“ขอรับท่านแม่ทัพ”“เจ้าสั่งให้คนกลับไปเอายาและของจำเป็นที่จวนมาเรียบร้อยแล้วหรือไม่”“สั่งการเรียบร้อยแล้วขอรับ”“ดี รีบไปจะได้รีบกลับข้าไม่อยากให้ลี่หลินอยู่ตามลำพังที่จวน”อาชาคู่กายควบทะยานด้วยความเร็วเพื่อออกนอกเมืองไปยังฝั่งตะวันออก ครั้งนี้ซูหลี่จินกล้าท้าทายเขาและทำร้ายฮูหยินของเขา เรื่องนี้จวินเซียวไม่มีทางปล่อยนางไว้เย็นวันนั้นลี่หลินค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นมาเพราะความเจ็บของบาดแผลที่ยังไม่ทุเลา เมื่อตื่นขึ้นก็เห็นว่าอาหลันกำลังจัดเตรียมยาเอาไว้ให้นางเมื่อหันมาเห็นว่านางตื่นแล้วจึงรีบเข้ามาประคอง“คุณหนูเจ้าคะอย่าพึ่งลุกเร็วเช่นนี้เจ้าค่ะ ข้าพยุงท่านเอง”“อาหลัน เจ้ามานานแล้วหรือ”“จางเต๋อไปแจ้งต่อข้าและให้นำยาบางส่วนมาที่นี่ ข้าจึงรีบจัดยาและชุดของท่านบางส่วนและรีบมาทันที เรื่องนี้ฮูหยินกับนายท่านทราบแล้วท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ทั้งสองท่านบอกว่าให้ท่านพักฟื้นให้หายดีส่วนเรื่องในเมืองนายท่านจะหารือกับท่านอ๋องเองเจ้าค่ะ”“งั้นหรือ เช่นนั้นก็ดีแล้วข้ายังห่วงว่าจะมีผู้ใดอยู่ดูแลท่านแม่หรือไม่”“ท่านไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะมีแม่นมถงดูแลอยู่ฮูหยินไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ นี่ยาที่ท่านบอกใ
“ข้าย่อมรู้ตัวดี หลายวันมานี้ท่านเองก็อดกลั้นมามากเพราะเห็นว่าข้ายังไม่หายดีใช่หรือไม่เจ้าคะ”“เจ้ารู้งั้นหรือ”“อีกสองวัน….”“ลี่หลิน!! เจ้าอย่าพึ่งพูดอีกเลย ค่ำคืนนี้ข้าจะเป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียวไม่อยากได้ยินสิ่งใดอีก”“เช่นนั้นให้ข้าเริ่มเองนะเจ้าคะ”“ปีศาจน้อยของข้าใจกล้าขึ้นแล้วสินะ เจ้าอยากทำสิ่งใดเล่า”ลี่หลินค่อย ๆ ถอดชุดนอนของแม่ทัพหนุ่มออกและค่อย ๆ เลื่อนกายลงไปที่แผงอกกว้าง นางพึ่งมีโอกาสสำรวจอย่างเต็มตาก็วันนี้เอง พึ่งรู้ว่าเขามีรอยแผลที่เกิดจากการทำศึกอยู่ไม่น้อยแม้ว่ามันจะเป็นแผลเป็นเล็ก ๆ แต่ก็ยังไม่สามารถบดบังความองอาจของเขาได้แม้แต่น้อยนางลูบไล้ไปทั่วและค่อย ๆ เอนกายลงไปหาเขาพร้อมจรดริมฝีปากเพื่อทักทายเขา แสงไฟในห้องยังไม่ถูกดับเพราะนางจงใจให้เขาจดจำเรือนร่างนางเอาไว้“ลี่หลิน เจ้าช่างงดงามเกินห้ามใจแน่ใจหรือว่าจะไม่ดับไฟก่อน”“อย่าพึ่งเอ่ยคำใดเจ้าค่ะกอดข้าสิเจ้าคะ”จวินเซียวพลิกกายมาสวมทับนางไว้พร้อมกับบดขยี้ริมฝีปากด้วยความเร็วขึ้นเพื่อปลุกอารมณ์ของนาง เสียงครางที่เริ่มดังขึ้นทำให้เขารู้ว่าคืนนี้ต่อให้เขาจะรังแกนางนานเท่าใดลี่หลินก็จะไม่ว่ากล่าวหรือขอร้องให้เขาห
“เจียงลี่หลิน เจ้ากำลังพูดอะไรออกมาเจ้ารู้ตัวหรือไม่!!”เขาตะคอกนางเสียงดัง สายตาดุดันจนลี่หลินมือสั่น เฉินจวินเซียวคนเดิมที่นางกลัวกลับมาอีกครั้งจนทำให้ลี่หลินที่เริ่มคลายความหวาดกลัวกลับมาตกใจอีกครั้ง“ท่านพี่ข้าก็แค่....”“อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องเช่นนี้อีก อย่าแม้แต่จะคิดเจ้าคิดว่าสนามรบคือที่สำหรับสตรีหรืออย่างไรที่นั่นไม่มีอะไรที่เหมาะกับเจ้าข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าไปแน่”“แต่ที่นั่นมีท่าน ข้าก็แค่อยากทำตัวให้มีประโยชน์กับท่านกับชิงโจวข้าเป็นหมอข้าช่วย….”“หยุดเดี๋ยวนี้เจียงลี่หลิน!!”แม้ว่าน้ำตานางจะเริ่มรื้นคลอหน่วยในเวลานี้ก็มิอาจทำให้เขาใจอ่อนและดึงนางมาปลอบได้ นางกำลังคิดในสิ่งที่เขากลัวว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุด ไม่คิดว่าจู่ ๆ นางก็จะเอ่ยเรื่องนี้ออกมาแต่ก็นั่นแหละถึงอย่างไรน้ำตาของนางก็เล่นงานกับหัวใจเขาได้ทุกเวลาไม่ว่ามันจะไหลมาเมื่อไหร่เขาจึงรีบเบือนหน้าหนี“รีบเก็บของข้าจะพาเจ้ากลับจวนไปอยู่กับท่านแม่”ลี่หลินไม่พูดอะไรอีกและหันไปปาดน้ำตาที่ใบหน้าออกด้วยตัวเองแม้ว่าว่าจวินเซียวจะรู้สึกเจ็บปวดกว่านางแต่เขาก็ต้องใจแข็ง หากว่าเขาเผลอใจอ่อนกับนางแม้แต่ครั้งเดียว เขากลัวเหลือเกินว่าห
จวนสกุลเฉินเฉินจวินเซียวเดินเข้ามาในจวนช่วงบ่าย เขาเห็นว่าทั้งจวนกำลังวุ่นวายในการจัดเตรียมเสบียงอาหารและของจำนวนมากสำหรับกองทัพที่จะเดินทางออกจากชิงโจวในเช้าวันรุ่งขึ้น“ลี่หลินอยู่ที่ใด”“เรียนท่านแม่ทัพ คุณหนูจัดของอยู่ด้านหลังกับแม่นมถงเจ้าค่ะ”“อืม ขอบใจ”จวินเซียวเดินไปตามที่สาวใช้ในจวนบอก เมื่อเดินมาด้านหลังก็เห็นเจียงลี่หลินที่กำลังมัดห่อของบางอย่างซึ่งน่าจะเป็นอาหารตากแห้งสำหรับกองทัพ เมื่อนางหันไปมองด้านหลังจึงได้สั่งการเพิ่ม“มัดให้แน่น ๆ กว่านี้ เจ้าเห็นหรือไม่ว่ามันจะหล่น…. อันนี้แยกออกมาก่อนมันยังไม่แห้งดีนักเอาไปตากอีกรอบ หากเอาไปห่อรวมกันจะทำให้เนื้อชิ้นอื่นเสีย”“เจ้าค่ะคุณหนู”“ลี่หลิน…”ลี่หลินหันมาเห็นเขาแล้วแต่นางยังไม่ได้พูดอะไรแต่กลับหันไปสั่งงานบ่าวไพร่ต่อ“เอาข้าวสารไปรวมไว้ทางนั้น อาหลัน!!”“เจ้าค่ะคุณหนู”“ยาที่ข้าให้เจ้าเตรียมเล่า”“ตายจริงคุณหนู ข้ามัวแต่ดูข้าวสารทางนี้เจ้าค่ะ ยากับผ้าห่มยังไม่ได้…”จวินเซียวทำเพียงเดินตามนางไปเรื่อย ๆ แต่ลี่หลินก็ยังไม่ยอมหยุดเดิน นางยังเดินไปและสั่งการสาวใช้ไป“ช่างเถอะ ๆ เข้าไปเอง”“ลี่….”ลี่หลินยังเมินเขาอีกครั้งเมื่
ลี่หลินไม่ตอบเขาแต่เบียดกายเข้าหาแทนพร้อมกับก้มลงกัดไปที่หน้าอกแน่นตรงหน้า เสียงครางแหบต่ำทำให้นางรู้สึกพอใจยิ่งนัก เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองผลงานตัวเอง รอยกัดที่เป็นวงรอบนั้นชัดกว่ารอยที่แขนของเขา“เจ้าต้องการฝากรักงั้นหรือฮูหยินที่รัก”“ข้า…”“เช่นนั้นข้าจะสอนว่าเขาทำกันเช่นไร แต่เจ้าต้องจ่ายค่าสอนมาเสียก่อน”“อ๊าา!! ท่านพี่”ความแน่นจุกเข้าแทรกซึมนางทันทีโดยที่ไม่ทันตั้งตัวเมื่อแม่ทัพหนุ่มเริ่มบทรักที่เร่าร้อนและกระแทกถี่จนนางเริ่มหายใจติดขัด มือหนายังคงบีบเคล้นหน้าอกอวบมิให้มันกระเพื่อมไม่นานลี่หลินก็ล่องลอยไปก่อนเพราะความเสียวซ่านที่เขามอบให้“ลี่หลิน ข้ารักเจ้า….”นางหันมาจูบเขาและขยับเบียดกายให้เขาอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องบอกกล่าวเขาเองก็รอจังหวะนี้อยู่เมื่อนางเปิดโอกาส บั้นท้ายงามถูกยกสูงและจวินเซียวไม่พลาดที่จะลิ้มลองรสรักที่พึ่งผ่านศึกไปอีกครั้ง“อ๊าา!! อย่า…”ลิ้นหนาฉกเข้าไปดูดดึงเกสรระหว่างกลีบบุปผาเปียกชื้นที่พึ่งปล่อยน้ำหวานออกมา นิ้วมือคอยเกลี่ยสลับกับขยี้เม็ดทับทิมเหนือร่องกลีบจนลี่หลินเผลอครางกระเส่าออกมา“ไม่นะ อ๊าา!!”แม้ว่านางจะดิ้นแรงแต่จวินเซียวก็ไม่ยอมปล่อยจนกว่าเขาจะด
ลี่หลินกัดฟันเอาไว้สุดชีวิตเพื่อมิให้ร้องไห้ออกมา น้ำตาของนางเป็นสิ่งที่จะทำให้เขาอ่อนไหว ดังนั้นวันนี้นางจะต้องเข้มแข็งให้สมกับเป็นฮูหยินแม่ทัพพิทักษ์แดนเหนืออย่างจวินเซียว“ท่านแต่งตัวเสร็จแล้ว ข้าจะรีบไปเปลี่ยนชุดเจ้าค่ะจะได้ไปส่งท่านที่หน้าจวนได้”“ได้สิ ข้าจะรอเจ้าอยู่ตรงนี้”“เจ้าค่ะ”ลี่หลินไม่ได้เอ่ยห้ามเขาอีกต่อไปแล้ว หากเป็นเวลาปกตินางจะเปลี่ยนชุดคงไม่ยอมให้เขาอยู่ในห้องเป็นแน่ แต่วันนี้นางกลับถอดชุดคลุมและชุดข้างในออกต่อหน้าเขาโดยไม่สนว่าเขาจะคิดว่านางหน้าไม่อายหรือไม่ แต่นางไม่อยากให้เขาอยู่ห่างกายแม้แต่เสี้ยวเวลาเดียวก่อนที่เขาจะจากไป จวินเซียวเองก็นั่งมองนางอย่างไม่คลาดสายตาเช่นกันจนลี่หลินลงมานั่งที่หน้ากระจกเขาจึงเดินเข้าไปนั่งข้างหลัง“ลี่หลิน ข้าจะหวีผมให้เจ้าดีหรือไม่”“เจ้าค่ะ”นางยื่นหวีไม้กฤษณาไปให้เขา จวินเซียวค่อย ๆ บรรจงหวีผมให้นางพร้อมกับสูดกลิ่นหอมที่เรือนผมของลี่หลินจนสุดลมหายใจ“ผมของเจ้าช่างหอมนัก หอมไม่แพ้กลิ่นกายของเจ้าเลยสักนิด”เขาวางหวีไม้ลงและโอบกอดนางจากด้านหลัง ลี่หลินหันมาซบที่แขนของเขาเพื่อซึมซับความอบอุ่นนี้เอาไว้“ท่านควรจะไปกราบไหว้ท่านลุงและ
“อะไรนะท่านหมอซื่อเมื่อครู่นี้ท่านบอกว่า…. ทะ ท่านพี่เจ้าคะ”“ข้าได้ยินแล้วฮูหยิน ได้ยินชัดเจนท่านหมอ ระ เรื่องนี้…จริงหรือไม่”ท่านหมอซื่อหันมายิ้มและคำนับให้กับทั้งคู่ด้วยความยินดี“ขอแสดงความยินดีกับนายท่านและฮูหยินบัดนี้ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ได้เดือนกว่า ๆ แล้วขอรับ”ทั้งสองหันมายิ้มให้กันด้วยความดีใจ แม่นมและอาหลันเองก็ดีใจไปกับนายท่านทั้งสองด้วย ไม่นานเสียงคุยกันที่ดังทำให้ลี่หลินตื่นขึ้นมา“หลินเอ๋อร์ลูกแม่ เจ้าค่อย ๆ ลุกอย่าพึ่งรีบ เร็วเข้าอาหลันรีบไปต้มยามาให้ลูกข้าเร็ว”“เจ้าค่ะฮูหยิน”“ท่านแม่ ท่านพ่อเหตุใดพวกท่าน…”“เด็กโง่ เหตุใดเจ้าจึงไม่รีบบอกจวินเซียว”“บอกท่านพี่...เรื่องใดเจ้าคะ”“นี่เจ้าไม่รู้หรอกหรือ”“ข้าหรือเจ้าคะ ข้า…. หรือว่า!! ที่ข้าคิดเอาไว้…”“ยินดีกับฮูหยินน้อยด้วยขอรับ ท่านตั้งครรภ์ได้เดือนกว่า ๆ แล้ว”ลี่หลินชะงักเพราะความตกใจเมื่อท่านหมอเอ่ยจนจบ ก่อนหน้านี้นางเพียงสงสัยเท่านั้นเพราะระดูนางขาดไปเดือนกว่าแต่ว่านางคิดว่าเป็นเพราะความเครียดที่เกิดจากองค์หญิงซูหลี่จินและเรื่องที่จวินเซียวจะออกศึกทำให้ระดูเคลื่อนแต่สุดท้าย….“ท่านบอกว่า…ข้า….”“หลินเอ๋อร์เจ้าร้อง
ซูหลี่จินล้มลงไปดิ้นกับพื้น ข้อมือขวาของนางถูกเฉินจวินเซียวตัดออกในดาบเดียว เลือดขององค์หญิงต่างแคว้นสาดกระเซ็นไปทั่วเป็นภาพที่น่าขนลุกจนพวกกบฏนึกกลัวขึ้นมาเพราะแม้แต่องค์หญิงยังไม่รอดจากการถูกลงโทษ พวกมันเองคงหาทางรอดไม่ได้เสียแล้ว“เฉินจวินเซียว นี่ท่านกล้า….”"ซูหลี่จินเจ้ารู้กฎของกองทัพดี ลักลอบคบคิดกับกบฏทำร้ายและปล้นเสบียงถือเป็นความผิด วันนี้หากข้าจะฆ่าเจ้าก็ย่อมได้เพียงแค่เรื่องนี้มิใช่เรื่องที่ข้าจะตัดสินโทษตายให้เจ้าได้ องค์ชายรองจากนี้ท่านก็จัดการโทษนางเอาเองส่วนข้าคงต้องดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ต่อไปองค์ชายรองไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ การที่จวินเซียวไม่ฆ่าน้องสาวของเขาก็นับว่าขอบคุณเขามากพอแล้วและเมื่อหันไปมองซูหลี่จินที่ไม่แม้แต่จะสำนึกเขาจึงเข้าใจและค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นมาสั่งการ“ทหาร!! นำองค์หญิงไปคุมขังเอาไว้ห้ามผู้ใดเข้าออกและ….จับพวกกบฏตัดหัวแล้วแขวนเอาไว้หน้าค่าย!!”""พ่ะย่ะค่ะ""“พี่รอง!! ท่านทำโทษข้างั้นหรือ ท่านต้องหาคนมารักษามิใช่สั่งคุมขังข้า!! หากเสด็จพ่อทราบ…”“ว่าเจ้าคบคิดกบฏแล้วโจมตีกองทัพตัวเอง…. เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าจะพ้นโทษใช้สี่ม้าแยกร่างของข่านเล่อไ
“ท่านพี่!!”“อะไรอีกงั้นหรือ”“ท่าน…ต้องทำพิธีเปิดหน้าเจ้าสาวก่อนเจ้าค่ะ”“นั่นสิข้าลืมไปเลยหากเจ้าหายใจไม่สะดวกจะแย่เอานะ ไหนล่ะไม้เปิดนั่น อ้อ อยู่นี่เอง ทำไมพิธีการถึงได้เยอะเช่นนี้กันนะ”“เฉินจวินเซียวท่านบ่นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้า มาในตอนนี้ก็ยังไม่เลิกบ่นอีก เช่นนั้นไม่แต่งดีหรือไม่เจ้าคะ”“ไม่นะ!! ลี่หลินวันนี้เป็นวันมงคลใหญ่เจ้าจะพูดเช่นนี้หาได้ไม่ ข้าไม่ยอมนะ ”“ท่านเอาแต่บ่นจนข้าคิดว่าท่านไม่เต็มใจจะแต่งงาน”“ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าจะเปิดแล้วนะ”จวินเซียวมือสั่นเล็กน้อยเมื่อใช้ไม้มงคลที่ผูกโบสีแดงเอาไว้ค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปในผ้าสีแดงและค่อย ๆ เปิดหน้าเจ้าสาวเอาไว้ เจียงลี่หลินที่ถูกแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าที่จัดจ้านกว่าเดิมด้วยสีแดงสดแต่กลับงดงามราวดอกโบตั๋นในฤดูหนาวที่เลอค่ายิ่งกว่าบุปผาใดในใต้หล้าสำหรับเฉินจวินเซียว“เจ้า…ช่างงามยิ่งนัก งามจนข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นของข้า เจียงลี่หลินข้าควรรู้มานานแล้วว่าข้ารักเจ้าและไม่สามารถปล่อยเจ้าไปที่ใดได้นับตั้งแต่เจ้าก้าวเข้ามายังสกุลเฉินแห่งนี้”“ท่านพี่ข้าเองก็เช่นกันเจ้าค่ะ วันนี้ท่านดูสง่างามในชุดเจ้าบ่าวสีแดงสดนี้ ช่างรูปงามยิ่งนัก
“เปล่านะขอรับ ข้าเพียงแค่ได้ยินมาว่าผู้ที่ตั้งครรภ์ควรนอนพักให้มาก ๆ จึงปล่อยให้นางนอนพักต่ออีกสักหน่อยเพราะก่อนหน้านี้นางไปทัพคงอ่อนเพลียมากอย่าไปรบกวนนางเลยขอรับ”“เช่นนั้นก็รีบไปเถอะ”“ท่านแม่ข้าฝากดูแลลี่หลินก่อนนะขอรับแล้วลูกจะรีบกลับ”“เจ้ารีบไปเถอะทางนี้แม่ดูแลให้เองไม่ต้องห่วง”จวินเซียวและใต้เท้าเฉินลู่เดินทางออกจากจวนทันที พวกเขาพบกับหย่งเล่อหานที่เข้าวังมาเช่นกันก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าเฝ้าท่านอ๋องในห้องทรงงานเล็ก“อาการขององค์ชายรองดีขึ้นมากแล้ว เขารู้เรื่องขององค์หญิงและไม่ได้คิดติดใจเอาโทษกับเราเพราะทราบสถานการณ์ครั้งนี้ดี อีกอย่างเขารู้ตั้งแต่คืนที่นางถูกพาตัวไปแล้วแม้ว่าอยากจะช่วยก็คงสุดกำลังเพราะรู้ดีว่าข้าศึกคงไม่มีทางปล่อยนางเอาไว้เป็นแน่”“เช่นนั้นเงื่อนไขการเจรจาที่ต้องสมรส…”“องค์ชายรองยอมรับเงื่อนไขที่ข้าส่งมอบให้แล้ว เขาตกลงจะครองเมืองเสิ่นที่อยู่ติดกับอี้โจวของเรา ส่วนแคว้นเว่ยก็ตกลงลงนามสัญญาสงบศึกสามสิบปีและส่งมอบค่าธรรมเนียมพ่ายทัพให้กับแคว้นข่านเล่อและชิงโจวตามที่เรียกแลกกับการส่งองค์ชายเพียงคนเดียวกลับแคว้น”“ท่านอ๋อง กระหม่อมยังอยากให้ทางเราตกลงกับข่านเล่ออี
“ถูกต้อง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องยอมรับข้อเสนออีกทั้งต้องเสียทั้งค่าธรรมเนียมพ่ายศึกอีกสองเท่าทั้งตอนแพ้ที่อี้โจวและชิงโจว”“หากเลือกจะยอมแพ้ตั้งแต่ที่อี้โจวพวกเขาคงไม่สูญเสียมากถึงเพียงนี้”“เพราะความละโมบของฮ่องเต้แคว้นเว่ยที่เกือบจะลืมศึกภายในที่รออยู่ข้างหลังดังนั้นครั้งนี้เขาคงคิดอะไรได้ ยอมเสียน้อยเพื่อได้มาก ดังนั้นชิงโจวและข่านเล่อจึงได้รับประโยชน์จากการศึกในครั้งนี้ ว่าแต่แผลของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“เกือบหายดีแล้วขอรับท่านพ่อ อีกสองสามวันก็ฝึกดาบได้แล้วขอรับ”“เจ้าก็ยังใจร้อนอีกเช่นเคย ไม่ควรหุนหันพุ่งเข้าโจมตีหนึ่งต่อสามสิบเช่นนั้นอีก ลืมไปแล้วหรือว่ามิได้ตัวคนเดียวแล้วยังมีหลินเอ๋อร์และลูกของเจ้ารออยู่”“ขอรับท่านพ่อ ท่านสั่งสอนได้ถูกต้องแล้วลูกไม่กล้าใจร้อนอีกแล้วขอรับ”“เอาเถอะ ยังดีที่เจ้าส่งม้าเร็วมาแจ้งแผนสำรองให้ท่านอ๋องได้ทันเวลา”“แต่แผนที่จะให้ลี่หลินไปที่นั่นข้ามิได้บอกเอาไว้นะขอรับ”“กุนซือของเจ้าทูลท่านอ๋องเอาไว้น่ะสิ คุณชายหย่งบอกว่าหากว่าแคว้นเว่ยใช้แผนสกปรกถึงที่สุด เราเองก็ต้องใช้แผนการที่พวกเขาคาดไม่ถึงเช่นกัน ดังนั้นจึงได้มาขอร้องหลินเอ๋อร์ด้วยพระองค์เองอีกทั้
“ฮูหยินเจ้าคะ”“ช่างเถอะ เร็วเข้ารีบเอาดอกไม้มาข้าจะโปรยรับนายท่านกับ…”“ฮูหยิน ท่านแม่ทัพกับฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ”“เซียวเอ๋อร์…. หลินเอ๋อร์กลับมากันแล้ว พวกเขากลับมาแล้ว”""ท่านแม่""จวินเซียวและลี่หลินที่เปลี่ยนมานั่งม้าของจวินเซียวค่อย ๆ บังคับบังเหียนม้ามายังหน้าประตูจวนสกุลเฉินก่อนที่จวินเซียวจะลงม้ามาก่อนและพยุงลี่หลินลงมาและคุกเข่าตรงหน้าเฉินฮูหยิน“ลูกกลับมาแล้วขอรับท่านแม่”“เซียวเอ๋อร์ เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยพร้อมกับชัยชนะ ยอดเยี่ยมยิ่งนักแม่ภูมิใจในตัวเจ้า”“ท่านแม่ ครั้งนี้หากมิได้ลี่หลินไปช่วยลูกไว้ชิงโจวอาจจะไม่ชนะรวดเร็วเช่นนี้ขอรับ”“ท่านแม่”“เจ้านะเจ้า หากมิใช่เป็นท่านอ๋องที่เสด็จมาขอร้องถึงจวนมีหรือแม่จะยอมให้เจ้าออกไปตรากตรำข้างนอก ลุกขึ้นเร็ว ๆ เข้า ลุกขึ้น แม่นมเร็วเข้าพยุงฮูหยินน้อยเข้าไปข้างในจวนก่อนอย่าให้กระทบ…”“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ข้าขี่ลี่เยว่มาช้า ๆ ไม่กระทบกระเทือนหลานของท่านแม่แน่ขอรับ”“เจ้า…. รู้แล้วอย่างนั้นหรือ ข้าคิดเอาไว้แล้วเชียวว่าหลินเอ๋อร์คงอยากจะบอกเจ้าด้วยตัวเองไปเถอะรีบเข้าไปข้างในกันก่อนข้าจะรอท่านพ่อของเจ้า”“ท่านพ่อเข้าวังไปกับท่านอ๋องขอรับท่
“คือว่า เรื่องของสกุลเจียง…. เมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น เจ้า…”“เจ้าคะ??”“สาเหตุที่แคว้นเว่ยที่ลักลอบเข้ามาขโมยตำรับยาของสกุลเจียงนั่นก็เพราะ…. สกุลเจียงสามารถช่วยเหลือกองทัพของสกุลเฉินเอาไว้ได้ ดังนั้นจึงบุกสกุลเจียงเพื่อข่มขู่เอาตำรับยาไปรักษาฮ่องเต้ของแคว้นเว่ยแต่ว่า….”“พ่อข้ามิได้ให้ไปและพวกมันก็ทำทุกวิถีทาง ทั้งยื่นข้อเสนอและเงินจำนวนมากแต่เพราะคำมั่นสัญญาที่มีกับสกุลเฉินและความจงรักภักดีกับฝ่าบาทจึงไม่ยอมมอบให้ ดังนั้นสกุลเจียงของข้าจึงถูกโจมตีเพื่อแย่งตำรับยานั้น”“เจ้ารู้ทั้งหมดเลยงั้นหรือ”ลี่หลินหันมายิ้มให้จวินเซียว และนี่คงเป็นสิ่งที่จวินเซียวทราบมาก่อนแล้วและคิดว่านางคงจะไม่ทราบเพราะในครั้งนั้นนางยังเด็กมาก เขาจึงพยายามไม่เข้าใกล้นางและหาเรื่องนางเพื่อจะให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดกับลี่หลินเพราะเขายอมรับไม่ได้ว่าสกุลเจียงต้องถูกฆ่าเพราะสกุลเฉินเป็นต้นเหตุนั่นเอง แต่ที่จริงตั้งแต่เริ่มจนจบเจียงลี่หลินรับรู้มาโดยตลอด“รู้เจ้าค่ะ ท่านพ่อท่านแม่ไม่เคยปิดบังเรื่องนี้กับข้าด้วยที่สกุลเจียงทุกคนมีวิชาแพทย์ติดตัวตั้งแต่เด็ก ทุกคนรู้ว่าชีวิตของหมอล้วนแขวนอยู่บนเส้นด้ายเสมอ บางครั้งการช่วย
ลี่หลินหันไปมองแม่ทัพเฉินที่ยังทำหน้าโมโหและไม่สนใจนางอีกครั้งพร้อมกับส่ายหัวให้กับคนหัวดื้ออย่างจวินเซียวอีกครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะในเมื่อท่านไม่ให้ข้าเช็ดตัวให้ ข้าก็จะออกไปเรียกจางเต๋อมาจัดการต่อเอง”“เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวก่อนสิ!! เจ้าจะไปจริง ๆ หรือ”ลี่หลินลุกขึ้นเพื่อลองใจเขา จวินเซียวเห็นว่านางลุกขึ้นจะไปจึงรีบดึงแขนนางเอาไว้ เขาก็แค่ปากแข็งไปอย่างนั้นเองแม้ว่าจะโกรธนางมากแต่ก็ดีใจที่ได้เห็นนางในวันนี้“ท่านแม่ทัพมีสิ่งใดจะพูดอีก ท่านต้องรีบเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดเพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ”“ข้า…ยอมแล้วเจ้าเช็ดตัวให้ข้าไม่ต้องออกไปเรียกจางเต๋อ”“ขออภัยท่านแม่ทัพแต่ว่าข้างนอกนั่นมีคนบาดเจ็บอีกมากและยังต้องการหมอ”“แต่ข้าเป็นแม่ทัพแล้วเจ้าก็เป็นฮูหยินของข้านะ!! ต้องดูแลข้าก่อนสิ ทหารคนอื่น ๆ พวกเขามีแพทย์สนามดูแลอยู่แล้ว”จวินเซียวดึงนางลงมานั่งที่ตักพร้อมกับสูดกลิ่นกายของนางที่ห่างหายเกือบสามเดือนจนสุดลมหายใจ ลี่หลินมิได้เบี่ยงกายหนี นางรู้ดีว่าจวินเซียวก็ทำปากดีไปเช่นนั้นเองและในตอนนี้นางเองก็รู้วิธีการจัดการคนปากดีอย่างเขาได้เรียบร้อยแล้ว“เช่นนั้นก็อยู่เฉย ๆ ข้าจะไปเตรียมของมาเช็ดตัวให้ท่าน”
“มาทันเวลาพอดีสินะ”“อะไรกัน…เฉินจวินเซียวเจ้าเล่นสกปรก!!”“ข้าน่ะหรือที่เล่นสกปรก หากท่านไม่ใช้แผนการชั่วนี่ดักซุ่มโจมตีไม่สนธรรมเนียมศึกข้าคงไม่ต้องใช้แผนการนี้หรอก องค์ชายครั้งนี้ท่านแพ้แล้ว”“โจมตี!!”ท่านอ๋องสั่งการกองทัพหลวงที่เหลือสั่งบุกโจมตีทันที อีกฝั่งเป็นกองทัพของสกุลเฉินพลหอกและทวนของกองทัพวิหคดำพุ่งเข้ามาช่วยจวินเซียวเอาไว้ได้ทัน องค์ชายสี่ของแคว้นเว่ยล่าถอยเมื่อกองทัพสกุลเฉินบุกล้อมเข้ามา“จวินเซียว เจ้าปลอดภัยดีหรือไม่”“ท่านพ่อ!!”เฉินลู่ในชุดแม่ทัพของสกุลเฉินควบม้ามารับบุตรชายด้วยตัวเอง ทั้งสองค่อย ๆ ถอยออกมา องค์ชายสี่ที่โกรธแค้นจึงหันไปคว้าธนูของรองแม่ทัพและน้าวสายสุดแรงและพุ่งเป้าไปที่เฉินจวินเซียว“จวินเซียวระวัง!!”เฉินลู่ บิดาของเขาตะโกนบอกบุตรชายแต่ไม่ทันเกาทัณฑ์ที่พุ่งมาด้วยความเร็วและแม่นยำราวจับวาง ลูกธนูนั้นปักไปที่ไหล่ขวาของเฉินจวินเซียวทันที""ท่านแม่ทัพ""กุนซือ จางลี่ จางเต๋อตะโกนออกมาพร้อมกัน เมื่อแม่ทัพเฉินถูกลูกธนูของกองทัพข้าศึกยิ่งเข้าไปที่ไหล่ ข้าศึกที่เหลือจึงฮึกเหิมขึ้นและหันกลับมาสู้ใหม่อีกครั้ง จางเต๋อและจางลี่หันกลับไปฟาดฟันศัตรูด้วยความโกรธ
ก่อนเข้าเมืองชิงโจวหนึ่งสองร้อยลี้“จางเต๋อ ระวังให้ดี”“ท่านกุนซือ ท่านคิดว่าพวกมันจะเริ่มล้อมเราตรงไหนหรือขอรับ แต่ว่าบนเขา...”“อย่าประมาทพวกมัน ท่านแม่ทัพเตือนแล้วว่าพวกมันจะบุกแบบกองโจรดังนั้นพวกมันจะไม่สนใจธรรมเนียมการศึก”“ขอรับ”“ระวัง!!”พัดจีบของหย่งเล่อหานปัดลูกธนูที่ยิงมาจากเชิงเขาเอาไว้ได้ กองทัพหน้าของชิงโจวถูกล้อมและข้าศึกประมาณสองร้อยนายค่อย ๆ โอบล้อมเข้ามา“ท่านกับท่านแม่ทัพคาดเดาไม่ผิดจริง ๆ โจมตีโดยไร้แผนการไร้ที่ตั้งและซุ่มแบบกองโจร”“ข้าเอง”“ท่านกุนซือแต่ว่า!!”“เจ้าเตรียมตัวให้ดีเถอะ รอสัญญาณจากข้าและสั่งการข้าจะหลอกล่อพวกมันก่อน”“ขอรับ”จางเต๋อไม่คิดว่าจะมีวันที่เขาต้องเป็นห่วงคุณชายผู้นี้ เขาเป็นบัณฑิต แม้ว่าจะมีคารมที่ยากจะเอาชนะและเคยประฝีปากกับท่านแม่ทัพมาแล้วแต่ในตอนนี้เขามาที่นี่ในฐานะกุนซือและสหายของท่านแม่ทัพดังนั้นจางเต๋อจะต้องปกป้องเขาอย่างดีที่สุด“พวกเจ้าตั้งค่ายกลศึกเตรียมป้องกัน”""ขอรับ""ทหารเริ่มรวมตัวกันพร้อมโล่ป้องกันและเดินโอบล้อมม้าของกุนซือส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งรวมและตั้งโล่หันไปทางข้าศึก หย่งเล่อหานออกมาสบตากับผู้นำทัพในครั้งนี้“คิดไ
จวินเซียวค่อย ๆ ยกถุงหอมนั้นขึ้นมาสูดดมอีกครั้งก่อนจะมองไปไกล ๆ ยังทิศที่เป็นที่ตั้งของเมืองชิงโจวแม้ในเวลานี้จะมืดมิดไร้แสงสว่างและหนาวเย็น แต่ในหัวใจเขากลับอบอุ่นเพราะมีสิ่งที่ลี่หลินให้เขาเอาไว้“คิดถึงเจ้าเหลือเกินปีศาจน้อยของข้า”“สกุลเจียงทำอะไรผิดต่อพวกท่าน เหตุใดครอบครัวของข้าต้องถูกฆ่า”“ไม่นะลี่หลิน ข้ามิได้ทำเช่นนั้น”“ท่านทำ!! สกุลเฉินของพวกท่านนำภัยมาสู่สกุลเรา หากไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกท่าน พ่อข้า ท่านแม่และคนอื่น ๆ ก็ไม่ต้องมาตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้”“ลี่หลิน ข้า…”“ท่านมีสิทธิ์อันใดมาเกลียดข้า!! เป็นข้าต่างหากที่ต้องเกลียดสกุลเฉินของท่าน ฆาตกร!!”“ไม่… ลี่หลิน!! อย่าเกลียดข้านะ!!”เฉินจวินเซียวสะดุ้งตื่นขึ้นในตอนใกล้รุ่ง เหงื่อท่วมตัวหัวใจของเขาเต้นแรงผิดจังหวะเพราะฝันร้ายนั่น แม้ว่าเขาจะรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วว่าต้นเหตุที่ทำให้สกุลเจียงล่มสลายสาเหตุมาจากเกี่ยวข้องกับสกุลเฉินในการช่วยเหลือกองทัพยามมีโรคระบาดนั่น แต่เขาก็มิอาจรับได้จริง ๆ หากจะต้องพบเจอกับสายตาของเจียงลี่หลินที่เกลียดเขาเหมือนในความฝัน“ลี่หลิน อย่าเกลียดข้าเลยนะ”จวินเซียวเลือกมานั่งแช่น้ำเย็นเพื่อสงบจิตใจ เ