แมนดี้รู้สึกปลื้มปิติยินดี เธอไม่เคยคาดหวังว่าพ่อแม่ของเธอจะมีความยุติธรรมและมีเหตุผล พวกเขาถึงขั้นช่วยฮาร์วีย์ให้ได้เข้าร่วมพิธี! ไม่นานทั้งสองก็มาถึงที่ประตูทางเข้า ฮาร์วีย์ยิ้มอ่อน ๆ ในทางกลับกัน แมนดี้ไม่สามารถซ่อนความสุขบนใบหน้าของเธอได้ สำหรับเธอ การที่พ่อแม่ยอมรับในตัวฮาร์วีย์แม้เพียงแค่น้อยนิด มันก็พอที่จะทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างเหลือล้นแล้ว เมื่อฮาร์วีย์และแมนดี้มาถึง ไซม่อนและลิเลียนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก พวกเขากลัวว่าเจ้าลูกเขยขยะของเขาจะไม่มา ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปโทษใครได้อีกเลย ไซม่อนชำเลืองมองไปที่สแตนลีย์ จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์และตะโกนว่า “เขาเป็นคนที่ให้การ์ดเชิญปลอมนั่นมา! จับเขาไปขังไว้ในคุกเลย!” เมื่อแมนดี้ได้ยินพ่อของเธอตะโกนออกมาเช่นนั้น เธอก็ถึงกับหยุดนิ่งทันที เธอเข้าใจทุกอย่างอย่างได้อย่างรวดเร็ว การ์ดเชิญของสแตนลีย์มันถูกปลอมขึ้นมาและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ค้นพบมันได้อย่างรวดเร็ว ไซม่อนจึงเรียกฮาร์วีย์มาเพื่อหลอกให้เขารับผิดครั้งนี้ หัวของแมนดี้หนักอึ้งราวกับมีหินก้อนโตมาวางอยู่บนนั้น 'พ
เจ้าหน้าที่ทุกคนที่นั่นต่างก็ทำมือแสดงความเคารพเขาในแบบชายชาติทหารอย่างอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็วางมือลงประสานเสียงพร้อมกันด้วยความเคารพ “มิสเตอร์ยอร์ก มิสซิสซิมเมอร์ พวกเราต้องขออภัยที่ทำให้คุณทั้งคู่ตกใจเพราะปัญหาที่ไม่คาดคิดนี้!” “เชิญเข้าไปด้านในได้เลยครับ” ฮาร์วีย์พยักหน้า จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ไซม่อนและลิเลียน “สองคนนั้นเป็นพ่อกับแม่ภรรยาผมของฉัน ให้พวกเขาเข้ามาด้วย” เจ้าหน้าที่พยักหน้าและโบกมือ เจ้าหน้าที่ชุดดำคนอื่น ๆ ที่ล้อมไซม่อนและลิเลียนก่อนหน้านี้ก็ถอยออกไปในทันที เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงพูดกับทั้งสองคนว่า “ก่อนหน้านี้เป็นความเข้าใจผิด ผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง" “เชิญเข้าไปด้านในได้เลยครับ!” 'อะไรกัน?!' ฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่อ้าปากค้างและกว้างด้วยความอึ้ง พวกเขาไม่สามารถหุบปากได้เลย ฉากนี้มันช่างดูราวกับความฝัน สแตนลีย์ถึงกับต้องตบหน้าตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้มีอาการประสาทหลอนหรือฝันไป ภาพตรงหน้าเขาช่างอัศจรรย์ใจเสียจริง ๆ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดในงานนี้ล้วนเป็นเหล่าทหารกองกำลังจากค่ายศัสตราวุธ! พวกเขาเป็นทหารชั้นสูงและด้วยชัยชนะหลายร้อยครั้งภาย
ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นว่า “อีกไม่นานความลึกลับจะถูกเปิดเผย” เขาพร้อมที่จะขอแมนดี้แต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว ไซม่อนและลิเลียนจะสามารถรู้ถึงตัวตนของเขาได้แล้ว สำหรับเขา การเปิดเผยตัวตนของเจ้าชายยอร์กไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ฮาร์วีย์นิ่งเงียบ ทำให้ไซม่อนและลิเลียนสับสนมากขึ้น แต่ทั้งสองมีความรักในชื่อเสียงหน้าตาทางสังคม พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อเข้าใกล้คนที่มีอำนาจมากขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าฮาร์วีย์เป็นชนชั้นสูงประเภทไหน พวกเขาก็เริ่มที่จะเข้าหาเขาโดยอัตโนมัติ “โอ้ ฮาร์วีย์! เมื่อก่อนเรามันช่างโง่เขลายิ่งนัก! โปรดเป็นคนที่สมเกียรติกับที่นี่ อย่าลดระดับตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเราเลย!” “ฉันไม่คาดคิดว่าคนสารเลวอย่างสแตนลีย์จะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้จริง ๆ! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราคงเจอปัญหาใหญ่แน่นอน!” “ฉันเชื่อใจเธอเท่านั้นลูกเขยที่รักของฉัน! สแตนลีย์คือใคร? เอามันออกไปจากที่นี่!" ฮาร์วีย์ยิ้ม เขารู้จักบุคลิกของพ่อตาแม่ยายของเขาเป็นอย่างดี เขาคงจะต้องกลายเป็นคนโง่จริง ๆ ถ้าเชื่อคำพูดของพวกเขา พูดได้อย่างเต็มปากว่าพ่อตาและแม่ยายของเขาเป็นคนจำพวกที่จะเข้าหาใครก็เพีย
เหล่าผู้อาวุโสผู้สูงศักดิ์ทุกคนต่างก็ยืนขึ้นและคำนับทำความเคารพ ก่อนจะเพ่งความสนใจไปที่ชายที่กำลังเดินเข้ามา 'นี่คงเป็นเจ้าชายยอร์กในตำนาน' ดวงตาของโรซานน์เปล่งประกายเล็กน้อยหลังจากเห็นชายหนุ่ม เธอไม่คิดว่าเจ้าชายยอร์กจะยังเด็กมากขนาดนี้ คนที่เพิ่งเคยเห็นโลกภายนอกได้ไม่นานมักจะเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุด ถ้าเธอเต็มใจที่จะอวดเสน่ห์ของเธอและทำให้ผู้ชายคนนี้ตกมาเป็นของเธอสกาย คอร์ปอเรชั่นก็จะเป็นของเธอด้วยเช่นกัน! ถ้าป็นเช่นนั้นจริง เธอก็จะเป็นราชินีของสกาย คอร์ปอเรชั่น! โรซานน์ปัดขนตาตัวเองให้งอนเด้งจนเธอเกือบที่จะน้ำตาไหลออกมา ดวงตาของเธอเหลือบมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนครั้งแล้วครั้งเล่า น่าเสียดายที่เรย์ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยสักนิด เขาตรวจสอบดูรอบ ๆ ห้องอย่างขยันขันแข็ง เผยให้เห็นออร่าของชายคนหนึ่งจากค่ายศัสตราวุธที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เหล่าผู้อาวุโสและผู้สูงศักดิ์ไม่กล้าเอ่ยคำใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียว “ทุกคนนั่งลงเถอะ!” "ผมขอแนะนำตัวเองก่อนแล้วกัน ผมชื่อเรย์ ฮาท พวกคุณน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับผมมาบ้างแล้ว!” “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์และบริษัท ซิล
“อีกไม่นาน เขาจะมาถึงที่นี่แล้วครับ”เมื่อเรย์ ฮาทพูดขึ้น หลังจากนั้นก็ได้มีเสียงของฝีเท้าดังขึ้นมาจากอีกด้านของประตู ตามมาด้วยร่างของบุคคลหนึ่งดันประตูเข้ามาภายในห้องประชุมสายตานับไม่ถ้วนต่างจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นสายตาเดียว“ลูกเขยเกาะเมียกินนายเองเหรอ? นายมาอยู่ที่นี่ทำไม?”ท่ามกลางฝูงชน เฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ดเป็นคนแรกที่แสดงออกโดยการชี้ไปที่ฮาร์วีย์ในขณะที่พูดด้วยความโกรธลูกเขยที่เกาะเมียกินอย่างเขาไม่รู้เหรอว่าเขาไม่มาควรอยู่ที่นี่?การที่เขาอยู่ ๆ ก็มาที่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้ามีบางคนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกพี่ลูกน้องของพวกเขา แน่นอนว่าตอนนี้เขาต้องไม่สามารถซ่อนมันไว้ได้แน่นอน“นั่นมันของเล่นจากเมื่อวันนั้นหนิ?”โรซานน์ บาร์และคนอื่น ๆ รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเธอตั้งสติของเธอทันทีและชี้นิ้วของเธอไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนที่จะตะโกนดุด่า “นายเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภาษาอะไรถึงได้ปล่อยให้คนสกปรกอย่างนี้เข้ามาได้? นายปล่อยให้เขาเข้ามาในห้องประชุมของผู้บริหารระดับสูงได้ยังไง?”“ไล่เขาออกไปสะ ก่อนที่จะสร้างผลกระทบต่ออารมณ์ของเจ้าชายยอร์ก!”“งานวันนี้ส
มีข่าวลือมากมายแพร่ไปทั่วเกี่ยวกับแมนดี้ ซิมเมอร์ว่าเธอมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับเจ้าชายยอร์กหลายคนยังมองว่าเป็นข่าวที่น่าตลกที่สุดแต่ในตอนนี้ทุกคนกลับเข้าใจขึ้นมาทันทีแน่นอนว่าแมนดี้ไม่ใช่แค่คนรักลับ ๆ !แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เจ้าชายยอร์กแต่งงานด้วยอย่างถูกต้องและอย่างสมเกียรติ!และพิธีการขอแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นภายหลังในวันนี้ ทั้งหมดได้ถูกเตรียมไว้เพื่อเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น!ผู้หญิงคนนี้จะต้องมีความสุขและโชคดีมาก!ในตอนนั้นใบหน้าของโรซานน์ บาร์เริ่มบูดบึ้ง เต็มไปด้วยความรังเกียจและอิจฉาริษยาทำไมกัน?! ทำไมจะต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นด้วย! ทำไมถึงไม่เป็นเธอ?!ฮาร์วีย์พาดขาของเขาไว้บนโต๊ะประชุมพร้อมกับสาดส่องสายตาผ่านโรซานน์และผู้คนที่เหลือที่ไม่สามารถปิดบังความตื่นตกใจของพวกเขาไว้ได้ เขาได้เพียงแค่หัวเราะเยาะ “ดีใจที่ได้เจอทุกคนอีกครั้งนะครับ”เมื่อระลึกถึงสิ่งที่พร้อมเขาดูถูกฮาร์วีย์ไว้เมื่อสามวันที่แล้วและสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาได้บอกกับเขาไปทำให้บุคคลระดับสูงเหล่านั้นอยู่อย่างนิ่งสงบและสำรวมไม่ได้ จนแทบจะเป็นลมในทันทีพวกเขากลัวจนฉี่รดกางเกงของพวกเขา ทำให้มีกลิ่นของปัสสาวะลอ
หลังจากที่รอให้ฮาร์วีย์ ยอร์กกลับ เรย์ก็มองไปที่โรซานน์ บาร์และคนที่เหลือด้วยสายตาอันคมกริบโรซานน์, เฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ด, โบรดี้ เจนเนอร์และคนที่เหลือก้มหัวของพวกเขาลงโดยที่ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว พวกเขาล้วนหายใจด้วยความลำบากสายตาของเรย์จ้องมองไปที่โรซานน์และถามอย่างเรียบเฉย “ตอนนั้นเป็นมือข้างไหนนะ?”ถึงแม้ว่าเรย์ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นแต่โรซานน์ก็เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูดถึง ในตอนนั้นเอง เธอทำได้เพียงแค่ยื่นมือข้างขวาที่สั่นระทวยของเธอออกไปและพูดด้วยเสียงที่สั่นไม่หยุด “ข้างนี้”“เห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงนะ ตบหน้าตัวเองสักสิบทีก็แล้วกัน” เรย์กล่าว“เพียะ!”ในขณะที่โรซานน์ตบไปบนใบหน้าของตัวเอง เธอไม่กล้าแม้แต่ที่จะยั้งมือกับตัวเองหรือพูดจาไร้สาระอีกเธอตบเข้าที่หน้าของตัวเองอย่างแรงจนแก้มของเธอเริ่มที่จะช้ำและแดงเพราะโรซานน์รู้ดีว่าถ้าเธอไม่ทำให้เรย์รู้สึกพอใจเท่าที่ควร จุดจบของเธอคงจะย่ำแย่มากแน่ ๆ เรย์ไม่สนใจที่จะมองโรซานน์อีกต่อไป เขาจึงหันมาทางโบรดี้และคนอื่น ๆ ที่เหลือและพูด “พวกนายทั้งหมดเป็นผู้ชาย พวกนายคงไม่อยากจะเป็นเหมือนผู้หญิงหรอกใช่ไหม?”โบรดี้เป็นคนแร
เมื่อได้ยินอย่างนั้นทำให้ควินน์หัวเราะเบา ๆ และพูด “คุณปู่กำลังสอนในสิ่งที่ถูกต้องอยู่นะคะ เราควรจะใจดีกับทุกคนตลอดเวลา พวกคุณทั้งหมดคงได้ยินในสิ่งที่คุณปู่พูดแล้ว คุกเข่าและก้มหัวของพวกคุณลงไปที่พื้นสะ!”แมนดี้ ซิมเมอร์ตอบกลับอย่างเย็นชา “พวกเราเข้ามาทางประตูซึ่งเป็นทางที่ถูกต้อง ทำไมเราต้องคุกเข่าให้กับพวกคุณด้วย?”ควินน์เยาะเย้ยพร้อมเสียง ‘ฮึ’ และพูด “งั้นก็ได้ แม้ว่าถ้าพวกคุณจะเข้ามาด้วยช่องทางที่ถูกต้อง แต่ทุกคนลืมไปแล้วเหรอ? ว่าฉันเป็นนายหญิงของที่นี่ ฉันสั่งให้พวกคุณคุกเข่าและก้มหัวลงพื้นสะตอนนี้!”“ถ้าไม่ ฉันจะทำให้ชีวิตของพวกคุณยากยิ่งขึ้นหลังจากที่เจ้าชายยอร์กขอฉันแต่งงาน!”ด้วยสิ่งนี้ทำให้ไซม่อน ซิมเมอร์และลิเลียน เยต์เต็มไปด้วยความกังวลถึงแม้ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กอาจมีสถานภาพอยู่บ้าง แต่เขาจะเทียบกับเจ้าชายยอร์กได้เหรอ?เจ้าชายยอร์กเป็นตำนานแห่งเซาท์ไลท์ ถ้าเขาต้องการให้คนหนึ่งทรมาน เขาก็สามารถทำได้ด้วยเพียงแค่ขยับปากของเขาเท่านั้น!และตามบุคลิกของควินน์ เธอคงจะทำอย่างนั้นแน่ ในขณะนั้น พนักงานสองสามคนเดินมาและถามด้วยความเคารพ “พวกคุณตระกูลซิมเมอร์ใช่ไหมครับ? พิธีขอแต่ง
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข