เดิมทีโดยพื้นฐานนิสัยของฮาร์วีย์แล้ว เขาจะทำให้อมีเลียทำตามสัญญาของเธออย่างแน่นอนแต่ตอนนี้แมนดี้บอกให้เขาปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เขาก็จะปล่อยมันไป สุดท้ายแล้วยังไงเรื่องนี้มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย“ไม่อยากไปช้อปปิ้งต่อแล้ว กลับบ้านกันเถอะ!”สีหน้าของอมีเลียหม่นหมอง ท่าทางของเธอแข็งกระด้างราวกับเหล็กกล้า เธอไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าฮาร์วีย์และแมนดี้เลยด้วยซ้ำ เธอได้แค่หันหลังเดินจากไปออทัมน์พูดว่า “แมนดี้ สามีของเธอไม่มีมารยาทเลย ถ้าเธอยังต้องการเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเรา เธอควรจะเลิกกับเขาให้เร็วที่สุด!”หลัจากนั้นออทัมน์ก็เดินจากไปเช่นกันเฟลิกซ์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์นิ่งสงบเพียงใด เขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ทุกสิ่งที่ฮาร์วีย์ทำในวันนี้ทำให้เฟลิกซ์รู้สึกว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน แต่เฟลิกซ์ก็ยังคาดเดาไม่ได้ว่าฮาร์วีย์จะมีความพิเศษเพียงใดจนกว่าเขาจะแน่ใจในสถานะของฮาร์วีย์ เขาไม่ต้องการที่จะต่อต้านฮาร์วีย์อีกต่อไปไม่นานเขาก็เดินจากไปเช่นกันหลังจากที่ทั้งสามคนจากไป แมนดี้ก็หันไปหาฮาร์วีย์และถาม “ฉันขอถามคุณ เอาเงินมาจากไหน?”“อย่าบอกนะว่ายืมเพื่อนมา!”
“ถ้าอย่างนั้นเราควรทำยังไงดี?” ไซม่อนขมวดคิ้ว“ว่าไงนะ?” สีหน้าของออทัมน์เย็นชาลง “แน่นอน เราจะทำตามแผน!” “เฟลิกซ์ คุณเชิญผู้ชายคนนั้นมาที่นี่เหรอ?” อมีเลียถาม “คืนนี้จะเป็นคืนของคุณ คุณต้องทำมันได้ดี!” เฟลิกซ์มีความเกรงกลัวฮาร์วีย์เล็กน้อยอย่างไรก็ตามหลังจากที่รู้ว่าฮาร์วีย์ได้เงินมาอย่างไร ความโกรธก็มีอยู่เต็มหัวใจมันเป็นเรื่องน่าอายสำหรับคนอย่างเขาที่ถูกลูกเขยกาฝากข่มขู่!เฟลิกซ์พูดอย่างเย็นชา “คุณแม่ อมีเลีย ไม่ต้องห่วง”“ที่เหลือผมจัดการเอง!”“ในเมื่อลูกเขยขยะนั่นชอบแสร้งทำเป็นรวยมาก ผมจะพาเขาไปงานเลี้ยงระดับไฮเอนด์!”“ผมขอให้ผู้ชายคนนั้นมาด้วย ผมจัดเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว!”“ผมรับรองได้ว่าหลังจากวันนี้เขาจะไม่มีวันปรากฏตัวต่อหน้าเราอีก!”อมีเลียกัดฟันกรอดและพูดเสริมว่า “นั่นยังไม่พอ! ฉันต้องการให้เขาคุกเข่าอ้อนวอน! แล้วอย่าลืมถ่ายวิดีโอให้ฉันด้วย!”***ทั้งสองครอบครัวได้ทานอาหารเย็นร่วมกันเนื่องจากเพราะเหตุการณ์ที่เจอะเจอมาด้วยกันฮาร์วีย์ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เขาพาแมนดี้ไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารตะวันตกชั้นล่างในโรงแรมฮาล์ฟมูนเบย์เนื่องจากพวกเขาลงม
แมนดี้ยังคงใจเย็นอยู่ “ผู้จัดการร็อบบินส์ ใช่ไหมคะ?”“ขอขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณ แต่ตอนนี้บริษัทของเรายังไม่มีปัญหาทางการเงิน เราจะไปพบคุณเมื่อเราต้องการความช่วยเหลืออย่างแน่นอน”แม้จะพูดออกไปแบบนั้น เธอก็ไม่ได้เหลือบมองไปที่สแตนลีย์เลยด้วยซ้ำเธอไม่ได้โง่ เธอเห็นความโลภตะกละในดวงตาของเขาเฟลิกซ์พาเขามาและแนะนำคน ๆ นี้ให้เธอรู้จัก เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามเข้ามาขวางความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮาร์วีย์ และนั่นทำให้เธอโกรธแต่เฟลิกซ์ยังไม่รับรู้ความโกรธของแมนดี้ เขายิ้มและพูดว่า “แมนดี้ ผู้จัดการร็อบบินส์ยังหนุ่มและมีอนาคต เขาเก่งมากด้วย ผู้หญิงรวย ๆ หลายคนในบัควู้ดอยากจะพบเจอเขา แต่พวกเธอไม่มีโอกาส!”“เป็นเกียรติของเธอที่ได้พบกับผู้จัดการร็อบบินส์คืนนี้ ไปดื่มกับเขาต่อดีไหม? ช่วยฉันหน่อยเถอะ!”สีหน้าของแมนดี้เย็นชาลง “ตอนนี้ฉันกำลังทานอาหารเย็นกับสามีของฉัน ฉันเกรงว่าจะไม่มีเวลาไปต่อ”“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เชิญทั้งสองคนค่ะ”พูดขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าแมนดี้กำลังไล่ทั้งสองคนออกไปสีหน้าของเฟลิกซ์ดูแย่ลง จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “แมนดี้ เธอพูดแบบนี้ เธอไม่ไว้หน้าฉันเลยหรือไง?”สแตน
เฟลิกซ์ยิ้มเยาะกับคำพูดของฮาร์วีย์ เขาดูถูกคนอย่างฮาร์วีย์เขามองแมนดี้ด้วยสายตาจริงจังและพูดว่า “แมนดี้ ฟังคำพูดที่สัตย์จริงของฉันนะ!”“สามีของเธอได้ถูกกำหนดไว้แล้วให้ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง!”“ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไล่เขาออกจากบ้านไปซะ! และเมื่อนั้นเธอจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้!”“ฉันพูดแบบนี้เพื่อประโยชน์ของเธอ คนอื่นกำลังเยาะเย้ยเธออยู่นะ!”เฟลิกซ์แสร้งทำเป็นกังวล ราวกับว่าเขากำลังนึกเป็นห่วงแมนดี้อยู่จริง ๆสแตนลีย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะ “ใช่ มิสซิมเมอร์ คุณเก่งและประสบความสำเร็จมาก คุณยังสาวและสวย ผู้ชายคนนี้จะคู่ควรกับคุณได้ยังไง?”“คุณควรมองหาพิจารณาผู้ชายที่เก่ง ๆ คนอื่น ไม่เพียงแต่พวกเขาสามารถดูแลคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการงานของคุณได้อีกด้วย!”สแตนลีย์เชิดอกพูดแบบนั้นออกไป ความหมายของเขาที่สื่อออกมานั้นเข้าใจง่ายมาก เขากำลังแสดงให้เห็นว่าชายที่เก่งคนนั้นคือเขาสองคนนี้มาที่นี่ด้วยกันและการมาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนแมนดี้ดูทั้งเย็นชาและเศร้า “คนนอกอย่างคุณไม่ต้องห่วงเรื่องของฉันหรอกค่ะ”“ฉันคิดว่าฮาร์วีย์เป็นคนที่เก่งมาก”“เราทานอาหารอย่างมีความสุข ได้
“เกิดอะไรขึ้น? แมนดี้ดูงุนงง เธอสงสัยว่าทำไมจู่ ๆ เฟลิกซ์ถึงชวนฮาร์วีย์ออกไปที่ไหนสักแห่ง“เขาขอให้ผมไปงานปาร์ตี้กับเขาและพบปะคนจากสกายคอร์ปอเรชั่น ผมจะลองไปดู บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการต่อยอดงานของคุณในอนาคต” ฮาร์วีย์พูดออกมาอย่างปกติ“งั้นก็รีบกลับไปกันเถอะค่ะ”แมนดี้กังวลเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธฮาร์วีย์ด้วยเหตุผลที่เขาต้องการไปทำความรู้จักกับผู้คนมากขึ้น***ครึ่งชั่วโมงต่อมาในคลับส่วนตัวบนชายหาดฮาล์ฟมูนเบย์ผู้บริหารระดับสูงของสกายคอร์ปอเรชั่นมากกว่าสิบคนรวมตัวกันที่นี่คนเหล่านี้เคยเป็นอดีตผู้จัดการแผนกของตระกูลยอร์กเมื่อฮาร์วีย์สร้างองค์กรแสนล้านเมื่อในอดีต พวกเขาก็เคยทำงานอยู่ที่นั่นเนื่องจากความขัดแย้งภายในตระกูลยอร์ก ผู้ภักดีของฮาร์วีย์จึงแยกย้ายกันไปแต่คนเหล่านี้ไม่ได้ออกไปไหน แต่พวกเขาเข้าร่วมทำงานกับควินตันและคนอื่น ๆ พวกเขาตอยส่งข้อมูลและล้วงความลับที่พวกเขารับรู้มาให้พวกเขายอมให้ควินตันและตระกูลของเขาประสบความสำเร็จในการเข้ายึดองค์กรแสนล้านที่ฮาร์วีย์สร้างขึ้นมาเมื่อฮาร์วีย์กลับมาและได้เข้ายึดทรัพย์สินของตระกูลยอร์กซึ่งเดิมเป็นขอ
“เขามาแล้ว!”จู่ ๆ เฟลิกซ์ก็อุทานออกมาพร้อมรอยยิ้มเปิดกว้างฮาร์วีย์กำลังเดินเข้ามาในคลับส่วนตัวด้วยท่าทางเอามือไคว้หลังเอาไว้ เขานิ่งสงบดูไม่แยแสสิ่งรอบกายพลังอำนาจแผ่ออกมาจากเขาในขณะที่เขาก้าวย่างเดินเข้ามาความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นกับทุกคนไปชั่วขณะ ทั้งยังทำให้ผู้บริหารหลายคนเกิดอาหารประหลาดใจ“เฟลิกซ์… คนขี้แพ้คนนี้ใช่ไหมที่คุณพูดถึง?”หนึ่งในนั้นที่ไม่แน่ใจเลยเอ่ยถามออกมาอย่างลังเลเขารู้สึกว่าชายคนนี้ดูค่อนข้างคุ้น ๆ แต่เขาจำไม่ได้ว่าเขาเคยเห็นที่ไหนอันที่จริงในตอนนั้นไม่มีใครมีโอกาสได้พบกับฮาร์วีย์เลยพวกเขาเพียงแค่ได้เห็นรุปร่างของฮาร์วีย์จากระยะไกลในบางโอกาสเท่านั้น พวกเขาจึงเกิดความรู้สึกประทับใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเขาอย่างไรก็ตามมันก็แค่ความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆเฟลิกซ์ยิ้ม “ใช่ คือเขาคนนั้น! อยากทำอะไรก็ทำได้เลย” จากนั้นเขาก็ก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อทักทายฮาร์วีย์ “ฮาร์วีย์! ฉันแนะนำคุณให้ทุกคนได้รู้จัก”“นี่คือฮาร์วีย์ ยอร์ก ลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์และเป็นสามีที่ไร้ประโยชน์ของแมนดี้ ซิมเมอร์ ทุกคนที่นี่น่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเขามาบ้าง!”“ผมต้องรบกวนทุกคน หากใค
ผู้บริหารเหล่านั้นกลับมาได้สติอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของเฟลิกซ์ทุกคนพากันหัวเราะจนต้องกุมท้องไว้แน่น พวกเขาไม่เคยพบใครที่คุยโม้ได้ขนาดนี้มาก่อนโรซานน์เป็นคนแรกที่ยิ้มเยาะออกมา “คุณรู้ไหมว่าเจ้าชายยอร์กคือใคร? เขาเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในเซาท์ไลท์ ณ ปัจจุบัน!”“แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสุดในเซาท์ไลท์ก็ยังต้องให้เกียรติเขา!”“คนอย่างเขาจะเป็นลูกเขยไร้ประโยชน์อย่างคุณได้ยังไง?!”“เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไง?!”“คุณช่วยหยุดทำตัวตลกได้ไหม?”โบรดี้ยังคงเย้ยหยันฮาร์วีย์ “ในช่วงเวลาที่เราอยู่ในองค์กรธุรกิจแสนล้าน เราทำงานภายใต้ยอร์กเอ็นเทอร์ไพรส์ ต่อมาเมื่อสี่ผู้ลือชื่อของยอร์กเข้าควบคุม เราก็อยู่ในตำแหน่งสูงเหมือนเดิม ดังนั้นตอนนี้เจ้าชายยอร์กก็คงรับพวกเราเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมแน่นอน!”“คุณคิดว่าคนที่มีความรู้และประสบการณ์อย่างพวกเราจะถูกคุณหลอกได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ?”“ทุกวันนี้แม้แต่ขยะไร้ค่ายังกล้าแสร้งทำตัวเป็นประธานบริษัทด้วยหรือ?”“เจ้าชายยอร์กของเราเป็นคนเก็บตัว เขาไม่เคยปรากฏตัวในที่สาธารณะและไม่เคยเปิดเผยรูปถ่ายของเขาเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนหน้าไม่อายถึงกล้าแสร้งหลอกลวงว่าเป
เฟลิกซ์ตบไหล่ฮาร์วีย์ เขาพูดยิ้ม ๆ ว่า “ไง ไอ้ขยะ แกเข้าใจแล้วใช่ไหม?”“ไม่ใช่แค่แกเท่านั้น แต่แมนดี้และตระกูลซิมเมอร์จะอยู่ในกำมือเรา!”“ใช่ ฮาร์วีย์ คุณต้องเชื่อฟังเรา คุณต้องทำตามในสิ่งที่เราต้องการ”“ถ้าคุณไม่ทำตาม นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปจะไม่มีที่สำหรับคุณและแมนดี้ในบัควู้ดอีกต่อไป!”โบรดี้หัวเราะเยาะอย่างเย่อหยิ่งออกมาพวกเขาไม่ได้เจอของเล่นที่สนุกแบบนี้มานานแล้วทุกคนที่ผ่านมาจะยอมให้พวกเขารังแกต่อไปหรือยอมคุกเข่าขอความเมตตาน้อยคนที่จะเลือกต่อต้านเหมือนฮาร์วีย์ มันทำให้พวกเขาตื่นเต้นอย่างมาก “นี่หมายความว่าพวกคุณกำลังข่มขู่ผมงั้นเหรอ?”ตอนนี้ฮาร์วีย์อยากจะหัวเราะเดิมทีเขาไม่สนใจคนพวกนี้เลยเขาไม่อยากที่จะสนใจแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนทรยศหักหลังก็ตาม คนแบบนี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งแต่ปัญหาตอนนี้คือการที่คนเหล่านี้กำลังข่มขู่เขาฮาร์วีย์รู้สึกหมดหนทางไม่รู้ต้องจัดการอย่างไรเขาเคยเห็นคนงี่เง่ามาหลายรูปแบบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนโง่งี่เง่าถึงขนาดนี้“เราไม่ได้ข่มขู่คุณ เรากำลังสอนบทเรียนให้คุณได้เข้าใจสังคมมากขึ้น!”“คุณต้องทำความเข้าใจนะ พวกซิมเมอร์จะล้มละ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข