“โอ๊ย!! อย่าพึ่งขยับค่ะ!! ฉันเจ็บ!!”
ไอยลดาใช้มือดันหน้าอกแกร่งออกห่างเพื่อที่จะให้เขาหยุด เธอรู้สึกว่าความใหญ่โตของเขากำลังทำให้ร่องสาวของเธอฉีกขาด
“อดทนหน่อยที่รัก ครั้งแรกก็เจ็บแบบนี้แหละ”
คริสเตียนปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพร้อมกับพรมจูบตามกรอบหน้าเรียวอย่างอ่อนโยน เผื่อว่าเธอนั้นจะรู้สึกดีขึ้น
แต่ใช่ว่าเธอจะเจ็บปวดคนเดียวซะที่ไหน เขาเองก็ปวดหนึบไปทั้งลำไม่ต่างจากเธอเลย ไม่คิดเลยว่าร่องสาวบริสุทธิ์จะรัดแน่นขนาดนี้ แน่นจนเขาไม่สามารถขยับแก่นกายเข้าออกได้
“คืนนี้ผมจะทำให้คุณมีความสุขไม่มีวันลืมเลยที่รัก”
พูดจบเอวหนาก็เริ่มขยับเข้าออกทันที เริ่มจากจังหวะเนิบนาบให้เธอได้ปรับตัว แล้วเพิ่มความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะพอใจ
เช้าวันต่อมา...
คริสเตียนรู้สึกตัวเมื่อเสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาต่อเนื่อง แต่พอหยิบขึ้นมากลับพบว่ามันไม่ใช่เครื่องของเขา และที่สำคัญ... เขาดันกดรับสายไปแล้วด้วย
(ลูกสาว ได้ยินที่เจ้พูดมั้ยเนี่ย!!)
“ไอยลดายังไม่ตื่นครับ”
(คุณคริสเตียน...) ปลายสายเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตื่น ไม่คิดว่าคริสเตียนจะมารับสายแทนเด็กของเธอ
“ครับ ผมเอง”
(เอ่อ... เจ้ขอคุยกับไอยลดาหน่อยค่ะ พอดีมีธุระสำคัญ)
“รอสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มบอกผ่านสายด้วยน้ำเสียงสุภาพแล้วเลื่อนมือไปกอบกุมเต้าสวยเพื่อปลุกคนที่หลับไม่รู้เรื่อง มันน่าลักหลับเสียจริง
“อือ!! อย่าค่ะ!!” ไอยลดาบอกห้ามเสียงเบาเมื่อคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลังเริ่มอยู่ไม่นิ่ง เขาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธอโดยเฉพาะจุดเสียว
“ที่รักผู้จัดการของคุณโทรมา” คริสเตียนกระซิบบอกพร้อมพรมจูบที่แผ่นหลังขาวเนียน
“เหรอคะ... แล้วมือถือฉันอยู่ไหนคะ” ไอยลดาถามเสียงกระเส่า เมื่อโดนล้วงล้ำจุดเสียว
“อยู่กับผม... ผมรับสายแล้ว คุณคุยได้เลย” คริสเตียนส่งมือถือให้หญิงสาวแล้วเขาก็ใช้มือไปทำอย่างอื่นต่อ
“ค่ะเจ้” ไอยลดากรอกเสียงหวาน ทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่ท่าเดิม หลังจากที่ได้พักผ่อนยังไม่ถึงสามชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ จะไม่ให้เธอเพลียได้ยังไง
“อย่าค่ะ!!” เธอเอ็ดคนข้างหลังเสียงเบา เมื่อมือเขาเริ่มซุกซนลูบไล้ไปทั่วขณะที่เธอกำลังคุยสายกับผู้จัดการอยู่
“ได้ค่ะเจ้ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน อ่ะ!!” ใบหน้าสวยเหยเกพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียงครางน่าเกลียดเข้าไปในสาย แต่ความใหญ่โตที่สอดแทรกเข้ามาจากด้านหลังก็ทำให้เธอแทบจะห้ามเสียงไว้ไม่ไหว
“แค่นี้ก่อนนะเจ้ บายค่ะ!!” พูดจบ เธอก็รีบตัดสายทันที
ปึก!! ปึก!!! ปึก!!!
เอวหนากระแทกเข้าใส่อย่างดิบเถื่อนหลังจากรู้ว่าเธอวางสายแล้ว ที่จริงเขาเกือบจะทนไม่ไหว แล้วสาดความดิบเถื่อนใส่เธอขณะที่เธอคุยสายอยู่ ตอนแรกตั้งใจว่าจะแกล้งลูบไล้เธอเฉยๆ แต่แกล้งไปแกล้งมากลับอยากเอาจริงซะงั้น แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น
“อ่ะๆๆๆ คุณคริส อื้อ!!” ร่างเล็กโยกคอนเป็นจังหวะ เสียงครางหวานขาดๆ หายๆ ตามแรงอัดกระแทก
“อ้าส์ รัดแน่นมากที่รัก... ขนาดโดนเอาทั้งคืนยังแน่นอยู่เหมือนเดิมเลย อ้าส์!!” มาเฟียหนุ่มครางกระเส่าพร้อมสอบเอวเข้าออกอย่างดุเดือดตามสไตล์คนที่ชอบเซ็กส์แบบถึงใจและเร่าร้อน
“อือ!! ฉัน ต้องไป ทำงานนะคะ อ่ะ!!” ไอยลดาบอกเสียงติดขัดตามแรงกระแทกของชายหนุ่ม
“ผมจะเร่งให้ที่รัก อ้าส์!! เสียวหัวชิป!!” ร่างหนาสบถคำหยาบออกมาเมื่อโดนร่องสาวรัดแน่นอย่างทรมาน
“อ่ะ!! โอ้ววว คุณคริส อูววว!! อย่ากัด!!” นางแบบสาวห้ามเสียงหลงเมื่อฟันคมขบลงที่ซอกคอของเธอ ถึงมันจะเสียวซ่านแค่ไหน แต่เธอต้องใช้เรือนร่างในการทำมาหากิน เธอจะให้เกิดรอยบนตัวเธอไม่ได้
จังหวะรักที่เร่งรีบต่อเนื่องไปหลายนาที ก่อนที่เขาจะปล่อยให้เธอไปอาบน้ำ แต่พอเธอก้าวเข้าห้องน้ำ เขาก็ตามเข้าไปช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ต่อด้วยบทรักที่ร้อนแรงอีกครั้ง กว่าจะได้ออกมาก็ทำเอาหญิงสาวแทบเดินไม่ได้
30 นาทีต่อมา...
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ ผมยังไม่อิ่มเลย”
ร่างกำยำสวมกอดร่างเล็กที่กำลังจะไปจากเขา ถึงจะรู้ว่าเธอไปทำงาน แต่ความรู้สึกข้างในก็ไม่อยากให้เธอไป มันน่าแปลกมากจริงๆ สำหรับเพลย์บอยหนุ่มอย่างคริสเตียน คนที่ไม่เคยขาดผู้หญิง แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกำลังขาดอะไรไป
“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันนัดกับลูกค้าไว้แล้ว ไว้เจอกันใหม่นะคะ ถ้ามีโอกาส” หญิงสาวพูดออกไปพร้อมรอยยิ้ม แต่ข้างในแอบกลัวอยู่เหมือนกัน กลัวว่าเขาจะไม่รู้สึกเหมือนคำพูดที่พร่ำบอกเธอ
“มีแน่นอนครับที่รัก ผมจะไปรับคุณทันทีที่คุณโทรมา”
หญิงสาวยิ้มกว้างที่เห็นท่าทางออดอ้อนของชายหนุ่ม เขาทำเหมือนเธอเป็นคนสำคัญอย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่จริงแล้ว เธอกับเขาไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนั้น ถ้าตัดเรื่องเซ็กส์ออกไป
“สัญญากับผมสิว่าเสร็จงานแล้วจะโทรหาผม” เขายังคงโอบกอดเธอไม่ยอมปล่อย
“โอเคค่ะ ฉันไปก่อนนะคะ คริสเตียน”
“ครับที่รัก ถ้าจะให้ดี... ไปถึงแล้วโทรมาหาผมนะ”
พูดจบเขาก็จูบลาเธอด้วยจูบอันแสนหวาน จนหัวใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ถ้าหากเลือกได้เธอต้องเลือกที่จะอยู่กับเขาอย่างแน่นอน
สามวันมานี้ไอยลดาก็วุ่นวายอยู่กับการถ่ายแบบจนไม่มีเวลาสนใจมือถือ แต่หลังเลิกงานเธอก็หยิบจับมันขึ้นมาตรวจเช็คทุกครั้งว่ามีใครโทรหาเธอหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววของคนที่เธอรอคอยเลยแม้แต่สายเดียว“เจ้เสร็จแล้วใช่มั้ยคะ” ไอยลดาหันไปถามนัตตี้ผู้จัดการส่วนตัวที่กำลังเดินเข้ามา หลังจากที่ไปตรวจเช็คงานกับลูกค้ามา“เสร็จแล้วจ้าลูกสาว วันนี้เชิญพักผ่อนได้ตามสบายเลย หรือว่าจะไปดื่มดี”“ไม่ดีกว่าค่ะเจ้ หนูขึ้นไปพักดีกว่า” เธอตอบไปเสียงเบา อย่าว่าแต่ไปดื่มเลย ตอนนี้แค่เดินยังไม่ไหวเลย ร่างกายต้องการพักผ่อน“เอางั้นก็ได้ เจ้เองก็อยากจะพักเหมือนกัน” พูดจบเจ้นัตตี้ก็ช่วยเก็บข้าวของแล้วทั้งคู่ก็เดินขึ้นมายังห้องพักของตัวเอง โดยไม่ลืมที่จะสั่งอาหารขึ้นมาทานด้วยเพราะอาการแบบนี้คงลงไปทานไม่ไหว..สายของวันต่อมาไอยลดากับเจ้นัตตี้ลงมาทานข้าวที่ร้านอาหารหรูในชั้นบนสุดของของโรงแรมที่เธอพักอยู่“ทำไมวันนี้ลูกสาวเจ้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ” ผู้จัดการแซวเด็กสาวในสังกัดที่วันนี้ดูผิดแปลกไปจากทุกวัน แต่ก็พอจะเดาออกว่าเพราะอะไร“ก็อารมณ์ดีเหมือนทุกวันนั่นแหละค่ะ” ไอยลดาตอบผู้จัดการพร้อมรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงเบอร์ที่โชว์บนห
5 ปีต่อมา…“ลูกสาวแม่สวยที่สุดเลย พร้อมมั้ยลูก”เสียงผู้เป็นแม่คุยกับลูกสาววัยสี่ขวบเศษด้วยท่าทางใจดี แววตาที่เธอมองลูกสาวเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ถึงแม้ว่างานนี้จะเป็นงานแรกที่ลูกสาวรับถ่ายแบบก็ตาม แต่คนที่เป็นแม่ย่อมรู้ดีว่าลูกสาวของเธอเก่งแค่ไหน และต้องทำมันได้ดีแน่ๆ“พร้อมค่ะ” ลูกสาวคนเก่งชูสองนิ้วให้ผู้เป็นแม่ก่อนที่จะเดินตามพี่ๆ ทีมงานไปยังฉากที่เซตไว้ โดยมีผู้เป็นแม่เดินตามไม่ห่างทุกการกระทำของลูกอยู่ในสายตาของเธอตลอดเวลา ไอยลดามองลูกสาวด้วยสายตาปลื้มปริ่ม เวลาเห็นความพยายามของลูกยิ่งทำให้เธอนึกถึงตอนที่เธอเข้าวงการใหม่ๆ เธอมีความทะเยอทะยานและความอดทนเป็นอย่างมากที่จะได้เข้าไปอยู่ในจุดที่เธอเคยอยู่ ถึงแม้มันจะผ่านไปนานแล้วก็ตามเธอเชื่อว่าทุกอย่างมีการเริ่มต้น มันก็ต้องมีจุดจบเหมือนละครทุกเรื่อง แล้วทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกให้มันจบแบบไหนแต่สำหรับเธอ... มันจบแบบสวยงามมาก เพราะทุกอย่างที่เสียไปนั้นแลกมากับลูกสาวตัวน้อยที่เป็นทั้งความสุขและหัวใจของเธอ“ฉายแววตั้งแต่เด็กเลยนะ เจ้ว่าหนูริณต้องอนาคตไกลแน่ๆ” เสียงของนัตตี้พูดขึ้นแล้วมองนางแบบตัวเล็กที่มีศักดิ์เป็นหลานสาว
@เวลา 19:48 น.หลังจากพาลูกสาวเข้าไปนอนในห้อง ไอยลดาก็เดินตรงมาที่ห้องทำงานของนัตตี้ทันที“ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงค่ะเจ้”“เรื่องอะไรเหรอ?”“เจ้รู้ดีว่าดาหมายถึงเรื่องอะไร ทำไมเจ้ไม่บอกดาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าของแบรนด์นั่น”ไอยลดาเริ่มหัวเสียกับเรื่องที่เจอมา ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมได้ขนาดนี้“เฮ้อ... เจ้ว่าจริงๆ แล้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนะ ดาก็เห็นว่างานทุกอย่างมันก็ราบรื่นดี ดาติดใจตรงไหนงั้นเหรอ” หญิงวัยกลางคนพยายามพูดอย่างใจเย็น เธอเข้าใจดีว่าไอยลดาคิดอะไรอยู่ แต่เธอก็อยากให้ไอยลดายอมรับความจริงและใช้ชีวิตให้มีความสุข และที่สำคัญเธอจะปิดบังเรื่องคิริณไปตลอดไม่ได้“เจ้ก็รู้ว่าในชีวิตดามีคิริณแค่คนเดียว” ไอยลดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แววตาของเธอบ่งบอกถึงความกลัว เธอกลัวว่าจะเสียลูกสาวสุดที่รักไป เธอกลัวเขาจะมาพรากลูกสาวไปจากเธอ“เจ้รู้ว่าดาคิดยังไง แต่ดาก็ควรจะเห็นใจลูกด้วย เด็กมันต้องการพ่อต้องการครอบครัว ดารู้มั้ยว่าเพราะอะไรคิริณถึงอยากถ่ายแบบ ทั้งๆ ที่รู้ว่าดาไม่ชอบ”“...” ไอยลดาได้แต่ยืนนิ่ง ในหัวคิดอะไรเต็มหัวไปหมด“คิริณบอกกับเจ้ว่าอยากถ่ายแบบเยอะๆ เพราะอยากให้พ่อเห็นเธอใน
@ ร้านอาหารหรูคริสเตียนและลูอีสเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูด้วยท่าทางสุดสง่าราวกับนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสารชื่อดัง ทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว โดยเฉพาะสาวๆ ที่นั่งอยู่ระแวกนั้นถึงแม้ว่าคริสเตียนจะแต่งงานไปแล้ว แต่ความฮอตของเขาก็ไม่แพ้หนุ่มโสดเลยสักนิดขณะที่สองหนุ่มกำลังจะเดินผ่านไปยังมุมวีไอพี เสียงใสๆ ของเด็กหญิงก็ดังขึ้นมา“อร่อยมากเลยค่ะคุณแม่” เป็นครั้งแรกที่คริสเตียนหันไปมองตามเสียงของเด็ก แล้วก็พบใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กผู้หญิงผมยาว ดวงตาสีฟ้าบ่งบอกถึงลูกผสมชั้นดีระหว่างพ่อกับแม่“อร่อยก็ทานเยอะๆ สิลูก ของมีประโยชน์ทั้งนั้น” เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้นมาพร้อมกับตักอาหารใส่จานให้ลูกสาว อยู่ๆ คริสเตียนก็รู้สึกเสียดายที่ไม่เห็นหน้าของคุณแม่ของเด็กน้อย“นายสนใจแม่ลูกอ่อนด้วยเหรอวะ” เสียงของลูอีสทำให้คริสเตียนละสายจากสองแม่ลูก แล้วเดินไปยังห้องที่จองไว้ทันทีครืด~~เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาขณะที่ทั้งคู่รออาหารมาเสิร์ฟ คริสเตียนกดรับสายทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของน้องสาว“ว่าไงน้องรัก”(น้องเห็นรถพี่จอดอยู่หน้าร้าน พี่มากับใครเหรอคะ)“พี่มากับเพื่อนหน่ะ แล้วเรามาทำอะไร”(น้องมีนัด
@ คฤหาสน์ตระกูลเวลล์คริสติน่าก้าวเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดี หลังจากไปเที่ยวเล่นกับเด็กน้อยมาทั้งวัน ยิ่งได้ใกล้ชิดยิ่งทำให้เธอรู้สึกผูกผันกับคิริณโดยไม่รู้ตัวนี่ถ้าไอยลดาเป็นแม่ม่ายลูกติด เธอจะยุให้พี่ชายเธอจีบซะเลย แม้ว่าพี่ชายเธอจะมีครอบครัวแล้วก็ตาม ก็เธอหลงรักเด็กน้อยคนนี้ไปแล้วหนิแต่มันก็คงเป็นแค่ความคิดเท่านั้น เพราะเธอลองถามไอยลดา แต่เธอกลับตอบว่าสามียังอยู่ด้วยกัน แต่สามีเธอไปทำงานต่างประเทศเท่านั้นเอง มิน่าหล่ะเธอไม่เคยได้ยินคิริณพูดถึงพ่อเลยสักครั้ง อาจจะไม่สนิทกันก็ได้“แค่ไปคุยงาน ทำไมกลับมาเอาป่านนี้หล่ะ” คนที่นั่งรออยู่ถามขึ้นมาทันทีที่น้องสาวเดินมาถึงห้องรับแขก“พี่คริสนี่เอง น้องคิดว่าเป็น...”“อเล็กซ์มันทำงานอยู่ในห้องโน่น ไม่ออกมาสนใจใครหรอก” คริสเตียนพูดออกไปอย่างรู้ทัน แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เขาอยากรู้ จนเสียเวลามานั่งรอร่วมชั่วโมงแล้ว“แล้วพี่มานั่งทำอะไรตรงนี้คะ อย่าบอกนะว่ามารอจับผิดน้อง” คริสติน่าแกล้งแซวพี่ชายอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้ว่าพี่ชายจะชอบจับผิดเธออยู่บ่อยๆ ก็ตาม แต่เธอก็รู้เหตุผลดีว่าพี่ชายเป็นห่วงเธอ กลัวเธอจะโดนผู้ชายหลอก“ไอยลดายอมให้ลูกสาวมา
ไอยลดาเดินกลับมาที่โต๊ะด้วยท่าทางเปลี่ยนไปจากเดิมจนน่าผิดสังเกต ไม่นานคริสเตียนก็เดินตามมา แล้วยังเอาแต่มองไอยลดาจนน้องสาวรู้สึกสงสัยขึ้นมา“จะเป็นอะไรมั้ยคะ ถ้าฉันมีแขกมานั่งร่วมโต๊ะด้วย”ไอยลดาถามขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคุณหมอหนุ่มจะมาหาเธอกับลูกสาว“ไม่เป็นไรเลยค่ะ เชิญตามสบายเลย”คริสติน่าบอกไปพร้อมรอยยิ้ม ปกติเธอก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว“ขอบคุณนะคะ”ไอยลดายิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะกดส่งไลน์ไปบอกหมอหนุ่มทันที“คุณแม่คะ หนูขอไปดูตรงนั้นได้มั้ยคะ”ลูกสาวตัวเล็กชี้ไปยังมุมชมวิวด้วยท่าทางออดอ้อน“แม่บอกว่ายังไงคะ”ไอยลดาเอ็ดลูกสาวเบาๆ เพราะไม่อยากให้ลูกวุ่นวายจนเกินไป เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่จะชอบเด็กกันจริงๆ หรือเปล่าพอได้ยินแม่พูดอย่างนั้น เด็กน้อยก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมาทันที ได้แต่มองไปยังจุดชมวิวด้วยสายตาละห้อย จนคนที่นั่งอยู่ด้วยอดที่จะสงสารไม่ได้“ให้ฉันพาคิริณไปดูได้มั้ยคะ หรือว่ามีปัญหาอะไร คิริณกลัวความสูงเหรอคะ”คริสติน่าถามออกไปเมื่อทนเห็นแววตาผิดหวังของเด็กน้อยไม่ได้“ไม่มีอะไรหรอกคะ ฉันแค่ไม่อยากให้ลูกวุ่นวายจนเกินไป”“ถ้าเรื่องนั้น ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ น้าพาไปดูนะ
วันต่อมา...คริสเตียนนั่งอยู่ในห้องทำงานด้วยอารมณ์หงุดหงิด อาการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลับมาจากทานข้าวเมื่อคืน ทุกครั้งที่เขานึกถึงเธอ ภาพของหมอหนุ่มคนนั้นก็จะลอยเข้ามาในหัวของเขาตลอด“บอกอเล็กซ์เข้ามาพบผมด่วน” คริสเตียนทนไม่ไหวจนต้องโทรบอกเลขาให้ตามอเล็กซ์เข้ามาพบ ไม่นานร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทก็เดินเข้ามา“อเล็กซ์เรื่องที่ให้ไปจัดการได้เรื่องหรือยัง” คริสเตียนถามออกไปอย่างไม่รั้งรอ“ก็ได้มานิดหน่อยครับ” อเล็กซ์ตอบไปตามตรง ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่ทำงานล่าช้า แต่ครั้งนี้เขาต้องยอมแพ้ให้กับความใจร้อนของเจ้านาย ที่สั่งงานยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ“เธอแต่งงานกับใคร”“เธอยังไม่ได้แต่งงานหรอกครับ”คริสเตียนถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมกับสิ่งที่ได้ยิน เธอยังไม่แต่งงานอย่างนั้นเหรอ แล้วที่เธอบอกกับเขาเมื่อคืนหมายความว่ายังไง ทำไมเธอต้องโกหกเขาด้วย“จากที่ให้คนไปสอบถามจากคนรู้จักของเธอ และสืบค้นจากข้อมูลในประวัติของเธอ เธอไม่เคยแต่งงาน และเธอก็ลาออกจากวงการหลังจากเสร็จงานที่อิตาลี เมื่อห้าปีก่อน เธอยอมจ่ายเงินก่อนโตเพื่อจบสัญญากับต้นสังกัด แล้วก็ไม่มีใครเจอเธออีกเลย”คริสเตียนคิดตามคำพูดที่ได้ยิน บวกกับสถ
@ หลายวันต่อมาไอยลดาตื่นแต่เช้ามาเปิดร้านหลังจากที่ไม่ได้เปิดร้านมาหลายวัน หลายคนคงยังไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอลาออกจากวงการเธอก็กลับไปอยู่ที่บ้านเกิด ช่วงตั้งท้องเธอก็ไม่ได้ทำอะไร เธอใช้เงินเก็บที่เธอมีใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเตรียมคลอดลูกสาว พอคิริณได้สองขวบ เธอก็ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพ และเปิดร้านขายเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นของผู้หญิง ส่วนรายได้ก็มากพอที่จะใช้จ่ายให้เธอกับลูกได้อยู่สบายไม่เดือดร้อน“ทำอะไรอยู่ครับคนสวย” เสียงหมอภาคิณดังขึ้นมา ทำให้สองแม่ลูกที่กำลังดูทีวีอยู่รีบหันไปมองพร้อมรอยยิ้ม“ลุงหมอ!!” คิริณวิ่งไปหาลุงหมอด้วยท่าทางดีใจเมื่อเห็นกล่องขนมร้านโปรดของเธอ“ดีใจที่เห็นลุงหรือดีใจที่เห็นขนมคะ”“ดีใจทั้งสองอย่างค่ะ” เด็กน้อยตอบเสียงใสส่วนผู้เป็นแม่ได้แต่ยิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ของลูกสาว ที่นับวันจะยิ่งแพรวพราวขึ้นเรื่อยๆ“แล้วคุณแม่ดีใจหรือเปล่านะที่ลุงมาหา”“ดีใจสิคะ เพราะคุณแม่ก็อยากกินขนมเหมือนกัน” ไอยลดาแกล้งตอบนอกเรื่องไป ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าคุณหมอต้องการที่จะสื่ออะไร“แม่เอาไปใส่จานให้นะคะ”ไอยลดารับขนมจากลุงหมอแล้วเดินเข้าไปในครัว ปล่อยให้ลุงกับหลานเล่นด้วยกัน แต
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาไอยลดากับลูกสาวได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังใหญ่เป็นการถาวร เพื่อความสุขและความสบายใจของทุกๆ คน ด้วยความเต็มใจของเธอและลูกสาวตัวเล็กตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่คิริณก็ดูสดใสและพูดคุยเก่งขึ้นเยอะ คงจะเป็นเพราะภายในบ้านหลังใหญ่นี้มีคนเยอะ และทุกคนต่างก็รักและเอ็นดูคิริณกันทุกคน เพียงแค่ย้ายเข้ามาได้หนึ่งเดือน ของเล่นก็แทบจะล้นห้องออกมาแล้วภายในห้องนั่งเล่นของบ้านหลังใหญ่มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งหญิงสาวได้พูดคุยถึงเรื่องการทำงานขึ้นมา“พี่คริสคะหนูขอถ่ายแบบคู่กับลูกได้มั้ยคะ?” ไอยลดาถามออกไปอย่างเฝ้ารอในคำตอบของชายหนุ่มมาเฟียหนุ่มมองใบหน้าสวยด้วยท่าทางนิ่งๆ โดยไม่มีการพูดคุยออกมาแต่อย่างใด“นะคะพี่คริส...”เมื่อดูท่าทางการใช้คำพูดจะไม่ได้ผล ไอยลดาก็เปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงออดอ้อนแทน และยังเข้าไปกอดแขนเขาเอาไว้พร้อมกับซบใบหน้าสวยไปที่ไหล่กว้าง เหมือนกับที่เธอชอบทำในทุกๆ ครั้ง“ไม่!! พี่ไม่อนุญาต” คริสเตียนตอบเสียงแข็ง ถึงเขาจะใจอ่อนให้กับลูกอ้อนของเธอไปแล้ว แต่เขาก็ต้องใจแข็งเอาไว้ เพราะไม่อยากจะให้ภรรยาคนสวยออกไปทำงาน โดยเฉพาะงานที่มีผู้ชายทำร่วม
หนึ่งเดือนต่อมา@คฤหาสน์ตระกูลเวลล์ถึงแม้ไอยลดาจะอยากจัดงานแบบเรียบง่าย เชิญเฉพาะญาติผู้ใหญ่กับคนสนิท แต่ทุกอย่างกลับเป็นอย่างที่เธอต้องการไม่ได้คริสเตียนเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นคนที่นักข่าวต่างเฝ้าจับตามองและพร้อมที่จะลงข่าวเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ยากที่จะปกปิดข่าววันนี้งานแต่งถูกจัดขึ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่ ผู้คนในงานต่างมาร่วมแสดงความยินดีให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันนี้ รวมไปถึงนักข่าวที่มากันเกือบครบทุกสำนักเลยก็ว่าได้“ว๊าววว~ เจ้าสาวสวยมากๆ เลยค่ะ” คริสติน่าที่เดินเข้ามาตรวจเช็คความเรียบร้อยถึงกับตกตลึงความสวยของพี่สะใภ้“มาถึงก็ชมกันเลย แบบนี้ดาก็เขินแย่สิคะ” ไอยลดาก้มหน้าพูดด้วยความเขินอาย“ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ ใครเห็นก็ต้องชมแบบติน่าทั้งนั้น” คริสติน่ายังคงยืนยันคำเดิม“งั้นคงต้องชมช่างแต่งหน้าแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” ไอยลดาพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันไปขอบคุณช่างแต่งหน้าทุกคนที่ช่วยกันทำให้เธอดูสวยได้ขนาดนี้“พี่ดาไปตรวจเช็คความเรียบร้อยที่หน้ากระจกก่อนดีมั้ยคะ” คริสติน่าเอ่ยบอกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าสาว“ค่ะ” เจ้าสาวตอบพร้อมกับพยักหน้า แล้วลุกขึ้นเดินตรงไปยังกระจกบานใหญ่โดย
ไอยลดาตื่นเช้าตามปกติเหมือนกับทุกๆ วัน เธอตื่นมาทำนู่นนี่นั่นตามปกติ หลังจากทำอาหารเช้าไว้ให้ลูกสาวเสร็จเธอก็เปิดดูทีวีดูรายการข่าวที่เธอชอบดู เพื่อไม่ให้คิดถึงคนใจร้ายที่หายไปทั้งวันทั้งคืน แล้วปล่อยให้เธอนอนร้องไห้จนหลับไป แต่แล้วเธอก็ต้องแปลกใจกับหัวข้อข่าวที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ‘ไฮโซสาวประกาศหย่ากับนักธุรกิจชื่อดังแบบสายฟ้าแลบ’ตากลมโตจ้องมองหน้าจออย่างไม่ละสายตา เมื่อภาพตรงหน้าเป็นภาพของนุชนาถกับคุณแม่ของเธอกำลังแถลงข่าว‘ก่อนอื่นนุชต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจในคู่ของเรา แล้วก็ต้องขอโทษที่ไม่ได้ออกมาพูดเรื่องนี้ให้ทุกคนได้ทราบเร็วกว่านี้ คือความจริงแล้วนุชกับคริสเราได้แยกกันอยู่หลายปีแล้วค่ะ’‘หมายความว่าคุณได้หย่ากับคุณคริสเตียนมานานแล้วเหรอคะ?’‘ใช่ค่ะ หย่ากันมาเกือบสามปีแล้วค่ะ แต่ที่ยังเห็นมีข่าวไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง คือเราไปในฐานะเพื่อนร่วมธุรกิจค่ะ’‘ขอทราบได้มั๊ยคะว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้ต้องเลิกกัน เป็นเพราะมีมือที่สามตามข่าวลือหรือเปล่าคะ?’‘ไม่ใช่เลยค่ะ ไม่มีมือที่สามแต่อย่างใด ความจริงคือเราสองคนเอาแต่บ้างานจนไม่ค่อยมีเวลาให้กัน...’ไอยลดาตกตลึงกับข่าวที่ได้ยิน ทำไมเรื่
คฤหาสน์ตระกูลเวลล์คุณหญิงของบ้านเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้านด้วยท่าทางตื่นเต้นขณะที่รอหลานสาวตัวเล็ก ทันทีที่รถของคริสติน่ามาจอดท่านก็รีบเดินออกไปรับหลานสาวทันทีคิริณยกมือไว้ทุกคนด้วยท่าทางอ้อนน้อมตามที่คุณแม่สอนและไม่งอแงเอาแต่ใจเล่นกับคุณย่าอย่างน่าเอ็นดูจนคุณย่าหลงหลานหนักยิ่งกว่าเดิม หลงถึงขั้นสั่งทำสวนน้ำไว้ในบ้าน และยังมีบ้านบอลขนาดใหญ่เกือบจะเท่ากับที่อยู่ในสวนสนุกเลยก็ว่าได้“ยิ้มไม่หุบเลยนะคะ” คริสติน่าแซวผู้เป็นแม่ที่กำลังนั่งมองดูหลานสาววิ่งไล่จับกับพวกแม่บ้าน“มีเด็กในบ้านก็มีความสุขแบบนี้แหละ แล้วเมื่อไหร่เราจะมีหลานให้แม่สักที” คุณหญิงพูดทีเล่นทีจริงไม่ได้จริงจังนัก เพราะท่านรู้ดีว่าลูกสาวยังไม่มีแฟน“หนูยังไม่พร้อมจะอุ้มท้องตอนนี้หรอกค่ะ ยังอยากใส่ชุดสวยๆ อยู่”คริสติน่าตอบอย่างรวดเร็วจนไม่ทันคิดว่าคำตอบของเธอทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกถึงความผิดปกติ“เอ๊ะ!! ตอบแบบนี้หมายความว่ายังไง นี่ลูกมีแฟนแล้วเหรอ”“ยังไม่มีหรอกค่ะ”“มีพิรุธนะเรา แอบไปคบกับใครไม่บอกแม่หรือเปล่า”“อย่ามองหนูแบบนั้นสิคะ หนูจะไปปิดบังแม่ทำไมคะ ไม่เอาแล้ว หนูไปชวนหลานเล่นน้ำดีกว่า”คริสติน่ารีบเดินไปหาหลานอย่
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้าคริสเตียนก็ยังไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เมียของเขาคิดมากจนฝันร้ายแบบนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่ถามเธอ หากแต่เธอไม่ยอมบอกอะไรเขาเลยต่างหาก“พี่ไปส่งลูกก่อนนะ” คริสเตียนสวมกอดร่างเล็กที่กำลังล้างจานอยู่“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเช่นเคย หากแต่รอยยิ้มนั้นดูไม่สดใสเหมือนทุกวัน เหมือนเธอกำลังฝืนยิ้มเพื่อให้เขาสบายใจมากกว่า“เฮ้อ...” ไอยลดาถอนหายใจออกมาทันทีที่ร่างสูงออกไปจากห้องครัว ความหวาดระแวงเกาะกุมหัวใจอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจเขา แต่ความฝันเมื่อคืนมันสมจริงจนเธอลบมันออกจากหัวไม่ได้เลยไอยลดานั่งคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถขับเคลื่อนมาจอดหน้าร้าน ตามมาด้วยร่างสูงที่คุ้นเคยที่น่าจะอยู่ที่ทำงานมากกว่ามายืนอยู่ตรงนี้“ลืมอะไรเหรอคะ?”ไอยลดาลุกจากที่นั่งไปหาร่างสูง เผื่อจะได้ไปหยิบของที่เขาอาจจะลืมไว้ แต่กลับโดนคนตัวโตสวมกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาหัวใจที่สับสนพองโตขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยิ่งได้ยินประโยคต่อมายิ่งทำให้ความอึดอึดภายในใจปลิวหายไป“ลืมบอกรักเมีย”ใบหน้าสวยเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อเจอประโยคบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัว และมาในจังหวะที่พอดีกับที
“เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนนะคะ ฟอด!!”ไอยลดาบอกลูกสาวพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาเหมือนที่เคยทำในทุกๆ วันก่อนที่จะส่งลูกขึ้นรถหรูของผู้เป็นพ่อที่ยืนยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่ข้างๆ รถ ซึ่งแตกต่างจากหน้าตาอันบึ้งตึงในตอนที่รู้ว่าเธอกับลูกจะขอไปถ่ายแบบ ไม่ต้องบอกทุกคนก็น่าจะรู้ว่าเพราะอะไร หากไม่ใช่โดนเมียง้อจนเกือบเช้า“พี่ก็อยากได้กำลังใจในการทำงานเหมือนกันนะ” คนเจ้าเล่ห์เดินมาสวมกอดเมียด้วยท่าทางออดอ้อนที่ดูขัดกับลุคมาเฟียเป็นอย่างมาก“ได้ทั้งคืนแล้วยังไม่พออีกเหรอคะ” ไอยลดาตอบเสียงเบากลัวใครจะได้ยิน ทั้งๆ ที่ตรงนี้ไม่มีใครนอกจากเธอกับเขา ส่วนในรถมีอเล็กซ์กับคิริณและคนขับรถ“กับเมียไม่มีคำว่าพอหรอก อยากอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืนเลย”“ไม่เอาด้วยหรอก แค่นี้หนูก็แทบจะไม่มีแรงเดินแล้ว” เธอบอกไปตามจริงอย่างไม่อาย เพราะร่างกายของเธอสู้ความอึดและทนของเขาไม่ไหวหรอก“งั้นหนูนอนเฉยๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง”คำพูดหื่นๆ ของคริสเตียนทำให้ไอยลดาเขินจนหน้าแดงไปหมด อีกทั้งหัวใจยังเต้นแรงเมื่อเขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อประตูรถถูกเปิดออก ทั้งสองคนรีบผละออกจากันเพราะคิดว่าเป็นลูกสาว“เดี๋ยวสายนะครับ”อเล็กซ์
หลังจากคุยธุระที่บ้านของนุชนาถเสร็จ คริสเตียนกับไอยลดาก็ขับรถไปยังโรงเรียนของลูกสาว วันนี้พวกเขาตั้งใจไปรับลูกเร็วกว่าทุกวัน เพราะจะพาลูกสาวไปเที่ยวตามที่สัญญาไว้“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่”ลูกสาวตัวเล็กยกมือไหว้คุณพ่อคุณแม่ทันทีที่ขึ้นมาบนรถยนต์คันหรู ความน่าเอ็นดูของลูกสาวทำให้ผู้เป็นพ่อหลงลูกยิ่งกว่าเดิม และความหวงก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ตอนนี้เขากลายเป็นคนหวงลูกหวงเมียไปเสียแล้ว“เป็นยังไงบ้างวันนี้เรียนสนุกมั้ยคะ?”ไอยลดาเอ่ยถามลูกสาวด้วยท่าทางเอ็นดูที่เห็นลูกร่าเริงกว่าปกติ ตั้งแต่ที่มีพ่อเข้ามาในชีวิต ลูกสาวของเธอดูมีความสุขมากๆ จนบางครั้งเธอก็อดคิดไม่ได้ถ้าวันหนึ่งไม่มีพ่ออยู่ด้วยจะเป็นยังไง“สนุกค่ะ”“วันนี้เรียนสนุกแล้ว คงไม่อยากไปเที่ยวแล้วสินะ งั้นพ่อขับรถกลับบ้านเลยดีกว่า” คริสเตียนแกล้งพูดขึ้นมา“ไม่ได้นะคะ สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา คุณพ่อจะผิดสัญญาไม่ได้นะคะ”เด็กน้อยโตตอบทันควัน เพราะเธอนับวันรอที่จะให้ถึงวันนี้มานานแล้ว วันที่จะได้ไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่พร้อมหน้าพร้อมตากัน“โอเคๆ พ่อพาไปเที่ยวก็ได้ แต่กลับมาแล้ว หนูต้องทำการบ้านแล้วก็รีบเข้านอนนะครับ”คำพูดที่เหมือนจะ
หลังจากได้ยินคำอนุญาต ร่างกำยำก็เลื่อนตัวขึ้นมา เขาจัดการกับกางเกงตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่นานแท่งเอ็นใหญ่ก็ชูชันต่อหน้าหญิงสาว ความใหญ่โตของเขาทำให้ตัวเล็กรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาดื้อๆแต่คนช่ำชองก็ไม่ปล่อยให้เธอได้เกิดอาการประหม่า รีบประชิดตัวเธอพร้อมกับยกขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นเกี่ยวเอว จากนั้นก็ใช้มือจับลำใหญ่ยัดเข้าไปในร่องสาวที่เยิ้มน้ำ“อือ...”“อ้าส์!! แน่นจังเลยที่รัก! ทั้งแน่นทั้งนุ่ม!!”“อือ... แต่หนูอึดอัด!! พี่คริสขยับสิคะ”“ได้เลยครับที่รัก... พี่ก็อยากเอาหนูใจจะขาด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!จังหวะรักเริ่มขึ้นอย่างร้อนแรง เพราะเวลาของคุณพ่อคุณแม่มีจำกัด จะทำอะไรชักช้าเหมือนคนโสดไม่ได้ ถึงเขาจะยังไม่ชิน ก็ต้องปรับตัวให้ได้..วันต่อมา...ในช่วงเช้าของทุกวันภายในบ้านก็จะวุ่นวายนิดหน่อย เพราะคุณพ่อกับลูกสาวมัวแต่หยอกล้อกันจนไม่ยอมทานข้าวให้เสร็จสักที“รีบๆ ทานสิคะ เดี๋ยวสายนะ”ไอยลดาบอกทั้งสองคนที่ต้องไปให้ทันเวลา คนหนึ่งต้องไปเรียน อีกคนต้องไปทำงาน“พี่ไม่รีบ ไปตอนไหนก็ได้”“แต่ลูกรีบนะคะ จะสายแล้วด้วย”“สายก็ไม่ต้องไป พี่สอนเองก็ได้”ความหวงลูกเริ่มเยอะขึ้นทุกวัน ถึงขั้นบอกลูกไม่ใ
“พี่คริส!! อย่าทำตรงนั้น หนูเสียววว!! ซี๊ดดดด!!”คุณแม่ลูกหนึ่งสูดปากครางเสียวอย่างไม่อายในขณะที่ถูกอีกฝ่ายปรนเปรอด้วยปลายลิ้นสาก ความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ทำให้เธอไม่สามารถอยู่นิ่งได้เลย มันเสียวจนเธออ่อนระทวยไปทั้งตัว“พี่ชอบฟังเสียงครางเสียวของหนู”ใบหน้าหล่อยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะซุกใบหน้าหล่อเข้าไปหาร่องชื้นแฉะแล้วใช้ลิ้นตวัดเลียอย่างถึงใจ จากนั้นก็ใช้นิ้วสอดเข้าไปในร่องสาวจนร่างเล็กเกร็งไปทั้งตัวแจ๊ะ!!! แจ๊ะ!!!“พี่คริส!! อ๊ะ!! อร๊ายยย!!”ไอยลดาครางเสียงหลงเมื่อนิ้วร้ายผุดเข้าออกในร่องสาวอย่างร้อนแรง มันรู้สึกดีจนเธอกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ได้เลย“อย่ามัวแต่ครางสิครับ ทำให้พี่บ้าง”คนหื่นแซวเมีย ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนทำให้เธอดิ้นพล่านแท้ๆ แถมยังขยับนิ้วไม่หยุดหย่อนไอยลดาพยายามตั้งสติแล้วสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เธอขยับมือที่กอบกุมแก่นกายขึ้นลงเป็นจังหวะ จากนั้นก็ใช้ลิ้นเลียวนที่หัวบานสีชมพู ความอ่อนหัดทำให้เธอลงน้ำหนักได้ไม่ดีหนัก บางครั้งก็แรงไป บางครั้งก็เบาไป ทั้งดูดทั้งอมสลับกับมั่วไปหมด แต่ถึงอย่างนั้น… ก็ทำให้อีกฝ่ายแทบคลั่ง“ซี๊ดดดด!! ใจเย็นๆ สิครับ เดี๋ยวพี่ก็เสร็จก่อนหรอก”มาเฟ