“ผมคิดว่าคนแซ่เซียวไม่น่าจะจ้างคนระดับคุณไหวหรอก พูดมา ใครส่งคุณมา?”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“เกาเซิ่งอี้! เป็นไอ้สารเลวเกาเซิ่งอี้!” “เกาเซิ่งอี้ไม่ได้แค่ต้องการฆ่าหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวเท่านั้น แต่เขายังอยากฉวยโอกาสยึดอำนาจควบคุมฉู่ซื่อกรุ๊ปด้วย เท่าที่ผมรู้มา ผู้ก่อตั้งฉู่ซื่อกรุ๊ปเหมือนจะมีสมบัติตกทอดอยู่ชิ้นหนึ่ง”“เพราะว่าเกาเซิ่งอี้ใฝ่ฝันถึงสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา ถึงได้...ถึงได้จ้องฉู่ซื่อกรุ๊ปตาเป็นมัน นอกจากนี้ต้วนโส่วอี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฉู่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกเกาเซิ่งอี้ซื้อตัวไปแล้ว”“พวกเขาวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวออกจากตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกสองวันข้างหน้า จากนั้นก็จะค้นหาสมบัติชิ้นนั้นของตระกูลฉู่ผ่านทางหุ่นเชิดที่สนับสนุน”“น้องชาย เรื่องที่ผมรู้ก็มีแค่นี้ เห็นแก่ที่ทุกคนเป็นคนวงการเดียวกัน ครั้งนี้คุณก็ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมรับรองว่าจากนี้ไปผมไม่กล้าเข้าสู่ทางโลกอีกแน่นอน”ฉู่เฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางมองข่งเลี่ยงแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นเป็นของตกทอดจากตระกูลฉู่เหรอ?” “ใช่แล้วครับ!”ข่งเล
ควบคุมสำนักอวี้ซือ?ข่งเลี่ยงเคยฝันถึง แต่มันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อฉู่เฉินสามารถฆ่าบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักอวี้ซือ แล้วก็ต้องกำจัดเจ้าสำนักเสียก่อน ปัญหาคือฉู่เฉินมีความสามารถขนาดนั้นเหรอ?“น้องชาย ขอเพียงคุณสามารถกำจัดเจ้าสำนักและผู้อาวุโสอีกหกคนได้ ผมมั่นใจว่าสามารถทำให้สำนักอวี้ซือยอมศิโรราบต่อคุณได้”ข่งเลี่ยงพูดด้วยความมั่นใจฉู่เฉินยิ้มพลางพยักหน้ากล่าวว่า “ดี ตอนนี้คุณสาบานมาว่าจะภักดีจนตาย”หา?ข่งเลี่ยงเงยหน้ามองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบสาบานทันทีว่า “ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อ...”“ฉู่เฉิน”ฉู่เฉินพูดชื่อของตัวเองออกมาอย่างเฉยชา“ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฉู่เฉินจนตาย หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่า ไฟคลอก จมน้ำ ไม่ตายดี!”ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของข่งเลี่ยง ฉู่เฉินก็วาดยันต์ยื่นสัตย์สาบานกลางอากาศ แล้วชี้นิ้วออกไปประทับลงบนหว่างคิ้วของข่งเลี่ยงเปรี้ยง!ข่งเลี่ยงรู้สึกได้เพียงราวกับมีสายฟ้าฟาดในสมอง เหมือนมีสิ่งลึกลับบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในร่างกาย ทำให้ข่งเลี่ยงตกใจกลัวจนหลั่งเหงื่อเย็น ๆ ออกมาทั่วทั้งร่าง!ในฐานะผู้บำเพ็ญเพียรเหมือนกัน
“เธอถ่ายรูปหลิ่วชิงเหอแล้วส่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ หัวหน้าหลูต้องการสอบถามเกี่ยวกับคดี” ไม่รอให้หลิ่วหรูเยียนพูดจบ ฉู่เฉินขัดขึ้นทันทีหลิ่วหรูเยียนอึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะพยักหน้าเอ่ยติดต่อกันว่า “ได้ ฉันจะส่งให้นายเดี๋ยวนี้”ไม่นานนัก ภาพถ่ายของหลิ่วชิงเหอที่มีจ้ำศพเต็มตัวก็ถูกส่งมาหลายใบฉู่เฉินทำการปรับภาพอย่างง่าย ๆ อีกครั้ง จากนั้นค่อยส่งให้หัวหน้าหลูแล้วพูดว่า “หัวหน้าหลู รบกวนคุณช่วยดูด้วยครับ รอยช้ำสีดำบนตัวหลิ่วชิงเหอพวกนี้ก็คือจ้ำศพ”หัวหน้าหลูพยักหน้าหนัก ๆ แล้วพูดว่า “คุณฉู่ ช่วยส่งหลักฐานที่คุณให้มาเมื่อกี้ให้ผมได้ไหมครับ? แล้ววันมะรืน...”ฉู่เฉินรีบทำมือบ่งบอกว่าให้เงียบเสียง แล้วมองกลุ่มตำรวจที่อยู่ด้านหลังหลูติ้งไห่แวบหนึ่งหลูติ้งไห่เข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง “พวกคุณออกไปรอกันให้หมด”“ครับ!”พวกตำรวจรีบถอยออกมาจากในห้องส่วนตัวหลังจากที่ฉู่เฉินแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบฟัง เขาค่อยโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูของหลูติ้งไห่หลูติ้งไห่ฟังแล้วก็พยักหน้าติดต่อกัน สุดท้ายค่อยก็ยกนิ้วโป้งให้ฉู่เฉิน “คุณฉู่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊จริง ๆ ฉลาดล้ำลึกมาก”“แต่ว่า ตระกู
ช่วงบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินตั้งใจนำของว่างท้องถิ่นสิบกว่าอย่างกลับไปยังบ้านเก่าของตระกูลฉู่ พูดตามตรง ความสามารถของสำนักอวี้ซือไม่อาจดูแคลนได้จริง ๆ ตอนนี้ฉู่เฉินเองก็อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานชั้นแรกเท่านั้นต่อให้เป็นคนมุทะลุ เมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานห้าคนก็เกินความสามารถที่จะทำได้อยู่บ้างเหมือนกันสถานการณ์ชักจะน่าปวดหัวนิดหน่อยแล้วสถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือพาอวี้ลู่แฝงตัวเข้าไปในสำนักอวี้ซือ กำจัดพวกยอดฝีมือในสำนักด้วยกัน จากนั้นค่อยยืมมือข่งเลี่ยงควบคุมสำนักอวี้ซือไว้ทั้งหมดว่ากันว่าพอติดค้างบุญคุณคนอื่นแล้วก็จะใจอ่อน ฉู่เฉินไม่ได้เตรียมแค่ของว่างท้องถิ่นให้อวี้ลู่เท่านั้น เขายังตั้งใจซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงรุ่นใหม่ทั้งหมดในห้างสรรพสินค้าของเมืองเอกประจำมณฑลกลับมาด้วย อวี้ลู่เห็นฉู่เฉินถือของกินอร่อย ๆ ไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ถือชุดสวย ๆ เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ จากที่เธอรู้จักหมอตัวน้อยคนนี้ เขาไม่ใช่คนที่คอยเอาอกเอาใจโดยไม่มีเหตุผล“ของกินอร่อย ๆ กับชุดสวย ๆ เยอะขนาดนี้ พูดมาเถอะ มีเรื่องที่ต้องการให้ข้าช่วยเหลือใช่หรือเปล่า?”อวี้ลู่กินปูผัดเผ็ดไปด้วย เอ่ยพล
ระยะนี้คำชี้แนะจากอวี้ลู่ รวมถึงวิชาที่ฉู่เฉินมอบให้เธอ ความเร็วในการพัฒนาของอินซู่ซู่จึงรวดเร็วสุดขีด แต่เวลาครึ่งเดือนกว่าสั้น ๆ ก็บรรลุระดับฝึกปราณชั้นห้าแล้วห่างจากการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติร่างกายแค่ก้าวเดียวเท่านั้นการเปลี่ยนแปลงของอินซู่ซู่อยู่ในสายตาของฉู่เฉินเช่นกัน ก่อนที่เขาจะนึกยินดีในใจของเพียงปรับเปลี่ยนสำเร็จ อินซู่ซู่ก็จะกลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรที่ยอดเยี่ยมที่สุดจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉู่เฉินถึงค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่ลานบ้าน ทำการชี้แนะอินซู่ซู่อย่างละเอียด จากนั้นค่อยออกจากบ้านไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วเวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่รอคอยด้วยความกังวลใจให้ป้าอู๋จัดเตรียมอาหารและเหล้าไว้เรียบร้อยนานแล้ว เธออาบน้ำแต่งตัวไปพลาง รอการมาเยือนของฉู่เฉินไปพลางเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหลิ่วหรูเยียน ป้าอู๋ย่อมดีใจถ้าเกิดจากนี้ไปฉู่เฉินมา “เป็นแขก” ที่บ้านบ่อย ๆ ต่อให้ไม่อาจมอบความเมตตาได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าแม่น้ำสายใหญ่มีน้ำ ลำธารเล็ก ๆ ย่อมไม่เหือดแห้งให้ความชุ่มชื้นเป็นบางครั้งก็สามารถบรรเทาอาการคันของสาวใหญ่ที่เปลี่ยวเหงาอย่างเธอได้ “ป้าอู๋ ป้าคิดว่าชุดนี
เมื่อเห็นหลิ่วหรูเยียนเดินลงมาจากชั้นสองอย่างช้า ๆ แม้แต่ป้าอู๋ก็อดตกตะลึงอยู่ตรงหน้าประตูไม่ได้วันนี้หลิ่วหรูเยียนแสดงความเย้ายวนและ “ความสะดวก” ออกมาได้ถึงขีดสุดจริง ๆทั่วทั้งตัวของเธอสวมเพียงชุดกระโปรงยาวโปร่งใสเท่านั้น ด้านในก็เปลือยเปล่าหมดมีเพียงลวดลายดอกกุหลาบสีแดงเพลิงดอกหนึ่งที่บดบังจุดอ่อนไหว แต่ยิ่งบังแบบนี้ก็ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกอยากสำรวจของผู้ชายได้หน้าอกนูนเด่นกระชับและสะโพกอวบอิ่มส่ายเบา ๆ ขณะที่เดิน จนบางครั้งก็โผล่ออกมาจากขอบเขตที่ลวดลายกุหลาบบดบังไว้แม้แต่ฉู่เฉินเห็นแล้วก็ยังรู้สึกว่าเลือดลมสูบฉีดเล็กน้อย รองเท้าส้นสูงสีชมพูยิ่งขับให้เรียวขาสวยคู่นั้นดูเรียวยาวมากขึ้นนี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ฉู่เฉินหายดีที่หลิ่วหรูเยียนปรากฏตัวต่อหน้าฉู่เฉินโดยแต่งตัวใจกล้าและโป๊ขนาดนี้แต่ต้องพูดว่าไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือว่าหน้าตาของหลิ่วหรูเยียนล้วนงดงามอย่างยิ่งเมื่อจับคู่กับชุดที่เซ็กซี่แบบนี้อีก ช่างยั่วยวนใจมากจริง ๆ!“ฉู่เฉิน เชิญนั่งค่ะ”หลิ่วหรูเยียนยิ้มแย้ม ชี้ไปที่โต๊ะกลมทางด้านข้างซึ่งมีอาหารและเหล้าจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วฉู่เฉินสูดลมหายใจลึก อดทน
ถึงอย่างไรปกติแล้วหลิ่วหรูเยียนไม่เคยดื่มเหล้าเลย แต่ภายในเวลาไม่กี่นาทีสั้น ๆ เธอกลับดื่มเหล้าขาวติดต่อกันสองแก้ว สติเลยไม่แจ่มชัดนิดหน่อยแล้วพูดตามตรง ภายในใจของเธอยังคงต่อต้านฉู่เฉินมาก ๆ ลังเลอยู่หลายรอบถึงค่อยเปลี่ยนเป็นสวมชุดโปร่งใสตัวนี้ความจริงแล้วชุดนี้เป็นชุดที่เธอตั้งใจเตรียมไว้เพื่อราชันมังกรเมื่อเดือนก่อนแต่พริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งเดือน กลับไม่มีแม้แต่เงาของราชันมังกรเลย ตอนนี้เธอกับหลิ่วชิงเหอก็อยู่ในขอบเหวของความเป็นความตายนอกจากฉู่เฉินแล้ว เธอหาที่พึ่งใด ๆ ไม่ได้เลยเธอถึงได้เปลี่ยนเป็นสวมชุดโปร่งใสนี้ภายใต้ความอับจนปัญญาความจริงแล้ว นี่ก็เป็นวิธีการที่หลิ่วหรูเยียนใช้บอกลาอดีตของเธอ และลบเงาของราชันมังกรในใจอย่างสมบูรณ์เมื่อความรู้สึกมึนเมาและตาพร่าเบลอส่งมา หลิ่วหรูเยียนก็ซบลงในอ้อมแขนของฉู่เฉิน ดวงหน้าเล็กแดงระเรื่อไปหมด มองฉู่เฉินด้วยสายตาเย้ายวน“เธอเมาแล้ว”ฉู่เฉินหลุบตามองสาวงามในอ้อมกอดพลางทำสีหน้าเรียบนิ่งแม้ว่าแม่ลูกตระกูลหลิ่วจะเคยทำเรื่องที่ผิดต่อฉู่เฉินไว้มากมาย แต่ฉู่เฉินยังไม่อยากฉวยโอกาสเอาเปรียบคนอื่นสิ่งที่เขาต้องการคือแม่ลูกตระกูลหล
ที่จริงหลิ่วหรูเยียนผ่านกิจกรรมเสียเหงื่อมาแล้วเมื่อครู่ทำให้สร่างเมาตั้งแต่แรกแล้ว จึงรู้สึกประหม่าเมื่อได้ยินคำพูดสองแง่สองง่ามของฉู่เฉินนี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกตัวสนิทสนมกับฉู่เฉินก่อน แล้วดันถูกหลิ่วชิงเหอเห็นเข้าโดยเฉพาะท่าทางที่เธอนั่งบนตักของฉู่เฉินเมื่อสักครู่นี้ ช่างน่าอายเกินไปแล้วจริงๆ“แม่ ดีที่วันนี้ฉู่เฉินนำยาถอนพิษมา แม่เลยหายดีเหมือนเมื่อก่อนได้เร็วขนาดนี้”หลิ่วหรูเยียนรีบวิ่งเหยาะไปคล้องแขนหลิ่วชิงเหอและกล่าวแก้เขินหลิ่วชิงเหอขมวดคิ้วสำรวจหลิ่วหรูเยียนที่สวมชุดซีทรูโดยเฉพาะรอยผ่าสูงตรงกระโปรงวับ ๆ แวม ๆถึงแม้เธอไม่อยากเห็นหลิ่วหรูเยียนทำตัวเหมือนเมื่อก่อนที่ตบหน้าฉู่เฉินอย่างไร้เหตุผลแม้จะมีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็ตาม แต่ก็ไม่อยากเห็นลูกสาวของตนถลำลึกเลยจริงๆฉู่เฉินเป็นที่กำบังหลบภัยชั่วคราวของพวกเธอสองแม่ลูกก็จริง แต่ในอนาคตต้องมีสักวันที่หลุดพ้นจากฉู่เฉิน ยิ่งกว่านั้นเธอก็ไม่อยากเห็นหลิ่วหรูเยียนแต่งงานกับฉู่เฉิน นั่นเป็นการผลักลูกสาวของเธอให้ตกลงไปในหลุมไฟไม่ใช่หรือ?ถึงยังไงก็ไม่ใช่เพราะตัวของฉู่เฉิน แต่ตระกูลฉู่ถูกจ้องเล่นงานจากกองกำลังมากมายตั้งแ
“แดนมังกรของพวกเรามีคำพูดที่ว่า สิ่งที่หูได้ยินอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง สิ่งที่ตาเห็นต่างหากจึงจะเป็นเรื่องจริง”กล่าวแล้วฉู่เฉินก็ยกตะเกียบอันหนึ่งจากโต๊ะแล้วสะบัดมือจนตะเกียบพุ่งทะลุกำแพงห้องข้าง ๆ ทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นจูงมือลีน่ามายังข้างผนังกำแพง แล้วชี้ไปยังรูบนกำแพงพร้อมยิ้มบางกล่าว “ได้เห็นก็จะรู้เอง”ลีน่าประหลาดใจกับทักษะของฉู่เฉินในขณะเดียวกันกับมองผ่านรูเล็ก ๆ นั้นโดยไม่อาจต้านทานความอยากรู้อยากเห็นได้ เมื่อมองแวบแรกแม้แต่ลีน่าก็สับสนอย่างสิ้นเชิงในที่สุดตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรถึงได้เสนอความต้องการแบบนั้นกับบริกรเมื่อสักครู่นี้ไปต่อให้ลีน่าอยู่กับแรนด์มาสองปีแล้วก็ยังไม่เคยเห็นแรนด์ที่บ้าคลั่งปลดปล่อยถี่อย่างลืมตัวลืมตนขนาดนั้นมาก่อน มองเป็นเวลาสิบวินาทีแล้วลีน่าก็หันหน้ามามองฉู่เฉิน จากนั้นยิ้มร้ายกล่าว “คุณฉู่ คุณทำแบบนี้กับเขา ไม่กลัวว่าหลังจากนี้เขาจะ…”ฉู่เฉินได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ถึงกับเงยหน้าหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่ “วางใจได้เลย รอฤทธิ์ยาหมดลง เขาก็จะจำอะไรไม่ได้…”ในขณะที่กล่าวฉู่เฉินก็จดจ้องริมฝีปากเซ็กซี่นั้นของลีน่า แล้วกดบ่าของลีน่าอย่างเบามือ
สีหน้าของแรนด์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อหลังยาควบคุมสตรีสองเม็ดนั้นลงท้อง ไม่ถึงสองนาที แม้แต่ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด“เฮือก…เฮือก…”เมื่อเห็นต่อหน้าต่อตาว่าแรนด์หอบหายใจหนักยกใหญ่ ลีน่าก็เริ่มกลัวขึ้นมาเช่นกัน จึงโน้มตัวไปกล่าวข้างหูฉู่เฉินอย่างระมัดระวังว่า “คุณฉู่ สามีของฉันเขา…เขาคงจะไม่ถูกยาพิษหรอกใช่ไหม?”ดูยังไงแรนด์ในตอนนี้ก็ดูไม่ปกติสุด ๆดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งตรง ๆ ราวกับปลาตาย มองแล้วก็น่ากลัวจริง ๆฉู่เฉินชำเลืองมองแรนด์แล้วยิ้มอ่อนกล่าว “ไม่เป็นไร เขากำลังอุ่นติด”อะไรนะ?“อุ่นติด?”ลีน่ารู้สึกว่าสมองเธอเหมือนใช้การไม่ได้ขึ้นมาบ้างเล็กน้อยในทันใด คนเป็น ๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องจักร อุ่นเครื่องบ้าบออะไรกันน่ะ“เพียะ!”ฉู่เฉินปรมมือเบา ๆ ในไม่นานบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวก็ผลักประตูเข้ามา“คุณผู้ชายท่านนั้นไม่ทราบว่าต้องการอะไรหรือเปล่าคะ?”ฉู่เฉินชำเลืองมองบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวนั้นแล้วยิ้มร้าย “เปิดห้องข้าง ๆ อีกหนึ่งห้อง แล้วช่วยคุณผู้ชายท่านนี้หาผู้หญิงมีอายุมาเป็นเพื่อนกินอาหารด้วยนะครับ”ฉู่เฉินใช้นิ้วชี้ไปยังแรนด์ในขณะพูดบริกรได้
ในขณะกล่าวลีน่าก็โยนสเต๊กในมือของเธอลงบนจานโดยตรง ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันจะไปห้องน้ำด้วย คุณก็คิดหาวิธีเรื่องสัญญาเอาเองแล้วกัน”กล่าวจบเธอก็ออกจากห้องส่วนตัวไปอย่างไม่สบอารมณ์แรนด์อึ้งอยู่ที่เดิมสักพักหรือว่าเขาจะเข้าใจผิดไปจริง ๆ?เมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ลีน่าช่วยเขาพูดตลอดเวลา แรนด์ก็เกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูกถึงแม้ลีน่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน แต่ในช่วงระยะเวลาสองปีมานี้ก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไรมาก่อน……อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับลีน่า“ทำไมคุณฉู่เร็วขนาดนี้คะ?”ลีน่าชำเลืองมองฉู่เฉิน และกล่าวแบบสื่อความหมายอื่นฉู่เฉินล้างมือพร้อมยิ้มบาง ๆ กล่าว “คุณนายแรนด์ คุณคงจะไม่ได้คิดกินต่อหน้าต่อตาคุณแรนด์ใช่ไหมครับ?”ได้ยินดังนั้นลีน่าก็อึ้งไปก่อนตอนแรก จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมายื่นแขนหยกเรียวยาวโอบรอบคอฉู่เฉิน จากนั้นกัดริมฝีปากเบา ๆ กล่าว “คุณฉู่ ที่จริงฉันมาเพื่อขอร้องให้คุณช่วยค่ะ”ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วพยักหน้าเอ่ย “ช่วยอะไรเหรอ?”“คุณฉู่ ฉันได้ยินมาว่าคุณไม่เพียงเก่งในการศึกษาพัฒนาตัวยาใหม่ ๆ แต่ยังมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีอีกด้วย สาม
แรนด์เป็นคนเลือกห้องส่วนตัวนี้ด้วยความตั้งใจคัดสรรมาอย่างดีทันทีที่เข้าประตูมาก็จะเห็นเป็นห้องรับรองขนาดหลายร้อยตารางเมตร และที่ด้านหลังของห้องยังมีฉากกระจกบานหนึ่งซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลรินจากทางด้านหลังแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังฉากกระจกน่าจะเป็นสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และยังมีห้องพักผ่อนหย่อนใจที่มีไฟสีชมพูอยู่ทางด้านข้างบริกรสาวสวยสวมบิกินี่ถุงน่องสีดำขาเรียวยาวต่างสไตล์หลายคนยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเมื่อเห็นฉู่เฉิน แรนด์ก็ฝืนฉีกยิ้มพร้อมลุกขึ้นและกล่าว “คุณฉู่ เชิญนั่งครับ”ฉู่เฉินกวาดสายตามองขาเรียวยาวที่สวมถุงน่องสีดำด้านข้างแล้วก็โบกมือกล่าว “ให้พวกเขาออกไปกันก่อนเถอะ เรื่องคุยธุระสำคัญกว่า”แรนด์ตะลึงไปเล็กน้อย ตามประสบการณ์ของเขา การรับรองแบบนี้ฉู่เฉินไม่น่าจะไม่ชอบนี่นาแต่เห็นท่าทีแน่วแน่ของฉู่เฉินแล้ว เขาก็โบกมือให้บริกรสาวสวยเหล่านั้น หลังจากนั้นทั้งสามก็นั่งล้อมโต๊ะ แรนด์จึงส่งสายตาให้ลีน่า ลีน่ารับรู้อย่างรู้ใจกันได้ในทันที จึงรินแอลกอฮอล์ให้ฉู่เฉินพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มบางเบาขึ้นว่า “คุณฉู่ เพื่อเป็นการคลี่คลายความเข้าใจผิดเมื่อสักครู่ของพว
ราวกับลีน่าได้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เก็บมือที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างกลับมาแล้วยืนตัวตรงทันที จากนั้นสางผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยเมื่อประตูห้องเปิดออก ต้าหลิงจื่อที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ก็โผล่หน้าออกมาชนเข้ากับลีน่าที่อยู่หน้าประตูเข้าอย่างจัง“ว้าย!”ต้าหลิงจื่อตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย ใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าและกล่าว “คุณ…คุณนายลีน่า คุณ…คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”ลีน่ายิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ฉันรอพวกคุณเกือบจะสองชั่วโมงแล้วล่ะ”กล่าวเสร็จไม่รอต้าหลิงจื่อตอบสนองใด ๆ ลีน่าก็ผลักประตูเข้าไปข้างในฉู่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังก็เก็บกางเกงบ็อกเซอร์ขึ้นมาโดยไม่ลนลาน แล้วหันหลังใส่มันช้า ๆ จากนั้นหยิบบุหรี่หนึ่งในขึ้นมาจุดและกล่าวพร้อมชำเลืองมองลีน่า “มีธุระเหรอ?”ลีน่ามองสำรวจกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของฉู่เฉินด้วยใบหน้าแดงก่ำและยิ้มน้อยกล่าว “คุณฉู่ สามีฉันคิดว่าการร่วมธุรกิจระหว่างพวกเรายังสามารถเจรจากันอีกได้ค่ะ”“เงื่อนไขสามารถปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้งสภาพแวดล้อมในห้องทำงานก็เคร่งเครียดเกินไป เขาจึงจองห้องอาหารส่วนตัวที่ภัตตาคารไห่เฟิงไว้แล้ว หวังว่าคุณฉู่จะให้เกียรติมาร่
เมื่อเห็นว่ารอบนี้ลีน่าเอาจริง แรนด์จึงเริ่มร้อนใจและคว้าข้อมือของลีน่าไว้พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ลีน่า ความรู้สึกที่ยาวนานขนาดนั้นของพวกเรา…”ความรู้สึก?ลีน่าอยากจะขำให้ท้องแข็งตายเมื่อได้ยินคำนี้ ตอบพร้อมกลอกตาใส่แรนด์ด้วยสีหน้ารังเกียจ “คุณป่วยหนักอยู่นะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสนใจในทรัพย์สมบัติของคุณ คุณคิดว่าฉันจะมาคบคุณเหรอ?”“คุณทั้งแก่และขี้เหร่ หลงใหลระยะสั้นๆ ทำมาพูดเรื่องความรู้สึกรักชอบ ช่างน่าเสียความรู้สึกจริง ๆ โอเคไหม?”ไม่เสแสร้งแล้ว เปิดใจทั้งหมดใบหน้าชราของแรนด์อมทุกข์จนราวกับจะมีน้ำตาหยดลงมา แต่ก็ไม่มีปัญญา ใครให้ผู้หญิงคนนี้ชำนาญในด้านนั้นกันล่ะหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ แล้วแรนด์ก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาจึงกัดฟันพูดขึ้นว่า “คุณ…คุณโทรไปเรียกเขามาสิ ผมเป็นเจ้าภาพเอง ให้ไปกินข้าวและพูดคุยกันที่ภัตตาคารไห่เฟิง”แรนด์ไม่อาจยอมได้ แต่ก็พ่ายแพ้ในการพูดคุยแล้ว สิ่งที่เขาสูญเสียนั้นมากเกินไปแล้วจริง ๆไม่เพียงถูกคนจากฝ่ายทหารตามไล่ฆ่า แถมผู้หญิงข้างกายเขาก็จะจากเขาไปไกลอีกถ้าเป็นแค่ผู้หญิงทั่วไปก็ช่างเถอะปัญหาคือขาทั้งสองข้างของลีน่าแรงดีมาก แล้วยังหนีบเก่งอีกสิ่งที
วินาทีต่อมา เธอเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบแหวกชุดทำงานออก แล้วแกะกระดุมตรงหน้าอกออกสองเม็ด ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าอกทั้งสองข้างจากนั้นก็เห็นว่ารอยแผลตกสะเก็ดหลุดออกหมดแล้ว ผิวที่เกิดใหม่เรียบเนียนราวกับของใหม่ทำให้ต้าหลิงจื่อตะลึงงัน ฉู่เฉินมองลูกแพร์ขนาดใหญ่สองลูกที่ส่องประกายแวววาวก็ตกตะลึงไปเช่นกัน“ว้าย” ผ่านไปพักใหญ่ ต้าหลิงจื่อถึงค่อยสังเกตเห็นว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของฉู่เฉิน แถมยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างกึ่งโป๊กึ่งมิดชิด เธอรู้สึกเขินอายมากทันที ก่อนจะรีบยืนตัวตรง เอามือดึงกางเกงที่แทบจะถกมาถึงต้นขา“คะ...คุณชายฉู่ ขะ...ขอโทษด้วยค่ะ เมื่อกี้ฉัน...”ยังไม่ทันที่ต้าหลิงจื่อจะพูดจบ ปากขนาดใหญ่ก็ปิดริมฝีปากแดงของเธอกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของชายชาตรีถาโถมใส่หน้า ต้าหลิงจื่อสิ้นฤทธิ์ในพริบตา เธอไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อโดนแขนที่ทรงพลังโอวเอวไว้ ราวกับเขื่อนที่พังทลาย ไม่อาจควบคุมได้เลย“แควก!” ฉู่เฉินฉีกถุงน่องของต้าหลิงจื่อออกทันที ก่อนจะพลิกมือกดต้าหลิงจื่อลงบนโต๊ะทำงาน“คุณชายฉู่ บะ...เบาหน่อยค่ะ ฉันไม่ได้ทำแบบนี้
แม้แต่ต้าหลิงจื่อที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่ฉู่เฉินทำตอนที่หลิ่วหรูเยียนกับหลิ่วชิงเหอแม่ลูกเจรจาความร่วมมือกับคนอื่น เธอก็อยู่ด้วย แต่ว่าสามปีมานี้ เธอยังไม่เคยเห็นการเจรจาความร่วมมือแบบนี้มาก่อนเลยมิน่าล่ะหลิ่วหรูเยียนถึงบอกให้ฉู่เฉินมาเจรจา บารมีบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลักษณ์ของฉู่เฉินในใจของต้าหลิงจื่อคล้ายกับยิ่งใหญ่ขึ้นไม่น้อย“ฮึ คุณฉู่ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณก็ได้ ในเมื่อคุณไม่เห็นค่า งั้นพวกเราก็ขอตัวแล้ว” แรนด์กระแทกถ้วยกาแฟในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วงดังปัง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะดึงลีน่าขึ้นมาแล้วหันกายเดินจากไป “เอ๊ะ...”เมื่อเห็นสามีภรรยาแรนด์เดินจากไปแล้วจริงๆ ต้าหลิงจื่อกำลังคิดจะเรียกพวกเขาให้หยุด แต่โดนฉู่เฉินยื่นมือมาขวางไว้“คุณฉู่...”“ให้พวกเขาไสหัวไป”เสียงของฉู่เฉินไม่ดังไม่เบา แต่สามีภรรยาแรนด์กลับได้ยินชัดเจน “คุณ...”แรนด์หันหน้ามาถลึงตาใส่ฉู่เฉินด้วยความแค้นใจ คำว่าไสหัวไปครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้แม้กระทั่งทางลงกับเขาเลยจริง ๆในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อยากไปก็ไม่ได้แล้วดูท่าข้อมู
หน้าอกใหญ่สองลูกนั้นราวกับอาวุธสังหารที่สั่นไหวเล็กน้อยไปตามลมหายใจ เหมือนจะดันเสื้อเชิ้ตสีเบจบนตัวเธอให้ปริได้ทุกเมื่อ ส่วนเรียวขาใหญ่ยาวงดงามที่แข็งแรงและไม่เสียทรงสองข้างเปล่งประกายสีทองแดงแวววาวจากการอาบแดดบนชายหาดแม้ว่าผิวจะไม่ขาวเนียน ทว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าให้ความรู้สึกงดงามสุขภาพดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งริมฝีปากที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนนั้น แค่มองก็ทำให้คนเกิดความคิดหุนหันอยากจะถูกเธออมไว้ในปากนัยน์ตาโตสีฟ้า ประกอบกับขนตาเรียวยาว แค่กะพริบตาเหลือบมองกลับมาก็เปี่ยมไปด้วยความเสน่หานี่แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นผลผลิตจากอำนาจของเงินตราเมื่อเห็นฉู่เฉิน สามีภรรยาคู่นี้ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นเป็นสาวสวยชาวตะวันตกคนนั้นที่ยิ้มให้ฉู่เฉินก่อนแล้วพูดว่า “คุณน่าจะเป็นคุณฉู่เฉินสินะ?” สาวสวยชาวตะวันตกพูดพลางส่ายเรียวขางามแข็งแรงอยู่บนรองเท้าสายรัดส้นเข็ม เดินเข้ามาหาฉู่เฉิน ก่อนจะยื่นมือไปจับมือกับฉู่เฉิน “ผมคือฉู่เฉิน ไม่ทราบว่าพวกคุณคือ?”ฉู่เฉินจับมือเรียวงามนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกของสาวสวยชาวตะวันตกอย่างเป็นมิตรมาก สายตากวาดมองหน้าอกของเธอแวบหนึ่ง ร่องอกนั้นสามารถซุกคนทั้งเป็นเข้าไปได้เลย