“มาร์ คุณจะไปไหน”ในขณะที่เธอตัดสินใจเดินตามหลังลี่คุนไป พลันก็มีฝ่ามือหนึ่งมาฉุดแขนเธอเอาไว้“พี่อนิรุต !!”“มาร์จะไปไหน มาร์ยังไม่ได้บอกลาพ่อกับแม่พี่เลย จะไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรือครับที่จะหนีกลับแบบนี้ มาร์ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ”เพราะอนิรุตไม่คิดว่ามารีอากำลังเดินตามลี่คุนอยู่จึงเข้าใจว่าเธอกำลังแอบหนีเขากลับคนเดียว จนลี่คุนหยุดชะงักและหันหลังกลับมามอง เมื่อเห็นอนิรุตกำลังจับมือถือแขนของเธออยู่“ปล่อยมาร์นะ พี่รุต”“ทำอะไรกันน่ะ !”“อ้าว ประธานลี่ คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ” ทันทีที่อนิรุตเห็นลี่คุน เขาก็จำได้ทันทีว่านี่คือ ประธานลี่แห่งบริษัท HK ประเทศไทย ที่เป็นสาขาย่อยจากเมืองจีนเพียงแต่เมื่อครู่เห็นแผ่นหลังของเขาจึงไม่ทันคิดว่าใช่“ผมถามว่าคุณทำอะไร !” เขาไม่ตอบคำถามของอนิรุต แต่ส่งสายตาไม่พอใจมองไปที่มือของเขาที่จับแขนของมารีอาอยู่ จนอนิรุตต้องรีบปล่อยแขนเธอ“คือผมกับคู่หมั้นเรามีเรื่องเข้าใจกันผิดนิดหน่อย”“มะ ไม่ใช่ ไม่ใช่นะ คือฉัน…” มารีอารีบพูดแทรกไม่รู้ทำไมถึงต้องแก้ตัว ทั้ง ๆ ที่เธอกับลี่คุนก็ไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย ก็แค่…“หึ… เข้าใจผิด ?”“…”“อ๋อ คุณสองคนก็แค่งอนกัน… งั้นเหร
ลี่คุนกำลังจะนึกออก พลันไฟในลิฟต์ก็เกิดสว่างจ้า และกลับมาทำงานตามปกติ มารีอาอยากจะดันร่างที่กอดรัดเอาไว้แน่นของเขาออก แต่ทว่าลี่คุนกลับเลื่อนฝ่ามือใหญ่ไปรั้งศีรษะของเธอไว้ ก่อนประทับจูบลงไปอย่างโหยหา ตอนนี้เขาแทบไม่อยากรอให้ถึงห้องนอนเลยด้วยซ้ำ“อื้อออออ” แข้งขาของมารีอาแทบจะอ่อนแรงเมื่อเจอจูบที่เร่าร้อนจากลี่คุน ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในเรียวปากราวกับจะตักตวงความหวานไปจากเธอ เมื่อถึงชั้นที่ต้องการ ลี่คุนช้อนร่างบางของเธอขึ้นมาอุ้ม เขาตรงไปที่ห้องของเขา ปลดรหัสล็อกด้วยม่านตา ก่อนจะอุ้มเธอเข้ามาภายในห้อง…ทันทีที่เขาวางร่างเล็กของเธอลง ลี่คุนแทบไม่ให้โอกาสเธอตั้งตัว เขาดันร่างของเธอไปจนแผ่นหลังติดกับผนังห้อง กดฝ่ามือเรียวเล็กที่กำลังต่อต้านดันไว้ที่อกเขา ตรึงไว้ติดกับผนัง บดจูบราวกลับจะลงโทษที่เธอหายไป ปล่อยให้เขาทรมานเป็นอาทิตย์“อื้อออ” เขาช่างไม่ปล่อยช่องว่างให้มารีอาได้มีสติเลย ลี่คุนผละจากปากอิ่มสวย ไล้มาที่ซอกคอ มารีอาสัมผัสถึงลมหายใจร้อนของเขาพ่นลงอยู่ตรงซอกคอขาวของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆลี่คุนปล่อยฝ่ามือเขาจากข้อมือเธอ เลื่อนมาเกาะกุมที่อกสวยของเธอ เขาเคล้นคลึงมันอย่างถนัดมือ แต
มารีอารู้สึกตัวในยามเช้า เมื่อสัมผัสถึงอ้อมแขนแกร่งที่พาดอยู่ที่เอวของเธอ ดวงตากลมโตกะพริบถี่~อีกแล้วเหรอ มารีอา นี่เธอแค่ตามมาทวงแหวนจากเขา ไม่ใช่ให้เขามาทำแบบนี้เสียหน่อย~แค่เพียงคนตัวเล็กขยับตัวจะลุกขึ้น ลี่คุนกลับดึงร่างเธอเข้ามากระชับกอดทั้งที่เขายังไม่ลืมตา“นอนต่อเถอะครับ วันนี้วันหยุด ผมยังเพลียอยู่เลย”~เฮอะ ไม่เพลียก็บ้าแล้ว เมื่อคืนเล่นทำกับเธออย่างกับคนตายอดตายอยาก พักแป๊บทำต่อ พักแป๊บทำต่อ ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ไม่คิดถึงคนตัวเล็ก ๆ อย่างเธอเลยสักนิดว่าจะไหวไหม~ มารีอาได้แต่นึกค้อนเขาอยู่ในใจแต่ไม่ได้พูดมันออกมา“ฉะ ฉันจะไปอาบน้ำ จะกลับบ้านแล้ว” มารีอาได้แต่ตอบอู้อี้ในอ้อมอก เพราะเขาดึงตัวเธอมากอดจนแนบแน่น ใบหน้าสวยที่แนบชิดกับแผงอกมันกำยำแบบนี้~บางทีมันก็… อบอุ่นดีนะ~มารีอาจำต้องซบใบหน้าอยู่อย่างนั้น รู้สึกกลิ่นกายของเขามันทำให้เธอหวั่นไหวอย่างไรไม่รู้ เธออดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เขาก็ช่างไม่ปล่อยให้เธอตั้งตัวได้เลย มาถึงก็… ตั้งแต่หน้าประตู~ตายจริง เสื้อผ้ากองอยู่ข้างนอกหมดจะเดินออกไปเอามาเปลี่ยนอย่างไร~“คิดอะไรอยู่ครับ ผมถามทำไมไม่ตอบ” ลี่คุนตื่นมาได้เมื่อ
~โอ๊ยยยย อะไรของหมอนี่เนี่ย พูดอย่างกับจะจริงจังกับเธอ อ๋อ… ใช่ ! …ก็เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นพนักงานในบริษัทของเขานี่นา เขาก็พูดอยู่ไม่ชอบคบคนในบริษัทเพราะจะทำให้เขาเสียการปกครอง แล้วเขาน่ะหรือจะมาจริงจังกับเธอ~มารีอาคิดเองเออเองเสร็จสรรพ ด้วยความที่เธอเองเป็นคนที่ค่อนข้างคิดเยอะ ที่ผ่านมาเธอก็ไม่ใช่คนมั่นใจในตัวเองเสียเท่าไร แถมยังเพิ่งผิดหวังมาจากคู่หมั้นอย่างอนิรุต ที่ผ่านมาเขาเคยทำท่าราวกับรักเธอนักรักเธอหนา แต่ที่แท้เขากลับไม่ได้จริงใจกับเธอเลยสักนิด“ปะ สายมากแล้ว เราสองคนไปอาบน้ำกันเถอะ ผมจะพาคุณออกไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้วเดี๋ยวพาคุณไปเที่ยวทะเลกัน” เขาหอมลงที่หน้าผากมารีอาอีกครั้ง ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วช้อนตัวมารีอาอุ้มขึ้น“อ๊ะ เดี๋ยว ๆ ฉะ ฉันไม่ชอบอาบน้ำร่วมกับใคร อ๊ะ ว้ายยยยยย อย่านะ ไม่เอา”~บ้าจริงสภาพเปลือยเปล่าแบบนี้ ทำไมเขาชอบทำอะไรหน้าไม่อายแบบนี้อยู่เรื่อย~มารีอายกมือตีที่แผงอกของลี่คุนเบา ๆ เมื่อรู้ว่าต่อให้เธอดิ้นรนไปก็ไม่สำเร็จอยู่ดี รังแต่จะให้หน้าอกนุ่มของตัวเองไปเสียดสีอยู่กับแผงอกของเขาเกิดมาในชีวิตก็เพิ่งจะเคยแก้ผ้าอาบน้ำกับใครแบบนี้ครั้งแรก มันช่างไม่เหมือนกับเว
@หัวหิน“โห สวยจังเลยค่ะ มาร์ไม่ได้มาเที่ยวทะเลนานมาก” มารีอาอ้าแขนกว้างรับลม ปล่อยผมสวยสยายลู่ไปตามลม ก่อนจะเปลี่ยนเอามือมารวบไว้หลวม ๆ ด้านข้าง แล้วหันกลับมายิ้มให้กับลี่คุน“ดีใจที่คุณชอบ เอาไว้เรามาด้วยกันบ่อย ๆ อีกนะ” เขายิ้ม พลางเดินเข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลัง ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหอมที่แก้มนิ่มของเธอ จนมารีอาสะดุ้งรีบเบี่ยงตัวหลบด้วยความเขิน“เอ๊ะ เมื่อกี้คุณแทนตัวว่าอะไรนะ มาเหรอ หรือว่ามายด์ หรือว่าผมฟังผิด”“หา คุณน่าจะฟังผิดค่ะ” มารีอายิ้มกลบเกลื่อนเมื่อรู้ว่าเธอเผลอลืมตัวพูดอะไรออกไป เธอรีบเบี่ยงความสนใจทันที “อุ๊ย ดูนี่สิคะ มีเปลือกหอยสีชมพูด้วย” มารีอาพูดพลางทรุดตัวลงไปนั่งแล้วหยิบเปลือกหอยเล็ก ๆ สีชมพูขึ้นมาวางบนฝ่ามือ“มีคนเคยบอกว่าถ้าเจอเปลือกหอยสีชมพูจะสมหวังในความรัก”“หืม… คุณเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”“ก็นิดหน่อยค่ะ” มารีอายิ้มพลางย่นจมูกก่อนจะลุกขึ้นยืน ลี่คุนได้แต่มองเธอด้วยสายตารักใคร่ เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไรสำหรับเขา คือเธอ ~โคตรน่ารัก~“ผมก็เชื่อ… เชื่อว่ารักแรกพบมีจริง เหมือนที่ผมเจอคุณ ผมก็เชื่อทันที” ลี่คุนส่งสายตาหวานพลางจ้องมองมารีอา จนเธอรู้สึกประหม่า แม
“คุณว่าอะไรนะ”“ปะ เปล่าค่ะ แค่บอกว่าใครจะกล้านินทาคุณ”“ก็คงจะมีแต่ผู้หญิงคนนั้นละมั้งครับที่กล้า แต่วันนั้นผมก็ผิดจริง ๆ เป็นเพราะผมมัวแต่คิดถึงคุณ เลยไม่ได้ฟังรายงานที่เธอพูด”“หาาาาา เพราะวันนั้นคุณมัวคิดถึงแต่ฉันเนี่ยนะ”“ใช่ เพราะคุณ… ทำให้ผมทำงานไม่ได้” เขายิ้ม ก่อนจะยกมือขึ้นมาบีบจมูกมารีอาที่ยังทำหน้าเหวอ“อืม นั่นสิ ผมว่า เสียงผู้หญิงคนนั้น ฟังดูคล้าย ๆ กับเสียงคุณ ใช่… ผมว่าคล้ายกันมาก พอได้ยินเธอพรีเซนต์งาน ผมเลยคิดถึงคุณ” ลี่คุนเริ่มนึกออก แต่เพราะที่ผ่านมา เขาไม่ได้สนใจและไม่ได้ใส่ใจมารีอาในตอนที่เธออยู่ในสภาพเชย ๆ แบบนั้น แถมพนักงานในบริษัทมีเป็นร้อยคน ไม่แปลกที่เขาจะจำทั้งหมดไม่ได้จะว่าไป เขาเคยเจอผู้หญิงคนนั้นตอนที่ใกล้ชิดที่สุด ก็คือเห็นเธอยืนทะเลาะกับผู้ชายอยู่ที่ลานจอดรถ ซึ่งลี่คุนเห็นแต่เพียงด้านหลังของผู้ชายแต่ไม่ทันได้เห็นหน้า เพราะไม่ได้คิดจะสนใจเลยมองแบบผ่าน ๆ แต่ทำไมตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในลิฟต์แล้วติดในลิฟต์ด้วยกัน~เธอกลัวความมืดเหมือนกันเลย~หรือว่า~ส่วนใหญ่ผู้หญิงทุกคนจะกลัวแบบนี้~...“อาาา คือเสียงของฉันน่าจะโหลนะคะ เอ่อ คือ งั้นเราเดินเล่นไปตรงม้าน
หลังจากกลับมาจากทะเล เธอกับเขาแทบจะ Call คุยกันทุกคืน เพราะมารีอาไปซื้อมือถือเครื่องใหม่มาสำรองเอาไว้คุยกับเขาโดยเฉพาะนึกถึงที่เขาให้เธอมาหาเขาที่บริษัท นี่เธอก็ยังไม่รู้จะหาโอกาสมาเอาแหวนคืนจากเขาอย่างไรดี เขาอาจจะไม่รู้ว่าเธอคือพนักงานในบริษัทของเขา แต่เพื่อน ๆ พนักงานคนอื่นที่สนิท ๆ กัน เจอหน้ากันบ่อย ๆ ต่อให้แต่งหน้าแต่งตัวอย่างไร เพื่อนก็จำเธอได้แน่นอนจะมีก็แต่เขา ที่ไม่เคยสนใจมองเห็นเธอในสภาพแบบนี้ จนไม่รู้เลยว่าคนที่เขาบอกรักทุกวัน ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเขาเลยสักนิด~เฮ้ออออ แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย~มารีอาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ทั้ง ๆ ที่เธอตั้งใจจะตัดใจจากเขา แต่สุดท้ายเพราะความอ่อนโยนที่ได้รับ กลับทำให้เธอห้ามใจไม่ได้~ไม่ได้นะมารีอา เธอต้องตัดใจให้ได้ เขาจะจริงจังกับเธอแค่ไหนก็ไม่รู้ เอาไว้ถ้าได้แหวนคืนเมื่อไหร่ ต้องรีบตัดใจจากเขาทันที เข้าใจไหม~มารีอาบอกกับตัวเอง เธอเม้มปากแน่น ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เรียกความตั้งใจของตัวเองคืนมาแต่… ก็ยอมรับว่าในตอนนี้ความรู้สึกของเธอเริ่มไปไกลกว่าที่คิดเสียงรองเท้าส้นสูง ดังมาตามทางเดิน ก่อนที่จะตรงไปทางฝั่งของห้องประธาน ทำเอาพนักง
@ที่ร้านอาหาร เหม่ยหลิน เป็นลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งเดินทางมาจากเมืองจีน ลี่คุนจำต้องดูแลเธอที่เป็นเสมือนน้องสาว แถมคุณอาลี่หนานก็โทร.มาฝากฝังให้ช่วยดูน้องเอาไว้ด้วยเพราะสนิทกันตั้งแต่เด็ก เหม่ยหลินจึงขอพักที่คอนโดมิเนียมของลี่คุน ที่มีห้องนอนรับแขกว่างอยู่ เธอตั้งใจจะมาอยู่กับเขาสักหนึ่งเดือน ซึ่งตอนนี้เธอกำลังทำปริญญาโทเกี่ยวกับทางด้านบัญชีจึงอยากมาศึกษาดูงานด้านบัญชีและการบริหารเอาไว้ด้วย“ตกลงพี่ให้เหม่ยหลินเข้ามาดูงานวันไหนดีคะ พรุ่งนี้เลยเนอะ สัญญาค่ะว่าเหม่ยหลินจะไม่รบกวนการทำงานของพี่เลย”“ไหนเราบอกแค่มาเที่ยวอาทิตย์เดียว ทำไมถึงเปลี่ยนใจอยู่เป็นเดือน”“แหม พี่ก็น่าจะรู้ว่าเหม่ยหลินอยากอยู่ใกล้ ๆ พี่”“เฮ้อ นี่เราไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ เราโตพอที่จะหาแฟนได้แล้ว เราจะมาตามติดพี่แบบนี้ไม่ได้หรอก”“ทำไมคะ พี่อึดอัดที่เหม่ยหลินมานี่เหรอ” เธอทำหน้าเศร้าจนเหมือนจะร้องไห้ออกมา ลี่คุนได้แต่ส่ายหน้าลำบากใจ แต่เพราะรับปากคุณอาเอาไว้ เขาจำต้องดูแลเธอที่เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณอาเป็นอย่างดี“เปล่า พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น เรากินข้าวเถอะ อาหารมาพอดี นี่ไงของโปรดที่เราชอบ” ลี่คุนยิ้มก่อนตักอา
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย