อีกด้านหนึ่ง กู้รั่วเสวี่ยก็ส่งฉู่เฉินกลับบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ หลังจากนั้นเธอก็ขับเข้าไปในเมืองหลวงเพื่อจัดการงานในบริษัทของเธอฉู่เฉินบอกลากู้รั่วเสวี่ย เขากำลังจะไปที่บริษัทเพื่อตรวจดูว่าร่างกายของกวนเหล่ยฟื้นฟูถึงไหนแล้วคราวที่แล้วมันก็น่าตื่นเต้นจริงๆ นะ เขาว่ายัยเด็กน้อยนั่นคงจะตกใจน่าดูฉู่เฉินยังไม่ทันออกจากประตูก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา“ฮัลโหล? คุณฉู่ใช่ไหมคะ?”ปลายสาย มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมาฉู่เฉินขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาจำได้ว่าเขาไม่ได้โทรไปหาใครมั่วซั่วนะ?มีคนต้องการทำธุรกิจเลยติดต่อเขามางั้นเหรอ?“คุณคือ...”ฉู่เฉินขมวดคิ้วถามขึ้นมา“ฉันหลี่จิงจิงไงคะ คุณฉู่ผู้สูงส่งนี่ขี้ลืมจริงๆ นะคะ เมื่อกี้เรานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกันไงคะ”อ้อ!ฉู่เฉินพึ่งจะนึกออก นึกตั้งนานที่แท้ก็หลี่คลื่นยักษ์นี่เอง ว่าแต่เธอมีช่องทางการติดต่อของเขาได้อย่างไร?ฉู่เฉินเต็มไปด้วยความสับสน ถามขึ้นมาอย่างใจเย็นว่า “ผู้อำนวยการหลี่มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”“คุณฉู่ ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอคะว่าประธานฟางยังต้องกินยาบำรุงวิญญาณอะไรนั่นอีก? ไม่ทราบว่าคุณจะสะดวกไหมคะ ถ้าฉันจะขอรายล
เฟอร์นิเจอร์การตกแต่งต่างๆ ในห้องนั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครลูกโป่งสีชมพูลูกใหญ่ถูกวางไว้ที่ที่วางตรงกลางห้อง ข้างๆ ลูกโป่งยังเปลอีกด้วยเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ เปลนั้นเป็นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์มาก เก้าอี้นั้นถูกแบ่งเป็นสองชั้นบนและล่าง ชั้นเป็นรูอาจจะเพราะมีเด็กซนมาทำทิ้งไว้ข้างๆ เตียงไม่ได้วางดอกกุหลาบไว้ แต่กลับเป็นของที่ลักษณะเหมือนสว่านไฟฟ้า เพียงแต่ว่าหัวของสว่านนั้นมีลักษณะที่แปลกประหลาด หากเทียบเคียงรูปร่างต่างๆ แล้วน่าจะเล็กกว่าของฉู่เฉินไปมากเลยล่ะเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ามีไว้ทำอะไรในส่วนของวอลล์เปเปอร์บนผนังล้วนแต่เป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ทำให้ผู้คนเขินอายเมื่อมองไปมีทั้งคนผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า และคนผิวสีแทน ทุกตัวมีสีหน้าแสดงออกแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดล้วนเน้นธีมเดียวกัน นั่นก็คือการล่อลวง!“ผู้อำนวยการหลี่ลงโทษคนไปแล้วกี่คนครับ?”ฉู่เฉินมองไปที่แส้สีดำแล้วหยิบขึ้นมา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่จิงจิงหัวเราะคิกคัก หลังจากนั้นเธอก็หยิบแส้จากมือของฉู่เฉินโยนทิ้งไปอีกด้าน พูดขึ้นมาอย่างเหนียมอายว่า “นอกจากคุณ ฉันก็ไม่เคยมาที่แบบนี้กับคนอื่นมาก่อนค่ะ”เอ๋?
รู้ไหมว่าแรงจับของหลี่จิงจิงนั้นกำลังพอดีเลยในระหว่างที่เธอจับไว้นั้น สามารถทำให้วิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ในร่างกายของฉู่เฉินโคจรขึ้นมาได้ในขณะที่พลังวิญญาณหมุนเวียนอยู่ในร่างกายของเขา ก็มีหมอกสีขาวบางๆ ลอยขึ้นมาจากทะเลปราณที่ว่างเปล่า ฟื้นฟูพลังของเขากลับมาได้เกือบหนึ่งในสิบไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนมักพูดว่าเด็กสาวไม่ดีเท่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ครั้งนี้ฉู่เฉินเข้าใจความหมายนั้นอย่างถ่องแท้แล้วผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะรู้วิธีที่จะดูแลผู้อื่น“ถ้าคนในโรงพยาบาลของพวกคุณมีคนดีแบบคุณคงจะดีไม่น้อย”ฉู่เฉินยิ้มอย่างซุกซนและจั๊กจี้เอวของหลี่จิงจิงหลายครั้ง เธออุทานอย่างออนอ้อน ลูบกล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแรงของฉู่เฉินและพูดว่า “ไปไกลๆ เลยนะ”“มีเรื่องอะไรก็รีบพูดตอนฉันอารมณ์ดีเถอะค่ะ”ทันทีที่เธอพูดจบ หลี่จิงจิงก็เริ่มกดฉู่เฉินลงใต้ตัวเธอ โดยทำท่าเป็นผู้พิชิตขณะที่เธอพูด“โรงพยาบาลของคุณมีคนไข้ที่ชื่อจางไห่หยางใช่ไหมครับ?”ฉู่เฉินรีบเข้าประเด็นหลักจางไห่หยาง?หลี่จิงจิงบิดสะโพกไปมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นท่าทีที่สบายตัว กล่าวขึ้นมาอย่างครุ่นคิดว่า “เหมือนจะมีนะคะ อ้อแล้วฉันก็ไ
ยัยผู้หญิงคนนี้ยังเด็กอยู่เลย และมีวิสัยทัศน์สูงเสียดฟ้า โดยปกติแล้วแม้แต่ผู้อำนวยการหลี่ก็ไม่เคยอยู่ในสายตาเธอเลย หลี่จิงจิงกำลังอยากจะสั่งสอนเจ้าเด็กที่ดื้อรั้นและไม่เชื่อฟังอยู่พอดี ในขณะที่เธอกำลังจะนอนหลับนั้นก็มีใครบางคนยื่นหมอนมาให้เธอทั้งสามารถทำให้ฉู่เฉินพอใจ อีกทั้งยังสามารถสั่งสอนยัยเด็กนั่นได้อีกด้วย นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว“อืม ผมอยากเห็นความสำเร็จเร็วๆ นะครับ”ฉู่เฉินพูดจบก็ลุกขึ้นมาจากเตียง มองไปที่เปลที่ห้อยอยู่ข้างๆ “อันนี้เอาไว้ทำอะไรเหรอครับ?”“เอาไว้เอาฉันค่ะ!”หลี่จิงจิงตบหน้าฉู่เฉินด้วยรอยยิ้มอันหวานหยดย้อย หลังจากนั้นเธอก็บิดสะโพกอวบอั๋นของเธอ ก้าวลงมาจากเตียง สอดต้นขาที่อวบอิ่มและสวยงามของเธอเข้าไปในถุงน่อง จากนั้นก็นั่งลงบนเปลแล้วแกว่งไปแกว่งมาฉู่เฉินเข้าใจในทันทีบอกไว้เลยนะว่าสติปัญญาของมนุษย์นั้นไร้ขอบเขตสิ่งเดียวที่ทำให้ฉู่เฉินรู้สึกไม่พอใจคือคุณภาพของเปลที่ไม่ดี ตอนที่เปลกำลังแกว่งไปมาก็จะส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แม้ว่าจะเคลื่อนไหวแค่เล็กน้อยก็ตามยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่หลี่จิงจิงกำลังปลดปล่อยอย่างเต็มที่ เสียงร้องกังวานของเธอก็ผสมผสานกั
อีกด้านหนึ่ง แพทย์สภาเจียงจง ห้องทำงานของฝ่ายบริหารการตลาดยังคงเปิดไฟไว้สว่างหญิงวัยกลางคน อายุราวๆ สามสิบเอ็ดถึงสามสิบสองปี สวมเครื่องแบบสีขาวและปล่อยผมยาวคลุมไหล่ กำลังอ่านเอกสารเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนบริษัทซินฉู่ฟาร์มาติคอลในมืออย่างตั้งใจเธอคือเจียงอิ่ง หัวหน้าฝ่ายสาวสวยผู้มีชื่อเสียงแห่งแพทย์สภาเจียงจงวันนี้ตอนบ่ายเธอได้รับสายจากหลี่จวิ้นเฟิง ขอร้องให้เธอช่วยปรับปรุงบริษัทใหม่ที่ชื่อว่าซินฉู่ฟาร์มาติคอลตอนแรกเจียงอิ่งไม่อยากจะตอบตกลงสักเท่าไหร่แต่ว่าเธอติดหนี้บุญคุณหลี่จวิ้นเฟิงไว้ หากไม่ใช่เพราะเขา โรคข้อเข่าเสื่อมของเธอก็คงจะก่อกวนเธอจนถึงตอนนี้พอลองพิจารณาดูแล้ว เจียงอิ่งจึงทำได้แค่พยักหน้าตอบรับแต่ถึงอย่างไร เธอก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย และไม่สามารถแทรกแซงองค์กรที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายของโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นเธอจึงได้รับเอกสารทั้งหมดจากซินฉู่ฟาร์มาติคอลมา“ซู๊ด”เจียงอิ่งหันศีรษะเล็กน้อยแล้วกัดหลอดชานมเข้าไปอย่างจัง พร้อมทั้งให้รางวัลตัวเองด้วยการจิบชานมที่ทั้งหวานและอร่อยเพียงแต่ว่าการกระทำที่แสนธรรมดาของเธอนี้ กลับทำให้เหล่าเพื่อนร่วมงานที่กำลังเดินผ่
ประตูรถถูกเปิดออก หญิงสาวรูปร่างเพรียวบางในชุดเครื่องแบบสีขาวราวกับหิมะและหมวกสีขาวใบเล็ก ผิวของเธอขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะ กล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาชายที่อยู่ข้างหลังเธอว่า “ปิดอาคารทำงานของบริษัทซินฉู่ฟาร์มาติคอลให้หมด!”หลังจากที่เธอพูดจบ คนจำนวนนับสิบคนในชุดเครื่องแบบสีขาวรุมกันวิ่งเข้าไปในห้องโถงของอาคารผ่านไปไม่นาน เขตอาคารทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอลทั้งหมดก็ถูกเหล่าคนในชุดเครื่องแบบสีขาวล้อมไว้“พวกคุณจะทำอะไร? มีสิทธิ์อะไรมาปิดห้องทำงานของพวกเรา!”กวนเหล่ยที่พึ่งเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยประธานได้ไม่นานก็ออกโรงก่อนเป็นคนแรก หน้าอกที่อวบอั๋น ถามขึ้นมาด้วยความมั่นใจเจียงอิ่งเอามือทั้งสองข้างไพล่หลังไว้ เจียงอิงสวมรองเท้าหนังสีดำและเดินอย่างช้าๆ ท่ามกลางฝูงชนและมองไปที่กวนเหล่ยแล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยว่าบริษัทของพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน!”“ดังนั้นการปิดกั้นอาคารสำนักงานของบริษัทของพวกคุณเพื่อการตรวจสอบตามปกติจึงถือเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายค่ะ”“อีกอย่างแจ้งให้เจ้านายของบริษัทพวกคุณด้วยนะคะว่าภายในครึ่งชั่วโมงให้รีบมายังห้องประชุมของบริษัท ไม่อย่างนั้นหากตราประ
ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง เขาก็ผละตัวออกมาจากกู้รั่วเสวี่ยกู้รั่วเสวี่ยสัมผัสได้ว่าข้างกายของเธอว่างเปล่า เธอจึงขมวดคิ้วถามขึ้นมาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”ฉู่เฉินส่งเสียงพึมพำในลำคอ พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่เจียงอิ่งพาคนมาปิดซินฉู่ฟาร์มาติคอลให้เธอฟังอีกครั้ง“อะไรนะคะ? ปิดล้อมเหรอคะ?”กู้รั่วเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว หลังจากนั้นเธอก็ยื่นมือเข้าไปรั้งฉู่เฉินแล้วเอ่ยว่า “พี่อย่าหุนหันไปนะคะ ตอนนี้กิจการเดียวที่ซินฉู่ฟาร์มาติคอลมีก็คือยาบำรุงปราณนะคะ”“พี่เคยยื่นเรื่องขอใบอนุญาตจำหน่ายแล้วหรือยังคะ?ยาใหม่ทุกตัวต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการขึ้นทะเบียนและจำหน่ายอย่างเคร่งครัด ขั้นแรกต้องมีรายงานการทดลองทางการแพทย์ และใบอนุญาตจำหน่ายสองสิ่งนี้ขาดไม่ได้แม้ว่าใบอนุญาตจะมีโจวเทียนเฟิ่งจัดการให้แล้ว แต่ในมือของฉู่เฉินไม่มีรายงานการทดลองทางการแพทย์นี่เป็นจุดที่ฉู่เฉินจะโดนเล่นงาน“ใบอนุญาตอะไรก็ช่างมัน ใครหน้าไหนที่กล้ามาปิดบริษัทของผม คนคนนั้นก็โชคร้ายอย่างแรงแล้วล่ะ!”พูดจบฉู่เฉินก็สวมเสื้อผ้า รีบออกไปจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เขารีบขับรถมุ่งตรงไปยังอาคารทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอลกู้รั่ว
การที่จะรับมือกับผู้หญิงสวยที่ดูถูกผู้อื่นเช่นนี้ เราต้องทำลายจิตวิญญาณของเธอให้สิ้นซากไม่อย่างนั้นไม่อย่างนั้นเธอก็คงชูคอไม่เลิกใช่ไหมล่ะ?แม้ว่าฉู่เฉินจะชอบมุมนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะระงับความเย่อหยิ่งของเธอจนหมดสิ้น เราต้องไม่ปล่อยให้เธอคิดชูคอไปมากกว่านี้เจียงอิ่งชี้ไปที่ป้ายชื่อของเธอซึ่งอยู่บนหน้าอกซึ่งเกือบจะเป็นมุมเก้าสิบองศา และพูดว่า “อ่านไม่ออกเหรอ? ฝ่ายบริหารการตลาดแพทย์สภาเจียงจง!”ฉู่เฉินก้าวเดินไปข้างหน้า มองไปที่ป้ายบนหน้าอกของเธอมันแน่นมาก!เธอเอาผ้าปิดตัวเธอไว้แน่นเกินไป จนกระทั่งมองไม่เห็นแม้แต่ร่องอกของเธอเลย“มองอะไร!”เจียงอิ่งก็สามารถสัมผัสได้ถึงสายตาของฉู่เฉินได้ทันที“เจียงอิ่ง ชื่อเพราะดีนะครับ”ฉู่เฉินยิ้มอย่างใจเย็น ยกศีรษะขึ้นช้าๆ และมองตรงเข้าไปในดวงตาของเจียงอิ่งแล้วพูดว่า “อย่างไรก็ตาม หากจะสั่งปิดบริษัทของผม ก็คงไม่ใช่คุณที่จะออกคำสั่งใช่ไหมครับ?”“ถ้าผมจำไม่ผิด หากไม่มีหมายสั่งปิดมาจากกรมตำรวจ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ปิดบริษัทผม”ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อยกขึ้น ยิ้มอย่างยโส “ฉันเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว”หลังจากนั้นเจียงอิ่งก็นำมือที่อยู่ไพล่หลังอ