หลังจากที่รอให้ฮาร์วีย์ ยอร์กกลับ เรย์ก็มองไปที่โรซานน์ บาร์และคนที่เหลือด้วยสายตาอันคมกริบโรซานน์, เฟลิกซ์ ฮาวเวิร์ด, โบรดี้ เจนเนอร์และคนที่เหลือก้มหัวของพวกเขาลงโดยที่ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว พวกเขาล้วนหายใจด้วยความลำบากสายตาของเรย์จ้องมองไปที่โรซานน์และถามอย่างเรียบเฉย “ตอนนั้นเป็นมือข้างไหนนะ?”ถึงแม้ว่าเรย์ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นแต่โรซานน์ก็เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูดถึง ในตอนนั้นเอง เธอทำได้เพียงแค่ยื่นมือข้างขวาที่สั่นระทวยของเธอออกไปและพูดด้วยเสียงที่สั่นไม่หยุด “ข้างนี้”“เห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงนะ ตบหน้าตัวเองสักสิบทีก็แล้วกัน” เรย์กล่าว“เพียะ!”ในขณะที่โรซานน์ตบไปบนใบหน้าของตัวเอง เธอไม่กล้าแม้แต่ที่จะยั้งมือกับตัวเองหรือพูดจาไร้สาระอีกเธอตบเข้าที่หน้าของตัวเองอย่างแรงจนแก้มของเธอเริ่มที่จะช้ำและแดงเพราะโรซานน์รู้ดีว่าถ้าเธอไม่ทำให้เรย์รู้สึกพอใจเท่าที่ควร จุดจบของเธอคงจะย่ำแย่มากแน่ ๆ เรย์ไม่สนใจที่จะมองโรซานน์อีกต่อไป เขาจึงหันมาทางโบรดี้และคนอื่น ๆ ที่เหลือและพูด “พวกนายทั้งหมดเป็นผู้ชาย พวกนายคงไม่อยากจะเป็นเหมือนผู้หญิงหรอกใช่ไหม?”โบรดี้เป็นคนแร
เมื่อได้ยินอย่างนั้นทำให้ควินน์หัวเราะเบา ๆ และพูด “คุณปู่กำลังสอนในสิ่งที่ถูกต้องอยู่นะคะ เราควรจะใจดีกับทุกคนตลอดเวลา พวกคุณทั้งหมดคงได้ยินในสิ่งที่คุณปู่พูดแล้ว คุกเข่าและก้มหัวของพวกคุณลงไปที่พื้นสะ!”แมนดี้ ซิมเมอร์ตอบกลับอย่างเย็นชา “พวกเราเข้ามาทางประตูซึ่งเป็นทางที่ถูกต้อง ทำไมเราต้องคุกเข่าให้กับพวกคุณด้วย?”ควินน์เยาะเย้ยพร้อมเสียง ‘ฮึ’ และพูด “งั้นก็ได้ แม้ว่าถ้าพวกคุณจะเข้ามาด้วยช่องทางที่ถูกต้อง แต่ทุกคนลืมไปแล้วเหรอ? ว่าฉันเป็นนายหญิงของที่นี่ ฉันสั่งให้พวกคุณคุกเข่าและก้มหัวลงพื้นสะตอนนี้!”“ถ้าไม่ ฉันจะทำให้ชีวิตของพวกคุณยากยิ่งขึ้นหลังจากที่เจ้าชายยอร์กขอฉันแต่งงาน!”ด้วยสิ่งนี้ทำให้ไซม่อน ซิมเมอร์และลิเลียน เยต์เต็มไปด้วยความกังวลถึงแม้ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กอาจมีสถานภาพอยู่บ้าง แต่เขาจะเทียบกับเจ้าชายยอร์กได้เหรอ?เจ้าชายยอร์กเป็นตำนานแห่งเซาท์ไลท์ ถ้าเขาต้องการให้คนหนึ่งทรมาน เขาก็สามารถทำได้ด้วยเพียงแค่ขยับปากของเขาเท่านั้น!และตามบุคลิกของควินน์ เธอคงจะทำอย่างนั้นแน่ ในขณะนั้น พนักงานสองสามคนเดินมาและถามด้วยความเคารพ “พวกคุณตระกูลซิมเมอร์ใช่ไหมครับ? พิธีขอแต่ง
“ถ้าอย่างนั้น เชิญพวกเราร่วมอวยพรให้กับเจ้าชายยอร์กและผู้หญิงของเขากันครับ!”ด้วยสิ่งนี้ ทำให้มีเสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องโถงอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างตื่นเต้นกับสิ่งนี้ รอคอยที่จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของทั้งสองคนการได้รับความชื่นชอบจากเจ้าชายยอร์กและเป็นผู้หญิงของเขาเรียกได้ว่าเป็นความโชคดีไม่แตกต่างจากการที่บรรพบุรุษฟื้นขึ้นมาจากหลุมเลยก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเป็นลูกสาวของตระกูลซิมเมอร์และคนส่วนมากก็ไม่เชื่อเรื่องนี้แต่ตอนนี้ทุกคนต่างรอคอยที่จะเห็นว่าใครกันแน่คือนางเอกในวันนี้!ในตอนนั้น เรย์ปรบมือของเขาหนึ่งครั้งพร้อมกับที่คนจำนวนสิบแปดคนที่สวมใส่ชุดสูทสีขาวเดินออกมาจากหลังเวทีคนเหล่านี้ต่างเป็นทหารจากค่ายศัสตราวุธ รวมถึงทุกคนต่างมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงในประเทศ H อันแสนยิ่งใหญ่ จึงทำให้พวกเขามีความสูงส่งและความโดดเด่นจนน่าประหลาดใจถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในชุดทหาร แต่พวกเขาก็ยังยืนอย่างแข็งแกร่งและหล่อเหลาอยู่ตรงนั้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนอดจินตนาการไม่ได้ ว่าในเมื่อคนเหล่านี้มีลักษณะเช่นนี้แล้วเจ้าชายยอร์กจะเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์และน่าประหลาดใจขนาดไหนกันพนักงานเ
“ฮึ่ม…”ในขณะนั้น ควินน์ ซิมเมอร์รู้สึกว่าสมองของเธอกำลังจะระเบิดเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เจ้าชายยอร์กชอบในตอนนั้นเธอตกอยู่ในสภาวะมึนงง สายตาของเธอมองไปที่แมนดี้ ซิมเมอร์และในเวลาต่อมาที่ร่างกายของเธอสั่นอย่างช่วยไม่ได้ แมนดี้เหรอ?!เป็นไปได้หรือเปล่าว่าแมนดี้จะเป็นคนที่เจ้าชายยอร์กกำลังจะขอแต่งงาน?ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอจะต้องตายแน่!ในขณะนั้นควินน์แค่อยากจะตายด้วยการโขกหัวของเธอลงกับพื้น แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถรวบรวมความกล้าที่จะทำเช่นนั้นได้แมนดี้ที่กำลังสับสนอยู่ในตอนนั้นทำให้เธอไม่สามารถที่จะเข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ในขณะเดียวกัน เรย์ ฮาทก้าวเดินไปข้างหน้าและเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของแมนดี้ เขาโค้งลงอยู่ในระดับเก้าสิบองศาอีกครั้ง พร้อมกับพูดอย่างให้เกียรติ “พี่สะใภ้ครับ กรุณายอมรับคำขอแต่งงานของเจ้าชายยอร์กด้วยเถอะนะครับ!”“ของขวัญเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจ้าชายยอร์กได้เตรียมให้กับคุณในวันนี้!”“คฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าของภูเขาซิลเวอร์นิมบัส!”“รถโรลส์รอยซ์ แฟนธอม!”“เงินสดจำนวนหนึ่งร้อยสามสิบสี่ล้านดอลลาร์!”“และอัญมณีจำนวนแปดสิบแปดชิ้น!”แมนดี้ถึงกับพู
มากไปกว่านั้น แมนดี้ ซิมเมอร์คงไม่เคยคาดคิดว่าบุคคลที่เรย์ ฮาทกำลังพูดถึงอยู่จะกำลังยืนอยู่ข้างเธออยู่ในตอนนี้ กำลังรอคอยคำตอบจากเธอเธอสูดหายใจเข้าลึกและดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจได้แล้วแมนดี้ค่อย ๆ เผยรอยยิ้มออกมาในเวลาต่อมาและพูด "คุณเรย์คะ ฉันชื่นชมการกระทำของเจ้าชายยอร์กจริง ๆ ค่ะ!""แต่คุณช่วยกลับไปและเรียนให้เขาทราบทีได้ไหมคะว่าฉันไม่เหมาะสมกับเขา ดังนั้นฉันขอปฏิเสธค่ะ"ปัง…มันเหมือนราวกับว่ามีสายฟ้าฟาดลงสู่ฟื้นฝูงชนต่างตกตะลึงใบหน้าของทุกคนต่างนิ่งค้างเป็นหิน พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้ทุกวันนี้มีเด็กผู้หญิงตั้งมากมายเท่าไหร่กันที่ต้องการจะแต่งงานกับชายที่มีชื่อเสียงและร่ำรวย?มีเด็กผู้หญิงมากมายเท่าไหร่ที่ต้องการจะแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลที่มั่งคั่งและใช้ชีวิตอย่างหรูหรา?แต่ท้ายที่สุด แมนดี้ก็ปฏิเสธนี่มันเป็นไปไม่ได้!ผู้หญิงหลายคนที่มาที่นี่ต่างมีใบหน้าบึ้งตึง พวกเธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะไปแทนที่แมนดี้ในตอนนี้เพราะด้วยคำตอบของเธอทำให้เรย์ค้างด้วยความตกตะลึงเหมือนกัน เขามองไปที่ฮาร์วีย์อย่างไม่รู้ตัวและรีบถามต่อ “พี่สะใภ้ครับ บอกเหตุผลที่คุณปฏิเสธหน่อยได้ไหมค
“ถึงแม้จะหมายถึงการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”ฮาร์วีย์ ยอร์กค่อย ๆ ยิ้มและพึมพำออกมาโดยที่มีเขาเพียงคนเดียวที่ได้ยิน “ถ้าอย่างนั้นผมจะต้องสร้างความเป็นสตรีชั้นสูงในตัวคุณขึ้นมาและทำให้คุณกลายเป็นผู้มีอิทธิพล”“ด้วยสิ่งนี้สถานะคงจะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างคุณกับผมอีก”“มากไปกว่านั้น ผมเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราทั้งคู่จะต้องดีขึ้นมากกว่าเดิม…”ในตอนนั้นเองในที่สุดลิเลียน เยตส์และไซม่อน ซิมเมอร์ก็ได้สติกลับมาพวกเขาทั้งคู่ตอนนี้อยู่ในอาการสับสนท้ายที่สุดแล้วในวันนี้พวกเขาเพิ่งได้มีประสบกับช่วงขึ้น ๆ ลง ๆ ในชีวิตของพวกเขา มันค่อนข้างดีที่พวกเขาได้มีโอกาสที่มาอยู่ที่นี่แต่ในตอนนั้น ลิเลียนจ้องไปที่แมนดี้และตำหนิด้วยเสียงต่ำ “แมนดี้ ลูกบ้าไปแล้วเหรอ?!”“นี่มันเป็นโอกาสที่หลายคนไม่สามารถที่จะเอ่ยปากขอได้นะ!”“แต่เมื่อโอกาสมันอยู่ตรงหน้าแล้วลูกกลับทำลายมัน!”เมื่อพูดอย่างนี้ลิเลียนได้แต่วางมือไว้ทาบที่อกของเธอ มันไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้ เธอลำบากใจอย่างมาก!ในช่วงเวลาหนึ่ง ลิเลียนนึกว่าสถานภาพของเธอจะอยู่สูงกว่าคุณย่าเยตส์!ไซม่อนก็มีท่าทีราวกับว่าเขา
ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่สามารถทนดูพิธีดังกล่าวได้ในตอนนี้!ไม่อย่างนั้น มันต้องทำให้พวกเขาบ้าแน่ ๆ !เมื่อเห็นว่าไซม่อน ซิมเมอร์และลิเลียน เยตส์ยืนกรานว่าจะกลับ แมนดี้ก็ไม่มีตัวเลือกนอกจากกลับไปพร้อมกับพวกเขาถึงแม้ว่าฮาร์วีย์ยังมีบางอย่างที่จะต้องทำ แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ยืนขึ้นในตอนนั้นและตามพวกเขาไปยังประตูรั้วของลานด้านนอกของซิลเวอร์ นิมบัสแต่อยู่ ๆ ในระหว่างที่แมนดี้และครอบครัวของเธอเดินออกไป ผู้คนจากตระกูลซิมเมอร์ผู้ที่ถูกโยนออกมาก่อนหน้านี้ จู่ ๆ พวกเขาก็เดินตรงเข้ามาจากด้านข้างของถนน“ต้องการจะทำอะไรน่ะ? ครอบครัวของเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลซิมเมอร์อีกต่อไปแล้ว!”แมนดี้คิดว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์และคนอื่น ๆ กำลังตรงมาหาเธอและครอบครัวของเธอ เธอจึงรีบเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าของไซม่อนและลิเลียนเพื่อปกป้อง ต่อมาผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็ได้พูดชี้แจง“แมนดี้ ก่อนหน้านี้ปู่ผิดเอง! ปู่ถูกผู้หญิงโง่อย่างควินน์ ซิมเมอร์หลอก!” ผู้อาวุโสซิมเมอร์พยายามที่จะฝืนยิ้มในขณะที่เขาพูดคำเหล่านั้นออกมา“ปู่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับเธอเอง!”เมื่อสิ้นคำพูดคุณปู่โบกมือของเขาก่อนที่แมนดี้จะแสดงออกเกี่
แต่อย่างไรถ้าพฤติกรรมของผู้อาวุโสซิมเมอร์สามารถปล่อยให้แมนดี้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเขาก็ไม่คัดค้านอย่างแน่นอนแมนดี้ผู้ที่ลังเลใจเล็กน้อยในตอนแรกแต่ท่าทีของเธอในตอนนี้ก็เปลี่ยนไป หลังจากเวลาผ่านมาสักพักเธอก็ค่อย ๆ พูดออกมา “คุณปู่กำลังจะบอกว่าเงื่อนไขเพื่อกลับไปในตระกูลซิมเมอร์คือการหย่ากับฮาร์วีย์และแต่งงานกับเจ้าชายยอร์กอย่างนั้นเหรอคะ?!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ยิ้มและพูด “แมนดี้ อย่าพูดไร้สาระสิ ปู่กำลังทำเพื่อตัวของหลานเองนะ!”ท่าทางของแมนดี้เย็นชาอย่างมากทันที ต่อมาเธอจึงพูดอย่างเย็นชา “ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขอโทษนะคะ แต่ฉันยอมรับเงื่อนไขของคุณไม่ได้”“ในเมื่อเราได้เซ็นข้อตกลงไปแล้ว พวกเราก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลซิมเมอร์อีกต่อไป!”หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ไม่มองหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์อีกเลย จากนั้นเธอก็จึงหันหลังจะเดินจากไป ในตอนนี้เธอผิดหวังอย่างมาก ในที่สุดเธอก็มองเห็นความจริงตระกูลซิมเมอร์ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับความรักระหว่างพวกเขา พวกเขาทั้งหมดเพียงแค่สนใจผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้นถ้าวันนี้เจ้าชายยอร์กขอควินน์แต่งงาน ผู้อาวุโสซิมเมอร์จะมีพฤติกรรมอย่างนี้หรือเปล่า?ไม่มีทาง
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข