เป็นไปได้ไหมที่ฮาร์วีย์จะยังมีคนเก่ง ๆ ซ่อนไว้?!ลีออน ซิลวาค่อย ๆ นึกบางอย่างที่ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวได้…ฮาร์วีย์ ยอร์กหันไปหามาร์กี้ คลาวด์และค่อย ๆ พูดอย่างเย็นชา “คุณมาที่สุสานของวิลเลียมโดยที่ไม่มีทีท่าสำนึกผิดต่อเขาเลยเหรอ? ไม่คิดว่าวิลเลียมจะกำลงมองคุณลงมาจากสวรรค์เหรอ?”ความจริงแล้ว มาร์กี้ค่อนข้างรู้สึกผิดเล็กน้อยในตอนนี้แต่เธอก็ยังเงยหน้าของเธอขึ้นมาด้วยท่าทีหยิ่งยโสราวกับนกยูง “ฮึ่ม! ดีแล้วที่เขาตาย! ถ้าเขาไม่ตาย ทุกวันนี้ฉันจะสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตที่หรูหราอย่างนี้ได้ยังไง? ต้องขอบคุณเขาเลย!”“ในฐานะที่เป็นคนคั่นเวลา เขาโชคดีแล้วที่ทำบางอย่างให้กับตัวเองได้!”ฮาร์วีย์พูดต่ออย่างเย็นชา “งั้นคุณก็ไม่มีความรู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียวใช่ไหม?”“แน่นอน!”ฮาร์วีย์หันไปหาตระกูลซิลวา “แล้วพวกนายทั้งหมดล่ะ? พวกนายยอมที่จะคุกเข่าลงหน้าตาสุสานของวิลเลียมและสารภาพบาปของตัวเองหรือเปล่า?”“ชิ! คนหนึ่งก็เป็นแค่โดนสวมเขาและอีกคนหนึ่งก็โดนสวมเขาเช่นกันแต่แค่ตายไปแล้ว ดังนั้นมีอะไรให้สารภาพบ้าง?”คนของตระกูลซิลวาต่างแสดงความคิดเห็นอย่างเย้ยหยัน ด้วยการเรียกฮาร์วีย์และวิลเลียมว่าโดนส
“อะไรนะ?!”หลังจากที่ได้ยินชื่อของพวกเขา ทุกคนที่นั่นราวกับถูกฟ้าผ่าตระกูลซิลวาต่างรู้สึกงงงวยเป็นพิเศษและใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไปอย่างมากพวกเขาไม่ได้โง่ พวกเขารู้ดีกว่าคนที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ต่างเป็นตัวแทนเมื่อสามปีที่แล้วมันคงจะไม่เป็นเรื่องใช้ถ้าพวกเขาจะมาด้วยตัวเอง แต่เรื่องสำคัญก็คือ พวกเขายังพาคนจำมากมายตามพวกเขามาอีกด้วยเมื่อก่อน คนเหล่านี้เป็นนักสู้ที่มีชื่อเสียง แม้ว่าพวกเขาจะเกษียณจากท้องถนนมาแล้วหลายปี แต่พวกเขายังคงทรงอิธิพลและมีชื่อเสียง พวกเขายังคงมีศักศรีที่เหนือจินตนาการบนท้องถนนแห่งเมืองบัควู้ดด้วยสายตาของอดีตหัวหน้าอันธพาลเหล่านี้ บราเทอร์ลียงก็เป็นเพียงแค่ลูกน้อยที่ไม่มีความสำคัญคนหนึ่งช็อปเปอร์ ลียงนึกว่าเขาจะต้องกำลังเป็นบ้าแน่ ๆ ตอนนี้ทำไมคนเหล่านี้ถึงมาที่นี่กันถึงแม้ว่าเขาจะเป็นที่รู้จักในนามอันธพาลผู้นำสูงสุดบนท้องถนนของเมืองบัควู้ด แต่ชายเหล่านี้สามารถบดขยี้เขาให้แหลกเป็นชิ้นได้อย่างง่ายดายเพียงหนึ่งประโยค จากนั้นเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!บนท้องถนน ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ใครที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดเป็นคนที่สามารถออ
เมื่อพวกเขามาถึงหลุมศพของวิลเลียม พวกเขาทักทายฮาร์วีย์ด้วยการพยักหน้าก่อนจะเข้าไปเคารพหลุมศพวิลเลียม จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปหาชอว์นและภรรยาของเขาเพื่อแสดงความเสียใจก่อนหน้านี้ ชอว์นไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใครทว่า หลังจากเขาอยู่ในสลัมมาสามปี เขาจึงรู้ดีว่าพวกอันธพาลตามท้องถนนเป็นอย่างไร เหมือนกันกับตัวตนของพวกมาใหม่พวกนี้จู่ ๆ เขาก็ร้องไห้ออกมาและพูดว่า “วิลเลียม ลูกเห็นไหม? ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกใต้ดินของเมืองบัควู้ดวางดอกไม้ขอขมาต่อหน้าหลุมศพของลูกแล้ว!”คู่สามีภรรยาสูงวัยเริ่มร้องไห้ออกมา แม้ว่านี่จะเป็นการให้เกียรติ แต่ลูกชายของพวกเขาตายไปแล้ว เขาตายไปเมื่อสามปีก่อนคนตายไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ แม้ว่านี่จะเป็นการไว้อาลัยที่วิจิตรบรรจง แล้วมันจะสำคัญอะไร?เมื่อเห็นอดีตหัวหน้าแก๊งอันธพาลอย่างนายใหญ่ซีซาร์นำดอกไม้มาขอขมาวิลเลียม เลือดที่ไหลเวียนในตัวของ ช็อปเปอร์ ลียง และลูกน้องที่เหลือต่างทำให้หนาวเหน็บพวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งเป็นเวลาหลายพันปีพวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมคนอย่าง จอร์จ ซาเบล และ โอลด์ ไนเนอร์ ถึงทำงานให้กับฮาร์วีย์…ผู้ชายที่ฉลาดอย่างจอร์จผู้ซึ่งมีข
แววตาลีออนเปลี่ยนไป ทำให้ช็อปเปอร์ได้สติ เขาโบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องของเขา ทำให้พวกลูกน้องได้สติและหันไปมองฮาร์วีย์ด้วยแววตามาดร้ายในขณะเดียวกัน ฮาร์วีย์เหลือบมองไทสัน ไทสันโน้มตัวเอามือลงขนาบข้างด้านหลังฮาร์วีย์ ชายสี่คนก่อนหน้านี้ยังคงยืนก้มหน้าอยู่ เมื่อมองไทสัน พวกเขาทั้งหมดก็ก้าวเดินออกไปข้างหน้า“เริ่มสิ” ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ใส่ใจ แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะดูสบาย ๆ แต่สำหรับไทสันแล้ว มันฟังดูเหมือนพระราชโองการ“ครับ!”ไทสันไม่พูดเรื่องไร้สาระอะไรต่อ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเบอร์อย่างรวดเร็ว “ลงมือได้เลย!”เมื่อเห็นพวกซิลวาฝั่งตรงข้ามดูงุนงง ฮาร์วีย์ก็ยักไหล่แล้วพูดว่า “ขอโทษที่ให้พวกนายรอ เอาล่ะ การแสดงของวันนี้เริ่มต้นได้!”“ฮาร์วีย์!” เบรนท์ตะโกน “ไอ้สารเลว แกคิดจะทำอะไร?”“แกจะทำอะไรได้?”“แกก็เป็นแค่ลูกเขยกาฝาก! กล้าดียังไงถึงทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าตระกูลซิลวาครั้งแล้วครั้งเล่า? แกมันไร้ค่า!”ตู้ม!ทันใดนั้น ดอกไม้ไฟก็ถูกยิงขึ้นไปในอากาศ แม้จะเป็นเวลากลางวันแต่ก็ยังสว่างจ้าพวกซิลวาหยุดพูดทันทีเมื่อพวกเขาเห็นดอกไม้ไฟระเบิดแม้แต่ซิสเตอร์แฮเรียต จิ้งจอกชั่วร้าย และพ
ตู้ม ตู้ม ตู้ม…!ในตอนนี้เสียงสั่นสะเทือนของแผ่นดินก็ค่อย ๆ ดังใกล้ขึ้นมาเรื่อย ๆไม่นานทุกคนก็รู้ว่าเสียงมาจากไหนเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธนับสิบลำบินอยู่เหนือพื้นดินที่ระดับความสูงต่ำแม้ว่าจะมีเพียงสิบลำ แต่อาวุธปืนครบครบแววสังหารลอยฟุ้งติดเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธแต่ละลำเสียงสั่นสะเทือนของแผ่นดินดังขึ้นเรื่อย ๆหลายคนเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต“ดูนั่น!”อันธพาลคนหนึ่งตะโกนบอก ทำให้ทุกคนหันไปมองด้านหลังทันทีสายตาของพวกเขาเห็นมองสัตว์ใหญ่มหึมาสีดำทมึนก็ปรากฏตัวขึ้น บดขยี้รถของพวกเขาเป็นเศษเหล็กใบหน้าของทุกคนซีดลงทันทีที่เห็นสัตว์ประหยาดเหล็กใหญ่ยักษ์นั้นอย่างชัดเจนรถหุ้มเกราะ!เขาว่ากันว่ามีเพียงหน่วยทหารที่เชี่ยวชาญที่สุดเท่านั้นที่มีอยู่ในมือ แต่ ณ บัดนี้ มันกลับปรากฏอยู่ที่นี่แล้วคนจำนวนมากยืนหลังตรงอยู่บนยานเกราะติดอาวุธนั่น แต่ละคนถือดาบขนาดใหญ่ดูคล้ายราวกับหอกถึงแม้ว่าพวกเขามีจำนวนไม่มาก แต่พวกเขาก็สามารถกดดันพวกอันธพาลได้ดี“นี่คือทหาร ทหารที่จริง ๆ ด้วย…”ช็อปเปอร์ และคนอื่น ๆ รู้สึกเหมือนกับว่าหัวของพวกเขากำลังจะระเบิดนี่ไม่ใช่ระดับที่พวกเขาไปถึงแน่นอน และพวกเ
ทุกคนตื่นตระหนกกึก…รถหุ้มเกราะขนาดใหญ่หยุดห่างจากพวกเขาประมาณห้าร้อยเมตรนายทหารบนยานเกราะเหล็กก้าวเดินออกมา เคลื่อนพลไปข้างหน้าเหมือนกระแสน้ำที่โหมกระหน่ำพวกเขามีจำนวนน้อย เพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้นแต่เมื่อพวกเขาเดินออกมา รังษีของพวกเขาแผ่ออกดูน่ากลัว!แกร็ก แกร็ก แกร็ก…ใบมีดที่ยาวเหมือนหอกขูดลงบนพื้น ทำให้เกิดประกายไฟเล็ก ๆช็อปเปอร์มองไปตรงหน้าด้วยความสิ้นหวัง“นี่คือ…กองกำลังของค่ายศัสตราวุธ! ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพ แม้ว่าจำนวนคนจะน้อยไม่ถึงหนึ่งพันคน แต่กองทัพนี้เคยต่อสู้ในสนามรบของเอเชียกลาง กลยุทธ์ของพวกเขาคือหนึ่งต่อหนึ่งพัน ในที่สุดพวกเขาก็เอาชนะทหารนับล้านของคู่ต่อสู้ด้วยทหารเพียงพันนาย”“ค่ายศัสตราวุธออกรบเต็มกำลังอยู่หรือยังไง?”ช็อปเปอร์พึมพำ เขารู้สึกสิ้นหวังเมื่อพูดถึงถึงตำนานนี้หลายครั้งในสงคราม ตัวเลขไม่ใช่กุญแจสู่ชัยชนะกุญแจสำคัญอยู่ที่พละกำลังการต่อสู้ของทหารเหล่านี้ และการทำงานเป็นทีมของพวกเขา!สำหรับค่ายศัสตราวุธ แม้ว่าจะมีเพียงหนึ่งพันคนเท่านั้น แต่เชื่อกันว่าทหารที่เข้าร่วมค่ายศัสตราวุธนี้ได้มีหนึ่งในหมื่นเท่
ในตอนที่ลีออนกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป เขาก็เห็นว่าเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธกลางอากาศหยุดเคลื่อนไหวกะทันหันพวกเขาเปิดใช้งานโหมดลอยตัวและลอยอยู่กลางอากาศนิ่ง ๆ อาวุธปืนหันปากกระบอกปืนและเล็งมาที่ฝูงชนด้านล่างยิ่งกดดันพวกเขามากกว่าทหารจากค่ายศัสตราวุธเสียอีกเพราะนั่นจากมุมจากฟ้าสู่เป้าภาคพื้น ไม่มีทางให้หลบหนี!มันเลวร้ายที่สุด!ภาพตรงหน้าน่ากลัวเกินไป!ซิสเตอร์แฮเรียตเป็นคนแรกที่ทนแรงกดดันไม่ได้!ฟุบ! เธอคุกเข่าลงบนพื้นและยกมือขึ้น จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “พวกเราถูกตระกูลซิลวาหลอกให้มาที่นี่ พวกเราไม่ได้ทำอะไร!”นอกจากของเธอแล้ว หัวหน้าแก๊งอันธพาลและคนอื่น ๆ อีกหลายคนคุกเข่าลงและทันทีหลังจากนั้นช็อปเปอร์ชี้ไปที่ลีออนและสาปแช่งว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของตระกูลซิลวา! พวกเขาใช้ดินแดนหนึ่งหลอกล่อให้เราทำเรื่องพวกนี้!”“พวกเราตาบอดเพราะความโลภ! เราไม่รู้เรื่องด้วยจริง ๆ !”“พวกเราคิดผิด! เราผิดไปแล้ว!”ทันทีที่ช็อปเปอร์พูดจบ เขาไม่ลังเลเลยที่จะคุกเข่าลงกับพื้นและยกมือยอมแพ้ดังคำกล่าวที่ว่า “ผู้นำสามารถยอมจำนนหรือยืนหยัดได้ตามต้องการ” ควรรู้เมื่อไหร่จะต้องยอมจำนนและเมื่อไหร่
ทันใดนั้น รถจี๊ปทหารก็จอดต่อหน้าทุกคนชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบทหารได้ก้าวออกมาและเดินไปตามเส้นทางที่ฝังศพของวิลเลียมอยู่อย่างรวดเร็ว“นั่น…พันโท?”ตำแหน่งของพันโทมีสถานะไม่สูงนัก พวกซิลวาไม่เคยจะสนใจพวกเขาหากบังเอิญได้เจอกันแต่ชายผู้นี้คือพันโทแห่งกองกำลังค่ายศัสตราวุธ!ค่ายศัสตราวุธซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังทหารเก้าอันดับแรกของประเทศ H!การที่จะได้รู้จักกับพันเอกของค่ายศัสตราวุธคือโอกาสหนึ่งในล้าน!ทันทีที่ตระกูลซิลวาเห็นเขา สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ผู้พันที่กำลังมุ่งหน้าไปยังหลุมศพของวิลเลียมจากนั้นเขาก็หยุดอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์อย่างเคารพ“อีธาน ฮันต์ พันโทแห่งค่ายศัสตราวุธแห่งเซาท์ไลท์ รายงานตัวครับท่าน! รวบรวมพลของค่ายศัสตราวุธเรียบร้อยแล้ว! รอคำสั่งต่อไปครับท่าน! ”สายตาทำให้ทุกคนดูสับสนลิ้นพวกเขาพันกันยุ่งเหยิง!‘อีธาน ฮันท์!’ชายคนนี้คือ อีธาน ฮันต์ บุคคลในตำนาน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสี่เทพเจ้าแห่งสงครามในกองทัพของเซาท์ไลท์แม้ว่าผู้มีอำนาจสูงสุดในเซาท์ไลท์จะพบเจอเขา พวกเขาก็ไม่กล้าแสดงความไม่สุภาพต่อเขาออกมาแม้แต่น้อยแต่ทว่
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข