ฮาร์วีย์เหลือบมองดูนาฬิกาโรลเล็กซ์เก่าแก่ที่สวมอยู่บนข้อมือของเขาและขมวดคิ้ว“คงไม่ได้หรอก ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลานัดของผู้อาวุโสอาร์มสตรองแล้ว ผมต้องพาเขาไปส่งที่จุดหมายของเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”ตามจริงแล้ว ฮาร์วีย์แค่กำลังหาข้ออ้างตอนนี้เขารู้สึกละอายใจที่พาผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาสอดส่องดูที่ไซต์งานก่อสร้างของโครงการซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ตถ้าจะต้องพาผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปที่คฤหาสน์หลักของตระกูลเยตส์อีกเหรอ?พูดตรง ๆ สำหรับฮาร์วีย์แล้ว ตระกูลเยตส์ไม่ได้มีความหมายกับเขาอยู่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะแมนดี้ ตระกูลเยตส์ก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะมองแม้กระทั่งนัยตาของเขาด้วยซ้ำเมื่อเวลาผ่านไป ฮาร์วีย์ส่งผู้อาวุโสอาร์มสตรองกลับไปอย่างเงียบ ๆ แต่น่าเสียดายที่ชายชราคนนี้ไม่ใช่คนที่จะอยู่นิ่ง ๆ ได้ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์ได้เตรียมการให้ผู้อาวุอาร์มสตรองตรวจร่างกายที่ค่ายศัสตราวุธ แต่ตอนหลังเขาก็ยังมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลของประชาชนบัควู้ดด้วยตัวเอง เขาไม่ได้เรียกขอแพทย์เฉพาะทาง แต่เขากลับขอหมอธรรมดา ๆ ทั่วไปและเสียเงินเพียงแค่หนึ่งดอลลาร์เท่านั้นทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ทุกคนในบัควู้
ภายหลังในช่วงเวลาค่ำ ฮาร์วีย์ไปที่โรงพยาบาลของประชากรบัควู้ดเพื่อเลี้ยงมื้อค่ำให้กับออสการ์ อาร์มสตรองทั้งชีวิตของเขา ออสการ์ไม่ได้มีสิ่งที่ชอบมากนัก แต่อย่างไรเขาก็รักอาหารข้างทางที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นฮาร์วีย์จงใจขับรถตู้คันเก่าของเขาเพื่อพาออสการ์ออกไปทานอาหารออสการ์พูดคุยกับฮาร์วีย์อย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากที่ชายชราจะรู้สึกสบายใจเช่นนี้“หัวหน้าผู้ฝึกสอน คุณควรมาดื่มกับผมคืนนี้นะ!”ฮาร์วีย์ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของออสการ์ในเมื่อพวกเขารู้จักกันมาหลายปี พวกเขาต่างเห็นแก่มิตรภาพที่ฆ่าไม่ตายของพวกเขา การดื่มแค่ไม่กี่แก้วก็นับเป็นเรื่องธรรมดาถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ ฮาร์วีย์จะไม่มีทางแตะต้องแอลกอฮอล์เด็ดขาด…ในเวลาเดียวกันที่เดอะการ์เดน เรสซิเด้นท์แมนดี้และคนในครอบครัวของเธออยู่ที่นั่น ยกเว้นแต่ซินเธียร์ที่อยู่ด้านในแต่ทันใดนั้น อันธพาลหลายคนบุกเข้ามา พร้อมหิ้วอาวุธเข้ามาและทำลายประตูด้านหน้าบ้านจนทำให้ประตูปลิวเปิดออกภายในเสี้ยววินาทีพวกเขาเดินเข้ามาอย่างไม่แยแส พร้อมกับจิตสังหารปรากฏอยู่ทั่วทั้งใบหน้าของพวกเขาพวกเขาทั้งหมดเป็นอันธพาลพวกเขาไม่มีมารยาทเลยแม้แ
ปัง!ใครบางคนเตะไซม่อนที่ช่วงล่างของร่างกายเขา เขางอตัวและล้มลงไปนอนสั่นอยู่กับพื้นเมื่อลิเลียนพยายามจะเข้ามา เธอก็ถูกตบหลายครั้งหลังจากนั้นไม่นานชายอันธพาลก็พาตัวแมนดี้ไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทำงานให้เดอะการ์เดน เรสซิเด้นมาถึงที่เหตุเกิดและพยายามจะหยุดอันธพาลเหล่านั้นไว้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกจัดการจนเรียบทาร่า ลูอิส ผู้จัดการฝ่ายขายของเดอะการ์เดน เรสซิเด้นและเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฮาร์วีย์ได้ทราบข่าวเรื่องนี้หลังจากเกิดเรื่องไปสิบนาทีใบหน้าของเธอถอดสีทันทีที่ทราบข่าวและติดต่อฮาร์วีย์โดยเร็ว“ฮาร์วีย์ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! กลุ่มอันธพาลจากที่ไหนไม่รู้ ทำร้ายพ่อตากับแม่ยายของคุณและพาตัวภรรยาของคุณไปด้วย!”“อะไรนะ?!”ฮาร์วีย์ที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการทานอาหารกับออสการ์ อาร์มสตรองอยู่ เขาลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว‘ใครกล้าพาตัวแมนดี้ไปลับหลังฉัน?!’ในเวลาต่อมา เขาโทรหาโยเอล เกรฮัม“คุณเป็นอะไรของคุณ? ทำไมระบบความปลอดภัยในบัควู้ดถึงไร้ความสามารถขนาดนี้?!”“ผมให้เวลาคุณสิบนาที! ถ้าคุณยังตามหาว่าตอนนี้ภรรยาผมอยู่ไหนไม่ได้ เตรียมโบกมือล
แซ็คหัวเราะ“นายท่าน เธอค่อนข้างมีสถานภาพนะครับ แต่มันเป็นแสงที่ริบหรี่เมื่อเทียบกับตัวตนของคุณครับ ไม่มีการแข่งขันใด ๆ เลยครับ!”เกรย์นึกบางอย่างได้และถาม “แล้ว…?”“ผมก็เลยตัดสินใจส่งคนไปเพื่อเอาตัวเธอมาที่นี่ครับ” แซ็คพูดพร้อมกับยิ้มควินน์ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา“นายท่านฌองค่ะ ผู้หญิงคนนี้มีทิฐิมากนะคะ เธอคิดว่าเธออยู่เหนือทุกสิ่ง เพียงเพราะว่าเธอดูเหมาะสม เธอก็เลยไม่ใส่ใจคนอื่นอยู่เรื่อย!”“ในความเป็นจริง เธอเป็นผู้หญิงฉลาดแกมโกงที่แสร้งทำเป็นใสซื่อ!”เกรย์ตบหน้าของควินน์และดุด่า “อย่าพูดถ้าฉันไม่ได้อนุญาต! ผู้หญิงที่เป็นของเล่นของผู้ชายมากมายอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรถึงตัดสินเธอได้?”เขาลุกขึ้นและเดินวนอยู่สองรอบ ด้วยหน้าบึ้งตึง“ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนวันนี้ ฉันอาจปล่อยให้เป็นไปตามนี้”“แต่วันนี้ตัวตนของผู้หญิงคนนี้ต่างจากเดิมไปแล้ว เราเป็นตำนานที่เกิดขึ้นในอดีต ถ้าพวกเราทำแบบนี้ในบัควู้ดมันคงส่งผลทางที่แย่กับพวกเรา”“นายท่านครับ คุณจะกลัวอะไรครับ? พูดตรง ๆ ตระกูลซิมเมอร์เป็นบริวารของตระกูลฌองแห่งมอร์ดู!”“อีกอย่างนะครับ...ถ้าแมนดี้ได้มีโอกาสรับใช้คนอย่
เพียะ!แมนดี้ตบฌองทันทีและดุด่า “เลว! ไอ้โรคจิต!”บรรยากาศรอบตัวของพวกเขานิ่งในขณะที่เสียงตบของเธอดังก้องขึ้น“เธอกล้าตบฉันได้ยังไง?”เกรย์เอามือกุมหน้าของเขาไว้ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น “แม้แต่พ่อของฉันยังไม่เคยตบหน้าฉันเลยนะ! เธอกล้ามาตอบฉันได้ยังไง?!”“แกกล้าดียังไง?!”ในระหว่างที่เขาตะโกนอย่างนี้ เขายกเท้าของเขาขึ้นและถีบแมนดี้เข้าที่ท้องของเธอ เธอลอยออกไปไกลจนหลังของเธอกระแทกกับผนังจากนั้นเกรย์เดินตรงไปหาแมนดี้และตบเธออย่างแรงจนหน้าของเธอช้ำราวกับหมู มุมปากของเธอมีเลือดไหลออกมาแต่แมนดี้ไม่ได้ยอมแพ้ เธอเงยหน้าของเธอขึ้นและจ้องตรงไปที่เกรย์“เธอยังกล้ามองหน้าฉันอีกเหรอ?! เธอจะเชื่อหรือเปล่าว่าฉันทำให้เธอตาบอดได้?!”เกรย์แสยะยิ้มเตรียมที่จะลงมือ แต่ในตอนนั้น แซ็คหยุดเกรย์ไว้โดยการพูดว่า “นายท่านครับ ใจเย็นเถอะครับ ถ้าคุณจัดการเธอ คืนนี้นายท่านจะเล่นกับใครล่ะครับ?”“จัดการเธอหลังจากที่คุณเสร็จธุระกับเธอเถอะครับ อย่าเพิ่งรีบเลยครับ!”เกรย์ค่อย ๆ ใจเย็นลงหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเกรย์เขาเตะแมนดี้อีกครั้ง แรงเตะทำให้เธอลงไปนอนขดตัวอยู่กับพื้น เขาเดินกลับไปที่เก้
“เธอบอกว่าฉันจะเจอปัญหาใหญ่เหรอ? ฉัน เกรย์ ฌอง อยากจะเห็นว่าปัญหาใหญ่ยังไงที่จะเจอหลังจากที่ฉันเล่นกับเธอ” เกรย์พูดอย่างเยือกเย็นเขาคุ้นเคยกับความหยิ่งผยองและมักจะถูกทำให้พึงพอใจในมอร์ดูแต่ท่าทางดื้อรั้นของแมนดี้ในสายตาของเขาเป็นราวกับของเผ็ดร้อน ราวกับม้าที่บ้าคลั่ง ที่จุดประกายความสนใจในตัวเธอแมนดี้สูดหายใจเข้าลึกและพยายามสงบสติตัวเองให้ใจเย็นลง“คุณ ฉันไม่สนใจหรอกว่าคุณจะถูกแซ็คและควินน์ยุให้ทำแบบนี้”“แต่ฉันแนะนำให้คุณส่งฉันกลับไป ไม่อย่างนั้น ต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่ถ้าคุณไม่ทำ!”“เมื่อมันเกิดขึ้น แม้แต่ฉันไม่สามารถควบคุมสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้!”แมนดี้กำลังพูดถึงเจ้าชายยอร์ก ในสายตาของเธอ ชายคนเดียวที่มีความสามารถช่วยเธอได้จะต้องเป็นตัวของเจ้าชายยอร์กเองเท่านั้นแต่เมื่อเจ้าชายยอร์กยื่นมือเข้ามา มีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”“แซ็ค พวกนายตระกูลซิมเมอร์น่าตลกจริง ๆ ! ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าคนแบบไหนจะเอาปัญหามาให้ฉันได้”ความสนใจของเกรย์เพิ่มพูนขึ้นมากมันแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาสนใจแค่ในร่างกายของแมนดี้แต่ตอนนี้เขาอยากจะกำราบ
หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง…ตระกูลใหญ่ ๆ และบริษัทในบัควู้ดได้ตรวจสอบโดยละเอียดแมนดี้ ซิมเมอร์อยู่ภายในคฤหาสน์ไนน์ที่โกลด์โคสต์ที่ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองชายที่ลักพาตัวเธอไปต้องเป็นใครบางคนจากตระกูลฌองแห่งมอร์ดู!ข่าวนี้สร้างความประหลาดใจให้กับใครหลาย ๆ คนเป็นอย่างมากตระกูลฌองจากมอร์ดูจัดเป็นตระกูลที่คนธรรมดา ๆ ไม่สามารถยั่วยุได้อันที่จริงแล้วตระกูลและบริษัทเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในมอร์ดู หลังจากที่ลังเล หลาย ๆ คนก็ได้ตัดสินใจก้าวออกมาจากเรื่องนี้ในระหว่างนั้น ที่คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์... คีธ เยตส์เปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาและพูดด้วยเสียงต่ำ “ไปเถอะ ไปโกลด์โคสต์กัน”“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโอกาสเกิดขึ้นเองโดยที่เราไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย! ถ้าเราช่วยแมนดี้ได้ เธอต้องโอนสิทธิ์ในธุรกิจของเธอให้กับตระกูลเยตส์ฟรี ๆ เพื่อเป็นการตอบแทน!”ไม่นาน รถของตระกูลเยตส์ก็ได้เดินทางมาถึงที่โกลด์โคสต์และจอดหน้าทางเข้าของคฤหาสน์ไนน์ในตอนนั้น มีหลาย ๆ คนได้เดินทางไปถึงแล้วเช่นกันคริส ลีโอ จากตระกูลลีโอในฮ่องกงผู้นำของตระกูลร็อบบินส์อย่างคัลลัม ร็อบบินส์ผู้นำของตระกูลคลาวด์อย่างคาร์สัน คลาวด์และต
ใบหน้าของฟินน์ค่อย ๆ บึ้งตึง เขามองดูแซ็ตและเย้ยหยัน“นายคือแซ็ค ซิมเมอร์ไม่ใช่เหรอ? นายกลายเป็นบริวารของคนอื่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”สายตาของแซ็คเย็นชาลง แต่เขาไม่ได้ตอบกลับก่อนที่ฟินน์จะได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ คีธยกมือของเขาขึ้น “แซ็ค ซิมเมอร์ นายคงรู้ว่าฉันเป็นใคร! ไปบอกนายท่านฌองของนายว่าวันนี้ฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญ!”แซ็คตอบกลับ “นายท่านของผมบอกว่าถ้าคุณยังยั่วยุตะกูลฌองอยู่ คุณคิดว่าคุณจะยังรักษาตำแหน่งหน้าที่การงานของคุณไว้ได้หรือเปล่า?”“คีธ เยตส์! ตระกูลเยตส์สูงส่งขึ้นจากตระกูลระดับสองมาเป็นตระกูลระดับสูงสุดได้ก็เพราะตำแหน่งของคุณ!”“ถ้าไม่มีตำแหน่งของคุณ คุณก็คงจะรู้ดีมากกว่าผมว่าครอบครัวของคุณจะจบลงยังไง!”ใบหน้าของคีธหมองลงหลังจากที่ได้ยินคำพูดของแซ็คแต่เขารู้ว่าแซ็คไม่ได้แค่ขู่ถ้าตระกูลฌองต้องการ มันย่อมเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะถอดคีธออกจากตำแหน่งของเขามากกว่าการกินและการดื่มหลายปีที่ผ่านมาหน้าที่การงานของเขาไม่ค่อยราบรื่นมาเท่าไหร่ เขาจึงไม่ได้ตอบอะไรเพื่อรักษาตำแหน่งของเขาไว้ด้วยการเข้าใจขอบเขตของส่วนได้ส่วนเสียของเขาคีธรีบตอบกลับโดยไม่ลังเล “ในเมื
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข