หลังจากเขากลับไป เขาไม่ควรทำตามอำเภอใจอย่างเมื่อก่อนอีกควรเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อพลเมืองและต่อต้าฉี่เขาพูดพร้อมดวงตาแดงก่ำ “ท่านเทพ ข้ารู้แล้วว่าเส้นทางหลังจากนี้ควรจะเดินอย่างไร!”เย่มู่มู่เห็นตาแดงสองข้างของเขาการพาเขามาที่พิพิธภัณฑ์ส่งผลกระทบกับเขามากเหมือนกันเขากล่าวเพิ่ม “คืนนี้ ข้าจะกลับไปเลย หลูซีกับหลูหมิงรบกวนท่านด้วย!”เย่มู่มู่ยืนยันซ้ำ ๆ “เจ้าตัดสินใจแล้ว?”“ใช่ ข้ากลับไป ถึงแม้ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ แต่ก็อยากให้จ้านเฉิงอิ้นผ่อนคลายบ้าง ข้าจะให้ไทเฮาคิดหาวิธีกำจัดฮ่องเต้น้อย!”ถ้าเขาตาย จ้านเฉิงอิ้นจะสบายขึ้นเยอะมาก“ได้ ถ้าเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าก็สนับสุน!”ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับมั่วฝานนั้นรุนแรงมาก เขายืนกรานว่าจะกลับไปวันนี้เย่มู่มู่ไม่ได้อยู่รอผู้อาวุโสมู่และคนอื่น ๆ มาร่วมพิธีเปิดงานและเธอพาพวกเขากลับไปก่อนก่อนเดินออกมา เธอได้ขอวิดีโอบรรยายห้านาทีของพิพิธภัณฑ์สองนาทีครึ่งเป็นการบรรยายเกี่ยวกับห้องโถงต้าฉี่ หนึ่งนาทีครึ่งเป็นการบรรยายเกี่ยวกับจ้านเฉิงอิ้นการบรรยายเกี่ยวกับเขา ล้วนพรรณนาด้วยคำพูดอย่างมังกรบินจากฟากฟ้า แม่ทัพหนุ่มน้อย เทพสงครามแห่งต้าฉ
เย่มู่มู่ หลูซีและหลูหมิงตาแดงทุกคนเธอขึ้นไปชั้นบนและเหลือพื้นที่ไว้ให้พวกเขาหลังจากเย่มู่มู่เดินออกไปมั่วฝานพูดกับหลูหมิง “ข้าจะกลับแล้ว ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสกลับมาไหม พวกเจ้าต้องปกป้องท่านเทพให้ดี ท่านมีจิตใจที่เมตตา ควรมีอายุยืนร้อยปี!”หลูซีกับหลูหมิงคุกเข่าและอยากโค้งคำนับเขาเขาพยุงพวกเขายืนขึ้น “ท่านเทพเคยพูดไว้ หัวเข่าของชายหนุ่มนั้นมีทองคำ ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงยุคปัจจุบันแล้ว ก็ควรดำเนินชีวิตตามกฎระเบียบของยุคปัจจุบัน!”“ไม่ต้องเป็นห่วงข้ากับกองทัพตระกูลจ้าน!”“ถ้าทำได้ ข้าอยากส่งคนมาปกป้องท่านเทพเพิ่มอีกสองสามคน!”“ตอนนี้ปกป้องท่านเทพให้ดีมีความสำคัญยิ่งกว่าปกป้องข้า!”“เอาล่ะ ข้าจะไม่พูดไปมากกว่านี้แล้ว พวกเจ้าก็จงดูแลตัวเองให้ดี!”น้ำตาของพวกเขาหมุนวนในดวงตา สุดท้ายพวกเขาคุกเข่าและยกมือประสานกลางอกคารวะมั่วฝาน“รัฐทายาท กรุณาดูแลตัวเองด้วย!”“รัฐทายาท โปรดระมัดระวังทุกเรื่อง เรื่องของการสู้รบก็ยกให้คนอื่นไปทำ ความปลอดภัยของท่านสำคัญที่สุดต่างหาก!”มั่วฝานพยักหน้าตอนที่เย่มู่มู่เดินลงมา เจ้านายและคนรับใช้สามคนล้วนร้องไห้จนขอบตาแดงเธอไม่พูดอะไรมาก พลางหย
กลุ่มหน่วยกล้าตายได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ไม่รู้ว่าใครตะโกนเสียงดัง “รัฐทายาทกลับมาแล้ว!”ทุกคนมุ่งเข้าไปราวฝูงผึ้งโดยใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดของวิชาตัวเบาบินมาถึงข้าง ๆ มั่วฝานหัวหน้าพ่อบ้านของมั่วฝานได้ยินว่าเขากลับมา ก็ตะโกนด้วยเสียงเศร้าท่ามกลางฝูงชน “รัฐทายาท ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”คนรับใช้สองคนพาหัวหน้าพ่อบ้านฝ่าออกจากฝูงชนจนมาถึงตรงหน้ามั่วฝานครั้นเห็นสภาพของเขา…ไม่มีเครื่องประดับมีค่าติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว หยกแขวนที่แขวนติดตัวตลอดเวลาก็หายไปศีรษะไม่มีการรวบมัดด้วยซ้ำ แต่รวบไว้ด้านหลังอย่างสบาย ๆผิวดำขึ้น!และผอมลง!เขาใช้แขนเสื้อแอบเช็ดน้ำตา “ท่านรัฐทายาท ท่านลำบากแล้ว!”ในความเป็นจริง มั่วฝานได้กินอาหารดีมากในโลกปัจจุบัน ถึงแม้เขาอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างและกินข้าวร่วมกับพวกพี่ซุนอาหารไม่ได้ทำด้วยความประณีตเท่ากับของในครัว แต่เขาก็ทนส่วนผสมที่หลากหลายและความมันเยิ้มไม่ไหว เขาเพลิดเพลินกับการกินมากเขารู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นด้วยซ้ำเขากล่าวปลอบใจพ่อบ้าน “ไม่เป็นไรเลย นี่ข้าก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไม่ใช่เหรอ?”พ่อบ้านมองนิ้วมือแห้งกร้านของเขาต่อ หลังมือมีบาดแผลด้
“ของเหล่านี้มีค่าเป็นอย่างยิ่ง ระมัดระวังหน่อย…”บังเอิญหยางชิงเหอมาหาจ้านเฉิงอิ้นและต้องการเพิ่มกำลังคนไปช่วยทำแม่พิมพ์พอดีครั้นเธอเห็นเครื่องถ่ายเอกสารกับโน้ตบุ๊กยี่ห้อจวี๋ เธอแทบจะวิ่งเหยาะและเบียดเข้าไปท่ามกลางฝูงชน“อ๊ากกก…โน้ตบุ๊ก เครื่องถ่ายเอกสาร น้ำหมึกและกระดาษสี่เอ…”เธอต้องการใช้ของเหล่านี้เป็นอย่างมากหลังจากนี้เธอสามารถวาดพิมพ์เขียวในโน้ตบุ๊กได้แล้วและยังปริ้นท์ออกมาได้อีกด้วยทันใดนั้น เธอทอดสายตาแวววาวกับมั่วฝาน“พี่คนหล่อ ของเหล่านี้ให้ข้ายืมใช้ระยะหนึ่งได้หรือไม่ ข้าจะรีบนำมาคืนอย่างรวดเร็ว!”มั่วฝานได้ยินหยางชิงเหอเรียกเขาพี่คนหล่อและส่งสายตามองมาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดสีคราม ผิวพรรณแห้งกร้าน หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ สายตาแวววาวเป็นอย่างยิ่งทอดมองมาจนมั่วฝานขุนลุกไปทั้งตัวแววตาของนางคล้ายหมาป่าเกินไป“เจ้าคือหยางชิงเหอ?”เขาเคยได้ยินท่านเทพกล่าว มีผู้หญิงจากยุคปัจจุบันชื่อหยางชิงเหอทะลุมิติข้ามมายังยุคโบราณ ตอนนี้ถูกจ้านเฉิงอิ้นรับเอาไว้มาอยู่ใต้ล่างเป็นคนมีความสามารถที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเธอพยักหน้าด้วยความเร่งรีบและหนักแน่นแม้ว่าเขายังไม่เคยสัมผัสโน
จ้านเฉิงอิ้นแสดงหน้าเย็นชาสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปเขาอิจฉาจริง ๆ นะ!สีหน้าของมั่วฝานน่าทุบตีมาก เขากลัวควบคุมตนเองไม่ได้…เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกอิจฉาอย่างรุนแรงท่านเทพดีกับเขาเกินไป!ดีจนมากเกินไปจ้านเฉิงอิ้นเดินมาถึงข้าง ๆ แจกัน เขาเคที่แจกัน ไม่สนใจว่าฝั่งของเย่มู่มู่จะได้ยินหรือไม่เขาพลางกล่าวด้วยความน้อยใจเต็มล้น “ท่านเทพ ของขวัญมากมายที่มอบให้มั่วฝาน…”เขาอยากได้เหมือนกัน!เพียงแต่ว่า เขาคือแม่ทัพใหญ่ ไม่รู้จะปริปากขออย่างไร“ของขวัญสวยงามมาก เหล่าแม่ทัพชอบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ค เครื่องถ่ายเอกสารหรือว่านาฬิกา ถะ ถ้าหาก…”อีกฝั่งของแจกันไม่มีข้อความส่งกลับมาและได้ยินเพียงเสียงลมหายใจเบา ๆเย่มู่มู่ส่งคนเป็น ๆ ข้ามไปทั้งคน เธอเหนื่อยมากเหนื่อยจนจะเป็นอัมพาตทันทีที่ล้มลงบนโซฟา เธอนอนหลับทันทีหลูซีกับหลูหมิงสองคนช่วยกันห่มผ้าให้และไม่รบกวนเธออีก!หลูซีไปเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวหลูหมิงไปทำหน้าที่ลาดตระเวนไม่มีใครได้ยินเสียงของจ้านเฉิงอิ้น!จ้านเฉิงอิ้นพูดเป็นเวลานาน สุดท้ายแล้วก็ไม่มีการตอบกลับจากเย่มู่มู่สุดท้าย เขาจึงดึงเสียงกลับมาเขาแค่ไม่ม
พลเมืองที่ต่ำต้อย ไม่ว่าจะกี่ร้อยปีหรือกี่พันปีก็มีแต่จะยากจนลงไปเรื่อย ๆความเจริญรุ่งเรืองที่เธอคาดหวังคือทุก ๆ คนมีข้าวให้กินทุก ๆ คนมีหนังสือให้เรียนขอเพียงยอมขยันขันแข็ง ทุกคนก็ล้วนขยับขึ้นไปที่สูงได้ทั้งนั้นและที่สำคัญ พวกเขายังมีความรู้อีกมากมายที่ต้องเรียนรู้ เครื่องจักรกล ไฟฟ้าและวิทยาศาสตร์…ดังนั้น~สารลับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้หลี่หยวนจง นั่นก็คือต้องกำจัดตระกูลขุนนางชนชั้นสูงกับขุนนางที่กระทำการทุจริตอย่างหนักของแคว้นเยี่ยนให้สิ้นซากการกระทำนี้อาจถูกปัญญาชนใต้ฟ้าถ่มน้ำลายต่อว่าและวิพากษ์วิจารณ์อาจถึงกระทั่งถูกคนรุ่นหลังสังหารด้วยปลายพู่กันและตอกย้ำความอับอายตลอดกาลแต่ตอนนี้ เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นไม่มีความผิดอยากจะพัฒนา อยากจะสร้างบ้านเมืองในอุดมคติตามคำกล่าวของท่านเทพอยากจะรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกันและออกสู่ท้องทะเลไปพิชิตทั่วทุกหนแห่งขั้นตอนนี้ จึงจำเป็นต้องทำเขาไม่กลัวว่าจะถูกปัญญาชนใต้ฟ้าถ่มน้ำลายตำหนิเขาไม่กลัวว่าจะถูกคนรุ่นหลังสังหารด้วยปลายพู่กันต่อให้มองว่าเขาสังหารหมู่เป็นคนชั่วที่กระทำความผิดมหันต์…เขาก็จะยอมรับ!เขาคิดว่าตนเอง ได้ท
หลายวันที่ผ่านมาเขามีการพักผ่อนที่ไม่ดีแม้ว่าภายนอกเขาไม่แสดงออกและดูไม่ได้ต่างไปจากวันปกติเฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว จวงเหลียงและคนอื่น ๆ ต่างก็มองออกว่าเขามีความกดดันมากครั้งนี้ มันเกี่ยวข้องกับความเป็นและความตายของกองทัพตระกูลจ้านถ้าพวกเขาชนะ พวกเขาก็จะสยบหกแคว้นได้และจะไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามกับพวกเขาอีกแม้แต่ฮ่องเต้น้อยก็ยังต้องคอยหลบปลายดาบถ้าพวกเขาแพ้ ก็เท่ากับพ่ายแพ้จริง ๆและยังจะทำให้ด่านเจิ้นกวนถูกแต่ละแคว้นแบ่งกลืนดินแดนน้ำ เสบียงอาหารและที่ดินในนั้นก็จะถูกปล้นไปพลเมืองจะถูกสังหารหมู่และทำเป็นเสบียงอาหารดินแดนในอุดมคติที่พวกเขาสร้างมากับมือก็จะถูกทำลายลงทั้งหมดในคราเดียว!ดังนั้น พวกเขาต้องมีสติให้มากเฉินขุย เฉินอู่ไปเตรียมการรบตามแผนการจัดกำลังพลของจ้านเฉิงอิ้น อีกทั้งยังให้ทหารผ่านศึกช่วยฝึนฝนพลเรือนไปด้วยเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่พลเมืองเป็นทหารได้ทุกคนจวงเหลียงรับผิดชอบฝ่ายธุรการรวมถึงปัญหาการแบ่งเสบียงอาหารซุนเฮ่อรับผิดชอบการต้มปรุงโจ๊ก แจกจ่ายเสบียงอาหารของพลเมืองและเหล่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารให้เรียบร้อยให้ทุก ๆ คนได้กินอิ่มท้อง!และจวงเหลียงร
และเหลือไว้ส่วนหนึ่งไม่พูดถึงไม่ได้เลยว่า เขากลายเป็นคนระวังมากขึ้นวันที่แปด หลี่หยวนจงก็ยังไม่ส่งข่าวกลับมาแม้แต่จ้าวเฉียนกับเซี่ยเวยต่างส่งข่าวกลับมาแล้ว แต่พวกเขาไม่ส่งกลับมาเซี่ยเวยเผชิญหน้ากับกำลังพลหนึ่งแสนคนของแคว้นฉู่ผู้บัญชาการกองทัพของแคว้นฉู่คือเจียงเหว่ย เป็นชายหนุ่มที่มีพลัง มีชื่อเสียงตั้งแต่เด็ก เข้าสู่สนามรบตอนอายุสิบแปดและสร้างผลงานไว้อย่างยิ่งใหญ่!ถึงแม้ในเวลานั้น แคว้นฉู่มีเทพแห่งสงครามอย่างหลิงเซี่ยวเฟิง แต่เจียงเหว่ยก็ลุกขึ้นจากความรุ่งโรจน์ด้วยความสามารถของเขาเองตอนนี้ได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างยิ่งจากฉู่อ๋อง ปัจจุบันแคว้นฉู่มีกำลังทหารสองแสนคนอยู่ภายใต้การบัญชาของเจียงเหว่ยบางทีเขาอาจยังหนุ่มเกินไป เขาไม่มองแคว้นเยี่ยนอยู่ในสายตาและนำกองกำลังหนึ่งแสนคนบุกโจมตีแคว้นเยี่ยนกลับไม่คิดว่าจะได้พบกับเซี่ยเวยและศึกสงครามครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างเขาสองคนเซี่ยเวยเห็นว่าจำนวนคนของฝ่ายตรงข้ามเป็นสี่เท่าของเขาเดิมทีไม่มีความมั่นใจรู้สึกเอาชนะไม่ได้แต่พอสู้กันจริง ๆ เขาเพิ่งพบว่าดาบม่อเตานั้นดุดันถึงเพียงใดระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินก็ไกลมาก ไ
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ
หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ
“พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท
เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง