาในร้านอาหาร ก็รีบเข้ามาหาอย่างคุ้นเคยแล้วเอ่ย" เชิญทางนี้ค่ะท่านประธาน "พนักงานเดินนำไปยังห้องที่จองไว้ล่วงหน้า ภายในร้านอาหารแต่ละห้องกั้นด้วยกระจกใส ปิดเสียง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมีความเป็นส่วนตัวเตชินนั่งทานข้าวคุยงานกับประธานหลิวในร้านนี้เช่นกันทั้งสองดูสนิทสนมกันอย่างมากคอยตักอาหารให้กันและกันราวกับคนเคยมีความสัมพันธ์อันดีอย่างลึกซึ้งกันมาก่อนจนผู้ช่วยคังกับเลขาสาวที่นั่งร่วมโต๊ะถึงกับมองหน้ากันอย่างประหลาดใจและรู้สึกอึดอัดหลังจากทานข้าวเสร็จประธานหลิวก็เอ่ยกับเตชินว่า" เตชิน เราไปนั่งฟังเพลงชิวๆบนโซฟากันดีมั้ยคะ "" ได้สิ วันนี้คุณเป็นลูกค้าคนสำคัญของผม ผมจะปฏิเสธคุณได้ยังไงล่ะ "ประธานหลิวยิ้มแล้วลุกจากเก้าอี้ ไปจับแขนเตชินให้ลุกขึ้น ควงแขนกันเดินไปนั่งบนโซฟาพนัก
ป๊อบขับรถไปส่งพิมที่บ้าน ระหว่างทางพิมเอาแต่นั่งเงียบ แววตานิ่งสงบให้ความรู้สึกเยือกเย็นจนป๊อบรู้สึกแอบเสียใจขึ้นมานิดๆ จึงเอ่ยกับเธอด้วยความเป็นห่วงว่า" พิมขอให้คุณจำไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือคุณคิดจะทำอะไร ขอให้นึกถึงผม โทรหาผมเป็นคนแรกนะ แล้วผมจะมาหาคุณทันที "พิมไม่ขยับเขยื้อนและไม่เอ่ยอะไรออกมา แววตาเธอเย็นชาราวกับถูกครอบด้วยน้ำแข็งมองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวทำให้ป๊อบไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก เพราะเขารู้นิสัยของพิมดี จึงเงียบแล้วตั้งใจขับรถไปเมื่อป๊อบขับเข้าไปจอดรถที่หน้าบ้าน พิมหันมามองเขาด้วยสีหน้าแววตาเย็นชาเจือเศร้าแล้วเอ่ยเสียงเรียบเฉย" ขอบคุณที่มาส่งค่ะ "จากนั้นเธอก็หันหน้ากลับไปกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ ป๊อบก็จับแขนเธอไว้ เธอหันหน้ามามองเขาด้วยแววตาเย็นชา เขาสบตากับเธอพร้อมกับเอ่ยอย่างเป็นห่วงอีกครั้งว่า" พิมคุณยังมีผมอยู่นะ ไม่ว่าคุณจะให้ผมอยู่ในสถานะไหน จะเพื่อนหรือพี่ก็ได้ ผมพร้อมที่จะช่วยเหลือคุณทุกเมื่อ เมื่อคุณต้องการ "" ขอบคุณค่ะ ขับรถกลับดีๆ "พิมเอ่ยเสียงเรียบ แล้วหันกลับไปเปิดประตูลงจากรถ เดินเข้าบ้านไปป๊อบนั่งในรถมองตามแผ่นหลังของคนที่เขารักอย่างลืมไม่ลงด้
เมื่อคิดได้ว่าบริษัทตระกูลหลิวเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มาลงทุนสร้างสาขาในไทยคิดจะทำให้ล้มละลายในเวลาอันสั้นก็ต้องทุ่มเทเวลาและวุ่นวายนิดหน่อย [ ให้เวลาผมจัดการผู้ไม่หวังดีกับเราก่อนนะ แล้วผมจะกลับไปอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้คุณฟัง ]จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรไปหาภรรยาทันทีพิมที่กำลังนั่งพับเก็บเสื้อผ้าอยู่เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดรับสายด้วยสีหน้าเรียบเฉยเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติว่า" ฮัลโหล "เตชินที่อยู่ปลายสายเมื่อได้ยินเสียงภรรยาจึงเอ่ยว่า" พิม อาทิตย์นี้ผมอาจจะไม่ค่อยได้กลับบ้านนะ งานผมยุ่งๆน่ะ "ได้ยินดังนั้นน้ำตาของพิมก็ไหลออกมาเป็นสายอย่างเงียบๆในใจเจ็บปวดอย่างมาก เพราะเข้าใจว่าเตชินกำลังหาข้ออ้างที่จะไปอยู่กับผู้หญิงที่เธอเจอคืนนั้น เธอก็พยายามกล้ำกลืนฝืนทนกับความเจ็บปวดแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติว่า" ค่ะ ฉันเข้าใจ จริงๆไม่เป็นไรหรอกที่บ้านมีป้าใจอยู่คุณไม่ต้องห่วงค่ะ "" ขอบคุณนะพิมที่เข้าใจผม "" ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แค่นี้นะคะ ฉันกำลังเล่นกับลูกอยู่ค่ะ "" ครับ "พูดคุยกันเสร็จพิมก็กดวางสายไป แล้วโทรไปหาป้าใจ เมื่อป้าใจรับสายเธอ
ประธานหลิวเดินเข้าไปหาเตชินในห้อง เตชินจ้องมองหล่อนที่เดินเข้ามาด้วยแววตาเย็นชาแล้วเอ่ยเสียงเย็น" เชิญ "ประธานหลิวนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเอ่ย" เตชิน คุณทำแบบนี้มันไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอ "" ผมทำอะไร "เตชินเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเนือยๆเต็มไปด้วยความเยือกเย็นในขณะที่แววตาคมกริบจับจ้องคนตรงหน้าอย่างเคร่งขรึมด้วยท่าทางทรงพลังอำนาจ ดูองอาจน่าเกรงขามประธานหลิวไม่ชอบท่าทางไม่รู้อะไรของเตชินที่สุด เธอกำมือแน่นด้วยความเดือดดาลใจแล้วเอ่ยเสียงเข้ม" คุณจะทำให้บริษัทฉันล้มละลาย คุณก็รู้ว่าถ้าบริษัทฉันล้มละลาย ฉันจะถูกพ่อเรียกกลับประเทศทันทีคุณจงใจทำลายบริษัทฉัน คุณซื้อตัวผู้ถือหุ้นเหล่านั้นใช่มั้ย พวกเขาถึงได้พากันตำหนิฉันและทยอยกันถอนหุ้น "เตชินจ้องหน้าประธานหลิวแล้วกระตุกมุมปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยันแล้วเอ่ยเสียงเย็น" นั่นเป็นเพราะคุณทำตัวเองต่างหาก คุณกล้าใช้วิธีสกปรกต่ำช้าที่ผมเกลียดที่สุดกับผม คุณขุดหลุมฝังตัวเองให้ตายทั้งเป็นตั้งแต่ตอนที่คุณคิดใช้ความต่ำช้ากับผมแล้วแต่น่าเสียดายที่คุณลืมคิดไปว่าผมไม่ใช่คนที่คุณจะทำแบบนั้นได้นอกจากภรรยาผมแล้ว ตอนนี้ผมจะไม่แตะต้องผู้หญิงคนอื่นอ
ประธานหลิวขับรถกลับไปที่บริษัทตัวเอง เมื่อกลับไปถึงบริษัทเธอก็เดินตรงไปที่ห้องของตัวเองโทรไปหาคนๆหนึ่งที่ไม่ได้เมมชื่อไว้ เมื่อปลายสายรับสาย เธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณป๊อบ คุณต้องช่วยฉันนะ "" ให้ผมช่วยอะไร ช่วยคุณแล้วผมได้อะไรล่ะ "ป๊อบนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงานแววตาขณะคุยโทรศัพท์ดูสุขุมเคร่งขรึมประธานหลิวได้ยินถ้อยคำและน้ำเสียงเนือยๆอย่างไม่ทุกข์ร้อนของประธานป๊อบเธอถึงกับอึ้งไป อ้าปากค้าง จนพูดอะไรไม่ออก นั่งลงบนเก้าอี้อย่างไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เธอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วพอได้สติเธอจึงเอ่ยว่า" คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง "ป๊อบที่อยู่ปลายสายยิ้มเย็นขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ย" เราเพิ่งจะรู้จักกัน ไม่ได้สนิทกันสักหน่อย อยู่ๆมาขอให้ผมช่วย ช่วยเรื่องอะไรล่ะ ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย "ประธานหลิวที่มืดแป็ดด้านได้ยินดังนั้นเธอเครียดและโกรธจัดจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จึงตะคอกเสียงกร้าวผ่านโทรศัพท์ออกไปว่า" คุณป๊อบ ฉันจะถามคุณอีกครั้ง คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง!!! "ป๊อบยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ยเสียงเรียบ " เอ๋...ประธานหลิว คุณมาใส่อารมณ์กับผมแบบนี้ไม่ได้นะ นี่คือวิธี การขอความช่
เตชินกลับไปบ้าน หลังจากที่ไม่ได้กลับมาหลายวัน ทันทีที่ขับรถเข้าไปในบ้าน ความเงียบที่ไม่ปกติทำให้ก็รู้สึกโหวงเหวงในใจแบบแปลกๆเขาเข้าไปจอดรถในโรงจอดรถแล้วเปิดประตูลงมา มองเข้าไปยังประตูบ้านที่ปิดสนิทด้วยความสงสัย แล้วเอ่ยพึมพำกับตัวเองเบาๆ" ทำไมประตูบ้านถึงปิดล่ะ เงียบอย่างกับไม่มีคนอยู่ หรือว่าพิมกับป้าใจออกไปข้างนอก "แล้วเขาก็เดินไปยืนอยู่หน้าประตู หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาพิมคิ้วของเขาก็ขมวดชิดเข้าหากันทันที เมื่อได้ยินเพียงเสียงจากพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่พูดในสาย" ขอภัยค่ะ หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้..... "เขากดวางสายไปอย่างอารมณ์เสียและร้อนรนในใจ" ทำไม่พิมถึงปิดเครื่อง หรือว่าจะหอบลูกหนีไปอีกแล้ว "เขานึกถึงคำพูดของพิมที่เคยพูดกับเขาไว้ ว่าถ้าเขานอกใจเธออีกครั้ง เธอจะพาลูกหนีไปเมื่อคิดได้ดังนั้นเขาโกรธมาก โมโหคนที่เป็นต้นเหตุทำให้พิมหอบลูกหนีไปเขากำโทรศัพท์ ขบกรามแน่น พึมพำออกมาอย่างเยือกเย็นด้วยแววตาดุดันแข็งกร้าว" หากภรรยากับลูกผมหนีไปเพราะความเข้าใจผิด ผมจะให้คุณชดใช้เป็นสองเท่า คุณหลิว! "สิ้นเสียงเขา ก็มีเสียงอีเมลแจ้งเตือนดังขึ้นแสดงให้รู้ว่าว่ามีคนส
หลังจากที่เธอโพสลงโซเชียลได้ไม่ถึงห้านาที โพสของเธอก็ถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็วผู้คนต่างมาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันในด้านต่างๆสนั่นโซเชียล ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคาด บ้างก็ว่า( เธอเป็นคนสวยนะ ไม่น่าคิดสั้นเพราะผู้ชายเลย สติค่ะ สติ )( เธอประธานป๊อบที่เคยมีข่าวกับรองประธานบริษัทT-Chin ใช่มั้ย )อีกคอมเมนต์ก็ตอบตอบว่า( ถ้าบอกว่าไม่ใช่คงไม่ได้แล้ว เพราะดาดฟ้าที่เธอยืนอยู่คือดาดฟ้าของบริษัทประธานป๊อบ ตอนนี้เราอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย )เมื่อมีคนมายืนยันว่า สิ่งที่ประธานหลิวโพสหมายถึงป๊อบที่เป็นประธานบริษัท NT ก็ยิ่งมีคนตามสืบประวัติป๊อบมากยิ่งขึ้น แล้วมาเมาท์มอยกันอย่างเมามัน( ทุกคนประธานป๊อบคนนี้เห็นหน้านิ่งๆแบบนี้นางร้ายไม่เบานะ พนักงานร้าน ร้านหนึ่งบอกว่า วันก่อนเขาเหมาร้านอาหารเพื่อพาอดีตแฟนสาว ที่เป็นภรรยาของประธานเตชินไปทานข้าว ส่วนผู้หญิงที่จะฆ่าตัวตายก็ไปทานข้าวร้านนั้นด้วย แล้วมีการจูบประธานเตชินต่อหน้าภรรยาที่นั่งห้องข้างๆ เรื่องนี้เราว่ามันแปลกๆอยู่นะ )อีกคนมาคอมเมนต์ต่อ ว่า( จริงเหรอ หรือว่าประธานป๊อบยังตัดใจจากภรรยาคนอื่นไม่ได้ เลยวางแผนทำให้พวกเขาทะเลาะกัน )( อาจจะใช่
ทางด้านเตชิน เขาตามหาพิมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไปตามบ้านของคนที่พิมรู้จักอย่างบ้านของรุ่นพี่พิมที่เขาเคยไปครั้งก่อนขณะที่เขาตามหาพิมอยู่ก็สั่งโทรสั่งให้ลูกน้องตามหาพิมจากกล้องวงจรปิดตามถนนต่างๆ แล้วลูกน้องของเขาก็คอยโทรมารับรายงานทันทีหลังจากตรวจสอบเสร็จ" นายครับ จากการตรวจสอบตามถนนสายต่างๆที่มีกล้องวงจรปิดรถที่คุณพิมเรียกใช้บริการมุ่งหน้าไปยังสนามบินครับ พวกเราไปสอบถามคนขับแล้วเขาบอกว่าไปส่งคุณพิมเสร็จก็ไปรับลูกค้ารายอื่นต่อทันทีครับ "เตชินได้ยินดังนั้นก็กดวางสายแล้วโทรไปหาผู้ช่วยคังต่อทันทีที่ผู้ช่วยคังรับสายเขาก็เอ่ยสั่งงานทันทีด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า" คุณไปขอตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารของเที่ยวบินแต่ละสายการบินมาให้ผมหน่อย เฉพาะอาทิตย์นี้ "" เกิดอะไรขึ้นครับ "ผู้ช่วยคังเอ่ยถามด้วยความสงสัย เตชินจึงเอ่ยตอบเสียงเย็นว่า" คุณพิมพาลูกหนีไปแล้ว "ผู้ช่วยคังแอบตกใจแล้วรีบเอ่ยว่า" ครับๆ ผมจะรีบไปตรวจสอบให้เดี๋ยวนี้ครับ "เตชินวางสายไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเหนื่อยๆแววตาดูล้าไปหมด เขาขับชิดเข้าข้างทางแล้วจอดคิดอะไรอย่างเงียบๆคนเดียว ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นป๊อบมากๆแต่เมื่อนึ
" ก็สั่งสอนแบบนี้ไง "เคอร์ฟิวจับณชาขึ้นมานั่งบนตักแล้วจูบเธอทันที ณชาตกใจจนดวงตาเบิกกว้างป้าใจเดินเข้ามาส่งพิซซ่าในห้องเจอเข้ากับฉากนี้พอดี แกจึงหมุนตัวหันหลังจะเดินออกไปแบบเงียบๆเคอร์ฟิวถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากณชาแล้วเอ่ย" ป้าไม่ต้องออกไปหรอก คุณณชาเธอหิวจนจะกลืนกินผมอยู่แล้ว "" พี่พูดอะไรน่ะ "เธอเอ่ยอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับทุบตีอกของเขาหนึ่งทีป้าใจยิ้มเจื่อนแล้วหมุนตัวเดินเข้ามาวางพิซซ่าลงบนโต๊ะจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเคอร์ฟิววางณชาลงนั่งข้างๆแล้วเปิดกล่องพิซซ่าออกมาหยิบพิซซ่าขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วเอ่ยกับณชาที่นั่งแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก" หิวไม่ใช่เหรอ อ้าปากสิ "ณชาเหลือบมองเขาอย่างหน้านิ่วแล้วเอ่ยเสียงขุ่น" ฉันทานเองได้ "เธอขยับมือจะหยิบพิซซ่ามาทานเอง แต่เคอร์ฟิวกลับจับมือเธอไว้แล้วเอ่ย" พี่อยากป้อน อ้าปาก ถ้าไม่อ้าปากพี่จะใช้ปากป้อนแล้วนะ "ณชาได้แต่มองแรงใส่เขาแล้วยอมอ้าปากให้เขาป้อน เขายิ้มแล้วเอ่ย" เชื่อฟังแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย "เคอร์ฟิวป้อนไปยิ้มไปอย่างพอใจ ณชาทานจนอิ่มลืมความโมโหและความไม่พอใจไปหมดสิ้น แล้วเปลี่ยนม
เช้าวันรุ่งขึ้น ป๊อบกับณัชชาลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้อง แล้วไปเคาะประตูห้องลูกสาวณชาที่ยังหลับอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงเคาะประตูเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วลุกมานั่งหาว จากนั้นก็ลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยท่าทางงัวเงียเธอหาวออกมาอีกครั้ง แล้วยื่นมือไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่กำลังจะออกเดินทางแล้วเธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณพ่อคุณแม่จะไปแล้วเหรอคะ ทำไมไปเช้าจัง "ณัชชายิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต้องไปไกล ลงจากเครื่องเสร็จก็ต้องนั่งรถไปต่ออีกแล้วต่อด้วยนั่งเรือไปเกาะก็ต้องไปให้ทันเวลา พ่อกับแม่แค่จะมาบอกให้ลูกรู้ว่าจะออกไปแล้ว อีกเรื่องนะ เวลาไปเข้าค่ายเตรียมยาที่จำเป็นไว้ให้พร้อมด้วย เแล้วก็อาหมวกแก๊ปกับเสื้อแขนยาวไปด้วยนะ "" ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวให้สนุกนะคะ "ณัชชากับป๊อบพยักหน้าเบาๆ จากนั้นป๊อบก็เอ่ยกำชับลูกสาวอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงว่า" เวลาอยู่ในค่ายน่ะ ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ อย่าไปนั่งใกล้ผู้ชายคนอื่น ยกเว้นพี่เคอร์ฟิวของลูก เข้าใจมั้ย "เขาเป็นพ่อที่ค่อนข้างหวงลูกสาวมากคนหนึ่ง ถึงแม้ลูกสาวเขาจะห้าวๆแต่มันก็ไม่ได้ทำให้พ่ออย่างเขาหวงลูกสาวน้อยลงเลยณชารู้และเข้าใจดีว่
ทุกคนเริ่มจับอุปกรณ์ ทานข้าวกันอย่างเงียบๆ ระหว่างทานข้าวพิมมองหน้าลูกชายแล้วเอ่ยถามขึ้น" เคอร์ฟิว เปิดเทอมแล้วเป็นยังไงบ้าง อยู่โรงเรียนได้เจอกับน้องณชาบ้างมั้ย "เคอร์ฟิวได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอ่อนออกมาแล้วเอ่ยตอบแม่ว่า" ก็ดีครับ อยู่โรงเรียนผมกับน้องอยู่คนละชั้น เรียนกันคนละตึกเลยไม่ค่อยได้เจอกันครับ "เตชินหันมามองลูกชายที่มีใบหน้าหล่อกระชากลากใจราวกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับเขาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ" ยังไงน้องก็เป็นคู่หมั้นลูก ลูกก็ดูแลน้องให้ดีๆอย่าเปิดโอกาสให้หนุ่มคนอื่นมาสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม จนทำให้น้องหวั่นไหวนะลูก ลูกผู้ชายต้องกล้าแสดงตัวหน่อย เข้าใจมั้ย "เคอร์ฟิวเอ่บตอบรับคำด้วยสีหน้าเรียบเฉยเพียงสั้นๆว่า" ครับ "" นี่ คุณสอนอะไรลูกน่ะ หนูณชายังเด็กก็ต้องมีเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายเป็นธรรมดา การหมั้นหมายเป็นการตกลงกันของพวกเรา หากลูกหรือหนูณชาไม่ได้ชอบพอกันก็ต้องยกเลิกไป มันไม่สามารถบังคับกันได้ค่ะ "พิมเอ่ยออกมาตรงๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าลูกชายของเธอนั้นเริ่มแอบณชาเข้าแล้วและจริงจังกับการเป็นคู่หมั้นนี้มากเตชินจึงโต้ตอบกับพิมว่า" ลูกชายเราหล่อแถมยังเป็นปร
พอออกมาจากสนามกอล์ฟ ทั้งสองครอบครัวก็ไปทานข้าวด้วยกัน ในร้านอาหารชื่อดังสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งร้านอาหารสำหรับคนรวยซึ่งตัวอาคารติดด้วยกระจกสะท้อนความร้อน ทำให้คนข้างในสามารถมองเห็นวิวบ้านเมืองและตึกสูงข้างนอกได้อย่างสวยงามในขณะทานข้าวทั้งสองครอบครัวนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข ณชากับเคอร์ฟิวก็นั่งทานข้าวบนเก้าอี้อย่างเรียบร้อยโดยที่ไม่รบกวนหรือเล่นซนเลย10 ปี ต่อมา.......ณ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นแหล่งรวมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนอินเตอร์จำนวนมากมีหลากหลายภาษา หลากหลายวัฒนธรรมและหลากหลายชนชาติมาเรียนร่วมกันเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเด็กนักเรียนต่างทยอยกันเดินออกมาจากอาคารเรียน รอผู้ปกครองมารับบางคนบางกลุ่มที่บ้านใกล้โรงเรียนก็ออกจากโรงเรียนเดินเท้ากลับตามทางฟุตบาทเคอร์ฟิวกับกลุ่มเพื่อนๆกำลังเดินออกมาจากห้องเรียนลงไปยังใต้อาคาร ชุดนักเรียนชายโรงเรียนนี้ ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว เสื้อสูทสีดำ มีตราสัญลักษณ์โรงเรียนปัก มีเน็กไทและกางเกงขายาวลายสก๊อตสีดำส่วนณชาที่เป็นรุ่นน้องของเคอร์ฟิวก็กำลังเดินลงจากอาคารเรียนเช่นกันแต่อยู่คนละตึกในต
ยามเย็นณัชชากับป๊อบลงมาเดินเล่นที่ชายหาด ส่วนลูกสาวก็อยู่กับตายาบนบ้านทั้งสองนั่งดูพระอาทิตย์ตกขอบทะเลด้วยกันอย่างโรแมนติก นั่งยาวไปจนถึงช่วงเวลาโพล้เพล้เธอนั่งเอาหัวพิงไหล่ป๊อบแล้วเอ่ย" ฉันมีความสุขจังเลยค่ะ เมื่อก่อนฉันรู้สึกอิจฉาคุณพิมมากที่สามีรักสามีหลงจนยอมตามใจทุกอย่าง "ป๊อบยิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต่อไปนี้คุณไม่ต้องไปอิจฉาพิมแล้ว เพราะถ้าไม่มีคุณผมก็อยู่ไม่ได้ การลองใจของคุณที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้ว่า ผมก็เป็นสามีที่รักและหลงภรรยามากเช่นกัน ตอนที่คิดว่าคุณไม่อยู่แล้วคุณผมแทบจะเป็นบ้าจนเกือบจะเสียสติไปแล้วรู้มั้ย "" ฉันขอโทษนะ "เธอเอ่ยเสียงอ่อน" ไม่เป็นไรหรอก แค่คุณไม่จากผมไปไหน อยู่กับผม ให้ผมสัมผัส และจับต้องคุณได้แบบนี้ทุกวัน ก็พอแล้ว "ณัชชายิ้มแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆสบตากับเขาพร้อมกับเอ่ยอย่างซึ้งใจ" ขอบคุณค่ะ "ป๊อบสบตากับภรรยาอย่างลึกซึ้งแล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเธอเบาๆจูบอย่างนุ่มนวลใจเย็น ในหัวใจของทั้งสองเต็มไปด้วยความรักที่บานฉ่ำ ตอนนี้ความปรารถนาของณัชชาเป็นจริงแล้ว เธอมีสามีที่น่ารัก ที่คอยเทคแคร์เอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดีมีลูกสาวที่น่ารัก มีครอบ
ณัชชาเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นพ่อกับแม่นั่งจ้องเธอตาเขม็งเธอยิ้มแหยๆออกออกมาพอให้เห็นฟันเล็กน้อยแล้วเดินเบี่ยงไปนั่งลงข้างๆลูก โดยไม่กล้าสบตาพ่อกับแม่อีกเธอจ้องมองใบหน้าแบเบาะอันน่ารักน่าชังที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมแล้วเอ่ย" ณชา สาวน้อยของแม่ แม่คิดถึงลูกที่สุดเลย แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่กับลูก ลูกไม่โกรธแม่ใช่มั้ยคะ น้าพิมกับคุณพ่อดูแลหนูดีมากมั้ยคะ "เด็กน้อยทำปากจู๋ แววตาดูใสแป๋วเปล่งประกายแวววาว ขนตาดกดำยาวสวย ส่งให้ดวงตาสวยมีเสน่ห์สมกับคำชมของเคอร์ฟิวน้อยเด็กน้อยยิ้มแป้นออกมาอย่างไร้เดียงสา ทำให้ผู้เป็นคุณแม่มือใหม่ หลงรักหนักเข้าไปอีก เธอจ้องหน้าลูกด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยต่อว่า" งุ้ยน่ารักน่าชังที่สุดเลย ต่อไปคุณแม่จะไม่ไปไหนแล้วนะคะ คุณแม่จะอยู่กับเบบี๋น้อยทุกวันทุกคืนเลยค่ะ "น้ำเสียงนุ่มนวลของณัชชาทำให้เด็กน้อยสัมผัสได้ถึงไออุ่นรักที่พิเศษกว่าพิมที่เป็นน้ามาก เพราะความเป็นแม่ลูกสามารถสัมผัสได้ผ่านจิตใจและความรู้สึกนั่นเองพ่อของณัชชานั่งยิ้มอ่อนบนโซฟามองลูกสาวด้วยแววตาอบอุ่นส่วนแม่ณัชชาพอเห็นว่าลูกสาวคุยกับลูกนานพอสมควรแล้วเขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงแข็งด้วยสีหน้าจริงจัง" ณัชชาลูกท
ช่วงบ่ายพ่อกับแม่ของป๊อบมาที่บ้านณัชชา พวกเขาก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนรู้จักมักคุ้นอย่างสนิทสนมแล้วแม่ของณัชชาก็เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบอย่างมีความนัยแอบแฝง" เป็นยังไงกันบ้างอยู่บ้านโน้นสบายดีกันทุกคนมั้ยคะ "คุณแม่ป๊อบยิ้มแล้วเอ่ยตอบอย่างเข้าใจความหมายแฝง" สบายดีค่ะ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตองเลยค่ะ สุขภาพดีขึ้นมาก โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มีแล้วค่ะ "" ดีๆ นับว่าเป็นข่าวดี เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ "แม่ณัชชาเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มนานแล้วที่เขาไม่ได้เจอลูกสาวเลยนับตั้งแต่วันคลอด เขาดีใจมากที่ได้ยินแม่ของลูกเขยพูดแบบนั้นคำพูดพวกนี้คนที่ไม่รู้อะไรอย่างป๊อบได้แต่นั่งฟังอยู่ข้างลูกสาวอย่างเงียบๆโดยไม่รู้เลยว่าแม่ตัวเองกับแม่ยายกำลังพูดเรื่องสุขภาพของภรรยาเขาอยู่" อ้อ จริงสิ ที่ฉันมาวันนี้ เพื่อมาบอกว่าตาป๊อบน่ะมีบ้านพักริมทะเลอยู่หลังหนึ่ง บรรยากาศดีมาก "" จริงเหรอคะ "คุณแม่ณัชชาออกอาการตื่นเต้นเมื่อได้ยินแบบนั้น " จริงค่ะ ฉันเพิ่งกลับมาจากที่นั่น ก็มาหาคุณเลย "แม่ของป๊อบกับแม่ณัชชา จากนั้นก็หันไปทางลูกชายแล้วเอ่ย" ป๊อบ พรุ่งนี้ลูกก็พาลูกสาวกับพ่อตาแม่ยายไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหน่อยสิ จิตใจทุกคนจะได
เมื่อภารกิจบนเตียงจบลงเตชินก็ก้มลงจูบภรรยาเบาๆแล้วนอนกอดเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่นพอสายๆพวกเขาก็ตื่นขึ้นมาไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วออกมาจากห้องพร้อมกันเตชินกอดไหล่ภรรยาอย่างรักใคร่ แล้วเดินลงบันไดพร้อมกันสีหน้าดูสดใสยิ้มแย้ม ป้าใจกำลังจะเข้าไปหาเคอร์ฟิวน้อยในห้องนั่งเล่นก็หันไปเห็นสองสามีภรรยาเดินลงบันไดมา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่บึ้งตึงใส่กันอีก แกรู้สึกดีใจและสบายใจเอามากๆ ที่ครอบครัวกลับมาเป็นครอบครัว[ คุณชายน้อยคงดีใจและมีความสุขมากถ้ารู้ว่าพ่อแม่ดีกันแล้ว ]หลังจากแอบพึมพำจบป้าใจก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามเตชินว่า" คุณชายจะให้เตรียมอาหารเช้าเลยมั้ยคะ "แกถามเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขากลับมาสู่สถานการณ์ปกติแบบ100%" อื้อ ป้ากับนวลก็ทานด้วยพร้อมกันเลยนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็โอบไหล่ภรรยาเดินเข้าไปหาลูกชายที่กำลังนั่งเล่นอยู่ เคอร์ฟิวละสายตาจากของเล่นแล้วเงยหน้ามองพ่อกับแม่ด้วยความสงสัย แต่ไม่กล้าเข้าไปหา " เคอร์ฟิว มาหาพ่อกับแม่สิ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับอ้าแขนรับเคอร์ฟิวแน่ใจแล้วว่าพ่อกับแม่ไม่ได้โกรธกันอีกจึงยิ้มออกมาแล้วลุกขึ้นวิ่งมาหาพ่อกับแม่ด้วยความดีใจพิมกอดลูกชายด
เช้าวันต่อมา คุณแม่กับคุณพ่อของป๊อบเก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทางกลับจากนั้นทั้งสองท่านก็นั่งรถออกจากบ้านพักริมทะเลตั้งแต่เช้าระหว่างทางคุณแม่ป๊อบนั่งนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้แกก็แอบอมยิ้มเบาๆก่อนหน้านี้คุณแม่ของณัชชาได้มาขอความร่วมมือจากเขาและเล่าแผนแกล้งตายให้ฟัง แกรู้สึกว่ามันเข้าท่าดี จึงรับปากอย่างไม่ลังเลช่วยลูกสะใภ้เล่นละครหลอกลูกชายตัวร้ายของเขา ที่เอาแต่รักคนที่มีลูกมีสามีแล้วแกเองก็ปวดใจไม่น้อยที่เห็นลูกมูฟออนไม่ได้สักที ทั้งยังสงสารและเห็นใจลูกสะใภ้คนสวยของแกที่สุดพอถึงวันที่ณัชชาไปคลอดแม่ของณัชชาก็โทรมาแจ้งให้เขาทราบพอรู้ว่าลูกสะใภ้คลอดแล้วแกกับสามีก็ตื่นมานั่งรอแต่เช้า รอลูกชายคนเล็กมาบอกข่าวแต่รอวันแล้ววันเล่า เจ้าลูกชายตัวดีก็ไม่โผล่หัวมาสักทีจนเขาเกือบจะโทรไปหาลูกเองแล้วแต่สามีห้ามไว้ สุดท้ายก็อดทนรออีกวัน ถึงจะเห็นลูกชายโผล่หน้ากลับมาด้วยสีหน้าเศร้าหมองแกแอบขำลูกชายเบาๆ พอลูกชายบอกข่าวเรื่องลูกสะใภ้เสียชีวิต แกก็เล่นใหญ่แกล้งทำเป็นตกใจจนช็อกไปแล้วบีบน้ำตาร้องห่มร้องให้ออกมา จากนั้นก็แกล้งหมดสติไปหลังจากนั้นเมื่อลูกสะใภ้ออกจากโรงพยาบาลแกก็มาอยู่เป็นเพื่อนคอ