“อีกอย่าง สร้อยประคำ ฉันให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้หลายท่านตรวจประเมินมาแล้ว ยังมีหนังสือรับรองอีกด้วย”“ไม่คิดเลยว่าเธอจะกล้าพูดว่ามันเป็นของปลอมสมัยปัจจุบัน?”ฉู่เฉินพ่นลมหายใจทีหนึ่ง กล่าว “ใช่หรือไม่ใช่ของปลอมสมัยปัจจุบัน คุณลองเคาะดูก็รู้แล้ว”“ได้! ฉันจะลองเคาะดู ลองดูว่าเธอจะอธิบายยังไง” หวังคุนแสยะยิ้ม มั่นใจสร้อยประคำที่อยู่ในมือของตนเองมากจากนั้นเขาก็ถอดสร้อยประคำเส้นนั้นออกมาจากข้อมือ วางลงบนโต๊ะแล้วเคาะเบา ๆ เสียงไพเราะก้องกังวาน ไม่เหมือนของปลอมสมัยปัจจุบัน“เป็นยังไงละ ไอ้หนู เสียงนี้ทั้งไพเราะทั้งก้องกังวาน ปรมาจารย์ตรวจประเมินของโบราณทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ ก็สามารถฟังออก ว่าเป็นของโบราณใช่ไหมครับ?” หวังคุนยิ้มอย่างลำพองใจสร้อยประคำเมล็ดรุทรักษะนี้ ยิ่งเก่า เสียงก็ยิ่งไพเราะสร้อยประคำเส้นนี้ ในวันปกติหวังคุนไม่มีทางปล่อยออกมาแน่อย่างไรเสีย ก็เป็นของอัครเสนาบดียุคก่อน จะมากจะน้อยก็มีท่าทีของอัครเสนาบดีอยู่บ้างทันทีที่เขาสวม ก็รู้สึกว่าท่าทีของตนเองนั้นไม่ธรรมดาสร้อยประคำนี้ไม่ใช่ของปลอม เขารู้ดีกว่าใคร ๆทุกคนรับประกันว่าเป็นของแท้แน่นอน!ผู้เชี่ยวชาญการตรวจ
“หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันอยากรู้นักว่าใครจะกล้าแตะต้องคุณฉู่!”กู้รั่วเสวี่ยก้าวออกมา จ้องหวังคุนอย่างเย็นชา กล่าวด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “ผู้นำตระกูลหวัง ที่นี่คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ย! คุณฉู่เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลกู้ฉัน หวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรผิดพลาด!”ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกไป หวังคุนสีหน้าอึมครึมทันที ความเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นที่ใบหน้า จ้องมองกู้รั่วเสวี่ยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะตะคอก “ตระกูลกู้แล้วยังไง? อย่าลืมสิว่า ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งแต่ก็สู้อิทธิพลท้องถิ่นไม่ได้! วันนี้ ยังไงฉันก็ต้องจัดการไอ้เด็กนี่ให้ได้!”บรรยากาศชักดาบเข้าหากันสถานการณ์พร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อภายในห้องโถงเต็มไปด้วยแรงอาฆาตในเวลานี้ ชายชราในชุดคอปกจีนสีขาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โบราณสีดำที่อยู่แถวหน้าสุด ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พอแล้ว ผู้นำตระกูลหวัง ตระกูลกู้เป็นตระกูลใหญ่กิจการใหญ่โต คุณเอาชนะไม่ได้หรอก ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด ใจเย็น ๆ ทุกคนมาเพื่อหยกลายโลหิต ไม่มีความจำเป็นต้องจำให้กลายเป็นแบบนี้”“อีกอย่าง ที่นี่ก็คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ยอย่างที่ว่าจริง ๆ”“ผู้นำตระกูลหวังมีควา
ตั้งแต่เข้าเดินเข้าประตูมา ซ่งหรูเซียนก็เอาแต่หลับตาทำสมาธิ ไม่สนใจเรื่องใด ๆที่เกิดขึ้นในห้องโถงเลยแม้แต่น้อยอืม มีกลิ่นอายของความเป็นเจ้าใหญ่นายโตถังจิ้งจือ ชายชราในชุดเสื้อคอจีนสีขาวคนนั้น ฉู่เฉินยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน เป็นแบบที่เคยได้ยินตั้งแต่เด็กจนโตนายท่านใหญ่ถังคนนี้ เรียกได้ว่าเป็นตำนานของวงการการค้าเจียงจงคนหนึ่งเป็นบุคคลที่มีความสามารถมาอย่างยาวนานจนประสบความสำเร็จจากแผงขายผักข้างถนน ค่อย ๆ พัฒนามาทีละขั้น นำตระกูลถังพัฒนาจนกลายมาเป็นสี่ตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเจียงจงเพียงแต่ในเวลานี้ฉู่เฉินมองไป กลับพบว่าสีหน้าของถังจิ้งจือคนนี้ดูแย่มากครุ่นคิดอยู่ครู่ ฉู่เฉินเปิดใช้งานเนตรมังกร ทันทีที่แสงสีทองของดวงตากะพริบ ทันใดนั้นก็พบว่า จุดอิ้นถาง[1]ของถังจิ้งจือคนนี้ดำจนน่ากลัว ถูกอายชั่วร้ายสีดำรายล้อมวังชีวิตแต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ อายชั่วร้ายสีดำเหล่านี้ มีอยู่หลายชนิดนี่บ่งบอกถึงอะไร?บ่งบอกว่าถังจิ้งจือคนนี้ถูกวิญญาณร้ายนับร้อยติดตาม ถ้าหากว่าจัดการไม่ทันเวลา เขา จะต้องตายอย่างแน่นอน!แม้แต่วังบุตรธิดาและวังนาเรือนของเขา เต็มไปด้วยความสิ้
“ปรมาจารย์กัว”ทุกคนพยักหน้าปรมาจารย์กัวคนนั้นยิ้ม พร้อมกล่าวด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “ต้องขออภัยด้วยครับ ที่ทำให้ทุกท่านต้องรอนาน ในเมื่อทุกท่านมาถึงแล้ว ผมเองก็จะไม่อุบไว้แล้ว ตรงเข้าเรื่องสำคัญ ให้ทุกท่านได้ชมของล้ำค่าก่อน”ในขณะที่พูด ปรมาจารย์กัวก็นำกล่องหนังสีเหลืองวางที่ตรงกลางของโต๊ะ มีเสียงดังแกร๊กสองที เปิดตัวล็อก แล้วเปิดกล่องด้านในกล่องคือหยกโบราณสีเลือด สีแดงสดมาก งดงามราวกับเลือดหยกโบราณทั้งก้อน เป็นสไตล์โบราณ ด้านบนยังแกะสลักด้วยลายเส้นละเอียด เหมือนกับว่าเป็นลายเส้นค่ายกล ดูออกทันทีว่าไม่ใช่สิ่งของธรรมดาอีกทั้งทันทีที่หยิบหยกลายโลหิตออกมา ทุกคนตรงนั้นก็สัมผัสได้ทันทีว่าภายในห้องโถงมีกลิ่นอายกลุ่มหนึ่ง ที่ทำให้พวกเขารู้สึกโล่งสบายไปทั้งตัว จิตใจผ่อนคลาย ไหลเวียนไปทั่วตัวราวกับได้อาบน้ำท่ามกลางลมที่พัดผ่านในฤดูใบไม้ผลิ ราวกับอยู่ในมหาสมุทร แล้วก็เข้าไปในป่าอันเขียวขจีในหุบเขาลึก ราวกับแดนสวรรค์ถังจิ้งจือและคนอื่นดวงตาเบิกกว้างเปล่งประกายทันที จ้องเขม็งไปยังหยกลายโลหิตก้อนนั้น“ของดี! นี่คือของดี!”ผู้เชี่ยวชาญการตรวจประเมินของโบราณหลายท่าน ก็ส่งเสียงชื่นชมหลาย
นับตั้งแต่ฉู่เฉินเดินเข้าประตูมา จนกระทั่งเล่นลูกไม้กับหวังคุน ซ่งหรูเซียนมองดูอยู่ตลอดเพียงแต่เขาไม่ได้สนใจฉู่เฉินเลยสักนิดคิดว่าก็เป็นแค่ตัวตลกที่เรียกร้องความสนใจแค่นั้นเองฉู่เฉินแค่นเสียงหัวเราะ เรียกคืนสายตาจากหยกลายโลหิต ย้อนถามซ่งหรูเซียน “ปรมาจารย์ซ่งใช่ไหม คุณคิดว่าหยกลายโลหิตนี่คือของวิเศษ?”“แน่นอนสิ! ตั้งแต่ฉันเป็นตรวจประเมินของโบราณมา ยังไม่เคยเห็นของวิเศษที่จริงขนาดนี้มาก่อน!”ซ่งหรูเซียนกล่าวอย่างมั่นใจมาก จากนั้นหรี่ตา กล่าวอย่างไม่พอใจ“ทำไม เธอสงสัยในความสามารถตรวจประเมินของโบราณของฉันเหรอ? จะบอกเธอให้นะ ไอ้หนู ฉันเป็นปรมาจารย์ศาสตร์ฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง อยู่กับศาสตร์ฮวงจุ้ยมาสามสิบปีแล้ว! หยกลายโลหิตก้อนนี้ ใช่หรือไม่ใช่ของวิเศษ เป็นของวิเศษระดับไหน มองแวบเดียวก็รู้แล้ว”ซ่งหรูเซียนพูดจบ สีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ระดับชั้นน้ำของวงการศาสตร์ฮวงจุ้ยแห่งเจียงเป่ย เมื่อครู่นี้ตอนที่หยิบหยกลายโลหิตก้อนนั้นออกมา เขาสัมผัสได้ถึงลักษณะฮวงจุ้ยของในบ้านหลังนี้ที่เปลี่ยนไปแดนสวรรค์!คือแดนสวรรค์ของโลกมนุษย์!ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าหยก
“ที่นี่คือบ้านของตระกูลจ้าว ถ้าหากไม่มีความรู้เรื่องการตรวจประเมินของโบราณ ก็หุบปากไปซะ จะได้ไม่ทำให้คนอื่นไม่พอใจ จนก่อให้เกิดหายนะ!”ทันทีที่พูดจบ ก็มีบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำที่ร่างกายกำยำหลายคนพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วซ่งหรูเซียนกล่าวเร่งรัด “ผู้นำตระกูลจ้าว จะเกรงใจมันทำไม รีบเฉดหัวมันออกไป!”“ฉันก็อยากรู้ว่าใครกล้า!”กู้รั่วเสวี่ยลุกขึ้น กล่าวเสียงเย็นชา “ผู้นำตระกูลจ้าว คุณฉู่เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลกู้ของฉัน ก่อนหน้าที่จะเฉดหัวเขาออกไป ก็เฉดหัวฉันออกไปก่อนเถอะ”เพียงประโยคเดียว ผู้นำตระกูลจ้าวก็ตกใจจนมีสีหน้าสับสนมากเฉดหัวกู้รั่วเสวี่ยออกไป?เขาไม่กล้าแน่นอนเมื่อเห็นผู้นำตระกูลจ้าวเงียบ กู้รั่วเสวี่ยก็หันหน้ากลับไป จ้องมองซ่งหรูเซียนด้วยดวงตาเฉยชา กล่าวเสียงเย็นเยียบ “แล้วก็คุณ คนอื่นเคารพเพราะคุณเป็นปรมาจารย์ศาสตร์ฮวงจุ้ย แต่ฉันไม่”“ที่นี่คือเจียงจง ไม่ใช่เจียงเป่ย คุณไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่ง”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซ่งหรูเซียนเรียกได้ว่ามืดขรึมขั้นสุด“คุณหนูใหญ่กู้ คืออย่างนี้ ผมก็คือปรมาจารย์วงการศาสตร์ฮวงจุ้ยแห่งเจียงเป่ย ก็รู้จักคนไม่น้อยเช่นกัน การล่วงเกิน
ฉู่เฉินแค่นเสียงหัวเราะ มองซ่งหรูเซียนที่กำลังโมโหแวบหนึ่งอย่างเหยียดหยาม “ถ้าอย่างนั้นผมขอเตือนคุณ ให้รีบหารถฉุกเฉินเอาไว้ เพราะว่าอีกเดี๋ยวคุณต้องได้กินหยกลายโลหิตก้อนนี้แน่”“เธอ! ไอ้หนู อวดดีเกินไปแล้ว!” ซ่งหรูเซียนกล่าวอย่างโมโห ชี้นิ้วทางด้านนี้ ฉู่เฉินลุกขึ้น สองมือเท้าสะเอว เดินมาตรงหน้าของปรมาจารย์กัวที่สีหน้าเขียวคล้ำ สายตาอึมครึม พูดพร้อมกับแสยะยิ้ม “ปรมาจารย์กัว คุณจะยอมรับเองตรง ๆ ว่าหยกลายโลหิตนี้เป็นของปลอม หรือว่าจะให้ผมเปิดโปงคุณดีล่ะ?”ปรมาจารย์กัวที่ตาตี่จมูกโด่งคนนั้น ดวงตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เชิดหน้าขึ้น กล่าวอย่างเหยียดหยาม “ไอ้หนู เธอหมายความว่ายังไง?”“หยกลายโลหิตก้อนนี้ของฉัน เป็นหยกโบราณชั้นยอด เป็นของวิเศษที่ผู้วิเศษท่านหนึ่งทำขึ้น”“คิดว่าทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาของหยกลายโลหิตก้อนนี้ใช่ไหมล่ะ? ทำไมพอเป็นเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอพูด ก็กลายเป็นของปลอมไปได้ซะล่ะ?”“ในเมื่อเธอพยายามจะบอกว่าหยกลายโลหิตก้อนนี้เป็นของวิเศษปลอม ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากเห็นนักว่า เธอจะพิสูจน์ยังไง!”กัวหกนิ้วหรี่ดวงตา สายตาเย็นชาเล็กน้อย เต็ม
ฉู่เฉินไม่สนใจ กล่าวต่อ “ความรู้สึกแบบนี้ เป็นเพียงแค่ค่ายกลฮวงจุ้ยขนาดเล็กที่สร้างขึ้นไว้ในหยกลายโลหิตเท่านั้น ดูดซับพลังวิญญาณของเรือนและในห้องโถง กลายเป็นรัศมีฮวงจุ้ยที่พิเศษแบบหนึ่ง”“เมื่อคนธรรมดาอยู่ท่ามกลางนั้น จะรู้สึกเหมือนว่าร่างกายได้รับพลังวิญญาณ เหมือนว่าอยู่ในแดนสวรรค์”“ปรมาจารย์กัว ผมพูดถูกไหม?”ฉู่เฉินยิ้มจาง ๆ หันไปมองสีหน้าของกัวหกนิ้วที่คร่ำเครียดไปในทันทีก่อนหน้านี้ ฉู่เฉินเองก็เกือบถูกหยกลายโลหิตก้อนนี้หลอกลวงโชคดีที่เขาเปิดเนตรมังกรเพื่อมองทะลุแก่นแท้ เพียงแวบเดียวก็มองเห็นปัญหาภายในจนทะลุปรุโปร่งแล้วปรมาจารย์กัวที่มาจากเซียงเจียงคนนี้ ถือว่าพอมีความสามารถอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่วิชาลึกลับฮวงจุ้ย เพียงผิวเผินเท่านั้นค่ายกลฮวงจุ้ยประเภทนี้ อย่างมากก็คงอยู่ได้เป็นเวลาหนึ่งวันหลังจากหนึ่งวัน ก็จะเสื่อมลงไปเองหลอกถังจิ้งจือกับหวังคุนเจ้าใหญ่นายโตที่ไม่มีความรู้เรื่องวิชาฮวงจุ้ย และพวกเศรษฐีใหม่ยังพอไหว เมื่อเรื่องแดง คนพวกนี้ก็จะค้นพบว่าถูกหลอก ปรมาจารย์กัวผู้นี้ก็หอบเงินหนีไปไกลแล้วตั้งนานแล้ว“พูดจาเหลวไหล! ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรเลยสักนิด!”
โรคที่เธอเป็นอยู่ เธอรู้ดีว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ในเวลา ณ ตอนนี้งั้นก็หมายถึงฉู่เฉินต้องแพ้พนันอย่างแน่นอน แล้วยังต้องคุกเข่าโคกศีรษะให้คนแซ่หลี่อีกคิดได้ดังนั้น หญิงวัยกลางคนรีบเก็บข้อมือกลับมาแล้วลุกขึ้นกล่าว “คุณหมอ น้ำใจของคุณฉันรับด้วยใจได้ แต่...ฉันไม่อยากเป็นให้คุณลำบาก” “อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาขุดหลุมดักรอให้คุณกระโดดลงไป คุณอย่าได้รักษาฉันอีกเลย”ได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคนแล้ว บรรดาผู้ชมนับหมื่นก็พากันพยักหน้าใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผู้ป่วยผิวหนังพุพองทั้งร่างจะไปรักษาให้หายทันทีในการแข่งขันนี้ได้ยังไงกันว่าก็ว่าเถอะ ขนาดฟางอวี่เจิ้งยังออกมายืนกรานตั้งข้อสงสัยเลย ขอแค่ฉู่เฉินพยักหน้า แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนหัวข้อการแข่งขันก็ยังสามารถเปลี่ยนผู้ป่วยคนใหม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ กดบ่าของหญิงวัยกลางคนให้เธอนั่งลง และเอามือไพล่หลังข้างเดียว กล่าวเนิบๆว่า “ถ้าเพื่อชัยชนะ ที่จริงผมจะเปลี่ยนคนไข้ก็ได้ หรือเปลี่ยนหัวข้อก็ได้” “แต่คนเป็นหมอต้องมีเมตตา” “ถ้าที่ผมพูดไม่ผิดละก็ คุณได้ฝากความหวังครั้งสุดท้ายกับการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้แล้ว ถ้าผมปฏิเสธที่จะรักษาคุณเ
ว่ากันตามกฎการแข่งขันรอบสอง ไม่ว่าใครจับฉลากได้ผู้ป่วยแบบไหนก็ต้องรักษาในตอนนั้นและที่นั่นเลยแต่ผิวหนังที่เปื่อยพุพองทั้งร่างแบบนี้ไม่ใช่จะสามารถรักษาให้หายได้ภายในเวลาอันสั้นได้เลย แม้แต่ครึ่งเดือนการที่จะรักษาหญิงวัยกลางคนผู้นี้ให้หายได้คงเป็นเรื่องปาฏิหาริย์“ทำไมถึงมีผู้ป่วยลักษณะนี้ได้”ฮว่าจิ่วหยางมองไปยังพวกจางเสวี่ยเหยียนและเฝิงว่านชางด้วยความสับสนตามกฎการแข่งขันแพทย์แผนจีนก่อนหน้า ผู้ป่วยที่ถูกเลือกมาก็มีเงื่อนไขการเลือกคือต้องป่วยเป็นโรคในลักษณะที่สามารถรักษาให้หายในตอนนั้นได้เลยแต่ผู้ป่วยตรงหน้านี้ผิดกฎอย่างเห็นได้ชัด“เอ่อ...”จางเสวี่ยเหยียนหันหน้าไปมองถังจิ้งจือที่อยู่ด้านข้างพร้อมขมวดคิ้วกล่าว “ท่านถัง ผู้ป่วยลำดับหลังจากร้อยเป็นต้นไป น่าจะเป็นคุณที่ตัดสินใจเองสินะ?”“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ไม่เพียงแต่จางเสวี่ยเหยียนที่ไม่สบอารมณ์ แม้แต่หลินจื้อหงกับเฝิงว่านชางก็ล้วนมีสีหน้าเหยเกสุดๆฟางอวี่เจิ้งก็กำลังเดินมือไพล่หลังจากเก้าอี้กรรมการมุ่งไปกล่าวกับพิธีกร “ขอหยุดการแข่งขันสักครู่”เจียงถิงพยักหน้ารัวๆ แล้วถอยไปยืนข้างฉู่เฉินพร้อมกระซิบพูดคุยกับฉู่เฉินฉากตรงหน
ทันทีที่ฉู่เฉินพูดออกมา ถังจิ้งจือรู้สึกหนักอึ้ง จ้องเขม็งฉู่เฉินด้วยใบหน้าที่อัปลักษณ์สุดขีดฮว่าจิ่วหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างจ้องมองไปทางถังจิ้งจือแล้วขมวดคิ้วถ้าบอกว่าเขาถูกท่านหลงขับไล่จากสำนัก งั้นก็หมายความว่าได้สูญสิ้นรัศมีคุ้มครองจากท่านหลง แล้วถังจิ้งจือมีสิทธิ์อะไรได้เป็นกรรมการพิเศษล่ะแต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากท่านหลง ฮว่าจิ่วหยางเลยไม่พูดอะไรให้มากความในเวลานี้แต่หลังจากนี้เขาต้องตามสืบเรื่องนี้ต่อไปหากถังจิ้งจือปกปิดขึ้นมาจริง ฮว่าจิ่วหยางย่อมไม่เกรงใจอีกต่อไป จะนำเรื่องนี้ไปรายงานต่อสมาคมแพทย์แผนจีนทันที และยื่นเรื่องปลดและแบนคุณสมบัติสายอาชีพแพทย์ของถังจิ้งจือไม่ให้ผุดให้เกิดเลย“รีบหน่อย ทุกคนรอแกอยู่นะ”ฉู่เฉินกล่าวด้วยใบหน้าเริ่มรำคาญหลี่จวิ้นเฟิงโมโหตาถลนแทบจะพ่นไฟออกมาแต่อยู่ต่อหน้าผู้คนในสนามนับหมื่น และอยู่ต่อหน้าผู้คนในห้องถ่ายทอดสดนับพันนับหมื่นคน เขาจะถอยหนีก็หนีไม่ได้เพราะถึงยังไงเมื่อกี้เขาก็รับปากเอง หลังจากแพ้ฉู่เฉินจะทำเป็นไม่รักษาสัญญาก็ไม่ได้ไหมล่ะ“พวกแกก็เห็นกันแล้ว นี่เป็นคนจากสำนักหมอ พูดจาเหมือนกับผายลม ไม่รู้เลยจริงๆว่าสำนั
จางเสวี่ยเหยียน หลินจื้อหง เฝิงว่านชางพากันอ้าปากค้างเมื่อมองเหตุการณ์ตรงหน้าถังจิ้งจือมองจนสมองทึบไปเลยเทพจริงๆแม้แต่เข็มเงินในมือหลี่จวิ้นเฟิงที่ยังไม่ทันได้ปล่อยออกไปก็ตกลงพื้นจนได้ยินเสียงหลิ่วหรูเยียนถึงกับยืนขึ้นพรวด มองหุ่นทองแดงข้างหน้าฉู่เฉินด้วยสายตาเหลือเชื่อ จากนั้นตะโกนออกมาอย่างลืมตัว “โกง! เขาต้องโกงแน่”สายตานับไม่ถ้วนในสนามกีฬามโหฬารแห่งนี้จ้องไปหลิ่วหรูเยียนราวกับมองคนบ้าหลิ่วชิงเหอรีบดึงหลิ่วหรูเยียนไว้พร้อมกล่าว “หรูเยียน อย่าเหลวไหล รีบนั่งลง”หน้าอกของหลิ่วหรูเยียนกระเพื่อมและสองมือสั่นด้วยความโมโห พูดไม่ออกครู่ใหญ่ สุดท้ายก็นั่งลงที่เดิมอย่างไม่เต็มใจ“ยัยผู้หญิงพวกนี้นี่แม่งโคตรโง่เง่าไหมวะ” “แกก็ลองมาโกงให้ดูดิ” “แม่เอ๊ย คนโง่มีทุกปี ทำไมปีนี้มีเยอะจังวะ”ผู้คนได้สติกลับมาต่างพากันกลอกตาดูแคลนให้หลิ่วหรูเยียนส่วนกู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ช็อกกับกระบวนท่านี้ของฉู่เฉินตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแพ้ชนะธรรมดาแล้ว แต่เป็นการบดขยี้หลี่จวิ้นเฟิงให้จมดินเลยทีเดียว“ว้าว นายท่านเท่ระเบิดไปเลย กระบวนท่าเมื่อกี้แหละ โห นับถือสุดๆ...”ต้วนหลิงเวยม
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉู่เฉินก็เปลี่ยนประเด็นทันที เขายิ้มขึ้นมาอย่างนิ่งๆ “อีกอย่างทำไมหมาถึงกลายเป็นคำด่าล่ะครับ?”“หมามันซื่อสัตย์กับเจ้าของจะตาย เฝ้าบ้าน อีกทั้งคนก็ชอบ ทำไมถึงกลายเป็นเป็นคำดูถูกได้ล่ะครับ?”“หรือว่าคุณและท่านหลี่ดูถูกหมาอย่างนั้นเหรอครับ?”เมื่อคำพูดนี้ออกไป ถังจิ้งจือและหลี่จวิ้นเฟิงก็โกรธจนหน้าซีดเซียวแต่ต่อหน้าชาวเน็ตหลายแสนคน พวกเขาไม่กล้าตอกกลับฉู่เฉินจริงๆใครจะกล้ารับประกันได้ว่าในนี้จะไม่มีคนรักหมา ถ้าสมมุติตกหลุมพรางของฉู่เฉิน แค่คนรักหมาพวกนั้นก็สามารถทำให้พวกเขาสองคนจมดินได้“ถือว่าแกแน่! เดี๋ยวรอคอยดูกัน!”หลี่จวิ้นเฟิงโกรธจนหน้าบูดเบี้ยวไปหมด เมื่อกลับมายังที่เก้าอี้ ก็ปล่อยลมปู๊ดป๊าดออกมาเสียงดังหลายครั้งติดกัน“รอแม่แกสิ! จะตอบหรือไม่ตอบ รีบบอกมาสิ!”ฉู่เฉินลองบนหลี่จวิ้นเฟิง หลังจากนั้นด่าหลี่จวิ้นเฟิงออกไปหลี่จวิ้นเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ตบโต๊ะแล้วพูดขึ้นมาว่า “ตกลง! เริ่มการแข่งขันใหม่ตอนนี้เลย!”โมโหแล้วนะ!เขาโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ครั้งแรกที่ถูกด่าอย่างเจ็บแสบแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย แต่กลับตอกกลับไม่ได้ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนก
ไม่เพียงแต่ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกสีหน้าจะดูไม่ได้ แม้แต่กรรมการอย่างจางเสวี่ยเหยียนและคนอื่นๆ ก็สีหน้าไม่ดีเช่นกัน“คุณฉู่ คุณหมายถึง...”เฝิงว่านชางเคยเห็นทักษะการแพทย์ของฉู่เฉินมาก่อน ดังนั้นเขาจึงหันไปถามฉู่เฉินด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจมากๆ“หึ ฉันว่าเขาฝังไม่เป็นมากกว่า เขาถึงได้พูดจาโอ้อวดแบบนี้”หลิ่วหรูเยียนไม่รอให้ฉู่เฉินปริปากพูด เธอก็สวนขึ้นมาทันทีในตอนนั้นเหล่ามวลชนที่อยู่ทั้งบนและล่างเวทีต่างก็พากันพยักหน้า คิดว่าที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาก็มีเหตุผลตอนนั้นเองผู้ชมในช่องไลฟ์สดของแต่ละแอปก็เริ่มกระหน่ำคอมเมนต์อย่างบ้าคลั่ง “ไอ้เจ้านี่เป็นใครกันเนี่ย มีหน้ามาพูดว่าง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากไม่มีทางฝัง ถ้าแน่จริงแกก็ฝังให้ฉันดูสิ” “ไอ้ห่า โคตรเกลียดไอ้พวกดีแต่ปากแบบนี้จริงๆ !”“ไล่มันลงไปสิ ไอ้คนแบบนี้แค่มองก็รู้แล้วว่าความรู้ทางการแพทย์ไม่เท่าไหร่หรอก ทำเป็นแค่พูดโม้เท่านั้นแหละ!”ในช่องไลฟ์สด หลายคนที่ไม่เคยเห็นทักษะการแพทย์ของฉู่เฉินก็ต่างพากันด่าเขา แต่ในขณะเดียวกันคนที่เคยดูการถ่ายสดครั้งก่อนก็คอมเมนต์ให้กำลังใจฉู่เฉิน“พวกคุณไม่เข้าใจหรอก ผู้ชายคนนี้ทักษะการแพทย
ระหว่างที่พูด ถังจิ้งจือก็บอกรายละเอียดกฎกติกาของการแข่งขันอีกครั้งหนึ่งผู้เข้าแข่งขันหลายคนหลังจากที่ได้ยินถังจิ้งจือพูดจบแล้ว มีจำนวนไม่น้อยที่สีหน้าเปลี่ยนไปกฎนี่มันทำให้คนลำบากใจจริงๆ นะภายในสิบนาทีถังจิ้งจือจะบอกจุดฝังเข็มแปดสิบเอ็ดจุด หลังจากนั้นผู้เข้าแข่งขันจะต้องฝังเข็มให้ตรงจุดในหุ่นทองแดง ภายในหนึ่งนาทีหลังจากที่เขาอ่านจบอย่างแรกนั่นคือหุ่นทองแดงนะไม่ใช่หุ่นฟางหมอทั่วไปจะมีพลังมากขนาดนั้นได้ยังไง?อีกอย่างจุดฝังเข็มแปดสิบเอ็ดจุด หากฝังผิดพลาดไปสักจุดสองจุดก็ถือว่าต้องออกจากแข่งขันไป แบบนี้ใครจะมั่นใจได้ล่ะว่าจะไม่ฝังผิดจุด?อัตราการผิดพลาดเกือบจะเป็นศูนย์อย่าว่าแต่พวกเขาที่อึ้งเลย แม้แต่ผู้ชมที่อยู่ข้างล่างเวทีก็อึ้งเช่นกัน“การแข่งขันปีนี้จะยากไปไหม?”“นั่นน่ะสิ นี่มันบีบบังคับกันเกินไปหรือเปล่า? การฝังเข็มบนหุ่นทองแดงพวกนี้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“ใช่น่ะสิ อีกทั้งยังต้องฝังทั้งแปดสิบเอ็ดจุด ถ้าระหว่างกลางคันฝังผิดไปจุดสองจุดก็ถือว่าแพ้ไป นี่มันยากเกินไปจริงๆ”แม้แต่ฮว่าจิ่วหยาง จางเสวี่ยเหยียนและคนอื่นๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นล้วนแต่เป
ฟางอวี่เจิ้งรับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาลแต่ฉู่เฉินไม่ให้โอกาสเขาเปลี่ยนใจเลย ตอนนี้ฉู่เฉินเดินไปที่โซนพักผ่อนของผู้เข้าแข่งขันทันทีฉิบหายละ!ฟางอวี่เจิ้งรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังเขาสู่บทใหม่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอึดอัดหันหลังไปหาเหล่าสาวงาม “แม่หนู ขออภัยด้วยจริงๆ วันนี้การจัดการที่นั่ง...”“ฟางอวี่ ไม่ต้องให้คุณจัดการหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเราไปนั่งตรงนั้นก็ได้ค่ะ”เจียงอิ่งชี้นิ้วไปทางที่นั่งที่ยังว่างอยู่เป็นแถวยาวที่นั่งตรงนั้นเป็นที่ที่จัดไว้ให้เพื่อนร่วมงานที่แพทย์สภมีที่ว่างพอดี แม้ว่าพวกเขาจะมาแล้ว เจียงอิ่งก็ถลึงตาใส่พวกเขาก็สามารถไล่พวกเขาไปได้แล้วพอพูดถึงตรงนี้ ฟางอวี่เจิ้งก็พูดอะไรไม่ออก เขาทำได้แค่หันหน้าไปมองทางฉู่เฉิน พูดกับตัวเองในใจว่าน้องฉู่เอ๊ย ขอโทษจริงๆ ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากจะช่วยนะ แต่ว่ามีคนแทรกน่ะสิขอโทษด้วยจริงๆ ไอ้น้องเมื่อเห็นเหล่าสาวงามนั่งเรียงกันเป็นเป็นระเบียบตรงเก้าอี้ข้างหน้าเขา ฉู่เฉินที่กำลังจะดื่มน้ำก็น้ำพุ่งออกมาจากปากฟางอวี่เจิ้ง!แม่งเรียกว่าแยกพาเธอออกจากกันแล้วเหรอ?งานเลี้ยงจะเริ่มละมั้งเนี่ยหลังจากที่ไร้คำพูดใดๆ ฉู่เฉิน
เมื่อได้ยินเสียงอ่อนหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของกวนเหล่ย ฉู่เฉินก็แทบจะเป็นลมถ้าไม่ผิดจากที่ฉู่เฉินเดา กวนเหล่ย จ้าวเจวียน รวมทั้งโจวน่าสามคนนี้จะต้องยืนห่างจากเขาออกไปเป็นระยะทางหนึ่งขั้นบันไดเป็นแน่ขาเรียวยาวทั้งสามคู่ เครื่องมือสังหารที่น่าภูมิใจทั้งสามคู่ นี่มันปราบผู้ชายได้จำนวนไม่ถ้วนโดยเฉพาะกวนเหล่ยที่วันนี้ตั้งใจใส่ชุดคลุมคอลึกถึงหน้าอก แทบจะปิดหน้าอกเอาไว้ไม่อยู่แล้วใบหน้ารูปไข่นั้นยังใส่แว่นตากรอบสีดำอีกด้วยดวงตาที่น่าดึงดูดใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอยังใส่คอนแท็กต์เลนส์มาอีกด้วย ยั่วยวนไม่มีใครเท่า“พวกเธอมาได้ยังไงกัน วันนี้บริษัทหยุดเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว เขาพูดอย่างจงใจแสดงสถานะของหญิงสาวเหล่านั้น“ใช่น่ะสิคะ วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นวันนี้พวกเราก็เลยมาดูความโดดเด่นของประธานฉู่ด้วยกัน พร้อมทั้งมารเป็นกำลังใจให้คุณด้วยค่ะ”กวนเหล่ยกำหมัดเล็ก ๆ แล้วยกหน้าอกขึ้นสูงอย่างภาคภูมิใจคนที่ผ่านไปผ่านมารอบๆ ก็งุนงงไปหมดก็ได้ฉู่เฉินเช็ดเหงื่อ ตอนนี้เขาทำได้อดทนเหตุผลนี้ของกวนเหล่ยไร้ข้อกังขาบางครั้งการที่รอบตัวมีแต่ผู้หญิงก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องดีอะไรฉู