ฮัลค์ แฮงก์ตกตะลึงกับคำว่า “นายน้อยที่ถูกทอดทิ้ง”เขาค้างไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจ‘ต้องเป็นตระกูลยังไงถึงกล้าทอดทิ้งคน ๆ นี้?’‘พวกเขาไม่รู้ว่าเหรอตระกูลของพวกเขาได้เสียโอกาสที่จะเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ บนโลก?’ในเวลาต่อไป เขาหยิบวิทยุสื่อสารของตัวเองออกมาและออกคำสั่งชู้วว…เสียงจากด้านนอกและบนท้องฟ้าดังขึ้นก้องไปหมด ปลายกระบอกปืนได้เปลี่ยนทิศทางของมันและทั้งหมดถูกชี้ไปยังโยนาธาน ยอร์ก, จอห์น ก็อตติและคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ฮัลค์ไม่ได้สนใจอะไรเมื่อเขาทำงานให้กับโยนาธาน แต่ตอนนี้เขากลับจริงจังอย่างมาก เขาคงจะไม่จริงจังขนาดนี้ถ้าเขาอยู่ในสนามรบในตอนนี้การแสดงออกของโยนาธานและจอห์นมืดหมองสนิทพันธมิตรเมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้หันปลายกระบอกปืนมายังพวกเขาทันทีโดยปราศจากจุดบอดแม้แต่จุดเดียว!พวกเขาที่เคยหยิ่งผยองและตอนนี้พวกกลับกำลังอยู่ในความสิ้นหวัง!ชีวิตก็เหมือนละคร!และนี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ!จอห์นเป็นคนแรกที่ยอมจำนนด้วยแรงกดดันมหาศาลเขายกมือทั้งสองข้างและถอนหายใจออกมา“เจ้าชายยอร์กในเหตุการณ์นี้ ฉันมาที่นี่เพื่อชายชราจากตระกูลของคุณนะ!”“เม
โยนาธานอดที่จะคิดไม่ได้เลยว่าตระกูลยอร์กจะเป็นอย่างไร ถ้าก่อนหน้านั้นเขาไม่ต่อต้านฮาร์วีย์?การเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ในเซาท์ไลท์นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น!บางทีพวกเขาอาจสยบโลกทั้งใบได้และอยู่เหนือกว่าใครและโยนาธานอาจจะได้เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีสถานะสูงสุดในโลกและผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่แต่เขาพลาดโอกาสนั้นไป!และไม่มีทางย้อนกลับไปแก้ไขได้!และตอนนี้เขาต้องชดเชยสิ่งนั้น!ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเจ้าชายยอร์ก ผมวางแผนที่จะทำให้ตระกูลยอร์กเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก!”“และสักวันหนึ่ง ขึ้นไปสู่อันดับสูงสุดของโลกที่สุดยอดที่สุดเพียงหนึ่งเดียว!”“แต่เมื่อแผนของผมสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว คุณกลับทำอะไรลงไป?”“โยนาธาน ผมขอถามอะไรหน่อย คุณเคยเสียใจกับสิ่งที่คุณเลือกทำลงไปไหม?”กายของโยนาธานเริ่มอ่อนแรง แต่ความจองหองในความเป็นผู้นำของงเขาก็ไม่ทำให้เขายอมคุกเข่าลงง่าย ๆจากนั้นเขาก็พูดช้า ๆ ว่า “ฮาร์วีย์… ไม่สิ… เจ้าชาย…”“เมื่อสามปีที่แล้วพวกเราคิดผิด! แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป!”“ฉันจะไปขอร้องต่อหน้าคุณย่ายอร์ก เธอจะยอมให้นาย
“หัวหน้าผู้ฝึกสอนครับ เราได้รับข่าวจากลูกน้องที่ลานซิลเวอร์นิมบัส”“เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธพาบุคคลสำคัญสองสามคนจากตระกูลออกไปแล้ว จะให้ทำยังไงต่อไปดีครับ?!” อีธานเดินเข้ามารายงานอย่างเบา ๆ“เมลิสซาหนีไปแล้วเหรอ?”สีหน้าของฮาร์วีย์ยังนิ่งเฉย“ไปดูกันเถอะ…”ไม่นานผู้คนกลุ่มหนึ่งออกมาจากด้านหลังลานซิลเวอร์นิมบัสบรรยากาศลานซิลเวอร์นิมบัสดูมืดมัวหดหู่ พวกยอร์กยังไม่ได้ออกไปสักคนแต่เมลิสซา ควินตัน สตีเฟน และควีนนี่ กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพวกหมาป่าเดียวดายเดินตามหลังติด ๆ แม้จะไม่มีคำสั่งจากฮาร์วีย์ แต่พวกเขาก็ปิดกั้นทั่วบริเวณลานซิลเวอร์นิมบัสทั้งหมดไว้แล้วพวกยอร์กคุกเข่าลงต่อหน้าเขา คร่ำครวญขอความเมตตา“เมลิสซาอยู่ไหน?” ฮาร์วีย์ถาม“คุณย่ายอร์กรู้เรื่องเข้าและรีบร้อนออกไปทันที”“แต่เธอฝากบอกอะไรไว้...” ใครบางคนจากยอร์กพูดขึ้นมาอย่างลังเล“บอกว่า…”“คุณย่ายอร์กบอกว่ามันยังไม่จบแค่นี้ และเธอจะเล่นกับคุณไปจนจบเรื่องนี้!”คนที่พูดตัวสั่นทันทีหลังจากเขาพูดจบ กลัวว่าชีวิตของเขาจะจบลงตรงนี้เพราะฮาร์วีย์ฮาร์วีย์หรี่ตาลง จากนั้นสายตาก็มองไปยังโยนาธาน“กระจายข่าวออกไป พวกยอร์กจ
“ครั้งนี้ฉันประเมินเด็กอวดดีนั่นต่ำไป!”“ฉันคิดว่ามันจะไม่มียศศักดิ์อะไรแล้วหลังจากถอนตัวจากกองทัพ!”“ฉันไม่คิดว่ามันจะมีเครือข่ายแบบนี้!”“แต่ของอย่างนี้ไม่ช้าก็เร็วก็คงหมดไป”“นั่นเพราะเราไม่สามารถโต้กลับอะไรได้ในตอนนี้ ให้รอจนกว่าสกาย คอร์ปอเรชั่นพังพินาศลง…”“ฉันให้สตีเฟนควบคุมเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลเฟิร์สคลาสทั้งสี่ตระกูล ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ ฉันจะคุยกับเขาเอง!”เมลิสซาเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เธอได้ตระเตรียมไว้ทุกอย่างสำหรับออกจากบัควู้ดควินตันขมวดคิ้วและพูดว่า “แต่…”“ควินตัน นายชอบหมากรุก งั้นนายต้องรู้เรื่องนี้”“ชีวิตก็เหมือนหมากรุก เรายอมแพ้ในการต่อสู้เพื่อที่เราจะสามารถชนะสงครามได้!“นายยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องทำในฮ่องกง ทิ้งเซาท์ไลท์ให้สตีเฟ่นจัดการ!”“เอาล่ะ!”ควินตันไม่กล้าที่จะแย้งเมื่อพวกเขาทั้งหมดเดินออกมา ทุกคนก็คุกเข่าลงต่อหน้าพวกเขาตรงหน้าเรือยอร์ช“ทำความเคารพคุณย่ายอร์ก!”***เมื่อฮาร์วีย์และซีนเธียร์กลับถึงบ้าน ไซม่อนและลิเลียนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นลิเลียนโพล่งขึ้นมาอย่างโกรธจัด “แก! แกทำตัวว่างงานทุกวัน! ไม่เห็นเหรอ
ไซม่อนและลิเลียนต่างรู้สึกเกรงกลัวตระกูลชั้นนำอย่างตระกูลยอร์กไซม่อนเคยถูกรุมทำร้ายในบ่อนการพนันมาก่อน เหงื่อที่เย็นยะเยือกไหลลงมาตามร่างกายของเขาเมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์นั้นเขาคุกเข่าลงและดุด่าฮาร์วีย์อกไปว่า “ฮาร์วีย์ ไอ้คนโสโครก! แกพยายามจะฆ่าพวกเราทุกคนหรือไง?!“รีบคุกเข่าลงซะ! นายท่านเวย์นเป็นคนใจกว้างพอ เขาคงจะลืมเรื่องนี้และอาจให้อภัยคุณ…”“นายท่านเวย์น ทุกอย่างเป็นความผิดของไอ้ขยะนี่ คุณสามารถทำทุกอย่างที่คุณต้องการกับเขาได้เลย ได้โปรดอย่าโยนปัญหานั้นมาให้กับฉันเลย!”ลิเลียนกระโดดเกาะแขนแมนดี้ เธอมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยใบหน้าซีดราวกับผี“ไอ้สารเลว ขอโทษนายท่านยอร์กเดี๋ยวนี้! เราไม่สามารถชดใช้ผลที่ตามมาได้!”“ครอบครัวเราโชคร้ายจริง ๆ ! ที่พวกเราได้ลูกเขยอย่างแก!”ลิเลียนน้ำตาซึมในเวลาต่อมา ภาพเงาที่ปกคลุมไปด้วยผ้าพันแผลถือค้ำไม้เท้าที่แทบจะไม่สามารถผลักประตูเดินเข้ามาข้างในได้ไซม่อนและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงจนไม่เชื่อสายตาของพวกเขาเวย์นไม่ต่างอะไรกับมัมมี่เลยแมนดี้พูดออกมา “เวย์น ยอร์ก นี่ไม่เกี่ยวกับพ่อแม่ฉัน ฉันจะให้อธิบายคุณเอง!”ไซม่อนและลิเลียนตัวสั่นทำอะไรไม่ถู
“คงจะเป็นแบบนั้น!”“ผมเคยได้ยินว่าคนใหญ่คนโตล้วนแล้วแต่เป็นคนสุภาพ!”“โยนาธานเป็นผู้นำตระกูลยอร์ก ผมได้ยินมาว่าเขาเพิ่งได้ตำแหน่งกลับมาดูแลตระกูลเมื่อวานนี้!”“ในสายตาของคนใหญ่โตแบบนั้นคงไม่ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้!”“ลูกชายของเขาควรมาขอโทษเพราะนั่นคือความผิดของเขา!”ไซม่อนถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรู้สึกประทับใจในความมีเมตตาและมารยาทของโยนาธานจากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูดว่า “ด้วยการเลี้ยงดูที่ดีจากครอบครัว เวย์นจะมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน!”“ใช่! คงจะดีถ้าเขาได้มาเป็นลูกเขยของเรา!” ทั้งไซม่อนและลิเลียนต่างโพล่งปากพูดออกมาพวกเขาโลภทั้งเงินและยศฐานบรรดาศักดิ์ และพวกเขายังหลงรักผู้มีฐานะสูงแบบนี้แม้ว่าเวย์นจะทำเรื่องแบบนั้นลงไป พวกเขาก็ยังหวังว่าจะได้ใกล้ชิดกับเขามากกว่านี้แมนดี้ขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าเรื่องต่าง ๆ ไม่น่าจะง่ายดายแบบนั้น แต่เธอก็ไม่สามารถบอกถึงต้นต่อสาเหตุได้ตระกูลยอร์กเป็นตระกูลที่เป็นอันดับสูงสุดในเซาท์ไลท์ เธอไม่คิดว่าตระกูลยอร์กจะจบลงด้วยฝีมือฮาร์วีย์ได้ง่าย ๆ“เอาล่ะ ก็ได้ ปล่อยให้อดีตผ่านไป! มันคงไม่ดีถ้าพวกยอร์กจำพวกเราได้!”“คุณพ่อคุณแม่คะ หยุดคิดเรื่
ลิเลียนชี้นิ้วไปที่ฮาร์วีย์ “แกรู้ไหมว่าการเป็นผู้บัญชาการลำดับสามของมณฑลมันหมายความว่ายังไง?”“มันหมายความว่าถ้าเขาต้องการมัน ตระกูลเยตส์ก็จะเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ตระกูลต่อไปของเซาท์ไลท์!”“ลูกเขยอย่างแกจะไปรู้อะไร แต่แกยังพูดพล่ามเหลวไหลพวกนี้อีก!”“ฉันเตือนแกแล้ว เมื่อเราไปถึงตระกูลเยตส์แกควรระวังปากไว้ด้วย! ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่ายๆ แน่!”แม้ลิเลียนจะมีสีหน้าโกรธจัด แต่ท่าทีของฮาร์วีย์ยังนิ่งไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อใดก็ตามที่ฮาร์วีย์อยู่กับผู้บัญชาการสูงสุดแห่งของเซาท์ไลท์ คนอื่น ๆ จะต้องคำนับให้ความเคารพฮาร์วีย์และแน่นอนผู้บัญชาการลำดับสองแห่งเซาท์ไลท์ก็คงไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับฮาร์วีย์แล้วผู้บัญชาการลำดับสามจะมีค่าให้เขาเกรงกลัวได้อย่างไร?ในขณะนั้นซีนเธียร์ที่อยากจะให้เรื่องทุกอย่างราบรื่นพูดว่า “คุณพ่อคุณแม่คะ เมื่อกี้พี่เขยอาจจะพูดจาไม่สุภาพ แต่เขาก็ยังให้เกียรติตระกูลเยตส์มาก ใช่ไหม?”ฮาร์วีย์พยักหน้า “ใช่ครับ”ความโกรธของลิเลียนก็ลดลง “งั้นก็ดี!”“อย่าลืมเลือกของขวัญที่ดีที่สุด! ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ฉันโทษแกคนเดียว!”ฮาร์วีย์พยักหน้าอีกครั้ง เขาห
ในเวลาเดียวกันซีนเธียร์มาถึงตลาดของโบราณที่มีชื่อเสียงในบัควู้ดเมื่อพูดถึงของขวัญที่จะต้องจัดเตรียมให้คุณย่าเยตส์ ของขวัญจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอนซีนเธียร์ถือบัตรที่แมนดี้ให้เธอไว้ ต้องหาของที่ดีที่สุดในตลาดแห่งนี้ไม่นานหลังจากนั้นเธอสนใจชามกระเบื้องบนโต๊ะแคชเชียร์ เธอพิจารณาและกำลังจะถามรายละเอียดเกี่ยวกับชามใบนั้นทันใดนั้นชายสองคนก็เดินเข้ามาหนึ่งในนั้นคว้าชามลายครามที่ซีนเธียร์สนใจ อีกคนพูดกับพนักงานต้อนรับว่า “เราต้องการชามกระเบื้องพวกนี้”“เฮ้! คุณไม่รู้กฎของ ‘มาก่อนได้ก่อน’ ในวงการธุรกิจหรือไง? คุณไม่เห็นหรือว่าฉันต้องการของสิ่งนี้ก่อน?”ซีนเธียร์ตะโกนเสียงดังทันทีชายทั้งสองหันกลับมามอง พวกเขามีใบหน้าเหมือนกับพวกอเมริกัน มีผมเงาและใบหน้าขาวเหมือนแป้งหนึ่งในนั้นมองซีนเธียรหัวจรดเท้าพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงต่างประเทศ “เด็กน้อย ถ้วยชามนี้เป็นสมบัติของประเทศ J ของเรา! เป็นเรื่องปกติที่เราจะซื้อกลับบ้าน!”“พวกคนประเทศ H คงไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของมัน…”ซีนเธียร์ชะงัก ผู้ชายพวกนี้เป็นพลเมืองของประเทศ J งั้นเหรอ?ถ้าพวกเขาต้องการซื้ออะไรก็แค่ซื้อมัน! แต่พวกเขามาบอกสินค
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข