หยวนคุนเอ่ยด้วยรอยยิ้มเรียบนิ่งว่า “คุณฉู่โปรดวางใจ สมาคมหงเหมินไม่ใช่สถานที่ไร้กฎเกณฑ์”หยวนคุนพูดจบ สีหน้าพลันเย็นชาขึ้นมา ก่อนจะเบนศีรษะเล็กน้อยแล้วพูดกับถังหลงที่อยู่ข้างหลังว่า “หลัวจื้อหย่งลวนลามสุภาพสตรี ลงโทษตามกฎสมาคม!”“ครับ!”ถังหลงตอบรับคำ ก่อนจะก้าวไปหาหลัวจื้อหย่ง“ไว้ชีวิตด้วยครับ คุณฉู่... ผมผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ ช่วยพูดให้ผมด้วยเถอะ ผมผิดไปแล้วจริง ๆ ผมมันไม่ใช่คน... อ๊าก!”หลัวจื้อหย่งเพิ่งพูดได้ครึ่งเดียวก็เห็นถังหลงเข้ามาใกล้ ก่อนจะยื่นมือไปจับแขนของหลัวจื้อหย่ง แล้วใช้เข่าข้างหนึ่งกระแทกเข้าที่ลำคอของหลัวจื้อหย่ง“กร๊อบ!” เสียงดังชัดเจน ถังหลงกระชากแขนข้างหนึ่งของหลัวจื้อหย่งลงมาอย่างรุนแรงหลัวจื้อหย่งเจ็บจนร้องโหยหวน หมดสติไปทันทีถังหลงโยนแขนโชกเลือดให้ชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านข้าง ก่อนจะเอามือชี้ไปที่หลัวจื้อหย่งแล้วพูดกับสองคนที่อยู่ข้างหลังว่า “พาตัวไป!” “ครับ!”พวกเขาหามหลัวจื้อหย่งที่บาดเจ็บจนลุกไม่ไหว แล้วเดินออกไปจากห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็วแม้แต่ฉู่เฉินที่เห็นฉากนี้ก็อดเลิกคิ้วไม่ได้ มองไปทางหยวนคุนด้วยความประหลาดใจอย่างมากหยวนคุนยิ้มเล
สัมผัสที่นุ่มลื่นทำให้ฉู่เฉินอดมองไปทางเจียงถิงด้วยความประหลาดใจไม่ได้ยัยนี่คงไม่ได้โดนอะไรกระตุ้นมาใช่ไหม?ทำไมจู่ ๆ ถึงได้โผเข้ามาในอ้อมกอดเองล่ะ“คุณฉู่ ฉันมีข้อสงสัยมาตลอด ทำไมก่อนหน้านี้คุณถึงช่วยตระกูลหลูคว้าโครงการบูรณะสะพานเจียงมาได้ล่ะ ฉันคิดว่าด้วยเส้นสายของคุณฉู่ ไม่เห็นจำเป็นต้องเอาใจตระกูลหลูเลยนะ?” เจียงถิงพูดพลางค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากที่นั่งข้างคนขับ ก่อนจะโน้มตัวลงมานั่งคร่อมตักของฉู่เฉินทันทีเส้นผมสีดำเต็มศีรษะของเธอปล่อยสยายลงมา กลิ่นหอมสดชื่นโชยเข้ามาในจมูกของฉู่เฉินริมฝีปากเล็กสีเชอร์รี่นั้นพลันแตะบนริมฝีปากของฉู่เฉินราวกับแมลงปอสัมผัสน้ำ ก่อนจะผละออกมาอย่างรวดเร็วหน้าอกนุ่มนิ่มสองข้างแนบชิดหน้าอกของฉู่เฉิน“คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้มเล็กน้อย ยื่นมือไปลูบคลำเอวบางของเจียงถิงจำเป็นต้องพูดว่าถึงแม้เจียงถิงจะเป็นพี่สะใภ้ของเจียงอิ่ง แต่ความจริงแล้ว เธออายุน้อยกว่าเจียงอิ่งสองปีไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือว่าผิวพรรณล้วนดูแลรักษาได้ดีกว่าเจียงอิ่งนอกจากนี้ด้วยลักษณะงานของเจียงถิง ทำให้ตัวเธอมีความสง่างามเป็นเอกลักษณ์พิธีกร ตรงกันข้ามกับสไตล์ใสซื่อบริสุท
ปกติแล้ว ดูเย็นชาสูงส่งราวกับหงส์ขาวที่เย่อหยิ่ง ให้ความรู้สึกเหมือนทำได้เพียงมองชมอยู่ไกล ๆ ไม่อาจล้อเล่นได้ แต่พอลงมือจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยั่วยวนหรือว่าควบคุมขอบเขต เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบทั้งหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะที่เสนอเงื่อนไขนี้ เลือกได้พอเหมาะพอดีต่อให้ฉู่เฉินไม่อยากรับปากอะไรกับเธอ ก็คงไม่อาจพูดคำว่า NO กับเธอในช่วงเวลาครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้หรอกใช่ไหม?“ก็แค่ตัวประกอบเล็ก ๆ ที่ขึ้นเวทีไม่ได้เท่านั้น ประสบความสำเร็จอะไรไม่ได้ แต่ผมคิดว่าสถานีโทรทัศน์อาจจะไม่เหมาะกับคุณ”ฉู่เฉินผลักริมฝีปากของเจียงถิงออก แล้วดันหลังของเธอจนติดกับพวงมาลัยรถ แย่งชิงสิทธิ์ในการรุกกลับคืนมาก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มร้าย“จริงเหรอ?”เจียงถิงหอบอย่างไร้เรี่ยวแรงพลางเอ่ยถามด้วยความดีใจอย่างคาดไม่ถึงเห็นได้ชัดมากว่าฉู่เฉินตั้งใจจะให้เธอออกจากสถานีโทรทัศน์แล้วเริ่มต้นเส้นทางอื่นแต่ในใจของเจียงถิงกำลังเต้นระรัวอยู่จริง ๆ ถึงอย่างไรสาขาวิชาของเธอก็คือการกระจายเสียงแพร่ภาพ แทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับอาชีพอื่นเลยและด้วยสถานะเช่นนี้ของฉู่เฉิน ไม่มีทางเก็บซ่อนไว้ในห้องไม่ให้พบผู้คนได้เลยยิ่งไปกว่
เชี่ย!ฉู่เฉินที่เปิดกระจกรถสูบบุหรี่อยู่ริมป่าละเมาะ ได้ยินคำพูดนี้ของเจียงถิงชัดเจนยัยนี่ช่างเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือจริง ๆ การโกหกอาจจะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้แม้แต่เจียงอิ่งก็พูดโกหกได้ไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่ว่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงอย่างเจียงถิงแล้ว ก็ยังห่างชั้นกันมากเกินไปคำโกหกที่ร้ายกาจที่สุดของผู้หญิงก็คือการแสร้งทำตัวน่าสงสารไปด้วย พูดโกหกกึ่งจริงกึ่งเท็จไปด้วยต่อหน้าผู้ชายต่อให้สักวันหนึ่งที่หลูไคหมิงกับจางหมิงเผชิญหน้ากันก็ไม่อาจเปิดโปงเจียงถิงได้เหมือนกันดูเหมือนว่าต้องระมัดระวังผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้นเมื่อคิดได้ดังนี้ ฉู่เฉินก็หรี่ตา โทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของเจียงอิ่งเวลานี้ เจียงอิ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟากับหลูไคซานกันสองคน หันหน้าเข้าหากันโดยที่เข่าชนกัน ความเงียบที่นี่ดังก้องยิ่งกว่ามีเสียงเสียอีก ทันใดนั้นเองเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้เจียงอิ่งกับหลูไคซานตกใจจนสะดุ้งโหยง“หลูไคซาน ฉันบอกคุณแล้วตั้งแต่วันที่สองของการแต่งงานว่าฉันไม่ได้เป็นภรรยาของคุณแล้ว”“ตอนนี้ คุณอย่าคิดแตะต้องฉันแม้แต่ปลายนิ้วอีก!”“ถ้าเกิดคุณอยากทำเรื่องแบบนั้นให้ได้ก
เจียงอิ่งพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อสถานที่ตรงนี้ห่างจากคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลหลูไม่ถึงสามสิบเมตรถ้าเกิดไฟถนนสว่างขึ้นอีกหน่อย แม้แต่คนในรถหน้าตาแบบไหนก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเลยนะ!นี่มันไม่ต่างอะไรกับการเอากับเจียงถิงใต้หน้าต่างห้องของหลูไคหมิงเลยไม่ใช่เหรอ?“อ้อ เมื่อกี้เธอบอกว่ารู้สึกไม่สบาย ผมเลยช่วยเปิดเส้นลมปราณให้เธอ”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“แถมยังเปิดจนโล่งมากเลยใช่ไหม”ดวงหน้าเล็กของเจียงอิ่งหน้าซีดเผือด กลอกตาใส่ฉู่เฉินอย่างรุนแรงคราวนี้กลายเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้วจริง ๆ“อืม จริงสิ เรื่องโครงการบูรณะสะพานเจียง ดูเหมือนว่าต่อให้คุณไม่อยากรับก็ไม่ได้แล้วละ ตอนนี้ตระกูลหลูถูกเฉียวเทียนฉี่เพ่งเล็งแล้ว จะต้องมีคนไปรับโครงการนี้ ผมไม่อยากให้คนอื่นมาชุบมือเปิบไป ดังนั้น...”ฉู่เฉินพูดพลางยื่นมือไปโอบเจียงอิ่งเข้ามาในอ้อมแขน“ฮึ!”เจียงอิ่งแค่นเสียงอย่างงอน ๆ กำหมัดนุ่มนิ่มทุบแผงอกของฉู่เฉินพลางกล่าวว่า “คุณใกล้ชิดกับเจียงถิงแบบถึงเนื้อถึงตัวแล้ว ทำไมยังให้ฉันมารับงานอีกล่ะ?” “อีกอย่าง เส้นสายของเธอในวงการต่าง ๆ ของเจียงจงเหนือกว่าฉันเยอะมาก คุณให้เธอมารับงานจะดีกว
ฉู่เฉินและเจียงอิ่งอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อผลักประตูเข้าไปในห้องแล้วได้เห็นอาหารและเครื่องดื่มจัดวางเต็มโต๊ะไว้ก่อนแล้วหลูไคซานนี่คือจัดงานเลี้ยงเพื่อพูดคุยสัพเพเหระเหรอะ?“คุณฉู่ เชิญนั่งครับ”หลูไคซานลากเก้าอี้แล้วนั่งลงเองในขณะพูดฉู่เฉินไปนั่งตรงข้ามหลูไคซานอย่างเฉยเมย เจียงอิ่งทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มานั่งข้างฉู่เฉิน จงใจเว้นระยะห่างจากหลูไคซาน“คุณฉู่น่าจะแปลกใจมากสินะ?”หลูไคซานฝืนยิ้มกล่าวพร้อมเทเหล้าให้ฉู่เฉินฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยกล่าว “ที่จริงก็แปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ตามที่คาดไว้”ได้ยินแล้วหลูไคซานเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ นัยน์ตาเผยความเย็นชาครู่เดียว และก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา หลูไคซานคำนวณสักพักแล้วจึงกล่าวตามที่ครุ่นคิด “คุณฉู่ ผมคิดอย่างละเอียดแล้ว เรื่องระหว่างคุณกับเจียงอิ่งนั้น ผมจะไม่คัดค้าน กลับกันจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วย”“กระทั่งว่าถ้าคุณฉู่สะดวกมาพักที่บ้าน ผมก็ยอมรับได้”ซี้ดๆ!บัดซบ คำพูดของหลูไคซานทำเอาแม้แต่ฉู่เฉินยังต้องสูดลมเย็นเข้าปากนี่มันคำพูดโหดร้ายอะไร?“คุณฉู่ ผมมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ นั่นก็คือทำให้ผมกลับไปทำงานข้างกายผู้ว่าการเฉียวอีกครั้ง ส่วน
แต่ทันทีที่ข่าวการล่มสลายของตระกูลหลูแพร่กระจายไปทั่วเมืองเจียงจง อนาคตที่รอคอยตระกูลหลูอยู่นั้นอาจจะน่าอัปยศอดสูมากกว่าสิบเท่าพันเท่าเมื่อเทียบกับการสละภรรยาดังสุภาษิตที่ว่า จงแสวงหาข้อดีและหลีกเลี่ยงข้อเสีย แม้ว่าจะมีผลเสียอยู่สองประการ แต่ต้องเลือกผลเสียที่น้อยกว่า“เขาก็ไม่น่าทำแบบนี้เลย”เจียงอิ่งกำหมัดกัดฟันกล่าว“งั้นเธอลองช่วยเขาคิดสิ ควรจะทำยังไง?”ขณะฉู่เฉินพูดอยู่ก็ยื่นมือไปลูบต้นขาเรียวสวยของเจียงอิ่ง“ไปซะ!”เจียงอิ่งกลอกตาใส่ฉู่เฉินพร้อมกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ให้ฉันไปข้างบ้านเรียกเจียงถิงมาให้คุณไหม?”แค่กๆ…ฉู่เฉินกระแอมขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เมื่อผู้หญิงหึงหวงขึ้นมาความกล้าทวีคูณจริงๆ นี่เป็นลานใหญ่ของตระกูลหลูเชียวนะแม้ว่าหลูไคซานไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหลูไคหมิงจะไม่ใส่ใจนะ เขาไม่ใช่พวกชอบเพศเดียวกันสักหน่อย“เวลาก็ผ่านไปสักพักใหญ่แล้ว หลูไคซานไปเดินเล่นที่ลานบ้านแล้ว พวกเราก็ต้องทำเวลากันหน่อย เผื่อคนอื่นๆ ในตระกูลหลูบุกเข้ามา นั่นจะเป็นการผิดต่อความตั้งใจดีของหลูไคซานได้นะ?”ฉู่เฉินกล่าวเสร็จก็อุ้มเจียงอิ่งขึ้นแล้วมุ่งไปยังห้องนอน“คุณ
อะไรนะ?!ถูกฉู่เฉินคาบไปกินแล้ว?!คำพูดสั้นๆของเจียงถิง ราวกับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ต่อเนื่องสำหรับหลูไคหมิงจริงๆการโทรสามสี่สายของฉู่เฉินทำให้ตระกูลหลูพังทลาย ตอนนี้แม้แต่ภรรยาก็ถูกฉู่เฉินคาบไปกินแล้วแม่มันสิ!กลิ่นเหล้าของหลูไคหมิงโชยขึ้นรอบกายทันทีพร้อมกับความโมโหในทรวงอกที่เดือดปุดๆ เช่นกัน สายตาแดงก่ำด้วยความแค้นจ้องเจียงถิงพร้อมกล่าว “หญิงชั่ว กล้าทำให้ฉันเป็นคนโง่!”เมื่อเห็นว่าหลูไคหมิงเริ่มควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้แล้ว เจียงถิงก็เริ่มกลัวหน้าซีดไปเล็กน้อยจึงรีบกล่าวเสริม “นายคิดว่า ทำไมฉู่เฉินจะต้องช่วยตระกูลหลูของพวกนายเอาโปรเจกต์ฟื้นฟูสะพานเจียงล่ะ?”อะไรนะ?หลูไคหมิงได้ยินแล้วสมองก็สั่งให้ใจเย็นลงทันทีใช่แล้ว!ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าฉู่เฉินไม่ได้มีส่วนสำคัญในหลายๆ เรื่องของตระกูลหลู แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉู่ซื่อกรุ๊ปก็ทำให้เขาได้เข้าใจที่แท้ไม่ว่าการเลื่อนตำแหน่งเลขาธิการผู้ว่าการของไคซานหรือโครงการฟื้นฟูสะพานเจียง เบื้องหลังล้วนมีเงาของฉู่เฉินอยู่แต่ฉู่เฉินไม่มีเหตุผลที่จะช่วยตระกูลหลูโดยไร้เงื่อนไขนี่“ปล่อยฉันนะ!”เจียงถิงรีบผลักตัวหลูไคหมิงออกใ
ระยะนี้คำชี้แนะจากอวี้ลู่ รวมถึงวิชาที่ฉู่เฉินมอบให้เธอ ความเร็วในการพัฒนาของอินซู่ซู่จึงรวดเร็วสุดขีด แต่เวลาครึ่งเดือนกว่าสั้น ๆ ก็บรรลุระดับฝึกปราณชั้นห้าแล้วห่างจากการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติร่างกายแค่ก้าวเดียวเท่านั้นการเปลี่ยนแปลงของอินซู่ซู่อยู่ในสายตาของฉู่เฉินเช่นกัน ก่อนที่เขาจะนึกยินดีในใจของเพียงปรับเปลี่ยนสำเร็จ อินซู่ซู่ก็จะกลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรที่ยอดเยี่ยมที่สุดจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ฉู่เฉินถึงค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้ามาที่ลานบ้าน ทำการชี้แนะอินซู่ซู่อย่างละเอียด จากนั้นค่อยออกจากบ้านไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วเวลานี้ หลิ่วหรูเยียนที่รอคอยด้วยความกังวลใจให้ป้าอู๋จัดเตรียมอาหารและเหล้าไว้เรียบร้อยนานแล้ว เธออาบน้ำแต่งตัวไปพลาง รอการมาเยือนของฉู่เฉินไปพลางเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหลิ่วหรูเยียน ป้าอู๋ย่อมดีใจถ้าเกิดจากนี้ไปฉู่เฉินมา “เป็นแขก” ที่บ้านบ่อย ๆ ต่อให้ไม่อาจมอบความเมตตาได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าแม่น้ำสายใหญ่มีน้ำ ลำธารเล็ก ๆ ย่อมไม่เหือดแห้งให้ความชุ่มชื้นเป็นบางครั้งก็สามารถบรรเทาอาการคันของสาวใหญ่ที่เปลี่ยวเหงาอย่างเธอได้ “ป้าอู๋ ป้าคิดว่าชุดนี
ช่วงบ่ายวันนั้น ฉู่เฉินตั้งใจนำของว่างท้องถิ่นสิบกว่าอย่างกลับไปยังบ้านเก่าของตระกูลฉู่ พูดตามตรง ความสามารถของสำนักอวี้ซือไม่อาจดูแคลนได้จริง ๆ ตอนนี้ฉู่เฉินเองก็อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานชั้นแรกเท่านั้นต่อให้เป็นคนมุทะลุ เมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานห้าคนก็เกินความสามารถที่จะทำได้อยู่บ้างเหมือนกันสถานการณ์ชักจะน่าปวดหัวนิดหน่อยแล้วสถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือพาอวี้ลู่แฝงตัวเข้าไปในสำนักอวี้ซือ กำจัดพวกยอดฝีมือในสำนักด้วยกัน จากนั้นค่อยยืมมือข่งเลี่ยงควบคุมสำนักอวี้ซือไว้ทั้งหมดว่ากันว่าพอติดค้างบุญคุณคนอื่นแล้วก็จะใจอ่อน ฉู่เฉินไม่ได้เตรียมแค่ของว่างท้องถิ่นให้อวี้ลู่เท่านั้น เขายังตั้งใจซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงรุ่นใหม่ทั้งหมดในห้างสรรพสินค้าของเมืองเอกประจำมณฑลกลับมาด้วย อวี้ลู่เห็นฉู่เฉินถือของกินอร่อย ๆ ไว้ในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ถือชุดสวย ๆ เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ จากที่เธอรู้จักหมอตัวน้อยคนนี้ เขาไม่ใช่คนที่คอยเอาอกเอาใจโดยไม่มีเหตุผล“ของกินอร่อย ๆ กับชุดสวย ๆ เยอะขนาดนี้ พูดมาเถอะ มีเรื่องที่ต้องการให้ข้าช่วยเหลือใช่หรือเปล่า?”อวี้ลู่กินปูผัดเผ็ดไปด้วย เอ่ยพล
“เธอถ่ายรูปหลิ่วชิงเหอแล้วส่งมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ หัวหน้าหลูต้องการสอบถามเกี่ยวกับคดี” ไม่รอให้หลิ่วหรูเยียนพูดจบ ฉู่เฉินขัดขึ้นทันทีหลิ่วหรูเยียนอึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะพยักหน้าเอ่ยติดต่อกันว่า “ได้ ฉันจะส่งให้นายเดี๋ยวนี้”ไม่นานนัก ภาพถ่ายของหลิ่วชิงเหอที่มีจ้ำศพเต็มตัวก็ถูกส่งมาหลายใบฉู่เฉินทำการปรับภาพอย่างง่าย ๆ อีกครั้ง จากนั้นค่อยส่งให้หัวหน้าหลูแล้วพูดว่า “หัวหน้าหลู รบกวนคุณช่วยดูด้วยครับ รอยช้ำสีดำบนตัวหลิ่วชิงเหอพวกนี้ก็คือจ้ำศพ”หัวหน้าหลูพยักหน้าหนัก ๆ แล้วพูดว่า “คุณฉู่ ช่วยส่งหลักฐานที่คุณให้มาเมื่อกี้ให้ผมได้ไหมครับ? แล้ววันมะรืน...”ฉู่เฉินรีบทำมือบ่งบอกว่าให้เงียบเสียง แล้วมองกลุ่มตำรวจที่อยู่ด้านหลังหลูติ้งไห่แวบหนึ่งหลูติ้งไห่เข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ทุกคนที่อยู่ด้านหลัง “พวกคุณออกไปรอกันให้หมด”“ครับ!”พวกตำรวจรีบถอยออกมาจากในห้องส่วนตัวหลังจากที่ฉู่เฉินแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบฟัง เขาค่อยโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูของหลูติ้งไห่หลูติ้งไห่ฟังแล้วก็พยักหน้าติดต่อกัน สุดท้ายค่อยก็ยกนิ้วโป้งให้ฉู่เฉิน “คุณฉู่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊จริง ๆ ฉลาดล้ำลึกมาก”“แต่ว่า ตระกู
ควบคุมสำนักอวี้ซือ?ข่งเลี่ยงเคยฝันถึง แต่มันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อฉู่เฉินสามารถฆ่าบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักอวี้ซือ แล้วก็ต้องกำจัดเจ้าสำนักเสียก่อน ปัญหาคือฉู่เฉินมีความสามารถขนาดนั้นเหรอ?“น้องชาย ขอเพียงคุณสามารถกำจัดเจ้าสำนักและผู้อาวุโสอีกหกคนได้ ผมมั่นใจว่าสามารถทำให้สำนักอวี้ซือยอมศิโรราบต่อคุณได้”ข่งเลี่ยงพูดด้วยความมั่นใจฉู่เฉินยิ้มพลางพยักหน้ากล่าวว่า “ดี ตอนนี้คุณสาบานมาว่าจะภักดีจนตาย”หา?ข่งเลี่ยงเงยหน้ามองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบสาบานทันทีว่า “ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อ...”“ฉู่เฉิน”ฉู่เฉินพูดชื่อของตัวเองออกมาอย่างเฉยชา“ผมข่งเลี่ยงขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฉู่เฉินจนตาย หากผิดคำสาบาน ขอให้ฟ้าผ่า ไฟคลอก จมน้ำ ไม่ตายดี!”ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของข่งเลี่ยง ฉู่เฉินก็วาดยันต์ยื่นสัตย์สาบานกลางอากาศ แล้วชี้นิ้วออกไปประทับลงบนหว่างคิ้วของข่งเลี่ยงเปรี้ยง!ข่งเลี่ยงรู้สึกได้เพียงราวกับมีสายฟ้าฟาดในสมอง เหมือนมีสิ่งลึกลับบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในร่างกาย ทำให้ข่งเลี่ยงตกใจกลัวจนหลั่งเหงื่อเย็น ๆ ออกมาทั่วทั้งร่าง!ในฐานะผู้บำเพ็ญเพียรเหมือนกัน
“ผมคิดว่าคนแซ่เซียวไม่น่าจะจ้างคนระดับคุณไหวหรอก พูดมา ใครส่งคุณมา?”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“เกาเซิ่งอี้! เป็นไอ้สารเลวเกาเซิ่งอี้!” “เกาเซิ่งอี้ไม่ได้แค่ต้องการฆ่าหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวเท่านั้น แต่เขายังอยากฉวยโอกาสยึดอำนาจควบคุมฉู่ซื่อกรุ๊ปด้วย เท่าที่ผมรู้มา ผู้ก่อตั้งฉู่ซื่อกรุ๊ปเหมือนจะมีสมบัติตกทอดอยู่ชิ้นหนึ่ง”“เพราะว่าเกาเซิ่งอี้ใฝ่ฝันถึงสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเขา ถึงได้...ถึงได้จ้องฉู่ซื่อกรุ๊ปตาเป็นมัน นอกจากนี้ต้วนโส่วอี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของฉู่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกเกาเซิ่งอี้ซื้อตัวไปแล้ว”“พวกเขาวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอกับลูกสาวออกจากตำแหน่งในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกสองวันข้างหน้า จากนั้นก็จะค้นหาสมบัติชิ้นนั้นของตระกูลฉู่ผ่านทางหุ่นเชิดที่สนับสนุน”“น้องชาย เรื่องที่ผมรู้ก็มีแค่นี้ เห็นแก่ที่ทุกคนเป็นคนวงการเดียวกัน ครั้งนี้คุณก็ไว้ชีวิตผมเถอะ ผมรับรองว่าจากนี้ไปผมไม่กล้าเข้าสู่ทางโลกอีกแน่นอน”ฉู่เฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางมองข่งเลี่ยงแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นเป็นของตกทอดจากตระกูลฉู่เหรอ?” “ใช่แล้วครับ!”ข่งเล
“ผมขอเตือนคุณนะ ร่างกายคนเรามีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น ผมมีความอดทนพอ สามารถหักมันได้ทีละชิ้นนะครับ”ฉู่เฉินปรายตาลงมองเซียวจี้กวางที่เหงื่อเย็น ๆ แตกพลั่กออกมาราวกับสายฝน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “นอกจากนี้ ผมรับรองได้เลยว่าจะให้คุณได้สัมผัสกระบวนการทั้งหมดโดยที่มีสติครบถ้วน”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด จ้องมองฉู่เฉินไม่วางตาแล้วพูดว่า “คะ...คุณมันบ้า! คุณมันปีศาจ! ตะ... ตระกูลเซียวของผมไม่มีวันปล่อย...”กร๊อบ!เสียงแตกหักดังขึ้นอีกครั้ง เซียวจี้กวางเจ็บจนเหมือนกับเขามองเห็นคุณย่าของตัวเองที่ไปสวรรค์แล้ว แต่เรื่องน่าแปลกคือ ครั้งนี้เขาไม่เพียงไม่ได้หมดสติ ตรงกันข้ามความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้สติของเขาแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าทุกเซลล์ทั่วทั้งร่างกายกำลังส่งสัญญาณความเจ็บปวดมาให้เขา“พี่ชาย... ไม่ ๆ คุณปู่! ผะ...ผมบอกแล้ว!”เมื่อเห็นฉู่เฉินเหยียบต้นขาของเขาอีกครั้ง เซียวจี้กวางก็ตกใจกลัวจนรีบคว้ากอดรองเท้าหนังของฉู่เฉินไว้ พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการวิงวอนว่า “เกาเซิ่งอี้ให้ผมหาหยกชิ้นหนึ่งจากบ้านแม่ลูกตระกูลหลิ่ว”“
ปรมาจารย์ข่งได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ่งออกแรงหนักขึ้นไปอีกทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจหนักหน่วงของเขากับเซียวจี้กวาง และเสียงหอบหายใจของสาวสวยผมทองสองคนปัง!ในตอนนี้เอง ประตูห้องส่วนตัวพลันถูกคนเตะกระเด็น! ฟิ้ว!เซียวจี้กวางที่อยู่ใกล้หน้าประตูที่สุดรู้สึกได้ถึงลมกระโชกแรงพุ่งตรงมาทางตัวเอง เขาตกใจกลัวจนรีบพลิกตัวกลิ้งลงจากเตียงไปที่พื้นประตูไม้แท้บานนั้นพุ่งอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเฉียดผ่านร่างสาวสวยผมทอง ไปหาปรมาจารย์ข่งที่กำลังยุ่งอยู่!“ใคร!”ทันทีที่ปรมาจารย์ข่งพูดจบ เวลาเดียวกันเขาก็ยกมือชี้นิ้วออกไป!“ตูม!”ประตูไม้แท้บานนั้นถูกพลังปราณที่เขาซัดออกมาระเบิดจนกลายเป็นเศษไม้กลางอากาศฉู่เฉินเอาสองมือล้วงกระเป๋า เดินจากหน้าประตูเข้ามาในห้องส่วนตัวพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆเซียวจี้กวางกับปรมาจารย์ข่งลุกขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน สาวสวยผมทองสองคนก็กรีดร้องเสียงแหลมติดต่อกันด้วยความตกใจกลัวกับฉากเมื่อกี้ ก่อนจะคว้าผ้าห่มบนเตียงขึ้นมาแล้วเข้าไปซ่อนตัวในมุมตัวสั่นระริก"คุณเป็นใคร? ใครส่งคุณมา?"เซียวจี้กวงหรี่ตาจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต“คนที่จะมาเอาชีวิตคุณไง!”ฉู่เฉินยิ
“คุณทำอะไรน่ะ ไม่เห็นตัวหนังสือว่าห้ามลูกค้าเข้าหรือไง?”ฉู่เฉินเพิ่งจะผลักประตูออกมาจากทางหนีไฟ ชายร่างกำยำสวมชุดคล่องตัวสีดำไว้ทรงผมสั้นเกรียนมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา“ผมได้ยินว่าท่านรองตระกูลเซียวอยู่ข้างในเลยอยากไปเยี่ยมเขาสักหน่อย รบกวนคุณช่วยเปิดทางให้ด้วยครับ”ฉู่เฉินเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน ยิ้มยิงฟันให้ชายในชุดคล่องตัวขณะเดียวกันสายตาก็มองไปที่ระเบียงทางเดินแวบหนึ่งในระเบียงทางเดินมีชายในชุดคล่องตัวยืนเรียงรายกันสองแถว ซึ่งแต่ละคนมีพลังฝึกปรืออยู่ประมาณระดับฝึกปราณชั้นสามกันเกือบทุกคน นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือสี่คนที่สวมชุดคลุม พลังไม่ด้อยไปกว่าระดับฝึกปราณชั้นสี่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องส่วนตัวด้านในสุด มีความเป็นไปได้สูงว่าเซียวจี้กวางกับคนที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์จากสำนักอวี้ซือคนนั้นก็อยู่ในห้องส่วนตัวแห่งนั้นด้วยเมื่อแน่ใจแล้ว ฉู่เฉินก็เดินไปทางห้องส่วนตัวโดยไม่รอให้ชายในชุดคล่องตัวคนนั้นตอบกลับ “หยุดนะ!”ชายในชุดคล่องตัวเห็นฉู่เฉินเดินตรงไปยังห้องพักที่ท่านรองเซียวกับปรมาจารย์ข่งพักผ่อนอยู่ราวกับเข้าไปยังเขตไร้ผู้คน เขาก็เดือดดาลฉับพลัน ก่
“ปรมาจารย์ผู้นั้นเขาไม่สนใจเรื่องการแต่งตัว เขาสนใจแค่ผู้หญิงเป็นพิเศษ ดังนั้น...”เชี่ย!หลินชือหย่าคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ตระกูลเซียวกล้าสร้างฮาเร็มในเมืองแบบนี้แต่ว่าพอลองคิดดูมันก็ถูกนะ สถานที่ที่ยิ่งอันตรายยิ่งปลอดภัยฉู่เฉินเหลือบมองไปที่ถานเหวินหลง เขาพูดขึ้นมาอย่างครุ่นคิด “สหายถานเคยคิดเปลี่ยนเจ้านายไหมครับ”ถานเหวินหลงอึ้งไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ฉู่เฉินด้วยความสงสัย เขายิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “พูดตามตรงนะครับ ถ้ามันมีทางเลือกอื่นให้ผม ผมไม่ทำงานนี้ตั้งนานแล้ว”“แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ผมมีหนี้เยอะมาก พวกเจ้าหนี้ก็มาทวงหนี้จนจะถึงที่บ้านอยู่แล้ว นอกจากแซ่เซียวแล้ว ยังจะมีบริษัทไหนกล้ารับผมเข้าทำงานอีกล่ะครับ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง แล้วพูดกับหลินชือหย่าว่า “คุณลองหาตำแหน่งให้พี่คุณทำสักตำแหน่งดีไหมครับ ใช้คนของตัวเองน่าจะสบายใจกว่าใช้คนนอกนะครับ”หลินชือหย่าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจความต้องการของฉู่เฉิน แต่เธอก็พยักหน้าตอบรับถานเหวินหลงดีใจแน่นอนอยู่แล้ว สามารถทำงานที่หลินซื่อกรุ๊ปได้จะต้องดีกว่าทำที่ตระกูลเซียวแน่นอนกินข้าวเย็นเสร็จ หล