บึ้มคำพูดของฉู่เฉินราวกับระเบิดที่ถูกโยนลงไปในแม่น้ำที่เงียบสงบ ก่อให้เกิดคลื่นลูกมหึมาขึ้นในพริบตา“ทำไมฉันรู้สึกว่าระหว่างไอ้แซ่ฉู่กับตระกูลหลิ่วมีเรื่องราวไม่ธรรมดาซ่อนอยู่เบื้องหลัง?”“เหมือนเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดนะ ไม่แน่ อาจเหมือนที่คนข้างนอกลือกันว่าพวกนางสองแม่ลูกแย่งทรัพย์สินของคนอื่นเขาไป แล้วก็ฮุบอำนาจบริหารของบริษัทไปด้วย”“ยังไงก็เถอะ จากที่ฉันดู หลิ่วหรูเยียนไม่เห็นเหมือนที่นางพูด แต่เหมือนนางแอ๊บใสซื่อมากกว่า”“ไม่แน่นะ หลิ่วหรูเยียนก็อาจเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แม่นางอาจยั่วอดีตประธานฉู่ จากนั้นก็ใช้ลูกไม้คุณพี่ขา ดื่มยานี่สิคะ”การคาดเดาต่างๆ นานาจากชาวเน็ตล้มล้างความคิดที่เคยมีมาก่อนหน้าจนหมด ซูซูรีบใช้มือบังกล้องไว้ ก่อนจะหันไปพูดกับหลิ่วหรูเยียนด้วยใบหน้าเย็นชา “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว ถ้าคุณไม่อยากติดอันดับคำค้นหายอดฮิต รีบกลับไปนั่งดีกว่านะคะ”ขณะพูด ซูซูชี้ไปทางคอมเมนต์บนหน้าจอด้วยหลิ่วหรูเยียนตวัดมองคอมเมนต์แวบหนึ่ง ก่อนที่จะหน้าซีดไปทั้งดวงหมดกัน!ภาพพจน์ที่เธอตั้งใจสร้างมาอย่างดิบดีพังทลายหมดแล้วถึงขั้นมีคนเริ่มสงสัยว่าพวกเธอสองแม่ลู
นี่มัน…ฮว่าจิ่วหยางนึกว่าหากบอกชื่อเสียงเรียงนามของตัวเอง ฉู่เฉินจะไว้หน้าเขาบ้าง ถึงแม้ไม่ยอมเปิดเผยชื่ออาจารย์ แต่ก็น่าจะเกรงใจเขาอยู่สักหน่อยแต่นึกไม่ถึงว่าฉู่เฉินกลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยไม่เพียงอาวุโสฮว่าที่อึ้งค้าง แม้แต่ผู้ชมในห้องไลฟ์สดต่างก็ตะลึงตาค้างไปแล้วเหมือนกันนั่นอาวุโสฮว่าเชียวนะ!หนึ่งในสิบหมอชื่อดังแห่งเจ็ดมณฑลทิศใต้!ยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นประธานสมาคมแพทย์แผนจีนด้วย มิหนำซ้ำ เขายังเป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงระบือไกลทั่วทิศอีกด้วย!“ฉู่เฉินบ้าเกินไปแล้วมั้ง?”“ไอ้แซ่ฉู่นี่บ้าเกินไปหรือเปล่า?”“อาวุโสฮว่าเขาอุตส่าห์ถ่อมตัว ถามถึงอาจารย์ของเขาก็เพราะอยากดันเขา ไอ้เด็กนี่พูดอย่างงี้กับเขาได้ยังไง?”“ถ้าฉันเป็นอาวุโสฮว่า จะทำให้ไอ้แซ่ฉู่นี่ดับไม่มีเกิดไปเลย”แค่พริบตาเดียว ทิศทางคอมเมนต์หันไปโจมตีฉู่เฉินอีกครั้งหลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับซูซูเห็นอย่างนั้น สีหน้าก็ผ่อนคลายลงมาก เธอลอบคิดในใจว่า ‘ฉู่เฉินเอ๋ยฉู่เฉิน ยังไงแกก็เป็นแค่คางคกขึ้นวอ โอกาสดีๆ อย่างนี้แกไม่คว้าไว้ก็โทษคนอื่นไม่ได้แล้วล่ะ’ฮว่าจิ่วหยางชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยหน้า
หลังจากวางสาย ทั้งทีมตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายเพราะอย่างไรก่อนหน้านี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าจู่ๆ อาวุโสฮว่าจะเจาะจงให้ฉู่เฉินเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนทางทีมไม่มีช่องทางติดต่อฉู่เฉินด้วยซ้ำ ภายใต้สถานการณ์บังคับ ฟางเซิ่งเซวียนรีบส่งข้อความหาซูซูทันที“ซูซู รีบคุยกับคุณฉู่ด่วนๆ เชิญเขาเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า ผมรอฟังข่าวจากคุณอยู่นะ”ซูซูเห็นข้อความจากผู้กำกับฟางก็อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบหันไปยิ้มให้ฉู่เฉินผ่านไลฟ์สด “คุณฉู่คะ ฉันอยากเชิญคุณเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า ไม่ทราบว่าคุณสนใจเข้าร่วมไหมคะ?”สิ้นคำถามของเธอ แม้แต่หลิ่วหรูเยียนก็ราวกับระเบิดลงเชิญฉู่เฉินเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีน?นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!คงไม่ใช่ว่าทางรายการกับตาแก่เมื่อกี้ร่วมมือกันจะดันฉู่เฉินหรอกนะ?“ซูซูเชิญไอ้แซ่ฉู่นั่นเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนระดับมณฑล? ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหมเนี่ย”“เชี่ย งั้นก็หมายความว่าทักษะทางการแพทย์ของฉู่เฉินเป็นเรื่องจริงน่ะสิ?”“นี่ไม่ต่างอะไรจากการยอมรับอย่างเป็นทางการแล้วมั้ง? งั้นเมื่อกี้หลิ่วหรูเยียนก็ใ
ใครใช้ให้คนอื่นเขามีวิชาเก้าเข็มลึกล้ำกันล่ะ?แม่งเอ๊ย!ทนเท่านั้น!หลังจากพ่นลมหายใจออกมายาวๆ หนึ่งครั้ง ฮว่าจิ่วหยางข่มกลั้นต่อไฟโทสะที่ใกล้จะปะทุออกมา พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ผู้กำกับฟาง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณส่งที่อยู่ของเขาให้ผม ผมจะไปเชิญด้วยตัวเอง”หา?ฟางเซิ่งเซวียนได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มนั่งไม่ติดไอ้เด็กฉู่เฉินนั่นมันดีเด่นมาจากไหน อาวุโสฮว่าถึงขั้นจะไปเชิญเขาด้วยตัวเอง?นี่มัน…“ผู้กำกับฟาง คุณฟังอยู่หรือเปล่า?”ผ่านไปครู่หนึ่ง พอเห็นว่าฟางเซิ่งเซวียนที่อยู่ปลายสายไม่พูดอะไรสักที ฮว่าจิ่วหยางจึงถามย้ำอย่างหงุดหงิด“ครับๆๆ…อาวุโสฮว่า ผมจะส่งที่อยู่ไปให้คุณเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้เลย”ฟางเซิ่งเซวียนวางสายด้วยความรู้สึกตกตะลึง เขารีบถามที่อยู่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่จากนักข่าวแนวหน้า จากนั้นก็ส่งให้ฮว่าจิ่วหยางทันที“บอกซูซูด้วยว่า ต่อจากนี้ห้ามโจมตีคุณฉู่ รายการของเราต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เขา”หลังจากส่งข้อความเสร็จ ฟางเซิ่งเซวียนก็ออกคำสั่งโดยสัญชาตญาณพอได้รับข้อความจากทางทีมงานอีกครั้ง ซูซูเองก็ถึงกับตะลึงเช่นกัน!ต้องสร้างภาพลักษณ
“คุณปู่ รอผมด้วยครับ!”ฮว่าเทียนอวี่จ้องแผ่นหลังของอาวุโสฮว่าที่เดินไกลออกไป เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบตามไปเวลานี้ ข่าวที่อาวุโสฮว่ากำลังจะไปเยี่ยมเยือนบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งรายการแล้ว“แม้แต่อาวุโสฮว่ายังยอมรับฝีมือการแพทย์ของฉู่เฉินขนาดนี้เลยเหรอ?”สวี่ถิงถิงอ่านข้อความในมือถือ ก่อนจะจมสู่ภวังค์ความคิดเช่นกันที่จริงตัวเธอเองก็มีโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายมาหลายปีแล้ว หนำซ้ำหลายปีที่ผ่านมา เธอเองก็เคยไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมาหลายคน แต่กลับไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย อาการกลับยิ่งย่ำแย่ลงด้วยซ้ำเธอลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็เดินเข้าไปหาฉู่เฉินพร้อมกับรอยยิ้ม และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “คุณฉู่ ทักษะด้านการแพทย์ของคุณน่าเลื่อมใสมาก ไม่ทราบว่าช่วยฉันดู…”ฉู่เฉินตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง ไม่คิดจะเสวนากับเธอแม้แต่น้อยสวี่ถิงถิงไม่คิดว่าฉู่เฉินจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย เธอถึงขั้นขอร้องฉู่เฉินขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่น คงเป็นฝ่ายเสนอตัวมาช่วยรักษาให้เธอตั้งนานแล้วหลังจากตั้งสติ สวี่ถิงถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “คุณฉู่ ฉันชื่อสวี่ถิงถิงค่ะ เมื่อกี้ฉันได้เห็นฝีมือด้
หลายคนในหมู่พวกเขา ทันทีที่เงินเดือนออกจะรีบเข้ามาส่งของขวัญให้ซูซูในช่องไลฟ์สด แม้ว่าตัวเองต้องกลับมาซื้อมาม่ากินที่ห้องก็ตามแต่ว่า ซูซูในดวงใจของพวกเขาที่ทั้งฉลาด สวย แล้วก็ใจดี กลับทอดสะพานให้ไอ้ลูกคนรวยแซ่ฉู่นั่น?!ไม่ใช่แค่พวกแฟนคลับชายแท้พวกนั้นที่กระทบกระเทือนทางใจอย่างรุนแรง แม้แต่กู้รั่วเสวี่ยที่กำลังดูไลฟ์สดก็จ้องหน้าจอมือถืออย่างไม่อยากเชื่อเหมือนกันเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอเข้าใจดีว่าซูซูต้องการจะสื่ออะไรผ่านคำพูดนั้นปากบอกว่าต้องการขอบคุณฉู่เฉินที่ช่วยเพื่อนร่วมงานของเธอ ถึงได้เลี้ยงข้าวฉู่เฉิน แต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ต่อหน้าแฟนคลับมากมาย เกรงว่านางจิ้งจอกตัวนี้คงวิ่งโผเข้าใส่ฉู่เฉินไปนานแล้วนึกได้อย่างนั้น กู้รั่วเสวี่ยอดกำหมัดไม่ได้ฉู่เฉินลังเลครู่หนึ่ง ก่อนหันไปมองสวี่ถิงถิง ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “แค่โรคหอบหืด ร้ายแรงอย่างที่คุณพูดขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซี้ด!สวี่ถิงถิงมองฉู่เฉินอย่างตกตะลึงเธอเป็นโรคหอบหืดจริงๆ เพียงแต่เธอปิดบังไว้อย่างมิดชิด ขอแค่ไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน ก็ไม่มีใครดูออกว่าเธอเป็นโรคนี้เพียงแต่ ปีนี้โรคหอบหืดของเธอเริ่มม
คำเตือนของฮว่าเทียนอวี่ทำให้อาวุโสฮว่าอดรู้สึกไม่ได้ว่าที่หลานชายของเขาก็พูดมีเหตุผลเหมือนกันเหมือนที่ว่ากันว่า หมอเทวดาแค่ดูสีหน้าก็รู้อาการป่วยแล้วหรือพูดอีกอย่างก็คือ มีเพียงหมอเทวดาตัวจริงเท่านั้นที่จะทำเหมือนฉู่เฉินได้ แค่มองหน้าอีกฝ่ายแวบเดียว ก็รู้อาการป่วยแม้วิชาฝังเข็มของฉู่เฉินจะยอดเยี่ยม แต่อย่างมากเขาก็แค่ได้รับการถ่ายทอดมาจากยอดฝีมืออีกทีเมื่อวงการแพทย์แผนจีนเริ่มถดถอย จากที่ฮว่าจิ่วหยางรู้มาก ทั่วทั้งประเทศจีน แทบไม่มีใครที่สามารถรู้อาการป่วยจากการดูแค่สีหน้าอย่างเดียวแล้วส่วนหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงกันอยู่ในปัจจุบัน แท้จริงแล้วห่างชั้นจากหมอเทวดาจริงๆ ตั้งไม่รู้กี่ขุมนึกมาถึงตรงนี้ ฮว่าจิ่วหยางหยิบมือถือขึ้นมาโทรศัพท์หาฟางเซิ่งเซวียน“อาวุโสฮว่า มีอะไรเหรอครับ?”น้ำเสียงนอบน้อมของฟางเซิ่งเซวียนดังมาจากปลายสายฮว่าจิ่วหยางพยักหน้าเล็กน้อย “อืม ผมแค่จะถามอะไรคุณหน่อย เมื่อกี้คนที่ขอให้ฉู่เฉินช่วยรักษาให้ เป็นแค่การแสดงที่ทางทีมงานจัดฉากขึ้นมาหรือเปล่า?”ฟางเซิ่งเซวียนรีบแก้ต่างให้ตนเองทันทีถึงเขาจะอยาก แต่เวลาอันกระชั้นชิดกลับไม่อำนวยให้เขาหลังได้ฟังคำอธิบา
ซุนเซี่ยวเหรินที่กำลังจับตาดูสถานการณ์ในไลฟ์สดอยู่ก็ขมวดคิ้วแน่นเช่นกันถึงแม้ฉู่เฉินจะมีฝีมือด้านการแพทย์ที่โดดเด่น แต่การประกาศกร้าวต่อหน้าคนมากมายว่าจะรักษาโรคหอบหืดให้หายภายในห้านาทีจะไม่เป็นการอวดอ้างเกินจริงไปหน่อยเหรอ?ในเวลานี้ ในโรงพยาบาลประชาชนเจียงจงก็มีผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์หลายคนกำลังดูไลฟ์สดอยู่เหมือนกันตอนที่ฉู่เฉินประกาศว่าจะรักษาโรคหอบหืดให้หายภายในห้านาที ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทั้งหลายต่างก็หัวเราะออกมาอย่างดูแคลน“ตาคนแซ่ฉู่คนนี้ คงอยากดังจนบ้าไปแล้วมั้ง?”“ขอแค่มีความรู้ด้านการแพทย์นิดหน่อยก็คงรู้ โรคหอบหืดเป็นโรคที่ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา แม้แต่เครื่องมือและตัวยาใหม่ที่นำเข้ามาล่าสุดยังรักษาไม่ได้ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันน่ะ?”“ถ้าเขารักษาหายได้จริงๆ ฉันจะลาออกพรุ่งนี้ แล้วไปคุกเข่าคารวะเขาเป็นอาจารย์เลย!”คนแรกที่พูดอย่างนี้ คือหมอเจ้าของไข้ของสวี่ถิงถิงนั่นเอง เขารู้ดีกว่าใครอยู่แล้วว่าอาการป่วยของสวี่ถิงถิงเป็นอย่างไรตั้งแต่ที่ป่วยจนถึงตอนนี้ เป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว อีกอย่างเพราะอาชีพที่ต้องระวังเป็นพิเศษบวกกับหน้าตาที่สะสวยของสวี่ถิงถิง เธอจึงต้
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ
“ติ๊ง!”เวลานี้เอง ภายในสนามกีฬาเจียงจง หลี่จวิ้นเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนพลันได้ยินเสียงใสกังวานดังขึ้นข้างหูสำเร็จแล้ว!หลี่จวิ้นเฟิงลืมตาขึ้นฉับพลัน ท่าทางดูล้ำลึกจนยากจะคาดเดา เขายกเตาหลอมโอสถบนพื้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอ่ยปากพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ยาเทวดาสำเร็จแล้ว สามารถทดสอบผลลัพธ์ได้ทันที!”เมื่อสิ้นเสียงพูด หลี่จวิ้นเฟิงก็เปิดฝาเตาหลอมโอสถ ยาสีดำสามเม็ดกลิ้งจากเตาหลอมโอสถมาที่มือของหลี่จวิ้นเฟิงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เลือกผู้โชคดีสามคนจากที่นั่งผู้ชมด้านล่างเวที ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้สูงวัยอายุเกิดหกสิบปี นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งถือผลตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจหลอดเลือดอย่างรุนแรง ใส่ขดลวดหัวใจไว้ในร่างกายสามอันแล้วหลี่จวิ้นเฟิงส่งยาในมือให้คนผู้นั้นหนึ่งเม็ดทันที แล้วยื่นน้ำแร่ไปให้อีกหนึ่งขวดผู้สูงอายุทั้งสามคนกินยาของหลี่จวิ้นเฟิงลงไปแล้ว อาการป่วยก็ดีขึ้นมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ผู้ป่วยอาการหนักที่สุดคนนั้น จากเดิมที่ถูกลูกชายลูกสาวประคองขึ้นเวที แต่หลังจากกินยาเข้าไปก็ยืดตัวตรง เดินลงจากเวทีด้วยตัวเอง เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิ
แต่ยาลูกกลอนที่กระถางยาของเขาหลอมออกมาได้ก็สาเหตุมาจากยันต์อักขระเหล่านั้น ราวกับผลิตออกมาจากสายการผลิตไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพของยาที่หลอมสำเสร็จ เทียบไม่ได้กับกระถางยาทองคำม่วงที่อยู่ในมือของฉู่เฉินแม้แต่น้อยหลี่จวิ้นเฟิงอดหัวเราะขำขันออกมาไม่ได้หลังจากเห็นกระถางยาที่ขึ้นสนิมในมือฉู่เฉิน จึงชี้ไปยังกระถางยาทองคำม่วงในมือฉู่เฉินพร้อมกล่าวขึ้น “คนแซ่ฉู่ ไม่ใช่ว่ากะอีแค่กระถางยาที่ดีกว่านี้หน่อยยังซื้อไม่ไหวหรอกนะ”“นี่เก็บสินค้าแผงลอยจากตลาดขยะที่ไหนมา ยังกล้าเอามาหลอมโอสถอีก ไม่กลัวคนกินแล้วตายหรือไง”ฉู่เฉินคร้านจะสนใจเขาเลยหยิบวัตถุดิบยาสองสามชนิดออกมาจากในกองสมุนไพร แล้วใช้มือเดียวบี้บดจนวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นผง จากนั้นจึงโยนผงยาที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทิ้งไปขณะที่ผงสมุนไพรเข้าสู่กระถางยาทองคำม่วง ฉู่เฉินก็ถ่ายพลังวิญญาณมายังกลางฝ่ามือต่อจากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เฉินราวกับเล่นกลหลี่จวิ้นเฟิงไม่กล่าววาจาใดอีก คว้าวัตถุดิบยาแล้วก็นำวัตถุดิบยาทั้งหมดใส่เข้าไปในกระถางยาเป็นไปตามที่อวี้ลู่คาดการณ์ไว้เลย ในกระบวนการหลอมโอสถทั้งหมด หลี่จวิ้นเฟิง
“หรูเยียน ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างถ้าเป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาจริง ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็หลอกล่อเอาสูตรยาบำรุงปราณมาจากฉู่เฉินในช่วงที่ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้มียาบำรุงปราณขายด้วยเช่นกันแล้วนี่?คิดเรื่องพวกนี้แล้วหลิ่วชิงเหอก็กลับมานั่งลงที่เดิม จากที่ตอนแรกกะจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสนามแข่งขันนี้ไป“จริงแท้แน่นอน หลี่จวิ้นเฟิงบอกกับหนูเองเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเขาไม่มั่นใจก็คงไม่เลือกการแข่งขันหลอมโอสถหรอกค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางยิ้มชั่วร้ายแม้ฉู่เฉินชนะไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไงการแข่งขันรอบสองก็ถือว่าเสมอกันขอแค่หลี่จวิ้นเฟิงชนะการแข่งขันรอบที่สาม ผลก็จะออกมาเสมอกันทุกคนฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่ขายหน้า และในทางตรงกันข้ามก็ยังได้รับความนิยมและประโยชน์โดยอาศัยการแข่งขันรอบที่สามนี้ด้วย ……อีกด้านหนึ่ง ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตำแหน่งกรรมการก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เยาะเย้ยกล่าว “ใช่แล้วยังไงล่ะ หรือว่าการแข่งขันรอบสามนี้ไม่ยอดเยี่ยมน่าชมหรอกเหรอ”“พวกคุณอย่าลืมซะล่ะ สามารถจัดการแข่งขันแพทย์แผนจีนตลอดทั้งปีนี้ได้ก็เพร
หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ