ด้านเหม่ยหลิน ที่พยายามโทร.หาลี่คุนทั้งคืน กว่าลี่คุนจะยอมโทร.กลับมาหาเธอก็ตอนเช้า“พี่คุนไปไหนมา ทำไมเมื่อคืนพี่คุนไม่กลับคอนโดฯ คะ เหม่ยหลินโทร.ไปหาพี่ก็ไม่รับสาย ทำไมปล่อยเหม่ยหลินอยู่คอนโดฯ คนเดียว” เหม่ยหลินทำน้ำเสียงราวกับจะร้องไห้ทันทีที่ได้ยินเสียงของเขา“พี่มีธุระ เอาไว้เย็นนี้ค่อยคุยกัน” ลี่คุนตอบเสียงเรียบ เขายังนึกโกรธที่เหม่ยหลินสร้างเรื่องโกหกให้มารีอาฟังจนทำให้เธอเกือบเข้าใจผิดเขา และแน่นอนเขาจะต้องชำระความกับเธอ !“แล้วพี่คุนอยู่ไหน อยู่ที่บริษัทเหรอคะตอนนี้ งั้นเหม่ยหลินไปหาที่บริษัทเลยนะ”“วันนี้พี่ไม่เข้าบริษัท”“แล้วพี่คุนไปไหนอะคะ”“พี่บอกเราแล้วไงว่าวันนี้พี่มีธุระ”“งั้นเสร็จกี่โมงคะ ถ้างั้นเหม่ยหลินไปรอพี่ที่บริษัทนะคะ”“เหม่ย - หลิน” ลี่คุนรู้สึกเริ่มรำคาญ“พี่ก็บอกเหม่ยหลินสิ ว่าพี่อยู่ไหนทำอะไรกับใคร”“เหม่ยหลิน พี่ไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องส่วนตัวกับเราทุกเรื่องนะ !”“คือ มะไม่ใช่…”“ยังไงเย็นนี้รอพี่ที่คอนโดฯ พี่ก็มีเรื่องต้องคุยกับเราอยู่เหมือนกัน เอาไว้ตอนเย็นค่อยคุยกัน”“แต่... คือพี่คุนคะ”“ถ้าเราจะไปเรียนงานที่บริษัท ก็บอกคนขับรถของพี่ให้พาเราไปส่ง ส่วนตอน
ในตอนเย็น ลี่คุนพามารีอากลับมาที่คอนโดมิเนียมของเขาตามที่เขารับปากว่าจะแนะนำเหม่ยหลินให้รู้จัก เพราะอย่างน้อยต่อไปเหม่ยหลินควรต้องให้ความเกรงใจและเคารพว่าที่พี่สะใภ้อย่างเธอใจจริงมารีอาไม่อยากจะมาสักเท่าไร เพราะ~ถ้าเธอต้องเจอยัยหน้าหวานนั่น ซึ่งหล่อนต้องจำเธอได้แน่ แล้วถ้าเหม่ยหลินบอกความจริงลี่คุนล่ะ เขาจะโกรธไหมที่เธอปลอมตัวแบบนี้ เขาจะโกรธไหมที่เธอโกหก และที่สำคัญเขาจะคบกับเธอต่อไหม ในเมื่อความจริงแล้วเธอเป็นแค่พนักงานในบริษัทของเขา~ความกังวลไม่อาจซ่อนได้ในแววตาจนลี่คุนรู้สึก แต่ทว่าเขากลับคิดไปเองว่าเธออาจจะคิดมากเรื่องที่เหม่ยหลินโกหกเรื่องความสัมพันธ์กับเขาก็ได้“อยู่กับผมไม่ต้องกลัวนะครับมายด์ ไม่มีใครทำอะไรคุณได้ เพราะคุณคือคนของผม” เขาดึงร่างบางมาหอมที่หน้าผากเพื่อให้เธอคลายกังวลแต่… ลี่คุนจะรู้ไหมว่า ที่จริงแล้ว สิ่งที่มารีอากังวลคือตอนนี้เธอรักเขาและไม่อยากเสียเขาไปต่างหาก ถ้าเขารู้ความจริง เขาจะรับได้และให้อภัยเธอไหม หรือ… เขาจะรับไม่ได้แล้วยุติความสัมพันธ์กับเธอแค่คิดม่านน้ำตาก็เอ่อ… แปลกที่ทำไมพักนี้อารมณ์ของเธออ่อนไหวง่ายนักก็ไม่รู้…หลังเลิกงาน เหม่ยหลินรีบกลับมาท
“เอาละ งั้นถ้าไม่ติดใจอะไรกันก็ดีแล้ว พี่จะได้สบายใจ ตอนแรกพี่กะจะมาดุเราเต็มที่ ดีที่มายด์แฟนพี่ไม่ถือสา” ลี่คุนยกมือไปยีหัวเหม่ยหลิน “แล้วทีหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีก พี่ไม่ชอบ” เขาเพียงแค่ตำหนิเล็ก ๆ ก่อนจะพามารีอาเดินผ่านไป ทิ้งให้เหม่ยหลินยืนตัวชาอยู่ที่เดิม~พี่ลี่คุนคงไม่รู้สินะ ว่ายัยป้าแว่นนั่น คือพี่มายด์แฟนพี่ !!~ เหม่ยหลินนึกในใจพลางหันไปมองตามคนทั้งคู่ที่พากันเดินไปนั่งตรงโซฟา ด้วยสายตาที่เธอบอกไม่มีวันยอมแพ้ !“กินอะไรกันหรือยังคะ เหม่ยหลินทำอาหารที่เป็นของโปรดพี่คุนไว้หลายอย่าง แต่ไม่รู้ทำน้อยไปหรือเปล่า ไม่คิดว่าจะมีแขกพิเศษกะทันหัน เดี๋ยวเหม่ยหลินทำเพิ่มอีกสักอย่างสองอย่างดีกว่า”เหม่ยหลินเดินตามมาก่อนจะยิ้มหวานให้ ก่อนจะเชิญทั้งคู่ไปที่โต๊ะอาหาร แม้จะพยายามเอาใจพี่ชายที่รักสุดฤทธิ์ แต่ทว่ากลับเห็นเขาเอาใจแฟนตัวเองมากกว่าจวบจนทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ มารีอาเข้าไปช่วยเหม่ยหลินล้างจานอยู่ในครัวสองคนสงครามประสาทก็เริ่มขึ้นทันที เมื่อปลอดลี่คุน“คุณเหม่ยหลินทำอาหารเก่งนะคะ อร่อยทุกอย่างเลย” มารีอาเริ่มหาหัวข้อมาสนทนาเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าอึดอัดจนเกินไป“แต่คุณมายด์เก่งกว่าค่ะ”
ในระหว่างทางกลับบ้าน ลี่คุนขับรถมาส่งมารีอาที่คอนโดมิเนียมของแอนนี่ตามที่เธอโกหกเขาไว้ แม้ลี่คุนจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนรักของเขานอนค้างคืนด้วยกันที่นี่ แต่มารีอาก็ยืนกรานท่าเดียวว่าไม่ยอมค้างกับเขาเพราะถ้าขืนตกลงเธอก็คงไม่ได้พักอีกตามเคย แล้วอีกอย่างเธอเองก็รู้สึกเพลีย ๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นอะไร ทำไมเธอถึงรู้สึกเหนื่อยง่ายและง่วงนอนบ่อย ๆ แถมอารมณ์ก็ดูแปรปรวนผิดปกติมารีอาเอาแต่นิ่งเงียบตลอดทางไม่ยอมพูดอะไร จนลี่คุนสังเกตเห็น เขายื่นมือมากุมมือมารีอาเอาไว้ ได้แต่เหลือบหันไปมองเธอเป็นระยะเพราะว่าเขาขับรถอยู่“เป็นอะไรครับ หืม ดูเงียบ ๆ ไปเลย เหม่ยหลินทำอะไรให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่า”“…”“บอกผมได้ไหม เราสองคนไม่ใช่คนอื่นกันแล้วนะครับ มีอะไรไม่สบายใจคุณต้องบอกผม”“…”“งั้นถ้าคุณยังเงียบแบบนี้ ผมจะไม่พาคุณไปส่งที่บ้านแล้ว ผมเป็นห่วงคุณ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดมากเรื่องอะไร เพราะผมไม่อยากปล่อยคุณไว้แบบนี้คนเดียว”“มะ ไม่เอานะคะ ฉันจะกลับบ้าน” มารีอายอมหันไปพูดกับเขา เพราะถ้าขืนยอมค้างกับเขา แน่นอนคนอย่างลี่คุนคงไม่ได้ปล่อยให้เธอพักแน่ ๆ แถมเมื่อวานก็หยุดงานไปแล้วหนึ่งวัน ไ
ที่บริษัท มารีอามาทำงานในสภาพเหนื่อยอ่อน เพราะหลังจากที่กลับมาจากคอนโดมิเนียมของแอนนี่ เธอก็คิดมากจนนอนไม่หลับเลยทั้งคืนแถมเช้านี้ยังต้องมาเจอลี่คุนที่กำลังเดินมากับคณะผู้ช่วยของเขาผ่านตรงที่เธอกำลังเดินมาอีกมารีอารีบหยุดยืน ได้แต่โค้งคำนับเขาอย่างที่เคยทำทุกครั้ง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมอง~แต่… เขาจำเธอไม่ได้จริง ๆ หรือ~เสียงฝีเท้าเขาที่ก้าวตรงมาตามทางเดิน ทำเอามารีอาลุ้นด้วยหัวใจเต้นระทึก เขาจะจำเธอได้บ้างไหมนะ จวบจนกระทั่งเสียงฝีเท้าเดินผ่านไปราวกับไม่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้นมารีอาได้แต่เงยหน้ามองแผ่นหลังเขาที่เดินจากไปด้วยสายตาปวดร้าว~เห็นไหม เขาจำเธอไม่ได้จริง ๆ ด้วย ไหนบอกว่ารักเธอไง ที่แท้เขาก็เป็นคนที่มองคนแค่เปลือกนอก~~มารีอาเธอควรบอกความจริงกับเขาแล้วตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงถลำลึกไปมากกว่านี้ แบบที่จะถอนตัวถอนใจจากเขาไม่ได้~ม่านน้ำตาเอ่อขึ้นมาเงียบ ๆ ความน้อยใจแผ่ซ่านเข้ามาจนทำให้เธอรู้สึกจุกในอก ก่อนค่อย ๆ ยกมือเช็ดน้ำตาและเดินกลับไปที่ทำงานทันทีที่มาถึงโต๊ะทำงาน กะว่าวันนี้คงต้องโดนผู้จัดการจินด่าเธอแน่ ๆ เพราะอยู่ ๆ เมื่อวานเธอก็ทิ้งงานโดยไม่ได้
“เร็วหน่อยมารีอา สายแล้ว เมื่อกี้ฉันก็มัวติดสายลูกค้าจนลืมดูเวลา เธอก็นะ ไม่เตือนฉันบ้างเลย”~อ้าว กลายเป็นความผิดของเธอไปอีก ตัวเองติดสายเพลินไม่ดูเวลาแต่กลับมาโทษเธอเสียอย่างนั้น~ มารีอาได้แต่นึกบ่นอยู่ในใจ แต่ที่ทำได้คือ“ขอโทษค่ะ มาร์ก็ไม่ทันดูเวลาเหมือนกัน”ทั้งสองพากันรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องประชุม และแน่นอนเวลาเข้าประชุมสายแบบนี้ ทันทีที่เลื่อนประตูเปิดเข้าไป สายตาคนทั้งห้องหันมาจ้องมองเธอกับผู้จัดการทั้งคู่เป็นตาเดียวกันยิ่งลี่คุนไม่ต้องพูดถึง เขานั่งทำสีหน้าเคร่งขรึมอยู่หัวโต๊ะ มืออีกข้างของเขาจับอยู่ที่คาง ส่วนอีกข้างกำลังเอานิ้วเคาะโต๊ะอย่างเบา ๆเขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ… พลันสายตาทั้งคู่ก็สบตากันโดยบังเอิญแต่ทว่า สายตาของลี่คุนที่มองเธอ กลับมองด้วยแววตาว่างเปล่าราวกับคนไม่รู้จักกัน มารีอาสบตาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะรีบก้มหน้าลงไม่กล้าแม้สบตาเขาต่อ เธอเม้มปากบางแน่น ความน้อยใจก่อตัวขึ้นมาภายในใจอีกรอบ~ทำอย่างไรดี จะร้องไห้อีกแล้ว เขาจำเธอไม่ได้จริง ๆ ด้วย~“พวกคุณสองคนมาช้าไปห้านาที” เขาเอ่ยเสียงเรียบปนดุ“ขอโทษค่ะท่าน พอดีฉันติดลูกค้า ให้ผู้ช่วยคอยเตือนแต่เ
เฮือกกกกกกกกกมารีอาสะดุ้ง ในขณะที่กำลังยกโทรศัพท์ออกมาเพื่อปิดเครื่อง“คุณรู้ใช่ไหม การรับโทรศัพท์ขึ้นมาในระหว่างการประชุมเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ” เขาหมุนเก้าอี้หันมามองทางเธอด้วยสายตาตำหนิ“คือ ขอโทษค่ะ ฉันแค่จะหยิบมันมาปิดเครื่องไม่ได้จะรับสาย” มารีอาตอบเสียงอ่อย“เมื่อครู่คุณก็ไม่ได้ปิดเสียง จนดังรบกวนเพื่อนร่วมงาน แล้วตอนนี้คุณก็หยิบมันขึ้นมาดูในเวลาประชุม”“ขะ ขอโทษค่ะ”“จบการประชุมแล้ว ตามไปพบที่ห้องด้วย !”ทุกสายตามองที่มารีอาเป็นตาเดียว เพราะไม่เคยเห็นท่านประธานเรียกใครไปตักเตือนขนาดนี้ งานนี้ดูท่ามารีอาคงไม่พ้นโดยท่านประธานตำหนิหนักแน่ ๆ เหม่ยหลินได้แต่ยิ้มสะใจที่มารีอาโดนดุ ในขณะที่คนอื่น ๆ กลับรู้สึกเห็นใจที่งานเข้ามารีอาตั้งแต่เช้ามารีอาได้แต่ก้มหน้านิ่ง แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว~ก็เพราะเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องเรียกเธอไปดุด้วย~ที่ห้องประธานบริษัทมารีอาที่ตามลี่คุนเข้ามา หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ในตอนนี้เธอได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา~หรือเธอควรบอกความจริงกับเขาตอนนี้ดี ไม่สิ นี่มันเวลางาน เรื่องส่วนตัวควรเอาไว้ทีหลัง ยังไงเสียเขาก็จำเธอไม่ได้อยู่ดี~“ว่าไ
“ไม่เอานะคนดี ไม่ร้องนะครับ ผมไม่แกล้งคุณแล้วผมขอโทษ” เขากอดพลางเอามือลูบผมคนตัวเล็กที่เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด“ฮึก ฮึก ละ แล้ว คุณไม่โกรธฉันเหรอคะ” มารีอาเงยหน้าขึ้นไปมองเขา หลังจากร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนตัวเองเริ่มสงบแต่ยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่“โกรธเรื่อง ?”“ก็ ก็เรื่องที่ฉันปลอมตัวมาหลอกคุณ”“หึหึหึ เด็กโง่ หลอกยังไง หืมม หลอกแล้วให้ตัวเองมาเสียเปรียบผมเนี่ยนะ ผมสิมีแต่ได้กับได้ ได้ทั้งตัวได้ทั้งใจ แบบนี้ไม่เรียกว่าคุณหลอกผมนะ… แบบนี้เขาเรียกว่า… มีใจ คุณ… มีใจให้กับผม”“ใช่ซะที่ไหน… ฮึก ฮึก เกลียดที่สุด”“เกลียดเหรอ แต่ผมว่าแบบนี้คุณรักผมมากกว่านะ”“ไม่ใช่สักหน่อย ตะ แต่… คุณไม่โกรธจริง ๆ เหรอคะ” มารีอาจ้องมองเขาดวงตากลมโตคู่ใสที่ยังมีน้ำตาเปื้อนอยู่เต็มใบหน้าแต่สำหรับสายตาลี่คุนแล้ว ต่อให้มอมแมมแบบไหนก็ ~น่ารัก~“ก็โกรธ…”“เห็นมะ โกรธจริง ๆ ด้วย” มารีอาเหมือนน้ำตาจะเอ่อมาอีกรอบ“ผมโกรธ… โกรธตัวเองที่ไม่รู้ว่าภรรยาตัวเองอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ โกรธตัวเองที่รู้ช้าไปหน่อยเพราะไม่ทันได้สังเกตว่าเป็นคุณ แล้วก็เอ่อ… อาจจะโกรธคุณนิดหน่อยที่ไม่ยอมบอกผมตั้งแต่แรก ปล่อยให้ผมคิดถึงเวลาที่คุ
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย