อีกฝั่งของผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ เฌอเอมปวดฉี่กลางดึก ลุกขึ้นมาทำธุระ ทว่าพอกลับมานอนเธอก็นอนไม่หลับ ถอนหายใจบนเตียงกับอาการที่เป็น ไม่สบายใจ กระอักกระอ่วนใจไม่ทราบสาเหตุ หยิบรูปข้างหัวเตียงมาดูเป็นภาพที่แนนนี่เคยทักเมื่อตอนย้ายมา ปลายนิ้วมือเกลี่ยไปใบหน้าชายหนุ่ม นึกเสียดายเวลาและความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันในตอนเด็ก“เราไม่น่ามารู้จักกันเลย เสียดายพี่วีร์คนเดิม คงตายไปจากเอมแล้วจริงๆ”ยิ่งรู้ว่าปวีร์มาแอบมองที่คอนโดทุกวัน ยิ่งทำความรู้สึกปั่นป่วนเข้าไปใหญ่ นั่งกอดเข่าซึมมองไปยังระเบียง ก่อนจะลุกแล้วเปิดออกไปยืนด้านนอก หวังว่าจะรู้สึกดีขึ้นลมเย็นพัดโชยจนเส้นผมยาวสีอ่อนปลิวไสว ชุดนอนตัวบางยาวเพียงหัวเข่าก็พลิ้วไปตามแรงลม ยืนกอดอกมองออกไปด้านหน้าเป็นแสงไฟในยามราตรี ยังมีผู้คนเดินไปมาเพราะเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล มันก็เงียบอยู่บ้างเมื่อรถราเริ่มน้อยลง เธอเม้มปากตัวเองเบาๆ อยู่ในภวังค์ของตัวเอง พลันนึกถึงคำพูดตัวเองที่ตะคอกดังใส่หน้าชายหนุ่มว่าเกลียดก็ถอนหายใจระลอกแล้วระลอกเล่า“เพราะพี่ ทำเอมเป็นคนใจร้ายแบบนี้”ยืนเหม่ออยู่แบบนั้นครั้นนอนไม่หลับ ไม่รู้จะข่มตาด้วยวิธีนอกจากการสูดอากาศเย
“เย็นนี้พี่ๆ จัดงานฉลองไว้ให้นะ”“พี่ๆ ...”“พี่คิมหมายถึงพี่พอลด้วย” แนนนี่เอ่ยขึ้น“ที่ออสซี่บาร์นะ – เปิดใหม่พวกพี่หุ้นกันด้วย”เพราะสองหนุ่มอาสาเป็นเจ้ามือในคืนนี้ นอกจากจะฉลองวันแห่งความสำเร็จ ก็เป็นการประกาศสถานะระหว่างแนนนี่และพอลไปในตัว เมื่อตกลงคบหากันแบบจริงจัง จากเดิมที่เป็นเพียงกิ๊กหรือคนคุยเท่านั้น ส่วนชายหนุ่มคนเดิมของแนนนี่ก็เลิกรากันด้วยเหตุผลหมดรักเพราะมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย คิมจึงหันไปกล่าวทักทายชญาณัฐ พูดคุยราวกับว่ารู้จักกันมานานทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ผิดจากเขาที่รู้จักแม่ของเฌอเอมมาเป็นสิบๆ ปีแต่กลับไม่เคยพูดจากันดีๆ เลยสักครั้งตอนนี้เขาไม่ต่างจากธาตุอากาศไม่มีตัวตน มันต้องเป็นแบบนั้น เมื่อการมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อเปิดเผย แต่มาเพื่ออยากเห็นรอยยิ้มของผู้หญิงที่เขาได้รู้ใจตัวเองว่ารักเธอเขาหันหลังเพราะไม่อยากมองเห็นผู้ชายคนอื่นสนิทสนมกับเฌอเอม อึดอัดและอัดอั้นอยากแสดงความเป็นเจ้าของขั้นสุด แต่ก็ทำไม่ได้ ใจหวิวสั่นไปทั้งดวงราวกับมีเชือกผูกแล้วดึงรัดแรงๆ เดินคอตกถือดอกไม้ช่อเล็กออกมา พลันคนอายุน้อยแอบชะเง้อคอมองเมื่อเห็นว่าปวีร์เดินออกไปจากจุดนี้อากาศอันแสนร้อนทำเขา
เฌอเอมที่นั่งฟังจนจบแอบหวั่นๆ ในใจ ทีแรกนึกว่าเป็นคนอื่น แต่มาสะดุดตรงที่ว่ายัยหนู คำนี้ปวีร์มักเรียกเวลาคุยกับเธอตอนสมัยเป็นเด็กและยังรักกันดี สิบกว่าปีได้ที่ไม่เคยได้ยินมันอีกเลย กระทั่งมาถึงวันนี้ วันที่เธอกำลังสั่งใจตัวเองให้เกลียดผู้ชายที่ชื่อปวีร์ สหัสบดินทร์ แอลกอฮอล์ที่เหลือเพียงก้นกระดกกลืนลงจนหมด หวังว่าความเมาจะให้ตัวเองใจแข็งและไม่ไหวหวั่นไปเพียงคำขอโทษไม่กี่คำ“พี่คิม เอมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”“พี่ไปเป็นเพื่อน”“ไม่ต้องค่ะ”เธออยากมั่นใจว่าคำขอโทษนั้นมันมาจากใคร ใช่ชายคนนั้นหรือเปล่า เดินออกมาด้านหน้าของบาร์ มองหาจุดวางตุ๊กตาตัวใหญ่ก่อนจะเห็นว่ามันถูกตั้งไว้ข้างรถยนต์ของเธอ เฌอเอมมีสภาพเมาเล็กน้อย รีบก้าวเท้ามายังรถ Teddy bear ตัวใหญ่มันเป็นแบบเดียวกันกับที่ปวีร์เคยซื้อให้เมื่อสิบปีก่อน มองหมีสีครีมด้วยแววตาสั่นไหวแล้วหยิบโน้ตที่แปะตรงกลางอกตุ๊กตาแล้วเปิดอ่านเอม...ไม่รู้ว่าที่ทำอยู่มันสมควรให้อภัยบ้างไหม อยากขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมด พี่มันเลวอย่างที่เอมเคยต่อว่า ตีกรอบความคิดตัวเองไม่ลืมหูลืมตามองความเป็นจริง ตลอดสามเดือนที่เอมออกจากบ้านหลังนั้นมา มันทำให้พี่รู้ว่า
รถยนต์ส่วนตัวขับมาจอดก่อนถึงทางเข้าหน้าคอนโดของเฌอเอม แน่นอนว่าปวีร์แอบตามดูหญิงสาวอย่างห่างๆ หากเป็นแต่ก่อนเข้าคงโวยวายและด่ากราดผู้ชายอย่างคิมที่เข้ามายุ่งวุ่นวายไม่เลิก แม้ว่าบุคคลที่สามระหว่างเขากับเฌอเอมจะมีปัญหาระหองระแหงกับภรรยาถึงขั้นมีข่าวแว่วมาว่าทั้งคู่อาจหย่ากันในเร็วนี้ แต่ก็ควรไปเคลียร์ตัวเองให้โสดสนิท ก่อนจะเริ่มความสัมพันธ์กับคนใหม่ แต่คนใหม่ที่ว่าคงเป็นเฌอเอมไม่ได้นั่งกัดริมฝีปากตัวเองแน่นในรถ มองผ่านกระจกทะลุไปยังคอนโด จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วนาทีนี้เมื่อเห็นเฌอเอมเดินเข้าไปด้านในพร้อมคิม“โธ่เว้ย!! ทำยังไงดีไอ้วีร์ เอมกับไอ้คิมขึ้นไปบนห้องด้วยกันแล้ว”เปิดประตูรถออกมา เท้าสะเอวเดินวนรอบรถตัวเองเพราะตอนนี้เขาไม่รู้ต้องทำยังไง เขาเข้าไปด้านในไม่ได้เพราะระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาทีเดียว ความอดทนอันน้อยนิดถูกระบายด้วยการยกเท้าเตะเข้าที่ล้อแม็กซ์ของตัวแรงๆ จนเหมือนว่ารองเท้าจะแตกส่วนหัวด้วยซ้ำ นั้นความหมายว่าช่วงปลายเท้าของปวีร์ก็ช้ำพอสมควรผ่านไปสักพักท้องฟ้ามืดครึ้มขึ้นมากะทันหัน ตั้งเค้าเหมือนว่าฝนจะตก พร้อมแสงอัสนีจากเบื้องบนสาดกระเซ็นมาเป็นระยะ กระทั่งเม็ดฝน
เช้าต่อมาแสงสีทองสาดส่องทั่วทั้งท้องฟ้า ขับไล่ความมืดมนในยามค่ำคืน เฌอเอมรู้สึกตัวตื่นเมื่อแดดแยงตา เมื่อคืนเธอไม่ได้เข้าไปนอนในห้อง เผลอหลับเพราะแอบมองปวีร์บนระเบียง ก่อนจะลุกขึ้นกะทันหันแล้วมองลงไปด้านล่าง ไม่มีชายใจร้ายยืนอยู่ตรงนั้น เขาหายไปแล้วหรือยอมแพ้ไปตั้งแต่เมื่อคืน ถอนหายใจแล้วยกมือลูบใบหน้าตัวเอง โดนกระทำขนาดนี้ปวีร์คงไม่มาราวีเธออีกแล้ว“ก็ดีเหมือนกัน คงทนไม่ไหวหรอก”เดินเข้ามาด้านในทิ้งตัวลงเตียงนอนนุ่มนิ่ม ครั้นรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวเพราะนั่งหลับทั้งคืน หลับตาลงหวังจะพักผ่อนต่อก็ต้องลืมตาเมื่อมือถือดังเพราะมีสายเรียกเข้า“แม่...”เฌอเอมย่นคิ้วโก่งเล็กน้อย เมื่อชญาณัฐโทรมา“ค่ะแม่ เอมเพิ่งตื่น”(จะกลับมาบ้านไหมลูก)“ยังค่ะ”(เหรอ...แม่แค่โทรมาบอก พี่วีร์ป่วยนะลูก ไข้ขึ้นสูงตัวร้อนมาก ตอนนี้แอดมิตในห้องผู้ป่วยวิกฤต)“วิกฤติ”เฌอเอมถึงกับงงมากกว่าเดิม ชายหนุ่มยืนตากฝนทั้งคืนพอเข้าใจได้ว่าต้องเป็นไข้ แต่มันถึงขั้นไหนถึงต้องอยู่ห้องวิกฤตความไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนใจร้าย เฌอเอมใช้เวลานี้ในการสมัครงานหน้าออฟฟิศและระบบออนไลน์ ไม่อยากคิดฟุ้งซ่านและไม่อยากเป็นห่วงปวีร์ นอนกระวนกร
ปวีร์ยังคงกอดแน่น คราวนี้กลับมีแรงยื้อคนอายุน้อยเอาไว้ เมื่อเฌอเอมไม่มีทางหลุดจากอ้อมกอดของชายหนุ่มก็ทำได้เพียงกดออดเรียกพยาบาล แม้ว่านางพยาบาลจะเข้ามาแทงเข็มแล้วใส่สายน้ำเกลืออีกรอบ มืออีกข้างของปวีร์ก็ยังโอบเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย“เสร็จแล้วพี่พักผ่อนต่อเถอะ”“เอม...”“พี่ป่วยอยู่”“ฟังพี่”เฌอเอมยืนนิ่ง สูดหายใจเข้าแรงๆ เมื่อหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ ยอมอดทนฟังกับคำขอโทษเดิมๆ ของปวีร์อย่างร้าวราน“มันช้าไปไหมถ้าพี่จะบอกว่า...รักเอม”ราวกับฟ้าผ่าเปรี้ยงเข้ากลางใจ เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินจากปากของปวีร์ ชายหนุ่มสารภาพความรู้สึกที่มี มันชัดเจนตั้งแต่เฌอเอมก้าวเท้าออกมาจากบ้านหลังนั้น จุดอ่อนของปวีร์มันก็อยู่ที่หัวใจและความรัก ตอนนั้นเขากลัวแม่และลูกมาแย่งความรักพ่อมีให้ กลัวความไม่สมบูรณ์ของคำว่าครอบครัว แต่ตอนนี้กลับกลัวว่าจะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อเฌอเอมอยู่ข้างกาย“ไม่มีเอมอยู่เหมือนขาดอะไรบางอย่างไปจากชีวิตพี่ ให้ปวีร์แสนร้ายคนนี้กลายเป็นปวีร์แสนดีไหม”เขากำลังขอโอกาสจากคนอายุน้อย เฌอเอมกลืนความรู้สึกกระอักกระอ่วนลงคอ จุกแน่นภายในใจไปเสียหมด นิ่งเสียจนปวีร์เดาความคิดและความรู้สึกเธอไม่ได้ ก่
นิสัยก้าวร้าวและความไม่เป็นสุภาพบุรุษคือเปลือกนอกที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองดูเข้มแข็งและสร้างเกราะปกป้องกันความรู้สึกให้ตัวเองในยามที่ครอบครัวแยกสลายจากกัน แม้มันจะเป็นวิธีที่ผิดก็ตาม“ปล่อยเอม”“อาบให้พี่หน่อย”ดวงตาคู่สวยเลิกมองคนที่นั่งสูงกว่า แม้ว่าเฌอเอมจะยืนก็อยู่เพียงระดับหน้าอกเท่านั้น เพิ่งอาการดีขึ้นจะอาบน้ำเธอก็กลัวว่าไข้ชายหนุ่มจะขึ้นมาอีก แต่กระนั้นก็ยังถูกคะยั้นคะยอเพราะปวีร์เหนียวตัวไม่น้อย ร่างกายหมักหมมมาหลายวันหากได้ฟอกตัวด้วยสบู่หอมๆ ก็คงสดชื่นขึ้นไม่น้อยห้ามไม่ได้ก็คงต้องทำตาม ปวีร์มีอภิสิทธิ์ของคนป่วยทำให้เธอตามใจได้ ถอดชุดผู้ป่วยออกจากตัวแล้วใส่เพียงบ็อกเซอร์ตัวยานที่มีติดตู้เสื้อผ้าผู้ป่วยเอาไว้ เฌอเอมปลดฝักบัวลงแล้วเปิดน้ำในระดับอุณหภูมิห้อง ไม่ให้หนาวมากจนชายหนุ่มสะท้าน รดริดบนผิวกายหยาบก่อนจะบีบสบู่เหลวลงมือแล้วลูบไล้ลงแผ่นหลังและไปยังจุดอื่นๆปวีร์หันด้านหน้าให้คนอายุน้อยถูให้ทั่ว มือบางลูบไล้บนหน้าอกที่เปล่งกล้ามออกเป็นมัดๆ ยามสัมผัสเข้ากับเม็ดกลมแข็งๆ ก็ทำปวีร์ขนลุกขนชันไม่น้อย“พี่หนาวเหรอ”“เปล่า พี่แค่...”เขาโอบกอดเฌอเอมโดยอีกฝ่ายไม่ตั้งตัว ดันเข
“วันนี้กลับบ้านเลย ไม่มีอะไรน่าหวงแล้ว”“ขอบใจนะหมอ”ปุริมที่เอ่ยขอบคุณเมื่อคุณหมอที่รู้จักดูแลลูกชายอย่างดีตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้“ค่ารักษาใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ ไม่ต้องสำรองจ่ายอะไร – กลับบ้านไปก็ดูแลตัวเองดีๆ นะวีร์”“ครับอาหมอ”อาการป่วยของปวีร์ในตอนนี้ ตัวไม่ร้อนและไม่มีอะไรน่าห่วง เมื่อดีขึ้นตามลำดับคุณหมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ข้าวของบางอย่างมีเฌอเอมช่วยเก็บและขนลงไปไว้ในรถให้ก่อน ภายในห้องพักผู้ป่วยมีเพียงพ่อลูกที่อยู่กันลำพัง ปวีร์สวมชุดลำลองตัวโปรดของตัวเอง และนั่งรอเฌอเอมขึ้นกลับมาประคองเดินลงไปด้วยกัน“กลับบ้านนะวีร์”“กลับคอนโดครับ”“...”ได้ยินก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ลูกชายไม่มีคอนโดส่วนตัวแล้วจะไปอยู่กับใคร“คอนโดของเอม – ผมอยากไปอยู่กับน้อง”“จะไม่กวนใจน้องเหรอวีร์”เพราะความสัมพันธ์ของเด็กสองคนมันยังไม่ดีขึ้นและยังคลุมเครือ ปุริมเกรงว่าลูกชายจะไปสร้างความรำคาญให้คนอายุน้อย ครั้นเฌอเอมยังมีธุระเรื่องของงานที่เธออาจจะต้องทำเป็นจริงเป็นจังในเร็วนี้ แต่กระนั้นปวีร์ยังยืนยันที่จะติดสอยห้อยตามไปพักฟื้นตัวเองต่อที่คอนโดของหญิงสาว และเหตุผลหลักเขาอยากอยู่ที่นั่นเพื่อง้อและปรับคว
“เอมท้องได้สองเดือนแล้วครับน้าชญา”“...”ชญาณัฐที่ได้ยินก็เงียบปาก มองเด็กทั้งสองด้วยแววตาและสีหน้าเรียบเฉย พลันอีกฝ่ายนึกว่าเธอต้องไม่พอใจกับพฤติกรรมเกินงาม รู้ถึงไหนคงโดนนินทาไปถึงนั่น แต่ในสังคมปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว อยู่ก่อนแต่งหรือท้องก่อนแต่งมันมีเยอะแยะ ฉะนั้นเอามาวัดกันไม่ได้นอกจากความรักและความซื่อสัตย์ที่มีให้กัน สิ่งสำคัญในชีวิตคู่จะประคองอย่างไรให้ตลอดรอดฝั่งไม่เหมือนผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่เคยล้มเหลวมาก่อน“หนูขอโทษ”“ขอโทษทำไม แม่กับลุงอยากอุ้มหลานจะตาย”“แม่!”“แค่ตกใจที่หลานมาไวกว่าที่คิด”บรรยากาศจากตึงๆ กลายเป็นความรอยยิ้มของคนทั้งสี่ มีแม่บ้านอย่างป้าราตรียืนมองครอบครัวสุขสันต์อยู่ห่างๆ ครั้งที่ผ่านมาเหมือนตกอยู่ในสมรภูมิของสงครามมานานหลายปีห้องสี่เหลี่ยมห้องเดิมของเฌอเอม หากนับเวลาก็รวมๆ หกเดือนได้ที่เธอไม่ได้กลับมาใช้ห้องนี้อีกเลย มันดูโล่งไปนิด มีเพียงแจกันและโซฟาที่ยังตั้งวางไว้ ทว่าวันนี้เธอได้กลับมาใช้มันอีกครั้ง“เมื่อไหร่จะขึ้นเตียง มาให้พี่นอนกอด”ปวีร์เอ่ยถามขณะที่ตัวเองนั้นนอนยกแขนเท้าศีรษะแล้วตะแคงออกมาทางระเบียง เฌอเอมอยู่ในชุดนอนสีขาวตัวบางชนิดที่ว่ามองเ
ปวีร์ก็ไม่ฟังอยู่ดี เพิ่มข้อนิ้วเข้าไปอีก ล้วงผนังอุ่นเพื่อหาจุดกระสัน ตำถี่ๆ ให้คนอายุน้อยเสพความสุขได้อย่างเต็มที่ ขณะที่บั้นท้ายอวบอัดมีท่อนลำแข็งขดอยู่ด้านล่าง ความต้องการทำปวีร์ปวดหนึบ อยากควักมันออกมาแล้วสอดกระแทกเสียให้จบๆ แต่เมื่อเฌอเอมบอกว่าไม่ไหว ก็ทำได้เพียงเกี่ยวเบ็ดให้อย่างถึงใจ หลังจากนั้นค่อยจัดการตัวเองด้วยการชักว่าว“เสียวไหมคะ”เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เชิดดวงตามองคนอายุน้อยที่เอาแต่กัดริมฝีปากแล้วหลับตาแน่น เฌอเอมตัวแดงขึ้นเพราะความซาบซ่าน นั่งแอ่นเร่าร่างกายบนตักของชายหนุ่มราวกับยั่วเย้าอารมณ์ทางเพศของอีกฝ่าย เรียวนิ้วจิกเข้าที่หัวไหล่หนา ส่วนเรียวขานั้นก็อ้าออกกว้างให้ปวีร์ขยับเข้าออกได้ถนัด“อ่ะ ฮื่อ”ดวงตาคมหลุบต่ำลง มองผลงานตัวเองที่กำลังเล่นงานคนอายุน้อย กระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าน้ำเสียวของเฌอเอมไหลเยิ้มออกมาเป็นสวย“อ่า เอมมองหน่อย”“มะไม่...ไม่มอง”“สวยนะ...มองหน่อย”เขาหว่านล้อมให้คนอายุน้อยก้มมอง จากที่หลับตาก็ปรือปรอยแล้วหลุบมองตามคำสั่ง ช่องทางรักของตัวเองมีข้อนิ้วขอชายคนรักสอดไปตั้งสามนิ้วตั้งแต่เมื่อไหร่ กลีบกุหลาบแยกออกเป็นทางเห็นแม้กระทั่ง
จากเดิมที่ตั้งใจมาอยู่เพื่อพักฟื้นจากอาการป่วย กลายเป็นว่าชายหนุ่มกลับย้ายมาอยู่ถาวร ขนข้าวของจำเป็นบางส่วนเข้ามาไว้ในคอนโด ปวีร์ยังคงทำงานที่รักตามเดิมคือช่างภาพ แม้ออฟฟิศกับคอนโดอยู่กันหลายกิโลเมตรก็ไม่เป็นอุปสรรค สามารถขับรถไปกลับรวมๆ เกือบสามสิบกิโลเมตรต่อวันได้แบบสบาย และอดทนต่อการจราจรติดขัดจนเฌอเอมแอบประหลาดใจ เพราะชายที่รักไม่ชอบอะไรที่แออัดโดยเฉพาะรถบนท้องถนนขณะที่คนอายุน้อยเริ่มทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ทั้งคู่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจของปุริม ปล่อยให้คนอายุมากกับภรรยาได้ช่วยกันบริหารอย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างไรหากปุริมเกษียณตัวเองและวางมือลง แน่นอนว่าปวีร์ต้องเข้ามารับช่วงต่อเพราะเป็นลูกชายคนเดียวครัวเล็กๆ กำลังถูกใช้อุ่นอาหารสำเร็จที่ซื้อมาจากตลาด มื้อนี้เฌอเอมเลือกเป็นเมนูโปรดของปวีร์ เป็นแกงพะแนงเนื้อมะเขือพวงและยังมีหมูทอดแดดเดียวและน้ำจิ้มแจ่วรสจี้ดจ้าด ยังไม่ทันเสร็จดี ร่างน้อยๆ ถูกแขนแกร่งโอบกอดทางด้านหลังในจังหวะที่เธอไม่ทันตั้งตัว ปวีร์เปิดประตูเข้าห้องหลังจากกลับจากทำงานเพียงเงียบๆ แล้วเดินย่องมากอดคนอายุน้อยเหมือนเช่นทุกวัน“ตกใจหมดเลย”เอ่ยเพียงประโย
เขาสูดดมกลิ่นตัวทั่วกายบาง ความหอมรัญจวนทำสติที่มีแทบคลั่งอยู่รอมร่อ เพราะหลงรักเฌอเอมมานานแต่ทว่าดันซ่อนความรู้สึกเอาไว้แบบมิดชิดและบิดเบือนความจริงที่มี กระทั่งได้เปิดเผยออกมาทุกอย่างมันก็กระจ่างชัดเจนและทำให้เขากล้าแสดงออกมากขึ้นร่างนุ่มนิ่มแดงซ่านขึ้นมาราวกับว่ามีสีละเลงบนกาย ชุดนอนผ้าซาตินบนกายสาวหลุดออกอย่างง่ายดายด้วยฝีมือของชายหนุ่ม เรือนร่างขาวเนียนยามแสงไฟตกกระทบลงสู่ผิวขาวก็ปลุกตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดีที่เขาเคยบอกว่าร่างกายของเฌอเอมไร้ราคา ตอนนี้มันกลายเป็นของห่วงและของมีค่าที่ประเมินราคาไม่ได้สำหรับเขา...ริมฝีปากหยาบประกบลงที่ต้นขาขาว ลากไซ้ไปมาแล้วยังพ่นลมหายใจรดริน ทำเฌอเอมขนลุกขนซันราวกับว่าที่ตรงนี้มีอุณหภูมิติดลบทั้งที่เปิดแอร์ในอุณหภูมิปกติ“อ่ะพี่วีร์...”เฌอเอมหลุดร้องทั้งสะดุ้ง ปวีร์งับเข้าที่ง่ามขาเพียงเบาๆ แต่ว่าแลบลิ้นเลียบริเวณนั้นก่อนจะปาดมายังช่องทางรักที่อยู่ใกล้แค่คืบ จับเรียวขาขาวให้แยกกว้างออกจากกัน มองรอยหยักที่ปิดไม่เสมอเพราะมันถูกความใหญ่โตของปวีร์มุดเข้าไปสำรวจด้านในมาแล้วครั้ง ชายหนุ่มมุดหน้าลงอย่างตั้งใจ ดูดดึงเนื้อสีอ่อนราวกับว่าเป็นหอยขม มอบค
“เอมเคยโกรธพี่ ที่เอาแต่อารมณ์เป็นใหญ่ ยัดเยียดให้เอมกับแม่เป็นผู้ร้ายมาตลอด”“...”เขาตั้งใจฟังอย่างมาก รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ ขณะที่คนอายุน้อยก็หายใจแรงเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ“แม่เคยสอนไว้ว่า การให้ที่ดีคือการให้อภัย – ถ้าเอมให้แล้ว พี่สัญญาได้ไหมจะไม่ทำให้เอมเสียใจอีก”“...”“เอมให้โอกาสพี่วีร์นะ”“เอม!!”ปวีร์ที่ได้ยินใจเต้นรัวมากกว่าเดิม แต่มันเป็นความดีใจ เขาได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหู เฌอเอมให้โอกาสเขาแล้ว รีบจับร่างระหงหันหน้าเข้ามาหา ยกมือเกลี่ยข้างแก้มเนียนละเอียดแผ่วเบา พลันมองเห็นใบหน้าละมุนมีรอยยิ้มขึ้นมามันทำให้หัวใจของเขาพองโต ความพยายามง้อให้เธอกลับมาหากนับก็เวลาเป็นเดือนๆ อาจยังน้อยกับการกระทำป่าเถื่อนที่เขาเคยทำ แต่ถือว่านานมากสำหรับเขากับการใจแข็งของเธอ แต่ตอนนี้มันอ่อนลงแล้ว เฌอเอมให้โอกาสอย่างที่เขาขอ“พี่รักเอม”มือหนายังประคองข้างแก้ม เขาโฉบหน้าต่ำลง ป้อนเรียวปากให้คนอายุน้อยอย่างละมุน ปวีร์ค่อยๆ เล็มงับไปทีละน้อย แตกต่างจากที่เคยเอาแต่บดเบียดแรงๆ เพื่อความสะใจ มันอ่อนโยนขึ้นจนหญิงสาวหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง“พี่วีร์หยุด...”“พี่คิดถึง พี่โหยหาแต่เอม”ยิ่งเขาพูดออกม
“วันนี้กลับบ้านเลย ไม่มีอะไรน่าหวงแล้ว”“ขอบใจนะหมอ”ปุริมที่เอ่ยขอบคุณเมื่อคุณหมอที่รู้จักดูแลลูกชายอย่างดีตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้“ค่ารักษาใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ ไม่ต้องสำรองจ่ายอะไร – กลับบ้านไปก็ดูแลตัวเองดีๆ นะวีร์”“ครับอาหมอ”อาการป่วยของปวีร์ในตอนนี้ ตัวไม่ร้อนและไม่มีอะไรน่าห่วง เมื่อดีขึ้นตามลำดับคุณหมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ข้าวของบางอย่างมีเฌอเอมช่วยเก็บและขนลงไปไว้ในรถให้ก่อน ภายในห้องพักผู้ป่วยมีเพียงพ่อลูกที่อยู่กันลำพัง ปวีร์สวมชุดลำลองตัวโปรดของตัวเอง และนั่งรอเฌอเอมขึ้นกลับมาประคองเดินลงไปด้วยกัน“กลับบ้านนะวีร์”“กลับคอนโดครับ”“...”ได้ยินก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ลูกชายไม่มีคอนโดส่วนตัวแล้วจะไปอยู่กับใคร“คอนโดของเอม – ผมอยากไปอยู่กับน้อง”“จะไม่กวนใจน้องเหรอวีร์”เพราะความสัมพันธ์ของเด็กสองคนมันยังไม่ดีขึ้นและยังคลุมเครือ ปุริมเกรงว่าลูกชายจะไปสร้างความรำคาญให้คนอายุน้อย ครั้นเฌอเอมยังมีธุระเรื่องของงานที่เธออาจจะต้องทำเป็นจริงเป็นจังในเร็วนี้ แต่กระนั้นปวีร์ยังยืนยันที่จะติดสอยห้อยตามไปพักฟื้นตัวเองต่อที่คอนโดของหญิงสาว และเหตุผลหลักเขาอยากอยู่ที่นั่นเพื่อง้อและปรับคว
นิสัยก้าวร้าวและความไม่เป็นสุภาพบุรุษคือเปลือกนอกที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองดูเข้มแข็งและสร้างเกราะปกป้องกันความรู้สึกให้ตัวเองในยามที่ครอบครัวแยกสลายจากกัน แม้มันจะเป็นวิธีที่ผิดก็ตาม“ปล่อยเอม”“อาบให้พี่หน่อย”ดวงตาคู่สวยเลิกมองคนที่นั่งสูงกว่า แม้ว่าเฌอเอมจะยืนก็อยู่เพียงระดับหน้าอกเท่านั้น เพิ่งอาการดีขึ้นจะอาบน้ำเธอก็กลัวว่าไข้ชายหนุ่มจะขึ้นมาอีก แต่กระนั้นก็ยังถูกคะยั้นคะยอเพราะปวีร์เหนียวตัวไม่น้อย ร่างกายหมักหมมมาหลายวันหากได้ฟอกตัวด้วยสบู่หอมๆ ก็คงสดชื่นขึ้นไม่น้อยห้ามไม่ได้ก็คงต้องทำตาม ปวีร์มีอภิสิทธิ์ของคนป่วยทำให้เธอตามใจได้ ถอดชุดผู้ป่วยออกจากตัวแล้วใส่เพียงบ็อกเซอร์ตัวยานที่มีติดตู้เสื้อผ้าผู้ป่วยเอาไว้ เฌอเอมปลดฝักบัวลงแล้วเปิดน้ำในระดับอุณหภูมิห้อง ไม่ให้หนาวมากจนชายหนุ่มสะท้าน รดริดบนผิวกายหยาบก่อนจะบีบสบู่เหลวลงมือแล้วลูบไล้ลงแผ่นหลังและไปยังจุดอื่นๆปวีร์หันด้านหน้าให้คนอายุน้อยถูให้ทั่ว มือบางลูบไล้บนหน้าอกที่เปล่งกล้ามออกเป็นมัดๆ ยามสัมผัสเข้ากับเม็ดกลมแข็งๆ ก็ทำปวีร์ขนลุกขนชันไม่น้อย“พี่หนาวเหรอ”“เปล่า พี่แค่...”เขาโอบกอดเฌอเอมโดยอีกฝ่ายไม่ตั้งตัว ดันเข
ปวีร์ยังคงกอดแน่น คราวนี้กลับมีแรงยื้อคนอายุน้อยเอาไว้ เมื่อเฌอเอมไม่มีทางหลุดจากอ้อมกอดของชายหนุ่มก็ทำได้เพียงกดออดเรียกพยาบาล แม้ว่านางพยาบาลจะเข้ามาแทงเข็มแล้วใส่สายน้ำเกลืออีกรอบ มืออีกข้างของปวีร์ก็ยังโอบเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย“เสร็จแล้วพี่พักผ่อนต่อเถอะ”“เอม...”“พี่ป่วยอยู่”“ฟังพี่”เฌอเอมยืนนิ่ง สูดหายใจเข้าแรงๆ เมื่อหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ ยอมอดทนฟังกับคำขอโทษเดิมๆ ของปวีร์อย่างร้าวราน“มันช้าไปไหมถ้าพี่จะบอกว่า...รักเอม”ราวกับฟ้าผ่าเปรี้ยงเข้ากลางใจ เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินจากปากของปวีร์ ชายหนุ่มสารภาพความรู้สึกที่มี มันชัดเจนตั้งแต่เฌอเอมก้าวเท้าออกมาจากบ้านหลังนั้น จุดอ่อนของปวีร์มันก็อยู่ที่หัวใจและความรัก ตอนนั้นเขากลัวแม่และลูกมาแย่งความรักพ่อมีให้ กลัวความไม่สมบูรณ์ของคำว่าครอบครัว แต่ตอนนี้กลับกลัวว่าจะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อเฌอเอมอยู่ข้างกาย“ไม่มีเอมอยู่เหมือนขาดอะไรบางอย่างไปจากชีวิตพี่ ให้ปวีร์แสนร้ายคนนี้กลายเป็นปวีร์แสนดีไหม”เขากำลังขอโอกาสจากคนอายุน้อย เฌอเอมกลืนความรู้สึกกระอักกระอ่วนลงคอ จุกแน่นภายในใจไปเสียหมด นิ่งเสียจนปวีร์เดาความคิดและความรู้สึกเธอไม่ได้ ก่
เช้าต่อมาแสงสีทองสาดส่องทั่วทั้งท้องฟ้า ขับไล่ความมืดมนในยามค่ำคืน เฌอเอมรู้สึกตัวตื่นเมื่อแดดแยงตา เมื่อคืนเธอไม่ได้เข้าไปนอนในห้อง เผลอหลับเพราะแอบมองปวีร์บนระเบียง ก่อนจะลุกขึ้นกะทันหันแล้วมองลงไปด้านล่าง ไม่มีชายใจร้ายยืนอยู่ตรงนั้น เขาหายไปแล้วหรือยอมแพ้ไปตั้งแต่เมื่อคืน ถอนหายใจแล้วยกมือลูบใบหน้าตัวเอง โดนกระทำขนาดนี้ปวีร์คงไม่มาราวีเธออีกแล้ว“ก็ดีเหมือนกัน คงทนไม่ไหวหรอก”เดินเข้ามาด้านในทิ้งตัวลงเตียงนอนนุ่มนิ่ม ครั้นรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวเพราะนั่งหลับทั้งคืน หลับตาลงหวังจะพักผ่อนต่อก็ต้องลืมตาเมื่อมือถือดังเพราะมีสายเรียกเข้า“แม่...”เฌอเอมย่นคิ้วโก่งเล็กน้อย เมื่อชญาณัฐโทรมา“ค่ะแม่ เอมเพิ่งตื่น”(จะกลับมาบ้านไหมลูก)“ยังค่ะ”(เหรอ...แม่แค่โทรมาบอก พี่วีร์ป่วยนะลูก ไข้ขึ้นสูงตัวร้อนมาก ตอนนี้แอดมิตในห้องผู้ป่วยวิกฤต)“วิกฤติ”เฌอเอมถึงกับงงมากกว่าเดิม ชายหนุ่มยืนตากฝนทั้งคืนพอเข้าใจได้ว่าต้องเป็นไข้ แต่มันถึงขั้นไหนถึงต้องอยู่ห้องวิกฤตความไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนใจร้าย เฌอเอมใช้เวลานี้ในการสมัครงานหน้าออฟฟิศและระบบออนไลน์ ไม่อยากคิดฟุ้งซ่านและไม่อยากเป็นห่วงปวีร์ นอนกระวนกร