“สืบมาได้บางส่วนครับ แต่ยังไม่ค่อยชัดเจน…”“จริงจังหน่อย!”“เอ่อ หลูซีกับหลูหมิงไม่ได้เป็นญาติห่าง ๆ อะไรกับเธอเลย ที่น่าแปลกก็คือ ทะเบียนบ้านของพวกเขาอยู่ในบ้านที่เป็นชื่อของคุณหนูเย่”“พวกเขาไม่ได้เกี่ยวพันกันทางเครือญาติ เหมือนจะเป็นลูกน้องเสียมากกว่า”ฮ่าวอี้หันไปมองเขา “แค่เนี้ย?”“เอ่อ ก็แค่นี้ พี่ยังอยากรู้อะไรอีกงั้นเหรอ?”ฮ่าวอี้ถูกความโง่เง่าของเขาทำให้โมโหจนอยากจะหัวเราะออกมา“ช่างเถอะ ฉันจะไปรายงานต่อเบื้องบน และให้เบื้องบนไปสืบ!”หวังเสี่ยงเฉิงมองเขาอย่างแปลกใจ “ไม่ใช่ พี่ปลดประจำการไปแล้วและยังมีภารกิจอยู่ ยังจะต้องสืบคุณหนูเย่อีกเหรอครับ?”“สาวน้อยที่สวยขนาดนั้นเพียงคนเดียว พ่อแม่ก็ตายไปแล้วทั้งคู่ ร่ำรวยอย่างมาก ทั้งยังถูกญาติจ้องจะฮุบสมบัติ…”“เธอน่าสงสารมากพอแล้ว พี่ยังจะสืบเธออีกเหรอ ยังมีสำนึกอยู่บ้างไหมครับ!”ฮ่าวอี้ไม่ได้ใส่ใจเขา และมองเขาราวกับมองคนปัญญาอ่อนหลังจากเย่มู่มู่ซื้อของในเขตชานเมืองเสร็จสิ้นแล้ว ก็ขับรถกลับไปที่คฤหาสน์เสบียงที่เธอขนมามีอยู่เต็มคันรถ จึงให้บอดี้การด์และแม่บ้านช่วยกันขนฮ่าวอี้ไม่ขยับ พิงอยู่ที่หน้ารถพลางนับจำนวน!“สามสิ
เธออยู่มวิทยาลัยในเมืองไม่สะดวกอย่างมาก อยากจะซื้อรถบรรทุกก็ไร้หนทาง!ถึงอย่างไรหากจัดซื้อในปริมาณมาก ก็จะถูกจับตามองเอาได้ดังนั้นเธอจึงไปหาผู้จัดการฝ่ายขายที่รู้จักมาก่อนหน้านี้ บอกว่าทางเหนือต้องการรถจำนวนหนึ่ง ให้โยกย้ายรถในสต็อกสองร้อยคันมาจอดไว้ในโกดังเก็บของชานเมืองที่เธอเช่าไว้ผู้จัดการฝ่ายขายดีใจอย่างมาก คุณหนูเย่ผู้นี้เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่อยู่ในมือของเขา ปริมาณในการซื้อเทียบเท่ากับตัวแทนจำหน่ายในระดับจังหวัด…ถึงขนาดที่ว่าตรงไปตรงมายิ่งกว่าตัวแทนจำหน่ายในระดับจังหวัดเสียอีก อย่างน้อยเธอก็ไม่กดราคา ของถึงเมื่อไรก็ได้เงินเมื่อนั้น ครั้งนี้ เย่มู่มู่ยังไม่ได้ชำระเงินล่วงหน้า ผู้จัดการก็ถามว่า “คุณหนูเย่ พรุ่งนี้ต้องการหรือไม่ครับ?”“บริษัทของพวกเรามีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองหลวง แถบชานเมืองมีโกดังขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง เก็บไว้ได้สองพันยูนิต และสามารถจัดส่งสินค้าได้ตลอดเวลา!”“ต้องการค่ะ แต่ว่าคุณสามารถเอาไปไว้ในโกดังล่วงหน้าได้ หากคุณภาพของรถไม่มีปัญหา จำนวนไม่ผิด ฉันจะจ่ายเงินให้ทันที!”ผู้จัดการก็เป็นผู้ที่ตรงไปตรงมาเช่นกัน และเชื่อใจเย่มู่มู่อย่างมาก“ผมจะให้โกด
เมื่อเข้าไปในเมือง เฉินขุย เฉิงอู่ ซ่งตั๋วและฮูหยินของพวกเขา ไปเดินซื้อเสบียงด้วยกันส่วนจ้านเฉิงอิ้นกับมั่วฝานสองคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ก็ไปเดินเล่นที่ถนนหน่วยกล้าตายและองครักษ์ปลอมตัวปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงชนหยางชิงเหอเดินมาอยู่ข้างกายของมั่วฝานและจ้านเฉิงอิ้น แล้วกล่าวว่า “มู่ฉีซิวมีถนนที่เป็นทรัพย์สินอยู่เส้นหนึ่งภายในเมืองนี้”“ถนนที่มีความยาวสามร้อยเมตร ร้านค้ากว่าร้อยร้านทั้งซ้ายและขวา เป็นของเขาทั้งหมด!”มั่วฝานตกตะลึง “สามารถซื้อถนนทั้งเส้นได้ หากคนผู้นี้ไม่ได้ก่อกบฏ จะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถทางธุรกิจที่หาได้ยากเป็นแน่!”หยางชิงเหอไม่ปฏิเสธ มู่ฉีซิวมีความสามารถในการทำธุรกิจจริง ๆ เขาเอาวิธีการดำเนินธุรกิจของเมื่อสองพันปีก่อนมาที่ต้าฉี่ ซึ่งเป็นการนำสิ่งใหม่มาสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันยกตัวอย่างเช่นร้านหม้อไฟที่เขาเปิด เมื่อใดก็ตามที่แนะนำให้คนมากิน ก็จะสามารถประหยัดค่าอาหารได้หนึ่งในห้า เมื่อแนะนำให้คนสองคนมากิน ก็จะสามารถลดได้ถึงหนึ่งในสามหากต้องการไม่เสียเงินสักบาท อย่างน้อยต้องดึงคนมาหลายสิบคนคล้ายกับการกลยุทธ์ของพินซีซีที่ท้ายที่สุดก็ไม่วันจบสิ้นเขายั
ลูกธนูบนไหล่ของมู่ฉีซิวถูกถอนออกแล้ว!ผมของเขายุ่งเหยิง ใบหน้าบึ้งตึงขณะนั่งอยู่บนหัวเตียง หมอประจำจวนที่ชุยลั่วซินเชิญมาพันแผลให้เขา! เดิมทีเขามั่นใจมากว่าจะฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้แต่เขากลับล้มเหลว!เป็นเพราะความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป และดูถูกศัตรู จึงนำไปสู่ความพ่ายแพ้!เขาคิดว่าไม่ว่าจ้านเฉิงอิ้นจะเป็นอย่างไร แม้ว่าจะเป็นคนข้ามภพมาเหมือนกับเขา สมองของจ้านเฉิงอิ้นก็เทียบกับเขาไม่ได้อย่างแน่นอนแต่เขามองข้ามความสำคัญของหยางชิงเหอไปแม้กระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังไม่สามารถยอมรับได้ว่าแฟนสาวที่เคยภักดีต่อเขา จะไปเข้าข้างจ้านเฉิงอิ้นนางวางแผนให้จ้านเฉิงอิ้น ช่วยเขาสร้างปืนใหญ่ เพื่อจัดการกับเขา!เขาเกลียด~เขาโกรธ!ถ้าไม่มีจ้านเฉิงอิ้น ต้าฉี่คงตกอยู่ในมือของเขาแล้วแต่ตอนนี้ กองทัพธงเหลืองของเขาสูญเสียไป หนึ่งแสนสามหมื่นนาย และยังมีอีกสองหมื่น นายซ่อนตัวอยู่ในเมืองป๋อหลิงรอให้เขาหายดี พวกเขาจะบุกเข้าเมืองหลวง ฆ่าฮ่องเต้น้อย เปลี่ยนราชวงศ์ถ้าเป็นไปด้วยดี เขาจะต้องขึ้นครองราชย์และเปลี่ยนแปลงต้าฉี่หกแคว้นทั่วแผ่นดินจะเป็นของเขาแต่กลับมีจ้านเฉิงอิ้นโผล่มา!น่าตายยิ่งนัก!น่าตา
มู่ฉีซิวรีบคว้าตัวหยวนอันไว้ พลันสงบลงอย่างกะทันหัน ริมฝีปากบางซีดของเขาแสยะยิ้มเย็นชาออกมาในทันที“ดี ดีมาก วันนี้ข้าได้เห็นธาตุแท้ของตระกูลชุยแล้ว”“เพียงแค่พ่ายแพ้ครั้งเดียว ตระกูลชุยก็ไม่เห็นหัวมู่ฉีซิวอย่างข้า!”“ความอัปยศในวันนี้ ข้าจะจดจำไว้!”“หากข้ารอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ สิ่งแรกที่ข้าจะทำเมื่อกลับมา คือใช้เลือดของตระกูลชุยสังเวยสวรรค์!”ริมฝีปากของเขายิ้มเย็นชา ดวงตาหม่นหมองก่อตัวเป็นพายุ~เขาพ่ายแพ้ให้กับจ้านเฉิงอิ้น แต่ก็ไม่เคยโกรธเท่านี้มาก่อน! การกระทำของตระกูลชุยทำให้เขารู้สึกอัปยศถึงจะยกเลิกการแต่งงาน ตระกูลชุยไม่อยากให้ชุยลั่วซินแต่งงานกับเขาแล้ว ก็ควรพูดคุยกับเขาดี ๆ เขาอาจจะปล่อยมือก็ได้หลังจากนี้การแต่งงานเป็นอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกันอีกแต่ตระกูลชุยกลับหลบหน้าเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดก็พอทนแล้วยังยกเลิกการแต่งงานอย่างอัปยศเช่นนี้อีกส่งบ่าวคนหนึ่งมาที่หน้าประตู ทำท่าข่มขู่โอ้อวดอำนาจ!ไล่เขาเหมือนหมาจนตรอก! ในขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของเขา ทั้งสองชาติภพตลอดยี่สิบกว่าปีที่มีมา!ความอัปยศ
หยวนอันกระอักเลือดออกมาเป็นสาย ดวงตาเบิกกว้าง มองเห็นมู่ฉีซิว ผลักคันเชิงเทียนล้มลง เปลวไฟลุกไหม้ม่านหน้าต่าง...”จากนั้นก็เดินมาหาเขาทีละก้าว ดึงดาบออกมา กรีดใบหน้าของเขาจนเละจนจำหยวนอันไม่ได้อีกต่อไป!ตอนนี้ หยวนอันยังไม่ตาย!“เขาเดินไปยังห้องด้านหลัง เปิดแผ่นพื้นขึ้น แล้วก้าวเข้าไปในทางลับ..”ดวงตาของเขาโหดเหี้ยมเหมือนงูพิษ ระหว่างทางก็ท่องชื่อคนในตระกูลชุยไปด้วยชื่อทีละชื่อ ตระกูลใหญ่ที่หยั่งรากลึก มีคนที่เขาเอ่ยชื่อได้กว่าร้อยคน...ยังมีอีกหลายคนที่เขาเอ่ยชื่อไม่ได้ความแค้นในวันนี้ เขาจะจดจำไว้!หากเขารอดพ้นจากภัยพิบัติ ตระกูลชุยจะต้องถูกฆ่าล้างตระกูล!เขาคลานออกมาจากทางลับใต้เตา ศีรษะเต็มไปด้วยฝุ่นขี้เถ้า สภาพจนตรอกยิ่งนัก!ทหารของเขาที่เหลืออีกสองหมื่นคน มีมากกว่าสองพันคนเฝ้าอยู่หน้าเตาพวกเขาเห็นมู่ฉีซิวปรากฏตัวคนเดียว ไม่มีทหารคนอื่นปรากฏตัวกองทัพกบฏเหล่านี้มาจากหมู่บ้านเดียวกัน ตระกูลเดียวกัน เข้าร่วมกองทัพธงเหลืองคนที่อยู่ในบ้านพักตากอากาศกับเขา ล้วนเป็นพี่น้องและญาติของพวกเขา“ท่านผู้นำ มีเพียงท่านคนเดียวหรือ? พี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ?”ทุกคนมองมาที่เขามู่
เขายังมีเสบียงและแหล่งน้ำอยู่ในมือ มีภูเขาเหมือง และโรงงานผลิตอาวุธผู้มีสายตาเฉียบแหลมย่อมมองทะลุถึงสถานการณ์ของใต้หล้าได้ในพริบตา!ไม่ต้องพูดถึงต้าฉี่ แม้แต่มองไปยังหกแคว้นในใต้หล้า หากไม่รวมกันทั้งหมด คงไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของจ้านเฉิงอิ้น!ตราบใดที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ ก็จะสามารถชี้ดาบปกครองใต้หล้า!ไร้ผู้ใดสามารถขวางได้อีก!ดังนั้น จึงไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินจ้านเฉิงอิ้น!แม้แต่ตระกูลใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีที่สุด ก็ยังเลือกถอนหมั้นกับมู่ฉีซิวด้วยวิธีอันไร้ยางอายที่สุดแถมยังขายที่พำนักของเขาให้กับกองทัพลู่เจ๋ออีกด้วยชุยลั่วซินแย้มริมฝีปากแดงระเรื่อ ยิ้มหวาน “ท่านแม่ทัพ ท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่ มู่ฉีซิวถูกยิงตายแล้ว ตระกูลชุยของเราไม่ได้ให้ที่พักพิงกับคนร้ายจริง ๆ นะ พวกเราบอกเบาะแสของเขาทั้งหมดแล้ว ท่านอย่าทำให้ท่านปู่ของข้าลำบากอีกเลย”“ทหารของตระกูลชุยข้าถอนกำลังได้แล้ว!”หลินเจาเฉินเหลือบมองนางอย่างเฉยเมย “ห้องนอนของเจ้ายังไม่ได้ตรวจค้น...”“ท่านแม่ทัพ ท่านจะตรวจค้นห้องนอนของข้าให้ได้ ท่านแม่ทัพมีใจให้ข้าหรือ?”ชุยลั่วซินแก้มแดงก่ำ มองแม่ทัพรูปงามด้วยความเขินอาย
ขณะรอคน ก็คัดเลือกชายฉกรรจ์จากกลุ่มผู้หิวโหยในเมืองใกล้เคียงที่อพยพมายังเมืองหมิ่นให้เข้าร่วมกองทัพไปด้วยผู้ที่สามารถหลบหนีภัยมาจนถึงหมิ่นโจวได้ ส่วนใหญ่เป็นบุรุษสตรีและเด็กมีน้อยมาก แม้แต่คนชราก็แทบไม่พบเลยพวกคนแก่ เด็ก และสตรีที่อ่อนแอไปไม่ถึงหมิ่นโจว เพราะถูกจับกินไปหมดแล้วการเกณฑ์ทหารใหม่เป็นเรื่องง่าย ไม่จำเป็นต้องชักชวนด้วยซ้ำ แค่วางโต๊ะไม่กี่ตัวไว้ริมทาง บนโต๊ะมีอาหารวางอยู่ข้าวต้ม บะหมี่ หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเข้มข้นย่อมต้องมีคนเข้ามาสอบถามแน่แต่กองทัพตระกูลจ้านไม่ได้รับใครเข้าร่วมง่าย ๆ พวกเขาก็เลือกเหมือนกันหากเคยฆ่าชาวบ้านเพื่อนำเนื้อมากิน ดวงตาเต็มไปด้วยความอำมหิต...พวกเขาไม่รับยังมีพวกที่รวมกลุ่มกันเดินทางมาถึงหมิ่นโจว พอเห็นเพิงพักไม่กี่หลัง ก็นึกอยากจะปล้นแต่ก่อนจะได้ลงมือ ด้านหลังเพิงกลับมีทหารในชุดเกราะเต็มยศ ถือดาบใหญ่กลุ่มหนึ่งโผล่ออกมา!ทันใดนั้นก็ทรุดตัวลงคุกเข่า ขอชีวิตทันทีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นวันละหลายครั้งเพียงไม่กี่วัน พวกเขาก็เกณฑ์ทหารใหม่ได้กว่าหมื่นนายจากนั้นก็ส่งให้เฉินขุยฝึก ฝึกหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอด เป้าหมายคือลงสนามรบใ
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด