เฟลิกซ์รู้ดีว่าตอนนี้เป็นเวลาแสดงให้ฮาร์วีย์ได้เห็นเขาพูดโดยไม่ได้ดูป้ายราคาและหัวเราะ“มันก็แค่เงินเพียงเล็กน้อย มันจะมีแพงอะไรมากมาย? ถ้าภรรยาที่รักของผมชอบ ผมจะซื้อทองคำทั้งภูขาทองให้คุณยังได้เลย ไม่ต้องพูดถึงแค่กระเป๋าใบนี้!”อมีเลียแสร้งทำเป็นตกใจ จากนั้นก็เข้าไปกอดจูบเขาที่ปาก“เฟลิกซ์ คุณช่างน่ารักเหลือเกิน!”“ฉันโชคดีจริง ๆ ที่มีสามีแบบคุณ!”แมนดี้ตัวสั่นเมื่อได้เห็นภาพนั้นการแสดงที่ไม่ได้เป็นมืออาชีพเอาซะเลย เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้น ทำไมเธอถึงจะดูไม่ออก?ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การกระทำสิ้นคิดที่รังเกียจแต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกไปฮาร์วีย์ซื้อเสื้อผ้าและกระเป๋าให้เธอจนเต็มไปทั้งห้องก่อนหน้านี้ที่โอลเด้นเทรดกระเป๋าชาเนลที่อมีเลียอยากได้เทียบไม่ได้เลยเธอคิดอะไรอยู่ที่พยายามโอ้อวดกระเป๋าเพียงใบเดียวต่อหน้าเธอ?“ร้านของดูดีนะ คุณชอบหรือเปล่า?”ฮาร์วีย์เดินเข้าไปหาแมนดี้ขณะกวาดสายตาไปรอบ ๆ ร้านเขาไม่ได้ถามถึงเพียงกระเป๋าใบเดียว แต่เขาหมายถึงทั้งร้านหัวใจของแมนดี้เต้นผิดจังหวะ เธอไม่สามารถหยั้งรู้ถึงความสามารถของชายคนนี้ได้เลย‘เขาเป็นเพียงขยะโสโครกหรือเป็นใครกันแน่?’
หลังจากได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของอมีเลียและคนอื่น ๆ ที่มีต่อฮาร์วีย์แล้ว แมนดี้ก็รู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธจากนั้นเธอก็แสยะยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ ถ้าพูดอย่างนั้นแล้วล่ะก็ เอมิเลีย!”ระหว่างพูดเธอเดินไปที่เคาน์เตอร์ในร้านทันทีอมีเลียมึนงงขณะเฝ้าดูการกระทำของแมนดี้กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นทั้งหมดอยู่ตรงนั้น และของที่ถูกที่สุดมีราคาหลายพันดอลลาร์ ในขณะที่ของที่แพงที่สุดมีราคาอย่างน้อยหนึ่งแสนดอลลาร์อมีเลียไม่กล้าไปชมของตรงนั้นด้วยซ้ำแต่แมนดี้กลับเดินพุ่งตรงไปที่นั่นผู้หญิงน่าขยะแขยงคนนี้กล้าดียังไงถึงโลภมากอยากได้ของแบบนั้น?!อมีเลียกัดฟันขณะเดินไปที่เคาน์เตอร์เธอเกือบจะเป็นลมเมื่อเห็นแมนดี้ส่งสัญญาณให้พนักงานนำกระเป๋าที่แพงที่สุดออกมา“แมนดี้ เธอทำเกินไปแล้วนะ! นี่เป็นกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น มีเพียงห้าร้อยใบในโลกนี้ มีมูลค่าประมาณสามแสนดอลลาร์!”อมีเลียตัวสั่นอย่างกดเก็บอารมณ์หลังจากพูดราคาออกมาดัง ๆ“เธอบอกว่าเธอจะซื้อให้ฉันไม่ใช่เหรอ? แน่นอนว่าฉันจะต้องเลือกอันที่แพงที่สุด เฟลิกซ์มีรายได้หลายพันดอลลาร์ต่อปี ทำไมเขาถึงต้องมาสนใจเรื่องเงินจำนวนเล็กน้อยแบบนี้ด้วย?” แมน
เหตุการณ์นั้นทำให้ทุกคนในร้านต่างตกใจ‘ราคาของกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นอยู่ที่สามแสนดอลลาร์ ใครกันที่อยู่ ๆ บอกว่าจะมอบกระเป๋าให้?’อมีเลียและเฟลิกซ์หันกลับไปมองโดยไม่รู้ตัวเมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นใคร ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีทันทีเรย์ ฮาร์ท?!เขามาที่นี่ทำไม?!ออทัมน์เพิ่งจะคุยโม้ไปว่าเขาเป็นเพื่อนของเฟลิกซ์ พวกเขาจะยังคงโกหกต่อไปได้อย่างไรเมื่อชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นที่นี่แล้ว?แมนดี้และคนอื่น ๆ รู้เรื่องของเรย์ ฮาทเพราะเรื่องราวเมื่อเช้านี้ ทุกคนจำเขาได้ในทันทีแต่แมนดี้ชะงัก ทำไมเรย์ ฮาทถึงให้ของอะไรต่าง ๆ เขา?บางทีคนที่เธอได้เห็นในรูปภาพว่าคือฮาร์วีย์นั่นอาจจะถูกต้องแล้วก่อนหน้านี้เธอแค่เดา แต่เธอก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ตอนนี้เรย์ ฮาร์ทปรากฏตัวขึ้นราวกับว่าเขากำลังพิสูจน์การคาดเดาของเธอว่ามันถูกต้องแล้วสายตาของเธอหันไปทางฮาร์วีย์ทันที ท่าทางของเขาเหมือนไม่สนใจอะไรเรย์ ฮาร์ทมองไปในทิศทางเดียวกันกับเธอ เขาเริ่มรู้สึกเกรงกลัวเล็กน้อยคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าฮาร์วีย์เป็นใคร แต่เขาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวมานานกว่าหนึ่งปี เขาสามารถบอกได้ว่าฮาร์วีย์กำลังโกรธเล็กน้อยร่างกาย
แมนดี้ยิ้มหลังจากที่เรย์ ฮาร์ทออกไปแล้ว“ป้าเรเยส อมีเลีย วันนี้เจอกับคนดี ๆ ที่ไม่ใส่ใจเรื่องนี้ แต่คราวหน้าอย่าทำอีกนะคะ”อมีเลียและครอบครัวของเธอทำตัวดูถูกเธอทั้งวัน เธอแทบไม่มีโอกาสตอบโต้สีหน้าของอมีเลียดูหม่นลงพร้อมกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ“แมนดี้ ยังไงสามีของฉันก็ยังดีกว่าสามีของเธอพันเท่า แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เพื่อนของเรย์ ฮาร์ทก็ตาม!”แมนดี้ตอบอย่างใจเย็น “โอ้ จริงเหรอ? อย่างน้อยสามีของฉันก็จะไม่ถูกเปิดโปงอะไรต่อหน้าคนอื่นแบบนี้”“เธอ…”อมีเลียตัวสั่นด้วยความโกรธลิเลียนก้าวเข้ามาเพื่อทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ดีขึ้น“เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรต้องแข่งกัน เรากำลังทำตัวโง่ ๆ กันอยู่หรือเปล่า?”แมนดี้หยุดพูดหลังจากได้ยินแบบนั้น ฮาร์วีย์มองไปที่ลิเลียนเห็นได้ชัดว่าเธอเข้าข้างออทัมน์ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จงใจวางแผนต่อต้านเขาฮาร์วีย์ไม่ได้โกรธ เขามองเป้าหมายของลิเลียนและออทัมน์ออกแล้วแต่สำหรับเขา มันเป็นแค่การแสดงเท่านั้นเขาอยากจะดูว่าเรื่องตลกนี้จะจบลงอย่างไรหลังจากเดินออกจากร้านแบรนด์หรูอย่างชาเนลแล้ว อมีเลียอยากจะกลับโรงแรมเพื่อกู้คืนศักดิ
ก่อนที่แมนดี้จะรู้ตัว อมีเลียก็คว้าของไปจากมือของเธอพร้อมเสียงหัวเราะเยาะเย้ยถากถาง “แมนดี้ ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่จะโชว์ให้คนอื่นดู ทำไมเธอถึงยืนกรานที่จะเปิดมันเมื่อเธอกลับบ้านล่ะ?”“หรือเธอกลัวว่าของขวัญจะทำให้เธออับอาย?”“อมีเลีย! เธอไม่คิดว่ามันจะเกินไปหน่อยเหรอ?”สีหน้าของแมนดี้ดูเยือกเย็นลง นี่เป็นของขวัญจากฮาร์วีย์ที่ให้กับเธอ อมีเลียคว้ามันออกไปจากมือเธอได้อย่างไร?อมีเลียไม่รู้ตัวว่าเธอแสดงพฤติกรรมหยาบคายออกมาแค่ไหน ใบหน้าของเธอยังคงดูถูกเหยียดหยามขณะที่เธอตอบออกไปว่า “แมนดี้ เธอพูดแบบนั้นได้ยังไง? ฉันทำแบบนี้เพื่อเธอนะ!”“ฉันแค่กังวลว่าสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอแค่หยิบของไร้ค่ามาหลอกเธอ! แล้วถ้าหากมันเป็นของรุ่นเก่าเมื่อสองสามปีก่อนพร้อมส่วนลดสามร้อยดอลลาร์หลังจากลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว เธอต้องขอให้เขาเลือกของขวัญอื่นให้เธอนะ!”ขณะที่อมีเลียพูดเธอก็เริ่มแกะห่อกระดาษออกทว่าทันทีที่เธอเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน เธอก็ต้องตกตะลึง รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นงั้นเหรอ?!ลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีราคาเกือบสามแสนดอลลาร์?!อมีเลียขยี้ตา พลางคิดว่าเธอคงตาฝาดไปหรือเปล่าเฟลิกซ์เดินเข้ามาแล
“พวกคุณทุกคนที่นี่ตาบอดไปแล้วเหรอ? ไม่มีใครรู้เลยหรือไงว่ากระเป๋าราคาแพงขนาดนี้ถูกสับเปลี่ยน?”ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในร้าน อมีเลียก็พูดขึ้นเสียงดังและวางอำนาจ พนักงานขายงงงัน ผู้จัดการร้านจึงเดินเข้ามาหาเธอทันทีและถามว่า “คุณคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่ดิฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังหมายถึงอะไร?”“ฉันหมายถึงอะไรงั้นเหรอ? ดูนี่สิ! สิ่งที่เขาซื้อ และสิ่งที่เขาเอาไปจริง ๆ!” อมีเลียตะโกนพลางชี้ไปที่ ฮาร์วีย์ที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอผู้จัดการร้านมองอมีเลียด้วยท่าทีแปลก จากนั้นเธอก็เบนสายตาไปที่ฮาร์วีย์ และก้มลงโค้งคำนับเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ“มีอะไรหรือเปล่าคะ? ลูกค้าท่านนี้ซื้อกระเป๋าใบนี้ไป”ท่าทีที่ให้ความเคารพของผู้จัดการร้านดูเหมือนจะไม่ใช่การเสแสร้งเธอยังนับเลขศูนย์ที่เหลืออยู่ในบัตรของฮาร์วีย์ไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ“เป็นไปได้ยังไง? เปิดตาของคุณให้กว้างและมองให้ดี! เขาจะซื้อกระเป๋าใบนี้มาได้ยังไง?!”อมีเลียเริ่มกระวนกระวายเธออยากทำให้ฮาร์วีย์อับอาย ไม่ใช่ตัวเธอเอง“คุณคะ โปรดระวังคำพูดของคุณด้วย! ลูกค้ารายนี้ซื้อกระเป๋าใบนี้จริง ๆ ใบเสร็จก็ยังอยู่มีอยู่ โปรดดูให้ดี!”ผู้จัดการร้านไม่พอใจเ
”ไอ้เศษขยะ! พยายามคิดจะทำอะไรอีก?”อมีเลียถามออกมาด้วยท่าทางดูถูก“อย่าบอกนะว่านายกำลังจะพูดว่านายจะซื้อของขวัญให้แมนดี้อีกชิ้น?”“เอาสิ! ซื้อเลย! ถ้านายมีความสามารถพอ ซื้อกระเป๋าทั้งร้านนี้เลย!”“ถ้านายทำแบบนั้นได้ ฉันจะยอมคุกเข่าลงต่อหน้านายแล้วเอาหัวแนบลงกับพื้น!”ตอนนี้อมีเลียทำตัวอวดดีมากกว่าเดิม สำหรับเธอแล้วฮาร์วีย์ที่ซื้อกระเป๋าราคาเกือบสามแสนดอลลาร์ได้ก็เกินพอแล้วเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะซื้อกระเป๋าทั้งหมดในร้านนี้ได้?คงจะต้องใช่เงินอย่างน้อยสองสามแสนดอลลาร์“รักษาคำพูดด้วยล่ะ” ฮาร์วีย์หัวเราะและหันไปหาแมนดี้ ซิมเมอร์ “อย่าลืมจดไว้ด้วยนะครับ”ฮาร์วีย์จึงหันไปหาผู้จัดการร้าน “แพ็คของทุกอย่างในร้านนี้ให้ผมด้วยครับ”ผู้จัดการร้านที่กำลังดูละครตรงหน้าเธออยู่ก็ตกตะลึง เขาต้องการของทุกอย่างในร้านจริง ๆ เหรอ?“คุณผู้ชาย… ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ยคะ?” ผู้จัดการร้านถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“แน่นอนครับ” ฮาร์วีย์ตอบอย่างหนักแน่นผู้จัดการร้านถอนหายใจ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าฮาร์วีย์รวย แต่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นใครบางคนซื้อของแบบนี้จิตใจของเธอสับสน เธอไม่สามารถตอบสนองอะไรออกมาได้อย่าง
ลิเลียนได้สติกลับมาและพูดเสริมทันทีว่า “แมนดี้ แม่พูดแบบนี้ไปกี่ครั้งแล้ว? ถ้าลูกมีเงินก็ไม่ควรเสียเงินมากมายแบบนี้! ลูกรู้ดีว่าเงินนี้ได้มาจากไหน!”“ถ้ายืมมา ลูกต้องให้ฮาร์วีย์ลงนามในข้อตกลงให้ชัดเจนพร้อมระบุว่าเขาจะจ่ายคืนเงินกู้ด้วยตัวเอง และมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา!”ด้วยเพราะคำพูดของลิเลียน ทำให้ออทัมน์และครอบครัวของเธออารมณ์ดีสดใสขึ้น‘ยืมเงินเขามาแล้วแสร้งทำเป็นรวย' มาดูกันว่าฮาร์วีย์จะจ่ายคืนได้ยังไง!’แมนดี้มองฮาร์วีย์ด้วยสายตาแปลก ๆ ไปเธอไม่รู้ว่าฮาร์วีย์เอาเงินมาจากไหน แต่เธอไม่เชื่อว่าเขายืมเงินมาและแน่นอนว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่จะตกลงมาจากฟากฟ้าได้! เป็นไปไม่ได้ที่คน ๆ หนึ่งจะกู้เงินถึงหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์!แม้ว่าฮาร์วีย์จะยืมเงินมาจริง เขาก็ต้องใช้กว่าจะได้เงินมา แต่เขาไม่ได้โทรไปหาใครเลย แมนดี้ตอบออกไปช้า ๆ พร้อมระงับความอยากรู้ของเธอไว้ “คุณแม่ คุณป้าเรเยส หนูไม่เคยคิดที่จะรังแกใคร แต่ทุกคนก็เห็นแล้วว่าใครเป็นคนดื้อรั้นและคอยสร้างปัญหา”“คนอื่นรังแกหนูไม่เป็นไร แต่ตอนนี้หนูกลายเป็นคนพาลโดยที่ไม่ทำอะไรเธอเลยอย่างนั้นเหรอคะ?”เห็นได้ชัดว่าแมนดี้กำลังโกรธ เอมิเล
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข