@ทื่บริษัท “เฮ้ออออ ยัยมาร์หยุดงานอีกแล้วเนอะ น่าสงสารจังเลย วันก่อนเพิ่งหยุดไปเพราะว่าไม่สบาย พอมาทำงานดันโดนท่านประธานเรียกไปด่าอีก แถมเมื่อวานยังลงโทษให้ทำงานกองเบ้อเริ่ม”“นั่นสิใจร้ายมาก สงสารยัยมาร์เนอะ ยังดีนะที่ท่านประธานหล่อมาก อันนี้ฉันพอให้ได้ทั้งหมด”“แหมแก ตกลงจะสงสารเพื่อนหรือตกหลุมรักท่านประธาน”“ทั้งสองอย่าง เพื่อนก็สงสารแต่ความหล่อของท่านอันนี้ก็ แหมมมเนอะ หล่อซะไม่ปรานีหัวใจดวงเล็ก ๆ ของฉันเลย แต่แกอะ… ก็ฉันรักเขา เขาคือว่าที่พ่อของลูกฉัน”“สามีทิพย์ว่างั้น”“เออ เรื่องของฉันย่ะ หรือแกไม่ปลื้มท่าน”“งั้นแกคงต้องเข้าแถว รอยาวจนถึงสุไหงโกลกแล้วละ เพราะฉันจองท่านเอาไว้ก่อน”เพื่อนร่วมงานเริ่มจับกลุ่มพูดถึงมารีอาด้วยความเป็นห่วง เพราะนาน ๆ ทีเพิ่งจะเห็นมารีอาหยุดงานบ่อย ๆ แบบนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกันพาดพิงถึงลี่คุน ประธานในดวงใจของพวกเธอ“นี่ นี่ พวกแก ข่าวใหญ่ ๆ” เสียงเพื่อนร่วมงานอีกแผนกที่อยู่ใกล้ ๆ รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาเพื่อประกาศข่าวใหญ่“อะไรยะ เรียกซะตกอกตกใจ”“มีคนเห็นท่านประธานพาผู้หญิงไปฝากครรภ์ !”“หาาาาาาา” “หาาาาาาา” สองสาวฝ่ายบัญชีพากันร้องอุทานแปลกใจแทบ
ลี่คุนพามารีอาขับรถกลับมาส่งบ้าน เธอเองยังนึกแปลกใจที่เขาไม่ได้ไปส่งที่คอนโดมิเนียมของแอนนี่เหมือนทุกครั้ง แต่กลับตรงมาส่งที่บ้านของเธอแทน“คุณรู้ได้ไงว่าบ้านฉันอยู่ไหน” มารีอาเอ่ยถาม แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย จำได้ว่าเธอไม่เคยเอ่ยปากบอกทางไปบ้านกับเขาแน่ ๆ“ผมเพิ่งไปนั่งอ่านประวัติใบสมัครของคุณมา”“ให้ไปนั่งทำงาน ไม่ใช่ให้ไปอ่านประวัติมา”“ก็ผมอยากรู้นี่ เกิดวันไหน ชอบอะไร อยู่กับใคร ก็เลยเพิ่งรู้ว่า… เอ่อ” ลี่คุนไม่กล้าพูดต่อถึงเรื่องพ่อแม่เพราะกลัวกระทบจิตใจของเธอ แต่มารีอาก็พอเดาได้อยู่ว่าเขาไม่กล้าถามเรื่องอะไร“เรื่องคุณพ่อคุณแม่ของมาร์เหรอคะ ไม่เป็นไรคุณพูดถึงท่านทั้งสองได้ ตัวมาร์เองทำใจและยอมรับการสูญเสียได้แล้ว แต่ก็ยังมีนึกเสียใจและคิดถึงท่านทั้งสองตลอดเวลา มาร์ก็ได้งานนี่ละคะ ทำให้มาร์ไม่ฟุ้งซ่าน เวลาทำงานเยอะ ๆ ใจมันจะมุ่งมั่นอยู่กับงาน เลยทำให้คลายความเศร้าลงบ้าง แถมมาร์ได้เพื่อนดี ๆ อย่างแอนนี่คอยอยู่ข้าง ๆ มาร์มาตลอด”“ที่ผ่านมาคุณคงเหงามามาก ต่อไปคุณก็จะไม่เหงาแล้วนะครับ เพราะต่อไปผมจะเป็นครอบครัวของคุณไปจนตลอดชีวิต” ลี่คุนยกหลังมือของมารีอาที่เขากุมเอาไว้ขึ้นมาหอม เข้
“อยากต่อแขนต่อขาลูก”“ดะ เดี๋ยวสิคะ” เธอรีบยกสองแขนไปดันไว้ที่อก เพราะเริ่มรู้สึกว่าเธอเริ่มเดินถอยหนีจนแผ่นหลังชิดผนังบ้านของเธอแล้ว“นะ… คุณลงโทษผมพอแล้ว คราวนี้ถึงตาผมลงโทษบ้าง”“เอ๋… เดี๋ยว… ยังไม่ครบกำหนดเลยไม่ใช่เหรอคะ”“ผมถือว่าเป็นโมฆะไปแล้ว เพราะคุณผิดกับผมก่อน”“อะ อะไรอะ มาร์ผิดอะไร” คนตัวเล็กขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่รู้สาเหตุ“ผิดสิ คุณชอบทำตัวน่ารักตลอดเวลาจนทำให้ผมทนไม่ไหว”~เหตุผลแบบนี้ใช่เหรอเนี่ยลี่คุน~ มารีอาได้แต่ทำตาปริบ ๆ เพราะอึ้งในความมึนของเขา“นะ นะครับที่รักผมอยากลงโทษคุณหนัก ๆ แล้ว” ลี่คุนอ้อน แถมเสียงนุ่มที่พูดกระซิบอยู่ข้างหูเธอตอนนี้ดูท่าแล้วอย่างไรคืนนี้เธอคงไม่รอดแน่ลี่คุนยิ้มอ่อนโยนให้อีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่ค่อย ๆ ประสานมือเรียวเล็กของเธอไว้ ก่อนตรึงมือทั้งสองข้าง ไปเบา ๆ กับผนัง ปลายจมูกเริ่มคลอเคลียอยู่ที่จมูกทรงหยดน้ำของเธอ ลมหายใจเริ่มติดขัด ก่อนริมฝีปากจะเคลื่อนหากันและกัน จูบที่เร่าร้อนเกิดขึ้นทันทีราวกับแม่เหล็กถูกดูดดึง เขาเม้มดูดปากอิ่มสวยของมารีอาอย่างนิ่มนวล จนที่สุดเธอต้องเผยอปากขึ้นปล่อยเรียวลิ้นร้อนของเขาแทรกเข้ามา ก่อนลิ้นคนทั้งคู่จะพันดูดกันตาม
“เออ แหมมม แกไปถึงไหนต่อไหนทำมาเขิน” แอนนี่กระซิบกระซาบก่อนกระทุ้งแขนแซว “ไปดิ พาท่านไปพัก แต่ถ้าแกลงมาช้าเกินสามสิบนาทีก็ตามนั้น เดี๋ยวล็อกบ้านให้ โอเคปะ” แอนนี่ขยิบตา“บ้า แกเนี่ย” มารีอามองค้อนเห็นแอนนี่เพื่อนเธอเหมือนคนเปรี้ยว ๆ และสันทัดเรื่องแบบนี้ เอาจริง ๆ แล้วแม้แต่จูบแอนนี่ก็ยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ ยิ่งเรื่องนั้นบอกเลยเธอเก่งแต่เรื่องทฤษฎีส่วนการปฏิบัติเป็นศูนย์ — . —ในที่สุดมารีอาก็พาลี่คุนเข้าไปพักที่ห้องนอนของเธอและไม่ต้องสืบ… คืนนี้เขาอาเจียนจนหมดแรง ไม่มีแรงเหลือมาจัดการมารีอาได้เลยมารีอายิ้มขำเมื่อเห็นสภาพชายคนรัก ก่อนจะเดินไปเตรียมหาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้กับเขา“เดี๋ยวมาร์เช็ดตัวให้นะคะ”“ครับ”“งั้นคืนนี้ก็นอนค้างที่นี่เนอะ เดี๋ยวมาร์เอาชุดนอนของคุณพ่อมาให้ใส่” ด้วยเพราะห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่เธอที่อยู่ห้องถัดไป มารีอายังทำความสะอาดและรักษาไว้อย่างดีราวกับพ่อแม่เธอยังคงมีชีวิตอยู่เธอจึงผลุบหายไปแป๊บเดียวแล้วกลับมาพร้อมชุดนอนในมือมารีอาประเมินแล้วว่าในสภาพที่เขาไม่มีเรี่ยวแรงแบบนี้ เขาคงไม่มีทางจัดการเธอได้แน่ จะว่าไปก็ดูแล้วลี่คุนก็ดูช่างน่าสงสาร เขาจ้องจะจัดการเธอหล
“อะไรคะ อื้อออ ละ ลี่คุน ปล่อยมือมาร์นะคะ”มารีอาแทบอยากจะสะบัดมือหนี แต่เขากลับเกาะกุมมือของเธอเอาไว้แน่นเหลือเกิน“ถ้าคุณช่วย บางทีผมอาจจะดีขึ้น” ลี่คุนส่งเสียงพร่าจนคนฟังใจเริ่มใจสั่น แถมลมหายใจของเขายังพ่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ“นะ นะครับ ผมทรมานจัง คุณช่วยผมแบบที่ผมเคยช่วยคุณคืนนั้นไม่ได้เหรอ ผมยกตัวไม่ไหว… แต่ผมอยากจัดการคุณมาก ๆ ทำไงดี” เสียงอ้อนวอนช่างไม่ต่างกับแววตาที่เร่าร้อนในตอนนี้ ดูท่าเขาจะทนไม่ไหวจริง ๆ~ขนาดป่วยก็ไม่เว้นเนอะคนเรา~“มะ มาร์ไม่เคย” >\\“ลองดูสิครับ นะครับคนดีของผม”เฮือกกกก มารีอาก้มลงไปมองส่วนที่มือของเธอถูกตรึงเอาไว้อยู่ถึงกับแทบช็อก แม้จะเคยมีอะไรกันมาหลายต่อครั้ง… แต่~งื้อ แต่มันไม่เคย มองเต็ม ๆ ตาแบบนี้~มารีอาเงยหน้าขึ้นไปสบตาที่อ้อนวอนของลี่คุน พอเห็นความทรมานบนใบหน้าของคนรักมีหรือจะกล้าปฏิเสธได้อีก เธอค่อย ๆ ก้มหน้าลงไป…“อืมมมมมม แบบนั้นแหละ”“ซี้ดดดด มาร์ครับ อืมม”“อา ซี้ดดด”คนที่ไร้เดียงสาไร้สิ้นประสบการณ์เรื่องแบบนี้ ได้แต่ค่อย ๆ ทำมันไปอย่างระมัดระวัง แต่ก็อาจจะเป็นเพราะตามสัญชาตญาณ เพราะไม่ช้าจากความเขินอาย มารีอาก็ค่อย ๆ ทำมันไปตามธรรมชาติจน
“งั้นผมหยุด”คนกำลังถึงฝั่งฝันแต่เขากลับแกล้งทรมานแถมคาไว้แบบนี้“ละ ลี่คุน แฮ่ก แฮ่ก” มารีอาหายใจหอบ“ครับ หยุดเนอะ ผมตามใจคุณ” เขาปล่อยมือก่อนลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนมาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เธอ “ละ ลี่คุน มาร์คือ…”~อะไรเนี่ย คนบ้า~ มารีอาลุกขึ้นนั่งหน้างอ ก็เธอกำลังจะอยู่แล้ว แต่… มันไม่ไหวแล้วจริง ๆมารีอาขยับตัวลุกขึ้นมานั่งคร่อมเขา จนลี่คุนอดยิ้มออกมาไม่ได้ ~นี่แหละที่เขาต้องการ~“อะไรครับเนี่ย” เขาแกล้งถามแต่สีหน้าอมยิ้ม ฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปจับที่เอวคอดของเธอโดยอัตโนมัติ“มาร์จะเอาคืนไง อย่างที่คุณทำกับมาร์” มารีอาตอบอาย ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวกดลงไปกับของเขา ร่างบางค่อย ๆ โยกสะโพกช้า ๆ แต่กลับสร้างความเสียวสะท้านให้ลี่คุนมากขึ้น“แน่ใจนะจะเอาคืน งั้นผมก็ไม่ยั้งแล้วนะ” ลี่คุนยกยิ้มออกมา ก่อนจะยกสะโพกเด้งรับร่างมารีอาที่กำลังอยู่บนตัวของเขา จากที่เธอทำแค่ช้า ๆ แต่ว่าเขากลับขยำก้นสวยของเธอให้เคลื่อนตัวเร็วขึ้น“อะ อ๊า ลี่คุนบะ เบาหน่อย อ๊า อ๊า”“อืม ซี้ด ที่รัก แรงอีก”“อะ อื้อ มะ ไม่ไหว มาร์ อ๊า”“อีกนิดครับ แรงอีก อา ซี้ด”“อึก อ๊ายยยยย”“ฮึกก” ร่างคนทั้งคู่กระตุกเกร็ง ก่อนมารีอาจะสัมผั
มารีอาลอบถอนหายใจเบา ๆ ส่วนหนึ่งก็เสียดายงานที่เธอรัก ส่วนหนึ่งก็รำคาญผู้จัดการที่ไม่เลิกบ่นเธอเสียที“แล้วงานนี้เอาไปทำด้วย ฉันต้องการงานนี้ก่อนเที่ยง ทำให้เสร็จด้วยล่ะ”ผู้จัดการส่งแฟ้มงานยื่นมาให้ จนมารีอาที่รับมาดูถึงกับอึ้ง เพราะงานนี้ใช้เวลาเป็นวัน ๆ กว่าจะเสร็จ จะให้เธอทำให้ทันภายในครึ่งวันไม่มีทาง“ไม่น่าทันค่ะ” มารีอาตอบตามตรง เพราะตั้งแต่เรียกเธอมาบ่นก็ปาไปเป็นชั่วโมง จะทำอย่างไรให้เสร็จภายในสองถึงสี่ชั่วโมงก่อนเที่ยง ไม่มีทาง“มารีอา !! นี่เธอเถียงฉันเหรอ” ผู้จัดการทุบโต๊ะดังสนั่นจนแก้วกาแฟแทบจะกระฉอกออกมา“มาร์ไม่ได้เถียงคุณจินนะคะ มาร์คุยด้วยเหตุผล งานนี้เป็นตัวเลขนะคะ ให้ทำรีบ ๆ ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”ผู้จัดการกำลังจะอ้าปากด่าต่อ พลันก็ได้ยินเสียงโวยวายออกมาจากฝั่งห้องประชุม“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” ผู้จัดการเดินจากห้องที่กั้นไว้ด้วยพาติชั่นออกไปถามพนักงานคนอื่น ๆ“เห็นเขาว่าอยู่ดี ๆ ท่านประธานหน้ามืดค่ะ”“ใช่ค่ะ คล้ายจะอาเจียนด้วย เห็นว่าพนักงานฝ่ายการตลาดคนหนึ่งใส่น้ำหอมกลิ่นฉุน แล้วท่านก็อาการแบบนี้เลย”“ใช่ ๆ ท่านดูแข็งแรงออก นี่เห็นว่ากำลังให้คนรีบไปตามพยาบาลวิชาชีพประจำบริษัทม
“ฮือออออ ฮืออออ” มารีอาร้องไห้หนักขึ้นราวกับตัวเองเป็นเด็ก ๆ เธอค่อนข้างอ่อนไหวง่ายมากตั้งแต่ที่ฮอร์โมนการตั้งครรภ์เริ่มเปลี่ยนลี่คุนช้อนร่างบางของภรรยาตัวเล็กขึ้นมาอุ้มอย่างไม่แคร์สายตาของพนักงาน และ… ในนาทีนี้ มารีอาก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอซุกใบหน้าของเธอลงไปที่อ้อมอกเขาทันที“อะไรอะ ท่านทำอะไรน่ะ”“ท่านประธานไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ”“ใช่ ๆ อะไรอะ"เสียงอื้ออึงจากพนักงานคนอื่น ๆ พากันมองด้วยความตกใจ“เอ่อ ท่านครับ คือท่านไม่สบายอยู่นะครับ ท่านจะไปอุ้มเธอทำไม” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่เข้าประชุมร่วมด้วยเดินเข้ามาหาลี่คุนด้วยความเป็นห่วงแต่… ลี่คุนไม่ได้ตอบคำถาม เขาปรายตาไปมองแวบหนึ่งด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนอุ้มมารีอาเดินตรงเข้าไปห้องทำงานของเขาทันที“เดี๋ยว ทำไมท่านอุ้มยัยนั่น”“นั่นสิ หรือยัยนั่นอ่อยท่าน”“ร้ายนะ หน้าตาดูจืด ๆ เชย ๆ แกล้งล้มต่อหน้าเพราะอยากให้ประธานอุ้ม”เสียงนินทาจากคนแผนกอื่นที่ไม่สนิทกับมารีอาพากันนินทาตามหลัง จนเพื่อนในแผนกของมารีอาได้ยินเข้าไม่พอใจ“พวกหล่อนก็ลองแกล้งล้มดูสิ จะได้ดูว่าท่านจะอุ้มหรือท่านจะเดินผ่านไปเฉย ๆ” เพื่อนคนหนึ่งของมารีอาทนไม่ไหวพูดกระแทกกลับ“
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย