รถของเตชินเข้ามาจอดในลานจอดรถ จากนั้นทั้งสองคนก็เปิดประตูลงจากรถ เตชินลงจากรถแล้วรีบวิ่งไปรับพิมประคองตัวเธออย่างทะนุถนอมด้วยความเป็นห่วง พิมจึงหันมาเอ่ยกับเขาว่า" คุณอย่าเว่อร์เกินไปได้มั้ยคะ ฉันท้องนะ ไม่ได้ป่วยเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงสักหน่อย คุณไม่ต้องมาประคองอะไรขนาดนี้หรอกค่ะ "เตชินมองลงบนตัวภรรยาตัวน้อย ความจริงเขาอยากจะอุ้มเธอเลยด้วยซ้ำแต่กลัวเธอจะโวยวายแล้วว่าให้เขาอีก เขาได้แต่คอยจับประคองตัวเธอเฝ้าระวังอุบัติเหตุ แล้วเอ่ยตอบเธอว่า" คุณ ถ้าผมไม่จับคุณไว้เกิดคุณสะดุดล้มจะทำยังไง ผมจะช่วยคุณทันเหรอ อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้เสมอนะ มันไม่ได้บอกหรือแจ้งเตือนล่วงหน้า เราก็ต้องระวังๆไว้ "" แต่ฉันไม่ใช่เด็กนะคะ ที่จะเดินไม่ดูตาม้าตาเรือแล้วปล่อยให้ตัวเองสะดุดล้มได้น่ะ "เอ่ยจบเธอก็ผลักเตชินออกแล้วหมุนตัวก้าวไปข้างหน้าแต่ในจังหวะหมุนตัวเท้าของเธอดันไปสะดุดกับเท้าของตัวเองเข้าซะงั้นเธอตกใจจนหน้าเธอเหวอเกือบจะหงายหลังลงไปบนพื้นแล้วดีที่เตชินอยู่ใกล้จึงรีบคว้ามือเธอไว้แล้วกอดรัดเอวเธอไว้ทัน พิมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เตชินจึงเอ่ยว่า" เห็นมั้ย พูดยังไม่ทันขาดคำเลย ก็เกิดอุบัติเหต
ตอนเย็น พอคุณหญิงจารวีทำอาหารเสร็จก็ให้ป้าพรไปเรียกพิมกับเตชิน" ป้าพร ช่วยไปเรียก ลูกชายสุดที่รักของป้ากับลูกสะใภ้ฉันให้มาทานข้าวหน่อยค่ะ "" ได้ค่ะ "ป้าพรเป็นพี่เลี้ยงของแม่เตชิน เขาเป็นคนที่เลี้ยงเตชินคู่กับคุณหญิงจารวีตั้งแต่เด็กทุกคนจึงรักและเคารพเขาเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เวลาทานข้าวก็ทานพร้อมกันป้าพรเข้ามาในห้องนั่งเล่นเห็นพิมกับเตชินนอนซบอกกอดกันกลมเกลียวดูอบอุ่นน่ารักแกจึงกลับไปหาคุณหญิงจารวีแล้วแล้วเอ่ยรายงานว่า" คุณพิมกับคุณเตชินกำลังหลับอยู่ค่ะ คุณผู้หญิงไปดูหน่อยมั้ยคะพวกเขาดูน่ารักน่าเอนดูมากเลยค่ะ นานๆทีจะได้เห็นฉากแบบนี้ของคุณชาย ถ่ายรูปไว้ให้พวกเขาดีมั้ยคะ "ได้ยินดังนั้นคุณหญิงจารวีก็ยิ้มขึ้นอย่างเห็นด้วยแล้วเอ่ย" จริงเหรอคะ ดีเลยค่ะ ป้าไปเอาโทรศัพท์มาให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะ ฉันจะไปดูพวกเขาหน่อย "" ได้ค่ะ "ป้าพรหมุนตัวไปเอาโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะอาหารมาให้คุณหญิงจารวีแล้วคุณหญิงจารวีก็ลากแขนสามีให้ไปดูลูกชายกับลูกสะใภ้คุณผู้ชายทวีศักดิ์ก็ได้แต่ทำตามที่ภรรยาต้องการเดินตามภรรยาไปเมื่อเห็นลูกชายกับลูกสะใภ้นอนกอดกันกลมแลดูอบอุ่นน่ารัก เป็นภาพสามคนพ่อแม่ลูกคุณหญิ
ในห้องประชุมโรงเรียน ป๊อบนั่งอยู่หัวโต๊ะ จัดแจงและมอบหมายหน้าที่ให้ครูแต่ละฝ่ายไปเตรียมงานกีฬาสีที่จะจัดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า จากนั้นเขาก็มองมายังพิมแล้วเอ่ยกับพิมว่า" ส่วนครูพิม ถ้าให้รับผิดชอบงานแสดงพิธีเปิดคนเดียวคงจะหนักเกินไปเพราะเธอท้องอยู่ ผมได้เชิญคุณเทเท่มาช่วยฝึกซ้อมให้แล้วนะครับ "" ค่ะ "ได้ยินดังนั้นพิมรู้สึกไม่พอใจที่ป๊อบมาตัดสินใจแทนเธอโดยไม่ถามอะไรเธอเลยแบบนี้ แต่ต่อหน้าครูคนอื่นเธอเลยเลือกที่จะนิ่งเงียบไว้ก่อน จากนั้นป๊อบก็เอ่ยว่า" งั้นก็แบ่งหน้าที่กันตามนี้ ครูท่านอื่นยังมีอะไรจะเสนอเพิ่มเติมหรืออยากถามอะไรอีกมั้ยครับ "" ไม่มีแล้วค่ะ/ไม่มีครับ "คณะครูในห้องประชุมเอ่ยตอบ" ถ้าไม่มีแล้วก็เลิกประชุมจะได้ แยกย้ายกันไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย "จากนั้นครูทุกคนก็ลุกขึ้นแล้วออกจากห้องประชุม พิมลุกจากเก้าอี้ กำลังจะออกไป ป๊อบก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบหยุดเธอที่กำลังจะออกไป" ครูพิมอยู่ก่อนครับ ผมมีธุระจะคุยกับคุณ "" ค่ะ "พิมก็กลับมานั่งลงที่เดิม ป๊อบเดินไปล็อกประตูห้องประชุม พิมรู้สึกตระหนกขึ้นมาในใจแล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมีธุระอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ "ป๊อบเดินเข้ามาใกล้พิ
ช่วงบ่ายเด็กๆในโรงเรียนพากันแบ่งกลุ่ม ทำการฝึกซ้อมกีฬาตามสถานที่ต่างๆสี่โมงเย็นเตชินก็มาถึงโรงเรียนแล้วเดินดุ่มเข้าไปหาพิมที่ห้องป๊อบนั่งดูเตชินในห้องผ่านกล้องวงจรปิด เผลอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัวด้วยความรู้สึกอิจฉาและไม่พอใจที่เตชินมาแสดงตัวถึงโรงเรียนแบบนี้เตชินเข้าไปในห้องเรียนของพิมแล้วไปคว้ามือพิมมาพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ" บอกมามันทำอะไรคุณบ้าง มันแตะต้องคุณตรงไหน "พิมมองไปรอบๆอย่างระแวดระวังกลัวนักเรียนจะมาเห็นเมื่อไม่มีใครเธอจึงเอ่ยเสียงเบา" คุณอย่ามาทำตัววางอำนาจเอาแต่ใจในสถานที่ราชการนะ มีอะไรกลับไปคุยกันที่บ้าน ปล่อย! "" ไม่ปล่อย วันนี้ คุณจะต้องไปเคลียร์กับมันให้จบๆต่อหน้าผมเลย "เตชินเอ่ยเสียงแข็งจะให้พิมไปจบกับป๊อบให้ได้พิมเริ่มโมโหกับความขี้หึงขี้ระแวงของเตชิน เธอจึงเอ่ยเสียงสองขึ้นอย่างดุดันและเยือกเย็น" คุณเตชิน คุณเลิกทำตัวแบบนี้สักที ถ้าคุณรักฉันคุณก็ต้องไว้ใจ เชื่อใจกันสิ หากคุณเป็นแบบนี้เราจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างมีความสุขได้ยังไง เราจะมีครอบครัวที่อบอุ่นให้ลูกได้ยังไงฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าให้กลับไปคุยกันที่บ้าน คุณอยากรู้อะไรฉันจะเล่าให้ฟังใ
เมื่อใจเย็นลงและหายโกรธแล้ว พิมจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบปกติ" คุณ ต่อไปคุณอย่าหึงฉันกับคุณป๊อบอีกได้มั้ย "เตชินที่กำลังคุยกับลูกก็นิ่งไปแล้วเงยหน้าขึ้นมองพิม จากนั้นเขาก็เอ่ยกับลูกในท้องว่า" ลูก พ่อขอคุยกับแม่ของลูกก่อนนะครับ "แล้วเขาก็ลุกขึ้นมานั่งข้างพิมสบตากับเธอแล้วพยักหน้ารับปาก จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้น" อืม แล้วคุณเคยรักผมบ้างมั้ย "ได้ยินดังนั้นพิมจึงเอ่ยตอบเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า" พูดตรงๆนะ รักแต่อาจจะรักน้อยกว่าคุณป๊อบเพราะคุณเอาแต่ใจ เดี๋ยวก็โผล่เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็มีผู้หญิงคนอื่น ทอดทิ้งฉันตลอด สุดท้ายก็มีแค่คุณป๊อบที่คอยอยู่เคียงข้างฉันในวันที่ฉันไม่มีใครหรือต้องการใครสักคนเดิมทีฉันก็รักเขามาก่อนอยู่แล้ว ยิ่งเขาดูแลปกป้องและทำดีด้วย ฉันก็ยิ่งรักเขามากขึ้น คุณรู้บ้างมั้ย ในวันที่ฉันกลัวที่สุดคือวันที่ฉันท้องไม่มีพ่อ เขาคอยปกป้องฉัน จากคำครหานินทาฉันรู้ว่าเขาเจ็บและเสียใจมาก แต่เขาก็ยังคอยปลอบใจคอยให้กำลังใจฉัน ไม่ให้ฉันทำแท้ง ในวันที่ไม่มีคุณ เขาดูแลใส่ใจฉันดีมากแม้ฉันจะไม่ตกปากรับคำคบกับเขาแต่เขากลับไม่สนใจสถานะเลย แบบนี้คุณลองคิดดู ว่าฉันควรจะรักเขามากกว่
ในเช้าของวันหยุดพิมตื่นแต่เช้าออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์นอกบ้านพ่อคำกับแม่มะลิเดินเข้ามาหาลูกสาว แล้วแม่มะลิก็เอ่ยกับพิมว่า" ลูกพิมไปคุยกับแม่ที่ห้องหน่อย "พิมหันไปมองพ่อกับแม่ด้วยความสงสัยแล้วเอ่ยตอบรับ" ค่ะ "แล้วแม่มะลิก็หันหลังเดินกลับเข้าบ้าน ไปยังห้องของตัวเอง พิมก็เดินตามหลังผู้เป็นแม่ไปส่วนพ่อคำก็เดินไปนั่งดื่มกาแฟหน้าบ้านคนเดียวบนโต๊ะกลางสวนเตชินลงมาชั้นล่างไม่เจอพิม พอเห็นแม่บ้านกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่จึงเข้าไปถามหาพิม" ป้าเห็นคุณพิมมั้ยครับ "แม่บ้านหันมาตอบเตชินว่า" เมื่อกี้ป้าเห็นคุณพิมอยู่หน้าบ้านค่ะ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็เดินออกไปที่สวนหน้าบ้านทันที แต่กลับเจอเพียงพ่อคำที่กำลังนั่งดื่มกาแฟคนเดียว เขาจึงเดินเข้าไปหาแล้วเอ่ยทักทายขึ้น" อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ "พ่อคำหันมาทางเตชินแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ยว่า" อรุณสวัสดิ์ๆ มาหาพ่อแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่า "" ผมนึกว่าพิมอยู่ที่นี่เลยรีบมาดูเธอครับ "" อ๋อ ลูกพิมอยู่กับแม่ที่ห้องน่ะ ตอนนี้คงจะถูกแม่อบรมสั่งสอนเป็นชุดแล้ว เมื่อวานเห็นคุณนุชบอกว่าลูกกับลูกพิมทะเลาะกันเรื่องคุณป๊อบ วันนี้แม่มะลิจึงเรียกลูกพิมไปคุย ลูกไม่ต้อ
ณ โรงเรียน JK พิมสอนตามปกติ ตอนเที่ยงป๊อบประกาศในกลุ่มคณะครูโรงเรียน JKว่า" บ่ายโมงตรงขอคณะครูทุกท่านเข้าประชุมที่ห้องประชุมด้วยนะครับ "ครูทุกคนต่างก็พิมตอบกลับไปว่า" รับทราบค่ะ/รับทราบครับ "นุชเตรียมมื้อเที่ยงให้พิม มาจัดวางอาหารบนโต๊ะ พิมออกจากห้องเรียนแล้วเดินเข้ามาในห้องนาฏศิลป์ของเธอจากนั้นเธอก็ไปล้างมือแล้วมานั่งทานข้าวที่นุชเตรียมให้พร้อมกันกับนุชอย่างเงียบๆเธอไม่รู้ว่าป๊อบเรียกประชุมเรื่องอะไร แต่มันทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเลย เธอจึงทานข้าวอย่างเหม่อลอยนุชเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีของพิมจึงเอ่ยถามขึ้น" มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ คุณพิม "พิมยิ้มอ่อนส่ายหน้าปฏิเสธเบาแล้วเอ่ยตอบว่า" ไม่ค่ะ "แม้พิมจะปฏิเสธนุชก็ดูออกมาเธอกำลังมีเรื่องครุ่นคิด นุชจึงเอยว่า" พี่นุชว่าคุณพิมอย่าเก็บเรื่องอะไรมาคิดให้กวนใจเลยค่ะ ไม่งั้นจะทำให้ลูกในท้องคิดมากไปด้วย "" ค่ะ "แล้วพิมก็ก้มหน้าทานข้าวต่อ พอทานข้าวเสร็จเธอก็ช่วยนุชเก็บถ้วยจานบนโต๊ะ นุชจึงเอ่ยว่า" พี่เก็บเองค่ะ จะบ่ายโมงแล้วคุณพิมไปสอนเถอะค่ะ "" งั้นพิมฝากด้วยนะคะ "" ค่ะ "แล้วพิมก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้อง เธอเดินไปยังอาการที่จ
หลังจากที่ลาหยุดยาว พิมก็ไปอยู่กับเตชินที่กรุงเทพบางวันเตชินก็พาเธอไปอยู่ที่บริษัทกับเขาบางวันณัชชาก็พาเธอไปเลือกซื้อเสื้อผ้าเด็กแก้เบื่อถึงคอสเรียนโยคะเตชินก็ไปเล่นโยคะกับเธอทำกิจกรรมครอบครัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ด้วยกันส่วนคุณหญิงจารวีกับสามีก็ไปช้อปปิ้งเลือกเสื้อผ้า ที่นอนและผ้าอ้อมให้หลาน แล้วสั่งเตียงทำเตียงและคอกนุ่มๆให้หลานที่กำลังจะออกมาลืมตาดูโลกด้วยพอได้ฤกษ์วันที่จะคลอดลูก ทุกคนก็นั่งรถไปส่งพิมที่โรงพยาบาลกันอย่างพร้อมเพรียงทั้งพ่อแม่พิมและพ่อแม่ของเตชินต่างก็นั่งรอพิมในห้องกันกันอย่างตื่นเต้นแทบนั่งกันไม่ติดกันเลยทีเดียวตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าสมาชิกคนใหม่ของตระกูลทางห้องคลอด ขณะที่หมอกำลังทำคลอดอยู่พิมเบ่งท้องพร้อมกับกรีดร้องอย่างทรมานเหงื่อซึมไหลออกมาสีหน้าดูเจ็บปวดและเหนื่อยล้าเตชินมองหน้าภรรยาด้วยความสงสารอยากจะเจ็บแทน เขาเม้มริมฝีปากแน่นเอาใจช่วยเธอคอยนั่งกุมมือเธอ อยู่เคียงข้างเธอและจูบมือเธอเบาๆด้วยความรักด้วยความห่วงใยพิมปวดท้องอย่างทรมาน หนังสีหน้าเธออ่อนล้าอ่อนเพลียแทบจะไม่มีแรงแล้วตอนนี้เตชินใจสั่นตุบๆได้กุมมือพิมไว้แน่นคอยส่งกำลังใจผ่านริมฝีปากอ
" ก็สั่งสอนแบบนี้ไง "เคอร์ฟิวจับณชาขึ้นมานั่งบนตักแล้วจูบเธอทันที ณชาตกใจจนดวงตาเบิกกว้างป้าใจเดินเข้ามาส่งพิซซ่าในห้องเจอเข้ากับฉากนี้พอดี แกจึงหมุนตัวหันหลังจะเดินออกไปแบบเงียบๆเคอร์ฟิวถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากณชาแล้วเอ่ย" ป้าไม่ต้องออกไปหรอก คุณณชาเธอหิวจนจะกลืนกินผมอยู่แล้ว "" พี่พูดอะไรน่ะ "เธอเอ่ยอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับทุบตีอกของเขาหนึ่งทีป้าใจยิ้มเจื่อนแล้วหมุนตัวเดินเข้ามาวางพิซซ่าลงบนโต๊ะจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเคอร์ฟิววางณชาลงนั่งข้างๆแล้วเปิดกล่องพิซซ่าออกมาหยิบพิซซ่าขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วเอ่ยกับณชาที่นั่งแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก" หิวไม่ใช่เหรอ อ้าปากสิ "ณชาเหลือบมองเขาอย่างหน้านิ่วแล้วเอ่ยเสียงขุ่น" ฉันทานเองได้ "เธอขยับมือจะหยิบพิซซ่ามาทานเอง แต่เคอร์ฟิวกลับจับมือเธอไว้แล้วเอ่ย" พี่อยากป้อน อ้าปาก ถ้าไม่อ้าปากพี่จะใช้ปากป้อนแล้วนะ "ณชาได้แต่มองแรงใส่เขาแล้วยอมอ้าปากให้เขาป้อน เขายิ้มแล้วเอ่ย" เชื่อฟังแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย "เคอร์ฟิวป้อนไปยิ้มไปอย่างพอใจ ณชาทานจนอิ่มลืมความโมโหและความไม่พอใจไปหมดสิ้น แล้วเปลี่ยนม
เช้าวันรุ่งขึ้น ป๊อบกับณัชชาลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้อง แล้วไปเคาะประตูห้องลูกสาวณชาที่ยังหลับอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงเคาะประตูเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วลุกมานั่งหาว จากนั้นก็ลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยท่าทางงัวเงียเธอหาวออกมาอีกครั้ง แล้วยื่นมือไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่กำลังจะออกเดินทางแล้วเธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณพ่อคุณแม่จะไปแล้วเหรอคะ ทำไมไปเช้าจัง "ณัชชายิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต้องไปไกล ลงจากเครื่องเสร็จก็ต้องนั่งรถไปต่ออีกแล้วต่อด้วยนั่งเรือไปเกาะก็ต้องไปให้ทันเวลา พ่อกับแม่แค่จะมาบอกให้ลูกรู้ว่าจะออกไปแล้ว อีกเรื่องนะ เวลาไปเข้าค่ายเตรียมยาที่จำเป็นไว้ให้พร้อมด้วย เแล้วก็อาหมวกแก๊ปกับเสื้อแขนยาวไปด้วยนะ "" ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวให้สนุกนะคะ "ณัชชากับป๊อบพยักหน้าเบาๆ จากนั้นป๊อบก็เอ่ยกำชับลูกสาวอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงว่า" เวลาอยู่ในค่ายน่ะ ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ อย่าไปนั่งใกล้ผู้ชายคนอื่น ยกเว้นพี่เคอร์ฟิวของลูก เข้าใจมั้ย "เขาเป็นพ่อที่ค่อนข้างหวงลูกสาวมากคนหนึ่ง ถึงแม้ลูกสาวเขาจะห้าวๆแต่มันก็ไม่ได้ทำให้พ่ออย่างเขาหวงลูกสาวน้อยลงเลยณชารู้และเข้าใจดีว่
ทุกคนเริ่มจับอุปกรณ์ ทานข้าวกันอย่างเงียบๆ ระหว่างทานข้าวพิมมองหน้าลูกชายแล้วเอ่ยถามขึ้น" เคอร์ฟิว เปิดเทอมแล้วเป็นยังไงบ้าง อยู่โรงเรียนได้เจอกับน้องณชาบ้างมั้ย "เคอร์ฟิวได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอ่อนออกมาแล้วเอ่ยตอบแม่ว่า" ก็ดีครับ อยู่โรงเรียนผมกับน้องอยู่คนละชั้น เรียนกันคนละตึกเลยไม่ค่อยได้เจอกันครับ "เตชินหันมามองลูกชายที่มีใบหน้าหล่อกระชากลากใจราวกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับเขาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ" ยังไงน้องก็เป็นคู่หมั้นลูก ลูกก็ดูแลน้องให้ดีๆอย่าเปิดโอกาสให้หนุ่มคนอื่นมาสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม จนทำให้น้องหวั่นไหวนะลูก ลูกผู้ชายต้องกล้าแสดงตัวหน่อย เข้าใจมั้ย "เคอร์ฟิวเอ่บตอบรับคำด้วยสีหน้าเรียบเฉยเพียงสั้นๆว่า" ครับ "" นี่ คุณสอนอะไรลูกน่ะ หนูณชายังเด็กก็ต้องมีเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายเป็นธรรมดา การหมั้นหมายเป็นการตกลงกันของพวกเรา หากลูกหรือหนูณชาไม่ได้ชอบพอกันก็ต้องยกเลิกไป มันไม่สามารถบังคับกันได้ค่ะ "พิมเอ่ยออกมาตรงๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าลูกชายของเธอนั้นเริ่มแอบณชาเข้าแล้วและจริงจังกับการเป็นคู่หมั้นนี้มากเตชินจึงโต้ตอบกับพิมว่า" ลูกชายเราหล่อแถมยังเป็นปร
พอออกมาจากสนามกอล์ฟ ทั้งสองครอบครัวก็ไปทานข้าวด้วยกัน ในร้านอาหารชื่อดังสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งร้านอาหารสำหรับคนรวยซึ่งตัวอาคารติดด้วยกระจกสะท้อนความร้อน ทำให้คนข้างในสามารถมองเห็นวิวบ้านเมืองและตึกสูงข้างนอกได้อย่างสวยงามในขณะทานข้าวทั้งสองครอบครัวนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข ณชากับเคอร์ฟิวก็นั่งทานข้าวบนเก้าอี้อย่างเรียบร้อยโดยที่ไม่รบกวนหรือเล่นซนเลย10 ปี ต่อมา.......ณ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นแหล่งรวมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนอินเตอร์จำนวนมากมีหลากหลายภาษา หลากหลายวัฒนธรรมและหลากหลายชนชาติมาเรียนร่วมกันเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเด็กนักเรียนต่างทยอยกันเดินออกมาจากอาคารเรียน รอผู้ปกครองมารับบางคนบางกลุ่มที่บ้านใกล้โรงเรียนก็ออกจากโรงเรียนเดินเท้ากลับตามทางฟุตบาทเคอร์ฟิวกับกลุ่มเพื่อนๆกำลังเดินออกมาจากห้องเรียนลงไปยังใต้อาคาร ชุดนักเรียนชายโรงเรียนนี้ ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว เสื้อสูทสีดำ มีตราสัญลักษณ์โรงเรียนปัก มีเน็กไทและกางเกงขายาวลายสก๊อตสีดำส่วนณชาที่เป็นรุ่นน้องของเคอร์ฟิวก็กำลังเดินลงจากอาคารเรียนเช่นกันแต่อยู่คนละตึกในต
ยามเย็นณัชชากับป๊อบลงมาเดินเล่นที่ชายหาด ส่วนลูกสาวก็อยู่กับตายาบนบ้านทั้งสองนั่งดูพระอาทิตย์ตกขอบทะเลด้วยกันอย่างโรแมนติก นั่งยาวไปจนถึงช่วงเวลาโพล้เพล้เธอนั่งเอาหัวพิงไหล่ป๊อบแล้วเอ่ย" ฉันมีความสุขจังเลยค่ะ เมื่อก่อนฉันรู้สึกอิจฉาคุณพิมมากที่สามีรักสามีหลงจนยอมตามใจทุกอย่าง "ป๊อบยิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต่อไปนี้คุณไม่ต้องไปอิจฉาพิมแล้ว เพราะถ้าไม่มีคุณผมก็อยู่ไม่ได้ การลองใจของคุณที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้ว่า ผมก็เป็นสามีที่รักและหลงภรรยามากเช่นกัน ตอนที่คิดว่าคุณไม่อยู่แล้วคุณผมแทบจะเป็นบ้าจนเกือบจะเสียสติไปแล้วรู้มั้ย "" ฉันขอโทษนะ "เธอเอ่ยเสียงอ่อน" ไม่เป็นไรหรอก แค่คุณไม่จากผมไปไหน อยู่กับผม ให้ผมสัมผัส และจับต้องคุณได้แบบนี้ทุกวัน ก็พอแล้ว "ณัชชายิ้มแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆสบตากับเขาพร้อมกับเอ่ยอย่างซึ้งใจ" ขอบคุณค่ะ "ป๊อบสบตากับภรรยาอย่างลึกซึ้งแล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเธอเบาๆจูบอย่างนุ่มนวลใจเย็น ในหัวใจของทั้งสองเต็มไปด้วยความรักที่บานฉ่ำ ตอนนี้ความปรารถนาของณัชชาเป็นจริงแล้ว เธอมีสามีที่น่ารัก ที่คอยเทคแคร์เอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดีมีลูกสาวที่น่ารัก มีครอบ
ณัชชาเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นพ่อกับแม่นั่งจ้องเธอตาเขม็งเธอยิ้มแหยๆออกออกมาพอให้เห็นฟันเล็กน้อยแล้วเดินเบี่ยงไปนั่งลงข้างๆลูก โดยไม่กล้าสบตาพ่อกับแม่อีกเธอจ้องมองใบหน้าแบเบาะอันน่ารักน่าชังที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมแล้วเอ่ย" ณชา สาวน้อยของแม่ แม่คิดถึงลูกที่สุดเลย แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่กับลูก ลูกไม่โกรธแม่ใช่มั้ยคะ น้าพิมกับคุณพ่อดูแลหนูดีมากมั้ยคะ "เด็กน้อยทำปากจู๋ แววตาดูใสแป๋วเปล่งประกายแวววาว ขนตาดกดำยาวสวย ส่งให้ดวงตาสวยมีเสน่ห์สมกับคำชมของเคอร์ฟิวน้อยเด็กน้อยยิ้มแป้นออกมาอย่างไร้เดียงสา ทำให้ผู้เป็นคุณแม่มือใหม่ หลงรักหนักเข้าไปอีก เธอจ้องหน้าลูกด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยต่อว่า" งุ้ยน่ารักน่าชังที่สุดเลย ต่อไปคุณแม่จะไม่ไปไหนแล้วนะคะ คุณแม่จะอยู่กับเบบี๋น้อยทุกวันทุกคืนเลยค่ะ "น้ำเสียงนุ่มนวลของณัชชาทำให้เด็กน้อยสัมผัสได้ถึงไออุ่นรักที่พิเศษกว่าพิมที่เป็นน้ามาก เพราะความเป็นแม่ลูกสามารถสัมผัสได้ผ่านจิตใจและความรู้สึกนั่นเองพ่อของณัชชานั่งยิ้มอ่อนบนโซฟามองลูกสาวด้วยแววตาอบอุ่นส่วนแม่ณัชชาพอเห็นว่าลูกสาวคุยกับลูกนานพอสมควรแล้วเขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงแข็งด้วยสีหน้าจริงจัง" ณัชชาลูกท
ช่วงบ่ายพ่อกับแม่ของป๊อบมาที่บ้านณัชชา พวกเขาก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนรู้จักมักคุ้นอย่างสนิทสนมแล้วแม่ของณัชชาก็เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบอย่างมีความนัยแอบแฝง" เป็นยังไงกันบ้างอยู่บ้านโน้นสบายดีกันทุกคนมั้ยคะ "คุณแม่ป๊อบยิ้มแล้วเอ่ยตอบอย่างเข้าใจความหมายแฝง" สบายดีค่ะ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตองเลยค่ะ สุขภาพดีขึ้นมาก โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มีแล้วค่ะ "" ดีๆ นับว่าเป็นข่าวดี เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ "แม่ณัชชาเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มนานแล้วที่เขาไม่ได้เจอลูกสาวเลยนับตั้งแต่วันคลอด เขาดีใจมากที่ได้ยินแม่ของลูกเขยพูดแบบนั้นคำพูดพวกนี้คนที่ไม่รู้อะไรอย่างป๊อบได้แต่นั่งฟังอยู่ข้างลูกสาวอย่างเงียบๆโดยไม่รู้เลยว่าแม่ตัวเองกับแม่ยายกำลังพูดเรื่องสุขภาพของภรรยาเขาอยู่" อ้อ จริงสิ ที่ฉันมาวันนี้ เพื่อมาบอกว่าตาป๊อบน่ะมีบ้านพักริมทะเลอยู่หลังหนึ่ง บรรยากาศดีมาก "" จริงเหรอคะ "คุณแม่ณัชชาออกอาการตื่นเต้นเมื่อได้ยินแบบนั้น " จริงค่ะ ฉันเพิ่งกลับมาจากที่นั่น ก็มาหาคุณเลย "แม่ของป๊อบกับแม่ณัชชา จากนั้นก็หันไปทางลูกชายแล้วเอ่ย" ป๊อบ พรุ่งนี้ลูกก็พาลูกสาวกับพ่อตาแม่ยายไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหน่อยสิ จิตใจทุกคนจะได
เมื่อภารกิจบนเตียงจบลงเตชินก็ก้มลงจูบภรรยาเบาๆแล้วนอนกอดเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่นพอสายๆพวกเขาก็ตื่นขึ้นมาไปอาบน้ำ แต่งตัว แล้วออกมาจากห้องพร้อมกันเตชินกอดไหล่ภรรยาอย่างรักใคร่ แล้วเดินลงบันไดพร้อมกันสีหน้าดูสดใสยิ้มแย้ม ป้าใจกำลังจะเข้าไปหาเคอร์ฟิวน้อยในห้องนั่งเล่นก็หันไปเห็นสองสามีภรรยาเดินลงบันไดมา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่บึ้งตึงใส่กันอีก แกรู้สึกดีใจและสบายใจเอามากๆ ที่ครอบครัวกลับมาเป็นครอบครัว[ คุณชายน้อยคงดีใจและมีความสุขมากถ้ารู้ว่าพ่อแม่ดีกันแล้ว ]หลังจากแอบพึมพำจบป้าใจก็ยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามเตชินว่า" คุณชายจะให้เตรียมอาหารเช้าเลยมั้ยคะ "แกถามเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขากลับมาสู่สถานการณ์ปกติแบบ100%" อื้อ ป้ากับนวลก็ทานด้วยพร้อมกันเลยนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็โอบไหล่ภรรยาเดินเข้าไปหาลูกชายที่กำลังนั่งเล่นอยู่ เคอร์ฟิวละสายตาจากของเล่นแล้วเงยหน้ามองพ่อกับแม่ด้วยความสงสัย แต่ไม่กล้าเข้าไปหา " เคอร์ฟิว มาหาพ่อกับแม่สิ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับอ้าแขนรับเคอร์ฟิวแน่ใจแล้วว่าพ่อกับแม่ไม่ได้โกรธกันอีกจึงยิ้มออกมาแล้วลุกขึ้นวิ่งมาหาพ่อกับแม่ด้วยความดีใจพิมกอดลูกชายด
เช้าวันต่อมา คุณแม่กับคุณพ่อของป๊อบเก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทางกลับจากนั้นทั้งสองท่านก็นั่งรถออกจากบ้านพักริมทะเลตั้งแต่เช้าระหว่างทางคุณแม่ป๊อบนั่งนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้แกก็แอบอมยิ้มเบาๆก่อนหน้านี้คุณแม่ของณัชชาได้มาขอความร่วมมือจากเขาและเล่าแผนแกล้งตายให้ฟัง แกรู้สึกว่ามันเข้าท่าดี จึงรับปากอย่างไม่ลังเลช่วยลูกสะใภ้เล่นละครหลอกลูกชายตัวร้ายของเขา ที่เอาแต่รักคนที่มีลูกมีสามีแล้วแกเองก็ปวดใจไม่น้อยที่เห็นลูกมูฟออนไม่ได้สักที ทั้งยังสงสารและเห็นใจลูกสะใภ้คนสวยของแกที่สุดพอถึงวันที่ณัชชาไปคลอดแม่ของณัชชาก็โทรมาแจ้งให้เขาทราบพอรู้ว่าลูกสะใภ้คลอดแล้วแกกับสามีก็ตื่นมานั่งรอแต่เช้า รอลูกชายคนเล็กมาบอกข่าวแต่รอวันแล้ววันเล่า เจ้าลูกชายตัวดีก็ไม่โผล่หัวมาสักทีจนเขาเกือบจะโทรไปหาลูกเองแล้วแต่สามีห้ามไว้ สุดท้ายก็อดทนรออีกวัน ถึงจะเห็นลูกชายโผล่หน้ากลับมาด้วยสีหน้าเศร้าหมองแกแอบขำลูกชายเบาๆ พอลูกชายบอกข่าวเรื่องลูกสะใภ้เสียชีวิต แกก็เล่นใหญ่แกล้งทำเป็นตกใจจนช็อกไปแล้วบีบน้ำตาร้องห่มร้องให้ออกมา จากนั้นก็แกล้งหมดสติไปหลังจากนั้นเมื่อลูกสะใภ้ออกจากโรงพยาบาลแกก็มาอยู่เป็นเพื่อนคอ