คำพูดของหลิ่วหรูเยียนแทงใจดำของป้าอู๋ ทำให้ป้าอู๋ใบหน้าค่อยๆ แดงระเรื่อพูดตามตรงนะ วันนี้ตอนบ่ายป้าอู๋อดทนขั้นสุดเลยล่ะโดยเฉพาะในขณะที่หลิ่วหรูเยียนกำลังทำศึกอยู่ เสียงเสพสุขของเธอก็ดังผ่านเข้ามาในหู ยิ่งทำให้จิตใจของป้าอู๋เหมือนมีไฟแผดเผา เธออิจฉาสุดๆ ไปเลย!ป้าอู๋ประสบการณ์เหลือล้น เธอสงสัยแค่เล็กน้อย หลังจากนั้นสีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นปกติ “คุณหนูคะ คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง ถึง... ฉันโหยหาผู้ชาย ฉันก็คงไม่โหยหาฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่นหรอกค่ะ”“ฉะ... ฉันก็พูดเพื่อพวกเรานั่นแหละค่ะ คุณลองคิดดูสิคะ ฉู่ซื่อกรุ๊ปแต่เดิมเป็นมรดกของพ่อแม่ฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่น เขาจะมองดูให้คนอื่นมาแย่งไปงั้นเหรอคะ?”“อีกอย่าง ณ ตอนนี้ผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างแตกออกเป็นส่วนๆ ไปตั้งนานแล้ว ใครจะยอมช่วยเหลือพวกเราอย่างเต็มใจเหมือนฉู่เฉินล่ะคะ?”เมื่อได้ยินป้าอู่พูดแบบนี้ หลิ่วหรูเยียนก็พยักหน้าเห็นด้วย“เหมือนที่เขาพูดกันว่านานๆ ไปเดี๋ยวก็รักกัน เขาเห็นแก่ความสัมพันธ์ของคุณหนูและตัวเขา เขาไม่มีทางมองดูเฉยๆ แล้วไม่ช่วยเหลือหรอกค่ะ”ป้าอู๋เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมีท่าทีที่อ่อนลง เธอก็รีบอาศัยจังหวะ
“ฉันรู้จักที่หนึ่งค่ะ ร้านนั้นสเต๊กอร่อยแบบออริจินอลเลยค่ะ อีกอย่าง... ข้างบนยังมีอาบน้ำออนเซ็นด้วยค่ะ”พูดถึงประโยคสุดท้าย ใบหน้าของหลินชือหย่าก็แดงก่ำเพราะความเขินอาย เธองดงามมากจริงๆฉู่เฉินที่ยุ่งมาทั้งวัน ตอนนี้เขาหิวสุดๆ ไปเลยล่ะ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า “ก็ได้นะครับ งั้นผมรอคุณอยู่ข้างล่างตึกบริษัทนะครับ”ผ่านไปไม่นาน รถของฉู่เฉินพึ่งจอดที่หน้าประตูตึกทำงานของหลินซื่อกรุ๊ป หลินซือหย่าก็ผลักประตูรถเข้ามาเพื่อการเดตในเย็นวันนี้ หลินซือหย่าตั้งใจเลือกชุดซีทรูมาเลยนอกจากส่วนสำคัญอื่นๆ แล้ว ไหล่ขาวเนียนและขาเรียวยาวนั่นก็เผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนดีไซน์รัดเอสยิ่งทำให้รูปร่างที่สุดแสนจะเซ็กซี่ของหลินชือหย่าโดดเด่นขึ้นมา บนลำคอขาวของเธอก็มีสร้อยคริสตัลที่สุดแสนจะประณีต เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงไฟในตอนกลางคืนก็ยิ่งส่องประกายสะดุดตาผู้คนการแต่งกายชุดนี้ของหลินชือหย่าชุดนี้ เปรียบดั่งไข่มุกเจิดจรัสเม็ดหนึ่งเลยล่ะ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็งดงามอย่างไร้ที่ติในตอนที่หลินชือหย่าเดินออกมาจากตึกทำงาน ก็สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ผ่านไปผ่านมาแม้ว่าฉู่เฉินจะผ่านโลกมามากมาย แต่
“พี่เหรอ?”หลินชือหย่าหันไปมองตามเสียง ตอนที่เธอเห็นว่าเป็นชายหนุ่ม ใบหน้าของเธอก็มีรอยยิ้มที่ตกใจและยินดีก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอเธอวางแก้วในมือลง รีบวิ่งเข้าไปโพลกอดชายหนุ่มคนนั้น หลังจากนั้นก็ดึงชายหนุ่มคนนั้นมาที่โต๊ะ พูดกับฉู่เฉินว่า “ฉู่เฉินคะ นี่คือถานเหวินหลงลูกพี่ลูกน้องของฉันค่ะ”พูดจบ เธอกำลังชี้ไปที่ฉู่เฉินกำลังเตรียมตัวจะแนะนำให้ถานเหวินหลงรู้จักแต่ไม่รอให้หลินชือหย่าปริปากพูด ถานเหวินหลงใบหน้าก็เปี่ยมไปด้วยความเคารพแล้วพูดขึ้นมาว่า “ คุณฉู่ผู้โด่งดังไม่จำเป็นต้องแนะนำหรอก”พูดจบ ถานเหวินหลงยื่นมือให้ฉู่เฉินอย่างระมัดระวังแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่สวัสดีครับ การแข่งขันแพทย์แผนจีนก่อนหน้านี้ผมได้ดูมาหมดแล้ว เทคนิคการแพทย์ของคุณเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์เลยล่ะครับ”ฉู่เฉินยิ้มบางๆ แล้วกล่าวว่า “เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นแหละครับ คุณก็พูดเกินไป นั่งเถอะครับ”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็ผายมือเชิญนั่งให้กับถานเหวินหลงถานเหวินหลงยิ้มเจื่อนๆ มองไปที่หลินชือหย่าแล้วพูดขึ้นมาว่า “ชือหย่า เอ่อ... พี่คงไม่ได้รบกวนเธอกับคุณฉู่หรอกใช่ไหม?”หลินชือหย่าเมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าสวย
“ปรมาจารย์ผู้นั้นเขาไม่สนใจเรื่องการแต่งตัว เขาสนใจแค่ผู้หญิงเป็นพิเศษ ดังนั้น...”เชี่ย!หลินชือหย่าคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ตระกูลเซียวกล้าสร้างฮาเร็มในเมืองแบบนี้แต่ว่าพอลองคิดดูมันก็ถูกนะ สถานที่ที่ยิ่งอันตรายยิ่งปลอดภัยฉู่เฉินเหลือบมองไปที่ถานเหวินหลง เขาพูดขึ้นมาอย่างครุ่นคิด “สหายถานเคยคิดเปลี่ยนเจ้านายไหมครับ”ถานเหวินหลงอึ้งไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ฉู่เฉินด้วยความสงสัย เขายิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “พูดตามตรงนะครับ ถ้ามันมีทางเลือกอื่นให้ผม ผมไม่ทำงานนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ผมมีหนี้เยอะมาก พวกเจ้าหนี้ก็มาทวงหนี้จนจะถึงที่บ้านอยู่แล้ว นอกจากแซ่เซียวแล้ว ยังจะมีบริษัทไหนกล้ารับผมเข้าทำงานอีกล่ะครับ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง แล้วพูดกับหลินชือหย่าว่า “คุณลองหาตำแหน่งให้พี่คุณทำสักตำแหน่งดีไหมครับ ใช้คนของตัวเองน่าจะสบายใจกว่าใช้คนนอกนะครับ”หลินชือหย่าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจความต้องการของฉู่เฉิน แต่เธอก็พยักหน้าตอบรับถานเหวินหลงดีใจแน่นอนอยู่แล้ว สามารถทำงานที่หลินซื่อกรุ๊ปได้จะต้องดีกว่าทำที่ตระกูลเซียวแน่นอนกินข้าวเย็นเสร็จ หล
“คุณทำอะไรน่ะ ไม่เห็นตัวหนังสือว่าห้ามลูกค้าเข้าหรือไง?”ฉู่เฉินเพิ่งจะผลักประตูออกมาจากทางหนีไฟ ชายร่างกำยำสวมชุดคล่องตัวสีดำไว้ทรงผมสั้นเกรียนมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา“ผมได้ยินว่าท่านรองตระกูลเซียวอยู่ข้างในเลยอยากไปเยี่ยมเขาสักหน่อย รบกวนคุณช่วยเปิดทางให้ด้วยครับ”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน ยิ้มยิงฟันให้ชายในชุดคล่องตัวขณะเดียวกันสายตาก็มองไปที่ระเบียงทางเดินแวบหนึ่งในระเบียงทางเดินมีชายในชุดคล่องตัวยืนเรียงรายกันสองแถว ซึ่งแต่ละคนมีพลังฝึกปรืออยู่ประมาณระดับฝึกปราณชั้นสามกันเกือบทุกคน นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือสี่คนที่สวมชุดคลุม พลังไม่ด้อยไปกว่าระดับฝึกปราณชั้นสี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องส่วนตัวด้านในสุด มีความเป็นไปได้สูงว่าเซียวจี้กวางกับคนที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์จากสำนักอวี้ซือคนนั้นก็อยู่ในห้องส่วนตัวแห่งนั้นด้วยเมื่อแน่ใจแล้ว ฉู่เฉินก็เดินไปทางห้องส่วนตัวโดยไม่รอให้ชายในชุดคล่องตัวคนนั้นตอบกลับ “หยุดนะ!”ชายในชุดคล่องตัวเห็นฉู่เฉินเดินตรงไปยังห้องพักที่ท่านรองเซียวกับปรมาจารย์ข่งพักผ่อนอยู่ราวกับเข้าไปยังเขตไร้ผู้คน เขาก็เดือดดาลฉับพลัน ก่
ปรมาจารย์ข่งได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ่งออกแรงหนักขึ้นไปอีกทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจหนักหน่วงของเขากับเซียวจี้กวาง และเสียงหอบหายใจของสาวสวยผมทองสองคนปัง!ในตอนนี้เอง ประตูห้องส่วนตัวพลันถูกคนเตะกระเด็น! ฟิ้ว!เซียวจี้กวางที่อยู่ใกล้หน้าประตูที่สุดรู้สึกได้ถึงลมกระโชกแรงพุ่งตรงมาทางตัวเอง เขาตกใจกลัวจนรีบพลิกตัวกลิ้งลงจากเตียงไปที่พื้นประตูไม้แท้บานนั้นพุ่งอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเฉียดผ่านร่างสาวสวยผมทอง ไปหาปรมาจารย์ข่งที่กำลังยุ่งอยู่!“ใคร!”ทันทีที่ปรมาจารย์ข่งพูดจบ เวลาเดียวกันเขาก็ยกมือชี้นิ้วออกไป!“ตูม!”ประตูไม้แท้บานนั้นถูกพลังปราณที่เขาซัดออกมาระเบิดจนกลายเป็นเศษไม้กลางอากาศฉู่เฉินเอาสองมือล้วงกระเป๋า เดินจากหน้าประตูเข้ามาในห้องส่วนตัวพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆเซียวจี้กวางกับปรมาจารย์ข่งลุกขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน สาวสวยผมทองสองคนก็กรีดร้องเสียงแหลมติดต่อกันด้วยความตกใจกลัวกับฉากเมื่อกี้ ก่อนจะคว้าผ้าห่มบนเตียงขึ้นมาแล้วเข้าไปซ่อนตัวในมุมตัวสั่นระริก"คุณเป็นใคร? ใครส่งคุณมา?"เซียวจี้กวงหรี่ตาจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต“คนที่จะมาเอาชีวิตคุณไง!”ฉู่เฉินยิ
“ผมขอเตือนคุณนะ ร่างกายคนเรามีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น ผมมีความอดทนพอ สามารถหักมันได้ทีละชิ้นนะครับ”ฉู่เฉินปรายตาลงมองเซียวจี้กวางที่เหงื่อเย็น ๆ แตกพลั่กออกมาราวกับสายฝน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “นอกจากนี้ ผมรับรองได้เลยว่าจะให้คุณได้สัมผัสกระบวนการทั้งหมดโดยที่มีสติครบถ้วน”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด จ้องมองฉู่เฉินไม่วางตาแล้วพูดว่า “คะ...คุณมันบ้า! คุณมันปีศาจ! ตะ... ตระกูลเซียวของผมไม่มีวันปล่อย...”กร๊อบ!เสียงแตกหักดังขึ้นอีกครั้ง เซียวจี้กวางเจ็บจนเหมือนกับเขามองเห็นคุณย่าของตัวเองที่ไปสวรรค์แล้ว แต่เรื่องน่าแปลกคือ ครั้งนี้เขาไม่เพียงไม่ได้หมดสติ ตรงกันข้ามความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้สติของเขาแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกเซลล์ทั่วทั้งร่างกายกำลังส่งสัญญาณความเจ็บปวดมาให้เขา“พี่ชาย... ไม่ ๆ คุณปู่! ผะ...ผมบอกแล้ว!”เมื่อเห็นฉู่เฉินเหยียบต้นขาของเขาอีกครั้ง เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนรีบคว้ากอดรองเท้าหนังของฉู่เฉินไว้ พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการวิงวอนว่า “เกาเซิ่งอี้ให้ผมหาหยกชิ้นหนึ่งจากบ้านแม่ลูกตระกูลหลิ่ว”“
“ผมคิดว่าคนแซ่เซียวไม่น่าจะจ้างคนระดับคุณไหวหรอก พูดมา ใครส่งคุณมา?”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“เกาเซิ่งอี้! เป็นไอ้สารเลวเกาเซิ่งอี้!” “เกาเซิ่งอี้ไม่ได้แค่ต้องการฆ่าหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวเท่านั้น แต่เขายังอยากฉวยโอกาสยึดอำนาจควบคุมฉู่ซื่อกรุ๊ปด้วย เท่าที่ผมรู้มา ผู้ก่อตั้งฉู่ซื่อกรุ๊ปเหมือนจะมีสมบัติตกทอดอยู่ชิ้นหนึ่ง”“เพราะว่าเกาเซิ่งอี้ใฝ่ฝันถึงสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา ถึงได้...ถึงได้จ้องฉู่ซื่อกรุ๊ปตาเป็นมัน นอกจากนี้ต้วนโส่วอี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฉู่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกเกาเซิ่งอี้ซื้อตัวไปแล้ว”“พวกเขาวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวออกจากตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกสองวันข้างหน้า จากนั้นก็จะค้นหาสมบัติชิ้นนั้นของตระกูลฉู่ผ่านทางหุ่นเชิดที่สนับสนุน”“น้องชาย เรื่องที่ผมรู้ก็มีแค่นี้ เห็นแก่ที่ทุกคนเป็นคนวงการเดียวกัน ครั้งนี้คุณก็ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมรับรองว่าจากนี้ไปผมไม่กล้าเข้าสู่ทางโลกอีกแน่นอน”ฉู่เฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางมองข่งเลี่ยงแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นเป็นของตกทอดจากตระกูลฉู่เหรอ?” “ใช่แล้วครับ!”ข่งเล
“แดนมังกรของพวกเรามีคำพูดที่ว่า สิ่งที่หูได้ยินอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง สิ่งที่ตาเห็นต่างหากจึงจะเป็นเรื่องจริง”กล่าวแล้วฉู่เฉินก็ยกตะเกียบอันหนึ่งจากโต๊ะแล้วสะบัดมือจนตะเกียบพุ่งทะลุกำแพงห้องข้าง ๆ ทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นจูงมือลีน่ามายังข้างผนังกำแพง แล้วชี้ไปยังรูบนกำแพงพร้อมยิ้มบางกล่าว “ได้เห็นก็จะรู้เอง”ลีน่าประหลาดใจกับทักษะของฉู่เฉินในขณะเดียวกันกับมองผ่านรูเล็ก ๆ นั้นโดยไม่อาจต้านทานความอยากรู้อยากเห็นได้ เมื่อมองแวบแรกแม้แต่ลีน่าก็สับสนอย่างสิ้นเชิงในที่สุดตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรถึงได้เสนอความต้องการแบบนั้นกับบริกรเมื่อสักครู่นี้ไปต่อให้ลีน่าอยู่กับแรนด์มาสองปีแล้วก็ยังไม่เคยเห็นแรนด์ที่บ้าคลั่งปลดปล่อยถี่อย่างลืมตัวลืมตนขนาดนั้นมาก่อน มองเป็นเวลาสิบวินาทีแล้วลีน่าก็หันหน้ามามองฉู่เฉิน จากนั้นยิ้มร้ายกล่าว “คุณฉู่ คุณทำแบบนี้กับเขา ไม่กลัวว่าหลังจากนี้เขาจะ…”ฉู่เฉินได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ถึงกับเงยหน้าหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่ “วางใจได้เลย รอฤทธิ์ยาหมดลง เขาก็จะจำอะไรไม่ได้…”ในขณะที่กล่าวฉู่เฉินก็จดจ้องริมฝีปากเซ็กซี่นั้นของลีน่า แล้วกดบ่าของลีน่าอย่างเบามือ
สีหน้าของแรนด์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อหลังยาควบคุมสตรีสองเม็ดนั้นลงท้อง ไม่ถึงสองนาที แม้แต่ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด“เฮือก…เฮือก…”เมื่อเห็นต่อหน้าต่อตาว่าแรนด์หอบหายใจหนักยกใหญ่ ลีน่าก็เริ่มกลัวขึ้นมาเช่นกัน จึงโน้มตัวไปกล่าวข้างหูฉู่เฉินอย่างระมัดระวังว่า “คุณฉู่ สามีของฉันเขา…เขาคงจะไม่ถูกยาพิษหรอกใช่ไหม?”ดูยังไงแรนด์ในตอนนี้ก็ดูไม่ปกติสุด ๆดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งตรง ๆ ราวกับปลาตาย มองแล้วก็น่ากลัวจริง ๆฉู่เฉินชำเลืองมองแรนด์แล้วยิ้มอ่อนกล่าว “ไม่เป็นไร เขากำลังอุ่นติด”อะไรนะ?“อุ่นติด?”ลีน่ารู้สึกว่าสมองเธอเหมือนใช้การไม่ได้ขึ้นมาบ้างเล็กน้อยในทันใด คนเป็น ๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องจักร อุ่นเครื่องบ้าบออะไรกันน่ะ“เพียะ!”ฉู่เฉินปรมมือเบา ๆ ในไม่นานบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวก็ผลักประตูเข้ามา“คุณผู้ชายท่านนั้นไม่ทราบว่าต้องการอะไรหรือเปล่าคะ?”ฉู่เฉินชำเลืองมองบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวนั้นแล้วยิ้มร้าย “เปิดห้องข้าง ๆ อีกหนึ่งห้อง แล้วช่วยคุณผู้ชายท่านนี้หาผู้หญิงมีอายุมาเป็นเพื่อนกินอาหารด้วยนะครับ”ฉู่เฉินใช้นิ้วชี้ไปยังแรนด์ในขณะพูดบริกรได้
ในขณะกล่าวลีน่าก็โยนสเต๊กในมือของเธอลงบนจานโดยตรง ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันจะไปห้องน้ำด้วย คุณก็คิดหาวิธีเรื่องสัญญาเอาเองแล้วกัน”กล่าวจบเธอก็ออกจากห้องส่วนตัวไปอย่างไม่สบอารมณ์แรนด์อึ้งอยู่ที่เดิมสักพักหรือว่าเขาจะเข้าใจผิดไปจริง ๆ?เมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ลีน่าช่วยเขาพูดตลอดเวลา แรนด์ก็เกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูกถึงแม้ลีน่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน แต่ในช่วงระยะเวลาสองปีมานี้ก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไรมาก่อน……อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับลีน่า“ทำไมคุณฉู่เร็วขนาดนี้คะ?”ลีน่าชำเลืองมองฉู่เฉิน และกล่าวแบบสื่อความหมายอื่นฉู่เฉินล้างมือพร้อมยิ้มบาง ๆ กล่าว “คุณนายแรนด์ คุณคงจะไม่ได้คิดกินต่อหน้าต่อตาคุณแรนด์ใช่ไหมครับ?”ได้ยินดังนั้นลีน่าก็อึ้งไปก่อนตอนแรก จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมายื่นแขนหยกเรียวยาวโอบรอบคอฉู่เฉิน จากนั้นกัดริมฝีปากเบา ๆ กล่าว “คุณฉู่ ที่จริงฉันมาเพื่อขอร้องให้คุณช่วยค่ะ”ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วพยักหน้าเอ่ย “ช่วยอะไรเหรอ?”“คุณฉู่ ฉันได้ยินมาว่าคุณไม่เพียงเก่งในการศึกษาพัฒนาตัวยาใหม่ ๆ แต่ยังมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีอีกด้วย สาม
แรนด์เป็นคนเลือกห้องส่วนตัวนี้ด้วยความตั้งใจคัดสรรมาอย่างดีทันทีที่เข้าประตูมาก็จะเห็นเป็นห้องรับรองขนาดหลายร้อยตารางเมตร และที่ด้านหลังของห้องยังมีฉากกระจกบานหนึ่งซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลรินจากทางด้านหลังแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังฉากกระจกน่าจะเป็นสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และยังมีห้องพักผ่อนหย่อนใจที่มีไฟสีชมพูอยู่ทางด้านข้างบริกรสาวสวยสวมบิกินี่ถุงน่องสีดำขาเรียวยาวต่างสไตล์หลายคนยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเมื่อเห็นฉู่เฉิน แรนด์ก็ฝืนฉีกยิ้มพร้อมลุกขึ้นและกล่าว “คุณฉู่ เชิญนั่งครับ”ฉู่เฉินกวาดสายตามองขาเรียวยาวที่สวมถุงน่องสีดำด้านข้างแล้วก็โบกมือกล่าว “ให้พวกเขาออกไปกันก่อนเถอะ เรื่องคุยธุระสำคัญกว่า”แรนด์ตะลึงไปเล็กน้อย ตามประสบการณ์ของเขา การรับรองแบบนี้ฉู่เฉินไม่น่าจะไม่ชอบนี่นาแต่เห็นท่าทีแน่วแน่ของฉู่เฉินแล้ว เขาก็โบกมือให้บริกรสาวสวยเหล่านั้น หลังจากนั้นทั้งสามก็นั่งล้อมโต๊ะ แรนด์จึงส่งสายตาให้ลีน่า ลีน่ารับรู้อย่างรู้ใจกันได้ในทันที จึงรินแอลกอฮอล์ให้ฉู่เฉินพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มบางเบาขึ้นว่า “คุณฉู่ เพื่อเป็นการคลี่คลายความเข้าใจผิดเมื่อสักครู่ของพว
ราวกับลีน่าได้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เก็บมือที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างกลับมาแล้วยืนตัวตรงทันที จากนั้นสางผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยเมื่อประตูห้องเปิดออก ต้าหลิงจื่อที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ก็โผล่หน้าออกมาชนเข้ากับลีน่าที่อยู่หน้าประตูเข้าอย่างจัง“ว้าย!”ต้าหลิงจื่อตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย ใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าและกล่าว “คุณ…คุณนายลีน่า คุณ…คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”ลีน่ายิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ฉันรอพวกคุณเกือบจะสองชั่วโมงแล้วล่ะ”กล่าวเสร็จไม่รอต้าหลิงจื่อตอบสนองใด ๆ ลีน่าก็ผลักประตูเข้าไปข้างในฉู่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังก็เก็บกางเกงบ็อกเซอร์ขึ้นมาโดยไม่ลนลาน แล้วหันหลังใส่มันช้า ๆ จากนั้นหยิบบุหรี่หนึ่งในขึ้นมาจุดและกล่าวพร้อมชำเลืองมองลีน่า “มีธุระเหรอ?”ลีน่ามองสำรวจกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของฉู่เฉินด้วยใบหน้าแดงก่ำและยิ้มน้อยกล่าว “คุณฉู่ สามีฉันคิดว่าการร่วมธุรกิจระหว่างพวกเรายังสามารถเจรจากันอีกได้ค่ะ”“เงื่อนไขสามารถปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้งสภาพแวดล้อมในห้องทำงานก็เคร่งเครียดเกินไป เขาจึงจองห้องอาหารส่วนตัวที่ภัตตาคารไห่เฟิงไว้แล้ว หวังว่าคุณฉู่จะให้เกียรติมาร่
เมื่อเห็นว่ารอบนี้ลีน่าเอาจริง แรนด์จึงเริ่มร้อนใจและคว้าข้อมือของลีน่าไว้พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ลีน่า ความรู้สึกที่ยาวนานขนาดนั้นของพวกเรา…”ความรู้สึก?ลีน่าอยากจะขำให้ท้องแข็งตายเมื่อได้ยินคำนี้ ตอบพร้อมกลอกตาใส่แรนด์ด้วยสีหน้ารังเกียจ “คุณป่วยหนักอยู่นะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสนใจในทรัพย์สมบัติของคุณ คุณคิดว่าฉันจะมาคบคุณเหรอ?”“คุณทั้งแก่และขี้เหร่ หลงใหลระยะสั้นๆ ทำมาพูดเรื่องความรู้สึกรักชอบ ช่างน่าเสียความรู้สึกจริง ๆ โอเคไหม?”ไม่เสแสร้งแล้ว เปิดใจทั้งหมดใบหน้าชราของแรนด์อมทุกข์จนราวกับจะมีน้ำตาหยดลงมา แต่ก็ไม่มีปัญญา ใครให้ผู้หญิงคนนี้ชำนาญในด้านนั้นกันล่ะหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ แล้วแรนด์ก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาจึงกัดฟันพูดขึ้นว่า “คุณ…คุณโทรไปเรียกเขามาสิ ผมเป็นเจ้าภาพเอง ให้ไปกินข้าวและพูดคุยกันที่ภัตตาคารไห่เฟิง”แรนด์ไม่อาจยอมได้ แต่ก็พ่ายแพ้ในการพูดคุยแล้ว สิ่งที่เขาสูญเสียนั้นมากเกินไปแล้วจริง ๆไม่เพียงถูกคนจากฝ่ายทหารตามไล่ฆ่า แถมผู้หญิงข้างกายเขาก็จะจากเขาไปไกลอีกถ้าเป็นแค่ผู้หญิงทั่วไปก็ช่างเถอะปัญหาคือขาทั้งสองข้างของลีน่าแรงดีมาก แล้วยังหนีบเก่งอีกสิ่งที
วินาทีต่อมา เธอเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบแหวกชุดทำงานออก แล้วแกะกระดุมตรงหน้าอกออกสองเม็ด ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าอกทั้งสองข้างจากนั้นก็เห็นว่ารอยแผลตกสะเก็ดหลุดออกหมดแล้ว ผิวที่เกิดใหม่เรียบเนียนราวกับของใหม่ทำให้ต้าหลิงจื่อตะลึงงัน ฉู่เฉินมองลูกแพร์ขนาดใหญ่สองลูกที่ส่องประกายแวววาวก็ตกตะลึงไปเช่นกัน“ว้าย” ผ่านไปพักใหญ่ ต้าหลิงจื่อถึงค่อยสังเกตเห็นว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของฉู่เฉิน แถมยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างกึ่งโป๊กึ่งมิดชิด เธอรู้สึกเขินอายมากทันที ก่อนจะรีบยืนตัวตรง เอามือดึงกางเกงที่แทบจะถกมาถึงต้นขา“คะ...คุณชายฉู่ ขะ...ขอโทษด้วยค่ะ เมื่อกี้ฉัน...”ยังไม่ทันที่ต้าหลิงจื่อจะพูดจบ ปากขนาดใหญ่ก็ปิดริมฝีปากแดงของเธอกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของชายชาตรีถาโถมใส่หน้า ต้าหลิงจื่อสิ้นฤทธิ์ในพริบตา เธอไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อโดนแขนที่ทรงพลังโอวเอวไว้ ราวกับเขื่อนที่พังทลาย ไม่อาจควบคุมได้เลย“แควก!” ฉู่เฉินฉีกถุงน่องของต้าหลิงจื่อออกทันที ก่อนจะพลิกมือกดต้าหลิงจื่อลงบนโต๊ะทำงาน“คุณชายฉู่ บะ...เบาหน่อยค่ะ ฉันไม่ได้ทำแบบนี้
แม้แต่ต้าหลิงจื่อที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่ฉู่เฉินทำตอนที่หลิ่วหรูเยียนกับหลิ่วชิงเหอแม่ลูกเจรจาความร่วมมือกับคนอื่น เธอก็อยู่ด้วย แต่ว่าสามปีมานี้ เธอยังไม่เคยเห็นการเจรจาความร่วมมือแบบนี้มาก่อนเลยมิน่าล่ะหลิ่วหรูเยียนถึงบอกให้ฉู่เฉินมาเจรจา บารมีบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลักษณ์ของฉู่เฉินในใจของต้าหลิงจื่อคล้ายกับยิ่งใหญ่ขึ้นไม่น้อย“ฮึ คุณฉู่ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณก็ได้ ในเมื่อคุณไม่เห็นค่า งั้นพวกเราก็ขอตัวแล้ว” แรนด์กระแทกถ้วยกาแฟในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วงดังปัง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะดึงลีน่าขึ้นมาแล้วหันกายเดินจากไป “เอ๊ะ...”เมื่อเห็นสามีภรรยาแรนด์เดินจากไปแล้วจริงๆ ต้าหลิงจื่อกำลังคิดจะเรียกพวกเขาให้หยุด แต่โดนฉู่เฉินยื่นมือมาขวางไว้“คุณฉู่...”“ให้พวกเขาไสหัวไป”เสียงของฉู่เฉินไม่ดังไม่เบา แต่สามีภรรยาแรนด์กลับได้ยินชัดเจน “คุณ...”แรนด์หันหน้ามาถลึงตาใส่ฉู่เฉินด้วยความแค้นใจ คำว่าไสหัวไปครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้แม้กระทั่งทางลงกับเขาเลยจริง ๆในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อยากไปก็ไม่ได้แล้วดูท่าข้อมู
หน้าอกใหญ่สองลูกนั้นราวกับอาวุธสังหารที่สั่นไหวเล็กน้อยไปตามลมหายใจ เหมือนจะดันเสื้อเชิ้ตสีเบจบนตัวเธอให้ปริได้ทุกเมื่อ ส่วนเรียวขาใหญ่ยาวงดงามที่แข็งแรงและไม่เสียทรงสองข้างเปล่งประกายสีทองแดงแวววาวจากการอาบแดดบนชายหาดแม้ว่าผิวจะไม่ขาวเนียน ทว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าให้ความรู้สึกงดงามสุขภาพดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งริมฝีปากที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนนั้น แค่มองก็ทำให้คนเกิดความคิดหุนหันอยากจะถูกเธออมไว้ในปากนัยน์ตาโตสีฟ้า ประกอบกับขนตาเรียวยาว แค่กะพริบตาเหลือบมองกลับมาก็เปี่ยมไปด้วยความเสน่หานี่แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นผลผลิตจากอำนาจของเงินตราเมื่อเห็นฉู่เฉิน สามีภรรยาคู่นี้ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นเป็นสาวสวยชาวตะวันตกคนนั้นที่ยิ้มให้ฉู่เฉินก่อนแล้วพูดว่า “คุณน่าจะเป็นคุณฉู่เฉินสินะ?” สาวสวยชาวตะวันตกพูดพลางส่ายเรียวขางามแข็งแรงอยู่บนรองเท้าสายรัดส้นเข็ม เดินเข้ามาหาฉู่เฉิน ก่อนจะยื่นมือไปจับมือกับฉู่เฉิน “ผมคือฉู่เฉิน ไม่ทราบว่าพวกคุณคือ?”ฉู่เฉินจับมือเรียวงามนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกของสาวสวยชาวตะวันตกอย่างเป็นมิตรมาก สายตากวาดมองหน้าอกของเธอแวบหนึ่ง ร่องอกนั้นสามารถซุกคนทั้งเป็นเข้าไปได้เลย