“แล้วตอนนี้เราควรทำอย่างไรดี?” ไคล์รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย พวกเขามาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องบางอย่างและไม่ได้นำของขวัญมาด้วย ในตอนนี้แม้แต่คุณย่าเยตส์ก็ยังออกมาต้อนรับพวกเขา มันคงจะแปลกถ้าพวกเขายังอยู่ในรถใช่ไหม? ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่งและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะก้าวลงจากรถ หลังจากนั้นเชลดอนจึงกล่าวแสดงความยินดี “คุณย่าเยตส์ ผมมาโดยไม่ได้รับเชิญ ยังไงผมก็ขอให้คุณพบเจอแต่เรื่องดี ๆ และมีความสุขนะครับ!” ไคล์กล่าวเสริมอีกว่า “ผมขอให้คุณย่าเยตส์มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตลอดไปนะครับ!” คุณย่าเยตส์ตื่นเต้นมากจนร้องตะโกนออกมาว่า “เยี่ยมมาก ๆ มันช่างเยี่ยมมาก ๆ!” อยู่หลายครั้ง เหล่าลูกหลานตระกูลเยตส์ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ถึงตำแหน่งและสถานะของชายทั้งสองคนเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเยตส์จะสามารถเปรียบเทียบได้เลยเนื่องจากยังห่างชั้นกันมากเกินไป พวกเขาทั้งสองทำให้ตระกูลเยตส์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ตั้งใจที่จะมาวันเกิดวันนี้และไม่มีของขวัญมาเลยก็ตาม แต่ทว่าคุณย่าเยตส์ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย การปรากฏตั
ในตอนนี้ภายในรถออดี้เอ6 เบาะหลังของรถมีร่างของบุคคลที่น่าเคารพกำลังนั่งอยู่ทั้งสองคนอยากที่จะลุกขึ้นยืนเมื่อพวกเขาเห็นว่าฮาร์วีย์กำลังเปิดประตูรถ แต่พวกเขาก็ถูกหยุดไว้ก่อน“ไปนั่งเถอะ”ฮาร์วีย์โบกมือของเขาถึงแม้ว่าเขาจะพูดอย่างเรียบง่าย แต่เชลดอน ซาเวียร์ก็ยังให้คนขับรถขับเข้าไปในหน่วยราชการของเซาท์ไลท์และต่อมาพวกเขาจึงเข้าไปยังห้องด้านข้างเพื่อประชุมเป็นการส่วนตัวสถานที่แห่งนี้ไม่ได้หรูหราแถมค่อนข้างเก่า แต่ชาที่เสิร์ฟโดยพนักงานกลับเป็นชาชั้นเลิศฮาร์วีย์หยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาและจิบชาอย่างเรียบง่ายพร้อมกับกล่าว “ผู้อาวุโสซาเวียร์ ที่คุณต้องการพบผมมีเรื่องเร่งด่วนอะไรเหรอครับ?”ในด้านของไคล์ ควินแลน ฮาร์วีย์เพียงแค่พยักหน้าให้เขาอย่างเรียบง่ายเพื่อเป็นการทักทายไคล์ยิ้มและพูด “เจ้าชายยอร์ก ผมได้ยินมาว่าเมลิสซา ลีโอและคนอื่น ๆ ได้ออกไปจากเซาท์ไลท์แล้วและทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลยอร์กตอนนี้ได้ถูกโอนไปยังสกาย คอร์ปอเรชั่นแล้ว”“เพราะฉะนั้นผู้ที่ดูแลตระกูลยอร์กอยู่ตอนนี้คือโยนาธาน ยอร์กใช่ไหมครับ?”ฮาร์วีย์ตอบกลับอย่างเฉยเมย “ใช่”เชลดอนกล่าวต่อ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าชายยอร์กจะทำอะไร
สีหน้าของเชลดอน ซาเวียร์ไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาถอนหายใจและเมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่เขาจึงเอ่ยขึ้นมา “สถานะภาพของคน ๆ นี้สูงเกินไป!”“ผมได้ยินมาว่าแม้กระทั่งหัวหน้าใหญ่ของประเทศ H ยังสรรเสริญเขาและตั้งใจชวนเขาไปที่กองทัพโวลซิ่งในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอน…”“ปล่อยให้เขาทำตามใจเขาเถอะ!”“สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการยับยั้งครอบครัวและลูกน้องของเราไม่ให้โจมตีเขา”ไคล์ ควินแลนเหงื่อแตกพลั่กทันที จากนั้นเขาจึงรีบลุกขึ้นยืนและพูด “ใช่ครับ ขอบคุณที่เตือนผมนะผู้อาวุโสซาเวียร์ คนในตระกูลของผมมักจะขาดวินัยและทำประพฤติตัวไม่ดีเท่าไหร่ ตอนนี้ผมคงต้องกลับไปเตือนพวกเขาแล้ว”***ในขณะเดียวกันฮาร์วีย์กลับมายังโรงแรมบัควู้ดงานเลี้ยงวันเกิดใกล้ที่จะสิ้นสุดลงแล้วแต่เพราะมีผู้อิทธิพลสองคนในเซาท์ไลท์เดินทางมาเพื่อฉลองวันเกิดให้กับนายหญิงชรา…หลังจากที่ได้ยินข่าวข้าราชการหลายคนจากเซาท์ไลท์และบัควู้ดได้มาเพื่อมอบของขวัญแสดงความยินดีด้วยตัวเองโดยเฉพาะหัวหน้าสารวัตรอย่างมาร์วิน บราวน์จากบัควู้ดยังได้ตัดสินใจเลื่อนขั้นให้กับฟินน์ เยตส์ให้เป็นรองหัวหน้าสารวัตร ณ ที่นั้นหลังจากที่เรื่องนี้ถูกรับรองแล้ว ทำ
คุณย่าเยตส์จ้องมองไปที่ไซม่อน ซิมเมอร์และลิเลียนเยตส์อีกครั้งหลังที่จะพูด จากนั้นเธอกล่าวต่อว่า “พวกเธอทั้งสองควรอบรมเขาให้มากกว่านี้นะ!”“ในเมื่อตอนนี้แมนดี้มีอนาคตที่ดีแล้ว!”“อย่าปล่อยให้เขาส่งผลกระทบต่ออาชีพของแมนดี้ บางอย่างควรที่จะถูกตัดสินให้เร็วที่สุด!”เห็นได้ชัดว่าคุณย่าเยตส์เชื่อว่าตระกูลเยตส์จะกลายเป็นตระกูลชนชั้นสูงในอีกไม่นานเพราะอย่างนั้น เธอจึงไม่ควรชื่นชอบในตัวของลูกเขยเกาะเมียกินอย่างฮาร์วีย์!แม้ว่าฮาร์วีย์จะมอบโอสถบำรุงปอดแผนโบราณให้กับเธอก็ตามท้ายที่สุดแล้วเธอได้เห็นศักยภาพกับอนาคตของเด็กรุ่นใหม่และไม่ใช่อย่างอื่น ไซม่อนและลิเลียนเข้าใจคำพูดของเธออย่างชัดเจนและพูดออกมาอย่างขมขื่นในตอนนั้น “ค่ะคุณแม่ พวกเราทราบแล้ว!”ไม่นานหลังจากที่แมนดี้และครอบครัวของเธอกลับไป... คุณย่าเยตส์พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่หนักแน่น “คีธ คิดยังไงบ้างกับพวกเขา?”คีธ เยตส์ใช้เวลาคิดชั่วครู่และพูด “ไซม่อนและลิเลียนไม่มีอนาคตไปมากกว่านี้แล้ว!”“แต่แมนดี้ เธอกำลังไปได้ดี!”“แค่น่าเสียดายที่เธอมีสามีอย่างนั้น มันเลยทำให้ผมไม่มีความประทับใจในตัวเธอ”คุณย่าเยตส์ถอนหายใจและพูด “ใช่ ฉัน
ไซม่อน ซิมเมอร์ขมวดคิ้วอย่างหนักแน่นเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น “มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ตาเฒ่าคนนั้นไม่ปล่อยให้เราไปหรอก!”“โดยเฉพาะเมื่อเราเอาทรัพยากรและโครงการต่าง ๆ ไปด้วย!”“ของอย่างนี้มันซับซ้อนเกินไป!”แมนดี้ค่อย ๆ ขมวดคิ้วและพูด “เห็นด้วยว่าการออกจากตระกูลซิมเมอร์เป็นทางเลือกที่ดีแต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย!”แมนดี้รู้จักตระกูลซิมเมอร์เป็นอย่างดีในตอนแรกตระกูลนี้ไม่ได้มีศักยภาพมากในตอนแรก พวกเขาเพียงแค่เป็นปลิงดูดเลือดที่เก่งกว่าคนอื่น ๆ ก็เท่านั้นถ้าเธอต้องการที่จะขีดเส้นแบ่งระหว่างพวกเขา อย่างน้อยเธอก็ต้องทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ไม่อย่างนั้นมันคงจะเป็นเรื่องยากกว่าเดิมทันใดนั้นฮาร์วีย์ก็พูดขึ้น “แมนดี้ คุณทำในสิ่งที่คุณต้องการเถอะ ทำอย่างกล้าหาญผมจะคอยสนับสนุนคุณเอง!”แมนดี้ยิ้มให้ฮาร์วีย์หลังจากที่ได้ยินคำพูดสนับสนุนจากเขา สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธอชอบเกี่ยวกับฮาร์วีย์ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจทำอะไร ฮาร์วีย์จะคอยสนับสนุนเธอเสมอแต่ท่าทางของไซม่อนและลิเลียนกลับแปลกไปพวกเขาสงสัยว่าฮาร์วีย์โง่จริง ๆ หรือว่าแกล้งทำ‘ถ้าแมนดี้อยากที่จะเป็นอิสระจากภาระอย่างตระกูลซิมเมอร์ สิ่งต่
ตามข่าวลือ เจ้าชายยอร์กรู้อยู่แล้วว่าก่อนหน้านี้ตระกูลเยตส์ ตระกูลร็อบบินส์ ตระกูลเซอร์เรย์และตระกูลคลาวด์ทั้งหมดได้เริ่มลงมือลับหลังเขาแล้วตอนนี้เจ้าชายยอร์กได้กลับมาอย่างแข็งแกร่งและมันอาจส่งผลให้ทั้งตระกูลชนชั้นสูงทั้งสี่ตระกูลนอนไม่หลับ***ณ ทะเลสาบมูนในบัควู้ด ที่นี่เป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์ระดับห้าดาวแต่เมื่อหลายปีที่แล้วพื้นที่หลักของจุดชมวิวในสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นคลับส่วนตัวในตอนนี้พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยการ์ดหลายร้อยคนยืนกระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ถึงกับมีพลซุ่มิงซุ่มอยู่ในเงามืด พร้อมกับที่มีจุดแดง ๆ กวาดไปมาอยู่ทั่วพื้นที่เป็นครั้งคราววันนี้จุดชมวิวแห่งนี้ถูกปิด มีการประกาศสู่สาธารณะว่าสถานที่แห่งนี้กำลังอยู่ในระหว่างการบำรุงรักษา แต่แท้จริงแล้วมันถูกปิดเพราะการเหมาสถานที่มีการติดตั้งสัญญาณรบกวนมากมายบริเวณรอบ ๆ จุดชมวิว เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการใช้โทรศัพท์ในสถานที่แห่งนี้ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจะหยุดทำงานเมื่ออยู่ที่นี่ในขณะนี้ บนเกาะเล็ก ๆ ใจกลางจุดชมวิวมีชายสี่คนกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกันมีคนวัยหนุ่มหลายคนยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขาคุณย่าเ
ตอนนี้อยู่ ๆ เหยื่อตกปลาของสตีเฟ่น ยอร์กก็ขยับอย่างช้า ๆทันทีที่เขาเหวี่ยงแขนของเขาขึ้นมา เขาได้เห็นปลาอะโรวานาสีเงินตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาเข้าและตกลงบนฝั่งเมื่อเห็นว่าปลาอะโรวานาสีเงินกำลังดิ้น ใบหน้าของผู้นำทั้งสี่ดูงงงวยสตีเฟ่นที่กำลังมองภาพตรงหน้าด้วยความสนใจอย่างสูง เขาแค่วางคันเบ็ดของเขาลงหลังจากที่เห็นว่าปลาอะโรวานาสีเงินตาย หลังจากนั้นเขาปรบมือของเขา หันมาและส่งยิ้ม เขากล่าว “ผู้นำทุกคน คิดเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในบัควู้ดเมื่อเร็ว ๆ นี้?”คุณย่าเยตส์ที่มึนงงเล็กน้อย เธอเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา “พูดถึงเรื่องนี้ ฉันมีคำถามที่อยากจะถามนายน้อยยอร์กเหมือนกัน ทำไมข่าวลือภายนอกระบุว่าตระกูลยอร์กไม่มีอำนาจคงเหลืออยู่อีกต่อไปและทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลยอร์กถูกสกาย คอร์ปอเรชั่นยึดไป?”สตีเฟ่นยิ้มอย่างมีนัยและพูด “แค่เพราะว่าเราแพ้เกมก็เท่านั้นและคืนบางอย่างให้กับพี่ชายคนโตของผม แต่การเสียทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยเพื่อแลกกับการที่ได้รู้เรื่องจริงบางอย่างก็ไม่เลว”คุณย่าเยตส์ขมวดคิ้วและพูด “นายน้อยสตีเฟ่น เมื่อสามปีที่แล้วเจ้าชายยอร์กอาจจะโดดเด่นจริง ๆ !”“แต่ในวัน
เมื่อมองไปยังผู้นำทั้งสี่ สีหน้าของพวกเขาดูเคร่งเครียดอย่างมากแต่ทันใดนั้นสตีเฟ่น ยอร์กก็เผยรอยยิ้มออกมาและพูด “มันค่อนข้างน่าสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณแสดงท่าทีจริงจังขนาดนี้ในรอบหลายปี”“ดูเหมือนว่าครั้งนี้ คน ๆ นั้นได้สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับพวกคุณ!”เอริคหัวเราะหลังจากที่ฟังถ้อยคำของสตีเฟ่น “นายน้อยสตีเฟ่น พวกเรารู้สึกกดดัน พวกเรากลัวว่าพวกเราจะไม่สามารถจัดการกับคน ๆ นี้ได้ภายในระยะเวลาที่จำกัด”เจมส์ เซอร์เรย์ยิ้ม “ไม่ต้องกังวลหรอกครับนายน้อยสตีเฟ่น พวกเราอยู่ในเซาท์ไลท์มานานหลายปี”“อย่าว่าแต่ไอ้เด็กอวดดีนั่นเลย แม้แต่จักรพรรดิก็ไม่สามารถทำให้ผมสั่นคลอนได้!”“มากไปกว่านั้นพวกเราไม่รู้สึกกังวลเลย ในเมื่อเรามีนายน้อยสตีเฟ่นที่คอยวางกลยุทธ์อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง!”คัลลัม ร็อบบินส์เผยรอยยิ้มและพูด “ใช่แล้วครับ ถ้าคน ๆ นั้นเคลื่อนไหวเพื่อจัดการกับใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มพวกเรา พวกเราอาจถูกโค่นลงโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น”“แต่ในตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าเขาต้องการที่จะโค่นล้มพวกเราทั้งหมดลงด้วยกัน มันจะเป็นไปได้ยังไง?”เห็นได้ชัดว่าคัลลัมและคนอื่น ๆ มีความมั่นใจในตัวเองสูงตระกูลชน
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข