หลังจากนั้นทิม เซเปดาก็เดินไปหาฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็โน้มตัวไปข้างหน้าและพูดว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ท่านเซอร์เรย์จากตระกูลเซอร์เรย์ใกล้จะมาถึงแล้ว คุณทำอะไร…”ฮาร์วีย์เหลือบมองเขาและตอบ “ท่านเซอร์เรย์? ดอว์สัน เซอร์เรย์งั้นหรือ?”“ใช่ครับ!”“คุณกลัวเขาหรือไง?”ท่าทีของเขาดูหวาดกลัวและใบหน้ามืดหม่นลง เขาตอบออกมาด้วยการพยักหน้าดอว์สันเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความสามารถมากมาจากตระกูลเซอร์เรย์ แม้แต่ศึกษาธิการบัควู้ดก็ยังไม่กล้าทำอะไรให้เขาไม่พอใจ“แล้วคุณไม่กลัวผมหรือไง?” ฮาร์วีย์ยิ้มใบหน้าของทิมยิ่งหม่นลงเมื่อได้ยินแบบนั้นผู้ชายตรงหน้าเขาดูสงบนิ่งเกินไปทิมไม่ใช่คนธรรมดา สีหน้าเขาเปลี่ยนเล็กน้อย ณ ตอนนี้เขากัดฟันพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “มิสเตอร์ยอร์ก แน่นอนว่าผมจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านเกรฮัม ไม่ว่าสถานการณ์วันนี้จะเป็นยังไงผมยืนอยู่ฝั่งเดียวกับคุณ”ฮาร์วีย์แก้คำพูดของเขาว่า “คุณไม่ต้องยืนฝั่งเดียวกับผม คุณแค่จัดการกับอย่างยุติธรรมก็พอ”“ครับ ครับ ครับ ผมจะจัดการโดยไม่มีอคติใด ๆ !”ทิมรีบพยักหน้าเห็นด้วย“ถ้าอย่างนั้นมิสเตอร์ยอร์กครับ ตอนนี้เราควรทำยังไงต่อ?”“เราแค่รอ
ประตูของรถออดี้ เอ6 ถูกเปิดออก ร่างในชุดสูทแมนดาลินคอจีนนั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสาร ส่งสายตามองดูดอว์สันคน ๆ นี้คือ เรน แจ็กสัน ผู้มีอำนาจลำดับสองของบัควู้ด!เรนเป็นผู้รับผิดชอบระบบการศึกษาและระบบสุขภาพของเมืองบัควู้ดพูดง่าย ๆ ก็คือ เขาเป็นหัวหน้าของทิม เซเปดาในตอนนี้ดอว์สันเหมือนเชิญเขามาเพื่อถูกบดขยี้ให้ตายเพียงสายตานั้นจ้องมองแม้ว่าดอว์สันจะเป็นที่รู้จักในนามท่านเซอร์เรย์ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะทำตัวหยิ่งผยองต่อเรนเลยสักครั้งเขาโค้งคำนับและพูดว่า “ท่านแจ็คสัน ขอโทษที่เชิญท่านมาที่นี่เพียงเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในโรงเรียนมัธยมบัควู้ด!“คนบางคนหวังพึ่งการสนับสนุนจากทิม เซเปดาคนที่มาจากระบบการศึกษาของบัควู้ดและยังกล้าทำอะไรบางอย่าง!”“เหตุผลหลักที่เชิญท่านมาในวันนี้ก็เพียงแค่แสดง!”“อันที่จริงท่านไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเองที่นี่ แค่เราเอ่ยชื่อท่านก็ทำให้ทิมและคนอื่น ๆ คุกเข่าขอร้องขอความเมตตาได้แล้ว”ดอว์สันพูดด้วยท่าทีเคารพให้เกียรติ แต่เรนไม่ได้ใส่ใจแม้ว่าทิมและคนอื่น ๆ จะมีอำนาจมหาศาลในระบบการศึกษาของบัควู้ด แต่พวกเขาจะไม่มีความสำคัญใด ๆ เมื่อต่อหน้าเรน แจ็คสันเขามอง
เรนเพียงยิ้มและพูดขึ้นหลังจากเห็นทุกคนมาถึงแล้ว "เรามาที่นี่กันครบแล้ว ไป ฉันยังมีเรื่องต้องกลับไปจัดการหลังจากจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ฉันต้องกลับไปประชุมกันว่าใครจะเข้ารับตำแหน่งศึกษาธิการและรองศึกษาธิการของบัควู้ด!”แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เจอกับทิมและคนอื่น แต่เขาตัดสินใจไล่พวกเขาออก“รับทราบครับ!”ใบหน้าของดอว์สันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาขับรถออกไป และพวกเขาก็พุ่งไปที่โรงเรียนมัธยมบัควู้ด***ที่ประตูโรงเรียน ผู้คนต่างอ้าปากค้างเมื่อเห็นขบวนรถออดี้ เอ6 เข้ามาเกิดอะไรขึ้น?“ฉันได้ยินมาว่าเรน แจ็กสัน ผู้บัญชาการลำดับสองของบัควู้ด และสารวัตรใหญ่ของสถานีตำรวจบัควู้ดมาถึงแล้ว!”“ท่านเซอร์เรย์ก็มาถึงที่นี่แล้วด้วย!”“โอ้ พระเจ้า! แน่นอน คุณจะไปทำให้ใครโกรธก็ได้ที่โรงเรียนมัธยมบัควู้ด แต่ไม่ใช่กับเยเลน่า เซอร์เรย์ เจ้าหญิงของเรา!”“น่ากลัวจริง ๆ ! ถึงแม้คนเหล่านี้จะมีแค่คนขับและเลขาติดตามมากับพวกเขา แต่พวกเขาถือว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาล!”“ใครกันที่จะกล้าไปวุ่นวายกับพวกเขา?”***ณ เวลานี้ นักเรียนหลายคนในหอประชุมของโรงเรียนมัธยมบัควู้ดก็ได้ยินข่าวนี้ด้วยเช่นกันพวกที่อยู่ฝั่งเดีย
ในขณะนี้ทิมและยารอนสบตากันต่างเห็นแววตาตื่นตกใจของกันและกัน แม้พวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าตระกูลระดับเฟิร์สคลาสอย่างตระกูลเซอร์เรย์ มีอำนาจมหาศาล แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าตระกูลเซอร์เรย์จะเชิญคนใหญ่คนโตมามากมายเพราะเพียงเพื่อเรื่องเล็กน้อยแค่นี้นี่เป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้จริง ๆสตีวี่และเยเรน่าต่างหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของทิมและคนอื่น ๆอาจารย์ใหญ่และคณะกรรมการโรงเรียนที่เพิ่งลาออกก็หัวเราะเยาะออกมาเช่นกันจบแล้ว!ทิมและยารอนที่แสดงท่าทีอวดเบ่งก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้หลบหายตัวไปในระหว่างที่จะต้องเผชิญหน้ากับเรนและแจ็กสันและคนอื่น ๆราวกับว่าหนูกำลังเผชิญหน้ากับแมวนี่เป็นเพราะเรนเป็นหัวหน้าของทิมและยารอนพวกเขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเรน แต่กลับกล้าอวดเบ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น!แต่ฮาร์วีย์กลับดูเฉยเมยเมื่อเขาเห็นเรนและคนอื่น ๆ ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาเยเลน่าและสีหน้าของคนอื่น ๆ แย่ลงเมื่อเห็นฉากตรงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซีนเธียร์ไม่ได้ตื่นกลัวจนต้องร้องไห้อย่างที่ใจหวังทำให้เยเลน่ายิ่งไม่พอใจ “ซีนเธียร์ ดูเหมือนว่าเธอยังไม่เข้าใจสถานการณ์ขอบเรื่องนี้ในวันนี้!”“มันไม่ใ
เรนก้าวไปข้างหน้าและพูดอย่างเย็นชาว่า “ทิม ยารอน พวกคุณลืมสิ่งที่ผมเคยสอนไปแล้วหรือไง?”“ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำตัวบ้าบิ่นโดยใช้ตำแหน่งมาแอบอ้าง?!”“ตอนนี้ผมจะให้โอกาสพวกคุณ ผมจะไม่ให้พวกคุณรับผิดชอบเรื่องนี้ตราบใดที่ยอมรับความผิดพลาดนี้และออกไปจากที่นี่ซะ!”“ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาคืออะไร? พวกคุณน่าจะรู้มันดีกว่าผมนะ!”เสียงของเรนฟังดูไม่แยแสใด ๆ แต่ก็เปรียบเสมือนเสียงฟ้าร้องกระทบพื้น ที่ทำให้สั่นสะเทือนทั่วทั้งหอประชุม“ผู้เฒ่าเซเปดา เราทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมงานกัน พวกเราก็เป็นแค่นักเรียนเท่านั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแจ็คสัน”“คุณน่าจะรู้ว่าในเวลานี้ควรเลือกอะไร ผมไม่จำเป็นต้องสอนคุณใช่ไหม?”มาร์วินพูดด้วยรอยยิ้มในความคิดของพวกเขา พวกเขาสามารถทำให้ทิมและยารอนหันมาสู้กันเองได้เพียงเพราะประโยคเดียวทุกคนเป็นคนของรัฐ พวกเขารู้ดีถึงความสามารถและความกล้าหาญของทุกคนเรนและมาร์วินรู้ว่าเรื่องของวันนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างจะจบลงด้วยดีตราบใดที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็แค่เรื่องไร้สาระเรนยืนเอามือไขว้ข้างหลังหลังจากพูดแบบนั้นออกไปอย่างอดทนเขากำลังนับอ
“เฮ้อ เล่นผิดคนแล้วล่ะ”ทิมและยารอนต่างก็ถอนหายใจราวกับว่าเรนพลาดโอกาสดี ๆ ไปทุกคนหยุดหัวเราะ สายตาทุกคู่ทั้งมาร์วินและคนอื่น ๆ ต่างมองพวกเขาอย่างไม่เข้าใจ‘ทิมกับยารอนสมองไม่ทำงานแล้วหรือไง? หรือว่าพวกเขามีไพ่ที่ดีกว่าจริง ๆ ?’“เจ้าชายแจ็คสัน ตัวตนของมิสเตอร์ยอร์กเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องก้มหัวให้!” ทิมพูดอย่างจริงจังแต่คลื่นของเสียงหัวเราะกลับดังขึ้นมาอีกครั้งเยเลน่าอุทานทันทีว่า “อย่าหลงกลคุณปู่แจ็คสัน ผู้ชายคนนี้เป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์!”ทุกคนพูดไม่ออกหลังจากได้ยินคำกล่าวอ้างของเยเลน่า‘ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ทุกคนต้องก้มหัวให้ลูกเขยกาฝากคนนี้?’อีกด้านหนึ่งดอว์สันที่ยังนิ่งสงบพิจารณาฮาร์วีย์อย่างใกล้ชิด‘ชายคนนี้ทำตัวไม่สนใจ เขาต้องมีคนชั้นสูงหนุนหลัง...’‘แล้วยังไงล่ะ?’‘ลูกเขยอย่างเขาจะมีสังคมที่มีสถานะสูงเท่าเขางั้นเหรอ คนใหญ่แค่ไหนกันที่คอยหนุนหลังให้?’‘ถึงแม้เขาจะมีคนหนุนหลัง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมีสถานะที่สูงกว่าผู้บัญชาการอันดับสองของบัควู้ดอย่างเรน แจ็คสัน!’‘ทั้งยังมีมีมาร์วิน บราวน์ สารวัตรใหญ่ของสถานีตำรวจบัควู้ด พร้อมด้วยคนอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมดเป็
ฮาร์วีย์ไม่ได้สบตามองสตีวี่เลย เขาไม่อยากจะเสียเวลาพูดกับเครือญาติของตระกูลเซอร์เรย์จากนั้นเขาก็หันไปมองดอว์สันและพูดอย่างใจเย็นว่า “ท่านเซอร์เรย์ ทุกคนต่างบอกว่าคุณเก่งที่สุดในทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเซอร์เรย์ และคุณอาจมีโอกาสได้ครองบัลลังก์ของเจ้าชายเซอร์เรย์”“แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบัลลังก์ของคุณถ้าผมกำจัดคุณตอนนี้?”สีหน้าของดอว์สันเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ข้อมูลภายในของตระกูลเซอร์เรย์ คนทั่วไปไม่สามารถรู้ได้แต่ลูกเขยที่อยู่ตรงหน้าพูดราวกับรู้ความลับของครอบครัวมีบางอย่างผิดปกติ!ผิดมหันต์!และเห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้ไม่ได้โง่งี่เง่าหากลองเขาได้พูดเรื่องนี้ในเวลานี้ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาควรจะรู้ว่าจะไม่สามารถอยู่เหนือพวกเซอร์เรย์ได้ด้วยอำนาจของทิมและยารอนเท่านั้นแต่ทำไมเขาถึงยังสงบนิ่ง กล้าหาญอย่างนี้อยู่ได้?เรนมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่!ลูกเขยไร้ประโยชน์ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไงที่คนใหญ่โตแบบนั้นอยู่ที่นี่ด้วย?นั่นอาจหมายความว่าเขากล้าเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่าง!บางทีคนที่ดูธรรมดา ๆ อาจมีบางอย่างอซ่อนอยู่ดอว์สันขมวดคิ้ว เขาคิดถึงความเ
ฮาร์วีย์ยิ้ม“งั้นหมายความว่าจะไม่ขอโทษใช่ไหม?”“แน่นอนว่าไม่! ไม่มีทางไปตลอดชีวิตของฉันนั่นแหละ! อย่าแม้แต่จะคิดเลย!”ฮาร์วีย์มองไปที่ดอว์สันและพูดว่า “เป็นความผิดของพ่อที่ไม่ได้อบรมสั่งสอนอย่างเหมาะสม ผมสามารถรับคำขอโทษได้ถ้าคุณยอมคุกเข่าขอโทษ”ดอว์สันจากที่เคยนิ่งสงบก็เดือดดาลด้วยความโกรธหลังจากฟังคำพูดเหล่านั้นเขาคือท่านเซอร์เรย์ สถานะของเขาในตระกูลนั้นสูงมาก คนภายนอกจะต้องให้เกียรติเขาทุกที่ที่เขาไปลูกเขยขยะตรงหน้าเขามีฐานะต่ำต้อย ทำไมเขาถึงต้องคุกเข่าให้?จากนั้นเขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็งว่า “จะให้ฉันคุกเข่าให้กับลูกเขยขยะอย่างนายได้ยังไง?”“แล้วให้ขอโทษไอ้เด็กตัวเล็กนี้ด้วยงั้นเหรอ?!”“ใช่! เราจะไม่ขอโทษเธอเด็ดขาด!”“เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องโทษเธอ!”“เธอคิดว่าเธอจะทำอะไรก็ได้ที่เธอต้องการเพียงเพราะว่าตัวเองดูดี! เหอะ ในสายตาของเรา เธอก็เป็นแค่โสเภณี!”ด้านล่างเวที พวกพ้องของเยเลน่าชี้ไปที่ซีนเธียร์ราวกับว่าพวกเขาได้พบกับโอกาสที่จะทำแบบนั้นได้ในที่สุดซีนเธียร์รู้สึกผิด เธอเกือบจะน้ำตาไหลออกมาเธอถูกตำหนิสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เธอคิดว่าชื่อของเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข