หลังจากกลับมาจากทะเล เธอกับเขาแทบจะ Call คุยกันทุกคืน เพราะมารีอาไปซื้อมือถือเครื่องใหม่มาสำรองเอาไว้คุยกับเขาโดยเฉพาะนึกถึงที่เขาให้เธอมาหาเขาที่บริษัท นี่เธอก็ยังไม่รู้จะหาโอกาสมาเอาแหวนคืนจากเขาอย่างไรดี เขาอาจจะไม่รู้ว่าเธอคือพนักงานในบริษัทของเขา แต่เพื่อน ๆ พนักงานคนอื่นที่สนิท ๆ กัน เจอหน้ากันบ่อย ๆ ต่อให้แต่งหน้าแต่งตัวอย่างไร เพื่อนก็จำเธอได้แน่นอนจะมีก็แต่เขา ที่ไม่เคยสนใจมองเห็นเธอในสภาพแบบนี้ จนไม่รู้เลยว่าคนที่เขาบอกรักทุกวัน ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเขาเลยสักนิด~เฮ้ออออ แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย~มารีอาถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ทั้ง ๆ ที่เธอตั้งใจจะตัดใจจากเขา แต่สุดท้ายเพราะความอ่อนโยนที่ได้รับ กลับทำให้เธอห้ามใจไม่ได้~ไม่ได้นะมารีอา เธอต้องตัดใจให้ได้ เขาจะจริงจังกับเธอแค่ไหนก็ไม่รู้ เอาไว้ถ้าได้แหวนคืนเมื่อไหร่ ต้องรีบตัดใจจากเขาทันที เข้าใจไหม~มารีอาบอกกับตัวเอง เธอเม้มปากแน่น ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เรียกความตั้งใจของตัวเองคืนมาแต่… ก็ยอมรับว่าในตอนนี้ความรู้สึกของเธอเริ่มไปไกลกว่าที่คิดเสียงรองเท้าส้นสูง ดังมาตามทางเดิน ก่อนที่จะตรงไปทางฝั่งของห้องประธาน ทำเอาพนักง
@ที่ร้านอาหาร เหม่ยหลิน เป็นลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งเดินทางมาจากเมืองจีน ลี่คุนจำต้องดูแลเธอที่เป็นเสมือนน้องสาว แถมคุณอาลี่หนานก็โทร.มาฝากฝังให้ช่วยดูน้องเอาไว้ด้วยเพราะสนิทกันตั้งแต่เด็ก เหม่ยหลินจึงขอพักที่คอนโดมิเนียมของลี่คุน ที่มีห้องนอนรับแขกว่างอยู่ เธอตั้งใจจะมาอยู่กับเขาสักหนึ่งเดือน ซึ่งตอนนี้เธอกำลังทำปริญญาโทเกี่ยวกับทางด้านบัญชีจึงอยากมาศึกษาดูงานด้านบัญชีและการบริหารเอาไว้ด้วย“ตกลงพี่ให้เหม่ยหลินเข้ามาดูงานวันไหนดีคะ พรุ่งนี้เลยเนอะ สัญญาค่ะว่าเหม่ยหลินจะไม่รบกวนการทำงานของพี่เลย”“ไหนเราบอกแค่มาเที่ยวอาทิตย์เดียว ทำไมถึงเปลี่ยนใจอยู่เป็นเดือน”“แหม พี่ก็น่าจะรู้ว่าเหม่ยหลินอยากอยู่ใกล้ ๆ พี่”“เฮ้อ นี่เราไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ เราโตพอที่จะหาแฟนได้แล้ว เราจะมาตามติดพี่แบบนี้ไม่ได้หรอก”“ทำไมคะ พี่อึดอัดที่เหม่ยหลินมานี่เหรอ” เธอทำหน้าเศร้าจนเหมือนจะร้องไห้ออกมา ลี่คุนได้แต่ส่ายหน้าลำบากใจ แต่เพราะรับปากคุณอาเอาไว้ เขาจำต้องดูแลเธอที่เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณอาเป็นอย่างดี“เปล่า พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น เรากินข้าวเถอะ อาหารมาพอดี นี่ไงของโปรดที่เราชอบ” ลี่คุนยิ้มก่อนตักอา
เธอยิ้มร้ายที่มุมปาก ก่อนพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไปแล้วกดลบทันทีติ๊งงงงเสียงเตือนข้อความไลน์ ในเครื่องสำรองของมารีอาดังขึ้น จนเธอต้องหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านLee Khun : ถ้าคุณต้องการแหวน ให้มาหาที่คอนโดฯ ของผมตอนสองทุ่ม ผมจะเตรียมไว้ให้คุณ~บ้าหรือเปล่า อยู่กับแฟนแต่ยังบอกให้เราไปหา~มารีอายังไม่หายน้อยใจ ก่อนจะส่งข้อความกลับไปMind : ไหนบอกว่าลืมแหวนไว้ที่ออฟฟิศไงคะ แล้วผู้หญิงของคุณล่ะLee Khun : จะเอาหรือไม่เอา รีบ ๆ มาให้ตรงเวลาด้วย ผมมีธุระต้องพาเธอไปดินเนอร์Mind : เธอคือ ?Lee Khun : ว่าที่เจ้าสาวของผมในอนาคตเหม่ยหลินอ่านข้อความที่ส่งไปแล้วยิ้ม แต่มารีอาถึงกับอึ้ง นอกจากที่เขาพิมพ์มาหาเธอส่งอย่างห้วน ๆ เขายังบอกกับเธอว่า~ผู้หญิงคนนั้นเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขาอย่างงั้นหรือ~มารีอาอ่านข้อความด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เธอเองเพิ่งเจอคู่หมั้นของเธอนอกใจ พอมาเจอลี่คุนในช่วงที่ความรู้สึกกำลังพัง เขาก็เข้ามาเติมเต็มได้ทันที ไม่คิดเลยว่า… สุดท้ายแล้วผู้ชายก็เหมือน ๆ กันทุกคนเหม่ยหลินรีบลบข้อความที่เธอส่งให้มารีอาก่อนจะจ้องมองรูปภาพในโปรไฟล์ ด้วยความรู้สึกอิจฉา !~เนี่ยเหรอผู้หญิงที่พี่ลี
เรื่องร้าย ๆ สำหรับมารีอายังไม่หมดลงง่าย ๆ ในขณะที่เธอกำลังเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อีกด้านหนึ่งของอนิรุตกับครอบครัวของเขา กำลังพยายามทุกวิถีทางที่ไม่ยอมให้มารีอาถอนหมั้น“เจ้าลูกโง่ หนูมาร์เขาดีแสนดีแบบนั้น ลูกทำไมถึงยอมให้เธอถอนหมั้น”“โธ่คุณแม่ครับ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริง ๆ น้องก็เลยงอนผม”“น่าจะไม่ใช่แค่งอนนะ พ่อดูก็รู้ว่าน้องโกรธลูกอยู่ ก่อนหน้าที่เพื่อนพ่อจะเสีย เขาก็สั่งเสียเอาไว้นักหนาว่าจะยกหนูมาร์มาให้เราดูแล แค่นี้แกก็ทำไม่ได้ ถ้าแกง้อหนูมาร์ไม่สำเร็จต่อไปแกก็ไม่ต้องใช้สมบัติของน้องเขา~ไม่ใช่ว่าเธอกำลังเดินตามประธานลี่อยู่เหรอ เอ… ไม่น่าใช่ เดินห่างกันตั้งไกล~ อนิรุตกำลังพยายามลำดับเหตุการณ์วันที่เจอมารีอาครั้งสุดท้าย“เห็นหนูมาร์แบบนั้น บ้านน้องอะมีสมบัติเก่าแก่เยอะนะลูก ถ้าเราเอาออกขาย เผลอ ๆ ได้เป็นร้อยล้าน”“ร้อยล้าน !! แต่ทำไมดูบ้านน้องมาร์ธรรมดามาก ๆ”“หึ บ้านนี้น่ะ เขาสมถะกันมาแต่ไหนแต่ไร ทำตัวเหมือนไม่รวย ไม่ค่อยใช้เงิน แถมอยู่อย่างประหยัด หามาได้ก็เอาแต่เก็บกันอย่างเดียว เป็นไงตายก่อนได้ใช้เงิน”“นี่ถ้าแกได้แต่งกับหนูมาร์สมบัติเก่าแก่พวกนั้นก็ต้องตกเป็นของแกด้ว
เฮือกกกกก!!แต่… มารีอาหน้าเสีย ในตอนนี้เธอยังไม่อยากเจอหน้าเขาเลยสักนิด ยิ่งถ้าเขาเข้ามาใกล้แบบนี้ เขาต้องเห็นหน้าของเธอชัด ๆ แน่ ทำไงดี !!“ผู้จัดการคะ คุณเหม่ยหลินคะ พอดีฉันท้องเสียกะทันหันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” มารีอาไม่รอให้ลี่คุนเข้ามาใกล้ หรือผู้จัดการอนุญาต เธอรีบวิ่งไปออกอีกทางก่อนที่เขาจะเดินมาถึงโต๊ะทำงานของเธอพอดี เหม่ยหลินได้แต่หันไปมองตามด้วยความรู้สึกแปลก ๆอย่าบอกนะว่า…“ว่าไงเหม่ยหลินเป็นไง ตกลงเราจะเลือกดูงานตรงไหน อ้าว… พนักงานที่นั่งตรงนี้ไปไหนล่ะ”“คุณมายด์หรือคะ” เหม่ยหลินแกล้งถาม“ไม่ใช่ เธอชื่ออะไรนะ ผู้จัดการบอกเมื่อกี้ พอดีพนักงานที่นี่เยอะมากพี่ก็จำได้ไม่หมด อ๋อนึกออกแล้ว ชื่อมารีอา” ลี่คุนตอบตามตรง“อ๋อค่ะ เธอสวยดีนะคะ” เหม่ยหลินยังไม่เลิกหยั่งเชิง“ไม่รู้สิ พี่ยังไม่เคยมองหน้าเธอตรง ๆ สักที คงจะสวยแหละ เพราะพนักงานที่นี่หน้าตาดีทุกคน” เขาชมโดยรวมก่อนจะหันไปยิ้มให้กับพนักงานคนอื่น ๆ ที่มองเขาอยู่“ไม่เคยมองหน้า ? …เลยหรือคะ”“ก็มองอยู่ผ่าน ๆ ตา แต่ไม่ได้สังเกตมากนัก อ๋อที่พี่รู้คือเธอชอบใส่แว่นหนา ๆ แต่เจอพี่ทีไรเอาแต่ก้มหน้าก้มตา นี่ก็ว่าจะถามอยู่ ทำไ
แต่ถึงจะรู้หรือไม่รู้ ตอนนี้มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเธอแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะอย่างไรเธอก็ตัดสินใจเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาอยู่ดี รวมถึงพี่อนิรุตด้วย แค่เธอคืนแหวนหมั้นให้เขาแล้วก็จบ ๆ ไป ให้มันจบไปเสียทุกอย่างมารีอาตัดสินใจหยิบมือถือเครื่องสำรองโทร.หาเขา แต่ลี่คุนกลับปิดเครื่องไปเสียแล้วแม้จะเห็นทั้งข้อความเด้งเตือนของเขาที่พยายามโทร.หาเธอเป็นสิบสายก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของมารีอาดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อนึกถึงวันที่เหม่ยหลินเปิดประตูมาพบเธอแถมพูดจากับเธอแบบนั้นหัวใจก็… พังไปหมดแล้วมารีอากดบล็อกไลน์ของเขานับตั้งแต่วันนั้น เลยไม่รู้ว่าเขาส่งข้อความอะไรมาหาเธออีก จะมีก็แต่ข้อความล่าสุด เรื่องที่เขาจะพาคู่หมั้นไปดินเนอร์ เธอชั่งใจอยู่นาน ตัดสินใจปลดบล็อกไลน์ และส่งข้อความไปหาเขาอีกครั้งฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณฉันอยากได้แหวนหมั้นคืน เพราะวันนี้ฉันมีนัดกับพี่รุตเรื่องคืนแหวนหมั้นที่โรงแรม T ตอนสองทุ่มคู่หมั้นของคุณบอกกับฉันวันนั้นว่าจะเอาแหวนมาคืนให้ฉัน ไม่ทราบว่าคุณและคู่หมั้นของคุณพอจะสละเวลาเอาแหวนมาคืนให้ฉันตอนทุ่มครึ่งได้ไหมคะมารีอาตัดสินใจส่งข้อความออกไปอย่างลำบากใจ เมื่อเห็
เลิกงานมารีอารีบไปตรงตามเวลานัดหมาย เธอพยายามไลน์ติดต่อตามลี่คุน แต่ทว่าวันนี้เขาก็ยังไม่เปิดอ่านไลน์ของเธอเลยด้วยเพราะการประชุมสำคัญที่ลากยาวจนกินเวลาล่วงเลยมาจนเกือบสองทุ่ม ลี่คุนจึงไม่ได้แม้แต่คิดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทั้ง ๆ ที่วันนี้ มารีอาตั้งใจจะจบความสัมพันธ์ชั่วคืนจากเขา เธอต้องการสารภาพความจริงให้เขารับรู้ว่าที่แท้จริงแล้วตัวตนของเธอเป็นแบบนี้ เป็นแค่พนักงานธรรมดา ๆ ในบริษัทของเขาที่สำคัญถ้าได้แหวนคืนจากเขาแล้ว…ทุกอย่างระหว่างเธอกับเขาจะได้จบอย่างเก่งถ้ามองหน้ากันไม่ติด ก็แค่ลาออกจากงานแล้วก็คงค่อย ๆ หายไปจากชีวิตกันและกันจวบจนได้เวลา และมั่นใจว่า ลี่คุนคงไม่มาแน่แล้ว~ใช่สิ เขามีเธอคนนั้นแล้ว จะมาสนใจความสัมพันธ์ชั่วคืน ระหว่างเธอกับเขาทำไม เผลอ ๆ เอาแหวนของเธอทิ้งไปไว้ไหนแล้วไม่รู้~มารีอาสีหน้าสลดลง เธอยืนมองนาฬิกาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าใกล้เวลา จึงตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน.........“ยาที่มึงให้มาดีแน่ใช่ไหมวะ”เสียงอนิรุตที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องน้ำในขณะรูดซิป เขาหนีบโทรศัพท์แนบหูไว้กับบ่า ก่อนจะตรงไปล้างมือ ที่ที่วศินกำลังล้างมืออยู่เช่นกัน“เออ มึงจองห้องไว้ให้ก
วศินที่เดินเข้ามาตามหามารีอาภายในห้องอาหารชื่อดังของโรงแรม แต่ทว่าเขากลับมองไม่เห็นเธอ มารีอาที่นั่งหันหลังอยู่ในสภาพผมมัดรวบและใส่แว่น เสื้อสีขาวตัวใหญ่ดูเชย ๆ จนเขาไม่คิดว่าเป็นเธอ เลยเดินออกไปหามารีอาตรงที่อื่นส่วนอนิรุตเพิ่งเดินออกมาจากอีกมุม เขาเพิ่งแอบให้เงินกับพนักงานเสิร์ฟ เพื่อให้ยกเครื่องดื่มเมนูพิเศษเอามาให้มารีอา จึงทำให้คลาดกัน“วันนี้น้องมาร์ทำไมไม่แต่งตัวสวย ๆ เหมือนวันนั้นล่ะครับ”“มาร์ชอบแต่งของมาร์แบบนี้ เข้าเรื่องเลยดีกว่าไหมคะ” มารีอารู้สึกอึดอัดกับสายตากะลิ้มกะเหลี่ยของอนิรุต ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อก่อนเธอจะรู้สึกดีจนยอมหมั้นกับเขา“พี่ขอยืนยันอีกครั้ง ว่าพี่ไม่ขอถอนหมั้นจากน้องมาร์ พี่รักน้องมาร์ และพี่สัญญาว่าจะเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่เพื่อน้องมาร์ น้องมาร์ให้โอกาสพี่นะครับ” อนิรุตยกมือขึ้นไปเกาะกุมมือมารีอาแต่เธอก็รีบชักมือออก“มาร์ว่าเราคุยกันจบไปแล้วนะพี่รุต เงินมาร์ก็เตรียมโอนคืนให้พี่แล้ว แค่พี่แจ้งเลขบัญชีมามาร์ก็พร้อมโอน ส่วนของหมั้นมาร์ก็เตรียมเอาไว้คืนแล้วทั้งหมด ส่วนแหวนประจำตระกูลที่แม่พี่เอามาหมั้นมาร์ ตอนแรกมาร์ก็ว่าจะเอามาคืนวันนี้ แต่…”“ช่างมันเถอะน้อง
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย