ใบหน้าของฟินน์ค่อย ๆ บึ้งตึง เขามองดูแซ็ตและเย้ยหยัน“นายคือแซ็ค ซิมเมอร์ไม่ใช่เหรอ? นายกลายเป็นบริวารของคนอื่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”สายตาของแซ็คเย็นชาลง แต่เขาไม่ได้ตอบกลับก่อนที่ฟินน์จะได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ คีธยกมือของเขาขึ้น “แซ็ค ซิมเมอร์ นายคงรู้ว่าฉันเป็นใคร! ไปบอกนายท่านฌองของนายว่าวันนี้ฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญ!”แซ็คตอบกลับ “นายท่านของผมบอกว่าถ้าคุณยังยั่วยุตะกูลฌองอยู่ คุณคิดว่าคุณจะยังรักษาตำแหน่งหน้าที่การงานของคุณไว้ได้หรือเปล่า?”“คีธ เยตส์! ตระกูลเยตส์สูงส่งขึ้นจากตระกูลระดับสองมาเป็นตระกูลระดับสูงสุดได้ก็เพราะตำแหน่งของคุณ!”“ถ้าไม่มีตำแหน่งของคุณ คุณก็คงจะรู้ดีมากกว่าผมว่าครอบครัวของคุณจะจบลงยังไง!”ใบหน้าของคีธหมองลงหลังจากที่ได้ยินคำพูดของแซ็คแต่เขารู้ว่าแซ็คไม่ได้แค่ขู่ถ้าตระกูลฌองต้องการ มันย่อมเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะถอดคีธออกจากตำแหน่งของเขามากกว่าการกินและการดื่มหลายปีที่ผ่านมาหน้าที่การงานของเขาไม่ค่อยราบรื่นมาเท่าไหร่ เขาจึงไม่ได้ตอบอะไรเพื่อรักษาตำแหน่งของเขาไว้ด้วยการเข้าใจขอบเขตของส่วนได้ส่วนเสียของเขาคีธรีบตอบกลับโดยไม่ลังเล “ในเมื
ฮาร์วีย์พูดอย่างเยือกเย็น “คุณกำลังแนะนำไม่ให้ผมช่วยภรรยาของผมเหรอ?”ออสการ์ส่ายหน้า“ไม่มีทาง!”“แต่ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพเซาท์ไลท์กำลังมีการปรับเปลี่ยนระบบการป้องกัน ผู้คนจากทั้งในและนอกประเทศกำลังจับตามองบัควู้ดอยู่”“ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ มันคงไม่ดีแน่ถ้าเราเคลื่อนตัวครั้งใหญ่ ถ้านายเปิดเผยตัวตนของนายตอนนี้ นายอาจทำให้ภรรยาของนายมีภัยก็ได้”“เมื่อถึงเวลา มันคงไม่ใช่แค่ตระกูลฌอง แต่อาจมีผู้มีอิทธิพลจากภายนอกคนอื่น ๆ อีก..”“เพราะแบบนี้เราเลยต้องรับมือกับเรื่องวันนี้อย่างสมเหตุสมผลและเงียบสงบ”“มันคงไม่ฉลาดถ้าหากเราเลือกที่จะสู้”ฮาร์วีย์ตอบกลับ “แล้วสิ่งที่คุณพูดมาหมายความว่า…”“ฉันได้ยินมาว่ามีชายที่เป็นเจ้าพ่อแห่งพวกนักเลงท้องถนนในเซาท์ไลท์ ชื่อของเขาคือ ไรอัน ก็อตติ เขาเคยเป็นลูกสมุนของตระกูลฌอง เรียกเขามาและให้เขาไปบอกให้เกรย์ ฌองส่งตัวภรรยาของนายกลับมาและขอโทษ ฟังดูเป็นยังไงบ้าง?” ออสการ์ถามฮาร์วีย์ครุ่นคิด“ก็ได้ ผมจะทำตามที่คุณพูด”“ถ้าเกรย์ ฌองส่งตัวภรรยาของผมกลับมาอย่างปลอดภัยและก้มหัวขอโทษผม ผมจะปล่อยไป”“แต่ถ้าเขาไม่ ตระกูลฌองจะถูกลบออกจากประวัติศาสตร
ภาพที่เห็นทำให้เกรย์ตกใจ“คุณก็อตติ ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ?”ขาของไรอันอ่อนปวกเปียกจนทรุดลงกับพื้น ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะมองหน้าของแมนดี้ เขาพูดเสียงสั่น “นายท่านฌอง ผมมาที่นี่เพื่อจะขอบางอย่างกับคุณ เห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเรา ผมอยากให้คุณตกลงทำทุกอย่างที่ผมขอให้คุณทำไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!”“อะไรครับ? ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”เกรย์ยังนึกว่าไรอันยังคงเป็นเจ้าพ่อแห่งพวกนักเลงท้องถนนในเซาท์ไลท์อยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมทิ้งโอกาสที่จะทำสิ่งที่ไรอันต้องการแซ็คและควินน์จ้องมองไรอันด้วยความสงสัยเช่นเดียวกันชายผู้เป็นที่ลือชื่ออย่างเขามีสิ่งที่ต้องกลัวด้วยเหรอ?ไรอันที่ยังคงตัวสั่นตอบกลับ “นายท่านฌอง มีใครบางคนขอให้ผมมาส่งสารให้”“เขาบอกว่าให้คุณส่งตัวแมนดี้ ซิมเมอร์คืนและก้มขอโทษครับ”“และเขาอยากให้คุณตัดมือของคนที่ทำร้ายแมนดี้และพ่อแม่ของเธอด้วย!”“อะไรนะ?! กล้าดียังไง! พวกเขาไม่รู้หรือยังไงว่าเราคือตระกูลฌองจากมอร์ดู?!”แซ็คสะดุ้งด้วยความโกรธควินน์พูดเสริมอย่างเย็นชา “ตาเฒ่า อย่าคิดว่าคุณจะพูดเรื่องไร้สาระออกมาได้แค่เพียงเพราะนายท่านฌองให้เกียรติคุณ คุณก็แค่อันธพาล การพูดคำเหล
“คุณก็อตติ ช่วยส่งคำพูดของผมต่อให้ด้วยนะครับ”“แม้ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นราชา ถ้าเขาไม่คุกเข่าและขอโทษผม…”“ผมต้องการให้เขาตายโดยไม่มีที่ให้ฝังศพของเขา!”เกรย์เปล่งเสียงหัวเราะ เขาเข้าหาแมนดี้และตบเธอ“นี่เป็นคนที่เธอบอกว่าจะพาปัญหามาให้ฉันเหรอ?”“ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง แต่ฉันจะยังทำให้เขาคุกเข่าต่อหน้าฉันและมองดูฉันเล่นกับเธอ!”เลือดไหลออกมาจากมุมปากของแมนดี้แต่ท่าทีของเธอยังเยือกเย็นอยู่คงเดิมเมื่อเห็นว่าเกรย์ทำแบบนี้ลงไป ไรอันได้แต่ตัวสั่นเพราะความกลัวเกรย์ ฌองกำลังรนหาที่ตายอยู่!เขายังกล้าทำร้ายผู้หญิงของปีศาจร้ายอีก!ไรอันทำได้เพียงแค่รีบพูดขึ้น “นายท่านฌองครับ ผมเข้าใจแล้วครับ ได้โปรดหยุดทำร้ายเธอเถอะครับ! ผมจะรีบถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยครับ!”เขารีบคลานออกไปทันทีหลังจากที่เขาพูดจบใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว ถ้าผู้ชายคนนั้นรู้ว่าผู้หญิงของเขาตกอยู่ในสภาพแบบนั้นและเริ่มตอบโต้…นึกถึงผลที่ตามมา แม้แต่เจ้าพ่อแห่งพวกนักเลงท้องถนนในเซาท์ไลท์คนเดิมยังตัวสั่นเพราะความกลัวในเวลาต่อมา ไรอันกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ เขาไม่กล้าโกหกและส่งต่อคำพูดทุกคำที่เกรย์พูดฮาร์ว
การ์ดมากมายยืนกระจัดกระจายอยู่ด้านนอกของคฤหาสน์การ์ดที่มีหน้าที่คุ้มกันประตูหน้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเพราะโดยปกติแล้วจะมีผู้คนมากมายเข้าและออกบริเวณนี้ตลอด แต่อยู่ ๆ ตอนนี้มันกลับเงียบสงัดต่อมา พวกเขาก็เห็นภาพไรอันปรากฏตัวขึ้นมีคนจำนวนหนึ่งกำลังเดินตามไรอันอยู่ด้านหลังเขา“ผู้เฒ่าก็อตติ กรุณากลับไปเถอะครับ นายท่านฌองเพิ่งให้คำสั่งมาครับ เขาบอกว่าคุณเป็นเหมือนกลิ่นผายลมและไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าพบเขาอีกแล้ว!”ก่อนที่ไรอันจะกลับไป เกรย์ได้ส่งคนไปตรวจสอบดูและค้นพบว่าท้องถนนแห่งเซาท์ไลท์ได้เปลี่ยนไปหมดแล้วในช่วงเวลาหลายวันก่อนตอนนี้ไรอันเป็นเพียงแค่ตาเฒ่าธรรมดา ๆ ไม่ใช่นักเลงแห่งท้องถนนอีกต่อไปชายอย่างเขาจะคู่ควรกับการพบเกรย์ได้อย่างไร?เกรย์คิดว่าเขาให้เกียรติไรอันมากพอแล้ว โดยไม่จัดการตาเฒ่าให้สิ้นซากการ์ดมองไรอันด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามตาเฒ่าที่ไม่มีอำนาจหลงเหลืออยู่กล้ามาโอ้อวดต่อหน้านายท่านเกรย์ได้อย่างไร?เขากำลังหาที่ตายอยู่เหรอ?ไรอันรู้สึกมึนงง เขาคาดเดาสิ่งที่ได้เกิดขึ้นและพูด “ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะเข้าไปหรอกนะ”“พวกเขาต่างหากที่อยากเข้าไป”หลังจากที่ไรอัน
ทหารสวมชุดของค่ายพร้อมกับดาบที่ห้อยอยู่ที่เอวของพวกเขา เหล่าทหารเดินออกมาจากรถหุ้มเกราะ ด้วยท่าทีราวกับว่ากำลังจะไปทำสงคราม สายตาของพวกเขาแหลมคมดุจเหยี่ยวเพียงแค่สบสายตาของพวกเขาก็สามารถทำให้ทุกคนกลัวได้ทหารจากค่ายศัสตราวุธเกือบพันนายได้ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด พวกเขาบางคนได้ล้อมปิดกั้นประตูด้านหลังของคฤหาสน์ไนน์แล้ว ในขณะที่บางกลุ่มถอยกลับไปหลายร้อยไมล์เพื่อสอดส่องสถานการณ์จากไกล ๆ ทุก ๆ ก้าวของพวกเขารอบคอบราวกับว่าการทำเช่นนี้เป็นสัญชาตญาณโดยธรรมชาติของพวกเขาคนร้อยคนยืนเรียงเป็นแถวตรงและเริ่มก้าวเดินตรงมาข้างหน้าผู้นำการ์ด ผู้ที่ก่อนหน้านี้อวดดีอย่างมาก แต่ตอนนี้เขากลับกำลังตะลึงเขาพอมีความรู้อยู่บ้างและพอนึกออกว่าคนเหล่านี้เป็นใครนี่เป็นหนึ่งในกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ H ค่ายศัสตราวุธนั้นเอง!เขาไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระต่ออีกแล้ว ขาของเขาอ่อนปวกเปียกและทรุดลงกับพื้นทันทีตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!การ์ดคนอื่น ๆ ทำตามทันที พวกเขาโยนอาวุธของพวกเขาทิ้งและเอามือของพวกเขาไขว้หลัง‘นี่มันเรื่องตลกเหรอ?’‘ค่ายศัสตราวุธที่เป็นตำนานอยู่ที่นี่เหรอ?’ไทสันเปล่งเสียงออกมาดัง “คุณกล้าด
เกรย์หัวเราะอย่างเย็นชา“ใครกล้ามาสร้างความวุ่ยวายในพื้นที่ของตระกูลฌอง?”“แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์อย่างเชลดอน ซาเวียร์ มาที่นี่ยังต้องให้เกียรติเลย!”“ตระกูลฌองได้ตั้งกฏไว้!”“ก่อนหน้านี้มีคนไม่เชื่อฟังแต่สุดท้ายพวกเขาก็ตกเป็นอาหารปลา!”“พูดตรง ๆ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครมายั่วยุตระกูลฌองหรอก แต่ถ้าไม่ การมาบัควู้ดครั้งนี้คงจะไม่สนใจ จริงไหม?”ควินน์มองเกรย์และรู้สึกชื่นชมในใจของเธอ‘คน ๆ นี้เป็นทายาทที่ร่ำรวยอย่างแท้จริง! คนเจ้าชู้ที่แท้จริง!’‘ซึ่งทายาทที่ร่ำรวยจากบัควู้ดจะกล้าพูดแบบนี้เหรอ?’ควินน์รู้สึกว่าเธอกำลังหลงรักเกรย์ โดยไม่ได้คำนึงถึงตัวตนของเธอแมนดี้ที่อยู่มุมห้องกำลังตัวสั่นเล็กน้อยเนื่องจากการกระทำที่เธอถูกบังคับให้ทำตู้ม!ทันใดนั้น ประตูห้องโถงถูกเตะเปิดออกและร่วงลงที่พื้นเวลาต่อมา ทหารหลายสิบคนรีบพุ่งเข้ามาด้านใน พวกเขาบุกเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วและควบคุมพื้นที่ทั้งหมดทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เกรย์และควินน์ตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น‘เกิดอะไรขึ้น?’‘ทำไมถึงมีทหารอยู่ที่นี่?’‘ดูจากชุดของพวกเขา พวกเขาดูเหมือนมาจากค่ายศัตราวุธเลย!’“แมนดี้?!
เกรย์เคยเห็นว่าโลกนี้ทำงานอย่างไรมาแล้ว แม้ว่าร่างกายของเขาจะมีเหงื่อท่วมตัวและไหลลงมากลางหลังของเขา แต่เขาก็ยังกัดฟันของเขาและถาม “นาย...นายเป็นใคร?!”“ฉันเป็นใครเหรอ?”ท่าทางของฮาร์วีย์เยือกเย็น“ฉันเป็นสามีของแมนดี้และในเวลาเดียวกันฉันเป็นเจ้าชายยอร์กที่นายพูดถึงไง”“นายอยากให้ฉันตายโดยไม่มีที่ให้ฝังไม่ใช่เหรอ?”“อะไรนะ?!”เกรย์ตะลึงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์พูด‘สามีเกาะกินของแมนดี้ ซิมเมอร์ จริง ๆ แล้วเขาคือเจ้าชายยอร์กเองเหรอ?’‘นี่มัน...มัน...มันเป็นไปได้ยังไง?’ในที่สุดควินน์ก็ดึงสติตัวเองกลับมาได้เธอรู้สึกเกียจคร้านในขณะที่เธอฝืนยิ้มออกมาในที่สุด ตอนนี้เธอก็เข้าใจสักทีว่าทำไมมีเพียงแค่แมนดี้เท่านั้นที่ถูกยอมรับในสกาย คอร์ปอเรชั่นทำไมเป้าหมายในการขอแต่งงานของเจ้าชายยอร์กถึงเป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานแล้วฮาร์วีย์ ยอร์ก ก็คือ เจ้าชายยอร์กนั้นเอง!ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง!แต่ตระกูลซิมเมอร์ไม่เคยเชื่อเขา!ถ้าตระกูลซิมเมอร์รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา พวกเขาจะมาลงเอยในที่ ๆ พวกเขาอยู่ตอนนี้หรือเปล่าและพวกเขาจะทำดีกับเจ้าชายยอร์กและแมนด
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข