“คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? คุณยังวางแผนที่จะหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาต่ออีกเหรอ?” แมนดี้มีความสุขที่เห็นว่าฮาร์วีย์เริ่มมีแรงกระตุ้น ถ้าสามีของเธอตั้งใจเรียนจริง ๆ เธอก็ยินดีที่จะจ่ายเงินให้เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ฮาร์วีย์ส่ายหัวพร้อมกับท่าทางเคร่งขรึมและพูดว่า “ไม่ใช่สำหรับผมหรอก แต่เป็นสำหรับซีนเธียร์” “เธออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่ใช่เหรอ? เธอกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยเร็ว ๆ นี้” “ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยในบัควู้ดนั้นไม่ค่อยดีนัก ผมเกรงว่าซีนเธียร์อาจจะต้องไปโวลซิ่ง, มอร์ดู, หรืออาจจะซานฟรานซิสโกสำหรับการเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย” แมนดี้หัวเราะและพูดว่า “ฮาร์วีย์ คุณปล่อยให้คุณพ่อกับคุณแม่จัดการเองเถอะ คุณเป็นแค่พี่เขยของเธอ คุณไม่ต้องกังวลมากนักหรอก” ฮาร์วีย์ถูขมับของเขา เขาไม่สามารถบอกแมนดี้ได้ว่าเขาได้เห็นด้านที่แท้จริงของผู้คนในระบอบการศึกษาของบัควู้ดที่งานประชุมวิชาการวันนี้ “ดูเหมือนว่าผมต้องเร่งเดินทางไปยังซานฟรานซิสโก ผมจะช่วยซีนเธียร์และไปดูมหาวิทยาลัยของที่นั่น” ฮาร์วีย์พึมพำออกมา ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาไม่ต้องรีบเดินทางไปยังซานฟรานซิสโก แต่ตอนนี้ดูเหมือ
หลังจากตัดสินใจที่จะไปซานฟรานซิสโกและช่วยซีนเธียร์หามหาวิทยาลัยดี ๆ เพื่อเข้าเรียน ฮาร์วีย์ก็ขอให้อีวอนน์เตรียมการเบื้องต้นสำหรับเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ตัวอย่างเช่น บริษัทสาขาในซานฟรานซิสโกต้องการคนในท้องถิ่นที่มีความสามารถพึ่งพาได้เพื่อรับผิดชอบการดำเนินงาน แมนดี้แปลกใจมากหลังจากที่ฮาร์วีย์บอกเธอว่าเขาจะไปซานฟรานซิสโก “คุณจะไปที่นั่นเพื่อช่วยซีนเธียร์ค้นหามหาวิทยาลัยดี ๆ จริงหรือ? แล้วคุณจะอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน?” “สามหรือไม่เกินห้าวัน ประมาณนั้น” ฮาร์วีย์คิดเรื่องนี้ในใจ หากผลออกมาดี เขาจะสามารถจัดการเรื่องในสาขานี้ได้ภายในหนึ่งถึงสองวัน จากนั้นเขาก็จะสามารถไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในซานฟรานซิสโกได้ อันที่จริง ลึกลงไปในหัวใจของฮาร์วีย์ เขาหวังว่าแมนดี้จะไปกับเขาด้วย น่าเสียดายที่ช่วงนี้แมนดี้ยุ่งมาก ๆ เธอจะมีเวลาไปกับเขาได้อย่างไร? แมนดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณอยากไปก็ไปได้ แต่ในเมื่อคุณจะไปที่นั่นแล้วก็ได้โปรดช่วยทำอะไรให้ฉันสักอย่างนะ” "มันคืออะไร?" ฮาร์วีย์ไม่ได้พิจารณาด้วยซ้ำว่าจะตกลงหรือปฏิเสธ เนื่องจากเป็นคำขอของภรรยาสุดที่รัก เขา
ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงควินตันและควินนี่ ยอร์กเดินอยู่เคียงข้างกัน มันยังคงเป็นภาพที่โดดเด่นอย่างมากเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะอยู่มหานครนานาชาติระดับโลกเช่นนี้ก็ตามภายในโซนบอร์ดดิ้งทางขึ้นเครื่องของผู้โดยสารระดับวีไอพี ควินตันหยุดเดินและพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น “ฉันจัดการทุกอย่างที่ซานฟรานซิสโกไว้หมดแล้ว สิ่งที่เธอจะต้องทำคือแค่นั่งนิ่ง ๆ ก็พอ อย่าทำอะไรที่ไม่จำเป็น”ควินนี่ส่งรอยยิ้มที่สามารถพังตึกลงได้ให้กับเขา“กลัวเหรอ?”ควินตันไม่ได้ตอบกลับแต่รีบหันหลังทันทีพร้อมกับส่งสายตาน่าขนลุกกลับไปหลังจากที่เห็นหลังของเขาควินนี่ค่อย ๆ เอียงหัวของเธอพร้อมกับถอนหายใจและถาม “อุบายเล็ก ๆ พวกนี้จะมีประโยชน์จริง ๆ เหรอ?”“ถ้าพี่พลาดอีกครั้งล่ะก็ ฉันไม่คิดว่าคุณย่ายอร์กจะปล่อยไปง่าย ๆ แน่”...ณ ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกฮาร์วีย์รู้สึกเบื่อที่จะรอเมื่อเครื่องบินของควินนี่ได้มาถึงและลงจอดหลังจากเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ฮาลซีย์ โลว์ก็ปรากฏตัวขึ้นเธอสูงประมาณ 5.5 ฟุต สัดส่วนร่างกายของเธอมีความเข้ากันดีกับใบหน้ารูปหัวใจของเธอหรือพูดได้ง่าย ๆ ว่ามาตรฐานความสวยของเธออยู่ท
เป็นอย่างที่คาดคิดว่าฮาลซีย์ผู้ที่เพิ่งกลับมาจากการเรียนต่อที่ต่างประเทศ เธอจึงมีฝีปากที่น่าประทับใจถ้าเป็นคนอื่นคงโดนเธอด่าจนอับอายไปแล้วแต่ฮาร์วีย์ ผู้ที่รู้สึกชินกับคำพูดเหล่านี้แล้ว ทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรเลยฮาร์วีย์จ้องมองไปที่ฮาลซีย์ผ่านกระจกมองหลังและถามเธอด้วยความสงสัย “ถ้าผมชอบการถูกเก็บไว้ล่ะครับ?”“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะจัดการนายด้วยตัวของฉันเอง” ฮาลซีย์ตอบกลับอย่างเย็นชาหลังจากได้ยินฮาร์วีย์ยักไหล่ของเขา “คุณผู้หญิง คุณเรียนศิลปะการฆ่าจากต่างประเทศเหรอครับ? สิ่งแรกที่คุณคิดคือการฆ่าผมอย่างนั้นเหรอ? ที่นี่มันสหรัฐนะครับ!”“ไม่ต้องมาตีเนียนคุยกับฉัน อีกไม่นานฉันจะหาเงินก้อนใหญ่มาให้เพื่อให้นายเลิกยุ่งกับแมนดี้”“สบายใจเถอะ เงินก้อนนั้นคงมากพอที่นายจะใช้จนนายตายไปอย่างมีความสุข!”“ถ้านายยอมทิ้งแมนดี้ เราก็ตกลงกันเรื่องราคาได้นะ” ฮาลซีย์พูดอย่างเยือกเย็นต่อฮาร์วีย์พูดไม่ออก“คุณครับ ทำไมเอาแต่พูดเรื่องการหย่าของผมกับแมนดี้ล่ะ? คุณสงบและเป็นมิตรกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?”“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพ่อตากับแม่ยายของผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้แล้ว”“การที่คนนอกอย่างคุณยังพูดเรื
รถที่มีความเงียบเข้าปกคลุมขับไปท้องถนนของซาฟรานซิสโกอย่างรวดเร็ว ไม่นานทั้งสองก็เดินได้ทางมาถึงห้างสรรพสินค้าและหยุดลงตรงหน้าของอาคารสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกสถานที่ที่ฮาลซีย์อยากจะไปไม่ใช่ที่ไหนแต่เป็นที่นี่เอง“ฉันจะทิ้งกระเป๋าของฉันไว้กับนายแล้วฉันจะติดต่อนายอีกครั้งตอนกลางคืน”“และอีกอย่างหนึ่งรีบไปคืนรถได้แล้ว ค่าใช้จ่ายวันนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เธอพูดพร้อมกับเงินก้อนหนึ่งจากกระเป๋าถือของเธอให้กับฮาร์วีย์เธอคิดว่าฮาร์วีย์เช่ารถเบนท์ลีย์มา เพราะอย่างนี้เธอจึงจะจ่ายเงินให้เขาเธอยังมีน้ำใจให้เงินมากกว่าค่าเช่ารถอีกเล็กน้อยเพื่อการทำงานหนักของฮาร์วีย์พูดได้เต็มปากว่าแม้ว่าเธอจะมีความหยิ่งและทะนงตัวแต่ฮาลซีย์ก็ยังมีความเห็นอกเห็นใจอยู่แต่น่าเสียใจที่เธอปฏิบัติต่อฮาร์วีย์เหมือนกับคนใช้คนหนึ่งเท่านั้นด้วยความนับถือที่เธอชื่นชมเจ้าชายยอร์ก ฮาร์วีย์จึงตัดสินใจที่จะเป็นผู้ชายที่ดีกว่าเดิมและปล่อยให้เธอเป็นเช่นนี้ต่อไปในตอนนี้ได้มาสายโทรเข้าจากเรย์ ฮาท“คุณยอร์กครับ คุณมาถึงสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกหรือยังครับ? คนที่มาสมัครในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัทได
พวกเขาจะต้องยอมรับว่าฮาลซีย์ โลว์ค่อนข้างมีศักยภาพแม้กระทั่งคำถามที่ค่อนข้างลึกซึ้งของฮาร์วีย์ที่เรย์ถามเธอ ฮาลซีย์ก็สามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้ทุกข้อพูดได้เต็มปากว่าเธอได้เตรียมตัวมาดีก่อนที่เธอจะมาที่นี่ เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าเธอต้องการที่จะเป็นผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกและเมื่อการสัมภาษณ์ได้จบลง ฮาร์วีย์ได้เคาะโต๊ะและรีบโทรหาเรย์“บอกเธอว่าเธอได้งานแล้ว”เรย์ค้างแต่ไม่นานเขาก็ตอบกลับ “ได้ครับ!”เขาไม่มีจุดยืนของตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าฮาร์วีย์ เขาเพียงแค่รับใช้ฮาร์วีย์เท่านั้นหลังจากที่วางสาย เรย์ยิ้มให้กับฮาลซีย์“ยินดีด้วยนะครับ มิสโลว์ ผมเพิ่งได้รับสายจากท่านประธาน”“เขาบอกว่าคุณมีความเหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกของเราอย่างมาก วันนี้คุณสามารถรับมือกับขั้นตอนได้และคุณสามารถควบคุมดูแลธุรกิจทั้งหมดภายในบริษัทได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”“ผมหวังว่าเราจะได้ร่วมงานด้วยกันนะครับ”“อะไรนะ?!”ผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกต่างตกใจ‘ท่านประธานกำลังดูการสัมภาษณ์อยู่เหรอ?’‘หมายความว่าเขากำลังมองดูผู้หญิงคนนี้อยู่เหรอ
ฮาร์วีย์ค่อนข้างแน่ใจกับบุคลิกของฮาลซีย์เขาไม่ได้สนใจเลยในตอนนั้นและโยนเงินใส่เข้าไปในกล่องที่วางของภายในรถฮาลซีย์อดไม่ได้ที่จะแสดงสายตาเหยียดหยามหลังจากเห็นภาพดังกล่าวเธอคิดถูกแล้วที่ตัดสินฮาร์วีย์เช่นนี้เธอคิดว่าคนหยาบคายคนนี้สามารถหาเงินจากเธอได้มากกว่านี้อีก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาใส่ใจอย่างไม่มีเหตุผล!ผู้ชายอย่างนี้จะคู่ควรกับแมนดี้ ซิมเมอร์ได้อย่างไร?ฮาร์วีย์ไม่ลืมที่จะแกล้งฮาลซีย์อย่างสนุกสนานพร้อมกับถามขึ้น “คุณมาที่นี่เพื่อคุยธุรกิจเหรอ? เป็นไปได้ดีไหม? คุณรวยแล้วอย่าลืมผมนะ!”ฮาลซีย์กลอกตาหลังจากที่เธอได้ยินคำถามที่เฉยเมยของเขา“นายรู้หรือเปล่าว่าที่นี่คือที่ไหน?”“มันก็เขียนไว้บนอาคารไม่ใช่เหรอ? ที่นี่คือสกาย คอร์ปอเรชั่น สำนักงานสาขาซานฟรานซิสโกไงครับ” ฮาร์วีย์ตอบกลับ“เป็นเรื่องดีที่นายรู้เพราะนายควรที่จะรู้ หลังจากที่ทรัพย์สินของตระกูลยอร์กทั้งหมดได้มารวมกัน บริษัทแห่งนี้ก็กลายเป็นบริษัทชั้นนำที่สุดในเซาท์ไลท์ ในอนาคตบริษัทแห่งนี้มีการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างมาก มันอาจจะยังมีโอกาสที่จะก้าวไปสู่ระดับสากลอีกด้วย!”“และฉันก็เพิ่งได้เป็นผู้จัดการทั่วไปของสกาย ค
ท้ายที่สุดแล้วฮาลซีย์ก็ยอมแพ้ในการกิน เธอได้แต่สั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วและเริ่มดื่มมัน“คุณอิ่มแล้วเหรอ?”ฮาร์วีย์สงสัยฮาลซีย์พยักหน้าที่มืดมนของเธอเธอเห็นฮาร์วีย์ทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าของเขาและเคี้ยวอย่างหยาบคายเมื่อฮาร์วีย์กำลังจะทานอาหารเสร็จ ฮาลซีย์ก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ฮาร์วีย์ บรรพบุรุษของเราได้กล่าวไว้ว่า มารยาทบนโต๊ะอาหารสามารถบ่งบอกบุคลิกของคน ๆ นั้นได้”“ฉันไม่ต้องเห็นการกระทำอื่น ๆ ของนายก็รู้แล้วว่านายเป็นคนเห็นแก่ตัวและนายมันไม่มียางอายแน่นอน!”“ถ้าฉันเดา แมนดี้จ่ายค่าเช่าบ้านที่พวกนายสองคนกำลังอยู่ด้วยใช่ไหม?”ฮาลซีย์รู้เกี่ยวกับเรื่องที่แมนดี้อาศัยอยู่ที่เดอะ การ์เด้น เรสซิเด้นท์อยู่แล้วฮาร์วีย์พยักหน้า“ใช่ เธอจ่ายค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินด้วย!”“นาย! ผู้ชายอย่างนายจะหน้าด้านได้ขนาดนี้เลยเหรอ?! คนอย่างนายเหมาะสมกับแมนดี้ได้ยังไง?!”ตอนนี้ร่างกายของฮาลซีย์กำลังสั่นด้วยความโกรธ“งั้น คุณคิดว่าผู้ชายแบบไหนที่คู่ควรกับเธอล่ะ?” ฮาร์วีย์ถามฮาลซียเปล่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจตอนที่ฮาร์วีย์ถามคำถามสำคัญกับเธอ“เขาก็ต้องมีที่ดินราคาอย่างน้อยร้อยล้าน ถ้าไม่เขาก็ไม่ค
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข