“กะ...แกกล้าให้ฉันคุกเข่าให้แก ไม่กลัวตระกูลหยางของฉันแก้แค้นเลยหรือไง?” ไม่ว่าจะพูดอีกอย่างไร หยางเทียนหลงก็เป็นผู้นำตระกูลสาขานี้ของตระกูลหยาง ให้เขายอมรับผิดได้ แต่จะให้เขาคุกเข่าไม่ได้เป็นอันขาด“แก้แค้น?”ฉู่เฉินหัวเราะ มองหยางเทียนหลงอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “ผมกลับอยากฟังว่าคุณจะเอาอะไรมาแก้แค้นผม? สวะไร้ค่ากลุ่มนี้เหรอ? หรือว่าแข่งกับผมว่าใครรวยกว่ากัน?”“มหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง? นั่นน่าจะเป็นเรื่องเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมั้ง ผมก็ใช้เงินฟาดตระกูลของพวกคุณให้ตายได้” “ไม่คุกเข่าก็ตายซะ!”เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปาก แม้แต่หยางเทียนหลงก็สูดลมหายใจเย็นเยียบในสมองพลันมีคำหนึ่งแล่นแวบขึ้นมา— ‘ยาบำรุงปราณ’ในฐานะที่เป็นตระกูลชั้นนำของเจียงจง ตระกูลหยางย่อมรู้ข่าวเรื่องยาบำรุงปราณที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าไปทั่วทั้งมณฑลเจียงนอกจากนี้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์สั้น ๆ บริษัทลึกลับแห่งหนึ่งได้อาศัยสำนักเฟิ่งกอบโกยรายได้ไปเกือบหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านในมณฑลเจียงแม้แต่หยางเทียนหลงก็ค่อนข้างรู้สึกหวั่นเกรงสินทรัพย์ก้อนนี้เหนือกว่าตระกูลหยางในตอนนี้ไปไกลแล้วเพียงแต่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น บริษัทท
ฉู่เฉินมองหยางเทียนหลงที่คุกเข่าลงตรงหน้าแล้วเอ่ยพลางหัวเราะหยันว่า “ถ้าเกิดผมขุดหลุมศพบรรพบุรุษตระกูลหยางของพวกคุณ แล้วค่อยขอโทษคุณอีกที คุณคิดว่ายังไงบ้าง?”หยางเทียนหลงอึ้งไปกับคำถามของฉู่เฉิน เงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึงก่อนจะมองฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ ผมคุกเข่าให้คุณแล้ว คุณยังอยากให้ตระกูลหยางทำอะไรอีก!” ฉู่เฉินส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ขอโทษด้วยครับ บางทีในสายตาของคนอื่น เข่าของคุณอาจจะมีค่ามาก แต่ในสายตาของผมฉู่เฉิน มันไม่มีค่าแม้แต่สตางค์เดียว” “ลูกชายคุณทำให้ผมเสียเวลามากขนาดนี้ คุณคิดว่าเวลาของผมไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?”ฉู่เฉินกล่าวจบก็เล่าเรื่องการเดิมพันกับหยางเส้าหัวให้ฟังรอบหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยตบไหล่ของหยางเทียนหลงเบา ๆ แล้วพูดว่า “เอาแบบนี้ละกัน ให้ตระกูลหยางของพวกคุณออกเงินค่ารถทั้งหมด”“ส่วนเรื่องที่เขาทำให้ผมเสียเวลาตลอดทั้งบ่าย ตระกูลหยางของพวกคุณจ่ายเงินห้าพันล้านก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรสินะ?”ตูม!ไม่ใช่แค่ทุกคนในที่แห่งที่นี้รู้สึกมึนงง แม้แต่หยางเทียนหลงก็รู้สึกว่าสมองไม่พอใช้นิดหน่อยแล้ว งานนี้ฉู่เฉินไม่ได้เสียเงินเลยสักแดงเดียว แต่ได้อวดเบ่งยกใหญ่ ห
สุดท้ายก็เหลือเพียงนางแบบสาวเซ็กซี่ข้างกายหยางเส้าหัวเท่านั้น เธอมองฉู่เฉินด้วยสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูกแล้วพูดอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ฉะ...ฉันเป็นผู้หญิง ไม่กลิ้งไปได้ไหมคะ?”ฉู่เฉินกวาดตามองขาสวยเรียวยาวคู่นั้นแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าไม่กลิ้งไป ขาสวย ๆ สองข้างนี้ของคุณอาจจะไม่ได้เป็นของคุณอีกต่อไปแล้วก็ได้นะครับ” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางแบบสาวเซ็กซี่ก็ร้องไห้โฮออกมา“ล้อเล่นน่า คุณไปเถอะครับ”ฉู่เฉินโบกมือให้นางแบบสาวเซ็กซี่ จากนั้นก็หันตัว สายตาเย็นชาทอดมองไปยังเชอฮุยเมื่อเห็นสายตาเย็นเยียบของฉู่เฉิน เชอฮุยก็ตกใจกลัวจนหดคอ ค่อย ๆ ถอยไปทางฝูงชนอย่างไรก็ตาม ผู้คนรอบด้านหลบไปทางด้านข้างทันที ทิ้งเขาไว้ตรงกลางวง“ผู้จัดการเชอใช่ไหม?”ฉู่เฉินยิ้มพลางมองไปทางเชอฮุยเมื่อได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยเลศนัยของฉู่เฉิน เชอฮุยก็ใจสั่นแล้วคุกเข่าลงไปดังตุบ“คุณฉู่ ขะ...ขอโทษด้วยครับ ทั้งหมดเป็นเพราะผมมีตาแต่ไร้แวว ไม่รู้จักภูเขาไท่ซาน คุณถือเสียว่าผมเป็นแค่ผายลม ปล่อยผมไปเถอะครับ”เชอฮุยกล่าวจบก็โขกศีรษะดังปึก ๆๆแม้แต่พ่อลูกตระกูลหยางก็ถูกฉู่เฉินจัดการจนน่าอนาถถึงเพียงนั้น แล้วเขาจะนับเ
“เอ่อ...”เจียงหย่วนอึ้งไปสักพัก แต่เขาก็ยังพยักหน้า “โอเคครับ งั้นผมไม่รบกวนคุณฉู่แล้วครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”พูดจบ เจียงหย่วนก็วิ่งไปถนนอีกฝั่งอย่างรู้ตัวในตอนนั้นเอง พนักงานจากโรงงานรถขับรถเคอนิกเส็กก์ วัน มาจอดตรงหน้าฉู่เฉิน“คุณฉู่ นี่เป็นกุญแจรถของคุณครับ”พนักงานยื่นกุญแจให้ฉู่เฉินอย่างมีมารยาท“มอบให้คุณผู้หญิงคนนั้นเถอะ”ฉู่เฉินชี้ไปที่เย่ชิ่นเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ“คุณฉู่คะ ของขวัญราคาแพงขนาดนี้ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างระ... รถของฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังสามารถใช้ได้อยู่เลยค่ะ” เย่ชิ่นเหยียนลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด รถหรูราคากว่าห้าพันล้าน เธอไม่กล้าขับจริงๆ “ของที่ผมให้ไปแล้ว ผมไม่เอาคืนหรอกนะครับ หากคุณไม่ชอบก็เอาไปขายทิ้งให้โรงงานรถเก่าก็ได้ครับ”ฉู่เฉินพูดอย่างเฉยเมย“ฮะ?”เย่ชิ่นเหยียนตกใจมากจริงๆ รถหรูกว่าห้าพันล้าน ไม่ได้ขับเลยด้วยซ้ำ เขาจะให้เธอเอาไปขายให้โรงงานรถเก่างั้นเหรอ?ฉู่เฉินถือกุญแจรถไว้ในมือพร้อมยิ้มบางๆ หลังจากนั้นก็ยัดมันเข้าไปที่มือของเย่ชิ่นเหยียน“รับไว้เถอะครับ”เย่ชิ่นเหยียนถูกฉู่เฉินจับมือเล็ก ทำเอาหัวใจแทบจะทะลักมาที่คอหอย
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ฉู่เฉินอดนึกถึงกลอนโบราณบทหนึ่งที่ว่า จอดม้าชมป่าสนยามพลบค่ำ เมื่อถึงคราวสองยามเสียงระฆังก็ดังสนั่นมายังเรือใบไม้ปลิดปลิวร่วงลงมา มันก็บดบังสะโพกขาวเนียนที่โผล่ให้เห็นตรงกระจกรถพอดีฉู่เฉินยื่นมือเข้าไปกดที่เอวเล็กของเย่ชิ่นเหยียน ค่อยๆ กดให้เธอนั่งทับลงมาตรงๆตามมาด้วยเสียงลมหายใจหอบถี่ รอบๆ ราวกับว่าทุกอย่างหยุดลงแม้ว่าพื้นที่ในรถจะแคบ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อท่าทางร่ายรำของเย่ชิ่นเหยียนแฉะแฉะจริงๆความเร่าร้อนและร้อนแรงของเย่ชิ่นเหยียน ทำให้ฉู่เฉินกระปรี้กระเปร่าไม่หยุด......อีกด้านหนึ่ง หยางเส้าหัวที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาเจ็บเหมือนจะตายจนถึงตอนที่หมอเวรดึกฉีดยาชาให้เขาไป อารมณ์ของหยางเส้าหัวถึงค่อยๆ สงบขึ้น“พ่อ! เรื่องวันนี้ปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้นะครับ!”เมื่อหวนนึกถึงเมื่อกี้ พวกเขาสองคนพ่อลูกที่ได้รับคำดูถูกเหยียดหยามจากฉู่เฉิน หยางเส้าหัวอยากจะฉีกฉู่เฉินออกเป็นชิ้นๆ กินเลือดกินเนื้อของฉู่เฉินให้เกลี้ยง!หยางเทียนหลงที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ตรงข้างๆ หน้าต่าง ก็กัดฟันกรอดพูดขึ้นมาว่า “แน่นอนว่าปล่อยไปไม่ได้อยู่แล้ว!”“ไอ้แซ่ฉู่นั่นทำเรื่อง
“แค่ก...”หยางเส้าหัวแววตาเต็มไปด้วยงุนงง เขาไม่อยากจะเชื่อสาวงามที่สวมชุดคนใช้ตรงหน้า ร่างกายของเขาสูญเสียพลังชีวิตไปเรื่อยๆ อาการชักก็ตามมาอัตโนมัติแม้ว่าภายในใจของเขาจะเต็มไปด้วยคำว่าทำไม แต่คอของเขาถูกมีดปอกผลไม้แทงจนทะลุหมดแล้วคอของเขาเต็มไปด้วยฟองเลือด เขาทำได้แต่เพียงส่งเสียงอึกอัก ไม่แม้แต่จะแปลงคำพูดออกมาได้“คุณฉู่ให้ฉันมาเยี่ยมคุณ คุณชายหยางความจำคงไม่แย่ขนาดนั้นใช่ไหมคะ?”ระหว่างที่พูดสาวงามก็ถอดหมวกบนหัวออก สะบัดผมสีแดงไวน์สยายออกมาหยางเส้าหัวมองเห็นลอนผมตรงหน้าผาก และรอยแดงที่เผยให้เห็นของหญิงคนนั้นอย่างชัดเจนแล้ว ม่านตาของเขาก็หดลงอย่างควบคุมไม่ได้ นี่มันหนึ่งในสองพี่น้องสาวงามนี่!ไม่ผิดแน่ คนที่มาก็คือกุหลาบเพลิง!เผชิญหน้ากับนักฆ่าชั้นยอดแบบนี้ อย่าพูดถึงหยางเส้าหัวเลย แม้แต่ประมุขของประเทศในแถบแอฟริกาก็ยังไม่สามารถหนีรอดไปได้“อั่ก...”ร่างกายของหยางเส้าหัวชักอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็แน่นิ่งไปกุหลาบเพลิงเข้าไปทดสอบลมหายใจของหยางเส้าหัวดู หลังจากนั้นเธอก็เผยให้เห็นรอยยิ้มชวนหลงใหล เธอควักกุหลาบสีแดงเพลิงออกมาจากหน้าอกอันอวบอั๋น หลังจากนั้นก็ยื่นเข้าไป
“ไม่เป็นไรครับ อ้อ บริษัทผมยังขาดที่ปรึกษาด้านกฎหมายอยู่ คุณสนใจจะมาทำงานที่ซินฉู่ฟาร์มาติคอลไหมครับ?”ฉู่เฉินพูดประเด็นอย่างตรงไปตรงมาคนที่ฉู่เฉินส่งไปเป็นถึงนักฆ่าระดับประเทศหากสามารถสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับการฆ่าใครสักคนของกุหลาบเพลิงได้แม้กระทั่งเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถย้อนไปถึงนายจ้างได้ อย่างนั้นเธอคงถูกองค์กรนักฆ่าเก็บไปนานแล้วอีกทั้งดูจากท่าทีของพ่อลูกตระกูลหยางที่ออกจากโรงงานรถไป ฉู่เฉินก็พอจะเดาได้ว่ายอมแพ้แค่ชั่วคราวเท่านั้นและนั่นก็เป็นเพราะสถานการณ์บังคับไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเผชิญหน้าจังๆ กับตระกูลหยาง ฉู่เฉินจึงไม่ลังเลที่จะใช้นักฆ่าชั้นยอดสองคนที่มีในมือแทนที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับตระกูลหยางในการต่อสู้ที่อยู่บนความเป็นความตายแบบนี้ คงมีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะยอมเปิดไพ่อย่างเปิดเผย“คะ... คุณเป็นประธานซินฉู่ฟาร์มาติคอลเหรอคะ?”เย่ชิ่นเหยียนถามขึ้นมาด้วยความสงสัย“ครับ! เป็นยังไงครับ สนใจทำงานร่วมกันไหมครับ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มพร้อมเอ่ยถามขึ้นมาพูดตามความจริง งานด้านกฎหมายของบริษัทเป็นปัญหาที่ฉู่เฉินต้องปวดหัวมาโดยตลอดขณะที่ยอดขายยาบำรุงปราณกำลังพุ่งกระฉูด คนรว
หลี่เจี้ยนเย่เดินตามหลังฉู่เฉินอย่างหวั่นเกรง เดินเข้าไปในลานบ้านของบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ ฉู่เฉินยังไม่ได้บอกให้เขานั่ง เขาจึงทำได้แค่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู แม้แต่ถอนหายใจออกมาเขายังไม่กล้าหลังจากไปสืบในช่วงที่ผ่านมานี้ หลี่เจี้ยนเย่พึ่งเข้าใจว่าทำไมหลี่ซื่อกรุ๊ปถึงถูกเจ้าใหญ่นายโตจ้องเล่นงาน ที่แท้เป็นเพราะไอ้ลูกอกตัญญูนั่นทำให้บุคคลยิ่งใหญ่อย่างฉู่เฉินขุ่นเคืองหลังจากผ่านการพิจารณามาอย่างหนัก สุดท้ายหลี่เจี้ยนเย่ก็ยังตัดสินใจมาขอโทษฉู่เฉินด้วยตัวเองไม่อย่างนั้น อย่างมากที่สุดก็อีกหนึ่งสัปดาห์ หลี่ซื่อกรุ๊ปต้องประกาศขายกิจการล้มละลายอย่างแน่นอน!“ประธานหลี่ใช่ไหมครับ คุณเลี้ยงลูกชายได้ดีเลยนะครับ วันนั้นผมยังจำได้อยู่ว่าคุณชายหลี่ยังโอหังมากๆ ไม่ใช่เหรอครับ? ยังบอกอีกว่าแค่ตระกูลหลี่ของพวกคุณเอ่ยปากพูด ก็สามารถทำให้บริษัทเล็กๆ ของผมล้มละลายได้”“แล้วทำไมตอนนี้กลับเป็นประธานหลี่มาขอโทษผมเองเลยล่ะครับ?”ฉู่เฉินดื่มชาไปด้วย พร้อมทั้งยิ้มอย่างเย็นชามองไปที่หลี่เจี้ยนเย่เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลี่เจียนเย่ก็คุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉินดังตึง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้า “คุณฉู่ คุณอย่าใ
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนอดหน้ามืดไม่ได้ แทบจะเป็นลมคาที่นี่ไม่อาจใช้คำว่ามากเกินไปมาบรรยายฉู่เฉินได้แล้ว ปรมาจารย์ฝืนข่มกลั้นโทสะในใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ว่า “คุณฉู่ คุณไม่คิดว่าข้อเรียกร้องของคุณมันมากเกินไปเลยหรือไง?”“ฆ่าคนก็แค่เอาหัวโขกพื้น คะ...คุณเห็นวังเทียนเจี้ยนของผมรังแกง่ายจริง ๆ เหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน กวาดตามองปรมารจารย์ว่านเจี้ยนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “รังแกคุณแล้วยังไง? เอาของตามใบรายการนี้มา แล้วผมจะหันกายจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย”“ถ้าคุณกล้าพูดคำว่าไม่สักคำละก็ ผมก็มีวิธีทำให้วังเทียนเจี้ยนของคุณหายวับไปกับตา” ข่มขู่ ข่มขู่กันอย่างโจ่งแจ้ง“ไอ้คนแซ่ฉู่ แกเหิมเกริมไปแล้ว...” ไม่รอให้ศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่เอ่ยปาก ปรมารจารย์ว่านเจี้ยนก็รีบยกมือห้ามเอ่ยว่า “หุบปากให้หมด!” หลังจากผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เวลานี้ปรมารจารย์ว่านเจี้ยรไม่สงสัยความสามารถของฉู่เฉินเลยสักนิดเดียวอย่างแย่ที่สุด ฉู่เฉินก็สามารถลากวังเทียนเจี้ยนให้ตายตกตามกันได้ต้องรีบไล่ตัวซวยคนนี้ออกไปโดยเร็วที่สุดถุงจะถูกเมื่อคิดได้ดังนั้น ปรมาจ
ไม่อย่างนั้น เธอก็คงไม่มีทางกระโดดจากสาวใช้ธรรมดา ๆ กลายเป็นสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นแปดภายในระยะเวลาห้าปีสั้น ๆ หรอก แต่ว่าฉู่เฉินรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?เมื่อเห็นหลิงเสวี่ยตะลึงจนพูดไม่ออก ฉู่เฉินก็แหงนหน้าหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “ดูท่าจะตรงตามที่ผมเดาไว้จริง ๆ ปรมาจารย์คนดีของคุณอยากเลี้ยงคุณจนสมบูรณ์แล้วค่อยดูดกลืนคุณจนแห้งไงละ” เมื่อหลิงเสวี่ยได้ยินคำพูดนี้ พลันร้อนใจขึ้น ถลึงตามองฉู่เฉินอย่างเย็นชาและกล่าว “ฉู่เฉิน ห้ามคุณพูดจาเหลวไหลนะ”ถึงแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะเห็นเธอเป็นของชิ้นหนึ่ง มอบเธอให้ฉู่เฉิน แต่ว่าสำนักเคยมีบุญคุณกับเธอจริง ๆ“พูดจาเหลวไหล? กลัวว่าคุณโดนคนอื่นขายแล้ว ยังช่วยเขานับเงินด้วยละมั้ง?”ฉู่เฉินหัวเราะหยัน จากนั้นก็อธิบายวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังสั้น ๆ และบอกเรื่องคุณสมบัติร่างกายพิเศษอย่างร่างธาตุสวรรค์บริสุทธิ์ว่ามีประโยชน์มากเท่าไหร่ต่อผู้ฝึกวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังตามความเป็นจริง หลังจากฟังคำพูดนี้ของฉู่เฉินจบก็ทำลายสามมุมมองของหลิงเสวี่ยอย่างแท้จริง “เป็นไปไม่ได้ ต้องไม่ใช่ความจริงแน่นอน ท่านปรมาจารย์มักจะสอนพวกเราว่าผู้บำเพ็ญเพียนต้องทำ
ถึงแม้ว่าในใจของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยให้ฉู่เฉินจูงมือหลิงเสวี่ยเดินเข้าไปในเรือนเจ้าสำนักที่เขาอาศัยอยู่ ในตอนที่ฉู่เฉินปิดประตูห้องจนสนิท พวกศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนต่างก็เผยสีหน้าเจ็บปวดและไม่ยินยอมออกมาจบแล้ว!เทพธิดาในใจของพวกเขา น้องศิษย์เล็กที่พวกเขาเฝ้าปรารถนา โดนไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินย่ำยีแบบนี้แล้วเมื่อผลักประตูเดินเข้าไปในห้องนอนด้านใน ฉู่เฉินก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ไอ้แก่ตายยากอย่างปรมาจารย์ว่านเจี้ยนคนนี้เสพสุขเก่งจริง ๆ บนเตียงหยกน้ำแข็งมีอุปกรณ์ของเล่นต่าง ๆ ครบครัน นอกจากนี้ยังมีหมอนรองเอวโดยเฉพาะอีกด้วยไอ้เชี่ยนี่ เฒ่าหัวงูถึงจะเป็นคนตัณหากลับ จริง ๆ เมื่อเห็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องปรมาจารย์ว่านเจี้ยน หลิงเสวี่ยก็อดขมวดคิ้วไม่ได้พลางกล่าวว่า “ทำไมในห้องของปรมาจารย์ถึงจะมีหมอนสองใบล่ะ อีกอย่าง ทำไมหมอนใบนี้ดูไปแล้ว ไม่ค่อยเหมือนเลย?” หลิงเสวี่ยพูดพลางเอื้อมมือจะไปหยิบหมอนรองเอวใบนั้นขึ้นมา แต่โดนฉู่เฉินขวางไว้ทันที“อีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เองว่าหมอนใบนี้เอาไว้ใช้ทำอะไร เข้ามาสิ”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็ดึงหลิงเสวี่ยให้นั่งลงข้างเตียง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกว่านโซ่วเซียนเวิงก็ถอนหายใจติดต่อกันด้วยสีหน้าเสียดายในตอนนี้เอง แผ่นกระดาษสีขาวที่เขียนตำรับยาสร้างกล้ามเนื้อพลันลอยมาจากในวังเทียนเจี้ยน“ผู้อาวุโสทั้งหลาย ขอบคุณครับ”วินาทีต่อมา เสียงของฉู่เฉินดังออกมาจากห้องโถงใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนพวกว่านโซ่วเซียนเวิงรับสูตรยาที่ฉู่เฉินส่งมา ก่อนจะมองไปทางตำหนักหลักของวังเทียนเจี้ยนอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง“พวกเราไปกันเถอะ”ว่านโซ่วเซียนเวิงคัดลอกสูตรยาไว้หนึ่งชุด แล้วก็พาลูกศิษย์แห่งสำนักว่านเซียนหันกายเดินจากไป“เหอะ ๆ... ไอ้หนูมีน้ำใจแล้ว ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณเธอแล้ว ไว้พบกันใหม่”ผู้เฒ่าเทียนเสวียนก็คว้าสูตรยามาเช่นกันก่อนจะคัดลอกทันที จากนั้นเขาก็หันกายพาหลินเจี้ยนเฟิงลอยจากไปไม่นานนัก ผู้คนที่มามุงดูความคึกคักรอบนอกวังเทียนเจี้ยนก็ทยอยกันแยกย้ายไปหมดฉู่เฉินมองปรมาจารย์ว่านเจี้ยนที่หน้าแดงก่ำดูอับอายอย่างยิ่งยวด ก่อนจะหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าใครใกล้ตายนะ?”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนมองฉู่เฉินพลางกัดฟันกรอด แม้ว่าตอนนี้ภัยคุกคามของวังเทียนเจี้ยนจะถูกขจัดไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่กล้าแตะต้องฉู่เฉ
เวลานี้เอง ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ไม่มีใครคาดคิดว่าลู่ชิงเฟิงจะโกรธจริง ๆนอกจากนี้ ประตูใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนโดนทำลาย วันหน้าสถานะของวังเทียนเจี้ยนในหมู่สำนักรอบนอกภูเขาหลางจวีซวีย่อมลดลงไปอีกขั้นอย่างแน่นอแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนในตอนนี้จะร้องทุกข์มิรู้วาย แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าไม่พอใจเลยสักนิดเดียวเวลานี้จื่อเยว่ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนก็ต้องชื่นชมความโชคดีของฉู่เฉินเช่นกันถึงแม้ความสามารถของเขาจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อาศัยสติปัญญาและแผนการเรียกยอดคนอย่างลู่ชิงเฟิงออกมายืนอยู่ฝ่ายเขาได้นับว่าผ่านด่านยากตรงหน้าได้ชั่วคราวแล้วจริง ๆ “ศิษย์พี่หญิง ฉู่เฉินคงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับลู่ชิงเฟิงใช่ไหม?”หลิงรั่วกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา“เกี่ยวข้องกับลู่ชิงเฟิง? ไม่มีทางหรอก!”จื่อเยว่หัวเราะหยันพลางส่ายศีรษะลู่ชิงเฟิงนั้นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของวังเต๋าคุนหลุน ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าสำนัก แต่ในวังเต๋าคุนหลุน นอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่ปลีกวิเวกไม่ออกมาเหล่านั้นแล้ว เขาก็เป็นตัวแทนพลังรบสูงสุดเลยก็ว่าได้แม้ว่าฉู่เฉินเพียงแค่รู้จักลู่ชิงเฟิงเท่านั้น แ
มันอยู่เหนือระดับที่พวกเขาสามารถประมาณค่าได้ไปแล้ว!นักพรตแห่งน้ำไฟผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเมื่อกี้ ตอนนี้ก็เหงื่อเย็นแตกพลั่ก ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธแม้แต่คำเดียวเมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็เปลี่ยนไปทันที มองสำรวจฉู่เฉินด้วยรอยยิ้มเยาะและกล่าวว่า “เจ้าหนู ดูเหมือนว่าการคำนวณของมนุษย์จะสู้การคำนวณของสวรรค์ไม่ได้จริงๆ คุณคงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยใช่ไหมล่ะ”“ยังกล้าให้ฉันมอบศิษย์ไปอุ่นเตียงให้แกอีกเหรอ? หึ!”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “ฉันแนะนำให้แกรีบส่งหยกโลหิตกิเลนมา แล้วฆ่าตัวตายรชดใช้ความผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่งั้น...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ในดวงตาของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ระเบิดรังสีอำมหิตออกมาสองสายสถานการณ์พลิกผันเร็วเกินไป จนกระทั่งหลิงเสวี่ยยังไม่ได้สติ แต่ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนไม่เปลี่ยนสีหน้าเร็วเกินไปหน่อยเหรอ?ฉู่เฉินหรี่ตาลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณแน่ใจเหรอ?”“หึ เจ้าหนู ใกล้ตายแล้ว อย่าดิ้นรนไปให้เปลืองแรงเลย!”ขณะกล่าว ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ชักกระบี่ออกมาทันที กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของผู้แข็งแกร่งระดับควบแ