หลังจากที่เธอโพสลงโซเชียลได้ไม่ถึงห้านาที โพสของเธอก็ถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็วผู้คนต่างมาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันในด้านต่างๆสนั่นโซเชียล ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคาด บ้างก็ว่า( เธอเป็นคนสวยนะ ไม่น่าคิดสั้นเพราะผู้ชายเลย สติค่ะ สติ )( เธอประธานป๊อบที่เคยมีข่าวกับรองประธานบริษัทT-Chin ใช่มั้ย )อีกคอมเมนต์ก็ตอบตอบว่า( ถ้าบอกว่าไม่ใช่คงไม่ได้แล้ว เพราะดาดฟ้าที่เธอยืนอยู่คือดาดฟ้าของบริษัทประธานป๊อบ ตอนนี้เราอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย )เมื่อมีคนมายืนยันว่า สิ่งที่ประธานหลิวโพสหมายถึงป๊อบที่เป็นประธานบริษัท NT ก็ยิ่งมีคนตามสืบประวัติป๊อบมากยิ่งขึ้น แล้วมาเมาท์มอยกันอย่างเมามัน( ทุกคนประธานป๊อบคนนี้เห็นหน้านิ่งๆแบบนี้นางร้ายไม่เบานะ พนักงานร้าน ร้านหนึ่งบอกว่า วันก่อนเขาเหมาร้านอาหารเพื่อพาอดีตแฟนสาว ที่เป็นภรรยาของประธานเตชินไปทานข้าว ส่วนผู้หญิงที่จะฆ่าตัวตายก็ไปทานข้าวร้านนั้นด้วย แล้วมีการจูบประธานเตชินต่อหน้าภรรยาที่นั่งห้องข้างๆ เรื่องนี้เราว่ามันแปลกๆอยู่นะ )อีกคนมาคอมเมนต์ต่อ ว่า( จริงเหรอ หรือว่าประธานป๊อบยังตัดใจจากภรรยาคนอื่นไม่ได้ เลยวางแผนทำให้พวกเขาทะเลาะกัน )( อาจจะใช่
ทางด้านเตชิน เขาตามหาพิมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไปตามบ้านของคนที่พิมรู้จักอย่างบ้านของรุ่นพี่พิมที่เขาเคยไปครั้งก่อนขณะที่เขาตามหาพิมอยู่ก็สั่งโทรสั่งให้ลูกน้องตามหาพิมจากกล้องวงจรปิดตามถนนต่างๆ แล้วลูกน้องของเขาก็คอยโทรมารับรายงานทันทีหลังจากตรวจสอบเสร็จ" นายครับ จากการตรวจสอบตามถนนสายต่างๆที่มีกล้องวงจรปิดรถที่คุณพิมเรียกใช้บริการมุ่งหน้าไปยังสนามบินครับ พวกเราไปสอบถามคนขับแล้วเขาบอกว่าไปส่งคุณพิมเสร็จก็ไปรับลูกค้ารายอื่นต่อทันทีครับ "เตชินได้ยินดังนั้นก็กดวางสายแล้วโทรไปหาผู้ช่วยคังต่อทันทีที่ผู้ช่วยคังรับสายเขาก็เอ่ยสั่งงานทันทีด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า" คุณไปขอตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารของเที่ยวบินแต่ละสายการบินมาให้ผมหน่อย เฉพาะอาทิตย์นี้ "" เกิดอะไรขึ้นครับ "ผู้ช่วยคังเอ่ยถามด้วยความสงสัย เตชินจึงเอ่ยตอบเสียงเย็นว่า" คุณพิมพาลูกหนีไปแล้ว "ผู้ช่วยคังแอบตกใจแล้วรีบเอ่ยว่า" ครับๆ ผมจะรีบไปตรวจสอบให้เดี๋ยวนี้ครับ "เตชินวางสายไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเหนื่อยๆแววตาดูล้าไปหมด เขาขับชิดเข้าข้างทางแล้วจอดคิดอะไรอย่างเงียบๆคนเดียว ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นป๊อบมากๆแต่เมื่อนึ
ป๊อบลงจากดอย มาถึงในเมืองเวลาก็ปาไปบ่ายโมงแล้ว เมื่อคลื่นโทรศัพท์ขึ้น เขาก็รีบกดโทรไปหาณัชชาด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ขณะที่เขารอณัชชารับสายเขาก็คิดทบทวนอะไรๆอีกครั้งเขาในตอนนี้รู้แค่ว่า พิมคือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก ส่วนณัชชาคือแม่ของลูกที่เขาควรจะรับผิดอบและแต่งงานด้วยตั้งแต่วันที่เขากลับมาเจอพิมอีกครั้ง ความคิดที่จะแต่งงานกับณัชชาก็หายไป ความรักที่มีให้พิม ความรู้สึกต่างๆที่กำลังเจือจางก็กลับมาเข้มข้นชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับถูกลงสีใหม่ให้สดขึ้นแต่ในวันที่เขาเห็นพิมร้องให้อย่างปวดใจเพราะเตชิน เขาก็รู้ทันทีว่าในหัวใจพิมมีเตชินแล้วเขาถึงรู้ว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่สามารถแย่งพิมคืนมาได้ ถึงได้ เขาก็คงไม่มีความสุขเพราะไม่ได้หัวใจเธอคืนมาถึงจะรู้อย่างนั้นแล้ว แต่พิมก็ยังคงอยู่ในหัวใจเขาไม่สามารถลบออกได้และไม่มีวันที่จะกลับมาบรรจบกันในสถานะเดิมได้อีกเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกผิดหรือเสียใจ ที่ไม่สามารถรักณัชชาได้หมดหัวใจแล้วตัดพิมออกจากใจได้ บางอย่างเขาพูดออกมาไม่ได้ ได้แต่พึมพำกับตัวเองในใจว่า[ จะมีใครเข้าใจบ้างว่าการจะตัดใครออกไปจากหัวใจสักคน มันยากเย
ในขณะที่ป้องลงเอยกับประธานหลิวด้วยความพิสวาทราคะ ส่วนป๊อบก็ตัดสินใจไม่ตามง้อณัชชาอีก เพื่ออยู่กับตัวเอง อยู่คนเดียวให้ได้ก่อน เพราะตั้งแต่วันที่เขาเลิกกับพิม เขาไม่เคยอยู่คนเดียวเลย ปล่อยตัวควงสาวขึ้นเตียงไม่ซ้ำหน้า จนกระทั่งมาหยุดเมื่อเจอณัชชา สุดท้ายเขาก็รู้ตัวว่าที่ผ่านมา เขาไม่เคยลืมพิมได้เลย และเป็นเขาเองที่ใช้วิธีผิดๆในการลืมคนที่รักที่สุดในชีวิต ในเมื่อณัชชาไม่รับสาย พอกลับไปถึงกรุงเทพ เขาก็นั่งรถกลับไปบ้านของตัวเองระหว่างทางก็พิมพ์ข้อความส่งไปหาณัชชาว่า( ณัชชา ผมขอโทษนะ ขอโทษที่ให้หัวใจคุณไม่ได้ ในเมื่อคุณไม่รับสาย ผมจะถือว่าคุณไม่พร้อมคุย ต่อไปนี้ผมอยากจะขอใช้เวลาอยู่กับตัวเองจนกว่าจะลืมพิมได้จริงๆผมไม่อยากมีคุณทั้งๆที่ใจผมยังมีคนอื่นอยู่แบบนี้ มันไม่ยุติธรรมกับคุณเลยที่ผ่านมา ผมขอโทษที่ทำให้คุณเสียใจ หากผมตัดใจจากพิมได้แล้วและไม่รู้สึกอะไรกับเธออีกถึงเวลานั้น ผมจะโทรหาคุณเป็นคนแรก หากคุณยังให้โอกาสผมอยู่ขอคุณรับสายผมนะ ผมรู้ว่าผมเห็นแก่ตัวเกินไป แต่การเลิกรักคนคนหนึ่งหรือลืมใครสักคนมันไม่ง่ายเลย หากคุณเคยรักใครสักคนหมดหัวใจ คุณคงจะเข้าใจผมในตอนนี้ )พิมพ์ข้อความ
พ่อคำกับแม่มะลิมองตามแผ่นหลังสุดเพอร์เฟกต์ของลูกเคยแล้วถอนหายใจออกมายาวๆเตชินผิดหวังกลับไปขึ้นเครื่องเหมือนเดิม เมื่อถึงท่าอากาศยานดอนเมือง คนขับรถของเขาก็มารอรับตรงทางออกเขาเดินขึ้นไปนั่งในรถ ระหว่างทางก็นั่งคิดอะไรเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าจะไปตามหาพิมที่ไหนแล้ว เขาจนปัญญาจริงๆแต่ก็ไม่คิดละความพยายามในการตามหาภรรยาลงเลยสักนิดสำหรับเขาแล้ววันนี้ไม่เจอ วันหนึ่งก็ต้องเจอ เขาเชื่อนเช่นนั้นอยู่ๆเสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นทำลายความเงียบสงัดในรถลง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาที่โทรมาหาเขา จึงกดรับสายแล้วเอ่ยเสียงเรียบ" ว่าไง "เมื่อได้ยินเสียงเตชินณัชชาที่อยู่ปลายสายจึงเอ่ยถามขึ้นว่า" พี่ตามหาคุณพิมอยู่ใช่มั้ย ได้เบาะแสเธอบ้างหรือยัง "" ยัง "เตชินเอ่ยตอบเพียงสั้นๆด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งอย่างเคร่งขรึม" ทำไมพี่ไม่ลองตามหาเธอผ่านสื่อล่ะ "ณัชชาเสนอไอเดียด้วยความจริงใจ เตชินได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยว่า" จะทำแบบนั้นได้ยังไง ถ้าทำแบบนั้นพิมกับลูกก็ต้องตกอยู่ในอันตรายสิน้องก็รู้ในวงการธุรกิจมีคนไม่พอใจก็มาก คนอิจฉาก็เยอะ คนไม่หวังดีก็นับไม่ถ้วนหากมีคนนอกรู้ว่าภรรยาพี่หายไปและกำลังตาม
พิมหนีมาอยู่ในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายเต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มของต้นชา ที่ปลูกเรียงยาวเป็นแถวดกเป็นพุ่มสวยงามไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะขึ้นเหนือ พาลูกชายมาอยู่ใกล้เขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นที่ ที่เธอแอบซื้อไว้ในช่วงที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านโดยที่ไม่มีใครรู้เลยนอกจากพ่อแม่เธอเธอจ้างครอบครัวชาวสวนมาดูแลบ้านไร่หลังนี้ให้นานแล้วและปลูกชาออร์แกนิคไว้ดื่มเองโดยมีพ่อกับแม่ของเธอคอยส่งข้าวสารอาหารให้กับครอบครัวชาวสวนชาของเธอบ้านไร่ของเธอใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า ทีวี ตู้เย็น หม้อหุงข้าว ล้วนใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทั้งนั้นและในเช้าวันนี้เคอร์ฟิวน้อยสุดหล่อที่ตอนนี้อายุครบสองขวบแล้วกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันกับพี่ๆลูกชาวสวนในสนามหญ้าเทียมหน้าบ้านอย่างสนุกสนานเบื่อไล่จับก็เล่นซ่อนแอบกันตามประสาเด็กที่เล่นไม่รู้จักเหนื่อย ในบริเวณนั้น มีพี่เลี้ยงนั่งคอยดูแลห่างๆส่วนพิมก็นั่งพิมพ์งานบนบ้าน ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของตัวเองให้คนอื่นได้อ่าน บรรยายออกมาผ่านตัวหนังสือเมื่อพิมพ์งานเสร็จเธอก็บันท
เขาลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยตะคอกเสียงกร้าวด้วยความโกรธเคืองว่า" เออ! พี่จะไม่ขอโทษ จะไม่สารภาพหรือจะไม่อธิบายเชี่ยอะไรก็ช่างพี่ ผมไม่ยุ่งแล้ว แต่พี่รู้ไว้นะ ถ้าภรรยากับลูกของเตชินที่หนีออกจากบ้านเป็นอะไรไป ผมจะคอยดูว่าถึงตอนนั้นเตชินมันจะทำยังไงกับบริษัทเรา ตอนนี้เธอขาดการติดต่อเป็นอาทิตย์แล้ว แล้วผมจะคอยดูว่าพี่จะมีความสุขกับผลการกระทำของพี่มั้ยที่ผู้หญิงที่พี่รักที่สุดหนีออกไปจากบ้านจนสามีเขาจนปัญญาตามหาน่ะ พี่คิดว่ามันปกติมั้ย ผมก็หวังว่าเธออยู่ข้างนอกแล้วจะปลอดภัยจากศัตรูของเตชิน นับจากนี้ไปผมจะไม่ยุ่งเรื่องของพี่แล้ว พี่อยากเสียลูกไปเพราะแย่งคนรักเก่าคืนทั้งที่เธอเป็นภรรยาคนอื่น ก็เรื่องของพี่! "พูดจบเขาก็เดินดุ่มๆออกมาจากห้องของประธานบริษัทด้วยสีหน้าขมึงทึงพนักงานที่ได้ยินเสียงทะเลาะของสองพี่น้องก็ต่างพากันเงียบกริบก้มหน้าทำงานของตัวเองด้วยความตื่นเต้นตกใจไปตามๆกันเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นท่านประธานกับรองประธานทะเลาะกันใหญ่โตจนหน้าหล่อๆของรองประบอบช้ำขนาดนี้มาก่อนป๊อบได้ยินว่าพิมหนีไปจากเตชิน ก็ถึงกับอึ้งไป ใจหนึ่งรู้สึกดีใจ แต่อีกใจกลับเป็นห่วงเธอจนทำอะไรไม่ถูกคิดอะไรไม่อ
ตอนเที่ยงนักข่าวช่องต่างๆก็มารอทำข่าวกันที่บริษัท ส่วนเลขาสาวก็ออกมาต้อนรับแล้วเชิญนักข่าวไปยังห้องประชุมป้องเดินออกมา เห็นนักข่าวมากมายตามเลขาของพี่ชายตรงไปยังห้องประชุมจึงบ่นพึมพำออกมา" นั่นเลขามีนพานักข่าวมาทำไม หรือว่า... "เขายิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วลุกจากเก้าอี้เดินออกจากห้องไปยืนขวางเลขาของพี่ชายแล้วเอ่ยถามขึ้น" เลขามีน พี่ชายผมให้คุณติดต่อนักข่าวมาใช่มั้ย "" ใช่ค่ะ "ป้องได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเอ่ย" เขาเปลี่ยนใจแล้ว เป็นไปตามที่คุณเตชินคาดไว้ไม่มีผิด เพื่อเธอแล้วเขายอมทำทุกอย่างจริงๆ "เลขามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจแล้วเอ่ย" คุณป้องพูดเรื่องอะไรคะ "เขาหันมายิ้มให้เลขาอย่างมีเลศนัยแล้วเอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น" ไม่มีอะไร คุณพาพวกเขาไปที่ห้องประชุมเถอะแล้วให้แม่บ้านเตรียมมื้อกลางวันกับเครื่องดื่มให้คุณนักข่าวด้วย "" ค่ะ "แล้วเลขาก็พานักข่าวเข้าไปรอในห้องประชุม เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำพวกนักข่าวอย่างดีพอทานข้าวเสร็จนักข่าวก็เตรียมอุปกรณ์ต่างๆวางลงบนโต๊ะแถลงข่าวของประธานป๊อบป้องกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วโทรไปหาเตชิน พอเตชินรับสายเขาก็เอ่ย" เป็นไปตามที่คุณคาดบ่ายน
" ก็สั่งสอนแบบนี้ไง "เคอร์ฟิวจับณชาขึ้นมานั่งบนตักแล้วจูบเธอทันที ณชาตกใจจนดวงตาเบิกกว้างป้าใจเดินเข้ามาส่งพิซซ่าในห้องเจอเข้ากับฉากนี้พอดี แกจึงหมุนตัวหันหลังจะเดินออกไปแบบเงียบๆเคอร์ฟิวถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากณชาแล้วเอ่ย" ป้าไม่ต้องออกไปหรอก คุณณชาเธอหิวจนจะกลืนกินผมอยู่แล้ว "" พี่พูดอะไรน่ะ "เธอเอ่ยอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับทุบตีอกของเขาหนึ่งทีป้าใจยิ้มเจื่อนแล้วหมุนตัวเดินเข้ามาวางพิซซ่าลงบนโต๊ะจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเคอร์ฟิววางณชาลงนั่งข้างๆแล้วเปิดกล่องพิซซ่าออกมาหยิบพิซซ่าขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วเอ่ยกับณชาที่นั่งแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก" หิวไม่ใช่เหรอ อ้าปากสิ "ณชาเหลือบมองเขาอย่างหน้านิ่วแล้วเอ่ยเสียงขุ่น" ฉันทานเองได้ "เธอขยับมือจะหยิบพิซซ่ามาทานเอง แต่เคอร์ฟิวกลับจับมือเธอไว้แล้วเอ่ย" พี่อยากป้อน อ้าปาก ถ้าไม่อ้าปากพี่จะใช้ปากป้อนแล้วนะ "ณชาได้แต่มองแรงใส่เขาแล้วยอมอ้าปากให้เขาป้อน เขายิ้มแล้วเอ่ย" เชื่อฟังแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย "เคอร์ฟิวป้อนไปยิ้มไปอย่างพอใจ ณชาทานจนอิ่มลืมความโมโหและความไม่พอใจไปหมดสิ้น แล้วเปลี่ยนม
เช้าวันรุ่งขึ้น ป๊อบกับณัชชาลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้อง แล้วไปเคาะประตูห้องลูกสาวณชาที่ยังหลับอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงเคาะประตูเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วลุกมานั่งหาว จากนั้นก็ลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยท่าทางงัวเงียเธอหาวออกมาอีกครั้ง แล้วยื่นมือไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่กำลังจะออกเดินทางแล้วเธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณพ่อคุณแม่จะไปแล้วเหรอคะ ทำไมไปเช้าจัง "ณัชชายิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต้องไปไกล ลงจากเครื่องเสร็จก็ต้องนั่งรถไปต่ออีกแล้วต่อด้วยนั่งเรือไปเกาะก็ต้องไปให้ทันเวลา พ่อกับแม่แค่จะมาบอกให้ลูกรู้ว่าจะออกไปแล้ว อีกเรื่องนะ เวลาไปเข้าค่ายเตรียมยาที่จำเป็นไว้ให้พร้อมด้วย เแล้วก็อาหมวกแก๊ปกับเสื้อแขนยาวไปด้วยนะ "" ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวให้สนุกนะคะ "ณัชชากับป๊อบพยักหน้าเบาๆ จากนั้นป๊อบก็เอ่ยกำชับลูกสาวอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงว่า" เวลาอยู่ในค่ายน่ะ ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ อย่าไปนั่งใกล้ผู้ชายคนอื่น ยกเว้นพี่เคอร์ฟิวของลูก เข้าใจมั้ย "เขาเป็นพ่อที่ค่อนข้างหวงลูกสาวมากคนหนึ่ง ถึงแม้ลูกสาวเขาจะห้าวๆแต่มันก็ไม่ได้ทำให้พ่ออย่างเขาหวงลูกสาวน้อยลงเลยณชารู้และเข้าใจดีว่
ทุกคนเริ่มจับอุปกรณ์ ทานข้าวกันอย่างเงียบๆ ระหว่างทานข้าวพิมมองหน้าลูกชายแล้วเอ่ยถามขึ้น" เคอร์ฟิว เปิดเทอมแล้วเป็นยังไงบ้าง อยู่โรงเรียนได้เจอกับน้องณชาบ้างมั้ย "เคอร์ฟิวได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอ่อนออกมาแล้วเอ่ยตอบแม่ว่า" ก็ดีครับ อยู่โรงเรียนผมกับน้องอยู่คนละชั้น เรียนกันคนละตึกเลยไม่ค่อยได้เจอกันครับ "เตชินหันมามองลูกชายที่มีใบหน้าหล่อกระชากลากใจราวกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับเขาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ" ยังไงน้องก็เป็นคู่หมั้นลูก ลูกก็ดูแลน้องให้ดีๆอย่าเปิดโอกาสให้หนุ่มคนอื่นมาสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม จนทำให้น้องหวั่นไหวนะลูก ลูกผู้ชายต้องกล้าแสดงตัวหน่อย เข้าใจมั้ย "เคอร์ฟิวเอ่บตอบรับคำด้วยสีหน้าเรียบเฉยเพียงสั้นๆว่า" ครับ "" นี่ คุณสอนอะไรลูกน่ะ หนูณชายังเด็กก็ต้องมีเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายเป็นธรรมดา การหมั้นหมายเป็นการตกลงกันของพวกเรา หากลูกหรือหนูณชาไม่ได้ชอบพอกันก็ต้องยกเลิกไป มันไม่สามารถบังคับกันได้ค่ะ "พิมเอ่ยออกมาตรงๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าลูกชายของเธอนั้นเริ่มแอบณชาเข้าแล้วและจริงจังกับการเป็นคู่หมั้นนี้มากเตชินจึงโต้ตอบกับพิมว่า" ลูกชายเราหล่อแถมยังเป็นปร
พอออกมาจากสนามกอล์ฟ ทั้งสองครอบครัวก็ไปทานข้าวด้วยกัน ในร้านอาหารชื่อดังสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งร้านอาหารสำหรับคนรวยซึ่งตัวอาคารติดด้วยกระจกสะท้อนความร้อน ทำให้คนข้างในสามารถมองเห็นวิวบ้านเมืองและตึกสูงข้างนอกได้อย่างสวยงามในขณะทานข้าวทั้งสองครอบครัวนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข ณชากับเคอร์ฟิวก็นั่งทานข้าวบนเก้าอี้อย่างเรียบร้อยโดยที่ไม่รบกวนหรือเล่นซนเลย10 ปี ต่อมา.......ณ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นแหล่งรวมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนอินเตอร์จำนวนมากมีหลากหลายภาษา หลากหลายวัฒนธรรมและหลากหลายชนชาติมาเรียนร่วมกันเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเด็กนักเรียนต่างทยอยกันเดินออกมาจากอาคารเรียน รอผู้ปกครองมารับบางคนบางกลุ่มที่บ้านใกล้โรงเรียนก็ออกจากโรงเรียนเดินเท้ากลับตามทางฟุตบาทเคอร์ฟิวกับกลุ่มเพื่อนๆกำลังเดินออกมาจากห้องเรียนลงไปยังใต้อาคาร ชุดนักเรียนชายโรงเรียนนี้ ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว เสื้อสูทสีดำ มีตราสัญลักษณ์โรงเรียนปัก มีเน็กไทและกางเกงขายาวลายสก๊อตสีดำส่วนณชาที่เป็นรุ่นน้องของเคอร์ฟิวก็กำลังเดินลงจากอาคารเรียนเช่นกันแต่อยู่คนละตึกในต
ยามเย็นณัชชากับป๊อบลงมาเดินเล่นที่ชายหาด ส่วนลูกสาวก็อยู่กับตายาบนบ้านทั้งสองนั่งดูพระอาทิตย์ตกขอบทะเลด้วยกันอย่างโรแมนติก นั่งยาวไปจนถึงช่วงเวลาโพล้เพล้เธอนั่งเอาหัวพิงไหล่ป๊อบแล้วเอ่ย" ฉันมีความสุขจังเลยค่ะ เมื่อก่อนฉันรู้สึกอิจฉาคุณพิมมากที่สามีรักสามีหลงจนยอมตามใจทุกอย่าง "ป๊อบยิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต่อไปนี้คุณไม่ต้องไปอิจฉาพิมแล้ว เพราะถ้าไม่มีคุณผมก็อยู่ไม่ได้ การลองใจของคุณที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้ว่า ผมก็เป็นสามีที่รักและหลงภรรยามากเช่นกัน ตอนที่คิดว่าคุณไม่อยู่แล้วคุณผมแทบจะเป็นบ้าจนเกือบจะเสียสติไปแล้วรู้มั้ย "" ฉันขอโทษนะ "เธอเอ่ยเสียงอ่อน" ไม่เป็นไรหรอก แค่คุณไม่จากผมไปไหน อยู่กับผม ให้ผมสัมผัส และจับต้องคุณได้แบบนี้ทุกวัน ก็พอแล้ว "ณัชชายิ้มแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆสบตากับเขาพร้อมกับเอ่ยอย่างซึ้งใจ" ขอบคุณค่ะ "ป๊อบสบตากับภรรยาอย่างลึกซึ้งแล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเธอเบาๆจูบอย่างนุ่มนวลใจเย็น ในหัวใจของทั้งสองเต็มไปด้วยความรักที่บานฉ่ำ ตอนนี้ความปรารถนาของณัชชาเป็นจริงแล้ว เธอมีสามีที่น่ารัก ที่คอยเทคแคร์เอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดีมีลูกสาวที่น่ารัก มีครอบ
ณัชชาเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นพ่อกับแม่นั่งจ้องเธอตาเขม็งเธอยิ้มแหยๆออกออกมาพอให้เห็นฟันเล็กน้อยแล้วเดินเบี่ยงไปนั่งลงข้างๆลูก โดยไม่กล้าสบตาพ่อกับแม่อีกเธอจ้องมองใบหน้าแบเบาะอันน่ารักน่าชังที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมแล้วเอ่ย" ณชา สาวน้อยของแม่ แม่คิดถึงลูกที่สุดเลย แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่กับลูก ลูกไม่โกรธแม่ใช่มั้ยคะ น้าพิมกับคุณพ่อดูแลหนูดีมากมั้ยคะ "เด็กน้อยทำปากจู๋ แววตาดูใสแป๋วเปล่งประกายแวววาว ขนตาดกดำยาวสวย ส่งให้ดวงตาสวยมีเสน่ห์สมกับคำชมของเคอร์ฟิวน้อยเด็กน้อยยิ้มแป้นออกมาอย่างไร้เดียงสา ทำให้ผู้เป็นคุณแม่มือใหม่ หลงรักหนักเข้าไปอีก เธอจ้องหน้าลูกด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยต่อว่า" งุ้ยน่ารักน่าชังที่สุดเลย ต่อไปคุณแม่จะไม่ไปไหนแล้วนะคะ คุณแม่จะอยู่กับเบบี๋น้อยทุกวันทุกคืนเลยค่ะ "น้ำเสียงนุ่มนวลของณัชชาทำให้เด็กน้อยสัมผัสได้ถึงไออุ่นรักที่พิเศษกว่าพิมที่เป็นน้ามาก เพราะความเป็นแม่ลูกสามารถสัมผัสได้ผ่านจิตใจและความรู้สึกนั่นเองพ่อของณัชชานั่งยิ้มอ่อนบนโซฟามองลูกสาวด้วยแววตาอบอุ่นส่วนแม่ณัชชาพอเห็นว่าลูกสาวคุยกับลูกนานพอสมควรแล้วเขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงแข็งด้วยสีหน้าจริงจัง" ณัชชาลูกท
ช่วงบ่ายพ่อกับแม่ของป๊อบมาที่บ้านณัชชา พวกเขาก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนรู้จักมักคุ้นอย่างสนิทสนมแล้วแม่ของณัชชาก็เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบอย่างมีความนัยแอบแฝง" เป็นยังไงกันบ้างอยู่บ้านโน้นสบายดีกันทุกคนมั้ยคะ "คุณแม่ป๊อบยิ้มแล้วเอ่ยตอบอย่างเข้าใจความหมายแฝง" สบายดีค่ะ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตองเลยค่ะ สุขภาพดีขึ้นมาก โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มีแล้วค่ะ "" ดีๆ นับว่าเป็นข่าวดี เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ "แม่ณัชชาเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มนานแล้วที่เขาไม่ได้เจอลูกสาวเลยนับตั้งแต่วันคลอด เขาดีใจมากที่ได้ยินแม่ของลูกเขยพูดแบบนั้นคำพูดพวกนี้คนที่ไม่รู้อะไรอย่างป๊อบได้แต่นั่งฟังอยู่ข้างลูกสาวอย่างเงียบๆโดยไม่รู้เลยว่าแม่ตัวเองกับแม่ยายกำลังพูดเรื่องสุขภาพของภรรยาเขาอยู่" อ้อ จริงสิ ที่ฉันมาวันนี้ เพื่อมาบอกว่าตาป๊อบน่ะมีบ้านพักริมทะเลอยู่หลังหนึ่ง บรรยากาศดีมาก "" จริงเหรอคะ "คุณแม่ณัชชาออกอาการตื่นเต้นเมื่อได้ยินแบบนั้น " จริงค่ะ ฉันเพิ่งกลับมาจากที่นั่น ก็มาหาคุณเลย "แม่ของป๊อบกับแม่ณัชชา จากนั้นก็หันไปทางลูกชายแล้วเอ่ย" ป๊อบ พรุ่งนี้ลูกก็พาลูกสาวกับพ่อตาแม่ยายไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหน่อยสิ จิตใจทุกคนจะได
เมื่อภารกิจบนเตียงจบลงเตชินก็ก้มลงจูบภรรยาเบาๆแล้วนอนกอดเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่นพอสายๆพวกเขาก็ตื่นขึ้นมาไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วออกมาจากห้องพร้อมกันเตชินกอดไหล่ภรรยาอย่างรักใคร่ แล้วเดินลงบันไดพร้อมกันสีหน้าดูสดใสยิ้มแย้ม ป้าใจกำลังจะเข้าไปหาเคอร์ฟิวน้อยในห้องนั่งเล่นก็หันไปเห็นสองสามีภรรยาเดินลงบันไดมา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่บึ้งตึงใส่กันอีก แกรู้สึกดีใจและสบายใจเอามากๆ ที่ครอบครัวกลับมาเป็นครอบครัว[ คุณชายน้อยคงดีใจและมีความสุขมากถ้ารู้ว่าพ่อแม่ดีกันแล้ว ]หลังจากแอบพึมพำจบป้าใจก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามเตชินว่า" คุณชายจะให้เตรียมอาหารเช้าเลยมั้ยคะ "แกถามเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขากลับมาสู่สถานการณ์ปกติแบบ100%" อื้อ ป้ากับนวลก็ทานด้วยพร้อมกันเลยนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็โอบไหล่ภรรยาเดินเข้าไปหาลูกชายที่กำลังนั่งเล่นอยู่ เคอร์ฟิวละสายตาจากของเล่นแล้วเงยหน้ามองพ่อกับแม่ด้วยความสงสัย แต่ไม่กล้าเข้าไปหา " เคอร์ฟิว มาหาพ่อกับแม่สิ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับอ้าแขนรับเคอร์ฟิวแน่ใจแล้วว่าพ่อกับแม่ไม่ได้โกรธกันอีกจึงยิ้มออกมาแล้วลุกขึ้นวิ่งมาหาพ่อกับแม่ด้วยความดีใจพิมกอดลูกชายด
เช้าวันต่อมา คุณแม่กับคุณพ่อของป๊อบเก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทางกลับจากนั้นทั้งสองท่านก็นั่งรถออกจากบ้านพักริมทะเลตั้งแต่เช้าระหว่างทางคุณแม่ป๊อบนั่งนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้แกก็แอบอมยิ้มเบาๆก่อนหน้านี้คุณแม่ของณัชชาได้มาขอความร่วมมือจากเขาและเล่าแผนแกล้งตายให้ฟัง แกรู้สึกว่ามันเข้าท่าดี จึงรับปากอย่างไม่ลังเลช่วยลูกสะใภ้เล่นละครหลอกลูกชายตัวร้ายของเขา ที่เอาแต่รักคนที่มีลูกมีสามีแล้วแกเองก็ปวดใจไม่น้อยที่เห็นลูกมูฟออนไม่ได้สักที ทั้งยังสงสารและเห็นใจลูกสะใภ้คนสวยของแกที่สุดพอถึงวันที่ณัชชาไปคลอดแม่ของณัชชาก็โทรมาแจ้งให้เขาทราบพอรู้ว่าลูกสะใภ้คลอดแล้วแกกับสามีก็ตื่นมานั่งรอแต่เช้า รอลูกชายคนเล็กมาบอกข่าวแต่รอวันแล้ววันเล่า เจ้าลูกชายตัวดีก็ไม่โผล่หัวมาสักทีจนเขาเกือบจะโทรไปหาลูกเองแล้วแต่สามีห้ามไว้ สุดท้ายก็อดทนรออีกวัน ถึงจะเห็นลูกชายโผล่หน้ากลับมาด้วยสีหน้าเศร้าหมองแกแอบขำลูกชายเบาๆ พอลูกชายบอกข่าวเรื่องลูกสะใภ้เสียชีวิต แกก็เล่นใหญ่แกล้งทำเป็นตกใจจนช็อกไปแล้วบีบน้ำตาร้องห่มร้องให้ออกมา จากนั้นก็แกล้งหมดสติไปหลังจากนั้นเมื่อลูกสะใภ้ออกจากโรงพยาบาลแกก็มาอยู่เป็นเพื่อนคอ